Zonic Pub
หลายวันผ่านไป
จนเวลาล่วงเลยมาถึงคืนวันก่อนวันหมั้น แต่ทั้งวิคเตอร์และอันดามันก็ยังไม่เคยเจอหน้าหรือพูดคุยทำความรู้จักกันเลย มาเฟียหนุ่มไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไรกันแน่ เหมือนว่าเขาก็ไม่ได้ต่อต้านค้านหัวชนฝาเช่นตอนแรก แต่ก็ยังคงไม่ชอบใจอยู่ดีที่ถูกบังคับให้ทำอะไร โดยเฉพาะการหมั้นที่ถือเป็นเรื่องใหญ่
หนุ่มร่างสูงใช้ชีวิตเสเพลกินเหล้าเคล้านารีมาโดยตลอด และตนเองก็ชื่นชอบชีวิตเช่นนั้น ไม่เคยคิดจะลองศึกษาดูใจกับสาวไหนมาก่อน เบื่อหน่ายความเอาแต่ใจของพวกเธอ เขารักอิสระ ขี้หงุดหงิด อีกทั้งก็ยังไม่เคยรู้สึกถูกใจสาวคนไหนถึงขนาดอยากมีเธอในชีวิต ที่ผ่านมาหากมีความต้องการก็แค่หาสาวมามีเซ็กซ์ ตื่นเช้ามาก็แยกย้าย
แต่บางอย่างในตัวคู่หมั้นสาวทำเขาเริ่มสับสน มันเป็นทั้งความสนใจและไม่ชอบใจไปพร้อมกัน
เสียงเพลงดังกระหึ่มและบรรยากาศสนุกสนานเบื้องล่างในผับของเพื่อนรักไม่อาจดับความแปรปรวนในจิตใจได้ แก้วเครื่องดื่มสีอำพันถูกยกดื่มนับครั้งไม่ถ้วน
วิคเตอร์มานั่งดื่มอยู่ตามลำพังตั้งแต่หัวค่ำ จนใกล้เที่ยงคืน จมอยู่ในห้วงความคิดน่าสับสนชวนปวดหัว บางครั้งก็แอบตื่นเต้นแต่สักพักก็กลับมาหงุดหงิดโกรธเกรี้ยว
"ทำไมยังอยู่นี่ พรุ่งนี้งานหมั้นมึงไม่ใช่เหรอ" ไคโรที่กำลังเดินผ่านโซน VIP เพื่อไปหยิบของบนชั้นสามขมวดคิ้วมองเพื่อน ทำให้ร่างสูงหลุดออกจากภวังค์เงยหน้ามองคนมาใหม่
"ไม่ทำไม เห็นแบบนี้ก็น่าจะรู้ว่ากูไม่อยากไปงานพรุ่งนี้"
"เดี๋ยวแม่มึงก็กินหัวหรอก"
"เฮ้อ~ เบื่อฉิบหาย เป็นพี่คนโตนี่แม่งโคตรน่ารำคาญเลย อะไรก็โยนมาที่กูหมด" เขาส่ายหัวด้วยความหงุดหงิด บ่นระบายความรู้สึกให้เพื่อนฟัง
"ถ้าไม่เต็มใจก็ไม่น่าปล่อยให้เวลาเลยมาถึงตอนนี้ไหม ทำอะไรวันนี้ก็ไม่ทันแล้ว"
"เออ ถึงมาดื่มแก้เซ็งอยู่นี่ไง"
"จะว่าไป กูก็เจอคู่หมั้นมึงเหมือนกัน ยัยนั่นคงอารมณ์เสียไม่ต่างจากมึงเท่าไหร่" ไคโรทำท่านึกขึ้นได้จึงเล่าให้ฟัง
"ที่ไหน" ชายหนุ่มถามเสียงเรียบ แต่ในใจเริ่มมีคลื่นแห่งความคุกรุ่นก่อตัวอยู่เงียบๆ รอเวลาพร้อมปะทุ
"โอเอซิส ถัดไปสองซอย"
"ไปกับเพื่อน?"
"ไม่นะ เห็นนั่งอยู่คนเดียว กูไปเจอตอนไปรับมิลินที่มีนัดเพื่อนในสาขากินข้าวที่นั่น"
"..."
