Share

บทที่ 997

Author: เฉิงกวงโฮ่วถู่
ประเทศหลงเถิง ณ สถานที่เล็ก ๆ ที่ไม่มีใครรู้จัก

ที่นี่มีบ้านไม้เรียงรายเป็นแถว

ทุ่งดอกคาโนล่าบานสะพรั่งไปทั่วภูเขา และมีเหล่าสัตว์เล็กสัตว์น้อยที่กำลังหาอาหารอย่างสบายใจ บรรยากาศดูเหมือนแดนสวรรค์ที่ถูกซ่อนเร้นจากโลกภายนอก

“แอ๊ดดด!”

ประตูของหนึ่งในบ้านไม้ถูกเปิดออก หญิงสาวผู้มีความงดงามเกินคำบรรยายก้าวออกมา

เธอสวมชุดกระโปรงยาวสีแดงสด ประดับลวดลายของหงษ์เพลิงที่กำลังกระพือปีก เตรียมทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า

ใบหน้าของเธอไร้เครื่องสำอาง แต่กลับงามสะกดสายตาจนผู้คนต้องตกตะลึง

ในขณะที่เธอปรากฏตัว เหล่าสัตว์เล็กและทุ่งดอกคาโนล่าทั่วทั้งภูเขาราวกับกำลังยิ้มรับการมาของเธอ

หญิงสาวคนนี้ แน่นอนว่าเธอคือหยางชิงเสวี่ย

นับตั้งแต่ที่เธอจากเย่ซิวมาครั้งล่าสุด เธอก็มาอยู่ที่สถานที่เล็ก ๆ ที่ไร้ผู้คนแห่งนี้

พลังของเธอเปลี่ยนแปลงไปอย่างก้าวกระโดด

ตู้ม!

เสาแสงพลังงานสีเลือดพุ่งทะลุจากกลางกระหม่อมของเธอ

พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ปั่นป่วนเมฆหมอกจนเกิดเป็นคลื่นพายุขนาดใหญ่

ภายในเสาแสงนั้น มีทารกตัวเล็กขนาดเท่าฝ่ามือลอยขึ้นลง

ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง หน้าตา หรือสีหน้าของทารกคนนี้ ล้วนเหมือนหยางชิงเสวี่ยทุกประการ

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 998

    หยางชิงเสวี่ยไม่มีแววอารมณ์ใด ๆ ในนัยน์ตา เธอหมุนตัวเดินไปทางด้านหลังของบ้าน ชายหนุ่มบินไปด้วยความเร็วสูง ด้วยโทสะที่พลุ่งพล่าน เส้นเลือดบนใบหน้าของเขาปูดขึ้น ทำให้ดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก "นางสารเลว! ฉันยังไม่รังเกียจที่เธอเคยผ่านมือผู้ชายคนอื่นมาก่อนเลย แต่เธอกล้าปฏิเสธฉันงั้นเหรอ!? รอให้ฉันแข็งแกร่งกว่านี้ก่อนเถอะ ฉันจะทำให้เธอทรมานจนอยากตายแต่ก็ตายไม่ได้เลยคอยดูส่วนไอ้เย่ซิว ฉันจะเอาร่างของแกมาเป็นหุ่นเชิด และจองจำวิญญาณของแกไว้ชั่วนิรันดร์เผาแกด้วยไฟโลกันตร์ตลอดทั้งวันทั้งคืน จนกว่าความแค้นในใจฉันจะมอดลง!" ...…เวลาหนึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็วภายในช่วงเวลานี้ สำนักโอสถเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ก่อนอื่นพื้นที่ของสำนักขยายใหญ่ขึ้นกว่าสิบเท่า ประเทศโดยรอบทั้งหมดถูกผนวกเข้าเป็นดินแดนของสำนักโอสถ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปจะไม่มีประเทศปิงจือหรือประเทศสุ่ยจืออีกต่อไป จะมีเพียงสำนักโอสถเท่านั้น นอกจากนี้ การพัฒนาภายในสำนักก็รวดเร็วราวกับติดจรวด ตึกสูงระฟ้าผุดขึ้นอย่างต่อเนื่องถนนสายกว้างขวางทอดยาวไปทั่วทุกแห่ง ราวกับมังกรยักษ์แผ่ขยายทั่วทั้งดินแดนของสำนักโอสถ โ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 999

