Share

บทที่ 493

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
ม่านลูกปัดพลันถูกเปิดออก ยามที่เห็นว่าตนเองกำลังถูกอุ้มเข้าไปในมุ้งนั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงคว้าผ้าม่านเอาไว้แน่น ทว่า แรงที่จะจับนั้นหาได้มีไม่

ขณะที่เซียวอวี้ค่อย ๆ ก้าวเดินไปข้างหน้านั้น ม่านก็ค่อย ๆ หลุดจากมือนางไปเรื่อย ๆ

ยามที่เห็นม่านค่อย ๆ ทยอยปิดเข้าหากัน นัยน์ตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเต็มไปด้วยความโกรธเล็กน้อย..

เซียวอวี้อุ้มนางมายังข้างเตียง ก่อนจะช่วยนางปลดปิ่นปักผมไม้และผ้าคาดหัวลงมาด้วยความระมัดระวัง

ผมสีดำราวน้ำหมึกจึงค่อย ๆ ล่วงตกลงมา นิ้วเรียวยาวของเซียวอวี้พลันลอดผ่านเส้นผมไปจับที่ท้ายทอยของเฟิ่งจิ่วเหยียน

ดวงตาของเซียวอวี้พลันเต็มไปด้วยร่องรอยอารมณ์มากมาย

“วันนี้เราตั้งใจจะคุยกับเจ้าดี ๆ

“หากว่าเจ้ารักษาสัญญาจะจากเราไปเมื่อครบสัญญาหนึ่งปี เราก็คงมิต้องโมโหเช่นยามนี้

“แต่เจ้ากลับไม่ฟังคำเรา ทั้งยังยึดถือในวิถีของตนเองยิ่งนัก

“เราจึงได้แต่จำเป็นจักต้องใช้วิธีการของเราเอง เพื่อบังคับให้เจ้ารักษาสัญญา”

เฟิ่งจิ่วเหยียนใช้แรงกัดริมฝีปากของตนเองเอาไว้ เพื่อให้ตนเองได้สติอยู่เสมอ

เซียวอวี้ที่มองออกว่านางจักทำอันใดนั้น จึงเอ่ยเตือนขึ้นมาว่า

“เรามิได้บอกแล้วหรือ หากเ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (7)
goodnovel comment avatar
min min
เริ่มลำไยนางเอกจริงๆละ
goodnovel comment avatar
Kamonwan Tipaksorn
เริ่มลำใยนางเอกละมีปมอะไรนักหนากับคนเก่าเนี่ยมาเขียนแล้วจะบอกด้วยว่าจบตอนที่เท่าไหร่จะได้รู้จุดมุ่งหมายนี่มัน 500 ตอนแล้วยังไม่ถึงครึ่งหรือเปล่าก็ยังไม่รู้
goodnovel comment avatar
Phitsamai Somabut
คนอ่านเรื่มรำคาญหากจะให้นางเอกเป็นอยู่อย่างนี้จะไม่เติมแล้วมันน่ารำคาญค่ะท่านผู้ขียน
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 494

    เมื่อเฟิ่งจิ่วเหยียนฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ก็เป็นช่วงบ่ายแล้วเหลียนซวงที่คอยอยู่ข้างกายนาง แววตาเต็มไปด้วยความกังวลใจมากมาย“ฮองเฮาเพคะ ท่านเป็นเช่นไรบ้างเพคะ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนลุกขึ้นนั่ง พร้อมทั้งพยายามรวบรวมพละกำลังของตนเองอีกครั้งกำลังภายในของนางฟื้นคืนมาแล้ว ทว่า ร่างกายกลับอ่อนแอยิ่งนักริมฝีปากของเฟิ่งจิ่งเหยียนซีดเผือด พร้อมแววตาที่เต็มไปด้วยความเศร้าสร้อย“ฮองเฮาเพคะ ฮูหยินเฟิ่งเข้ามาในวังเพคะ”การมาของฮูหยินเฟิ่งในครานี้ เพื่อมาเกลี้ยกล่อมเฟิ่งจิ่วเหยียนฮูหยินในยามนี้ดูจะแก่ลงมากนัก ทั่วร่างของนางคล้ายกับอ่อนแรงเต็มที“สถานะของเจ้า ฝ่าบาททรงล่วงรู้หมดแล้ว“พระองค์ยังเรียกตัวบิดาของเจ้าเข้ามาในวังอีก ทั้งยังเล่าเรื่องของเจ้าอีกด้วย“เหตุใดลูกถึงสะเพร่าโง่เง่าเช่นนี้“ในเมื่อเจ้าแต่งให้กับฝ่าบาทแล้ว เหตุใดจึงอยากจากไปเล่า?“ฝ่าบาทมีพระเมตตา ไม่คิดถือสาหาความใดกับตระกูลเฟิ่งและตระกูลเมิ่งเรื่องโทษหลอกลวงเบื้องสูง ทั้งยังร่วมเซ็นสัญญาเป็นระยะเวลาหนึ่งปีกับเจ้าอีก เจ้าลองคิดดู หากเรื่องสัญญาถูกเผยแพร่ออกไปเมื่อใด ผู้คนหาได้ต่อว่าฝ่าบาทเป็นคนผิดในเรื่องนี้ไม่……”เฟิ่งจิ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 495

