“If you look for it, I’ve got a sneaky feeling you’ll find that love actually is all around.”
-Love Actually-
(ถ้าเธอกำลังตามหามันอยู่ล่ะก็ ฉันมีความรู้สึกซ่อนอยู่ เธอจะพบว่าจริงๆ แล้วความรักก็อยู่รอบตัวเรา)
“อ้าวตาทิมาถึงนานแล้วเหรอ แม่ไม่เห็นรถของลูกเลย” วราลีเอ่ยถามลูกชายที่กำลังเดินตามว่าที่ลูกสะใภ้มาด้วยความสงสัย
“ทิจอดรถไว้ที่บ้านแล้วเดินมาน่ะครับ”
“อ่อ แม่ก็ลืมไปว่าบ้านทิอยู่ใกล้ๆ นี่เอง”
“ใกล้ๆ เหรอคะ?” จันทร์เจ้าเอ่ยถามวราลีออกไปด้วยความสงสัย ก่อนจะหันกลับไปมองทิวาที่เดินมาหยุดอยู่ที่ด้านหลังของเธอ
“ใช่ลูก บ้านตาทิอยู่ข้างๆ นี้เอง ตอนเย็นๆ ก็ชอบมานั่งคุยเป็นเพื่อนคนแก่ ยายดีใจนะที่หลานของยายทั้งสองคนจะแต่งงานกัน เผื่อยายจะอยู่ทันอุ้มเหลนกับเขาบ้าง” ยายเดือนตอบคำถามของหลานสาวแทน พร้อมกับเดินเข้าไปลูบหัวของจันทร์เจ้าอย่างเอ็นดู ก่อนที่มือเหี่ยวย่นของท่านจะลูบลงที่มือบางของหลานสาว พร้อมกับจับมือหนาของว่าที่หลานเขยมากุมเอาไว้ด้วยกัน
“ยายฝากจันทร์ด้วยนะทิ น้องอาจจะดื้อไปบ้างยังไงก็ค่อยๆ คุยกันนะลูก”
“ครับ”
“จันทร์เจ้าหลานก็เหมือนกันไม่ว่าอดีตจะเป็นยังไงก็ปล่อยมันไว้ตรงนั้นเถอะนะ แล้วมาเริ่มต้นใหม่ด้วยกันที่นี่ที่บ้านของเรา”
“ค่ะยาย” ร่างบางตอบรับคำของคุณยายของเธอก่อนจะสวมกอดหญิงชราตรงหน้าเอาไว้
“เราเข้าไปคุยกันข้างในดีกว่านะครับ” พันแสงเอ่ยบอกกับทุกคนด้วยความเป็นห่วง ท้องฟ้าที่มืดครึ้มพร้อมกับเสียงฟ้าร้องที่ดังมาแต่ไกลอีกไม่นานฝนคงตกลงมาอย่างแน่นอน
“อย่างที่ลูกๆ รู้พวกเราไปหาฤกษ์งานแต่งกัน และฤกษ์ที่ไวที่สุดและดีที่สุดสำหรับลูกทั้งสองคนก็คืออีก 1 อาทิตย์ข้างหน้า” สุพรรษาเอ่ยบอกกับลูกสาวและว่าที่ลูกเขยที่นั่งอยู่ตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความยินดี
“1 อาทิตย์เหรอคะ”
“ช้าไปเหรอ ถ้างั้นเราแต่งงานกันวันพรุ่งนี้ได้เลยนะ...ฉันไม่ติด” ทิวาขยับเข้ามาใกล้จันทร์เจ้าพร้อมกระซิบบอกกับเธอเบาๆ เพื่อให้ได้ยินกันเพียงสองคน ก่อนจะทำหน้าทะเล้นใส่ร่างบางตรงหน้า
“นายอยากโดนเตะอีกรึไง”
“ถ้าเธอเตะฉันอีกฉันเอาคืนแน่”
“นายจะทำอะไรฉันได้” ร่างบางเอ่ยบอกกับร่างสูงตรงหน้าอย่างกับคนที่ถือไพ่เหนือกว่า ถึงจะไม่ได้เจอกันนานแต่จันทร์เจ้าก็รู้ดีว่าทิวาไม่มีทางทำร้ายเธออย่างแน่นอน ตั้งแต่เด็กเวลาเธอมีปัญหากับเพื่อนผู้ชายในห้องก็มีแต่ทิวาซึ่งเป็นรุ่นพี่ของเธอในขณะนั้นคอยช่วยเหลือเธออยู่เสมอ
“เตะเธอคืนไงยัยหัวเน่า”
“ก็บอกแล้วไงว่าหัวฉันไม่ได้เน่า”
“เออว่ะ ไม่เน่าแล้วจริงๆ” ทิวาส่งยิ้มยียวนไปให้กับร่างบางตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยบอกกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดูสดใสผิดปกติ การแสดงออกของทิวายิ่งทำให้ร่างบางที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาอดหมั่นเขี้ยวไม่ได้...