    เย่ซิวเห็นแสงหนึ่งพุ่งตรงมาด้วยความเร็วสูงภายในแสงนั้นคือชายหนุ่มที่มีบุคลิกโดดเด่น แต่ในตอนนี้ใบหน้าของเขากลับเต็มไปด้วยจิตสังหารเย่ซิวขยับตัวเพียงครั้งเดียว ก็พุ่งขึ้นไปกลางอากาศ ขวางทางชายหนุ่มคนนั้นไว้ พร้อมกล่าวอย่างเรียบเฉย "นายเป็นใคร?""เย่ซิว!" ชายหนุ่มจ้องมองเย่ซิวด้วยสายตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ราวกับว่าเย่ซิวเคยทำเรื่องเลวร้ายกับเขามาก่อน "ตายซะเถอะ!"เขาไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย รีบลงมือทันทีนิ้วชี้และนิ้วกลางของมือขวาแนบชิดกัน แล้ววาดอักขระลงบนอากาศอย่างรวดเร็ว "อักขระสะกดพลัง จงปราบ!"ทันใดนั้นอักขระที่เปล่งแสงก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศก่อนจะกลายเป็นภูเขาลูกใหญ่ พุ่งลงมากดทับเย่ซิวอย่างรุนแรงตู้ม!เย่ซิวซัดหมัดเดียวก็ทำลายภูเขาลูกนั้นจนแหลกเป็นเสี่ยง ๆ เขารู้สึกเจ็บแปลบที่หมัดเล็กน้อย ทำให้ต้องหันไปมองชายหนุ่มคนนั้นด้วยความแปลกใจอีกฝ่ายมีพลังเพียงแค่จินตานขั้นต้นเท่านั้น แต่กลับสามารถทำให้เขารู้สึกเจ็บได้ นับว่าน่าประทับใจไม่น้อยสถานที่นี้ไม่เหมาะกับการต่อสู้ เย่ซิวจึงหันหลังแล้วพูดขึ้น "ถ้ามีเรื่องอะไรค้างคาใจ เราไปสะสางกันที่ที่ไม่มีคนดีกว่า"ชายหนุ่มรีบไล่ตา

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1000

    ร่างแยกของชายหนุ่มกลายเป็นช้างยักษ์ ภูเขาไฟ และมังกรทอง พุ่งเข้าใส่เย่ซิวอย่างดุดันพลังทำลายล้างรุนแรง เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งการทำลายล้างราวกับแผ่นดินแยก ภูเขาถล่มเย่ซิวเริ่มจริงจังขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะยกมือขึ้นประกบเป็นวิชามือตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!อสนีบาตสีม่วงสามสายปรากฏขึ้นกลางอากาศ และฟาดลงมาอย่างรุนแรงสัตว์อสูรทั้งสามที่ชายหนุ่มปล่อยออกมา ถูกทำลายลงทันทีชายหนุ่มมีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที “วิชาอสนีบาตเก้าชั้นฟ้า! นายได้มันมาจากที่ไหน!?”เย่ซิวยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวอย่างใจเย็น “นายควรห่วงความปลอดภัยของตัวเองก่อนจะดีกว่า”หลังจากพูดจบ สายฟ้านับไม่ถ้วนก็พุ่งลงมาโจมตีชายหนุ่มชายหนุ่มหน้าซีดเผือด รีบใช้ทุกวิชาที่มีเพื่อหลบหนีแต่วิชาอสนีบาตเก้าชั้นฟ้าทรงพลังเพียงใดกันเมื่อมันถูกใช้ออกมาโดยยอดฝีมืออย่างเย่ซิว พลังที่ระเบิดออกมานั้นน่าสะพรึงกลัวอย่างหาที่สุดมิได้ชายหนุ่มสามารถหลบการโจมตีได้เพียงไม่กี่สาย ก่อนจะถูกสายฟ้าฟาดเข้าเต็ม ๆแต่โชคดีที่เขาพกสมบัติเวทมนตร์บางอย่างติดตัวมาในช่วงเวลาวิกฤติ มันกางม่านพลังโปร่งแสงออกมาป้องกันพลังทำลายทั้งหมดถึงแม้จะรอดจากการบาดเจ็บ แต่หั

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1001

    “ไอ้บ้านนอกเอ๊ย คิดว่าโลกนี้เข้าสู่ยุคที่พลังเวทหมดสิ้นแล้วหรือไง?”“ไม่ใช่เหรอ?” เย่ซิวถามกลับ“แน่นอนว่าไม่ใช่ มีแต่พวกบ้านนอกอย่างนายนั่นแหละที่คิดแบบนั้น” ชายหนุ่มแค่นเสียงหึเขาคิดว่าเย่ซิวใกล้ตายเต็มทีแล้วและคู่ต่อสู้แบบนี้ก็ควรจะถูกทรมานให้หนักก่อนตายอีกทั้งการได้เห็นสีหน้าตกตะลึงของเย่ซิวก็ทำให้เขารู้สึกสะใจไม่น้อยเมื่อคิดได้ดังนั้น เขาก็วาดยันต์สายฟ้าลงบนตัวเย่ซิวจากนั้นก็มีสายฟ้าสายแล้วสายเล่าพุ่งลงมาจากฟ้ากระแทกเข้าใส่เย่ซิวอย่างแม่นยำแต่สายฟ้าเหล่านั้นเป็นเพียงสายฟ้าธรรมดา ไม่ได้แฝงพลังแห่งฟ้าดินเอาไว้ และมันก็แทบจะไม่สร้างความเสียหายอะไรให้เย่ซิวเลยแถมยังช่วยขัดเกลาร่างกายของเขาอีกต่างหากแต่เพื่อสนองความสะใจของเจ้าหนุ่มโรคจิตตรงหน้า เย่ซิวจึงแสร้งร้องอย่างเจ็บปวดออกมาชายหนุ่มหัวเราะลั่นก่อนจะเอ่ยต่อ“โลกที่นายเห็นจริง ๆ แล้วมันเป็นแค่เศษเสี้ยวของโลกที่แท้จริงต่างหากเหมือนหยดน้ำกลางมหาสมุทรหรือเม็ดทรายในทะเลทรายเท่านั้น”หัวใจของเย่ซิวสะท้านครั้งนี้เขาไม่ได้นายล้งทำเป็นตกใจ แต่รู้สึกตื่นตะลึงจริง ๆ “นายหมายความว่าไง? ฉันไม่เข้าใจ!”ชายหนุ่มแค่นเสีย