    แววตาของเซียวอวี้พลันเต็มไปด้วยความมืดครึ้ม ก่อนจะกวาดสายตามองไปยังเศษกระเบื้องที่ตกลงบนพื้น ร่างสูงจึงลุกขึ้นยืนในทันทีพร้อมเงาร่างใหญ่ที่พาดผ่านลงมา“เราคือฮ่องเต้“ภายใต้อำนาจขององค์จักรพรรดินั้น หาได้มีอิสรภาพไม่“ไม่ว่าเจ้าจะโกรธก็ดี ไม่พอใจก็ดี เจ้าก็มิอาจฝ่าฝืนมันไปได้“หากเราเป็นเจ้า เราจักไม่มีทางใช้วิธีการที่โง่เง่าเช่นการท้าท้ายขีดจำกัดของฮ่องเต้เช่นนี้”น้ำเสียงที่เรียบนิ่งของเซียวอวี้พลางเจือไปด้วยความองอาจที่มิอาจฝ่าฝืนไปได้ความอ่อนโยนที่เกิดขึ้นยามที่อยู่ชายแดนใต้นั้น เป็นเพียงแค่ภาพลวงตาที่เขาทิ้งสถานะของฮ่องเต้เพียงชั่วครู่ เพื่อให้นางตายใจ ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ยังเป็นฮ่องเต้ผู้เลือดเย็นอยู่เช่นเดิมเฟิ่งจิ่วเหยียนพลันหัวเราะเยาะเย้ยกับตัวเอง“หม่อมฉินคิดว่า ท่านให้สิทธิ์หม่อมฉันได้เลือกเสียอีก”ที่เขาโกรธนั้น หาใช่เพราะนางปรับเปลี่ยนสัญญาเป็นครึ่งปีไม่ แต่เป็นเพราะเขาไม่คิดที่จะปล่อยนางไปตั้งแต่แรกอยู่แล้วเซียวอวี้เชยคางของนางขึ้นมา ก่อนจะใช้แววตาเฉียบคมก้มลงไปมอง“มีสิ่งหนึ่งที่เจ้าสามารถวางใจได้“เรื่องระหว่างเรากับเจ้านั้น เราไม่มีทางใช้ตระกูลเฟิ่งแล

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 496

    ไทฮองไทเฮาพลางมองดูบุคคลตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ“ฮองเฮา เจ้า เมื่อครู่เจ้าเอ่ยอันใดออกมากัน!”เฟิ่งจิ่วเหยียนพลางเอ่ยออกมาด้วยท่าทีแน่วแน่ว่า“หม่อมฉันต้องการละทิ้งตำแหน่งฮองเฮาเพคะ”ผู้คนภายในตำหนักต่างก็มีท่าทีตกตะลึงไปในทันทีเกิดอันใดขึ้นกับฮองเฮาเช่นนั้นหรือ?“บังอาจ! เรื่องเช่นนี้ เราหาเคยได้ยินมาก่อนไม่! ฝ่าบาทเล่า? ฝ่าบาทรู้หรือไม่ว่าเจ้า…”เฟิ่งจิ่วเหยียนหาได้มีท่าทีสะทกสะท้านอันใดไม่“ฝ่าบาทมิยินยอมเพคะ หม่อมฉันจึงได้มาขอร้องให้พระองค์ช่วยออกพระราชโองการให้กับหม่อมฉัน”ถึงแม้ว่าไทฮองไทเฮาจักมิชื่นชอบหลานสะใภ้คนนี้ทว่า เรื่องนี้กลับตึงมือพระนางอยู่เล็กน้อย“เจ้าต้องการออกจากวังหลวงจริง ๆ หรือ” ไทฮองไทเฮาเอ่ยถามนางเฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าลง“เพคะ”“ได้ เช่นนั้นข้า...”ยังมิทันที่ไทฮองไทเฮาจะพูดจบ ด้านนอกพลันมีน้ำเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมาในทันที“เรื่องนี้หาใช่เรื่องที่เสด็จย่าจักต้องมาเป็นกังวลไม่”ไทฮองไทเฮาพลันเงยหน้าขึ้น กลับเห็นใบหน้าที่มืดดำของฝ่าบาทเดินเข้ามา ทั้งยังเต็มไปด้วยท่าทีเป็นปรปักษ์กับเสด็จย่าเช่นนางอีกด้วย “ฝ่าบาท เจ้า...”เซียวอวี้เอามือโอ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 497

