หญิงสาวหยุดยืนที่กลางห้องเป็นครั้งสุดท้าย หน่วยตาหม่นเศร้ามีหยดน้ำใสคลออยู่ กวาดไล้ไปทั่วทุกตารางนิ้ว ซึมซับเอาความสุข ความทุกข์ ที่เขาและเธอมีร่วมกัน กลิ่นอายความสุขยังอบอวลอยู่ในนี้ มันมีมากพอๆ กับละอองของหยดน้ำตา
“วาคิมคะ มุกมาอยู่ที่นี่เพราะว่ามุกรักคุณ แต่ที่มุกต้องไปก็เพราะมุกรักคุณเช่นกัน” เอ่ยกับห้องนอนอันว่างเปล่า ค่อยๆ ก้าวมาที่ประตูอย่างช้าๆ บิดลูกบิดสีเงินด้วยหัวใจอันห่อเหี่ยว แต่ยังไม่ทันได้ผลักมันออกไป เสียงประตูใหญ่ด้านนอกก็ถูกผลักเข้ามา มือเรียวสวยหยุดชะงัก ประตูห้องนอนถูกแง้มไว้มิได้เปิดออกจนสุด
“ฉันกำลังโมโหมากเลยกวิน! เกล็ดมุกกำลังจะทำให้ฉันเป็นบ้า!”
วาคิมตะโกนบอกบอดี้การ์ดทั้งที่กวินก็เดินตามหลังมา ใช่! เขากำลังจะบ้าเพราะไม่รู้จะจัดการกับน้ำตาของเกล็ดมุกอย่างไรดี หล่อนชอบประชดประชันแล้วก็เอาแต่ร้องไห้ เขาพยายามไม่ใส่ใจ ไม่แคร์ แต่หัวจิตหัวใจกลับเจ็บปวดเหลือทน
เกล็ดมุกยืนนิ่งหลังประตูห้องนอน ไม่ได้จะแอบฟัง แต่ชื่อของตัวเองที่ถูกกล่าวถึงทำให้อดใจไม่ไหว
“เจ้านายน่าจะคุยกับคุณมุกอีกที เธอกำลังไม่สบาย อาจจะเอาแต่ใจไปบ้าง อีกอย่าง ใช่ว่าเธอจะเป็นอย่างนี้บ่อยๆ คุณมุกอาจจะมีเหตุผลของเธอ”
กวินแสดงความเห็น เขาเพิ่งพาเจ้านายหนุ่มลงไปสงบสติอารมณ์ข้างล่าง บางทีเกล็ดมุกอาจจะเป็นคนพิเศษจริงๆ เพราะไม่เคยเลยสักครั้งที่เจ้านายจะหัวเสียเพียงเพราะมีปากเสียงกับผู้หญิงของเขา
“หึ! เหตุผลหรือกวิน ไม่มีเหตุผลอื่นหรอกนอกจากอยากได้อยากมี อยากเป็นเจ้าของฉัน! เกล็ดมุกเคยบอกเองว่านอกจากความรักเธอจะไม่ขอสิ่งใด แล้วไงล่ะ แค่เห็นรูปของฉันกับแพรวรุ้งก็เกิดหึงหวงไม่เข้าท่า เธอเองก็รู้ดีว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ คงอยากได้ตำแหน่งนายหญิงของ GB จนตัวสั่น”
ริมฝีปากเหยียดยิ้มดูแคลน หลังจากพ่นวาจาคมกริบราวใบมีดออกมาจ้วงแทงหัวใจบางๆ ของคนที่ถูกกล่าวหา ขายาวก้าวเข้าไปในส่วนของห้องครัวแบบโมเดิร์น เปิดตู้ลอยเหนือเตาไฟฟ้าเพื่อแลหาขวดวิสกี้ เขาได้มันพร้อมกับแก้วอีกหนึ่งใบ ร่างสูงเพรียวเดินกลับมานั่งยังโซฟาที่กลางห้อง
กวินขยับไปหาผู้เป็นนาย ส่ายหน้าน้อยๆ เมื่อเห็นเจ้านายที่เคารพใช้แอลกอฮอล์เพื่อดับความขุ่นเคืองใจ ใบหน้าหล่อเหลาแม้ไม่คมคายเท่าวาคิม ทว่าก็ดูดีเกินบอดี้การ์ดทั่วไป แน่นอนละ จะมีใครสักคนที่รู้ว่าเขาใช้นามสกุลเดียวกับเจ้านาย
วาคิมหยิบแก้ววิสกี้สีอำพันมาสาดลงคอแก้วแล้วแก้วเล่า ความผิดหวังระคนน้อยใจไหลล้นจากอกวิ่งพล่านสู่กระแสเลือด เขารับรู้ได้ชัดเจนเหลือเกินกับความเจ็บปวดที่แทรกซึมอยู่ทุกอณูเนื้อ สุดท้ายเมียเก็บแสนซื่อที่ชื่อเกล็ดมุก หล่อนก็ไม่ได้แตกต่างจากผู้หญิงหน้าเงินที่ชื่อ ‘ฟ้ารุ่ง’ สักนิด!
