“May I admire you again today?”
-Pretty in Pink-
(วันนี้ฉันขอชื่นชมเธออีกครั้งได้ไหม)
“ไอ้หมอน้องแตกไทป่วยเป็นอะไรวะ” ทิวาเอ่ยถามหมอนัยสัตวแพทย์ประจำฟาร์มของเขา พร้อมลูบน้องแตงไทยวัวตัวแรกของฟาร์มด้วยความเป็นห่วง
ฟาร์มพันแสงถูกสร้างมาได้ประมาณ 2 ปีแล้วในช่วงแรกๆ อาจจะยังไม่ค่อยราบรื่นสักเท่าไหร่ แต่ช่วง 1 ปีที่ผ่านมาผลประกอบการของฟาร์มก็ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด ด้วยฝีมือการบริหารงานของทิวา เขาเรียนรู้และฝึกฝนอยู่นานกว่าเขาจะตัดสินในซื้อน้องแตงไทวัวตัวแรกของฟาร์มแห่งนี้ จากวันนั้นจนถึงวันนี้วัวในฟาร์มของเขามีเกือบ 100 ตัวแล้ว
“ท้องเสียวะ แต่ไม่ต้องห่วงกูจัดการเรียบร้อยแล้วเดี๋ยวก็หาย”
“ขอบใจมึงมาก...หายไวๆ นะลูกพ่อ” ทิวาเอ่ยบอกกับหมอนัยก่อนจะหันไปบอกกับแม่วัวตรงหน้าพร้อมกับลูบลงที่หัวของน้องแตกไทอย่างอ่อนโยน
“โอ้ยยยยย!!...อยู่กับวัวกับม้าทั้งวันทั้งคืนมึงไม่เอาเวลาไปหาเมียบ้างวะ” หมอนัยเอ่ยถามเพื่อนสนิทออกไปเอือมระอา เขารู้จักกับทิวามาตั้งแต่อยู่มหาลัยวิทยาลัยปี 1 เขายังไงเคยเห็นมีสาวๆ คนไหนสามารถเข้ามาในใจของเพื่อนรักคนนี้ได้เลยสักคน จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่มี
“หึหึ”
“ขำอะไรของมึงวะ” หมอนัยเอ่ยถามเพื่อนรักตรงหน้าออกมาด้วยความสงสัย
“เรื่องของกูครับ”
“ไอ้เวรนี่”
“กูไปก่อน...ฝากน้องแตงไทด้วยเว้ย” ทิวาเอ่ยบอกกับเพื่อนก่อนจะเดินไปยังรถจี๊ปคันใหญ่ของตัวเองที่จอดอยู่ยังลานจอดรถที่อยู่ไม่ไกล ก่อนโทรศัพท์เครื่องหรูจะสั่นไม่หยุดอยู่ในกระเป๋ากางเกงยีนส์เก่าๆ ของเขา
ครืดดดดดดดดด~~ ครืดดดดดดดดด~~
“ครับแม่” ร่างสูงกดรับสายทันทีที่เห็นชื่อโชว์อยู่ที่หน้าจอ ตั้งแต่ที่เขารู้ว่าตัวเองจะต้องแต่งงานอย่างกะทันหันกับเจ้าสาวที่แม่ของเขาเป็นคนเลือกให้ เขาก็ดูร่างเริงและยิ้มมากกว่าปกติจนคนงานในไร่ต่างพากันสงสัยว่านายใหญ่ของพวกเขาเป็นอะไร
(อยู่ไหนครับคุณลูกชาย) ปลายสายเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงสดใส ทำให้ใบหน้าหล่อเหลาของทิวายกยิ้มขึ้นมาทันทีอย่างพอใจ เพราะนั่นหมายความว่าทุกอย่างที่เขากำลังตั้งตารอคงจะเกิดขึ้นอีกไม่นาน
“อยู่ฟาร์มครับแม่”
(ตอนบ่ายไปไหนรึป่าวลูก)
“ทิว่าจะไปตรวจงานที่โรงแรมครับ”
(ยกเลิกไปก่อนได้ไหม แม่อยากให้ลูกไปเจอน้าษากับน้องจันทร์ที่บ้านของยายเดือน)
“แต่...”
