เธอลุกยืนแล้วเดินเข้าห้องนอนอย่างช้าๆ รู้สึกถึงไอร้อนผะผ่าวทั่วร่าง เธอคงจับไข้เข้าให้แล้ว
วาคิมแสดงน้ำใจอันล้นเหลือด้วยการยืนกอดอก สองตาเพ่งมองร่างที่ไร้เรี่ยวแรงกำลังตะเกียกตะกายเข้าห้อง ถ้าหล่อนร้องขอความช่วยเหลือสักคำ เขาคงอุ้มหล่อนไปส่งให้ถึงเตียงเชียว แต่นี่ไม่เลย เก่งให้ตลอดนะเกล็ดมุก ผู้หญิงหัวดื้อ!
เกล็ดมุกสะท้อนในอก หากล้มลงไปตรงนี้วาคิมจะถลามาคว้าไว้หรือว่าจะก้าวข้ามกันแน่ เธอยิ้มขมขื่น จ้องมองทางข้างหน้าผ่านม่านน้ำตา ห้องน้ำด้านในห้องนอนคือจุดมุ่งหมาย และเมื่อเข้ามาได้ เธอก็ขย้อนเอาอาหารเที่ยงออกมาอีกครั้ง ร่างอ่อนแรงแทบสลบข้างโถชักโครก แต่ก็ยังแข็งใจฝืนลุกมาอาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จ ยาแก้ไข้ถูกป้อนเข้าปากตามด้วยน้ำอีกหนึ่งแก้วใหญ่ เธอปีนขึ้นเตียงนอน อยากหลับแล้วไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย
ปัง!
เสียงสัญญาณที่บ่งบอกว่า ณ บัดนี้บนชั้นสูงสุดของตึก GB มีเพียงเกล็ดมุกเท่านั้นที่ยังอยู่ วาคิมบันดาลโทสะอันมากมีของเขาลงกับประตูบานเดิม เขาคงไม่พอใจอะไรสักอย่าง หรือไม่ก็คงหัวเสียที่วันนี้เธอกล้าเถียงเขา วาคิมเคยบอกว่าไม่เคยใส่ใจเรื่องของเธอ แต่ไม่กี่นาทีที่ผ่านมาเขากลับหยิบยกเอาเรื่องเพียงเล็กน้อยมาเป็นชนวนชวนทะเลาะ หรือว่าเขาจะเบื่อเธอแล้ว และอยากจะเขี่ยทิ้งเหมือนที่พี่ชายของเธอว่า แล้วจู่ๆ ภาพของแพรวรุ้งก็แวบเข้ามาในสมอง
เธอถอนหายใจอย่างอ่อนแรง ข่าวของเขากับนางแบบสาวออกมาในรูปนี้ งานวิวาห์คงมีขึ้นในเร็ววันนี้แน่ๆ ฝ่ายแพรวรุ้งก็ยิ่งออกตัวว่าเป็นเจ้าข้าวเจ้าของวาคิมเสียขนาดนั้น หรือว่ามันถึงเวลาที่เธอต้องถอนตัวเสียที ทำไมความรักของเธอมันเจ็บปวดอย่างนี้นะ มันทำให้เธอท้อแท้และสิ้นหวัง ถ้าตอนนี้มีใครสักคนให้คุยด้วยก็คงดี
เสียงเพลงเรียกเข้าดังมาจากมือถือเครื่องบาง เป็นเสียงที่เกล็ดมุกคุ้นเคยดี เธอรีบหยิบมันมาแนบหู บิดาที่รักกรอกเสียงทุ้มอ่อนโยนมาตามสาย ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบเช่นเคย
‘ยัยหนู เป็นยังไงบ้าง สบายดีหรือเปล่าลูก’