“ไม่น่าจะใช่นะครับ ตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณมุกไม่เคยอยากได้อะไรจากเจ้านายเลย ทั้งข้าวของเงินทอง เธอไม่เคยเรียกร้องอะไรด้วยซ้ำ”
“นั่นเพราะถ้าเธอแต่งงานกับฉัน เธอจะได้ทุกสิ่งที่เป็นของฉันน่ะสิ ผู้หญิงหน้าเงิน! ฉันรู้สึกผิดหวัง ผิดหวังมากๆ ฉัน...” วาคิมไม่พูดต่อ เก็บเอาความขุ่นข้องหมองใจยัดใส่ในขวดวิสกี้ ก่อนจะเทมันลงแก้วแล้วยกขึ้นกระดกอีกครั้ง
บอดี้การ์ดหนุ่มมองภาพนั้นด้วยความเหนื่อยใจ เจ้าชายน้ำแข็งคงยังไม่รู้ตัวว่าหลงรักเมียเก็บผู้แสนดีเข้าให้แล้ว
เกล็ดมุกยืนตัวสั่นอยู่หลังประตูห้องนอน กำลังสะกดกลั้นความโมโหเอาไว้สุดชีวิต ร่างทั้งร่างสั่นเทิ้ม เส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนเพราะเจ้าตัวกำหมัดแน่น เธอรู้ตัวดีว่าหากปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือจิตใจ มันจะเป็นเช่นไร เขาว่ายังไงนะ ผู้หญิงหน้าเงิน! อยากได้ตำแหน่งนายหญิงของ GB จนตัวสั่นอย่างนั้นหรือ ใช่! ตัวสั่นเลยล่ะ แต่สั่นเพราะเพลิงโทสะกำลังลุกโชน มันพร้อมจะแผดเผาเจ้าชายน้ำแข็งอย่างคุณแล้ว วาคิม!
ผลัวะ!
ประตูห้องนอนเปิดอ้าเพราะแรงถีบจากฝ่าเท้าของเกล็ดมุก
“วาคิม! คุณถามฉันแล้วหรือถึงตัดสินว่าฉันเป็นอย่างที่คุณคิด ฉันขอยืนยันว่าผู้หญิงโง่ๆ คนนี้ ไม่เคยอยากได้อยากมีในสิ่งที่คุณกล่าวหาเลย คุณไม่มีสิทธิ์มาปรักปรำฉัน ด้วยความคิดชั่วร้ายของคุณ ไม่มีสิทธิ์เลย...แม้แต่นิดเดียว”
น้ำเสียงสั่นเครือเค้นถ้อยคำออกมาชี้แจง มันไม่ชัดเจนนักเมื่อต้องกลืนก้อนสะอื้นและบังคับหยดน้ำตาไม่ให้ไหลรินในคราวเดียว เพียงแค่เห็นใบหน้าเรียบเฉยที่คุ้นตา กลิ่นกายเขาที่คุ้นชิน ความโกรธกรุ่นก็แปรผันเป็นความน้อยเนื้อต่ำใจ
“นั่นเธอแต่งตัวจะไปไหน ไม่สบายทำไมไม่นอนพัก” เขาท้วงติงโดยไม่รู้ตัว ไม่ได้โต้ตอบหล่อนในเรื่องที่เจ้าตัวชี้แจงด้วยซ้ำ หัวใจสั่นไหวแปลกๆ รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ นั่นมันเสื้อผ้าชุดแรกที่หล่อนใส่ขึ้นมาเหยียบบนนี้ ห้องชุดสุดหรูของเขา และหลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้เห็นหล่อนหยิบมาสวมอีก ทว่าตอนนี้...