(ไม่มีแต่ได้ไหมคะคุณลูกชาย น่านะ...)
“ก็ได้ครับ”
(ดีมากลูกรัก แม่วางก่อนนะคะเดี๋ยวแม่จะพาน้าษากับยายเดือนไปทานข้าวก่อน)
“ครับ” ร่างสูงยกยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้าไปในการเป๋ากางเกงของตัวเองตามเดิม ทิวาผิวปากออกมาอย่างอารมณ์ดี พร้อมกับเดินกลับไปยังรถของตัวเอง ทุกอย่างในตอนนี้ดูเป็นใจให้กับเขาไปหมด ‘แม่วางก่อนนะคะเดี๋ยวแม่พาน้าษากับยายเดือนไปทานข้าวก่อน’
“ยัยหัวเน่าอยู่ที่บ้านคนเดียวสินะ ไปทักทายสักหน่อยแล้วกัน” พูดจบร่างสูงก็ขับรถจี๊ปคันใหญ่ของตัวเองออกไปทางทิศเหนือของไร่พันแสงของเขาทันที ทิวาจอดรถคู่ใจของตัวเองไว้บริเวณหน้าบ้านพักหลังเล็กของเขา ก่อนจะเดินลัดเลาะไปทางด้านหลังของบ้าน เดินตรงไปไม่ไกลก็จะเห็นประตูรั้วไม้สีขาวสะอาดตาที่กั้นระหว่างสวนของเขากับบ้านยายเดือน
...
จันทร์เจ้ามองไปยังภาพครอบครัวของตัวเองก่อนจะยิ้มออกมาทั้งน้ำตา ก่อนหน้านี้เธออยู่กับคุณยายและคุณแม่ทำให้ไม่อยากแสดงความเจ็บปวดออกมาให้กับพวกท่านได้เห็น เพราะกลัวว่าท่านจะรู้สึกไม่ดี แต่พอได้มาอยู่คนเดียวแบบนี้ความรู้สึกมากมายมันก็กลับเอ่อล้นออกมาอีกครั้ง
“ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น” มือบางเช็ดน้ำตาออกจากแก้มนุ่มนิ่มของตัวเองเบาๆ พร้อมกับสูดหายใจเขาลึกๆ อย่างน้อยตอนนี้อาการของคุณพ่อเธอก็ดีขึ้นบางแล้ว คุณยายเดือนถึงจะไม่ได้เจอหน้ากันมานานแต่ท่านก็ยังรักและเอ็นดูเธอเหมือนเดิม ส่วนเรื่องแต่งงานกับทิวาก็ให้คิดซะว่าดีกว่าได้ไปอยู่กับไอ้คุณนภพลอะไรนั่น อย่างน้อยเธอกับทิวาก็เคยรู้จักกันน่าจะยังพอตกลงกันได้อยู่
“15 ปีแล้วที่ไม่ได้กลับมาที่บ้านหลังนี้ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมเลยเนอะ” ร่างบางเดินสำรวจรอบๆ บ้านก่อนจะหยุดและเงยหน้ามองต้นฉำฉาต้นใหญ่อายุหลายสิบปี ต้นไม้ต้นเดิมที่เธอกับทิวาเคยปีนเล่นด้วยกันตั้งแต่เด็กๆ มือบางลูบลงที่ต้นไม้ตรงหน้าเบาๆ ก่อนจะยิ้มออกมาด้วยความรู้สึกคิดถึงเหตุการณ์ในวัยเด็กของตัวเอง รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะเหล่านั้นยังคงฉายภาพชัดเจนในหัวของเธอ
“คิดถึงแกจัง” ร่างบางบ่นพึมพำก่อนที่ดวงตางามจะเห็นร่างสูงที่ตัวเองมั่นใจว่าไม่เคยพบเขามาก่อนอย่างแน่นอนอยู่ไม่ไกล เขายื่นกอดอกพร้อมกับจ้องมองมาที่เธอด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดา
“คุณเป็นใคร และเข้ามาในของบ้านของฉันได้ยังไงคะ” จันทร์เจ้าเอ่ยถามร่างสูงตรงหน้าออกไปด้วยความสงสัย จากเหตุการณ์ในวันนั้นทำให้เธอเลือกที่จะยืนอยู่ในที่ของตัวเองซึ่งห่างจากร่างสูงตรงหน้าเกือบ 5 เมตร
