Wanna be yours
ตอนที่ 1.1
มองผ่าน
มหาวิทยาลัย
ร่างเพรียวระหงในชุดนิสิตขนาดพอดีตัวยังคงสวยเป็นปกติ รูปร่างหน้าตาแบบพิมพ์นิยมทำให้นับดาวเรียกได้ว่าโดดเด่นเป็นที่หมายปองของหนุ่มรุ่นพี่ทุกชั้นปี ก็หากไม่มีนับคลื่นที่ขึ้นชื่อเรื่องความน่ากลัวจนใครต่อใครไม่กล้าจีบคนเป็นน้อง ป่านนี้นับดาวคงมีผู้ชายรุมขายขนมจีบต่อคิวยาวถึงนอกรั้วมหา’ลัย
แต่แม้จะมีใครให้ความสนใจหญิงสาวจริง เจ้าเอย ก็ไม่คิดว่าเพื่อนสนิทของเธอจะให้ความสนใจตอบกลับ ขณะที่ใครต่อใครจับสายตามองมานับดาวก็คล้ายจะมองไม่เห็นใครอื่นนอกจากผู้ชายคนเดิมที่นั่งรวมกลุ่มกับรุ่นพี่ปีสามห่างออกไปที่ตรงนั้น
“โชคดีที่วันนี้เค้กยังไม่หมด ฉันซื้อทันสองกล่องสุดท้ายพอดี” เสียงหวานพึมพำบอกโดยไม่แม้แต่จะหันมองคนที่เดินอยู่ข้างกัน กระทั่งแขนเรียวโดนกระตุกดึงให้หยุดเดิน นับดาวถึงเพิ่งหันให้ความสนใจ “แกจะรีบไปไหนรึเปล่า? ฉันขอเอาเค้กไปให้พี่คลื่นก่อนได้ไหม…”
“เอาไปให้พี่คลื่น หรือเอาไปให้ใครกันแน่จ๊ะ?” เจ้าเอยหรี่ตามองอย่างจับผิด ใช่ว่าเอยไม่รู้เสียเมื่อไรว่าเพื่อนสนิทแอบชอบใคร
“ก็ใช่…” ถึงคนโดนจับไต๋ได้ก็จำต้องยอมอึกอักบอกความจริง “จะเอาไปให้พี่เปอร์ด้วยไง”
“ได้ข่าวว่าอาทิตย์ก่อนมีคนนั่งร้องไห้เพราะพี่เขาจีบคนอื่นอยู่เลย”
“ชู่ว! อย่าเสียงดังสิ” นับดาวถึงกับทำตาโตรีบตะครุบปิดปากเจ้าเอยในทันที นี่มันที่สาธารณะ เพื่อนตัวดีพูดเรื่องคอขาดบาดตายแบบนี้ออกมาได้ยังไง
“ใจเย็นค่าแม่กระต่ายตื่นตูม ไม่มีใครเขารู้หรอกว่าเราพูดเรื่องอะไร” เจ้าเอยดึงมือบางออก ก่อนจะพยักพเยิดไปยังทิศทางซึ่งทั้งคู่กำลังสาวเท้าเดินไป “มีพี่ชายแกอยู่กลุ่มเดียวกันแบบนั้น ต่อให้เดินไปหาสามเวลาหลังอาหารก็ไม่มีใครรู้เลยจริง ๆ”
“บ้า ใครจะทำแบบนั้น” คนโดนถากถางผิวแก้มฝาดแดง ถึงนับดาวจะเดินไปหาพี่ชายบ่อย ๆ แต่ใช่ว่าจะโอเวอร์แบบที่เพื่อนว่าสักหน่อย
“คนบ้าแถวนี้ไง” เจ้าเอยเห็นต่าง ก็ไม่ใช่เธอหรือไงที่ต้องรับหน้าที่เดินมาเป็นเพื่อนทุกวี่ทุกวัน “เอาเถอะแกจะทำอะไรก็ทำ แต่ขอร้องว่าอย่าร้องไห้ที่พี่เขาจีบคนอื่นได้ไหม? ควรจะชินได้แล้วนะดาว”
