ร้านอัญญาคาเฟ่ปิดทำการในเวลาห้าโมงเย็น พนักงานทั้งสองคนช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาดร้านจนเรียบร้อยในอีกครึ่งชั่วโมงถัดมา ก่อนจะเอ่ยปากขอตัวกลับ
“กวาง ดึงแค่ประตูบานใหญ่ลงนะประตูบานเล็กทิ้งไว้แบบนั้นก่อน”
“ได้ค่ะพี่อัญญา พี่จะออกไปข้างนอกเหรอคะ”
“เปล่าหรอกเดี๋ยวเพื่อนพี่จะเข้ามาน่ะ”
“ถ้างั้นเราสองคนกลับก่อนนะคะพี่อัญญา” น้ำหวานบอกกับเจ้าของร้าน
“จ้ะ อย่าลืมถุงขนมนะ”
“ขอบคุณมากนะคะ กวางไปล่ะ”
“น้ำหวานก็ไปแล้วนะ”
พนักงานสองคนยกมือไหว้เจ้าของร้านก่อนจะพากันเดินอ้อมไปทางด้านหลังของตึกซึ่งเป็นที่จอดรถจักรยานยนต์ของพวกเธอ
อัญญารินทร์นั่งทำบัญชีระหว่างรอจะคุยธุระกับสิรดาไม่นานนักประตูเล็กๆ ก็เปิดออกหญิงสาวเงยหน้าแล้วยิ้ม
“ว่าไงใบเตยรถติดหรือเปล่า”
“ติดนิดหน่อยน่ะ”
“กินอะไรไหมหิวหรือเปล่า” อัญญารินทร์ถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ล่ะบอกแล้วว่าลดความอ้วน”
“แต่ในตู้มีสลัดผักนะเอาด้วยไหมล่ะ น้ำสลัดฉันทำเองไม่อ้วนหรอก”
“ถ้างั้นก็ดีเหมือนกันนะ ถ้าแกทำเองฉันก็มั่นใจ” สิรดาก็เริ่มจะหิวขึ้นมาบ้างแต่ถ้าทานข้าวหรือพวกขนมก็กลัวน้ำหนักจะขึ้นจนใส่ชุดเพื่อนเจ้าสาวไม่สวย
“นั่งรอก่อนนะเดี๋ยวฉันจะไปเอามาให้” อัญญารินทร์เดินไปเปิดตู้เย็นหยิบสลัดจานใหญ่ในตู้ออกมาพร้อมกับถือน้ำเปล่าและ ฝรั่งกับชมพู่มาวางตรงหน้าสิรดา
“ขอบใจนะกินแบบนี้คงไม่อ้วนเท่าไหร่หรอกนะ”
“อย่ากังวลไปมากเลยนะใบเตย แกน่ะตัวเล็กนิดเดียวเอง กินยังไงก็ไม่อ้วน”
“ไม่ต้องมาปลอบใจกันเลย อย่างฉันแค่หายใจเข้าไปก็อ้วนแล้วล่ะ ใครจะหุ่นดีเหมือนแกล่ะอัญญา”
“เอาน่าอย่าเพิ่งชมกันเองเลย ฉันอยากจะคุยกับแกเรื่องการแต่งงานของต่ายนะ” อัญญารินทร์เริ่มต้นพูดถึงสิ่งตนเองอยากจะคุยกับเพื่อน
“แกตัดสินใจได้หรือยังล่ะว่าจะเอายังไงจะไปไหม แล้วควงหนุ่มคนไหนไปด้วยล่ะ”
“จะเอาหนุ่มที่ไหนควงล่ะใบเตย แกก็รู้นี่ว่าฉันเลิกกับแฟนไปแล้วนะ”
“เลิกแล้วก็หาใหม่สิ แต่ถ้าหาไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะ ฉันได้ข่าวว่าเพื่อนเจ้าบ่าวมีแต่หล่อๆ ทั้งนั้นเลย แกไปหาในงานก็ได้เอาสักสองคนดีไหมล่ะ”
