ไม่ทันไรน้ำเสียงอ้อแอ้ของคนข้างกายก็เหมือนจะเงียบไป วิคเตอร์เหลือบมองก็ต้องพ่นลมหายใจออกมาเมื่อคนเมาหลับคอพับไปเสียแล้ว
ยัยตัวภาระเอ๊ย หาเรื่องทำคนอื่นลำบากได้ตลอด
"นี่เธอ! ยัยขี้เมา ตื่นก่อน จะถึงบ้านเธอแล้ว"
"อื้ออ ยุ่งน่า" เธอปัดมือหนาที่เขย่าแขนตนเองออก ใบหน้าสวยมุ่ยลงหันหน้าหนีไปอีกด้านขยับกายนอนให้สบาย
"จะมานอนบนรถฉันไม่ได้นะ นี่! ตื่นเดี๋ยวนี้"
"..."
ไม่มีเสียงตอบกลับ มีเพียงลมหายใจสม่ำเสมอเข้าออกเท่านั้น
"อะไรของยัยนี่วะ" วิคเตอร์งึมงำด้วยน้ำเสียงปนหงุดหงิด ชะลอรถสปอร์ตของตัวเองหน้าประตูรั้วขนาดใหญ่ มองใบหน้าเธอสลับกับตัวบ้านอย่างลังเล
"นี่ยัยเปี๊ยก! ตื่น ถึงบ้านเธอแล้ว"
"แจ๊บๆ~"
"ไอ้วิคเตอร์เอ๊ย อยู่ดีไม่ว่าดี เอาตัวไปวุ่นวายกับยัยบ้านี่ทำไมวะ" มือหนายีเส้นผมตนเองจนผมเส้นยาวด้านบนที่มัดรวบไว้หลุดลุ่ย
ก๊อก ก๊อก
ระหว่างที่กำลังตัดสินใจว่าควรทำยังไงกับอันดามันดี ก็มีเสียงเคาะกระจกฝั่งคนขับดังขึ้น ร่างสูงหันมอง หรี่ตาพินิจชายผมสั้นเตียนที่ยืนด้อมๆ มองๆ ก่อนจะยอมลดกระจกลง
"คุณ จอดขวางประตูไม่ได้นะครับ ขยับเลื่อนออกหน่อย"
"ฉันมาส่งยัยนี่" ว่าจบก็ขยับตัวให้ชายคนดังกล่าวเห็นหญิงสาวที่หลับอยู่เบาะข้างตน
"คุณอันดามันนี่!"
"เออ เปิดประตูรั้วซะ"
"ครับๆ ได้ครับ"
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเห็นคุณหนูของบ้านในรถคันนั้น หรือเพราะน้ำเสียงดุดันพร้อมรังสีที่คนตัวสูงแผ่ออกมา ทำให้พลทหารรับใช้รีบเปิดประตูรั้วเหล็กให้สปอร์ตหรูขับเข้ามาจอด
วิคเตอร์ลองเขย่าแขนเธออีกครั้ง ซึ่งก็ได้สิ่งตอบรับเป็นการปรือตามองด้วยความงงงวยแล้วทำท่าจะหลับต่อ
ร่างสูงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันกรอดๆ ระดับความอดทนเริ่มลดน้อยถอยลงเมื่อต้องมารับมือกับคนไม่มีสติ
เขาไม่รอช้าเปิดประตูฝั่งคนขับลงไป เตรียมลงไปกระชากหญิงสาวหน้าไม่อายให้ออกจากรถเขาเสียที ชายหนุ่มดึงประตูฝั่งคนนั่งออก เอ่ยด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียมเริ่มฉุนเฉียว
"ยัยบ้าลงมา! เลิกมาทำตัวเป็นแม่ย่านางรถฉันเสียที"
"อื้อออ~ ปวดหัว" เสียงอันดังปลุกคนเมาขึ้นมาจากนิทรา แต่สติที่น้อยนิดก็เหมือนจะทำให้ระดับการรับรู้เธอเชื่องช้าลงอย่างเห็นได้ชัด
"อย่ามาอืดอาดยืดยาด ลงมา!"
"อุ้ม~ เดินไม่ไหวอ่า"
"ยัยนี่!"
วิคเตอร์กัดฟันแน่นหลบสายตา เมื่อคนตัวเล็กส่งยิ้มปัญญาอ่อนมาให้พร้อมชูมือมาทางเขา แม้จะพยายามส่งสายตากดดันหญิงสาวแค่ไหนเธอก็ยังดื้อด้านไม่เลิก ปากกระจับคว่ำลงพร้อมเอ่ยเสียงออดอ้อนเร่งเร้าให้เขาอุ้ม
มาเฟียหนุ่มพ่นลมออกจมูกอย่างหมดหนทาง ถือเสียว่าทำบุญทำทานก็แล้วกัน เมื่อปลอบใจตัวเองเสร็จก็ค้อมกายช้อนประคองสาวตัวเล็กลงจากรถในท่าเจ้าสาว
"วี้~ เค้าลอยได้"
"อยู่นิ่งๆ อย่าดิ้น เดี๋ยวก็ตกมาคอหักหรอก"
"วิ่งเลยๆ"
"..."