“คุณป๋าคะ...ไม่เลยค่ะ หนูเล็ก...” จำต้องกลั้นก้อนสะอื้นลงคอ ก่อนจะตอบคำถามของบิดา “หนูเล็ก...ไม่สบายมากๆ เลยค่ะ ได้แต่นอนจมเตียง...ปวดหัวแล้วก็อาเจียนทั้งวันด้วย...ฮึกๆ คุณป๋าขา หนูเล็กคิดถึงคุณป๋า ฮือออ...” เกล็ดมุกปล่อยโฮไปตามสาย น้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยที่สะท้อนกลับมายิ่งทำให้เธออยากกลับไปซุกอกอุ่นๆ ของบิดา
‘อย่าร้องลูกอย่าร้อง หนูไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะ ไม่สบายก็ไปหาหมอ ไหวหรือเปล่า ป๋าให้โทนี่ไปรับหนูก็ได้นะ แล้วผู้ชายคนนั้น มันไปไหน ทำไมปล่อยลูกสาวป๋าให้เจ็บไข้ได้ป่วยอยู่คนเดียว ใช้ไม่ได้’
เจ้าสัวเมฆินทร์เอ่ยออกมาด้วยความคับแค้นใจ เมื่อไรหนอผู้ชายคนนั้นจะมีใจให้กับบุตรสาวของท่านบ้าง
“เราทะเลาะกันนิดหน่อยค่ะ ฮึกๆ เขาออกไปข้างนอก ตอน...นี้ อาจอยู่กับ...ว่าที่คู่หมั้น” เกล็ดมุกตอบกระท่อนกระแท่น สะอื้นฮักๆ ดวงตาที่เคยแวววาวสุกใสอยู่เป็นนิจ บัดนี้หม่นแสงลงจนน่าใจหาย
‘โธ่เอ๋ยลูกรัก หนูฟังป๋านะลูก ป๋าจะไม่ยอมให้เขาดูถูกดูแคลนหนูอีกแล้ว กลับบ้านเราเถอะนะ เห็นแก่ป๋าสักครั้ง รู้ไหมว่าตั้งแต่หนูไปป๋าไม่เคยนอนหลับได้สนิทเลยสักคืน แม่ของหนูมาต่อว่าป๋า ร้องห่มร้องไห้น้ำตาเป็นสายเลือดในความฝัน อย่าให้ป๋ารู้สึกผิดต่อวิญญาณคนตายมากไปกว่านี้เลย ป๋าเจ็บเหลือเกินลูกรัก เจ็บที่เห็นหนูเจ็บ เจ็บที่เห็นหนูต้องอดทนในสิ่งที่หนูไม่จำเป็นต้องทน หนูยังมีป๋า มีพี่เมฆ ที่สำคัญหนูมีฟาร์มไข่มุกที่หนูรัก ป๋าสร้างมันไว้ให้หนูนะ ถึงเวลาที่หนูต้องกลับมาดูแลมันแล้ว เพราะฉะนั้นกลับบ้านเราเถอะนะลูกนะ’
เจ้าสัวใหญ่วอนขอบุตรสาว น้ำตาแห่งความเสียใจน้อยใจซึมเอ่อที่หัวตา
เกล็ดมุกรู้สึกได้ถึงน้ำเสียงแตกพร่าของบิดา ท่านคงเค้นถ้อยคำออกมาพร่ำสอนลูกอกตัญญูอย่างเธอ แต่ตอนนี้ความรักที่มีต่อวาคิมมันมีมากเหลือเกิน มากจนกลบฝังความกตัญญูเอาไว้ยังส่วนลึกของจิตใจ สัมผัสได้เพียงเงารางเลือนเท่านั้น
“แต่...หนูเล็กรักเขา คุณป๋าให้หนูเล็กอยู่ต่ออีกสักเดือนนะคะ ”
เกล็ดมุกวอนขอน้ำตาไหลไม่แพ้บิดา แต่ความเฉียบขาดอย่างอดีตเจ้าพ่อ ลูกสาวอย่างเธอยังมีไม่พอ
‘ไม่! หนูต้องกลับบ้านเดี๋ยวนี้! นี่เป็นคำสั่ง! ป๋าจะให้โทนี่ไปรับหนูที่ GB ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า เตรียมตัวให้พร้อม อย่าได้คิดขัดใจป๋าเพราะป๋าไม่เหมือนใคร คนที่มันทำลูกสาวป๋าเจ็บ มันต้องเจ็บกว่าหลายเท่านัก!’