“ไอ้บ้าทิ...”
ทั้งสองคนกำลังจะตีกันก่อนจะชะงักไปเล็กน้อยที่เห็นว่าสายตาของทุกๆ คนกำลังมองมาที่พวกเขาเป็นตาเดียว ก่อนที่จันทร์เจ้าจะขยับออกจากทิวาทันที
“ฮ่าฮ่าฮ่า ตีกันแบบนี้สงสัยยายจะได้เหลนหัวปีท้ายปี รีบตามหนูดาวไปเลยนะทิวา” ยายเดือนหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ จะมีก็แต่จันทร์เจ้าที่เอาแต่สงสัยในสิ่งที่คุณยายของเธอพึ่งพูดออกมา
“ดาว น้องพันดาวนะเหรอคะ” จันทร์เจ้าเอ่ยถามขึ้นก่อนจะมองไปยังผู้ใหญ่ตรงหน้าอย่างรอคำตอบ พันดาวอายุน้อยกว่าจันทร์เจ้า 1 ปี ทั้งสามเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะแต่งงานไปก่อนแล้ว
“ใช่ลูก...น้องพึ่งคลอดลูกคนแรกไปเมื่อ 2 เดือนที่แล้วเอง” วราลีเป็นคนตอบคำถามนี้แทนทุกคน ก่อนที่มือบางของเธอจะลูบลงที่หัวของจันทร์เจ้าอย่างเอ็นดู
“ดาวอยู่ที่บ้านเหรอคะ? จันทร์ขอไปหาน้องได้ไหมคะ?” ใบหน้าสวยหวานยกยิ้มออกมาด้วยความยินดี ก่อนจะเอ่ยถามผู้ใหญ่ตรงหน้าออกไปด้วยน้ำเสียงสดใส
“เรื่องนั้นต้องให้ตาทิเป็นคนพาไปแล้วล่ะ น้องได้สามีเป็นคนญี่ปุ่นน่ะลูก วันแต่งของหนูน้องก็น่าจะมาไม่ได้เพราะพึ่งคลอดลูก”
“หนูอยากเห็นเจ้าตัวน้อยจังเลยค่ะคุณป้า ต้องน่ารักเหมือนน้องดาวแน่ๆ เลย”
“น้องเป็นผู้ชายจ้ะลูก” วราลีเปิดรูปหลานชายคนแรกให้กับจันทร์ดู ก่อนที่ร่างบางฉันยิ้มหวานออกมาด้วยความเอ็นดูเด็กน้อยที่อยู่ในรูปตรงหน้าของเธอ
“น่ารักจัง หล่อแต่เด็กเลยนะคะ”
“หล่อเหมือนพ่อเขา ยายเห็นครั้งแรกยังตะลึงในความหล่อของพ่อหนุ่มคนนั้นเลย” ยายเดือนเอ่ยบอกกับหลายสาวด้วยน้ำเสียงที่ดูสดใสผิดปกติ จนทำให้จันทร์เจ้าอดยิ้มหวานตามไม่ได้จริงๆ
“ยายครับไหนยายว่าทิหล่อที่สุดไงครับ ทิน้อยใจนะเนี่ยคุณยายเห็นคนอื่นหล่อกว่าหลานเขยตัวเองได้ยังไงครับ” ทิวาเอ่ยถามหญิงชราตรงหน้าอย่างงอนๆ ก่อนจะซบหน้าลงกับมือเหี่ยวย่นของท่านอย่างออดอ้อน
“โอ้ๆๆ หลานเขยของยายหล่อที่สุด”
“ตาทิลูกโตจนจะมีเมียอยู่แล้วนะ ยังเล่นเป็นเด็กๆ อีก” วราลีเอ็ดลูกชายของตัวเองเบาๆ อย่างไม่ได้จริงจังมากนัก
“เอาเป็นว่าทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมแม่จะจัดการเรื่องทุกอย่างให้เอง พรุ่งนี้ทิพาน้องไปรองชุดที่ร้านด้วยนะครับ แม่จองคิวไว้ให้เรียบร้อยแล้ว” วราลีเอ่ยบอกกับลูกชาย ก่อนจะมองไปบ่าวสาวอย่างกรุ่มกริ่มราวกับว่าเธอกำลังมีแผนการอะไรอยู่ในใจ
“ครับแม่” ร่างสูงมองไปยังแม่ของตัวเองด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย ‘หรือว่างานแต่งเล็กๆ ที่ท่านเคยพูดก่อนหน้านี้ หึหึ แบบนี้เข้าทางเลยน่ะสิ’
...