วิคเตอร์กลอกสายตาระอา แต่ก็เลิกสนใจพฤติกรรมคนเมา ก้าวผ่านพลทหารที่ยืนมองด้วยความตกใจ ถือวิสาสะเข้าไปยังตัวบ้านโดยไม่ได้รับเชิญ
ด้านในตัวบ้านหลังใหญ่ถูกตกแต่งสถานที่เพื่อเตรียมงานในเช้าวันรุ่งขึ้น ประดับประดาด้วยดอกไม้ตามจุดต่างๆ แม้ห้องส่วนใหญ่จะถูกปิดไฟไว้ แต่ก็ยังมีแสงไฟจากทางเดินช่วยให้คนมาใหม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
"ทางไหน" เขาก้มหน้าถามหญิงสาวในอ้อมกอด
"ขึ้นๆ" อันดามันชี้นิ้วไปทางบันไดไม้ปาร์เกต์เชื่อมไปสู่ชั้นสองของตัวบ้าน ซึ่งวิคเตอร์ก็ยอมเดินไปทางนั้นแต่โดยดี
แม้ใบหน้าหล่อเหลาร้ายกาจจะบูดบึ้งตลอดเวลา แต่ในหัวสมองกลับกำลังประมวลรูปร่างคนที่อุ้มไปด้วย
ตัวเบาหวิวจนแทบไม่ต้องใช้แรงเลย ยัยนี่กินข้าวกินปลาบ้างหรือเปล่า
ใบหน้าของเธอแดงก่ำจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ ทำให้อุณหภูมิร่างกายเธอร้อนกว่าปกติเล็กน้อย เนื้อนุ่มบดเบียดแนบชิดผิวกายชายหนุ่มผ่านเนื้อผ้า แม้จะบอกตัวเองว่าให้มองทางข้างหน้า แต่สายตาไม่รักดีก็แอบวนเวียนอยู่กับก้อนเนื้อขนาดใหญ่ที่ยั่วเย้าสายตา กระเพื่อมไหวตามจังหวะก้าวเดิน
"ซ้ายหรือขวา" เขาถามขึ้นเมื่อเดินขึ้นมาสู่ชั้นสองแล้วมีทางแยกออกเป็นสองฝั่ง
"ขวา"
พอเธอว่างั้นขาแกร่งก็ก้าวขวา แต่เธอก็ร้องเปลี่ยนทิศทางอีก
"ไม่ เลี้ยวซ้าย"
"เอาไงแน่ สติดีอยู่ไหม หรือแยกซ้ายขวาไม่ออกแล้ว"
"อืมมมม"
สายตาหยาดเยิ้มจ้องมือตัวเองยกซ้ายขวาด้วยความสับสนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยกมือซ้ายแล้วชี้ไปยังประตูสีขาวบานหนึ่งที่อยู่ไม่ไกล
"ข้างนี้ๆ ประตูนั้นเลย~"
วิคเตอร์ระบายลมหายใจเป็นคำตอบ ก่อนจะก้าวตรงไปยังทางที่คนตัวเล็กชี้ เขาบิดลูกบิดหมุนเปิดประตูแม้จะอุ้มอันดามันไปด้วย ภายในห้องมืดสนิท แต่ก็ยังได้แสงจันทร์ที่ลอดผ่านหน้าต่างให้ความสว่างบ้าง จึงมองเห็นเตียงนุ่มที่ตั้งชิดริมหน้าต่างบานใหญ่
"เตียงจ๋าาาา~"
"เลิกดิ้นสักที ถ้าหล่นจริงฉันจะขำให้"
"ส่งทางนั้น~"
"เรื่องมากฉิบหาย"
เมื่อมาถึงใกล้เตียง คนตัวเล็กก็ดีดตัวลงสู่ที่นอนอย่างไม่สนใจว่าชุดที่สวมจะร่นขึ้นจนอวดเรือนร่างไปถึงไหนต่อไหน คว่ำหน้ากลิ้งไปกลิ้งมาอย่างมีความสุข
พรึ่บ
"เฮ้ย!" มาเฟียหนุ่มหลุดปากร้องออกมา เมื่อถูกคนที่นอนอยู่กระชากมืออย่างแรงจนเสียหลักล้มลงเตียง
อันดามันคลี่ยิ้มหวานหยดย้อย อาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายยังตั้งตัวไม่ไหวพลิกร่างขึ้นคร่อมชายหนุ่มเอาไว้แทน หัวใจแกร่งกระหน่ำรัวจ้องคนตัวเล็กอย่างแตกตื่นตกใจทำอะไรไม่ถูก
"ทำบ้าอะไร ลุกออกไปเดี๋ยวนี้นะ!"