“คุณป๋า!”
‘เกล็ดมุก ลุกมาแต่งตัวซะ! ป๋าหมดความอดทนแล้ว!’
เสียงกดตัดสาย ดังสะเทือนเลือนลั่นถึงขั้วใจ เกล็ดมุกลุกมาเก็บข้าวของมือเป็นระวิง ร่างสวยเหงื่อแตกพลั่กๆ เพราะยาแก้ไข้เริ่มออกฤทธิ์ ชุดทำงานสีฟ้าอ่อนถูกหยิบมาสวมอีกครั้งหลังจากที่มันถูกแขวนแช่ในตู้มากว่าครึ่งปี
เธอตรวจสอบในกระเป๋าถือใบน้อยอีกครั้ง นอกจากเครื่องสำอางเล็กน้อยกับโทรศัพท์มือถือ มันยังมีกรอบรูปเล็กๆ ที่ใส่รูปเธอกับเขาเอาไว้ เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะค้านคำสั่งของบิดา ท่านเลี้ยงดูลูกทั้งสองอย่างอิสระเต็มที่ ไม่เคยดุด่า ทั้งยังให้กำลังใจและข้อคิด แต่หากวันใดที่ท่านย้ำชัดว่าเป็น ‘คำสั่ง’ นั่นหมายถึงต้องปฏิบัติตามเท่านั้น!
เธอหยุดชั่วครู่แล้วหันไปมองหน้าเจ้าบ่าวเล็กน้อย เขาดูหล่อเหลาเอาการ ไม่แพ้พี่ชายเธอเลย เขาดูสุขุมเยือกเย็นแต่แววตาเต็มไปด้วยแววบางอย่างที่เธอมองแล้วอบอุ่นหัวใจ อบอุ่น...เหมือนวันนั้นเมื่อหลายปีก่อนไม่มีผิด“ตอนมุกไปเรียนที่อังกฤษ มุกได้เจอกับวีวี่ เอ่อ...น้องวา ที่มหาวิทยาลัย เราสองคนเป็นเพื่อนรักกันนับแต่วันแรกที่พบหน้า แล้วอยู่ๆ วันหนึ่ง กามเทพก็เล่นตลก คือตอนนั้นมุกไม่รู้จริงๆ ว่าคุณวาเป็นพี่ชายของวีวี่ ตอนนั้นมุกเกิดอุบัติเหตุตกลงไปในทะเลสาบหน้ามหาวิทยาลัย น้ำนี่เย็นเฉียบเลยค่ะ มุกยังจำได้ดี ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย อัศวินขี่ม้าขาวก็ยื่นมือเข้ามาช่วย และตั้งแต่นั้นมา ใบหน้าของอัศวินคนนั้นก็ไม่เคยเลือนหายไปจากหัวใจของมุก หัวใจของมุกไม่เคยลืมผู้ชายคนนั้นแม้สักวินาที มุกยอมแลกแม้กระทั่ง...ศักดิ์ศรี”เกล็ดมุกสะดุดถ้อยคำที่เตรียมเอาไว้ในใจเมื่อวาคิมแย่งไมโครโฟนจากมือเธอ เขาคงกลัวว่าเธอจะเอ่ยในสิ่งที่ต้องทำร้ายหัวใจตัวเองอีกครั้งวาคิมเอื้อมมือไปรั้งเอวของเจ้าสาวเข้ามาใกล้ ดันตัวหล่อนให้ซบใบหน้ากับอกอุ่นของเขา เป็นเหมือนสัญญาณเตือนบอกว่าให้เลิกพร่ำเสียที“พอแล้ว...พอเถอะมุก ผมรู้แล