“บ้าแล้วใบเตย ใครจะมีแฟนทีละสองคนกันล่ะ เรื่องนี้ฉันซีเรียสมากๆ เลยนะถ้าไม่มีใครควงไปงานแต่งสงสัยได้ถูกจับคู่แน่ๆ เลย”
“นั่นสิแล้วแกจะเอายังไงล่ะ” สิรดาถามอย่างจริงจัง
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่ถ้าไม่ไปก็คงจะน่าเกลียดมากเลยนะ เพื่อนในกลุ่มคนแรกของเราจะแต่งงานทั้งที”
“เอางี้มั้ยล่ะ ฉันจะลองถามแฟนของฉันก่อนว่าเขามีเพื่อนคนไหนยังโสดอยู่หรือเปล่าจะได้ควงไปงานนี้ไงล่ะ”
“ถ้าต้องรบกวนคนอื่นขนาดนั้น ฉันว่าอย่าเลย ไปมันแบบโสดๆ นี่แหละเผื่อบางทีจบงานแล้วจะได้มีเพื่อนเจ้าบ่าวกลับมาอย่างแกบอกไงล่ะ”
“ถ้าแกคิดแบบนั้นโอเค”
“เฮ้อ ทำไมฉันถึงอาภัพเรื่องความรักจังนะ”
“ใจเย็นสิ ฉันว่าคนสวยอย่างแกคงโสดอีกไม่นานหรอกนะอัญญา ฉันมีอะไรจะบอกแกด้วยนะ” สิรดาทำสีหน้าจริงจังขึ้นมาเมื่อนึกถึงเพื่อนคนหนึ่งที่จะไปร่วมงานครั้งนี้ด้วย
“อะไรเหรอใบเตยหน้าตาแกดูจริงจังจนฉันชักจะกลัวแล้วนะ”
“ก็ยายผึ้งจะมาด้วย” สิรดาพูดถึงเพื่อนชื่อผึ้งที่เป็นคู่ปรับของอัญญารินทร์และมักพูดอยู่เสมอว่าถึงแม้เธอจะสวยเซ็กซี่น้อยกว่า แต่ในเรื่องผู้ชายเธอก็ไม่เคยน้อยหน้า เพื่อนในห้องเรียนต่างรู้กันดีว่าผึ้งพยายามจะเอาชนะทุกอย่าง ตอนที่อัญญารินทร์มีแฟน รุ่นพี่คณะวิศวะผึ้งก็ไปตามจีบรุ่นพี่อีกคนจะได้เป็นแฟนทั้งที่อัญญารินทร์ไม่เคยคิดว่าเพื่อนเป็นคู่แข่งแต่ดูเหมือนผึ้งจะไม่ได้คิดแบบนั้น
“แล้วงานนี้ยัยผึ้งพาใครไปด้วยล่ะ ได้ข่าวว่าเลิกกับแฟนคนล่าสุดแล้วนี่”
“ก็เลิกพร้อมๆ กับแกนั่นแหละแต่แกก็รู้ว่าคุณอย่างยัยผึ้งโสดได้ไม่นานหรอกได้ยินว่าครั้งนี้จะควงแฟนหนุ่มนักเรียนนอกไป”
“งั้นเหรอ”
“แล้วแกจะเอายังไงล่ะอัญญา” สิรดาถามหยั่งเชิงเพราะรู้ดีว่าอัญญารินทร์ที่เห็นว่าเรียบร้อยอ่อนหวานแท้จริงแล้วเธอเป็นคนไม่ยอมคนโดยเฉพาะเรื่องนี้
“ยอมได้ที่ไหนล่ะคุณอย่างอัญญา ฆ่าได้หยามไม่ได้แต่ เราจะไปหาใครควงไปร่วมงานล่ะ”
“เพื่อนของแฟนฉันก็ไม่มีใครจบต่างประเทศสักคน”
“ฉันนึกออกแล้วล่ะว่างานแต่งของยัยต่ายฉันจะควงใครไปงานด้วย”
“แกมีคนรู้จักที่เรียนจบจากต่างประเทศใช่ไหม”
“ไม่หรอก” อัญญารินทร์ปฏิเสธ
“อ้าว แล้วแกจะทำยังไงล่ะ ฉันงงไปหมดแล้วนะ”
“ฉันต้องจ้างใครสักคนให้ไปแสดงตัวเป็นแฟนเลือกโปรไฟล์ดีๆ หน่อย”
“เราจะไปจ้างจากที่ไหนล่ะ”