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1002

    “ก็ใช่ ร่างกายฉันขยับไม่ได้ก็จริง แต่…”ยังไม่ทันพูดจบ หน้าผากของเย่ซิวก็เปล่งแสงขึ้นมาทันใดนั้น แสงสีดำสายหนึ่งก็พุ่งออกมาจากหน้าผากของเขาฟันลงมาทางศีรษะของชายหนุ่มตรงหน้ากระบี่หายนะ!กระบี่เล่มนี้สามารถทะลวงการป้องกันทุกประเภทและโจมตีเข้าไปที่ตัวตนโดยตรงความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่ร่างกายเท่านั้น แต่เข้าไปถึงแก่นพลังของอีกฝ่ายการโจมตีครั้งนี้ทำให้ระดับพลังของชายหนุ่มลดฮวบจากจินตานขั้นต้นเหลือเพียงระดับรากฐานปราณขั้นสมบูรณ์เย่ซิวควบคุมกระบี่ให้ฟันลงไปที่ชายหนุ่มอีกสามครั้งติดกันพลังของชายหนุ่มดิ่งลงเหวในพริบตา เหลือเพียงรากฐานปราณขั้นต้นเท่านั้นพลังที่ลดลงอย่างรุนแรงทำให้เขาไม่สามารถควบคุมตราประทับเทียนฝูได้อีกต่อไปเย่ซิวกลับมาขยับตัวได้อีกครั้ง ก่อนจะคว้าคอของชายหนุ่มไว้แน่นเขารู้สึกได้เลยว่าตัวเองได้รับพลังของอีกฝ่ายมาไม่น้อยเมื่อเขาลองคำนวณดู อย่างน้อยก็สี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์ของพลังทั้งหมดล่ะนะสัดส่วนขนาดนี้เรียกได้ว่าน่าสะพรึงกลัวมากชายหนุ่มที่เมื่อครู่ยังยืนอยู่บนเมฆ ตอนนี้กลับตกลงมาจากสวรรค์สู่ขุมนรกเสียได้ เขาจ้องเย่ซิวด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ “ทำไม? เป็น

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1003

    จากนั้นเย่ซิวก็ได้เห็นชายชราหนวดเคราขาวโพลนคนหนึ่งรอบตัวเขาแผ่กระจายพลังงานลึกล้ำราวกับอยู่เหนือกาลเวลาชายชรามองเย่ซิวก่อนจะเผยรอยยิ้มใจดีออกมาเขากวักมือเรียก “เด็กน้อย การพบกันครั้งนี้คือโชคชะตา เข้ามาสิ”เย่ซิวลังเลอยู่ชั่วครู่ แต่สุดท้ายก็ก้าวเข้าไปหา“ที่นี่คือศูนย์กลางของศาสตร์แห่งวิถีอักขระ การที่เจ้ามาถึงที่นี่ได้แปลว่าพรสวรรค์ของเจ้าไร้เทียมทาน มาเถิด ข้าจะถ่ายทอดสุดยอดวิถีอักขระให้เจ้า”เย่ซิวค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้ชายชรายื่นมือขวาออกมาแล้วกดลงบนหน้าผากของเย่ซิวแต่ในเสี้ยววินาทีต่อมา รอยยิ้มอ่อนโยนของเขาก็หายไปและถูกแทนที่ด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม“ร่างกายชั้นเลิศ ในที่สุดข้าก็จะได้ออกไปจากที่นี่และสามารถบำเพ็ญได้เหมือนมนุษย์ทั่วไปเสียที!”ร่างของชายชรากลายเป็นลำแสงพุ่งออกจากตำราลับเทียนฝูแล้วพุ่งเข้าสู่สมองของเย่ซิวโดยตรงนี่คืออาวุธวิญญาณเนื่องจากดำรงอยู่มาอย่างยาวนานมากจึงมีความรู้สึกนึกคิดเหมือนมนุษย์แต่เพราะกฎบางอย่างทำให้มันไม่สามารถออกจากพื้นที่นี้เองได้มันต้องรอให้คนนอกเข้ามาแล้วฉวยโอกาสยึดร่างของคนผู้นั้นชายหนุ่มคนก่อนแม้จะมีพรสวรรค์สูง แต่ยังไม่ถึง