    ด้านนอกตำหนักหย่งเหอ เหล่านางสนมทั้งหมดต่างพากันมานั่งคุกเข่าลงเป็นแถวพวกนางทั้งหมดล้วนแต่บ่นโอดครวญว่าฝ่าบาทปฏิบัติต่อฮองเฮาหาได้มีความเป็นธรรมไม่หากฝ่าบาทจักใจร้ายกับพวกนางก็พอแล้ว ฮองเฮาที่ดีเลิศเช่นนี้ เพื่อส่งข้าวสารอาหารแห้ง พระนางหาได้กังวลถึงความปลอดภัยของตนเองไม่ ผลลัพธ์ที่ได้เล่า?เพียงแค่หรงเฟยกลับมาที่วัง ฝ่าบาทก็กระทำตัวเย็นชาต่อฮองเฮาไปในทันที ทั้งยังสั่งให้นางปิดตำหนักสำนึกตนอีกมิแปลกใจเลยที่ฮองเฮาจะทรงเหนื่อยใจจนอยากจะสละตำแหน่งของตนเองทิ้ง เพื่อหนีออกไปจากวังหลวงหากแต่ฝ่าบาทกลับยืนกรานที่ขังคนผู้หนึ่งเอาไว้ในวังหลวงเช่นนี้ ช่างทำให้ผู้อื่นนึกโมโหยิ่งนัก!พวกนางทุกคนจึงพากันมารวมตัวเป็นอนึ่งอันเดียวกันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเหล่านางสนมโดยส่วนมากล้วนมีพื้นเพมาจากครอบครัวตระกูลขุนนาง พวกนางต่างพากันลอบส่งจดหมายออกไป หวังว่าพวกเขาจักช่วยกดดันกับทางฝ่าบาทยามอยู่ในท้องพระโรงด้วยอีกทางหนึ่งเมื่อเซียวอวี้ได้ยินเช่นนั้น เขาพลันรู้สึกว่ามันไร้สาระยิ่งนักทว่า ฮองเฮาช่างมีความสามารถในการปลุกผู้คนให้ฮึกเหิมขึ้นมาจริง ๆเขายอมทำทุกวิธีทาง เพียงเพื่อต้องการจะรั้งนางเอา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 498

    เซียวอวี้รู้ดีว่า ที่สถานการณ์กลายเป็นเช่นนี้ได้ นั่นเป็นเพราะฮองเฮาเสด็จไปหาไทฮองไทเฮาเมื่อตอนกลางวันเดิมทีเขาคิดว่า นางกำลังยืมมือขอความช่วยเหลือจากเสด็จย่าเขาเพิ่งจะรู้ตัวในยามนี้ ว่านางกำลังใช้แผนคนหมู่มากในการโจมตีเขาทว่า ตั้วแต่เมื่อใดกันที่นางสนมเหล่านั้นเริ่มที่จะปกป้องนางกัน?ความสามารถของนางช่างมีมากยิ่งนัก!เซียวอวี้พลันหมุนกายเข้าไปด้านในตำหนัก ก่อนจะเห็นเฟิ่งจิ่วเหยียนนั่งอยู่ด้วยท่าทีสงบนิ่ง“นี่คือสิ่งที่เจ้าต้องการจะเห็นเช่นนั้นหรือ?” เซียวอวี้พยายามข่มอารมณ์โกรธของตนเองเอาไว้แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนเต็มไปด้วยความเฉยเมย“นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น“หากท่านยังคิดดึงดันโดยไม่สนใจสิ่งใดอีก ในภายภาคหน้าย่อมมีขุนนางมากมายยื่นฎีกาฟ้องร้อง รวมไปถึงเหล่าราษฎรและกำลังพลทหารมากมายที่จักลุกขึ้นมายืนหยัดเพื่อหม่อมฉัน”เซียวอวี้หัวเราะเยาะเย้ยกับตัวเอง“เหตุใดต้องร้องขอเพื่อเจ้า? กล่าวหาว่าเป็นเพราะเรารังแกเจ้าเช่นนั้นหรือ?”“เช่นนั้นเราคงเป็นคนแรกที่ตกเป็นผู้ร้ายในสายตาของผู้คนในใต้หล้า!“ทุกอย่างเป็นเพราะเจ้าชัด ๆ ! เป็นเพราะเจ้าต้องการหนีไปจากเรา เป็นเจ้าท