กวินเห็นว่าทั้งสองมีเรื่องต้องสะสางระหว่างกัน เขาจึงทำท่าว่าจะเลี่ยงออกไป แต่เสียงแกร่งกร้าวของเกล็ดมุกกลับขัดขึ้นเสียก่อน ชายหนุ่มประหม่าอย่างไม่เคยเป็น นึกเกรงน้ำเสียงและดวงตาหวานดุที่มีน้ำใสขังคลออยู่ครามครัน ไม่น่าเชื่อว่าลูกแมวน้อยที่เขาเอามาส่งเจ้านายหนุ่มเมื่อต้นชั่วโมง บัดนี้กลายร่างเป็นแม่เสือสาวเสียแล้ว
“อย่าเพิ่ง! อย่าเพิ่งไปสิคะ กวินต้องอยู่เป็นพยานให้มุกก่อน มุกจะได้สบายใจว่าไม่ได้เผลอหยิบฉวยเอาอะไรไป เดี๋ยวเจ้าของเขาจะกล่าวหามุกได้ว่าอยากได้อยากมีจนตัวสั่น”
“เกล็ดมุก!”
ครืดดด!!! ตึง!!!เมฆาลุกจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ มันล้มหงายบนพื้นอย่างแรง เกล็ดมุกสะดุ้งเฮือก หลับตาแน่นหนึบ รอคอยถ้อยวาจาที่พี่ชายจะกล่าวออกมาเพื่อสั่งสอนเหมือนทุกครั้ง ทว่าทุกสรรพสิ่งยังเงียบงัน หลายนาทีผ่านไปจึงได้ลืมตาขึ้นมาดูอีกครั้ง ดวงตาที่รื้นด้วยหยาดน้ำใสจึงทันเห็นแผ่นหลังกว้างของพี่ชายหายลับไปหลังบานประตูเกล็ดมุกหันมาหาบิดา เพียงชั่ววินาทีคำสารภาพของเธอก็เปลี่ยนฝ่ามืออุ่นๆ ของท่านให้เย็นเฉียบ เธอรับรู้ถึงความอบอุ่นที่จางหายบนฝ่ามือนั้น รีบทรุดตัวลงไปนั่งบนพรมผืนหนา คลานเข่าเข้าหาบิดาเหมือนครั้งที่ยังเล็กๆ มือเรียวพนมขึ้นมาแล้วก้มศีรษะลงกราบงามๆ แทบฝ่าเท้าของท่าน นิ่งนาน...เกล็ดมุกรู้ดี ความผิดครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก แต่ก็ยังหวังลึกๆ ว่าบิดาจะให้อภัย ให้เธอได้มีโอกาสอุ้มท้องลูกคนนี้ ลูกไม่มีพ่อ“ความจริง...บ้านเรา มันก็เงียบเหงาเกินไปนะ ถ้ามีเด็กเล็กๆ มาวิ่งเล่นบ้างจะเป็นไรไป” เจ้าสัวใหญ่น้ำตาซึม เสียงแหบสั่นกลั่นคำพูดออกมาอย่างยากลำบาก ไร้ประโยชน์หากท่านจะถือโทษโกรธเคืองบุตรสาว หล่อนเตรียมใจไว้ล่วงหน้าแล้ว และรู้ดีแก่ใจว่าได้ละเมิดข
“แน่ใจหรือว่าผู้หญิงคนนี้เป็นภรรยาของคุณ เจ้านายผมฝากมาบอกพวกคุณว่าถ้ายังไม่อยากตาย เลิกยุ่งกับคุณหนูเล็กซะ ไม่อยากนั้นจะได้กิน ‘ลูกปืน’ แทนข้าว” พ่อหมียักษ์ส่งสารตามที่เจ้านายสั่งไว้จนจบ เขาอุ้มร่างของคุณหนูเล็กขึ้นแนบอกแล้วก้าวยาวๆ ออกไปจากห้อง ตามด้วยชายชุดดำรั้งท้ายอีกเป็นขบวน“โธ่เว้ย! พวกมันเป็นใครกวิน ฉันต้องการรู้ในสิบนาที มันกล้าทำขนาดนี้หยามกันชัดๆ สารเลวเอ๊ย!” ก่นด่าด้วยแรงอารมณ์ ของที่อยู่ใกล้มือที่สุดมีอันต้องลอยละลิ่วด้วยถูกปาจากมือเจ้าของวาคิมกลับเข้าไปในห้องนอน ระบายความโกรธแค้นที่โหมแรงราวพายุน้ำแข็งลงกับข้าวของในนั้น