"กูไปละ ลินรอในรถ"
"อืม"
ว่าจบไคโรก็เดินผ่านไปเพื่อขึ้นไปหยิบของตามความตั้งใจแรก
วิคเตอร์มองนาฬิกาบนข้อมือด้วยแววตายากจะอธิบาย เขานั่งกระสับกระส่ายอยู่ที่เดิมสักพักก็ทนอึดอัดไม่ไหว ลุกออกจากโต๊ะ ก้าวขายาวๆ ลงไปยังด้านล่างและออกจากร้านไป ก่อนที่รถสปอร์ตสีแดงเงาจะส่งเสียงคำรามและพุ่งออกจากลานจอดรถหน้าผับ โดยมีเป้าหมายคือบาร์ที่ชื่อว่า โอเอซิส
เขาบอกตัวเองว่าไม่ได้เป็นห่วงอะไรเธอ แค่ไม่ต้องการให้หญิงสาวมาล่มงานหมั้นจนครอบครัวเขาเสียหน้าเท่านั้น
Oasis Bar
ร่างสูงกวาดตามองไปทั่วร้าน ก่อนจะพบหญิงสาวร่างเล็กผมสั้นนั่งโงนเงนอยู่บนเก้าอี้สูงหน้าบาร์เครื่องดื่ม ความสวยของเธอสะกดทุกสายตา แต่ครั้งนี้หญิงสาวไม่สนใจใคร จดจ่ออยู่กับการดื่มแอลกอฮอล์สีสวยในแก้วทรงสูง
วิคเตอร์ไม่รอช้าเดินตรงดิ่งเข้าไปหา แม้ในหัวจะไม่ได้เตรียมคำพูดใดๆ มาสักคำ เหมือนร่างกายมันเคลื่อนไหวไปก่อนความคิด
แล้วเขาก็มายืนหน้าครึ้มด้านหลังเธอ จึงเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าทั้งสองไม่เคยพูดคุยทำความรู้จักกันมาก่อน ไม่แน่ใจว่าเธอจะรับรู้หรือเปล่าว่าเขาคือว่าที่คู่หมั้น
"นี่ นี่เธอ!"
"หื้มมมม~" ร่างเล็กตอบรับเสียงยานคางบ่งบอกให้รู้ถึงสติสัมปชัญญะที่น้อยกว่าปกติหลายเท่าตัว
ชายหนุ่มยืนนิ่งค้าง คำพูดในหัวหายไปหมดเมื่อได้เห็นใบหน้าสวยหยาดเยิ้มมองมาในระยะประชิด ดวงตาคู่สวยเซ็กซี่เย้ายวนล้อมด้วยแพขนตายาวหนา จมูกเล็กโด่งอย่างเป็นธรรมชาติ รวมถึงริมฝีปากกระจับได้รูปสีแดงระเรื่อยกยิ้มละลายใจมาให้
เขาสะบัดหัวไล่ความมึนก่อนจะเริ่มเปิดปากพูดกับสาวขี้เมาต่อ
"กลับบ้านได้แล้ว" น้ำเสียงนิ่งขรึมฉายแววจริงจังทำหญิงสาวนิ่วหน้าขมวดคิ้วไล่มองสำรวจมาเฟียหนุ่มตั้งแต่หัวจรดเท้า
"งื้ออออ~ ฝรั่งนี่ ทำไมพูดไทยชัดจังงง~"
"ฉันเป็นคนไทย! เธอน่ะลุกขึ้นมาได้แล้ว"
"สนใจเค้าเหรอสุดหล่อ ฮอตขนาดนี้ไปต่อด้วยกันไหมค้าาาา~"
ด้วยความเมาจากแอลกอฮอล์ที่ดื่มไปตั้งแต่ 3 ทุ่ม ทำหญิงสาวยักคิ้วเล่นหูเล่นตาโปรยเสน่ห์ใส่หนุ่มแปลกหน้า วิคเตอร์หน้าตึง ฝ่ามือหนากำเข้าแล้วคลายออกข่มแรงโทสะ พร้อมบ่นหญิงสาวยาวยืดในใจ
ไม่รู้จักกันแท้ๆ กล้าเอ่ยปากชวนผู้ชายแปลกหน้าเลยเหรอ ไหนบอกบ้านยัยนี่เป็นไฮโซไง ทำไมทำตัวง่ายขนาดนี้!
"ฉันไม่ได้สนใจเธอ อย่าสำคัญตัวผิด ลุกแล้วกลับบ้านกับฉันเดี๋ยวนี้!"