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 499

    ด้านนอกประตูวังนั้นพลันรายล้อมไปด้วยราษฎรมากมาย “เกิดอะไรขึ้นกัน?”“ไม่รู้สิ ข้าก็เพิ่งมาถึงเหมือนกัน”“ข้าได้ยินมาว่าฮองเฮาต้องการหย่าร้าง...”“อะไรนะ? ! หย่าร้าง? ฮองเฮา? มัน มิน่าจะเป็นไปได้กระมัง!”สตรีธรรมดาที่อยากจะหย่าร้างนั้น ล้วนแต่ถูกบ้านสามีของตนเองถลกหนังทั้งหมด หากว่าในตระกูลที่สูงส่งขึ้นมาหน่อย ก็จักกล่าวว่า “ไร้การหย่าร้าง มีเพียงแค่ปลดภรรยา” แล้วสถานการณ์ของฮองเฮาเล่า?เกรงว่าฮองเฮาจักกลายเป็นบ้าไปแล้วกระมัง...ภายใต้เสียงกลองที่ดังกึ่งก้อง เฟิ่งจิ่วเหยียนเผชิญหน้ากับฝูงชนด้วยสายตาที่แน่วแน่ พลางกล่าวออกมาด้วยความหนักแน่นชัดถ้อยชัดคำว่า“สวรรค์เบื้องบน!“ฟ้องร้องเรื่องแรก มีงานแต่ไม่แต่ง งานมงคลสมรสของฮ่องเต้นั้น มีการส่งคนมาแทนที่ตนเองยามที่กล่าวคำนับฟ้าดิน“ฟ้องร้องเรื่องที่สอง แต่งไร้ความเชื่อ ยามที่เข้าหอนั้น ฮ่องเต้สงสัยในความบริสุทธ์ของข้า กระทำการหยามหน้าผู้คนในตระกูลเฟิ่ง“ฟ้องร้องเรื่องที่สาม หลงใหลสนมละเลยภรรยา คืนวันงานมงคลสมรส ฝ่าบาทกระทำการละทิ้งภรรยาเอกเพื่อไปอยู่กับสนม ทั้งยังส่งป้ายทองฮองเฮามอบให้กับพระสนมคนโปรดอีก“ฟ้องร้องเรื่องที่สี่ ทำร้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 500

    เพียงเซียวอวี้ปรากฏตัวออกมา เหล่าราษฎรต่างพากันหวาดกลัว ทั้งยังมีบางส่วนที่เต็มไปด้วยอารมณ์โกรธเกรี้ยวหลิวซื่อเหลียงพลางตวาดออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยวพร้อมน้ำเสียงเล็กแหลมว่า“บังอาจ! เห็นฝ่าบาทแล้วพวกเจ้ายังมิคิดทำความเคารพกันอีก?”เหล่าราษฎรจึงพากันรีบร้อนคุกเข่าคำนับด้วยความเคารพในทันทีทว่า ก็ยังมีบางคนเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาว่า“หย่าร้าง...”เซียวอวี้พลันยืนเอามือไพล่หลังเอาไว้ พร้อมทั้งเสื้อคลุมมังกรที่ปลิวสยายไปตามสายลม ดวงตาของเขายังคงจับจ้องไปที่เฟิ่งจิ่วเหยียน“ฮองเฮาได้โปรดกลับวังเถิด!”เฟิ่งจิ่วเหยียนยืนอยู่ภายใต้กลองร้องทุกข์ด้วยท่าทีเด็ดเดี่ยว “ฝ่าบาทได้โปรดตอบรับคำหย่าร้างของหม่อมฉันด้วยเพคะ”เซียวอวี้กำมือของตนเองเอาไว้แน่น จนทำให้มีรอยบาดแผลบนฝ่ามือในทันที ทว่า ยังไม่เท่ากับบาดแผลที่อยู่ภายในใจของเขาคำพูดที่ฮองเฮากล่าวออกมาเมื่อครู่นั้น เขาต่างก็ได้ยินกับหูทุกอย่างล้วนเป็นความจริงทั้งหมด ทำเอาเขามิอาจหาโต้แย้งอันใดมาตอบกลับได้มิคิดเลยว่า นางจักจดจำเรื่องราวเหล่านั้นได้อย่างแม่นยำหากว่านางต้องการออกไปจากวังหลวงเพราะเหตุนี้ละก็ เช่นนั้นเรื่องระหว่างพวกเขายั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 501

    ไทฮองไทเฮาไม่ได้คิดที่จะตายจริง ๆ เพียงต้องการใช้ความตายมาข่มขู่เท่านั้น เซียวอวี้ทราบจุดประสงค์ของนาง หลังจากที่หมอหลวงยืนยันว่านางปลอดภัยดี เขาก็เอ่ยเตือนด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “เสด็จย่า ท่านก็อยากจะบีบบังคับเราด้วยกระมัง” ไทฮองไทเฮาเอนหลังพึงหัวเตียง และมองเขาด้วยสายตาที่เจ็บปวด “ข้ามิได้บังคับเจ้า ข้าเพียงรู้สึกปวดใจแทนเจ้า! “ฮ่องเต้ ข้าได้ยินเรื่อราวในราชสำนักเหล่านั้นหมดแล้ว “สตรีนางนั้น นางได้บีบบังคับให้เจ้าตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ไยเจ้ายังไม่เห็นหัวใจของนางชัดเจนอีกเล่า? “นางตั้งใจจะออกจากวัง “ข้าก็สามารถมองเห็นได้ว่า เจ้ามีนางอยู่ในใจ และต้องการจะเก็บนางไว้ “ทว่าเจ้าจะสามารถกักขังสตรีที่ไม่มีเจ้าอยู่ในหัวใจ ไว้ได้อย่างไรเล่า? ฝ่าบาท ยังจำหยวนเฟยของฮ่องเต้พระองค์ก่อนได้หรือไม่? หากเจ้าชอบฮองเฮาจริง ๆ จักทนเห็นฮองเฮามีจุดจบเช่นนั้นได้หรือ?” ทันใดนั้นเซียวอวี้พลันรู้สึกหนาวสะท้าน หยวนเฟยหญิงงามผู้อาภัพนั้น เป็นพระสนมสุดรักของเสด็จพ่อ ทว่าสตรีนางนั้นมิได้รักเสด็จพ่อ เสด็จพ่อบีบบังคับให้นางอยู่ในวัง ถึงขั้นประสงค