"ให้รางวัลไง ฝรั่งรู้จักบ้านเค้าจริงด้วย น่าร้ากกก~"
ยิ่งเธอเลื่อนใบหน้าลงมาใกล้ขึ้น อัตราการทำงานของหัวใจมาเฟียร้ายก็เหมือนจะเร็วขึ้นตาม ดวงตาเธอกลมโต น้ำในตาหล่อเลี้ยงจนมันฉ่ำเยิ้มเป็นประกายไม่ต่างจากกวางน้อยใสซื่อ แต่ท่าของทั้งคู่ในตอนนี้ทำวิคเตอร์ไม่แน่ใจว่าใครเป็นเหยื่อกันแน่ หากยัยนี่เป็นกวางก็เป็นลูกกวางที่ขี้ยั่วที่สุด
ปลายกระโปรงเดรสรัดรูปเลื่อนขึ้นสูง ทำให้คนที่นอนตาค้างอยู่มองเห็นแพนตี้ลูกไม้เย้ายวนได้จากมุมนี้ด้วยซ้ำ ลำกายชายหนุ่มแข็งขืนอย่างไม่ตั้งใจ
ยัยตัวแสบสมควรถูกเสียบประจาน
"ลุก!" วิคเตอร์ข่มอารมณ์ปั่นป่วนสั่งเสียงเข้ม แต่อันดามันก็ไม่สนใจ ใช้ปลายจมูกคลอเคลียหยอกล้อแก้มสากของคนตัวสูง
"นายตัวหอมจังเลย~"
เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เมื่อหญิงสาวด้านบนก้มซุกไซ้ต้นคอ พลางสูดกลิ่นกายเขาเข้าเต็มปอด มือไม้ตัวเองก็ดูเก้ๆ กังๆ ไม่รู้ควรวางไว้ตรงไหนดี หากลูบเธอคืนบ้างจะผิดบาปมากหรือเปล่า
สายตาทั้งคู่สบประสานท่ามกลางความมืดและแสงเงาจันทร์ ทำให้อกซ้ายมาเฟียหนุ่มคันยิบๆ แปลกประหลาด เขาหลุบมองปากกระจับที่อยู่ห่างริมฝีปากเขาไม่กี่เซ็นต์ด้วยความลุ้นระทึก
แต่ก่อนที่มันจะได้สัมผัสกัน คนตัวเล็กก็ฟุบหน้าทิ่มลงกับหมอนข้างซอกคอคนด้านล่าง ราวกับถูกสับสวิตช์กลางอากาศ เข้าสู่ห้วงนิทราอย่างรวดเร็ว ปล่อยคนตัวสูงให้นอนตัวแข็งค้างเติ่งที่เดิม
ยัยบ้านี่น่าตายนัก กล้าหลับตอนนี้ได้ยังไง!
"นี่ เฮ้ย! ตื่นเดี๋ยวนี้เลยนะ เธอมาทำให้มันแข็งแล้วจะชิ่งหลับแบบนี้ได้ยังไง!"
"ฟี้~"
วิคเตอร์หลับตาปรับลมหายใจ ข่มอารมณ์ความรู้สึกร้อนรุ่มภายในที่ไหลทะลักเตรียมพุ่งทะยานให้กลับเป็นปกติ พยายามไม่สนใจกลิ่นกายหวานหรือเรือนร่างเย้ายวนที่ใช้เขาเป็นที่นอน ค่อยๆ ดันคนตัวเล็กให้ลงไปนอนบนเตียงดีๆ ไม่ลืมใช้ผ้าห่มหนาคลุมท่อนล่างที่อล่างฉ่าง เห็นชัดไปยันสีกางเกงชั้นใน พร้อมลุกกายขึ้นเตรียมออกไปจากห้องนอนเธอ
ไม่ลืมตวัดมองว่าที่คู่หมั้นที่หลับฝันดีอีกครั้งด้วยสายตาคาดโทษ
ยัยผู้หญิงหน้าไม่อาย สมควรถูกเสียบซ้ำๆ แล้วค่อยตัดหัวประจาน!