"ไม่เอาไม่กลับ เค้าอยากเมาาาาา~ เมาให้ลืมทุกอย่าง"
"ยัยเปี๊ยกลุก อย่ามาพูดไม่รู้เรื่อง"
"เป็นใครเนี่ยมาสั่ง เรารู้จักกันหรือไง"
อันดามันหน้ามุ่ย พยายามดึงฝ่ามือหนาออกจากต้นแขนตนเอง แต่ด้วยแรงของผู้หญิงและความเมามาย ทำให้เหมือนความพยายามเธอจะไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง
"มองหน้าฉันแล้วนึกดีๆ" วิคเตอร์ชะโงกหน้าเข้าใกล้ยิ่งขึ้น จนได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ลอยมาจากคนตัวเล็ก สายตาหวานเยิ้มกะพริบปริบๆ มองด้วยความงงงวย ระยะห่างแค่คืบเริ่มทำใจมาเฟียหนุ่มเต้นเร็วกว่าปกติจนต้องเป็นฝ่ายปล่อยแขนเธอ กระแอมเรียกสติตัวเอง เหยียดกายยืนตรงเหมือนเดิม หลุบสายตามองไปทางอื่น
"ม่ายอ่า นึกม่ายออก รู้แต่หล่อน่ากินจุง"
"ยัยนี่!" เขากัดฟันกรอด ความรู้สึกแปลกๆ วิ่งวนทั่วร่าง ไม่รู้ว่าควรโกรธที่เธอไม่รู้จักเขา หรือภูมิใจกับคำชมดี
"งื้ออออ เค้าจะเมาต่อ~"
"ค่อยกินวันหลัง" เขาถอนหายใจพยายามต่อรองกับคนเมา
"ฮือออออ ไม่อยากให้ถึงวันพรุ่งนี้" อันดามันเบะปากงอแงเหมือนเด็ก แม้จะไม่มีน้ำตาไหลออกมาสักหยดก็ตาม ทำจิตใจมั่นคงอ่อนยวบอย่างไม่ได้ตั้งใจ
น่ารักฉิบหาย
"ไม่ใช่สิ!" วิคเตอร์สะดุ้งเมื่อเผลอคิดอะไรแปลกๆ ขึ้นมา
"อะไร?" เธอเอียงคอมองอย่างสงสัยกับท่าทางแปลกประหลาดของหนุ่มหล่อ
"ไป กลับได้แล้ว เดี๋ยวไปส่งที่บ้าน"
"สุดหล่อรู้จักบ้านเค้าเหรอ" ดวงตาเธอเป็นประกายจับจ้องหน้าเขาไม่วางตาด้วยความตื่นเต้น
"อื้อ ไปได้แล้ว"
"ก็ด้ายยยย~"
และก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรหญิงสาวตัวเล็กถึงยอมเปลี่ยนใจตามชายหนุ่มกลับบ้านเสียอย่างงั้น บาร์เทนเดอร์ที่ยืนฟังบทสนทนาตั้งแต่แรกตกใจ รีบสะกิดถามลูกค้าสาว ทำให้วิคเตอร์ที่ยืนมองอยู่ส่งสายตาเหี้ยมเกรียมให้
"เอ่อ คุณลูกค้ารู้จักผู้ชายคนนั้นหรือเปล่า ผมเรียกแท็กซี่ให้ดีกว่า"
"ไม่ต้องยุ่ง กูคู่หมั้นยัยนี่!" วิคเตอร์กัดกรามแน่นด้วยความหงุดหงิด หลังจากฟังคำพูดคนนอก
บาร์เทนเดอร์หนุ่มมองสำรวจวิคเตอร์อีกครั้ง เขาเป็นชายร่างยักษ์รอยสักเต็มตัว ท่าทางดูไม่น่าไว้ใจอย่างที่สุด ไม่ต่างจากพวกมาเฟียที่เคยเห็นในหนัง ทำให้คำกล่าวอ้างดูโคตรจะไม่น่าเชื่อถือ ก่อนจะหันมองลูกค้าตัวเล็กด้วยสายตาเป็นกังวล
"สรุปรู้จักกันไหมครับ"
"ไม่รู้จัก~"
"อ้าว แล้วคุณลูกค้าจะกลับกับเขาเหรอครับ"
"กลับ ก็คนนี้หล่ออออ"
"..."
"เลิกเสือกเรื่องชาวบ้านได้แล้ว... เอ้านี่ ค่าเหล้ายัยนี่" เขาเอ่ยกับบาร์เทนเดอร์เสียงเข้มพลางยื่นแบงก์พันหลายใบส่งให้อย่างไม่คิดจะนับ ก่อนจะดึงต้นแขนหญิงสาวออกจากร้านไป
ร่างสูงชำเลืองมองหญิงสาวผมสั้นอย่างคาดโทษ เป็นครั้งแรกที่มีโอกาสได้ยืนด้วยกัน จึงเห็นถึงส่วนสูงที่ต่างกันเกินฟุต แม้เธอจะสวมส้นสูงแต่ก็ยังสูงไม่เลยอกเขาด้วยซ้ำ แขนขาเรียวเล็กบอบบางไปหมด จับแต่ละทีกลัวจะเผลอหักกระดูกเธอเหลือเกิน
อันดามันสวมเดรสสายเดี่ยวสีดำขนาดพอดีตัว อวดทุกสัดส่วนให้ผู้ชายน้ำลายหกเล่น แม้เธอตัวเล็กนิดเดียวแต่หน้าอกอิ่มคู่สวยกลับมีขนาดเกินตัวไปมาก วิคเตอร์ลอบกลืนน้ำลาย เกือบจะเดินสะดุดทางต่างระดับก่อนถึงรถ ทำให้ต้องดึงสติตัวเองกลับมาจดจ่อกับเหตุการณ์ปัจจุบัน