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1214

    เฉินจี๋ได้รับการช่วยเหลือจากนายพรานผู้หนึ่ง ด้วยอาการบาดเจ็บรุนแรง กระทั่งตอนนี้ก็ยังหมดสติอยู่นี่จึงไม่น่าแปลกใจที่เขายังไม่ปรากฏตัว ที่แท้เป็นเพราะร่างกายไม่อาจเคลื่อนไหวได้นายพรานรู้ว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนกับคณะรู้จักกับเฉินจี๋ จึงรู้สึกโล่งใจ“ข้าลำบากใจจริง ๆ เพราะคิดว่านี่คือชีวิตคนคนหนึ่ง จึงไม่อาจทอดทิ้งได้ ทว่าจะรักษาอาการบาดเจ็บของเขา ข้าก็ต้องใช้เงิน...”ไม่รอให้นายพรานพูดจบ เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ส่งสัญญาณให้อู๋ไป๋นำเงินให้อู๋ไป๋ถนัดการจัดการเรื่องต่าง ๆ สักพักก็เริ่มคุ้นเคยกับนายพราน และเอ่ยขอบคุณอย่างสนิทสนม“พี่ชาย ขอบคุณจริง ๆ ที่เจ้าช่วยสหายข้าไว้! เงินเล็กน้อยนี้ไม่พอจะทดแทนคำขอบคุณได้! ใช่แล้ว เจ้ายังจำได้หรือไม่ว่า เจอสหายข้าที่ใด แล้วเขาได้รับบาดเจ็บอย่างไร? และเจอคนที่น่าสงสัยคนอื่นหรือไม่?“เจ้าอย่าเพิ่งเข้าใจผิด ข้าเพียงแค่อยากรู้ให้ชัดเจน ว่าผู้ใดทำร้ายสหายข้า บาปมีคนก่อหนี้ย่อมมีเจ้าหนี้”คำพูดของอู๋ไป๋ ล้วนเป็นความรู้สึกตามธรรมชาติของคนนายพรานลองคิดทบทวนอย่างละเอียดรอบหนึ่ง“ข้าช่วยเขาตรงริมแม่น้ำ ตอนนั้นไม่พบผู้อื่น ขอโทษจริง ๆ ที่ข้าช่วยพวกท่านไม่ได้”“

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1213

    ปลายเดือนสิบสอง ปีใหม่ใกล้เข้ามาเส้นทางมุ่งหน้าไปทางเหนือเต็มไปด้วยน้ำแข็ง การเดินทางนั้นยากลำบากเฟิ่งจิ่วเหยียนในช่วงอยู่ไฟมิได้พักฟื้นอย่างเต็มที่ ตอนนี้ยังต้องเดินทางท่ามกลางพายุหิมะอีก จึงมักจะปวดเมื่อยเอว และเหงื่อออกมากอยู่บ่อย ๆในช่วงกลางคืนเข้านอน ก็มักรู้สึกเย็นที่ไหล่ และหนาวอย่างรุนแรงอู๋ไป๋เห็นสีหน้าของนางไม่สู้ดีนัก จึงเตือนนาง“นายท่าน ไม่สู้ให้หมอมาตรวจดูบ้าง?”เฟิ่งจิ่วเหยียนรีบร้อนจะตามหาคน จึงไม่อยากล่าช้าครั้งนี้อู๋ไป๋ยืนหยัดอย่างเต็มที่“นายท่าน ต่อให้ท่านไม่คำนึงถึงตนเอง ก็ควรนึกถึงฝ่าบาท หากท่านเจ็บป่วย จะยิ่งไม่ล่าช้ามากกว่าหรอกหรือ?”เขาเอ่ยเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเริ่มลังเลก็จริงหากนางเจ็บป่วยจนลุกไม่ขึ้น ก็จะไม่คุ้มกับสิ่งที่เสียไปตรงชายแดนหนานฉี เฟิ่งจิ่วเหยียนได้ไปที่สำนักการแพทย์แห่งหนึ่งหลังจากหมอจับชีพจรของนาง ก็เอาแต่ส่ายหัว“ฮูหยินท่านนี้ ท่านมีภาวะร่างกายไม่สมดุลหลังคลอด จึงเป็นต้นเหตุเกิดโรคเรื้อรัง“อาการปวดตามข้อเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะในระยะนี้ที่ฝนหิมะรุนแรง แน่นอนว่าย่อมไม่สบายตัว“ในยามปกติรู้สึกว่าไม่เป็นไร ทนหน่อยก็ผ่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1212

    บนบัลลังก์มังกร เซียวถงเต็มเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณของจักรพรรดิ “เรารับพระราชโองการจากเสด็จอา มาทำหน้าที่รักษาการแทนตำแหน่งฮ่องเต้ชั่วคราว ทุกท่านมีเรื่องใดก็เสนอได้”เหล่าขุนนางในราชสำนักมองไปรอบ ๆ ด้วยความงุนงงบางคนถึงกับสงสัยว่าเซียวถงแย่งชิงบัลลังก์ทว่าคิดดูอีกที ฮองเฮาทรงมีทักษะเพียงนั้น ผู้ใดจะกล้าแย่งชิงบัลลังก์?ณ วังหลังเฟิ่งจิ่วเหยียนรู้สึกอาวรณ์อย่างยิ่งที่จะกล่าวอำลาต่อบุตรทั้งสองพวกเขายังคงนอนหลับอยู่ ใบหน้าขณะหลับดูสงบนิ่งเป็นพิเศษ นางจุมพิตบนหน้าผากของพวกเขา หัวใจราวกับถูกบีบเข้าหากันสาวใช้หว่านชิวรู้สึกเศร้าใจ “ฮองเฮา จักต้องเสด็จไปให้ได้หรือเพคะ?”ฮองเฮาทรงตัดใจจากเลือดเนื้อเชื้อไขของตนได้อย่างไร?เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าอย่างหนักแน่นการไปของนางครั้งนี้ จะมีชีวิตอยู่หรือตายยังไม่แน่นอนการพาบุตรทั้งสองคนไปด้วย หนึ่งจะเป็นภาระให้กับนาง สองอาจจะนำภัยอันตรายถึงแก่ชีวิตมาให้พวกเขาการแยกจากบุตร ย่อมต้องทุกข์ใจอยู่แล้ว ทว่าหากให้นางกับลูกรออยู่ในวัง และทนทรมานกับการรอฟังข่าว นางยิ่งไม่ยินยอม“ฮองเฮา หนิงเฟยมาถึงแล้วเพคะ” เฟิ่งจิ่วเหยียนรีบปรับอารมณ์ทันที และเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1211

    ที่ดินที่โซ่วอ๋องได้รับมอบไม่ถือว่าไกลจากเมืองหลวงมากนัก หลังจากได้รับคำสั่งจากฮองเฮา ซื่อจื่อเซียวถงก็ออกเดินทางภายในวันเดียวกันห้าวันต่อมา เซียวถงก็มาถึงพระราชวัง และตรงไปยังห้องทรงพระอักษรเพื่อเข้าเฝ้าครั้งล่าสุดที่เขามาเมืองหลวง ก็คือเมื่อสามปีก่อน ช่วงที่เกิดความวุ่นวายในวิหารบรรพบุรุษ เขาได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญจากฮ่องเต้ ให้ขึ้นครองบัลลังก์ชั่วคราว เพื่อหลอกลวงพรรคเทียนหลงกับกองทัพศัตรูให้สับสนในตอนนั้นเขารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก พระราชโองการพินัยกรรมของฝ่าบาท ได้แต่งตั้งให้เขาเป็นว่าที่จักรพรรดิครั้งนี้ฮองเฮาทรงเรียกเขามา ไม่รู้ว่ามาเพราะเรื่องใดทว่าก็รู้สึกอยู่ลึก ๆ ว่า น่าจะเกี่ยวข้องกับพระราชโองการพินัยกรรมก่อนที่เขาจะมาเมืองหลวง ท่านพ่อก็ยังเตือนเขาว่า ตอนนี้ฮองเฮาทรงประสูติองค์ชายแล้ว เช่นนั้นเขาที่เคยเป็นคนที่อ้างถึงในพระราชโองการพินัยกรรม ก็เท่ากับเป็นตัวขัดขวางขององค์ชายดังนั้น การมาเมืองหลวงครั้งนี้ ก็เสี่ยงอันตรายอย่างมากในใจของเซียวถงเต็มไปด้วยความสงสัยมากมาย ทว่าสีหน้ายังคงสงบนิ่ง ไม่ถือตัวไม่ถ่อมตนเกินพอดีแต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยสนใจตำแหน่งฮ่องเต้ แล