“เลิกทำตัวเป็นเด็กได้แล้ว ไปอยู่บ้านเขาต้องเป็นแม่บ้านที่ดีรู้หรือเปล่า อย่าวู่วามอย่าใจร้อน หัดคิดก่อนพูด ระลึกเอาไว้เสมอว่านั่นไม่ใช่บ้านเรา จะทำอะไรต้องคิดหน้าคิดหลังให้ถี่ถ้วน ไม่ใช่ทำแล้วมาเสียใจสำนึกผิดทีหลัง ลูกต้องอดทนให้มากๆ หัดฟังพี่เขาให้จบ อย่าตีโพยตีพายเหมือนตอนที่อยู่บ้านเรา พ่อเมฆคนนี้แม่ดูออก แม่มั่นใจ หัวใจของเขามีลูกสาวของแม่แล้ว จงรักษาไว้ให้ดี รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา พิจารณาให้ถ้วนถี่ อย่าใช้แต่อารมณ์เหมือนที่ผ่านมา สุดท้ายนี้แม่ก็ขอให้ลูกสาวแม่...มีความสุข มีเวลาก็กลับมาเยี่ยมแม่บ้าง...นะลูกนะ”นางกลั้นก้อนสะอื้น วารินทร์กอดรัดมารดาแนบแน่น น้ำตาไหลพรากๆ ไม่หยุดเกล็ดมุกหยิบกระดาษเช็ดหน้าไปซับหยาดน้ำตาให้เพื่อนรักและแม่สามี ก่อนที่ทั้งสามจะสวมกอดกันอีกครั้งเกล็ดมุกยังคิดถึงมารดา แม่ขา...หนูเล็กมีความสุขเหลือเกิน แม่ไม่ต้องห่วงนะคะ หนูเล็กจะดูแลตัวเองและหลานของแม่ให้ดีที่สุด แม่มองมาจากสวรรค์เอาใจช่วยหนูเล็กด้วยนะคะ______________คุณหนูคนเล็กของสองตระกูลในชุดเจ้าสาว เดินกรุยกรายผ่านประตูบานใหญ่เข้ามา เจ้าสัวรีบไปรับบุตรสาวจากมือคุณหญิงเพื่อไปส่งให้ถึงมือเจ้าบ่าว
[18]วิวาห์หวาน___________อาทิตย์ถัดมา วันแต่งงานใบหน้าของเจ้าสาวคนงาม ถูกแต่งแต้มไว้ด้วยเครื่องสำอางราคาแพงจนเนียนกริบ พร้อมพรั่งด้วยเสื้อผ้าทรงผมที่ถูกช่างหลายชีวิตเนรมิตให้เธอสวยที่สุดในงานวันนี้ วารินทร์เพ่งพินิจผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าด้วยความรู้สึกหลากหลาย ภาพที่สะท้อนผ่านกระจกเงาบานใหญ่ช่างงดงามประดุจเจ้าหญิงในเทพนิยาย ไม่น่าเชื่อว่าชุดเจ้าสาวจะทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งดูสง่างามได้ถึงเพียงนี้ มันช่างมีมนต์ขลังเมื่อเธอจะได้ใส่ชุดนี้เดินกรุยกรายอยู่เคียงข้างเจ้าบ่าว มวลความสุขคงอบอวลไปทั่ว แต่จะดีกว่านี้ หากเจ้าบ่าวของเธอมีหัวใจรักให้เธอบ้างเพื่อนรักของวารินทร์ก็เช่นกัน เกล็ดมุกกำลังจ้องอยู่กระจกเงาอีกบานที่สูงใหญ่ไม่แพ้กัน