“ใบเตยเรื่องนี้แกห้ามบอกใครนะ คืองี้นะเด็กในร้านของฉันเคยเล่าให้ฟังว่ามีบริษัทเปิดใหม่ที่ให้เช่าแฟน”
“จริงเหรออัญญา”
“จริงสิฉันได้ยินเด็กที่ร้านเคยคุยกันอยู่ ตอนนั้นพวกเขาจ้างแฟนไปงานเค้าท์ดาวน์ด้วยนะ ฉันว่ามันก็น่าสนใจดีนะ”
“แล้วถ้าเกิดคนที่เราจ้างเคยรับงานคนอื่นแล้วล่ะ พอควงไปแล้วความจะไม่แตกเอาเหรอ” สิรดารู้สึกเป็นกังวล แม้โอกาสแบบนี้จะเกิดได้น้อยมากก็ตาม
“ฉันก็กลัวเรื่องนี้เหมือนกันนะ ถ้าคนอื่นจับได้เราก็หน้าแตกกันพอดี แต่ฉันว่าจะแจ้งเขาไปก่อนว่าฉันอยากได้ผู้ชายแบบไหน ข้อแรกฉันคิดว่าจะจ้างคนที่ไม่เคยรับงาน” อัญญารินทร์กลัวคนที่จ้างหน้าจะช้ำ
“แล้วก็ต้องหล่อ ต้องขาวต้องสูงไม่น้อยกว่า 180 ด้วยนะ” สิรดาเสนอเพิ่ม
“มันจะมีคนแบบนั้นไหมนะ” อัญญารินทร์เป็นกังวล
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่เราก็ระบุไปก่อนก็เหมือนกับพวกที่จ้างเด็กเอ็นไงล่ะ อีกอย่างบริษัทพวกนี้คงมีคนมาสมัครใหม่เยอะแยะ”
“มันดูตลกเหมือนกันนะใบเตย แค่จะไปแต่งงานของเพื่อนนี่ฉันต้องมาวุ่นวายมากขนาดนี้”
“เอาน่าอัญญาให้ถือว่าเรื่องนี้มันทำให้ชีวิตของเรามีสีสันก็พอแล้วกัน ถ้าได้เรื่องยังไงแกอย่าลืมบอกฉันบ้างนะ”
“อือ ถ้าพรุ่งนี้ลูกน้องฉันมาแล้วฉันจะรีบติดต่อไปที่บริษัทนั้น”
อัญญารินทร์นั่งนิ่งเธอไม่รู้จะพูดอะไรออกมาในเวลานี้ เพราะมันไม่เหมือนที่เธอคิดไว้เลย ทุกอย่างที่ออกมาจากปากของอธิปัตย์มันยากเกินที่เธอจะเข้าใจหญิงสาวมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง ที่ผ่านมาเธอคิดว่าอธิปัตย์จริงใจมาตลอดและเธอเองก็ให้โอกาสเขาเข้ามาใกล้ชิด แต่ไม่เลยว่าจะถูกเขาหลอกด้วยรอยยิ้มที่จริงใจและสายตาที่อบอุ่น“คุณพูดจริงเหรอคะ” เธอถามเสียงสั่น “จริงครับ” อธิปัตย์พยักหน้าช้าๆ“แล้วทำไมคุณถึงโกหกฉันคะ ทำไมคุณไม่บอกความจริงกับฉันตั้งแต่แรก” อัญญารินทร์ถามเสียงดังขึ้นด้วยความโกรธ เสียใจและผิดหวัง น้ำตาเริ่มเอ่อคลอ“ผมขอโทษครับอัญญา ผมไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณเลยนะครับ” อธิปัตย์รีบจับมือเธอไว้แต่อัญญารินทร์ก็ดึงมือออก“ไม่ตั้งใจ? แล้วสิ่งที่คุณทำมาทั้งหมดคืออะไรคะคุณอธิปัตย์ คุณหลอกฉัน คุณหลอกฉันให้เชื่อว่าคุณเป็นแค่คนธรรมดา คุณหลอกฉันว่าคุณยอมเปลี่ยนชีวิตเพื่อฉัน” อัญญารินทร์พูดออกมาด้วยความรู้สึกเจ็บปวด“ผมไม่ได้หลอกนะครับ ผมแค่ไม่รู้จะเริ่มต้นพูดกับคุณยังไง ไม่ว่าผมจะเป็นใครแต่ความรู้สึกของผมที่มีต่อคุณก็เหมือนเดิมนะครับอัญญา” อธิปัตย์พยายามอธิบาย“แล้วตอนนี้ฉันจะเชื่อใจคุณไ