“อือ” นับดาวพยักหน้ารับแต่ไม่ยอมสบตา
คำที่เจ้าเอยว่ารุนแรงต่อความรู้สึกก็จริง แต่นั่นล้วนเป็นข้อเท็จจริงทั้งสิ้น ก็คงมีแค่เธอที่ไม่เข็ดหลาบจดจำสักที และเพราะสายตากดดันของเพื่อนที่ยังคงมองจึงทำให้ต้องขยายความการกระทำเพิ่มเติม
“ฉันก็แค่อยากเจอ ไม่ได้คาดหวังอะไรเลย”
“เอาเถอะ…” เพราะเห็นว่ามีคนหน้าเสีย เอยจึงอดไม่ได้ที่จะให้กำลังใจ “ตามใจแกแล้วกัน ฉันแค่เป็นห่วง”
“รู้น่า” คนโดนปลอบยิ้มขึ้นได้ก็ตอนนี้ ก่อนจะต้องเป็นฝ่ายเดินตามการจูงนำของคนที่เมื่อครู่เพิ่งจะเอ่ยขัดคอเธอ
แม้จะมีเพื่อนน้อย แต่นับดาวก็รู้สึกโชคดีที่เพื่อนเพียงคนเดียวของเธอคือเจ้าเอยที่มีนิสัยต่างกันสุดขั้ว ขณะที่เธอเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ต้องการเป็นที่สนใจของใคร แต่เอยเป็นคนมีความมั่นใจในตัวเอง และข้อดีข้อนี้เองที่ทำให้เธอต้องพก ความมั่นใจส่วนตัว ซึ่งก็คือเพื่อนสนิทไปไหนมาไหนด้วยเสมอ
เมื่อเดินถึงโต๊ะม้าหินอ่อนที่รุ่นพี่ปีสามห้าคนนั่งรวมกลุ่มอยู่ด้วยกัน คนซึ่งเป็นฝ่ายยิ้มกว้างเอ่ยคำทักทายได้อย่างเป็นธรรมชาติก็คือเจ้าเอย
“พี่คลื่น เมื่อกี้มีคนแวะไปซื้อเค้กมาให้พี่”
“…” / “…” ทุกคนเงยหน้าขึ้นมองโดยพร้อมเพรียง
ขณะเดียวกันนับดาวก็โดนเพื่อนกระตุกข้อมือให้ไปยืนที่ข้าง ๆ ยิ้มแข็งทื่อพลันปรากฏบนใบหน้าสวย ก่อนเสียงหวานจะเอ่ยเอาใจพี่ชายตามประสาน้องสาวซึ่งน่ารักน่าเอ็นดูเป็นปกตินิสัย
“ดาวจำได้ว่าพี่คลื่นชอบกิน วันนี้ซื้อทันเลยเอามาให้”
“ไม่เห็นต้องซื้อ” นับคลื่นขมวดคิ้วแต่ก็รับเอาเค้กไปด้วยสีหน้างุนงง เขาจำไม่ได้ว่าชอบกิน หากเป็นใครชอบกินของหวานชนิดนี้ก็คงไม่พ้นเพื่อนสนิทตัวดีที่นั่งอยู่ข้างกัน “ใช่ร้านที่มึงบอกว่าอร่อยไหม?”
“เออ” ฮาร์เปอร์ชะโงกหน้ามองในถุงใบเดียวกัน ก่อนดวงตาสีอ่อนจะชำเลืองขึ้นสบตาคนเอามาให้
แม้ไม่ได้มีแค่สายตาของฮาร์เปอร์ที่กำลังมอง แต่เพราะไม่อยากทำให้เกิดบรรยากาศแปลก ๆ นับดาวจึงส่งต่อถุงแบบเดียวกันให้เขาด้วยอีกคน
“ดาวซื้อมาเผื่อพี่เปอร์ด้วย”
“อีกและ! ทำไมไอ้เปอร์แม่งได้ตลอด ไม่มีของพี่บ้างเหรอน้องดาว?”