วันต่อมา...
“มองอะไรของเธอยัยหัวเน่า” เสียงทิวาเอ่ยถามร่างบางที่นั่งมองสองข้างทางที่เขาขับรถผ่านด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ร่างสูงยกยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจก่อนจะหันกลับไปยังถนนเบื้องหน้าของเขาต่อ
“ที่นี่เปลี่ยนไปเยอะเลย...” ร่างบางตอบร่างสูงที่กำลังขับรถอยู่ข้างๆ เธอ ก่อนจะหันกลับไปมองเขาตาขวาง ‘คำก็หัวเน่าสองคำก็หัวเน่า’
“15 ปีแล้วที่เธอไม่ได้กลับมาที่นี่ ทุกอย่างก็ต้องเปลี่ยนไปตามการเวลา แต่...” พันทิวาชะงักไปเล็กน้อยที่ตัวเองกำลังจะหลุดพูดอะไรออกมา
“แต่อะไร?”
“ป่าว! ไม่มีอะไร”
“อะไรของหมอนี่” จันทร์เจ้าบ่นพึมพำก่อนจะหันกลับไปสนใจทางตรงหน้าของเธอต่อ
“เรื่องของพ่อเธอฉันเสียใจด้วยนะ ฉันจะพาเธอไปเยี่ยมพ่อก่อนแล้วค่อยไปรองชุดดีไหม” ร่างสูงพูดขึ้นในขณะที่สายตาของเขายังคงมองไปยังเส้นทางตรงหน้า
“อืม ขอบคุณนายมากนะ” จันทร์เจ้าตอบร่างสูงกลับไปเสียงอ่อนก่อนจะเหม่อมองออกไปที่นอกหน้าต่างอีกครั้ง จากการช่วยเหลือของพันแสงทำให้คุณพ่อของจันทร์เจ้าได้มารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลที่ดีที่สุดประจำจังหวัดแบบนี้
ถ้าเป็นไปได้เธออยากจะมาเยี่ยมคุณพ่อของเธอทุกวันเลย แต่ก็คงเป็นไปได้ยากเนื่องจากบ้านกับโรงพยาบาลอยู่ห่างกันเกือบ 30 กิโลเมตร ถึงเส้นทางมันจะคดเคี้ยวแต่ก็ยังไม่ใช่ปัญหาเท่ากับที่เธอไม่มีรถที่สามารถขับมาหาพ่อของเธอได้ ทรัพย์สินของครอบครัวเธอโดนยึดไปทั้งหมด ก่อนจะย้ายมาอยู่ที่นี่จันทร์เจ้าเองก็ใช้เงินเก็บที่เธอมีใช้หนี้ส่วนที่เหลือไปหมดแล้วเช่นกัน ถึงจะไม่มีหนี้ แต่เธอก็แทบจะไม่เหลือเงินติดตัวเลยด้วยซ้ำในตอนนี้
-โรงพยาบาล-
“อ้าวตาทิ...”