ผิดก็แต่ชุดเจ้าสาวของเธอฟูฟ่องกว่าของวารินทร์ ช่วยพรางหน้าท้องนูนน้อยๆ ของว่าที่คุณแม่ได้ดีเหลือเกิน เกล็ดมุกกำลังคิดว่าวันเวลาช่างผ่านไปรวดเร็วนัก อาทิตย์ที่แล้วเธอเพิ่งไปถ่ายรูปและลองชุดที่สตูดิโอแท้ๆ แต่วันนี้กลับเป็นวันงานจริงๆ แล้ว พิธีตักบาตรและพิธีหมั้นผ่านพ้นไปด้วยดีในตอนเช้า รวมทั้งพิธียกน้ำชาด้วย บรรดาแขกเหรื่อมาร่วมยินดีกันล้นหลาม ทุกคนต่างอวยพรให้ชีวิ
“โธ่เอ๋ย ฉันก็เลยปล่อยไก่ตัวเบ้อเริ่ม ริสอนเขาทำกับข้าว แถมยังบอกให้เขากลับไปทำให้น้องมีนผู้น่ารักกินอีก”‘นั่นละว่าที่ลูกเขยเรานะที่รัก’วาคิมคิดอยู่ในใจ แต่เรื่องสำคัญเขาต้องหาเวลาเคลียร์กับเจ้าบอดี้การ์ดหน้าตี๋เสียก่อน มันมาให้เมียเขาสอนทำกับข้าวตั้งแต่เมื่อไหร่กัน“ฉันเอ็นดูพ่อหนูนั่นนะ ฉันทำขนมไปฝากแกบ่อยๆ พวกกับข้าวแล้วก็อาหารที่ฉันทำให้คุณแต่คุณไม่เคยแตะ ฉันก็เคยชวนสองพ่อลูกนั่นมาร่วมวงกินด้วยกัน” บอกอย่างอยากประชดเขา แต่ประชดออกมาแล้วกลับเป็นตัวเองที่เจ็บหัวใจ“ผมสัญญา หลังแต่งงานผมจะรอกินฝีมือคุณทุกวันเลย”หากเป็นคู่รักคู่อื่น ฝ่ายหญิงคงได้ยิ้มแก้มปริ แต่ไม่ใช่คู่ของเกล็ดมุก ยิ่งเขาพูดออกมาอย่างนั้นเธอก็ยิ่งช้ำใจ เหมือนว่าเขามาสะกิดแผลใจให้มันปริแยกแตกออกอย่างไรอย่างนั้น“ไม่ละ ฉันเบื่อที่ต้องเอาใจคนอื่น”“แม้แต่สามีงั้นเหรอ”“ใช่! อยากทำก็ทำ ไม่อยากทำก็ไม่ทำ”เขาพยักหน้า รับรู้และเข้าใจความเจ็บปวดที่หล่อนสื่อออกมาทางแววตา“แพ้ท้องบ้างหรือเปล่า” เขาเปลี่ยนเรื่องคุย ไม่อยากให้หล่อนคิดมากในเรื่องอดีต เขากลับไปแก้ไขมันไม่ได้จริงๆ“ก็นิดหน่อย แค่ช่วงนี้ไม่ชอบกินของหวาน”“อืม...เห
เกล็ดมุกหน้าเจื่อน เธอแค่อยากประชดคนที่มานั่งรอเท่านั้นเอง“หนูเล็กขอโทษค่ะคุณป๋า หนูเล็กหงุดหงิดนิดหน่อย ความจริงหนูเล็กไปลองชุดกับวีวี่ก็ได้ เห็นเขาบ่นๆ ว่างานยุ่งหนูเล็กก็เลยไม่อยากให้เขาเสียเวลา”“ไม่หรอก ป๋ารู้ดี ที่เขามาเพราะอยากให้เกียรติหนูนะลูก”“คุณป๋าแน่ใจได้ยังไงว่าเขาไม่ได้ทำไปเพราะถูกบังคับทางอ้อม