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1004

    ส่วนพวกนายกรัฐมนตรีก็ไม่มีใครพูดอะไรเพิ่มเติมไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวอะไรมาก เย่ซิวเพียงแค่เหินกระบี่ออกไปเท่านั้นด้วยพลังของเขาตอนนี้ เวลาที่ใช้ในการเดินทางจากที่นี่ไปยังประเทศหลงเถิงจึงลดลงไปมากออกเดินทางตอนเที่ยง ถึงเมืองหลวงตอนหกโมงเย็นเมื่อกลับมาถึงประเทศหลงเถิงอีกครั้ง เย่ซิวก็รู้สึกเหมือนตัวเองห่างหายไปนานแสนนานทั้งที่ความจริงแล้วเขาเพิ่งจากไปได้ไม่นานเท่านั้นเมื่อเทียบกับสำนักโอสถแล้ว เย่ซิวยังคงชอบบรรยากาศของประเทศหลงเถิงมากกว่าบรรยากาศของชีวิตประจำวันแบบนี้ทำให้เย่ซิวรู้สึกผ่อนคลายอย่างมากเขารู้ดีว่านี่คือแหละรากฐานอย่างหนึ่งเป็นสิ่งที่สำนักโอสถยังไม่มี และอาจต้องใช้เวลาอีกหลายร้อยปีหรืออาจเป็นพันปีกว่าที่จะซึมซับเข้าไปในทุกมุมของดินแดนตอนนี้น่าจะเป็นเวลาเลิกงานของเซี่ยซิ่วซิ่วกับคนอื่น ๆ แล้วเย่ซิวจึงตรงกลับไปที่วิลล่าทันทีระหว่างทางเขาก็แวะซื้อของกินเล่น อาหารว่าง และกับแกล้มเย็น ๆ ติดมือไปด้วยพอถึงหน้าประตูวิลล่า เย่ซิวก็เผยตัวตนออกมาพอบอดี้การ์ดที่เฝ้าหน้าประตูเห็นเขาก็ถึงกับตื่นเต้นดีใจอย่างสุดขีดเย่ซิวทำมือเป็นสัญลักษณ์ให้เงียบ ไม่ให้พวกเขา

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1005

    หลังจากบำเพ็ญและทดสอบฝีมือกันเสร็จ หลิวอวิ้นก็มองเย่ซิวด้วยสายตาคาดหวัง “เป็นไงบ้าง? ฉันพัฒนาไปเยอะเลยใช่ไหม?”เย่ซิวพยักหน้า “พัฒนาไปมากเลยล่ะเมื่อก่อนถ้าผมทุ่มสุดตัวคุณจะทนได้แค่ห้านาที แต่ตอนนี้ก็อยู่ได้ตั้งสองนาทีแล้ว”เขาไม่ได้พูดประชดแต่อย่างใดด้วยพลังของเขาที่เพิ่มขึ้นมากขนาดนี้แต่หลิวอวิ้นยังสามารถรักษาระดับนี้ได้ก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้วหลิวอวิ้นย่นจมูก “งั้นลองบอกหน่อยว่าในบรรดาผู้หญิงของนาย ฉันอยู่ลำดับที่เท่าไหร่”เย่ซิวคิดอยู่ครู่หนึ่ง “คุณอยู่อันดับสี่”พอได้ยินอันดับ หลิวอวิ้นก็ไม่พอใจนัก “ทำไมฉันถึงได้แค่อันดับสี่ล่ะ? สามคนแรกคือใคร? ฉันสู้พวกเธอไม่ได้ตรงไหน?”เย่ซิวหัวเราะเบา ๆ นี่เป็นการแข่งขันแปลก ๆ ระหว่างผู้หญิงหรือเปล่านะ?อันดับหนึ่งในใจของเขาแน่นอนว่าคือพรีเอลล์ผู้หญิงคนนั้นทานทนเกินขอบเขตไปไกลอันดับสองคือหยางชิงเสวี่ยเธอไม่ได้อยู่ที่อันดับนี้เพราะฝีมือดีเป็นพิเศษ แต่เพราะเธอมีพละกำลังมหาศาลในการฝึกซ้อมเธอสู้กับเย่ซิวได้อย่างสูสีอันดับสามคือชูตงเธอได้อันดับนี้มาเพราะพรสวรรค์โดยแท้ส่วนอันดับสี่หลิวอวิ้น เธออาศัยข้อได้เปรียบด้านอายุและความขยั

