LOGINเมื่อขวัญข้าวขัดคำสั่งผู้เป็นมารดาไม่ได้ ในเวลานี้ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความกังวลใจ แต่ก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยปฏิเสธมารดาออกไป ได้แต่ทำใจกล้าๆ กลัวๆ หญิงสาวร่างอรชรในชุดนอน แขนยาวขายาวสีชมพูหวานละมุนสไตล์เกาหลี เธอรวบผมขึ้นมัดจุกเอาไว้หลวมๆ ทำให้โชว์ ใบหน้ารูปไข่ขาวนวลผ่องที่สวยสะดุดตา ซึ่งเวลานี้มันก็ไร้เมคอัพ แต่ทว่าเธอกลับน่ารักและน่ามองบวกกับริมฝีปากอมชมพูวาวได้รูป ซึ่งเธอได้ทาเพียงแค่ลิปมันเอาไว้ เพื่อป้องกันริมฝีปากแห้งเท่านั้น ขวัญข้าวค่อยๆ ก้าวเดินออกมาจากบ้าน เพื่อตรงไปยังสระน้ำ
"ขวัญทำไมลูกเดินช้าจัง ไม่ทันใจแม่เอาซะเลย คันปากอยากจะด่าลูกชายคนนี้เต็มที ทำไมถึงได้เปิดเพลงเสียงดังรบกวนชาวบ้านชาวช่องเขาแบบนี้" หญิงสูงวัยพูดออกมา ขณะที่ขวัญข้าวเพิ่งเดินออกมาพ้นจากตัวบ้านได้ไม่กี่ก้าวเอง
"คุณแม่ขา...อย่าดุพี่เสือเลยนะ มันเป็นเรื่องธรรมดาของพวกผู้ชาย เขาก็ชอบสังสรรค์เฮฮาปาร์ตี้แบบนี้ละค่ะแม่" เสียงหวานของขวัญข้าวกำลังทำให้หญิงสูงวัยฉีกยิ้มนิดๆ ที่มุมปากด้วยความรู้สึกสุขใจ เมื่อเธอเป็นหญิงสาวที่มองโลกในแง่ดี ขวัญข้าวไม่เคยกล่าวโทษพี่ชายเลยด้วยซ้ำ โดยเฉพาะเรื่องเมื่อตอนกลางวันที่นางกวางกมลนั้นรู้ดี เพราะได้โทรไปหาอัครเดชและเขาบอกว่ายังไม่ได้ไปรับขวัญข้าว แต่หญิงสาวนั้นกลับพูดตอบมารดาในทำนองที่ว่าอยู่ที่บ้านเรียบร้อยแล้ว เพราะกลัวว่านางจะเป็นห่วงหรือกลัวมารดาจะดุพี่ชาย แม่เลี้ยงกวางกมลนั้นไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆ ขวัญข้าวห่วงใยในตัวพี่ชายของเธอเสมอ
"ไม่ทันไรก็ออกตัวรับแทนพี่เสือเชียวนะ เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย เดี๋ยวแม่จะจับตีให้ก้นลายทั้งพี่ทั้งน้องเลย" หญิงสูงวัยพูดแซวลูกสาวออกมาด้วยความรู้สึกหมั่นไส้ แต่ก็เอ็นดูในความใสซื่อ ของขวัญข้าวไม่น้อย
"คุณแม่ขา...ขวัญไม่ได้ออกตัวรับแทนพี่เสือสักหน่อย ก็ขวัญพูดตามความเป็นจริงนี่คะ ตอนที่ขวัญเรียนมหา'ลัย เพื่อนๆ ผู้ชายเขาชอบตั้งวงปาร์ตี้กันหลังเลิกเรียนเป็นประจำแทบทุกวันเลย" ขวัญข้าวรีบพูดแย้งมารดาขึ้น ตามความเป็นจริง
"โอเค เป็นเรื่องธรรมดาก็ธรรมดา ตอนนี้ถึงหรือยังทำไมเสียงดังจังเลย แม่ไม่ค่อยได้ยินแล้วเนี่ย" หญิงสูงวัยพูดออกมาพร้อมกับทำหน้าไม่ค่อยชอบใจกับเสียงที่ดังเล็ดลอดเข้ามาในโทรศัพท์ ขณะที่กำลังวิดีโคอ
"ถึงแล้วค่ะแม่แต่แป๊บหนึ่งนะ...ขวัญมองหาพี่เสือก่อน"