“คุณอาสวัสดีครับ คุณอาสบายดีนะครับ” ทิวาทักทายอาหมอของเขาอย่างไปกันเอง
“อาสบายดีลูกเมื่อวานเจอแสงกับลี พวกเขาบอกว่าหลานจะแต่งงาน” ร่างสูงในชุดกาวน์เอ่ยถามทิวาออกมาพร้อมกับใบหน้าที่แต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความยินดี ก่อนที่เขาจะมองไปยังร่างบางที่ยื่นอยู่ข้างๆ หลานชายพร้อมกับส่งยิ้มไปให้กับเธอ
“นี่จันทร์เจ้าว่าที่เจ้าสาวของทิครับ”
“สวัสดีค่ะ”
“ส่วนนี้อาหมอกิตเป็นเพื่อนของคุณพ่อและยังเป็นหมอเจ้าของไข้ของพ่อเธอด้วย” ทิวาแนะนำชายตรงหน้าให้กับร่างบางว่าที่เจ้าของเขาได้รู้จัก
“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ วันนี้พ่อของหนูอาการเป็นยังไงบ้างเหรอคะ”
“อาการยังทรงตัวอยู่ครับ ในตอนนี้ยังไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง”
“หนูเข้าไปเยี่ยมคุณพ่อได้ไหมคะ” ร่างบางเอ่ยถามร่างสูงตรงหน้าออกไป พร้อมกับสายตาของเธอจ้องมองไปยังชายที่เธอรักที่สุดที่ยังคงหลับไหลไม่ได้สติอยู่ในห้องกระจกตรงหน้าของเธอ
“ตอนนี้ยังไม่ได้ แต่ถ้าอนุญาตให้เข้าเยี่ยมเมื่อไหร่อาจะรีบบอกนะ”
“ขอบคุณมากนะคะ”
EPISODE 48 : ภาพวาดครอบครัวสุขสันต์ – THE END“When I look at you, I can feel it. I look at you and I’m home.”-Finding Nemo-(เวลาที่ฉันมองเธอ ฉันรู้สึกเหมือนฉันได้อยู่บ้าน)2 เดือนต่อมา...เอี๊ยดดดดดด~~รถยังไม่ทันที่รถหรูจะจอดสนิทดีชายหนุ่มเจ้าของไร่ก็รีบกระโดดลงจากรถจี๊ปของตัวเองทันที เขามีอาการเวียนหัว และก็คลื่นไส้อาเจียนแบบนี้มาตลอดหลายวันที่ผ่านมาคุณแม่ของเขาบอกว่าอาการพวกนี้เรียกว่า ‘แพ้ท้องแทนเมีย’ ถึงมันจะทรมานไปหน่อย แต่ก็ยังดีกว่าให้ภรรยาตัวน้อยของเขาเป็น...“อ้วกกกกกก!!”จันทร์เจ้าเดินออกมาดูสามีของเธอที่หน้าบ้านใหญ่ของไร่พันแสง ก่อนจะเห็นว่าชิตและชอบกำลังช่วยกันลูบหลังให้กับนายใหญ่ของพวกเขาอยู่ สองพี่น้องมองหน้ากันก่อนจะหัวเราออกมาเบาๆ เพื่อไม่ให้นายใหญ่ของเขาเห็น แต่มีเหรอที่จะรอดพ้นสายตาเหยี่ยวอย่างพันทิวาไปได้“ขำอะไรกันวะ...คนไม่มีเมียมีลูกไม่มีวันเข้าใจหรอกเว้ย...” ทิวาหันไปมองร่างสูงทั้งสองก่อนจะเอ่ยบอกกับพวกเขาออกไปเสียงเรียบ“ไปทำงานกันได้แล้ว ถ้ามีปัญหาอะไรก็โทรมา”“ครับนาย / ครับนาย”“พี่ทิไหวไหมคะ”“เฮ้ออออ!! ไหวครับแต่ทิขอยาดมหน่อย” จันทร์เจ้าประคองสามีของเ
EPISODE 47 : หนูไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว“Think of the one thing that you’ve always wanted. Now find it in your mind’s eye and feel it in your heart.”-Beauty And The Beast-(คิดถึงสิ่งหนึ่งที่เธอต้องการมาตลอด แล้วเธอจะเจอในความคิด และรู้สึกในหัวใจ)“จันทร์เจ้าฟังแม่นะลูก...หนูกำลังตั้งท้อง ตอนนี้หนูไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวแล้วนะลูก”จันทร์เจ้ามองไปรอบๆ ห้องก่อนจะเห็นว่าทุกคนกำลังมองมาที่เธอเป็นตาเดียว แต่คนที่เธออย่างให้เขารู้เรื่องนี้ไปพร้อมๆ กันกับเธอ เขากลับไม่ได้อยู่ตรงนี้กับเธอด้วย มือบางลูบลงที่หน้าท้องของตัวเองเบาๆ ก่อนน้ำตาของเธอจะไหลลงมาอาบแก้มขาวเนียนทั้งสองข้างเธอ“พี่ทิล่ะคะตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้าง?”