อย่าไปสนใจยัยขี้เมาจอมยั่ว มึงไม่ได้คิดอะไร นี่ไม่ใช่สเปกมึง
วิคเตอร์บอกกับตัวเองในใจอีกครั้ง ปกติผู้หญิงที่เขาสนใจมักมีความสูงไม่ต่ำกว่า 165 หรือพวกนางแบบไปเลย เขาชอบผู้หญิงสูง มีน้ำมีนวล มันรู้สึกถึงอกถึงใจกว่าเวลาได้สัมผัส ไม่ใช่ยัยเตี้ยบอบบางเหมือนคนขาดสารอาหารแบบอันดามัน ไม่รู้มีลำไส้บ้างหรือเปล่าเอวเธอถึงได้บางขนาดนั้น สองมือเขาแทบจะกำรอบได้อยู่แล้ว
เขาจัดการปลดล็อกรถแล้วเปิดประตูที่นั่งให้เธอ พร้อมดันร่างเล็กโซเซเข้าด้านในอย่างรีบร้อน ก่อนจะเดินอ้อมรถกลับมานั่งประจำที่คนขับ ซึ่งการกระทำนี้ดูไม่ต่างจากชายที่ตั้งใจฉุดสาวเมาไปทำมิดีมิร้ายแม้แต่น้อย
แอร์ในรถเย็นฉ่ำทำอันดามันเริ่มตาปรือ เธอหันมาส่งสายตายั่วเย้าให้คนขับอย่างไม่ได้ตั้งใจ มือเล็กซุกซนอยู่ไม่สุขวางหมับบนหน้าขาแกร่งจนวิคเตอร์สะดุ้งเฮือก เผลอหักพวงมาลัยจนรถส่ายเสียการควบคุมไปเล็กน้อย ต้องตั้งสติกลับมาสนใจกับการขับรถต่อ
"ยัยตัวเล็ก ทำอะไรของเธอ!" เขาดุเสียงเข้ม รีบกุมมือบางเอาไว้ก่อนที่มันจะไปสัมผัสถูกบางอย่างที่อยู่ไม่ไกล
"นี่~ รู้ทางไปบ้านเค้าจริงเหรอออ" เธอไม่ปล่อยมือออกไม่พอ กลับชะโงกตัวเข้ามาใกล้อีกจนทำให้ก้อนเนื้อนุ่มใต้ชุดเดรสเสียดสีสัมผัสกับต้นแขนกำยำของมาเฟียร้าย
"บอกว่ารู้ก็รู้สิ กลับไปนั่งดีๆ ได้แล้ว คาดเข็มขัดด้วย"
เขาสูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ดึงมือน้อยออกจากหน้าขา พลางดันตัวเธอให้กลับไปนั่งประจำที่
"ก็กลัวไม่รู้~"
"นั่งไปเฉยๆ"
แต่เหมือนคนเมาก็วุ่นวายไม่เลิก จนวิคเตอร์ต้องชะลอรถจอดข้างทางเพื่อรัดเข็มคัดนิรภัยให้เธอเอง
จังหวะที่เขาเอื้อมมือไปดึงสายเข็มขัด อันดามันก็หันมามองพอดี ทำให้ปลายจมูกโด่งรั้นเฉียดสัมผัสแก้มชายหนุ่มแผ่วเบา ใจแกร่งกระตุกวาบ นิ่งค้างไป หลุบมองคนตัวเล็กที่ดวงตาหยาดเยิ้มจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ หากเขาหันหน้ากลับไปอีกเพียงนิดเดียว ริมฝีปากทั้งคู่คงได้สัมผัสกันแน่นอน
อกซ้ายสั่นระรัว ความคิดฟุ้งซ่านทะเลาะถกเถียงในหัวไม่หยุด
'หันไปจูบยัยตัวดีสักที ไหนๆ ก็ยั่วกันขนาดนี้'
'ไม่ได้สิ! มึงไม่ได้สนใจยัยเปี๊ยกนี่สักหน่อย เดี๋ยวเธอก็ติดใจจนไม่อยากถอนหมั้นเอาหรอก'
แต่แล้วยังไม่ทันได้ข้อสรุปในหัว เสียงจากหญิงสาวก็ดังขึ้นก่อน เพียงแต่ไม่ใช่เสียงพูด
"เอิ๊กกก~ อุ๊บ โทษที ลมขึ้น" อันดามันยกมือปิดปาก แม้จะเอ่ยขอโทษแต่ท่าทางเธอก็ไม่ได้รู้สึกผิดแม้แต่น้อย
วิคเตอร์หน้าเหวอช็อกไปเรียบร้อย ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยถูกใครเรอใส่ในระยะประชิดเช่นนี้เลย ข้อถกเถียงว่าควรจะจูบเธอดีหรือไม่ เปลี่ยนเป็นควรจะถีบยัยผู้หญิงไม่มีมารยาทนี่ลงรถดีหรือเปล่าแทน
มาเฟียหนุ่มกระเด้งกลับมานั่งที่เดิม ไม่เอ่ยอะไรต่อออกมาอีกสักประโยคเดียว กดเหยียบคันเร่งมิดไมล์เพื่อที่จะส่งหญิงสาวให้ถึงบ้านโดยด่วนที่สุด ก่อนเขาจะอดใจไม่ไหวบีบคอเธอให้ตายคารถ!