เมื่อขวัญข้าวเดินมาถึงริมสระน้ำ เธอได้ชะเง้อชะแง้มองหาพี่ชาย เพราะไม่แน่ใจว่าเขานั่งอยู่ที่มุมไหนของสระ เมื่อผู้คนพลุกพล่านเต็มไปหมดทั้งชายและหญิง รวมๆ กันแล้วก็น่าจะหลายสิบคน
"เฮ้ย! เด็กใครวะ! น่ารักชะมัดแถมยังน่าฟัดอีกต่างหาก" ชาร์ลพูดออกมาเสียงดัง ขณะที่ทุกคนในงานปาร์ตี้นั้น จ้องมองมาที่ขวัญข้าวเป็นตาเดียว หญิงสาวเองก็จ้องกลับไป พร้อมกับกวาดสายตามองหาพี่ชาย ก่อนจะพบว่าอัครเดชนั่งอยู่บนเก้าอี้ พร้อมกับหญิงสาวแสนสวย ที่นั่งเบียดแนบชิดแทบจะสิงร่างเขาอยู่แล้ว ขวัญข้าวไม่รอช้ารีบเดินตรงเข้าไปหาเขาทันที
"ยัยขวัญข้าว!" อัครเดชอุทานออกมาพร้อมกับกัดฟันเสียงกรอดๆ เพราะความโกรธ ที่เธอนั้นไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเขา
"ขวัญข้าวเธอเป็นใครเหรอคะเสือ ทำไมหล่อนถึงใส่ชุดนอนเดินเข้ามาในบ้านเสือได้แบบนี้" เดียน่าถามชายหนุ่มออกมา พร้อมกับจ้องไปที่ขวัญข้าวอย่างไม่วางตา ด้วยความรู้สึกที่ไม่ถูกชะตาในตัวของหญิงสาวเลยสักนิด แถมเธอนั้นยังรู้สึกไม่ชอบขวัญข้าวเอามากๆ ราวกับว่าหญิงสาวนั้นเป็นศัตรูของเธอมาตั้งแต่ชาติปางก่อนก็ไม่ปาน
"ไอ้ชาร์ล! ปิดเครื่องเสียงก่อนซิ กูบอกให้มึงปิด!" ชายหนุ่มตะคอกออกมาเสียงดัง จนทุกคนนั้นรู้สึกแปลกใจในท่าทีของเขา เพราะไม่เคยเห็นอัครเดชเกรี้ยวกราด หรือแสดงอาการโกรธใคร แบบนี้มาก่อน
"เออปิดก็ปิด พูดดีๆ ก็ได้ทำไมต้องตะคอกด้วยวะ" ชาร์ลพูดออกมาพร้อมกับรีบปิดเครื่องเสียงในทันที เวลานี้บรรยากาศภายในบริเวณสระน้ำเงียบสงบราวกับว่าหญิงสาวผู้มาเยือนนั้น มีอิทธิพลต่อชายหนุ่มเจ้าของบ้าน ถึงกับทำให้เขานั้นต้องยุติงานสังสรรค์ในคืนนี้
"พี่เสือแม่จะคุยด้วย" ขวัญข้าวพูดพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ให้ชายหนุ่ม จนเขานั้นถึงกับปรับสีหน้าแทบไม่ทัน แม้ภายในใจลึกๆ จะรู้สึกขุ่นเคืองขวัญข้าวอยู่ไม่น้อย แต่ชายหนุ่มก็จำใจต้องรับโทรศัพท์มาจากมือของเธอ
"ไอ้เสือ! แม่อยากจะเอาเลือดหัวแกออกจังเลย น้องไปถึงวันแรกแท้ๆ ทำไมไม่รู้จักดูแล" หญิงสูงวัยพูดออกมาเสียงดังจนทุกคนนั้นได้ยินอย่างชัดเจน
"น้อง!" บรรดาเพื่อนผู้ชาย ของเขาอุทานออกมาพร้อมกัน เพราะไม่คิดว่าอัครเดชนั้นจะมีน้องสาวน่ารักสดใสแบ๊วขนาดนี้ แม้แต่เดียน่าเองยังไม่อยากจะเชื่อ แต่เมื่อมารดาของเขาพูดออกมาเสียงดังขนาดนั้น จึงทำให้เธอมองไปที่ขวัญข้าวด้วยใบหน้าและแววตาที่เป็นมิตร ผิดไปจากเมื่อสักครู่อย่างถนัดตา