“ทิพึ่งออกมาจากห้องผ่าตัดตอนนี้อยู่ในห้องไอซียู...”“ฮึกกกกก!! อะ อาการของเขา...” จันทร์เจ้าร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาอย่างหนัก จนวราลีต้องเข้ามาประคองใบหน้าของลูกสะใภ้เอาไว้อย่างทะนุถนอม ก่อนที่เธอจะเอ่ยบอกกับร่างบางตรงหน้าอีกครั้ง...“จันทร์เจ้าฟังแม่นะ ทิวาปลอดภัยแล้วลูกการผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี”“ใช่แล้วค่ะพี่จันทร์...คุณหมอบอกว่ายังไงก็ต้องอยู่ห้องไอซียูก่อนเพื่อรอดูผลหลังการผ่าตัด พี
EPISODE 46 : ฉันสูญเสียมากพอแล้ว“All we have to decide is what to do with the time that is given to us.”-Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring-(สิ่งที่เราต้องตัดสินใจก็คือ จะทำอะไรกับเวลาที่เรามีอยู่)ปึก! ปึก!!กระถินกับตองที่ช่วยกันแก้เชือกได้สำเร็จพอเห็นนายใหญ่ของพวกเธอส่งสัญญาณก็รีบกระโจนใส่คนตรงหน้าของตัวเองทันทีกระถินที่อยู่ใกล้กับนภพลมากกว่ารีบเข้ามาคว้าข้อมือของร่างสูงเอาไว้ก่อนจะผลักเขาไปตรงหน้า จันทร์เจ้าที่ได้จังหวะก็รีบดันตัวเองออกมาทันที โดยมีทิวาที่คอยรอรับร่างบางของเธออยู่ก่อนแล้ว“อีนี่...” นภพลตะคอกกระถินเสียงดังลั่นก่อนจะหันปืนไปทางร่างบาง แต่ก็ช้ากว่า...ปัง!!ทิวายิงเข้าที่แขนแกร่งของนภพลได้อย่างแม่นยำ ถึงจะไม่ใช่จุดสำคัญแต่ก็ทำให้ร่างสูงตรงหน้าเจ็บปวดจนร่างกายเสียการควบคุม ปืนของนภพลล่วงลงกับพื้นก่อนที่กระถินจะรีบเข้าไปเตะมันออกไปให้ไกลทันที ก่อนที่เธอจะวิ่งเข้าไปหลบอยู่หลังนายของตัวเองทันที“โอ้ยยยย!!!” ชิตรีบเข้าไปจับกุมคนร้ายเอาไว้ไม่ให้มันหนีไปไหนได้...“เจ็บตรงไหนไหมครับ” ทิวาเอ่ยถามร่างบางตรงหน้าออกมาด้วยความเป็นห่วง พร้อมกับประคองใบหน้าขาวเนียนข
EPISODE 45 : ย้อนแย้ง“Every thing that has a beginning has an end.”-The Matix Revolution-(ทุกสิ่งที่มีจุดเริ่มต้นย่อมมีจุดจบ)อีกด้าน...“รวยแล้วพวกเรา แม่งจ่ายหนักจริงว่ะ...” ชายหนุ่มที่ดูแล้วน่าจะมีอายุน้อยกว่าเพื่อนพูดขึ้นพร้อมกับมองเงินในมือของตัวเองไปด้วยอย่างภาคภูมิใจ“รถใครวะ?” ชายคนขับพูดขึ้นพร้อมกับมองไปยังรถหรูตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย หมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านร้างตลอดสองข้างทางก็มีแต่ป่ารกทึบ ถ้าไม่ตั้งใจขับเข้ามาก็ไม่น่าจะมีรถหลงเข้ามาที่นี่ได้ง่ายๆ“พวกมึงลงไปดู” ชายหัวหน้ากลุ่มหันไปบอกกับลูกน้องของเขาที่กำลังนั่งนับเงินอยู่ที่ด้านหลังเสียงเรียบ“ใครวะ?...มาจอดรถอยู่หน้าหมู่บ้านร้าง”“หรือว่าพวกมันจะมาซื้อบ้าน”เพียะ!!!“ไอ้เวรนี่พูดออกมาแต่ละอย่างผ่านสมองบ้างไหมวะ” ชายทั้งสามคนที่ถูกส่งลงมาดูลาดเลาเถียงกันไปมา ก่อนที่คิ้วหนาของชายหนุ่มทั้งคู่จะขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย รถหรูที่จอดขวางอยู่ตรงหน้าของพวกเขาไม่มีวี่แววของสิ่งมีชีวิตเลยแม้แต่คนเดียว“ไม่เห็นมีคนเลยวะพะ อื้ออออออ...”“อะ...”ชายหนุ่มทั้งสามคนยังไม่ทันได้เดินกลับไปรายงานลูกพี่ของพวกมัน ก็ถูกท