"ฮึ่ย ความประทับใจแรกไม่เหลือแล้วยัยบ้า จบงานหมั้นอย่าหวังว่าจะได้เห็นหน้าฉันอีก"
เส้นผมหนาถูกยีจนยุ่ง บ่นพึมพำขณะเดินออกจากประตูห้องที่ถูกเปิดทิ้งไว้ เขาเลี้ยวออกมาจากห้องก็ต้องชะงักตัวแข็ง เมื่อพบหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งกำลังเดินมาทางนี้ เธอมีสีหน้าแตกตื่นตกใจเช่นกัน
หัวสมองมาเฟียหนุ่มขาวโพลน ยืนนิ่งค้าง ไม่ได้คาดคิดถึงเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน กำลังจะนึกหาคำอธิบายว่าเหตุใดเขาจึงออกมาจากห้องหญิงสาวกลางดึกแบบนี้
"วิคเตอร์ใช่ไหมลูก?" นายหญิงของบ้านหรี่ตามองหนุ่มแปลกหน้าอีกครั้งด้วยความไม่แน่ใจขณะเอ่ยถาม แปลกใจอย่างถึงที่สุด ไม่รู้มาก่อนว่าทั้งคู่รู้จักกัน
"คะ...ครับ พอดีผมเจอยัย...เจอเธอเมาอยู่ เลยพามาส่งบ้าน"
"ตายแล้ว ลูกคนนี้! คืนวันสำคัญแบบนี้ยังกล้าออกไปกินเหล้าอีก ยังไงแม่ก็ขอบคุณมากเลยนะจ๊ะที่อุตส่าห์พาน้องมาส่ง"
"ครับ ไม่เป็นไร ถ้าไม่มีอะไรแล้ว งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ"
"ได้จ้ะๆ ขอบใจมากเลยนะ"
สิมิลันคลี่ยิ้มหวานส่งให้ด้วยความเอ็นดู แม้ท่าทางอีกฝ่ายจะดูแข็งกระด้างไปบ้าง แต่เขาก็มีน้ำใจ ใส่ใจลูกสาวหัวดื้อของตนก็ทำให้สิมิลันเบาใจได้มาก คิดว่าอีกฝ่ายจะต่อต้านมากกว่านี้เสียอีก
มาเฟียหนุ่มค้อมกายเคารพคนอาวุโสกว่าอย่างเก้ๆ กังๆ แล้วรีบเดินผ่านเธอไปเพื่อให้พ้นจากสถานการณ์น่ากระอักกระอ่วนให้เร็วที่สุด
ท่อนขาแกร่งก้าวอย่างรีบร้อน เมื่อกลับขึ้นรถก็ต้องคว้าบุหรี่ขึ้นมาจุดดับความปั่นป่วนภายใน พลางบ่นพึมพำในใจด้วยความหงุดหงิด
แม่งเอ๊ย สายตาแม่ยัยเปี๊ยกดูโคตรปลื้มใจ คงไม่ได้คิดว่าเขาหลงเสน่ห์ยัยตัวแสบหรอกนะ
พลทหารชำเลืองมองท่าทางสับสนของหนุ่มลูกครึ่งด้วยความงงงวย กว่ารถสปอร์ตสีแดงจะเคลื่อนตัวออกไปบุหรี่ที่คนขับจุดสูบก็หมดไปสองมวนแล้ว
ดูท่าชีวิตอันแสนสงบสุขของวิคเตอร์ต่อจากนี้คงมีแต่ความวุ่นวายแน่นอน
อันดามันและวิคเตอร์ช่วยกันพาลูกแฝดอาบน้ำเตรียมเข้านอน ก่อนจะจูงมือกันกลับห้องของตัวเอง บรรยากาศในห้องเงียบเชียบมีเพียงแค่แสงไฟจากภายนอกลอดเข้ามาผ่านหน้าต่างบานใหญ่เท่านั้น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ดื่มไปตั้งแต่เย็นทำให้ทั้งคู่ตกอยู่ในอาการกรึ่มเล็กน้อย ดวงตาหยาดเยิ้มฉ่ำวาวของหญิงสาวช้อนมองสามีอย่างสื่อความหมาย ก่อนจะเป็นฝ่ายพาเขามายังเตียงกว้างริมฝีปากของทั้งคู่ถูกดึงดูดเข้าหากันอัตโนมัติ ไม่ต้องมีสัญญาณหรือคำบอกกล่าวใดๆ ก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย ลมหายใจชายหนุ่มปั่นป่วน