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1210

    วันต่อมา องค์หญิงเซี่ยนอี๋เสด็จมาพบองค์ชายสี่ด้วยพระองค์เององค์ชายสี่ทรงยิ้มแย้ม ทำเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น“แขนของน้องหญิงเป็นอย่างไรบ้าง?”องค์หญิงเซี่ยนอี๋โมโหจนเก็บอารมณ์ไม่อยู่“เหตุใดเสด็จพี่ต้องขัดขวางข้า!”รอยยิ้มขององค์ชายสี่เลือนหายไป และตอบอย่างมีเหตุมีผล“เซี่ยนอี๋ ข้าคิดว่าเจ้าแค่พาลไร้เหตุผล นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะโง่เขลาเพียงนี้ เจ้าคิดได้อย่างไรที่จะวางยาผู้อื่น แล้วบังคับขืนใจเขา?“หากเจ้าพลีกายให้กับฮ่องเต้ฉี แล้วจะให้ข้าทูลเสด็จพ่ออย่างไร?“คืนก่อนเจ้าเกือบจะแขนหักไปข้างหนึ่ง ก็น่าจะจำเป็นบทเรียนได้แล้วกระมัง”เซี่ยนอี๋รู้ตัวว่าทำผิดทว่าเรื่องที่นางยังทำไม่เสร็จสิ้น จะไม่ยอมแพ้และเลิกล้มเช่นนี้“หากข้าได้เป็นฮองเฮาของหนานฉี หนานฉีก็จะไม่เล่นงานเป่ยเยี่ยนอีก นี่ไม่ดีหรอกหรือ?”องค์ชายสี่แย้มพระสรวล“เซี่ยนอี๋ หากเสด็จพ่อได้ยินคำพูดนี้ของเจ้า เกรงว่าจะต้องถูกลงโทษสถานหนัก“การเกี่ยวดองของสองแคว้น เดิมทีไม่อาจหยุดยั้งความโหดเหี้ยมของหนานฉีได้“เจ้าจะทำให้ตนเองเสียหายโดยเปล่าประโยชน์ และถูกผู้อื่นหัวเราะเยาะ“บุรุษดี ๆ ในเป่ยเยี่ยนของเรามีมากมาย เหตุใดเจ้าต

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1209

    ช่วงหลายวันที่เซียวอวี้ถูกขังอยู่ในคุกลับ หาได้นั่งนิ่งรอความตายไม่ จากการสังเกตของเขา องค์ชายสี่แห่งเป่ยเยี่ยนมิได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้เยี่ยน แต่กลับเป็นหินที่ไว้ปูทางเดิน เพื่อผลักดันความทะเยอะทะยานให้องค์ชายเจ็ด หากสามารถโน้มน้าวใจองค์ชายสี่ได้ เขาก็จะหนีออกจากที่นี่ได้ กระนั้น องค์ชายสี่ของเป่ยเยี่ยนไม่โง่ ทันทีที่เขาได้ยินคำพูดของเซียวอวี้ ก็รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการชนะใจตน เพื่อยุแยงเขากับเจ้าเจ็ด รวมถึงตัวเขาและเสด็จพ่อด้วย “ฮ่องเต้ฉี ยิ่งพูดยิ่งพลาด ท่านตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ควรพูดให้น้อยลงจะดีกว่า” องค์ชายสี่พูดจบก็คิดจะเดินจากไป จู่ ๆ เซียวอวี้หัวเราะเยือกเย็นขึ้นมา “ในเวลาหนึ่งเดือน ฮ่องเต้เยี่ยนจะแต่งตั้งองค์ชายเจ็ดเป็นองค์รัชทายาท” องค์ชายสี่หยุดชะงัก ฮ่องเต้ฉีมั่นใจขนาดนั้นเชียวหรือ? ตำแหน่งองค์รัชทายาทนั้นเย้ายวนใจนัก องค์ชายสี่ต้องหันกลับมา พิจารณาเซียวอวี้อีกครั้ง เขาหาได้รุกถามใด ๆ ไม่ เพียงรอให้เซียวอวี้พูดต่ออย่างเงียบ ๆ เซียวอวี้ไม่ทำให้ผิดหวัง เอ่ยอย่างไม่รีบร้อน “กองทัพเยี่ยนเดินทัพลงใต้ เพื่อพิชิตแ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1208

    ในคุกลับ เซียวอวี้กินอาหารตามปกติ ไม่นานก็รู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกาย เขาตระหนักได้ทันที มันเป็นฤทธิ์ยาปลุกกำหนัด! ดวงตาเย็นชาของเขามืดลง ความโกรธพลุ่งพล่านขึ้นมา ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า เป็นฝีมือของผู้ใด จริงตามคาด เพียงไม่นาน องค์หญิงเซี่ยนอี๋ก็มาที่คุกลับ คืนนี้นางแต่งกายอย่างพิถีพิถัน สวมอาภรณ์สีสันสดใส ประทินโฉมประณีตงดงาม สายตาเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและความต้องการครอบครอง นางมองใบหน้าที่แดงเพราะฤทธิ์ยาของเซียวอวี้ รู้สึกปรีดาบนความทุกข์ของผู้อื่น “สิ่งใดที่ข้าอยากได้ ไม่มีคำว่าไม่ได้!” เซียวอวี้พยายามสงบจิตใจอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ถูกควบคุมโดยฤทธิ์ยา เขาไม่กล้าคิด หากสัมผัสผู้หญิงคนอื่นแล้ว เขาจะเผชิญหน้ากับจิ่วเหยียยอย่างไรในอนาคต ให้ตาย! เขาอยากจะฆ่าคน ทว่ากลับสูญเสียกำลังภายในทั้งหมด แม้คุกลับจะคุมขังผู้คนไว้มากมาย แต่ห้องขังของเซียวอวี้อยู่ในจุดที่ลับตาคน และเป็นเอกเทศ องค์หญิงเซี่ยนอี๋จึงไม่กลัวที่จะมีคนมารบกวน นางปลดอาภรณ์ชั้นนอกของตนออก หัวเราะอย่างหยาบคาย “ฮ่องเต้ฉี ข้ารอให้เจ้าขอร้องข้าอยู่” ถูกฤ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1207