เช้าวันจันทร์อธิปัตย์ไปเริ่มงานที่บริษัทตามกำหนด ชายหนุ่มแต่งกายด้วยชุดสูทสีเข้มดูภูมิฐานและน่าเชื่อถือ บรรยากาศในบริษัทดูเหมือนจะคุ้นเคยสำหรับเขาอยู่แล้ว การประชุมแรกในฐานะรองประธานผ่านไปได้ด้วยดี เขาสามารถตอบคำถามและให้แสดงความคิดเห็นกับเรื่องที่ประชุมเป็นอย่างดี สร้างความประทับใจให้กับบอร์ดบริหารและพนักงานที่เข้าร่วมประชุมถึงแม้จะยุ่งกับงานใหม่ แต่พอถึงเวลาพักกลางวันเขาก็โทรศัพท์ไปหาอัญญารินทร์แต่ก็คุยกับเธอได้ไม่นานเพราะช่วงเวลาพักเที่ยงที่ร้านของเธอก็ยุ่งมากหลังเลิกงานเขาถอดสูทออกและขับรถไปหาอัญญารินทร์ที่ร้านของเธอทันที“ร้านปิดแล้วเหรอครับ” อธิปัตย์ทักทายด้วยรอยยิ้มอย่างทุกครั้ง“สำหรับคนอื่นปิดแล้วค่ะ แต่สำหรับคุณอธิปอัญญาเปิดต่อให้อีกนิดก็ได้ค่ะ วันนี้ไปทำงานวันแรกเป็นยังไงบ้าง เหนื่อยมั้ยคะ หิวหรือเปล่า” หญิงสาวถามอย่างห่วงใย“เหนื่อยมากเลยแล้วก็หิวมากด้วย เราไปกินข้าวข้างนอกกันนะผมว่าขนมปังคงไม่อิ่มแน่”“ได้ค่ะ” อัญญารินทร์ปิดไฟในร้านขณะที่เขาช่วยเธอดึงประตูลงก่อนจะพากันไปทานอาหารที่ร้านซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียงแค่สามคูหาเมื่อมาถึงอธิปัตย์ก็รีบสั่งอาหารพอพนักงานยกมาเสิร์ฟเข
หลังจากการประชุมบอร์ดบริหารในช่วงเช้า ข่าวการเพิ่มตำแหน่งรองประธานคนใหม่ก็ถูกกระจายไปยังทุกแผนกของบริษัท พนักงานทุกคนต่างพากันตื่นเต้นที่จะมีเจ้านายคนใหม่ นอกจากข่าวที่แนบไปแล้ว ทางบริษัทยังแนบรูปถ่ายของอธิปัตย์ลงไปในนั้นด้วยสิรดาเพื่อนสนิทของอัญญารินทร์มองรูปถ่ายพร้อมกับชื่อของรองประธานคนใหม่ด้วยสีหน้าที่ตกใจ เพราะเธอไม่คิดว่าคนที่อัญญารินทร์จ้างไปเป็นแฟนเช่าจะกลายมาเป็นถึงรองประธานบริษัทใหญ่โตขนาดนี้ สีหน้าของหญิงสาวเต็มด้วยความกังวล เธออยากบอกเรื่องนี้กับอัญญารินทร์แต่ก็ไม่รู้ว่าเพื่อนจะดีใจหรือเสียใจกับเรื่องนี้อีกอย่างสิรดาก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ทั้งสองคนคบกันถึงขั้นไหนเลิกงานสิรดาโทรไปถามอัญญารินทร์ เมื่อเพื่อนบอกว่ากำลังคิดจะเปิดใจให้อธิปัตย์ ฟังจากเสียงแล้วเหมือนอัญญารินทร์ชอบอธิปัตย์มากแต่ก็ยังไม่เรียกว่าแฟนสิรดาจึงคิดว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับเพื่อนในตอนนี้ แต่เธอจะต้องหาทางคุยกับอธิปัตย์ก่อน เธออยากถามว่าเขาโกหกทำไมและคิดจะบอกเรื่องนี้กับอัญญารินทร์เมื่อไหร่สายๆ ของวันเสาร์อธิปัตย์กำลังนั่งอ่านข้อมูลของบริษัทอยู่ที่คอนโด วันจันทร์ที่จะถึงนี้เขาจะเข้าไปทำงานเป็นวันแรกในตำแหน่งรอง
วันพฤหัสบดีอธิปัตย์ก็มาที่ร้านของอัญญารินทร์ตั้งแต่เช้าเพื่อช่วยดูว่าช่างติดตั้งกล้องวงจรปิดครบทุกจุดตามที่คุยกันไว้เมื่อตอนเย็นของเมื่อวานหรือเปล่าจากนั้นเขาก็ช่างเชื่อมต่อสัญญาณกล้องเข้ากับมือถือของเขาด้วยเพื่อจะได้เปิดดูระหว่างที่ไม่อยู่ที่นี่หลังจากทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยในเวลาบ่ายเขาก็ไปทานอาหารกับอัญญินทร์ก่อนจะขอตัวกลับเพราะอยากให้หญิงสาวได้พักผ่อน ส่วนตัวเขาเองนั้นตัดสินใจแล้วว่าจะกลับเข้าไปที่บ้านอธิปัตย์ขับรถเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ของครอบครัวเขาบีบแตรที่หน้าบ้านและรอจนกระทั่งสาวใช้คนหนึ่งเดินมาเปิด“คุณอธิป” สาวใช้วัยกลางคนตกใจที่เห็นเจ้านายกลับมาบ้านทั้งที่ไม่เคยมีใครพูดเรื่องนี้มาก่อน“อย่าพึ่งตกใจเลยสาลี่เปิดประตูให้ฉันเข้าไปก่อนเถอะ” เขาหัวเราะกับท่าทางสาลี่ที่เหมือนกับคนโดนผีหลอกสาวใช้รีบเปิดประตูให้จากนั้นอธิปัตย์ก็ขับรถเข้าไปจอดด้านหน้าของประตูบ้านก่อนจะลงจากรถและเข้าไปทักทายบิดามารดาที่กำลังนั่งคุยกันอยู่ในห้อง“สวัสดีครับ คุณพ่อสวัสดีครับคุณแม่”“อธิป!.....มาได้ยังไงแล้วใครไปรับที่สนามบิน โธ่....ลูกแม่จะมาทั้งทีทำไมไม่บอก” คุณทิพย์สุดาลุกขึ้นแล้วโผเข้ากอดลูกชายด้วยคว