รวบร่างเล็กเข้ามาไว้ในอ้อนกอดแนบแน่น บรรจงถ่ายทอดความรู้สึกมากล้นให้อกให้เธอรับรู้ผ่านจุมพิตหวานซาบซ่านร้อนแรงท่อนแขนบางก็โอบรอบลำคอเขาเอาไว้ แหงนหน้าสุดความสามารถเพื่อตอบสนองรสจูบจากสามีที่สูงกว่าเกินฟุตกลีบปากฉ่ำนุ่มขบเม้มหยอกล้อกันไปมา ก่อนที่เรียวลิ้นทั้งคู่จะกระหวัดเกี่ยวรั้น รุกไล้ไล่ต้อนกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใครหัวใจเธอเต้นเร็วขึ้นจากทั้งฤทธิ์แอลกอฮอล์และอาการตื่นตัววาบหวามตอนนี้ เพียงแค่ลิ้นร้อนแทรกลึกเข้ามากวาดต้อนตักตวงน้ำลายใสในโพรงปาก ท้องน้อยเธอก็วูบหวิวเสียวสะท้านขึ้นมาจนต้องจิกขยุ้ม
สัปดาห์ต่อมากลุ่มเพื่อนของวิคเตอร์เหมือนว่าจะเหงาอยากหาเรื่องเจอกัน จึงได้นัดรวมตัวกันที่คฤหาสน์หลังใหญ่ของวิคเตอร์ในเย็นของวันเสาร์ ทำให้ทั้งวันอันดามัน ต้องเตรียมสถานที่ คือสวนข้างบ้านเอาไว้รองรับเพื่อนฝูงและบรรดาลูกๆ ของพวกเขา อันดามันไม่ใช่แม่บ้านแม่เรือนนัก อาหารส่วนใหญ่จึงโทรสั่งเอา พวกข้าวผัด น้ำแกง และพวกซีฟู้ด บาบีคิวของสดทั้งกุ้ง หอย ปู เอาไว้ให้หนุ่มๆ ได้ปิ้งย่างเป็นกับแกล้มส่วนของเด็กๆ ก็ได้เตรียมพวกขนม น้ำหวานและอาหารรสอ่อนเอาไว้ให้ ทั้งของทอด สปาเกตตีหมูสับ จนกระทั่งเกือบบ่าย 3 โมง มิลินและไคโรก็เดินทางมาถึงเป็นคู่แรกพร้อมน้องมีอาและมาติน เด็กทั้งคู่ท่าทางสดใสร่าเริงฉีกยิ้มกว้างทักทายเจ้าของบ้าน ก่อนจะแยกไปหาลูกแฝดของเธอที่เล่นน้ำคลายร้อนยังสระว่ายน้ำข้างบ้าน ไคโรและวิคเตอร์จึงตามออกไปดูความปลอดภัย ปล่อยให้สองสาวเม้าท์กันตามประสาสาวๆ“นี่เมื่อวานลินหมักซี่โครงหมูไว้ด้วย ตั้งใจเอามาย่างเย็นนี้” มิลินเอ่ยพลางชูถุงในมือให้ดู ความเป็นแม่บ้านแม่เรือนทำให้หญิงสาวชอบเข้าครัว และทดลองทำอาหารเมนูใหม่ๆ เสมอ ผิดกับเจ้าของบ้านที่ทอดไข่ยังไม่สุก“ดีๆ
หลังจากรู้ความจริงว่าทุกอย่างที่คิดตลอดหลายวันเป็นแค่ความเพ้อเจ้อของตัวเองเท่านั้น ทำให้เธอถูกวิคเตอร์ไล่กลับไปทำงานก่อน ซึ่งเธอก็สลดพอที่จะไม่โต้เถียงอะไรสามีต่อ ขณะขับรถกลับบริษัทก็ได้โทรไปอัปเดตเรื่องราวหน้าแตกให้กลุ่มเพื่อนฟัง และแน่นอนทุกคนพร้อมใจกันหัวเราะเยาะเธอ และเทคะแนนสงสารไปทางวิคเตอร์จนหมดยิ่งทุกคนได้รู้ว่าเธอทำอะไรเขาบ้างก็รุมด่าประณามเสียร่างเล็กหูชา กับความใจร้อนไม่คิดหน้าคิดหลังของเธอ เมื่อถึงบริษัทก็ได้โทรย้ำกับม่านฟ้าภรรยาคนสวยของน้องสามีว่าช่วยไปรับลูกแฝดของเธอให้ตรงเวลา และระวังอย่าให้ลูกๆ เธอคลาดสายตา ไม่เช่นกันบ้านคุณปู่อาจจะเละได้ อีกฝ่ายรับคำขันแข็ง แต่พอคิดอีกทีว่าวันนี้ลูกจะไปอยู่ในความดูแลของคุณอาตัวป่วนก็อ่อนใจ หวังว่าโซเฟียและคาร์ลจะสามารถควบคุมสถานการณ์ในบ้านได้ ไม่ต้องโทรเรียกรถดับเพลิงมากลางดึกอีกอารมณ์หญิงสาวเปลี่ยนจากเคร่งเครียดเป็นเบิกบานใจ เฝ้าจับตามองนาฬิการอคอยเวลาเลิกงานด้วยใจจดจ่อ มุมปากบางคลี่ยิ้มหวานขณะเซ็นกองเอกสารมากมายอย่างมีความสุขผิดจากทุกวันแล้วเวลาที่รอคอยก็มาถึงเมื่อโทรศัพท์มือถือที่วางคว่ำไว้บนโต๊ะส่งเสียงร้อง คุณแม่คนสว
เครื่องยนต์รถยุโรปราคาแพงส่งเสียงกึกก้องขณะสาวคนขับเหยียบคันเร่งตามด้วยความร้อนใจ เมื่อรถของคนเป็นสามีนำหายไปไม่เห็นฝุ่น เส้นทางที่เขากำลังมุ่งหน้าไปทำโทสะในตัวคุณแม่ลูกแฝดพุ่งสูง เพราะนั่นคือเส้นทางไปโรงแรมวิลล์พาราไดซ์สายตาคุกรุ่นจ้องมือถือสลับกับท้องถนนเบื้องหน้า ตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงแล้ว ไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะมีความอดทนอดกลั้นนั่งรอในรถร่วม 3 ชั่วโมงอันดามันผ่อนความเร็วลงทิ้งระยะห่างมากขึ้นเมื่อใกล้ถึงจุดหมาย ดวงตาเป็นประกายวาวโรจน์จากเพลิงโทสะ เมื่อสัญญาณ GPS จอดนิ่งยังลานจอดของโรงแรม ก่อนที่มันจะเริ่มเคลื่อนไหวช้าๆ ร่างเล็กมองซ้ายมองขวาระมัดระวังไม่ให้ผู้เป็นสามีสังเกตเห็นรถยนต์ของตน ก่อนจะเลี้ยวรถเข้าไปจอดเช่นเดียวกันหญิงสาวรื้อหาหมวกหรือแว่นกันแดดที่จะพอช่วงอำพรางสายตาของสามีได้ ก่อนจะคว้ากระเป๋าบีบมือถือในมือแน่นมุ่งดิ่งสู่ตัวโรงแรมเธอกวาดสายตาไปมาท่ามกลางแขกมากมายที่เดินกันขวักไขว่เพื่อมองหาร่างที่ดูคุ้นตา ก่อนจะเห็นชายร่างสูงสวมเชิ้ตขาวเดินหายไปยังลิฟต์ อันดามันไม่รอช้าวิ่งตรงไปทันที ภายในอกบีบรัดแน่น อึดอัด จุกเสียด หวาดกลัวกับความจริงที่เผชิญแต่ก็ไม่ต้อง
สองวันต่อมาร่างสูงใหญ่ของหนุ่มเจ้าของบ้านนั่งไขว่ห้างสายตาจับจ้องไอแพดอยู่ในห้องนั่งเล่นใหญ่กลางบ้านด้วยท่าทางเคร่งเครียดจริงจัง โดยก็มีลูกแฝดทั้งสองของเขาวิ่งวนรอบโซฟาหนังสีครีม ในมือทั้งคู่ถือปืนอัดลมที่ทำจากพลาสติก คนพี่หลบหลังโซฟาโผล่หน้าออกมาจ่อปืนของเล่นไปทางน้องสาว ส่วนอีกคนก็หลบอยู่มุมเสา เมื่อเสียงปังๆ ออกจากปากพี่ชายเงียบไป เธอก็ชะโงกตัวออกไปยิงบ้าง ก้มตัวหมอบคลานไปตามพื้นหินอ่อนเพื่อที่จะได้เข้าประชิดตัวพี่ชาย ที่ใช้คุณพ่อตัวใหญ่เป็นเกราะกำบังอย่างขี้โกง"ปัง ปัง""ปัง!""นี่แน่ะ อเล็กซ์ถูกจับได้แล้ว" ร่างเล็กกระโดดโถมตัวทับพี่ชาย ซึ่งเขาก็ยกปืนของเล่นยิงสวนกลับในเวลาเดียวกัน ก่อนที่ทั้งคู่จะล้มกลิ้งลงไปบนพื้นพร้อมกัน"ปัง ปัง ปัง!" อเล็กซ์ตะโกนเลียนแบบเสียงปืนย้ำไปทางน้องสาวที่คร่อมร่างเขาไว้"อเล็กซ์แพ้แล้ว ทิ้งปืนซะ!""ไม่! แอลต่างหากโดนยิง แอลแพ้!""ว้ายยย แต่แอลไม่ตาย แบร่ๆ นี่แน่ะๆ อเล็กซ์นั่นแหละแพ้"คนน้องดื้อดึงไม่รับความจริง ใช้ท่อนแขนเล็กป้อมรัดมือก่ายขาพี่ชายให้ยอมจำนนอย่างขี้โกง จนคนพี่ต้องตะโกนร้องฟ้องพ่อที่นั่งอ่านเอกสารอยู่"ป๊าาาาา! แอลขี้โกงอีกแล้ว!""อเล