    ตำหนักหย่งเหอ เมื่อไทเฮาและหนิงเฟยมาถึง กลับไม่เห็นฮองเฮา เด็กทารกน้อยร้องไห้ระงมราวกับหัวใจจะแตก แม้พวกนางได้ยินแล้วยังรู้สึกปวดใจนัก หมอหลวงกำลังถวายโอสถให้องค์ชายน้อย ปริมาณยาทำให้คนเห็นแล้วอกสั่นขวัญแขวน หนิงเฟยขมวดคิ้ว อดไม่ได้ที่จะเตือน “พวกเจ้าระวังหน่อย! อย่าทำให้เด็กสำลัก!” ไทเฮาอดไม่ได้ที่จะตำหนิ “ฮองเฮาอยู่ที่ใด? นี่คือลูกชายแท้ ๆ ของนาง กลับทิ้งไว้แบบนี้รึ?” สาวใช้หว่านชิวตอบ “มีรายงานด่วนจากชายแดนเพคะ ฮองเฮาประทับที่ห้องทรงพระอักษร เพื่อหารือกับเหล่าแม่ทัพ...” ไทเฮาทนไม่ไหวอีกแล้ว น้ำเสียงจริงจังขึ้น “หารือตลอดทั้งวัน นางคิดถึงลูกชายทั้งสองบ้างหรือไม่? “คนหนึ่งถูกนางใช้เป็นเครื่องมือว่าราชการหลังม่าน อีกคนถูกนางทิ้งให้โดดเดี่ยวในวังหลัง นางทนได้อย่างไร!” ไทเฮาทราบดีว่าฮองเอามีราชกิจรัดตัว ทว่าเห็นเด็กน้อยที่น่าสงสารเช่นนี้ ก็อดจะทุกข์ใจมิได้ หว่านชิวไม่กล้าโต้แย้ง หนิงเฟยเกลี้ยกล่อม “ท่านป้าเพคะ ฮองเฮาต้องเห็นราชกิจสำคัญที่สุด ส่วนองค์ชายมีหมอหลวงถวายการดูแล เขาจะปลอดภัยแน่นอนเพคะ” ไทเฮามองทารกด้วยค

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1206

    หลังจากที่ฮ่องเต้เยี่ยนได้ฟังคำขอของพระธิดา ก็หาได้ปฏิเสธทันทีไม่ ฮองเฮาของเซียวอวี้——เฟิ่งจิ่วเหยียน มิใช่สตรีธรรมดา สาเหตุที่เป่ยเยี่ยนพ่ายแพ้ต่อหนานฉีหลายครั้ง ล้วนมีฝีมือของสตรีคนนี้อยู่ในนั้น ถึงแม้เซี่ยนอี๋ไม่เอ่ย เขาก็ต้องการกำจัดเฟิ่งจิ่วเหยียนอยู่แล้ว “ได้ พ่อรับปากเจ้า” องค์หญิงเซี่ยนอี๋รู้สึกพอใจมาก “ขอบพระทัยเสด็จพ่อ!” สิ่งใดที่นางไม่ได้ครอบครอง คนอื่นก็อย่าหวังจะได้ ทว่า ฮ่องเต้เยี่ยนยังไม่หายแคลงใจ เขาถาม “เรื่องในคุกลับนั้น ผู้ใดบอกเจ้า” องค์หญิงเซี่ยนอี๋ยังมีจิตสำนึกอยู่ หาได้ทรยศองค์ชายสี่ไม่ “เป็น...เสด็จพี่เจ็ดเพคะ” สีหน้าของฮ่องเต้เยี่ยนพลันมืดลง เจ้าเจ็ดนี่ เลอะเลือนเกินไปแล้ว! องค์หญิงเซี่ยนอี๋ขอร้อง “เสด็จพ่อ เสด็จพี่เจ็ดก็ถูกหม่อมฉันบังคับ ท่านอย่าตำหนิเขาเลย และอย่าบอกเขาด้วยว่า หม่อมฉันพูด มิฉะนั้นต่อจากนี้เขาคงไม่รักเอ็นดูหม่อมฉันอีกเพคะ” ใบหน้าของฮ่องเต้เยี่ยนแสดงความอดกลั้นไม่ใส่ใจ “ได้ เราเข้าใจแล้ว”…… เมื่อองค์หญิงเซี่ยนอี๋ออกจากวังหลวง ก็ตรงไปที่คุกลับอีกครั้ง ครั้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status