อันดามันและวิคเตอร์ช่วยกันพาลูกแฝดอาบน้ำเตรียมเข้านอน ก่อนจะจูงมือกันกลับห้องของตัวเอง บรรยากาศในห้องเงียบเชียบมีเพียงแค่แสงไฟจากภายนอกลอดเข้ามาผ่านหน้าต่างบานใหญ่เท่านั้น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ดื่มไปตั้งแต่เย็นทำให้ทั้งคู่ตกอยู่ในอาการกรึ่มเล็กน้อย ดวงตาหยาดเยิ้มฉ่ำวาวของหญิงสาวช้อนมองสามีอย่างสื่อความหมาย ก่อนจะเป็นฝ่ายพาเขามายังเตียงกว้างริมฝีปากของทั้งคู่ถูกดึงดูดเข้าหากันอัตโนมัติ ไม่ต้องมีสัญญาณหรือคำบอกกล่าวใดๆ ก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย ลมหายใจชายหนุ่มปั่นป่วน รวบร่างเล็กเข้ามาไว้ในอ้อนกอดแนบแน่น บรรจงถ่ายทอดความรู้สึกมากล้นให้อกให้เธอรับรู้ผ่านจุมพิตหวานซาบซ่านร้อนแรงท่อนแขนบางก็โอบรอบลำคอเขาเอาไว้ แหงนหน้าสุดความสามารถเพื่อตอบสนองรสจูบจากสามีที่สูงกว่าเกินฟุตกลีบปากฉ่ำนุ่มขบเม้มหยอกล้อกันไปมา ก่อนที่เรียวลิ้นทั้งคู่จะกระหวัดเกี่ยวรั้น รุกไล้ไล่ต้อนกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใครหัวใจเธอเต้นเร็วขึ้นจากทั้งฤทธิ์แอลกอฮอล์และอาการตื่นตัววาบหวามตอนนี้ เพียงแค่ลิ้นร้อนแทรกลึกเข้ามากวาดต้อนตักตวงน้ำลายใสในโพรงปาก ท้องน้อยเธอก็วูบหวิวเสียวสะท้านขึ้นมาจนต้องจิกขยุ้ม
สัปดาห์ต่อมากลุ่มเพื่อนของวิคเตอร์เหมือนว่าจะเหงาอยากหาเรื่องเจอกัน จึงได้นัดรวมตัวกันที่คฤหาสน์หลังใหญ่ของวิคเตอร์ในเย็นของวันเสาร์ ทำให้ทั้งวันอันดามัน ต้องเตรียมสถานที่ คือสวนข้างบ้านเอาไว้รองรับเพื่อนฝูงและบรรดาลูกๆ ของพวกเขา อันดามันไม่ใช่แม่บ้านแม่เรือนนัก อาหารส่วนใหญ่จึงโทรสั่งเอา พวกข้าวผัด น้ำแกง และพวกซีฟู้ด บาบีคิวของสดทั้งกุ้ง หอย ปู เอาไว้ให้หนุ่มๆ ได้ปิ้งย่างเป็นกับแกล้มส่วนของเด็กๆ ก็ได้เตรียมพวกขนม น้ำหวานและอาหารรสอ่อนเอาไว้ให้ ทั้งของทอด สปาเกตตีหมูสับ จนกระทั่งเกือบบ่าย 3 โมง มิลินและไคโรก็เดินทางมาถึงเป็นคู่แรกพร้อมน้องมีอาและมาติน เด็กทั้งคู่ท่าทางสดใสร่าเริงฉีกยิ้มกว้างทักทายเจ้าของบ้าน ก่อนจะแยกไปหาลูกแฝดของเธอที่เล่นน้ำคลายร้อนยังสระว่ายน้ำข้างบ้าน ไคโรและวิคเตอร์จึงตามออกไปดูความปลอดภัย ปล่อยให้สองสาวเม้าท์กันตามประสาสาวๆ“นี่เมื่อวานลินหมักซี่โครงหมูไว้ด้วย ตั้งใจเอามาย่างเย็นนี้” มิลินเอ่ยพลางชูถุงในมือให้ดู ความเป็นแม่บ้านแม่เรือนทำให้หญิงสาวชอบเข้าครัว และทดลองทำอาหารเมนูใหม่ๆ เสมอ ผิดกับเจ้าของบ้านที่ทอดไข่ยังไม่สุก“ดีๆ