"พี่เสือพูดกับแม่ไปนะคะ ขวัญขอตัวเข้าไปในครัว หาอะไรกินก่อนหิวข้าวจะแย่แล้ว" หญิงสาวพูดจบก็รีบเดินออกไปจากบริเวณริมสระน้ำ ที่จัดงานปาร์ตี้ในทันที โดยไม่ได้สนใจสายตาของทุกคนที่จ้องมองตามหลังเธอมาเลยสักนิด
"ขวัญโทรไปฟ้องแม่เหรอครับ ผมถามเธอแล้วก่อนจะเข้าบ้านว่าจะทานอะไรไหม ขวัญก็บอกว่าทานไข่เจียวที่บ้านก็ได้ แล้วจะให้ผมทำยังไงครับแม่ หาหูฉลามมาให้เธอหรือไง" ชายหนุ่มพูดประชดมารดาออกไป เพราะเวลานี้ร่างกายของเขานั้นเต็มไปด้วยน้ำเมา ผิวหน้าและใบหูของเขานั้นเริ่มแดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเลือดในกายเริ่มสูบฉีดเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์
หลายปีผ่านไป อัครเดชและขวัญข้าวได้แต่งงานกันที่ไร่ ทั้งสองไม่ได้จัดงานใหญ่โตอะไรมากมาย แขกที่มาร่วมเป็นสักขีพยานก็ล้วนเป็นคนที่สนิทกัน แต่นั่นมันไม่ใช่ส่วนสำคัญในชีวิตของคนทั้งคู่ เพราะทั้งสองไม่ได้มีความปรารถนาที่จะให้งานแต่งใหญ่โตมโหฬาร ขอแค่มีสักขีพยานมาร่วมแสดงความยินดีในวันงานก็เพียงพอ ตอนนี้อัครเดชได้ลูกสาวสมใจ เมื่อขวัญข้าวได้ให้กำเนิดลูกคนที่สอง ซึ่งเป็นลูกสาวมีชื่อว่าน้องแพนด้า ส่วนเจ้าสิงโตกันยาและตุลานั้นได้เข้าเรียนเตรียมอนุบาลเรียบร้อยแล้ว "ทำอะไรเหรอคะพี่ฮันน่า" ขวัญข้าวอุ้มลูกสาว เดินตรงมาที่เรือนหลังเล็ก ซึ่งอัครเดชได้ปลูกไว้ให้ฮันน่าและลูกๆ ของเธอได้อาศัย เพราะเขาเข้าใจดีว่าหญิงสาวคงต้องการใช้ชีวิตส่วนตัว "พี่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับ การทำร้านดอกไม้ ขวัญว่าพี่จะขายได้ไหม แต่รอให้เด็กๆ โตอีกสักหน่อยพี่อาจต้องย้ายไปอยู่กรุงเทพฯ" ฮันน่าพูดกับขวัญข้าว แต่ดวงตาของเธอกลับจ้องอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เมื่อหญิงสาวมีความปรารถนา อยากจะเปิดร้านดอกไม้ เพื่อเลี้ยงชีพและส่งลูกๆเรียน เพราะเงินในบัญชีที่เก็บเอาไว้ก็เริ่มจ
"ขอแย่งเจ้าสิงโตชิมสักวันนะครับคนดี" น้ำเสียงของชายหนุ่มช่างออดอ้อน ขณะที่ริมฝีปากของเขายังคงละเลียดชิมอมแล้วดูดที่เม็ดบัวอย่างมูมมาม ราวกับว่าจะไม่เหลือมันไว้ให้กับลูกชายเลยสักหยด"อุ๊ย! พี่เสือ" หญิงสาวร้องครางออกมาด้วยความตกใจ เมื่อเจ้ามังกรยักษ์ที่แข็งเป็นลำตั้งชันขึ้นทิ่มหน้าท้องของเธอไปมา จนหญิงสาวอดไม่ได้ที่จะแอ่นสะโพกขึ้นไปท้าทายกับท่อนเอ็นลำใหญ่หัวแดงบานเบ่ง ที่มันพร้อมจะเข้ามาสำรวจในถ้ำของเธอเต็มที "อืม...ขวัญ...ทำไมเมียพี่ถึงได้เซ็กซี่จัง" เสียงแหบพร่าของชายหนุ่มเอ่ยชมผู้เป็นภรรยาออกมา เข้าอ้อยอิ่งละเลียดชิมอมแล้วดูดอยู่ที่สองเต้าเป็นนานสองนาน ก่อนจะก้มลงไปจับเจ้ามังกรยักษ์สอดเข้าไปในช่องแคบของเธอพรึบ!!! "อืมพี่เสือ...อ๊า" เมื่อชายหนุ่มดันเจ้ามังกรยักษ์เข้าไปในถ้ำของเธอ ทำให้หญิงสาวสัมผัสได้ถึงความคับแน่น จนเธอร้องครางออกมา แต่ทว่ามันไม่ได้สร้างความเจ็บปวดเลยสักนิด เมื่อความเสียวซ่านกำลังเกิดขึ้นภายในช่องแคบ เมื่อสามี