Pinakabagong kabanata

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1174

    เจ้าสำนักจ้องมองห้าพี่น้องตรงหน้า พยายามทำให้ท่าทางของตัวเองดูเป็นมิตรมากที่สุด “ไม่ต้องกลัวไปนะ พวกเราไม่ได้มาร้าย เคยได้ยินชื่อสำนักอวิ้นหลิงกันบ้างไหม…”ทั้งห้าคนพยักหน้าเบา ๆผ่านไปครึ่งชั่วโมง เหล่าผู้อาวุโสที่ออกไปตรวจสอบหมู่บ้านก็กลับมาจากที่ตรวจสอบข้อมูลแล้ว ไม่พบอะไรผิดปกติ ห้าพี่น้องก็อยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้มาตลอดแต่พวกเขาไม่มีทางรู้เลยว่า คนทั้งหมู่บ้านถูกฝังความทรงจำบางอย่างเพิ่มเติมเข้าไปและเรื่องนี้ แน่นอนว่าเป็นฝีมือของจอมมารโลหิตนั่นเอง ซึ่งเชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะส่วนระดับพลังของห้าร่างแยกในตอนนี้ ก็ถูกถ่ายโอนมาไว้ที่ร่างหลักของเย่ซิวชั่วคราวทั้งหมดดังนั้น พวกเขาจึงดูเป็นเพียงคนธรรมดา ไม่มีใครจับพิรุธได้แม้แต่น้อยแนวคิดนี้ เย่ซิวเคยคิดไว้ตั้งแต่ตอนสอบเข้าเป็นศิษย์ใหม่แล้วสายเซียนกระบี่ในลัทธิ เป็นสายที่มีอิทธิพลและมีพลังมากการเผชิญหน้าตรง ๆ ไม่มีทางชนะแน่นอนเย่ซิวจึงวางแผนจะส่งร่างแยกไปแฝงตัวอยู่ฝั่งนั้นเพราะหากเจออัจฉริยะระดับนี้ แน่นอนว่าทางสำนักต้องทุ่มสุดตัวในการฝึกฝนแน่ซึ่งก็หมายความว่าเหล่าศิษย์รุ่นใหม่คนอื่น ๆ จะได้รับทรัพยากรน้อยลงอย่างมาก

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1173

    เจ้าสำนักนำเหล่ายอดฝีมือมาถึงหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในหุบเขาหนึ่งในผู้อาวุโสเอ่ยถามขึ้นว่า “เจ้าสำนัก พวกเรามาที่นี่ทำอะไรกันแน่? ตลอดทางที่มาคุณก็ไม่พูดอะไรสักคำ”เจ้าสำนักส่ายหน้า “ก่อนอื่น ไปปิดล้อมหมู่บ้านนี้ไว้ก่อน แล้วลองหาดูว่ามีเด็กชายที่มีหน้าตาเหมือนกันห้าคนไหม”แม้ทุกคนจะไม่เข้าใจนัก แต่ก็เริ่มลงมือทันทีเจ้าสำนักระงับพลังของตัวเองไว้ แล้วเดินเข้าไปในหมู่บ้านอย่างเงียบ ๆ พร้อมกับปล่อยพลังจิตออกไปตรวจสอบทั่วพื้นที่ที่นี่เป็นเพียงหมู่บ้านธรรมดา ผู้คนภายในก็ล้วนแต่เป็นชาวบ้านธรรมดา ไม่มีอะไรผิดปกติแต่เมื่อเขาเดินมาถึงกลางหมู่บ้าน กลับพบเด็กหนุ่มที่หน้าตาธรรมดาห้าคน แต่เปล่งพลังวิญญาณออกมาอย่างชัดเจน แต่ละคนกำลังช่วยกันแบกฟืนและตักน้ำอย่างขยันขันแข็งบรรยากาศอบอุ่นและมีความสุขอย่างน่าประหลาดหัวใจของเจ้าสำนักสั่นสะเทือนเบา ๆ ก่อนที่เขาจะไปเคาะประตูบ้านหลังหนึ่งไม่นานก็มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินมาเปิดประตู “สวัสดีครับ มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ?”เจ้าสำนักยิ้มอย่างเป็นมิตร “พอดีผ่านมาแถวนี้ รู้สึกคอแห้งนิดหน่อย เลยอยากขอน้ำดื่มสักแก้วน่ะ”เด็กหนุ่มเกาหัวแล้วยิ้มอย่างซื่อ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1172