หลังจากรู้ความจริงว่าทุกอย่างที่คิดตลอดหลายวันเป็นแค่ความเพ้อเจ้อของตัวเองเท่านั้น ทำให้เธอถูกวิคเตอร์ไล่กลับไปทำงานก่อน ซึ่งเธอก็สลดพอที่จะไม่โต้เถียงอะไรสามีต่อ ขณะขับรถกลับบริษัทก็ได้โทรไปอัปเดตเรื่องราวหน้าแตกให้กลุ่มเพื่อนฟัง และแน่นอนทุกคนพร้อมใจกันหัวเราะเยาะเธอ และเทคะแนนสงสารไปทางวิคเตอร์จนหมดยิ่งทุกคนได้รู้ว่าเธอทำอะไรเขาบ้างก็รุมด่าประณามเสียร่างเล็กหูชา กับความใจร้อนไม่คิดหน้าคิดหลังของเธอ เมื่อถึงบริษัทก็ได้โทรย้ำกับม่านฟ้าภรรยาคนสวยของน้องสามีว่าช่วยไปรับลูกแฝดของเธอให้ตรงเวลา และระวังอย่าให้ลูกๆ เธอคลาดสายตา ไม่เช่นกันบ้านคุณปู่อาจจะเละได้ อีกฝ่ายรับคำขันแข็ง แต่พอคิดอีกทีว่าวันนี้ลูกจะไปอยู่ในความดูแลของคุณอาตัวป่วนก็อ่อนใจ หวังว่าโซเฟียและคาร์ลจะสามารถควบคุมสถานการณ์ในบ้านได้ ไม่ต้องโทรเรียกรถดับเพลิงมากลางดึกอีกอารมณ์หญิงสาวเปลี่ยนจากเคร่งเครียดเป็นเบิกบานใจ เฝ้าจับตามองนาฬิการอคอยเวลาเลิกงานด้วยใจจดจ่อ มุมปากบางคลี่ยิ้มหวานขณะเซ็นกองเอกสารมากมายอย่างมีความสุขผิดจากทุกวันแล้วเวลาที่รอคอยก็มาถึงเมื่อโทรศัพท์มือถือที่วางคว่ำไว้บนโต๊ะส่งเสียงร้อง คุณแม่คนสว
เครื่องยนต์รถยุโรปราคาแพงส่งเสียงกึกก้องขณะสาวคนขับเหยียบคันเร่งตามด้วยความร้อนใจ เมื่อรถของคนเป็นสามีนำหายไปไม่เห็นฝุ่น เส้นทางที่เขากำลังมุ่งหน้าไปทำโทสะในตัวคุณแม่ลูกแฝดพุ่งสูง เพราะนั่นคือเส้นทางไปโรงแรมวิลล์พาราไดซ์สายตาคุกรุ่นจ้องมือถือสลับกับท้องถนนเบื้องหน้า ตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงแล้ว ไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะมีความอดทนอดกลั้นนั่งรอในรถร่วม 3 ชั่วโมงอันดามันผ่อนความเร็วลงทิ้งระยะห่างมากขึ้นเมื่อใกล้ถึงจุดหมาย ดวงตาเป็นประกายวาวโรจน์จากเพลิงโทสะ เมื่อสัญญาณ GPS จอดนิ่งยังลานจอดของโรงแรม ก่อนที่มันจะเริ่มเคลื่อนไหวช้าๆ ร่างเล็กมองซ้ายมองขวาระมัดระวังไม่ให้ผู้เป็นสามีสังเกตเห็นรถยนต์ของตน ก่อนจะเลี้ยวรถเข้าไปจอดเช่นเดียวกันหญิงสาวรื้อหาหมวกหรือแว่นกันแดดที่จะพอช่วงอำพรางสายตาของสามีได้ ก่อนจะคว้ากระเป๋าบีบมือถือในมือแน่นมุ่งดิ่งสู่ตัวโรงแรมเธอกวาดสายตาไปมาท่ามกลางแขกมากมายที่เดินกันขวักไขว่เพื่อมองหาร่างที่ดูคุ้นตา ก่อนจะเห็นชายร่างสูงสวมเชิ้ตขาวเดินหายไปยังลิฟต์ อันดามันไม่รอช้าวิ่งตรงไปทันที ภายในอกบีบรัดแน่น อึดอัด จุกเสียด หวาดกลัวกับความจริงที่เผชิญแต่ก็ไม่ต้อง
สองวันต่อมาร่างสูงใหญ่ของหนุ่มเจ้าของบ้านนั่งไขว่ห้างสายตาจับจ้องไอแพดอยู่ในห้องนั่งเล่นใหญ่กลางบ้านด้วยท่าทางเคร่งเครียดจริงจัง โดยก็มีลูกแฝดทั้งสองของเขาวิ่งวนรอบโซฟาหนังสีครีม ในมือทั้งคู่ถือปืนอัดลมที่ทำจากพลาสติก คนพี่หลบหลังโซฟาโผล่หน้าออกมาจ่อปืนของเล่นไปทางน้องสาว ส่วนอีกคนก็หลบอยู่มุมเสา เมื่อเสียงปังๆ ออกจากปากพี่ชายเงียบไป เธอก็ชะโงกตัวออกไปยิงบ้าง ก้มตัวหมอบคลานไปตามพื้นหินอ่อนเพื่อที่จะได้เข้าประชิดตัวพี่ชาย ที่ใช้คุณพ่อตัวใหญ่เป็นเกราะกำบังอย่างขี้โกง"ปัง ปัง""ปัง!""