“...” ร่างสูงเลือกที่จะไม่ตอบคำถามของร่างบางตรงหน้า แต่เขากลับเดินเข้าไปหาเธอแทน ร่างสูงชะงักไปทันทีที่เห็นท่าทางที่ดูตกใจของหญิงสาวตรงหน้าพร้อมกับขาเรียวขยับหนีเขาออกไปด้วยความหวาดกลัว
“ยะ อย่าเข้ามานะ”
“จำฉันไม่ได้รึไง” ทิวาเอ่ยถามร่างบางตรงหน้าออกไปด้วยความสงสัย ในขณะที่ใบหน้าหล่อเหลายังคงจ้องมองไปยังใบหน้าสวยหวานของจันทร์เจ้าอย่างไม่ยอมละไปไหน หัวใจของเขาที่เคยแข็งแกร่งราวกับหินผาในตอนนี้มันกลับมามีชีวิตอีกครั้ง เขาเคยไปอเมริกาและไปแอบดูเธอใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นบ่อยๆ แต่นี้เป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปีที่ได้อยู่ใกล้เธอแค่เอื้อมแบบนี้ เขาทั้งรู้สึกโหยหาและอยากจะเข้าไปดึงเธอมากอดไว้ให้แน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่เขาก็รู้ดีว่ามันยังไม่ใช่ตอนนี้...
“ทิวาเหรอ?” เสียงหวานๆ เอ่ยถามร่างสูงตรงหน้า ก่อนจะขยับเข้ามามองทิวาใกล้ๆ ร่างบางเดินวนรอบร่างสูงที่ยืนอยู่ไม่ไกลอย่างต้องการสำรวจเขา ภาพจำของเธอในวัยเด็กคือทิวาเป็นเด็กผู้ชายที่ตัวเล็กๆ พอๆ กับเธอ ถึงใบหน้าจะพอมีเค้าโครงเดิมอยู่บาง แต่ก็ไม่น่าจะเปลี่ยนไปเยอะขนาดนี้
“นายสูงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ไม่ผอมแห้งเหมือนแต่ก่อนแล้วด้วย”
“สำรวจพอยัง? อยากลูบอยากคลำด้วยไหมล่ะ?” ร่างสูงแกล้งถามร่างบางตรงหน้าออกไปอย่างกวนๆ พร้อมกับมองไปที่เธอด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ ถึงปากจะแกล้งพูดออกไปแบบนั้น แต่ในใจลึกๆ ก็หวังอยู่เหมือนกัน
“ไอ้ทิ...” จันทร์เจ้าเอ็ดร่างสูงตรงหน้าพร้อมกับแยกเขี้ยวใส่เขาทันทีด้วยความหมั่นไส้ ผู้ชายคนนี้คือพันทิวาตัวจริงเสียงจริงเลย ผู้ชายที่สามารถยั่วโมโหเธอได้ตลอดเวลาคนนั้น
“เรียกทำไมยัยหัวเน่า” ร่างสูงพูดขึ้นพร้อมกับยื่นกอดอกมองไปที่ร่างบางตรงหน้านิ่งๆ ก่อนที่ริมฝีปากหนาของเขาจะยกยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจที่ได้เจอกับจันทร์เจ้าคนเดิมที่เขาเคยเจอเมื่อ 15 ปีก่อน
“นั่นมันตอนเด็กๆ ตอนนี้หัวของฉันไม่ได้เน่าสักหน่อย ไม่เชื่อก็ลองดมดูสิ”
ฟอดดดด!!!
“ไอ้ทิ...”
จันทร์เจ้ามองไปยังร่างสูงตรงหน้าอย่างอึ้งๆ เธอแค่แกล้งพูดออกไปแบบนั้นไม่คิดว่าเขาจะทำมันจริงๆ ทิวาเองก็ดูตกใจอยู่ไม่น้อยที่ตัวเองปากไวเกินไปหน่อย
“ก็เธอบอกให้ฉันดม ฉันก็ดมแล้วนี่ไง” ร่างสูงพูดออกมานิ่งๆ ก่อนจะหันหน้าหนีไปทางอื่นเพื่อไม่ให้ร่างบางตรงหน้าเห็นว่าเขากำลังยิ้มอยู่
ตุบ!