"เดี๋ยวก็รู้ตามพี่มา" อัครเดชจูงแขนภรรยาของเขาเดินเข้าไปในไร่กุหลาบ ส่วนฮันน่าและลูกๆ ของเธอได้นั่งเล่นที่สนาม โดยมีเอื้องคำเป็นพี่เลี้ยง หญิงสาวแอบอมยิ้มตามภาพของพ่อแม่ลูกที่ดูอบอุ่น เพราะเธอแน่ใจว่าบอสหนุ่มคงกำลังจะมีเซอร์ไพรส์ภรรยา อัครเดชพาขวัญข้าวเดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งไปถึงซุ้มกุหลาบที่ถูกตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงาม มันถูกออกแบบโดยชายหนุ่ม เมื่อเขาอยากจะขอภรรยาแต่งงาน และนั่นก็ทำให้ขวัญข้าวถึงกับน้ำตาคลอ เพราะไม่คิดว่าเขาจะมีมุมที่อ่อนโยน แล้วโรแมนติกขนาดนี้มาก่อน "นั่งตรงนี้ก่อนครับคนดี" เขาจัดแจงให้ภรรยานั่งลงที่ขอนไม้ จากนั้นชายหนุ่มได้คุกเข่าลงตรงหน้าหญิงสาว โดยที่เขายังคงอุ้มเจ้าสิงโตเอาไว้ แล้วค่อยๆ หยิบแหวนออกมาจากกระเป๋ากางเกง "แต่งงานกับพี่นะครับ" "พี่เสือ..." ขวัญข้าวเรียกชื่อผู้เป็นสามีออกมา ด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความรู้สึกที่ตื้นตันใจเพราะเธอไม่คาดคิดมาก่อนว่า เขาจะขอเธอแต่งงาน เมื่อหญิงสาวไม่เคยคาดหวังที่จะมีโมเม้นต์แบบนี้ "ขอให้เจ้าสิงโตเป็นพยาน พี่จะรักและซื่
จากวันเป็นเดือนจากเดือนเป็นปี ตอนนี้ก็ครบหนึ่งปีแล้ว ที่ขวัญข้าวใช้ชีวิตร่วมกับอัครเดชด้วยความผาสุก ชีวิตคู่ของเขาและเธอนั้น มีอะไรหลายๆ อย่างที่ทำให้ขวัญข้าวนึกไม่ถึง โดยเฉพาะสิ่งที่ชายหนุ่มทำให้เธอ มันเป็นมากกว่าคำว่ารัก ที่เขายืนยันพูดกับเธอซ้ำๆ ในทุกคืนวัน เพราะไม่รู้ว่าผู้หญิงคนไหนผ่านเข้ามาใกล้ ชายหนุ่มก็ไม่เคยชายตาแลเลยสักครั้ง เขายังคงทำหน้าที่สามีและพ่อที่ดีให้กับเจ้าสิงโตได้อย่างยอดเยี่ยม ส่วนฮันน่าได้คลอดลูกแฝด หลังจากที่ขวัญข้าวคลอดเจ้าสิงโตได้หนึ่งเดือน ที่สำคัญเธอสามารถคลอดเองแบบธรรมชาติได้ และที่น่าแปลกก็คือลูกสาวของเธอคลอดเวลาเกือบเที่ยงคืน ของคืนวันที่สามสิบกันยายน ห่างจากลูกชายเพียงแค่ไม่กี่นาที แต่ทำให้ลูกอีกคนของเธอนั้นต้องแจ้งเกิดเป็นเดือนตุลาคม และนั่นก็คือที่มาของชื่อกันยาและตุลา ส่วนเจ้าสิงโตลูกของขวัญข้าวกับอัครเดชนั้นเกิดในเดือนสิงหาคม ช่างเหมาะเจาะกับชื่อสิงโต และทั้งสามคงจะเติบโตไปด้วยกัน อย่างไม่มีวันเหงาแน่นอน "สิงโตกลับบ้านได้แล้วลูก เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมาเล่นกับกันยาและตุลาใหม่นะครับ" ขวั