“นั่นดิ ของพวกพี่อะ?”
“เออ เห็นด้วย”
ถึงรู้ดีว่าคงไม่พ้นโดนคำถามประเภทนี้ แต่ด้วยความเคยชิน อีกทั้งรู้ว่าไม่มีใครน้อยใจเป็นจริงเป็นจัง นับดาวจึงเพียงแค่ยิ้มให้บรรดาเพื่อนสนิทของพี่ชาย ทุกคนแค่บ่นไปตามเรื่องตามราวก็เท่านั้น
ขนาดพี่คลื่นก็เพียงตบถุงของตัวเองให้พี่เปอร์ ก่อนจะดึงแขนเธอให้นั่งลงข้าง ๆ โดยมีเจ้าเอยเบียดก้นนั่งถัดไปอีกคน ทุกคนในวงสนทนาเปลี่ยนหัวข้อพูดคุยโดยไม่มีใครคิดจับผิดการกระทำของเธอ
ทุกวันผ่านไปยังคงเหมือนเดิม นับดาวสนิทกับเพื่อนของพี่ชายจึงสามารถนั่งรวมกลุ่มได้โดยไร้ความเขินอาย เจ้าเอยยิ่งไม่ต้องพูดถึงรายนั้นเข้ากันกับรุ่นพี่ผู้ชายได้ดียิ่งกว่านับดาวเป็นไหน ๆ และระหว่างบทสนทนาดำเนินไปคนบางคนก็เริ่มลงมือแกะเอาเค้กช็อกโกแลตฟัดจ์ออกมาจัดการ
แม้จะมีนับคลื่นนั่งคั่นระหว่างกลาง แต่นับดาวก็รับรู้ได้ถึงสายตาของคนที่นั่งห่างกันแค่ช่วงแขนเดียว เพียงหันมองไปก็ได้สบตาเข้ากับคนที่กำลังมองมาอยู่ก่อนแล้ว
“อร่อย”
ฮาร์เปอร์ซึ่งคาบช้อนพลาสติกติดอยู่ที่ริมฝีปากยักคิ้วให้ พลางก็เอื้อมมือขยี้เรือนผมนุ่มสลวยของคนตัวเล็กด้วยความเคยชิน ก่อนมือกระด้างจะเคลื่อนลงสัมผัสหลังคอบอบบางจับโยกเบา ๆ โดยไม่มีใครให้ความสนใจ
มีเพียงฝ่ายที่ได้รับสัมผัสเท่านั้นที่ต้องพยายามเก็บอาการไว้ที่ข้างใน ถึงไม่ใช่หนแรกที่นับดาวได้รับสัมผัสประเภทที่ทำให้ใจเต้นแรง แต่ไม่ว่าผ่านไปกี่ครั้งกี่หนผิวแก้มของเธอก็มักจะฝาดแดงเสมอ
กลัวก็แต่เจ้าของสัมผัสจะจับพิรุธได้ก็เท่านั้น เพราะแม้มือของเพื่อนพี่ชายจะผละจากไปแล้ว ทว่าดวงตาคมก็ยังคงชำเลืองมองมา
หากว่าตามจริงตามประสาคนแอบชอบ แม้แทบไม่ได้พูดคุยสนทนา ทว่าเพียงได้รับสายตาของอีกฝ่ายบ้างในบางครั้ง กระทั่งได้รับรอยยิ้มบ้างในบางที แค่เพียงเท่านี้ก็ทำให้นับดาวรู้สึกหัวใจพองโต แค่เพียงเขามีเธอในสายตาบ้างบางครั้งก็ยังดี