“อะ โอ้ยยยย!!”
“สมน้ำหน้า” จันทร์เจ้าเตะขาของร่างสูงตรงหน้าอย่างแรง ก่อนจะรีบหันหลังเดินกลับมายังบ้านของตัวเองโดยไม่หันกลับไปสนใจร่างสูงที่กำลังเดินตามมาอีก
“หึหึ”
EPISODE 48 : ภาพวาดครอบครัวสุขสันต์ – THE END“When I look at you, I can feel it. I look at you and I’m home.”-Finding Nemo-(เวลาที่ฉันมองเธอ ฉันรู้สึกเหมือนฉันได้อยู่บ้าน)2 เดือนต่อมา...เอี๊ยดดดดดด~~รถยังไม่ทันที่รถหรูจะจอดสนิทดีชายหนุ่มเจ้าของไร่ก็รีบกระโดดลงจากรถจี๊ปของตัวเองทันที เขามีอาการเวียนหัว และก็คลื่นไส้อาเจียนแบบนี้มาตลอดหลายวันที่ผ่านมาคุณแม่ของเขาบอกว่าอาการพวกนี้เรียกว่า ‘แพ้ท้องแทนเมีย’ ถึงมันจะทรมานไปหน่อย แต่ก็ยังดีกว่าให้ภรรยาตัวน้อยของเขาเป็น...“อ้วกกกกกก!!”จันทร์เจ้าเดินออกมาดูสามีของเธอที่หน้าบ้านใหญ่ของไร่พันแสง ก่อนจะเห็นว่าชิตและชอบกำลังช่วยกันลูบหลังให้กับนายใหญ่ของพวกเขาอยู่ สองพี่น้องมองหน้ากันก่อนจะหัวเราออกมาเบาๆ เพื่อไม่ให้นายใหญ่ของเขาเห็น แต่มีเหรอที่จะรอดพ้นสายตาเหยี่ยวอย่างพันทิวาไปได้“ขำอะไรกันวะ...คนไม่มีเมียมีลูกไม่มีวันเข้าใจหรอกเว้ย...” ทิวาหันไปมองร่างสูงทั้งสองก่อนจะเอ่ยบอกกับพวกเขาออกไปเสียงเรียบ“ไปทำงานกันได้แล้ว ถ้ามีปัญหาอะไรก็โทรมา”“ครับนาย / ครับนาย”“พี่ทิไหวไหมคะ”“เฮ้ออออ!! ไหวครับแต่ทิขอยาดมหน่อย” จันทร์เจ้าประคองสามีของเ
EPISODE 47 : หนูไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว“Think of the one thing that you’ve always wanted. Now find it in your mind’s eye and feel it in your heart.”-Beauty And The Beast-(คิดถึงสิ่งหนึ่งที่เธอต้องการมาตลอด แล้วเธอจะเจอในความคิด และรู้สึกในหัวใจ)“จันทร์เจ้าฟังแม่นะลูก...หนูกำลังตั้งท้อง ตอนนี้หนูไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวแล้วนะลูก”จันทร์เจ้ามองไปรอบๆ ห้องก่อนจะเห็นว่าทุกคนกำลังมองมาที่เธอเป็นตาเดียว แต่คนที่เธออย่างให้เขารู้เรื่องนี้ไปพร้อมๆ กันกับเธอ เขากลับไม่ได้อยู่ตรงนี้กับเธอด้วย มือบางลูบลงที่หน้าท้องของตัวเองเบาๆ ก่อนน้ำตาของเธอจะไหลลงมาอาบแก้มขาวเนียนทั้งสองข้างเธอ“พี่ทิล่ะคะตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้าง?”“ทิพึ่งออกมาจากห้องผ่าตัดตอนนี้อยู่ในห้องไอซียู...”“ฮึกกกกก!! อะ อาการของเขา...” จันทร์เจ้าร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาอย่างหนัก จนวราลีต้องเข้ามาประคองใบหน้าของลูกสะใภ้เอาไว้อย่างทะนุถนอม ก่อนที่เธอจะเอ่ยบอกกับร่างบางตรงหน้าอีกครั้ง...“จันทร์เจ้าฟังแม่นะ ทิวาปลอดภัยแล้วลูกการผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี”“ใช่แล้วค่ะพี่จันทร์...คุณหมอบอกว่ายังไงก็ต้องอยู่ห้องไอซียูก่อนเพื่อรอดูผลหลังการผ่าตัด พี