ยี่สิบนาทีต่อมาพายุลูกใหญ่ก็พัดผ่านเหลือเพียงเศษซากอารมณ์ที่พังยับ มันเกลื่อนกระจายบนพื้นห้อง อาจจะกองรวมกับเศษแจกันหรือไม่ก็โคมไฟทรงพระจันทร์สีนวลที่ตอนนี้เว้าแหว่งเหลือเพียงครึ่งเสี้ยวกวินกวาดสายตามองไปรอบห้อง พายุอารมณ์เริ่มอ่อนแรงแล้ว เขาเองก็อยากระบายอารมณ์ให้หายแค้นกับอะไรสักอย่าง แต่เจ้านายที่เคารพคงไม่อาจอยู่ได้ลำพังในสภาพนี้“ไม่ต้องรอถึงสิบนาทีหรอก ถ้าเป็นไอ้หมียักษ์นั่น
[5]ลูกสาวเจ้าพ่อขอทวงบัลลังก์_____________________________“เดี๋ยว! เธอยังไปไหนไม่ได้ ฉันยังไม่อนุญาต”เขาประกาศก้อง กวินยิ้มกว้างเต็มวงหน้า หลีกทางให้เจ้านายสาวเท้าเข้าไปหาหญิงสาวเกล็ดมุกหันกลับมามองเขาด้วยแววตาสมเพช วาคิมก็ยังเป็นวาคิมวันยังค่ำ หัวใจน้ำแข็งที่เย็นเยือกและแข็งกระด้างยังคงทระนงอยู่เช่นเดิม ไม่ยอมอ่อนไหวละลายลงให้ใครเลยแม้แต่ความรู้สึกของตัวเอง หากเขาบอกสักนิดว่า ‘รัก’ เธออาจจะเปลี่ยนใจ แต่...ไม่ละ ไม่ดีกว่า เธอทำให้บิดาและพี่ชายเสียใจมามากพอแล้ว“คุณเคยบอกว่าไม่ต้องขออนุญาต อย่าลืม!”เกล็ดมุกเปล่งน้ำเสียงเฉียบขาดประกาศจุดยืนอีกครั้ง เธอเดินหน้าก้าวต่อแม้ว่าพื้นห้องจะโคลงเคลงเหมือนเพิ่งลงจากรถไฟเหาะหมับ!“อย่าแตะฉัน! ปล่อย!” เธอร้องลั่นเมื่อมือที่หมายจะเอื้อมไปเปิดประตูถูกเขาคว้าเอาไว้ เธอพยายามดิ้นรนขัดขืนแต่ไม่สำเร็จ เขาตวัดแขนรอบเดียวก็เกี่ยวเธอมาแนบชิดติดอกแกร่ง ช่างง่ายดายเหลือเกิน
วาคิมร้องชื่อหญิงสาวลั่นห้อง ไอ้ท่าทางบ่าตั้งหลังตรง คอแข็งเป็นนางพญา แถมวาจาเชือดเฉือนไม่มีลดราวาศอกของหล่อนนี่มันสุดจะทนจริงๆเกล็ดมุกเดินเข้าห้องนอนอีกครั้ง ชายหนุ่มทั้งสองไม่เข้าใจในสิ่งที่หญิงสาวกระทำ กระทั่งผ่านไปอีกหลายนาทีเจ้าหล่อนก็เดินออกมาจากห้องนอนพร้อมกับข้าวของหลายอย่างในอ้อมแขน หล่อนปล่อยทุกอย่างให้หล่นโครมบนโต๊ะตรงหน้าพวกเขาวาคิมพูดไม่ออกเมื่อกล่องกระดาษใบเล็กกระเด็นมากระดอนมาโดนขา เขาต้องรีบรับมันไว้ก่อนที่มันจะร่วงลงไปใต้โต๊ะ เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร แน่ละเพราะของทุกอย่างที่เขาสั่งให้หล่อน กวินเป็นคนจัดการทั้งสิ้นหัวคิ้วของบอดี้การ์ดหนุ่มขมวดมุ่นเมื่อแลเห็นของในมือเจ้านาย เกล็ดมุกกำลังจะทำอะไรกัน“นั่นของขวัญปลอบใจ” เธอบอกเบาๆ ขมขื่นใจเหลือเกินเมื่อแลไปที่กล่องของขวัญใบเล็กในมือเขา “ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าข้างในมันคืออะไร คุณเป็นคนให้เอง บอกฉันได้หรือเปล่าว่ามันคืออะไร”วาคิมนิ่งอึ้ง รู้สึกว่าอากาศภายในห้องมีไม่เพียงพอสำหรับเขา มันอึดอัดหายใจลำบาก ที่สำคัญปากของเขาเหมือนถูกถ่วงไว้ด้วยลูกตุ้มยักษ์ ไม่อาจแก้ต่างใ