Zonic Pubแม้เวลาจะผ่านไปหลายปี แต่ผับแห่งนี้ก็ยังได้รับความนิยมจากกลุ่มวัยรุ่นไม่เคยเปลี่ยน ลีโอได้ทำการปิดปรับปรุงรีโนเวทร้านใหม่เพื่อให้ดูทันสมัยขึ้น แต่โซนวีไอพีชั้นสองที่เป็นเหมือนจุดขายของร้านก็ยังคงมีอยู่ เพิ่มเติมคือความหรูหราและราคาค่าเปิดโต๊ะที่แพงหูฉีกกว่าเดิมแต่นั่นก็ยิ่งทำให้บรรดาลูกคนรวยมีเงินจับจองไม่เคยว่างเว้น เป็นการประกาศศักดาถึงฐานะไปในตัวกลุ่มชายหนุ่มทั้งห้าที่อายุเข้าสู่เลข 3 กันแล้ว นั่งล้อมวงบนโซฟาหนังอย่างดี พูดคุยกันสนุกสนานไม่ต่างจากสมัยยังเป็นวัยรุ่น กาลเวลาที่ผ่านพ้นยิ่งส่งเสริมให้พวกเขาดูหล่อเหลามีเสน่ห์ขึ้นอีกเท่าตัว ทุกท่วงท่าการขยับร่างกายแต่ละที ทำหัวใจสาวๆ วัยละอ่อนด้านล่างเคลิบเคลิ้ม แย่งกันส่งสายตาเป็นสัญญาณเชิญชวน แต่ก็ไม่มีใครในโต๊ะให้ความสนใจ"ไง~ ได้ข่าวลูกยกพวกตีกันเหรอ" ไคโรนั่งไขว่ห้างแสยะยิ้มร้ายแซวเพื่อนที่ตัวใหญ่สุดในกลุ่มอย่างล้อเลียน ทำให้ลีออนและโอนิกซ์ที่ไม่รู้ข่าวหันมามองด้วยความสนใจ"ถามจริง ลูกมึงแสบขนาดยกพวกตีกันตั้งแต่เด็กเลยเหรอ" ลีออนขมวดคิ้วถามกลับด้วยท่าทางจริงจัง ไอ้เรื่องอเล็กซ์แอลลี่แสบซนแก่นแค่ไหน เขาเองก็ทร
รถยุโรปเลี้ยวเข้ามาจอดยังหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่สีขาวตัดดำสวยสะกดตา เด็กๆ เปิดประตูรถวิ่งกรูกันเข้าบ้านด้วยพลังงานเต็มเปี่ยมต่างจากผู้เป็นแม่ที่ถอนหายใจรอบที่ร้อยของวัน แล้วก้มเข้าไปหยิบแฟ้มงานยังเบาะหลังก่อนจะปิดประตูรถที่ลูกๆ เปิดทิ้งเอาไว้ ก้าวตามหลังเด็กน้อยทั้งสองเข้าบ้าน"ปะป๊า~ เย้ๆๆๆๆ วันนี้ปะป๊ากลับบ้านเร็ว เรามาเล่นอะไรกันดีคะ"เสียงเจื้อยแจ้วของลูกสาวดังขึ้นด้วยท่าทางร่าเริงลอยมาให้ได้ยินก่อนที่อันดามันจะเข้าบ้านด้วยซ้ำ เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบสามีตัวใหญ่อุ้มลูกสาวชูสุดมือหมุนตัวไปมาให้ร่างเล็กลอยวืดกลางอากาศ แอลลี่หัวเราะคิกคักเสียงใสชอบใจ ทำให้อเล็กซ์เริ่มอิจฉา กระตุกชายเสื้อบิดาอยากเล่นบ้าง"ป๊า อเล็กซ์อยากลอยบ้าง""ได้สิครับ""ปะป๊าไม่เอา~ แอลยังไม่อยากลง ให้อเล็กซ์รอก่อน""แต่อเล็กซ์ก็อยากให้ปะป๊าอุ้มลอยบ้างนี่น่า"ลูกแฝดสองคนเริ่มถกเถียงกันทำให้วิคเตอร์ตัดสินใจย่อตัวลง อุ้มลูกทั้งสองนั่งบนบ่าแกร่งกำยำคนละข้าง พร้อมช้อนประคองหลังของทั้งคู่แน่นระมัดระวังไม่ให้ลูกคนใดคนหนึ่งร่วงตกลงมาอันดามันวางข้าวของในมือกอดอกมองสามพ่อลูกนิ่งๆ ด้วยแววตาลึกล้ำยากจะสื่อความหมาย ห