EPISODE 46 : ฉันสูญเสียมากพอแล้ว“All we have to decide is what to do with the time that is given to us.”-Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring-(สิ่งที่เราต้องตัดสินใจก็คือ จะทำอะไรกับเวลาที่เรามีอยู่)ปึก! ปึก!!กระถินกับตองที่ช่วยกันแก้เชือกได้สำเร็จพอเห็นนายใหญ่ของพวกเธอส่งสัญญาณก็รีบกระโจนใส่คนตรงหน้าของตัวเองทันทีกระถินที่อยู่ใกล้กับนภพลมากกว่ารีบเข้ามาคว้าข้อมือของร่างสูงเอาไว้ก่อนจะผลักเขาไปตรงหน้า จันทร์เจ้าที่ได้จังหวะก็รีบดันตัวเองออกมาทันที โดยมีทิวาที่คอยรอรับร่างบางของเธออยู่ก่อนแล้ว“อีนี่...” นภพลตะคอกกระถินเสียงดังลั่นก่อนจะหันปืนไปทางร่างบาง แต่ก็ช้ากว่า...ปัง!!ทิวายิงเข้าที่แขนแกร่งของนภพลได้อย่างแม่นยำ ถึงจะไม่ใช่จุดสำคัญแต่ก็ทำให้ร่างสูงตรงหน้าเจ็บปวดจนร่างกายเสียการควบคุม ปืนของนภพลล่วงลงกับพื้นก่อนที่กระถินจะรีบเข้าไปเตะมันออกไปให้ไกลทันที ก่อนที่เธอจะวิ่งเข้าไปหลบอยู่หลังนายของตัวเองทันที“โอ้ยยยย!!!” ชิตรีบเข้าไปจับกุมคนร้ายเอาไว้ไม่ให้มันหนีไปไหนได้...“เจ็บตรงไหนไหมครับ” ทิวาเอ่ยถามร่างบางตรงหน้าออกมาด้วยความเป็นห่วง พร้อมกับประคองใบหน้าขาวเนียนข
EPISODE 45 : ย้อนแย้ง“Every thing that has a beginning has an end.”-The Matix Revolution-(ทุกสิ่งที่มีจุดเริ่มต้นย่อมมีจุดจบ)อีกด้าน...“รวยแล้วพวกเรา แม่งจ่ายหนักจริงว่ะ...” ชายหนุ่มที่ดูแล้วน่าจะมีอายุน้อยกว่าเพื่อนพูดขึ้นพร้อมกับมองเงินในมือของตัวเองไปด้วยอย่างภาคภูมิใจ“รถใครวะ?” ชายคนขับพูดขึ้นพร้อมกับมองไปยังรถหรูตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย หมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านร้างตลอดสองข้างทางก็มีแต่ป่ารกทึบ ถ้าไม่ตั้งใจขับเข้ามาก็ไม่น่าจะมีรถหลงเข้ามาที่นี่ได้ง่ายๆ“พวกมึงลงไปดู” ชายหัวหน้ากลุ่มหันไปบอกกับลูกน้องของเขาที่กำลังนั่งนับเงินอยู่ที่ด้านหลังเสียงเรียบ“ใครวะ?...มาจอดรถอยู่หน้าหมู่บ้านร้าง”“หรือว่าพวกมันจะมาซื้อบ้าน”เพียะ!!!“ไอ้เวรนี่พูดออกมาแต่ละอย่างผ่านสมองบ้างไหมวะ” ชายทั้งสามคนที่ถูกส่งลงมาดูลาดเลาเถียงกันไปมา ก่อนที่คิ้วหนาของชายหนุ่มทั้งคู่จะขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย รถหรูที่จอดขวางอยู่ตรงหน้าของพวกเขาไม่มีวี่แววของสิ่งมีชีวิตเลยแม้แต่คนเดียว“ไม่เห็นมีคนเลยวะพะ อื้ออออออ...”“อะ...”ชายหนุ่มทั้งสามคนยังไม่ทันได้เดินกลับไปรายงานลูกพี่ของพวกมัน ก็ถูกท