EPISODE 44 : ฆาตกรตัวจริง“You can’t live your life for other people. You’ve got to do what’s right for you, even if it hurts some people you love.”-The Notebook-(คุณจะใช้ชีวิตเพื่อคนอื่นไม่ได้หรอกนะ คุณต้องทำสิ่งที่ถูกต้องสำหรับตัวคุณเอง ถึงแม้ว่ามันจะทำให้คนที่คุณรักเจ็บปวดก็ตาม)อีกด้าน...รถตู้คันใหญ่ถูกขับไปตามถนนลูกรังที่ตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ถนนเส้นทางนี้ค่อนข้างเปลี่ยว เพราะก่อนหน้านี้ถนนเส้นนี้มักจะเกิดอุบัติเหตุและเคยมีคนร้ายดักปล้นทรัพย์สินของชาวบ้าน ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะใช้ถนนอีกเส้นที่ตัดผ่านแห่งชุมชนมากกว่าเอาชีวิตของตัวเองมาเสี่ยงกับถนนเส้นนี้“นายครับผมได้ตัวผู้หญิงมาแล้วครับ” ทันทีที่รถวิ่งออกมาจากเขตชุมชน หัวหน้าของกลุ่มชายฉกรรจ์ก็ต่อสายหานายจ้างของเขาทันที หลังจากที่คุยและตกลงเรื่องสถานที่เรียบร้อยแล้วร่างสูงจึงเก็บโทรศัพท์เครื่องเก่าของตัวเองลงไปในกระเป๋ากางตามเดิม“ลูกพี่เราจะจัดการยังไงกับอีสองคนนี้ดี”“นั่นสิ”“หรือเราจะทิ้งมันไว้ข้างทาง” ชายหนุ่มที่กำลังขับรถอยู่พูดขึ้นพร้อมกับมองไปที่ร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆ อย่างรอฟังคำตอบ“ไอ้ควาย! ถ้า
EPISODE 43 : จะพาน้องกลับมาหาทุกคน“You stay alive, no matter what occurs! I will find you. No matter how long it takes, no matter how far, I will find you.”-The Last Of The Mohicans-(เธอต้องรอดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันจะหาเธอให้พบ ไม่ว่าจะนานหรือไกลขนาดไหน ฉันจะหาเธอให้เจอ)“ตรงนี้ก็ได้กระถิน” จันทร์เจ้าเอ่ยบอกกับเด็กสาวที่เดินอยู่ข้างๆ ก่อนที่ทั้งคู่จะวางแก้วในมือลงโต๊ะม้าหินอ่อนซึ่งอยู่ไม่ไกลจากต้นโพธิ์ต้นใหญ่เท่าไหร่นัก“คุณมิลค์ คุณปีใหม่” จันทร์เจ้าเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะเห็นหญิงสาวทั้งสองคนกำลังเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเธอ ในมือของมิลค์ถือแก้วน้ำแบบเดียวกันกับเธอนั่นหมายความว่า ‘มาทำบุญกันงั้นเหรอ’ จันทร์เจ้าได้แต่คิดแล้วก็สงสัยก่อนจะส่งยิ้มบางๆ ไปให้กับพวกเธอ“มาทำบุญกันเหรอ” จันทร์เจ้าเอ่ยถามร่างบางตรงหน้าออกไป ถึงก่อนหน้านี้เธอทั้งคู่จะไม่ค่อยลงรอยกันสักเท่าไหร่ก็ตาม“อืม...ที่นี่วัดแกคงไม่คิดว่าฉันจะมาซื้อของใช่ไหม?”“หึหึ” จันทร์เจ้าหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนที่เธอจะชะงักไปเล็กน้อยที่เห็นสายตาของหญิงสาวอีกคนที่มองมาที่เธออย่างเอาเรื่อง จันทร์เจ้าเองก็มองเธอกลับไปแบบเดียวกัน ก่อนที่