“พี่อธิปสุดยอดเลยค่ะ” กวางเดินเข้ามาพูดกับอธิปัตย์หลังจากที่เขาคุยกับจิรวัฒน์จนชายหนุ่มยอมเดินออกไปจากร้าน“เขามานานหรือยังกวาง”“มาได้สักพักหนึ่งแล้วค่ะ พอเขามาถึงกวางก็รีบโทรบอกพี่อธิปเลยค่ะ ว่าแต่สองวันนี้พี่หายไปไหนมาคะ ทำไมไม่มาที่ร้านเลยล่ะคะ”“พี่มีธุระต้องไปทำนิดหน่อยนะ แล้วเป็นยังไงบ้างพี่อัญญาเขาพูดอะไรถึงพี่ไหม”“ไม่ได้พูดค่ะแต่กวางว่าพี่อัญญาต้องคิดถึงพี่อธิปแน่ๆ ค่ะเพราะพี่อัญญาชอบนั่งเหม่อแล้วก็มองออกไปนอกร้านเหมือนที่กวางส่งรูปให้ดูไงคะ”“ขอบใจนะกวางงั้นพี่ขอไปคุยกับพี่อัญญาของกวางก่อนนะ”“ได้ค่ะ เดี๋ยวกวางกับน้ำหวานจะดูหน้าร้านให้เองถ้ายุ่งหรือต้องการความช่วยเหลือจะกดกริ่งเรียกนะคะ”“ขอบใจนะกว้าง” อธิปัตย์อาทิตย์ยิ้มให้พนักงานทั้งสองก่อนจะเดินเข้าไปด้านหลังร้านซึ่งตอนนี้อัญญากำลังนั่งอยู่บนโซฟาตัวเล็กซึ่งเป็นจุดพักผ่อนของพนักงาน“เขากลับไปแล้วใช่ไหมคะ”“กลับไปแล้วเขาทำอะไรคุณหรือเปล่าอัญญา”“เปล่าค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่คุณมา”“แล้วคุณคุยอะไรกับเขาบ้างพอจะเล่าให้ผมฟังได้ไหม”“อัญญาไม่ได้คุยอะไรกับเขา เป็นเขานั่นแหละที่คุยอยู่ฝ่ายเดียว”“แล้วเขาคุยว่าอะไรล่ะ อยากเล่าให้ผมฟั
สองวันแล้วที่อธิปัตย์หายไปจากชีวิตของอัญญารินทร์ หญิงสาวรู้สึกแปลกๆ เพราะเขาไม่โทรหา ไม่แวะมาดื่มกาแฟ เธอรู้ว่าเขาให้เวลาเธอคิดแต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกคิดถึงเขา เสียงหัวเราะ รอยยิ้มและเรื่องราวที่เขานำมาเล่ามันวนเวียนอยู่ในความคิดของเธออยู่ตลอดอัญญารินทร์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหลายครั้ง คิดจะกดโทรหาเขา แต่ก็ต้องวางลงเพราะความไม่กล้า เธออดคิดไม่ได้ว่าบางทีตอนนี้อธิปัตย์อาจจะเปลี่ยนใจไปแล้ว เพราะคงไม่มีใครอยากเปลี่ยนชีวิตตัวเองเพื่อใครคนหนึ่งง่ายๆ หรือที่เขาพูดอาจจะเป็นแค่คำหลอกลวงและเธอเองก็หลงเชื่อกับคำพูดของเขา ความคิดเหล่านี้ทำให้เธอรู้สึกเศร้าเหมือนกับคนกำลังอกหักทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มต้นคบกันด้วยซ้ำ“พี่อัญญาเป็นอะไรหรือเปล่าคะ ดูซึมๆ นะคะ” กวางถามขึ้นอย่างห่วงใย เมื่อเห็นเจ้านายเอาแต่นั่งเหม่อมองออกไปนอกร้าน“เปล่าหรอกกวาง พี่แค่คิดอะไรเพลินๆ น่ะ” อัญญารินทร์ฝืนยิ้ม“สงสัยคิดถึงคุณอธิปล่ะสิใช่ไหมคะ” กวางแซวเบาๆ อัญญารินทร์หน้าแดงเล็กน้อย“พี่จะคิดถึงเขาทำไมล่ะ เขาก็แค่แฟนเช่านะ” เธอตอบปฏิเสธ แต่ในใจกลับยอมรับว่ากวางพูดถูกกวางเห็นท่าทางของเจ้านายก็พอรู้ว่าตอนนี้คงกำลังคิดถึงคุณอธิป