สักพักอัครเดชก็เดินเข้ามาในห้องคลอด โดยมีคุณหมอและพยาบาลยืนข้างๆ เตียง ที่มีขวัญข้าวนอนหายใจเข้าถี่ ใบหน้าของเธอนั้นเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ เมื่อหญิงสาวพยายามเบ่งคลอดหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่สำเร็จ และดูเหมือนว่าเธอนั้นเริ่มจะหมดแรง "ขวัญ...ขวัญต้องอดทนนะครับคนดี เพื่อลูกของเรา อีกไม่กี่นาทีเจ้าสิงโตก็จะออกมาลืมตาดูโลกแล้ว พี่รู้ว่าขวัญเจ็บมาก อดทนไว้นะครับ""คุณพ่อมาให้กำลังใจแล้ว คุณแม่หายใจเข้าลึกๆ อีกครั้งนะคะ แล้วเตรียมเบ่ง หายใจเข้าลึกๆ ค่ะ หนึ่ง สอง สาม เบ่งค่ะ...อื้ดดด!!" คุณหมอและนางพยาบาลต่างก็ช่วยกันให้กำลังใจขวัญข้าว เมื่อปากมดลูกของเธอเริ่มเปิดสิบเซนติเมตรพร้อมคลอดเต็มทีแล้ว กรี๊ด!!! หญิงสาวร้องกรี๊ดออกมาจนสุดแรงเกิด แม้ว่าคุณหมอจะบอกให้เก็บเสียง แต่ในเวลานี้คงไม่มีคุณแม่คนไหนเก็บอาการเจ็บปวดปางตายนี้ไว้ได้ ใบหน้าของหญิงสาวฉายแววความเจ็บปวดออกมาอย่างทรมาน จนอัครเดชนั้นถึงกับน้ำตาซึมเพราะสงสารภรรยา"อูเว้! อูเว้! อูเว้! " เสียงทารกน้อยดังขึ้น พร้อมกับลมหายใจหอบเหนื่อยของขวัญข้าว ที่ดูเหมือนว่าเธอนั้นกำลังหมดเรี่ยวแรงพอดี แต่รอยยิ
"ทำไมอ้อนแบบนี้ครับ ถ้าพี่อดใจไม่ไหวจะให้ทำยังไง...หื้ม"คำพูดและแววตาของชายหนุ่มฉายแววเจ้าเล่ห์ออกมาอย่างชัดเจน ก่อนจะล้มตัวลงนอนแล้วโอบกอดหญิงสาวร่างอวบเอาไว้หลวมๆ แต่ขวัญข้าวก็เชื่อว่าเขาคงไม่กล้าทำอะไรมากไปกว่ากอด เพราะตั้งแต่กลับมาที่ไร่ก็ทำให้เธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้ มีมุมอ่อนโยน และเขาก็ทะนุถนอมห่วงใยเธอมาก จนมองข้ามความต้องการของตัวเองออกไป ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วหากเขาจะทำอะไรในแบบที่พูดออกมาก็ย่อมทำได้ "พี่เสือ... ขวัญขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ" ขวัญข้าวพลิกตัวตะแคงข้างเข้าหาชายหนุ่ม พร้อมกับ สบตากับเขา "ไหนบอกว่าง่วงไง ทำไมตาแป๋วเลยตอนนี้ จะถามอะไรพี่ละครับ...หื้ม...จุ๊บ! จุ๊บ! จุ๊บ! " ดวงหน้ากลมของภรรยาที่ดูอวบอิ่มเพราะการตั้งครรภ์ ทำให้ชายหนุ่มอดใจไม่ไหว ที่จะจุ๊บลงไปที่เรียวปากของเธอหลายที ก่อนจะเอามือปัดปอยผมออกจากแก้ม แล้วยิ้มแฉ่งให้กับความน่ารักของเธอ ขณะที่ขวัญข้าวก็ยิ้มร่าให้กับความรักที่ผู้เป็นสามีมอบให้มาด้วยความสุขใจ