    “แกจะส่งมาดี ๆ หรือจะให้ฉันลงมือเอามาเอง”เย่ซิวขมวดคิ้วเล็กน้อย “ผมไม่เข้าใจว่าคุณพูดเรื่องอะไร”“แกน่าจะรวยมากเลยสินะ บอกไว้เลยนะ ฉันนี่แหละที่เป็นคนขายปีศาจแมวให้แก”เย่ซิวจึงเข้าใจทันที “ก็แสดงว่านายแอบทำอะไรไว้ในตัวเสี่ยวโหรว เพื่อใช้ติดตามฉัน… ดูท่าจะไม่ใช่ครั้งแรกที่นายทำแบบนี้สินะ”ดูจากท่าทางก็รู้ว่าเป็นมืออาชีพใช้วิธีเอาเสี่ยวโหรวไปขายในตลาดมืด พอมีคนซื้อก็ค่อยตามไปแล้วหาจังหวะชิงตัวกลับมาจากนั้นก็เอาไปขายใหม่ วนลูปแบบนี้ไปเรื่อย ๆถือเป็นวิธีหาเงินที่รวดเร็วจริง ๆแต่น่าเสียดายที่คราวนี้ดันมาเจอของแข็งเข้าแล้ว“ใช่เลย แกน่ะเป็นคนที่อ่อนที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลยนะ อยู่แค่ระดับสร้างรากฐานปราณแท้ ๆ แต่กลับพกศิลาวิญญาณมามากขนาดนั้น อย่างนี้ต้องรวยมากแน่…”พูดยังไม่ทันจบ อีกฝ่ายก็ลอบโจมตีทันทีทั้งที่มีพลังระดับวิญญาณก่อกำเนิด แต่ยังเล่นสกปรกด้วยการลอบจู่โจม เรียกได้ว่าทั้งเลวทั้งเจ้าเล่ห์สุด ๆเปรี้ยง!ทันใดนั้นก็มีสายฟ้าสีม่วงเส้นหนึ่งก็ผ่าลงมากลางหัวอย่างจังชายคนนั้นถูกฟาดจนร่างแหลกละเอียดกลายเป็นเศษธุลีแทบไม่เหลือชิ้นดีเสี่ยวโหรวที่ยืนข้าง ๆ ถึงกับหน้าซีด

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1171

    “สินค้าชิ้นที่สองของงานประมูล เป็นจิตวิญญาณนักรบระดับถอดจิตขั้นต้นเนื่องจากได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้สภาพจิตวิญญาณจึงยังไม่คงที่เราต้องใช้วิชาเฉพาะตัวเพื่อรักษาสภาพเอาไว้ชั่วคราว ต้องพาไปที่ที่มีพลังหยินหนาแน่น หรือไม่ก็ต้องมีจิตวิญญาณนักรบที่แข็งแกร่งช่วยรักษาให้ ราคาเริ่มต้นที่หนึ่งแสนศิลาวิญญาณ”พูดจบ เธอก็หยิบลูกแก้วคริสตัลออกมา ภายในมีวิญญาณของปีศาจหมาป่าตนหนึ่งถูกผนึกไว้บนร่างมันมีรูโหว่อยู่หลายแห่งมีหลายคนให้ความสนใจ ต่างเริ่มเสนอราคากันเย่ซิวเองก็ถูกจิตวิญญาณนักรบตนนั้นดึงดูดสายตาเข้าแล้วเขาไม่ได้สังเกตเลยว่าหลังจากให้กระบี่แม่ลูกกับเสี่ยวโหรวไป เธอก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยไม่นานราคาก็ถูกดันขึ้นไปถึงสองล้านกว่าศิลาวิญญาณถ้ามันไม่บาดเจ็บล่ะก็ ต่อให้มีหลายสิบล้านก็อาจจะยังซื้อไม่ได้ด้วยซ้ำจำนวนคนที่ร่วมประมูลค่อย ๆ ลดลงเย่ซิวจึงเสนอราคาไปที่สามล้านศิลาวิญญาณในครั้งเดียว และชนะการประมูลไปอย่างราบรื่นของก็ถูกส่งมาถึงมือเย่ซิวอย่างรวดเร็วเขานำมันเก็บเข้าไปในธงหมื่นวิญญาณแล้วให้จิตวิญญาณนักรบทั้งสามที่อยู่ภายในช่วยรักษาบาดแผลให้แน่นอนว่าจอมมารโลหิตดู

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1170

    แน่นอนว่าการค้างคืนด้วยกันนั้นไม่ได้ทำให้เย่ซิวเสียสมาธิอะไรหากพูดถึงความเย้ายวน ก็ไม่มีใครจะสู้เสวี่ยเหมยได้อยู่แล้วในตลาดมืดแห่งนี้มีขายเสื้อคลุมแบบเดียวกับที่เย่ซิวสวมอยู่เขาซื้อมาเพิ่มอีกสองชุดเก็บไว้หนึ่งชุด อีกชุดให้เสี่ยวโหรวสวมไม่งั้นสายตาโลมเลียจากรอบข้างจะมากเกินไปหน่อยจากนั้นเขาก็พาเสี่ยวโหรวเดินเล่นในตลาดมืดต่อจริง ๆ แล้วเขาไม่ได้ตั้งใจจะมาซื้อของอะไรเดินวนไปหนึ่งรอบก็ไม่เจอของอะไรที่ดูมีค่าเป็นพิเศษแบบที่ในนิยายบางเรื่องชอบเขียนว่าพระเอกเดินผ่านตลาดแป๊บเดียวก็เจอสมบัติล้ำค่าอะไรแบบนั้น เรื่องแบบนั้นไม่มีเกิดขึ้นที่นี่หรอกสุดท้ายเขาก็มาถึงอาคารจัดประมูลของตลาดมืดถึงจะเรียกว่าอาคาร แต่จริง ๆ ก็แค่โรงเรือนที่มีขนาดใหญ่กว่าร้านทั่วไปนิดหน่อยเท่านั้นเองการเข้าไปข้างในต้องจ่ายค่าผ่านประตูคนละหนึ่งร้อยศิลาวิญญาณเย่ซิวจ่ายไปสองร้อยแล้วก็จับมือเสี่ยวโหรวเดินเข้าไปมือของเธอนุ่มมาก แถมยังเย็นนิด ๆ ชวนให้รู้สึกอยากจับไม่ปล่อยตอนเข้าไป ที่นั่งก็เหลือว่างอยู่ไม่มากแล้วคนอื่น ๆ แค่เหลือบมองเย่ซิวแล้วก็หันหน้ากลับไปทันทีเพราะที่นี่ ถ้าจ้องใครนานเกินไปจะถูก