หญิงสาวหยุดยืนที่กลางห้องเป็นครั้งสุดท้าย หน่วยตาหม่นเศร้ามีหยดน้ำใสคลออยู่ กวาดไล้ไปทั่วทุกตารางนิ้ว ซึมซับเอาความสุข ความทุกข์ ที่เขาและเธอมีร่วมกัน กลิ่นอายความสุขยังอบอวลอยู่ในนี้ มันมีมากพอๆ กับละอองของหยดน้ำตา“วาคิมคะ มุกมาอยู่ที่นี่เพราะว่ามุกรักคุณ แต่ที่มุกต้องไปก็เพราะมุกรักคุณเช่นกัน” เอ่ยกับห้องนอนอันว่างเปล่า ค่อยๆ ก้าวมาที่ประตูอย่างช้าๆ บิดลูกบิดสีเงินด้วยหัวใจอันห่อเหี่ยว แต่ยังไม่ทันได้ผลักมันออกไป เสียงประตูใหญ่ด้านนอกก็ถูกผลักเข้ามา มือเรียวสวยหยุดชะงัก ประตูห้องนอนถูกแง้มไว้มิได้เปิดออกจนสุด“ฉันกำลังโมโหมากเลยกวิน! เกล็ดมุกกำลังจะทำให้ฉันเป็นบ้า!”วาคิมตะโกนบอกบอดี้การ์ดทั้งที่กวินก็เดินตามหลังมา ใช่! เขากำลังจะบ้าเพราะไม่รู้จะจัดการกับน้ำตาของเกล็ดมุกอย่างไรดี หล่อนชอบประชดประชันแล้วก็เอาแต่ร้องไห้ เขาพยายามไม่ใส่ใจ ไม่แคร์ แต่หัวจิตหัวใจกลับเจ็บปวดเหลือทนเกล็ดมุกยืนนิ่งหลังประตูห้องนอน ไม่ได้จะแอบฟัง แต่ชื่อของตัวเองที่ถูกกล่าวถึงทำให้อดใจไม่ไหว“เจ้านายน่าจะคุยกับคุณมุกอีกที เธอกำลังไม่ส
เธอลุกยืนแล้วเดินเข้าห้องนอนอย่างช้าๆ รู้สึกถึงไอร้อนผะผ่าวทั่วร่าง เธอคงจับไข้เข้าให้แล้ววาคิมแสดงน้ำใจอันล้นเหลือด้วยการยืนกอดอก สองตาเพ่งมองร่างที่ไร้เรี่ยวแรงกำลังตะเกียกตะกายเข้าห้อง ถ้าหล่อนร้องขอความช่วยเหลือสักคำ เขาคงอุ้มหล่อนไปส่งให้ถึงเตียงเชียว แต่นี่ไม่เลย เก่งให้ตลอดนะเกล็ดมุก ผู้หญิงหัวดื้อ!เกล็ดมุกสะท้อนในอก หากล้มลงไปตรงนี้วาคิมจะถลามาคว้าไว้หรือว่าจะก้าวข้ามกันแน่ เธอยิ้มขมขื่น จ้องมองทางข้างหน้าผ่านม่านน้ำตา ห้องน้ำด้านในห้องนอนคือจุดมุ่งหมาย และเมื่อเข้ามาได้ เธอก็ขย้อนเอาอาหารเที่ยงออกมาอีกครั้ง ร่างอ่อนแรงแทบสลบข้างโถชักโครก แต่ก็ยังแข็งใจฝืนลุกมาอาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จ ยาแก้ไข้ถูกป้อนเข้าปากตามด้วยน้ำอีกหนึ่งแก้วใหญ่ เธอปีนขึ้นเตียงนอน อยากหลับแล้วไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลยปัง!เสียงสัญญาณที่บ่งบอกว่า ณ บัดนี้บนชั้นสูงสุดของตึก GB มีเพียงเกล็ดมุกเท่านั้นที่ยังอยู่ วาคิมบันดาลโทสะอันมากมีของเขาลงกับประตูบานเดิม เขาคงไม่พอใจอะไรสักอย่าง หรือไม่ก็คงหัวเสียที่วันนี้เธอกล้าเถียงเขา วาคิมเคยบอกว่าไม่เคยใส่ใจเรื่องของเธอ แต่ไม่กี่นาทีที่ผ่านมาเขา