เขาอาจจะทำเพื่อเด็กที่กำลังจะเกิดมาก็ได้ แล้วเรื่องในอดีตคุณป๋าลืมมันได้เหรอ ไม่โกรธแล้วหรือคะ”“โกรธสิ โกรธมากด้วย แต่ถ้าอนาคต เขาสามารถทำให้ลูกสาวป๋ามีความสุขได้ ป๋าก็จะทำลืมๆ ไปซะ หนูเองก็เหมือนกัน อย่าทิฐิให้มากนัก คิดถึงวันแรกที่หนูตัดสินใจไปอยู่กับเขาให้มากๆ หนูรู้ดีอยู่แก่ใจว่าอยากให้มีงานแต่งงานเกิดขึ้นมากแค่ไหน ป๋าพูดถูกใช่ไหมลูกรัก”ท่านให้ข้อคิด มือลูบศีรษะบุตรสาวให้กำลังใจ เกล็ดมุกยอมตัดขาดจากวาคิมช่วงหนึ่งก็เพราะเห็นแก่พ่อคนนี้ แล้วท่านจะใจร้ายทำลายความรักของบุตรสาวได้อย่างไร“หนูเล็กขอโทษนะคะ รู้ทั้งรู้ว่าคุณป๋าไม่ชอบเขาแต่หนูเล็กก็ยังตกลงแต่งงาน”“ป๋ารู้ว่าหนูไม่ได้ทำเพื่อตัวเองเพียงคนเดียว ไม่ต้องรู้สึกผิดกับป๋า ตราบใดที่หนูมีความสุข ป๋าก็มีความสุขนะลูกรัก เปิดใ
“บ้าน่ะสิ ฉันเพิ่งท้อง”“อ้อ...แล้วลูกจะอยู่ในท้องเธออีกหลายเดือนเลยเหรอ”นัยน์ตาคมกล้าจับจ้องที่หน้าท้องบางๆ อีกหน“ใช่...น่าร้อนปีนี้ฉันอดใส่ทูพีชแหงๆ” ว่าที่คุณแม่ทำหน้าปุเลี่ยน เมื่อนึกถึงสภาพตัวเองตอนท้องป่องแล้วใส่ทูพีชสีชมพูแปร๋นตัวโปรด“หึๆๆ ดี” เขาตอบสั้นๆ หัวเราะในลำคออย่างสมใจ พออดไม่ไหวก็เอื้อมมือไปวางบนหน้าท้องของหล่อนไอร้อนที่ซึมผ่านเนื้อผ้าลงมาทำให้วารินทร์ถึงกับน้ำตาซึม เขาคงอยากสัมผัสลูกบ้าง“คุณเคยคิดฆ่าลูกจริงๆ หรือเปล่า” ถามออกไปแล้วก็หวั่นใจในคำตอบ ว่ามันอาจไม่เป็นอย่างที่คิด“ฉันแค่ขู่ไปอย่างนั้นเอง เธอนั่นแหละบ้าดีเดือดเกือบทำให้ฉันกลายเป็นฆาตกรฆ่าลูกตัวเอง” เขาพูดความจริง โบ้ยความผิดมาให้หล่อนซึ่งหน้า แต่วารินทร์กลับยิ้มรับทั้งน้ำตา“ฉันขอโทษที่ทำบ้าๆ อย่างนั้น ก็...มันโมโหนี่นา”เมฆาปาดน้ำตาให้วารินทร์ด้วยปลายนิ้วอย่างอ่อนโยน เขารวบร่างบางที่สะอื้นน้อยๆ มาไว้ในอ้อมแขน ปลอบประโลมหล่อนด้วยการลูบแผ่นหลังขึ้นลงเป็นจังหวะ ทำแบบนั้นอยู่นานก่อนจะดันหล่อนออกเพื่อเผชิญหน้าอีกครั้งริมฝีปากอวบอิ่มที่เม้มเข้าหากันเพื่อกลั้นสะอื้นของวารินทร์ ช่างยั่วยวนเมฆาด้วยเจตนาบริสุ