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1169

    “วันนี้บังเอิญมีงานประมูลจัดขึ้นพอดี หนึ่งในของประมูลสำคัญคือหุ่นเชิดโบราณตัวหนึ่งมีพลังระดับถอดจิต ถ้าคุณมีฝีมือก็ลองประมูลดูได้”เย่ซิวสะดุดใจขึ้นมาทันที พลังต่อสู้ของหุ่นเชิดระดับถอดจิตนั้นสูงมากถ้าได้มาจะช่วยยกระดับพลังโดยรวมของเขาได้มากทีเดียวเขาพยักหน้าแล้วก็ตรงเข้าสู่เขตตลาดมืดทันทีบรรยากาศภายในตลาดมืดดูไม่ต่างจากตลาดนัดทั่วไปผู้บำเพ็ญตนนั่งเรียงกันสองฝั่งข้างทาง หน้าแต่ละคนมีแผงเล็ก ๆ วางของขายหลากหลาย“แวะมาดูได้เลย ของดีราคาถูก รับประกันไม่มีโกง”“คัมภีร์ประจำตระกูลของแท้ ขอแลกกับหินธาตุไฟ”“หญิงแท้ ขอแลกแต่งงานกับร้อยศิลาวิญญาณ”……ของหลากหลายจนมองตามแทบไม่ทันเย่ซิวเดินผ่านแผงขายของทีละอันของบางอย่างเขาก็สนใจ แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่มีประโยชน์กับเขามากนัก เลยไม่ได้ซื้ออะไรจู่ ๆ เขาก็หยุดที่แผงหนึ่งแผงนี้ไม่ได้มีของวางขายเหมือนแผงอื่น ๆ แต่มีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่แทนเธอสวมเสื้อผ้าบางเบา ร่างเล็กบอบบางแต่รูปร่างกลับพอดีสัดส่วน หน้าตาจัดว่าระดับแปดเต็มสิบที่เด่นที่สุดคือดวงตาสีฟ้าราวกับไพลินแค่เห็นแวบเดียวก็ยากจะละสายตามีคนจำนวนไม่น้อยหยุดมองที่แผงนี้

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1168

    เย่ซิวเก็บร่างแยกทั้งห้าไว้ในจุดตันเถียนจากนั้นเขาก็ขังตัวเองบำเพ็ญตนในถ้ำอยู่อีกหลายวันเมื่อออกมาอีกครั้ง เขาก็ทยอยส่งมอบโอสถให้กับแต่ละคนตามที่สั่งไว้ แลกกับวัตถุดิบล้ำค่าหลายชิ้นหลังจากนั้นเย่ซิวก็ตรงไปหาจางเสี่ยวอวี๋ “ฉันอยากไปตลาดมืด เธอพอมีช่องทางไหม”ตลาดมืดนี่ เย่ซิวเคยได้ยินมาตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาอยู่ในสำนักอวิ้นหลิงแล้วเขาว่ากันว่าสถานที่ตั้งลึกลับสุด ๆนอกจากคนในสำนัก ก็ยังมีผู้บำเพ็ญจากสำนักอื่น ๆ แอบเข้ามาทำการค้าด้วยเบื้องหลังตลาดมืดเหมือนจะมีผู้มีอิทธิพลหนุนหลังอยู่หลายรายการซื้อขายข้างในถือว่าปลอดภัยมากมีของดี ๆ หลายอย่างที่โลกภายนอกหาไม่ได้แน่นอนว่าถ้ามีสมบัติติดตัวมากเกินไปแล้วโดนรู้เข้าตอนออกจากตลาดมืดอาจถูกตามฆ่าปิดปากหรือโดนปล้นก็ได้“ฉันรู้สิ สถานที่แบบนั้นต้องใช้ชุดพิเศษในการเข้าไปด้วย”จางเสี่ยวอวี๋พูดจบก็ดึงชุดคลุมสีดำออกมาจากแหวนผนึกของ“ในนั้นทุกคนต้องใส่ชุดนี้ ห้ามเปิดเผยตัวตน และต้องจ่ายค่าผ่านประตูสิบศิลาวิญญาณด้วยนะ”เย่ซิวรับเสื้อคลุมมาถือไว้แล้วจางเสี่ยวอวี๋ก็อธิบายเส้นทางไปตลาดมืดให้ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากสำนัก เป็นเมืองเล็ก ๆ แ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1167