นี่แน่ะ อเล็กซ์ถูกจับได้แล้ว" ร่างเล็กกระโดดโถมตัวทับพี่ชาย ซึ่งเขาก็ยกปืนของเล่นยิงสวนกลับในเวลาเดียวกัน ก่อนที่ทั้งคู่จะล้มกลิ้งลงไปบนพื้นพร้อมกัน"ปัง ปัง ปัง!" อเล็กซ์ตะโกนเลียนแบบเสียงปืนย้ำไปทางน้องสาวที่คร่อมร่างเขาไว้"อเล็กซ์แพ้แล้ว ทิ้งปืนซะ!""ไม่! แอลต่างหากโดนยิง แอลแพ้!""ว้ายยย แต่แอลไม่ตาย แบร่ๆ นี่แน่ะๆ อเล็กซ์นั่นแหละแพ้"คนน้องดื้อดึงไม่รับความจริง ใช้ท่อนแขนเล็กป้อมรัดมือก่ายขาพี่ชายให้ยอมจำนนอย่างขี้โกง จนคนพี่ต้องตะโกนร้องฟ้องพ่อที่นั่งอ่านเอกสารอยู่"ป๊าาาาา! แอลขี้โกงอีกแล้ว!""อเล
Zonic Pubแม้เวลาจะผ่านไปหลายปี แต่ผับแห่งนี้ก็ยังได้รับความนิยมจากกลุ่มวัยรุ่นไม่เคยเปลี่ยน ลีโอได้ทำการปิดปรับปรุงรีโนเวทร้านใหม่เพื่อให้ดูทันสมัยขึ้น แต่โซนวีไอพีชั้นสองที่เป็นเหมือนจุดขายของร้านก็ยังคงมีอยู่ เพิ่มเติมคือความหรูหราและราคาค่าเปิดโต๊ะที่แพงหูฉีกกว่าเดิมแต่นั่นก็ยิ่งทำให้บรรดาลูกคนรวยมีเงินจับจองไม่เคยว่างเว้น เป็นการประกาศศักดาถึงฐานะไปในตัวกลุ่มชายหนุ่มทั้งห้าที่อายุเข้าสู่เลข 3 กันแล้ว นั่งล้อมวงบนโซฟาหนังอย่างดี พูดคุยกันสนุกสนานไม่ต่างจากสมัยยังเป็นวัยรุ่น กาลเวลาที่ผ่านพ้นยิ่งส่งเสริมให้พวกเขาดูหล่อเหลามีเสน่ห์ขึ้นอีกเท่าตัว ทุกท่วงท่าการขยับร่างกายแต่ละที ทำหัวใจสาวๆ วัยละอ่อนด้านล่างเคลิบเคลิ้ม แย่งกันส่งสายตาเป็นสัญญาณเชิญชวน แต่ก็ไม่มีใครในโต๊ะให้ความสนใจ"ไง~ ได้ข่าวลูกยกพวกตีกันเหรอ" ไคโรนั่งไขว่ห้างแสยะยิ้มร้ายแซวเพื่อนที่ตัวใหญ่สุดในกลุ่มอย่างล้อเลียน ทำให้ลีออนและโอนิกซ์ที่ไม่รู้ข่าวหันมามองด้วยความสนใจ"ถามจริง ลูกมึงแสบขนาดยกพวกตีกันตั้งแต่เด็กเลยเหรอ" ลีออนขมวดคิ้วถามกลับด้วยท่าทางจริงจัง ไอ้เรื่องอเล็กซ์แอลลี่แสบซนแก่นแค่ไหน เขาเองก็ทร
รถยุโรปเลี้ยวเข้ามาจอดยังหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่สีขาวตัดดำสวยสะกดตา เด็กๆ เปิดประตูรถวิ่งกรูกันเข้าบ้านด้วยพลังงานเต็มเปี่ยมต่างจากผู้เป็นแม่ที่ถอนหายใจรอบที่ร้อยของวัน แล้วก้มเข้าไปหยิบแฟ้มงานยังเบาะหลังก่อนจะปิดประตูรถที่ลูกๆ เปิดทิ้งเอาไว้ ก้าวตามหลังเด็กน้อยทั้งสองเข้าบ้าน"ปะป๊า~ เย้ๆๆๆๆ วันนี้ปะป๊ากลับบ้านเร็ว เรามาเล่นอะไรกันดีคะ"เสียงเจื้อยแจ้วของลูกสาวดังขึ้นด้วยท่าทางร่าเริงลอยมาให้ได้ยินก่อนที่อันดามันจะเข้าบ้านด้วยซ้ำ เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบสามีตัวใหญ่อุ้มลูกสาวชูสุดมือหมุนตัวไปมาให้ร่างเล็กลอยวืดกลางอากาศ แอลลี่หัวเราะคิกคักเสียงใสชอบใจ ทำให้อเล็กซ์เริ่มอิจฉา กระตุกชายเสื้อบิดาอยากเล่นบ้าง"ป๊า อเล็กซ์อยากลอยบ้าง""ได้สิครับ""ปะป๊าไม่เอา~ แอลยังไม่อยากลง ให้อเล็กซ์รอก่อน""แต่อเล็กซ์ก็อยากให้ปะป๊าอุ้มลอยบ้างนี่น่า"ลูกแฝดสองคนเริ่มถกเถียงกันทำให้วิคเตอร์ตัดสินใจย่อตัวลง อุ้มลูกทั้งสองนั่งบนบ่าแกร่งกำยำคนละข้าง พร้อมช้อนประคองหลังของทั้งคู่แน่นระมัดระวังไม่ให้ลูกคนใดคนหนึ่งร่วงตกลงมาอันดามันวางข้าวของในมือกอดอกมองสามพ่อลูกนิ่งๆ ด้วยแววตาลึกล้ำยากจะสื่อความหมาย ห