EPISODE 44 : ฆาตกรตัวจริง“You can’t live your life for other people. You’ve got to do what’s right for you, even if it hurts some people you love.”-The Notebook-(คุณจะใช้ชีวิตเพื่อคนอื่นไม่ได้หรอกนะ คุณต้องทำสิ่งที่ถูกต้องสำหรับตัวคุณเอง ถึงแม้ว่ามันจะทำให้คนที่คุณรักเจ็บปวดก็ตาม)อีกด้าน...รถตู้คันใหญ่ถูกขับไปตามถนนลูกรังที่ตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ถนนเส้นทางนี้ค่อนข้างเปลี่ยว เพราะก่อนหน้านี้ถนนเส้นนี้มักจะเกิดอุบัติเหตุและเคยมีคนร้ายดักปล้นทรัพย์สินของชาวบ้าน ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะใช้ถนนอีกเส้นที่ตัดผ่านแห่งชุมชนมากกว่าเอาชีวิตของตัวเองมาเสี่ยงกับถนนเส้นนี้“นายครับผมได้ตัวผู้หญิงมาแล้วครับ” ทันทีที่รถวิ่งออกมาจากเขตชุมชน หัวหน้าของกลุ่มชายฉกรรจ์ก็ต่อสายหานายจ้างของเขาทันที หลังจากที่คุยและตกลงเรื่องสถานที่เรียบร้อยแล้วร่างสูงจึงเก็บโทรศัพท์เครื่องเก่าของตัวเองลงไปในกระเป๋ากางตามเดิม“ลูกพี่เราจะจัดการยังไงกับอีสองคนนี้ดี”“นั่นสิ”“หรือเราจะทิ้งมันไว้ข้างทาง” ชายหนุ่มที่กำลังขับรถอยู่พูดขึ้นพร้อมกับมองไปที่ร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆ อย่างรอฟังคำตอบ“ไอ้ควาย! ถ้า
EPISODE 43 : จะพาน้องกลับมาหาทุกคน“You stay alive, no matter what occurs! I will find you. No matter how long it takes, no matter how far, I will find you.”-The Last Of The Mohicans-(เธอต้องรอดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันจะหาเธอให้พบ ไม่ว่าจะนานหรือไกลขนาดไหน ฉันจะหาเธอให้เจอ)“ตรงนี้ก็ได้กระถิน” จันทร์เจ้าเอ่ยบอกกับเด็กสาวที่เดินอยู่ข้างๆ ก่อนที่ทั้งคู่จะวางแก้วในมือลงโต๊ะม้าหินอ่อนซึ่งอยู่ไม่ไกลจากต้นโพธิ์ต้นใหญ่เท่าไหร่นัก“คุณมิลค์ คุณปีใหม่” จันทร์เจ้าเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะเห็นหญิงสาวทั้งสองคนกำลังเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเธอ ในมือของมิลค์ถือแก้วน้ำแบบเดียวกันกับเธอนั่นหมายความว่า ‘มาทำบุญกันงั้นเหรอ’ จันทร์เจ้าได้แต่คิดแล้วก็สงสัยก่อนจะส่งยิ้มบางๆ ไปให้กับพวกเธอ“มาทำบุญกันเหรอ” จันทร์เจ้าเอ่ยถามร่างบางตรงหน้าออกไป ถึงก่อนหน้านี้เธอทั้งคู่จะไม่ค่อยลงรอยกันสักเท่าไหร่ก็ตาม“อืม...ที่นี่วัดแกคงไม่คิดว่าฉันจะมาซื้อของใช่ไหม?”“หึหึ” จันทร์เจ้าหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนที่เธอจะชะงักไปเล็กน้อยที่เห็นสายตาของหญิงสาวอีกคนที่มองมาที่เธออย่างเอาเรื่อง จันทร์เจ้าเองก็มองเธอกลับไปแบบเดียวกัน ก่อนที่