    “อะไรนะ? แค่วันเดียวนายก็กลั่นสำเร็จจริงเหรอ?”ทันทีที่เห็นเย่ซิว เจ้าสำนักก็รีบถามขึ้นด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความคาดหวังเขาเองก็ไม่ได้เพิ่มพลังตัวเองมานานแล้วเหตุผลหลักก็เพราะไม่มีโอสถที่เหมาะสมพอให้ใช้โอสถระดับปฐมญาณนั้นหาได้ยากมากในตลาดต่อให้มีก็จะปรากฏแค่ในงานประมูลเท่านั้น และราคาก็มักจะพุ่งขึ้นสูงเทียมฟ้าเสมอแม้รั่วอวิ๋นจะสามารถกลั่นยาได้แต่เธอต้องลองห้าหกครั้งถึงจะสำเร็จสักครั้ง แถมแต่ละครั้งต้องใช้ต้นทุนมหาศาล“ผมไม่ทำให้ท่านอาจารย์ผิดหวังครับ” เย่ซิวยื่นโอสถเก้าเม็ดที่ถูกเจือจางแล้วให้ ก่อนถอนหายใจหนึ่งที “ไม่คิดเลยว่าฝีมือกลั่นโอสถของผมจะแย่ขนาดนี้ ทั้งหมดออกมาเป็นแค่ระดับต่ำ”เจ้าสำนักมองโอสถระดับปฐมญาณในมือแล้วถึงกับตกใจ แม้เขาจะเป็นคนสุขุมมาก แต่ก็ยังเผยสีหน้าเหลือเชื่อออกมาแล้วก็หัวเราะลั่นด้วยความยินดี “ดี ดีมาก ๆ ฝีมือกลั่นโอสถของนายอาจจะแซงหน้าอาจารย์ของตัวเองไปแล้วก็ได้นะ”เย่ซิวยิ้มเก้อ ๆ “ไม่น่าเป็นไปได้หรอกครับ ผมยังพัฒนาอีกมาก เอ่อ…”จู่ ๆ สีหน้าเขาก็ซีดเผือด ร่างกายโงนเงนเหมือนจะล้มเจ้าสำนักหรี่ตา “นายเป็นอะไรไป?”“ไม่เป็นไรครับ แค่เสียพลังมากเก

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1166

    เย่ซิวเอ่ยรายชื่อวัตถุดิบออกมาติดต่อกันเป็นสิบ ๆ อย่างหนึ่งในนั้นก็คือวัตถุดิบชิ้นสุดท้ายสำหรับการหลอมร่างแยกธาตุดินเขามีแผนการบางอย่างในใจ และจำเป็นต้องสร้างร่างแยกธาตุทั้งห้าสำเร็จเสียก่อนถึงจะลงมือได้ดวงตาของเจ้าสำนักเปล่งประกายวาบ “ฉันมีหินดินธาตุดั้งเดิมอยู่ก็จริง แต่ของสิ่งนี้ล้ำค่ามาก เว้นเสียแต่นายจะสามารถกลั่นโอสถระดับปฐมญาณออกมาได้”เย่ซิวพยักหน้า เขารู้จักโอสถประเภทนี้ดี มันสามารถเพิ่มพลังระดับปฐมญาณได้แต่กระบวนการกลั่นซับซ้อนมาก แถมวัตถุดิบยังหาได้ยากสุด ๆแค่ต้นทุนวัตถุดิบสำหรับหนึ่งเตากลั่นก็เกินสิบล้านศิลาวิญญาณแล้วผู้บำเพ็ญสายอิสระทั่วไปไม่มีทางสู้ราคาไหวแน่“แล้วเจ้าสำนักอยากได้กี่เม็ด ถึงจะยอมแลกล่ะครับ”“นายกลั่นได้จริงเหรอ?” เจ้าสำนักมองเย่ซิวด้วยสีหน้าตกตะลึง ดวงตาฉายแววไม่เชื่อโอสถชนิดนี้ไม่เหมือนกับโอสถวิญญาณหยก ระดับความยากสูงกว่ากันหลายเท่าเย่ซิวไม่ได้รีบตอบในทันที แต่เงียบไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ยว่า “ผมขอลองก่อน ยังไม่กล้ารับประกันว่าจะสำเร็จเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เจ้าสำนักให้วัตถุดิบสำหรับหนึ่งเตากลั่นกับผมก่อนถ้ากลั่นไม่ได้ ผมยินดีจ่ายค่าต้นทุน

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status