แชท 'สมาคมแม่บ้าน'Andaman: ใครว่างบ้าง ฉันโดนเรียกพบผู้ปกครองอีกแล้ว นี่กะว่าจะรอแฝดเลิกเรียนเลยCLEO: เอ้า! มีเรื่องอะไรอีก LinLin: ลินกำลังออกจากบ้านไปรับมีอากับมาตินพอดีเลย อันอยู่ร้านไหนเดี๋ยวไปเจอAndaman: ยกพวกตีกันAndaman: @LinLin นั่งอยู่คาเฟ่บีข้างโรงเรียนPraeWa: ถามจริง? เด็ก 5 ขวบเนี้ยนะCLEO: ช็อกจ้า! ให้เดาไหมว่าใครแกนนำAndaman: ไม่ต้องสืบ มีอยู่คนเดียวPraeWa: สงสารนะ แต่ทำไมพี่แอบขำ 55555Ivy: เฮ้ย! น้องแอลลี่เหรอ ยังไงกันอันดามันเลยต้องนั่งเล่าวีรกรรมแสบของลูกแฝดให้กลุ่มบรรดาเมียๆ ของเพื่อนสามีฟัง ถือเป็นการระบายอารมณ์ไปในตัว สุดท้ายมิลินและแพรวาก็ออกปากว่าเดี๋ยวแวะเข้ามาหา คลีโอติดธุระเรื่องงานจึงฝากมิลินรับลูกเธอกลับมาให้ด้วย ส่วนไอวี่ต้องไปรับลูกสาวอีกที่หนึ่งจึงไม่สะดวกมาหาลูกๆ ของมิลินและคลีโอเรียนอยู่อนุบาลเดียวกับลูกเธอ แต่เรียนคนละห้องและคนอยู่ละชั้น ส่วนน้องอัศวินลูกของแพรวากับโอนิกซ์เข้าชั้นประถมไปแล้วจึงเลิกเรียนช้ากว่าเด็กอนุบาล คุณแม่สุดสวยจึงพอมีเวลาว่างแวะมาเจอสาวๆ ในแก๊งได้บ้างหลังจากสั่งกาแฟเย็นดื่มให้รู้สึกสดชื่นขึ้นบ้าง
MD Agencyอันดามันในวัย 28 ปี สวยสะพรั่งเต็มที่ เธอยังคงตัดผมสั้นประบ่าเช่นเดิม ใบหน้าสวยจัดยังคงดูไม่ต่างจาก 5 ปีก่อนแม้แต่น้อย หญิงสาวสวมเสื้อสูทสีเทาเข้มคู่กับกางเกงขายาวเอวสูงดูสง่าผ่าเผยเหมาะกับตำแหน่งที่ได้รับ เอวบางคอดกิ่วไม่เหมือนคนที่เคยผ่านการท้องลูกแฝดมาก่อน คุณแม่สุดเปรี้ยวนั่งอยู่ในห้องทำงานยังชั้นบนสุดของบริษัท ตอนนี้เธอเข้ามารับตำแหน่งรองประธานบริษัทโฆษณาเต็มตัวแล้ว โดยสิมิรันเริ่มส่งไม้ต่อให้ลูกสาวดูแลกิจการ ส่วนตัวเธอเองก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ดูแลสามีที่ต้องนั่งรถเข็นไปตลอดชีวิตหลังเข้ารับการผ่าตัดเมื่อหลายปีก่อนอนาคตประธานบริษัทรุ่นใหม่ไฟแรงนั่งเคร่งเครียดอยู่กับตัวเลขมากมายจนเริ่มเวียนหัว ยอมรับตามตรงว่าเธอชอบทำงานใช้แรง ออกสถานที่จริงมากกว่าอุดอู้อยู่แต่ในห้องทำงาน จ้องเอกสารที่มีแต่ตัวหนังสือหลายสิบเท่า แต่งานก็คืองาน อันดามันต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่าเธอสามารถดูแลบริษัทของมารดาได้โดยไม่มีปัญหาในขณะที่วุ่นวายเช็กทวนบัญชีอยู่นั้นโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะก็ส่งเสียงร้อง ทำให้ดวงตากลมโตต้องยอมละจากงานตรงหน้า ก่อนจะขมวดคิ้ว ตงิดใจแปลกๆ เมื่อเห็นรายชื่อคุณครูของคู่แฝดโ