แชท 'สมาคมแม่บ้าน'Andaman: ใครว่างบ้าง ฉันโดนเรียกพบผู้ปกครองอีกแล้ว นี่กะว่าจะรอแฝดเลิกเรียนเลยCLEO: เอ้า! มีเรื่องอะไรอีก LinLin: ลินกำลังออกจากบ้านไปรับมีอากับมาตินพอดีเลย อันอยู่ร้านไหนเดี๋ยวไปเจอAndaman: ยกพวกตีกันAndaman: @LinLin นั่งอยู่คาเฟ่บีข้างโรงเรียนPraeWa: ถามจริง? เด็ก 5 ขวบเนี้ยนะCLEO: ช็อกจ้า! ให้เดาไหมว่าใครแกนนำAndaman: ไม่ต้องสืบ มีอยู่คนเดียวPraeWa: สงสารนะ แต่ทำไมพี่แอบขำ 55555Ivy: เฮ้ย! น้องแอลลี่เหรอ ยังไงกันอันดามันเลยต้องนั่งเล่าวีรกรรมแสบของลูกแฝดให้กลุ่มบรรดาเมียๆ ของเพื่อนสามีฟัง ถือเป็นการระบายอารมณ์ไปในตัว สุดท้ายมิลินและแพรวาก็ออกปากว่าเดี๋ยวแวะเข้ามาหา คลีโอติดธุระเรื่องงานจึงฝากมิลินรับลูกเธอกลับมาให้ด้วย ส่วนไอวี่ต้องไปรับลูกสาวอีกที่หนึ่งจึงไม่สะดวกมาหาลูกๆ ของมิลินและคลีโอเรียนอยู่อนุบาลเดียวกับลูกเธอ แต่เรียนคนละห้องและคนอยู่ละชั้น ส่วนน้องอัศวินลูกของแพรวากับโอนิกซ์เข้าชั้นประถมไปแล้วจึงเลิกเรียนช้ากว่าเด็กอนุบาล คุณแม่สุดสวยจึงพอมีเวลาว่างแวะมาเจอสาวๆ ในแก๊งได้บ้างหลังจากสั่งกาแฟเย็นดื่มให้รู้สึกสดชื่นขึ้นบ้าง
MD Agencyอันดามันในวัย 28 ปี สวยสะพรั่งเต็มที่ เธอยังคงตัดผมสั้นประบ่าเช่นเดิม ใบหน้าสวยจัดยังคงดูไม่ต่างจาก 5 ปีก่อนแม้แต่น้อย หญิงสาวสวมเสื้อสูทสีเทาเข้มคู่กับกางเกงขายาวเอวสูงดูสง่าผ่าเผยเหมาะกับตำแหน่งที่ได้รับ เอวบางคอดกิ่วไม่เหมือนคนที่เคยผ่านการท้องลูกแฝดมาก่อน คุณแม่สุดเปรี้ยวนั่งอยู่ในห้องทำงานยังชั้นบนสุดของบริษัท ตอนนี้เธอเข้ามารับตำแหน่งรองประธานบริษัทโฆษณาเต็มตัวแล้ว โดยสิมิรันเริ่มส่งไม้ต่อให้ลูกสาวดูแลกิจการ ส่วนตัวเธอเองก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ดูแลสามีที่ต้องนั่งรถเข็นไปตลอดชีวิตหลังเข้ารับการผ่าตัดเมื่อหลายปีก่อนอนาคตประธานบริษัทรุ่นใหม่ไฟแรงนั่งเคร่งเครียดอยู่กับตัวเลขมากมายจนเริ่มเวียนหัว ยอมรับตามตรงว่าเธอชอบทำงานใช้แรง ออกสถานที่จริงมากกว่าอุดอู้อยู่แต่ในห้องทำงาน จ้องเอกสารที่มีแต่ตัวหนังสือหลายสิบเท่า แต่งานก็คืองาน อันดามันต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่าเธอสามารถดูแลบริษัทของมารดาได้โดยไม่มีปัญหาในขณะที่วุ่นวายเช็กทวนบัญชีอยู่นั้นโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะก็ส่งเสียงร้อง ทำให้ดวงตากลมโตต้องยอมละจากงานตรงหน้า ก่อนจะขมวดคิ้ว ตงิดใจแปลกๆ เมื่อเห็นรายชื่อคุณครูของคู่แฝดโ