สายตาของเธอที่มองไปยังเขาถามรามิลว่า ‘นี่คุณจะบ้าหรือไง’ เขาก็ตอบไปในสายตาว่า ‘ไม่ได้บ้า’ รามิลยกยิ้ม“ให้ผมไปด้วยนะครับ ผมจะอาสาดูแลเด็กสองคนนี้ให้ เพื่อที่จะให้คุณสองคนจะได้จู๋จี๋กันครับ”ทั้งทวีและณัฐกรพากันหัวเราะ แต่นรินภัทรไม่ขำด้วย‘ทำมาเป็นส่งเสริม ก็ได้ฉันจะจัดเต็ม’‘ถ้าเขาพูดอย่างนี้ แสดงว่าสนับสนุนให้ฉันได้กันกับพี่ทวี ฉันจะจัดให้’“ตรงที่เราจะไปกัน เป็นรีสอร์ตของเพื่อนผมเอง เพิ่งเปิดใหม่ อยู่ฝั่งตรงข้ามกับทะเลครับ เพียงข้ามถนนไปก็เจอะทะเลเลย”“ชูใจจะเล่นทราย” ชูใจหันไปคุยกับแม่“ได้สิลูก เดี๋ยวแม่จะเอาอุปกรณ์ไปด้วย”“พี่วาวาขอเล่นด้วยคนนะจ๊ะ”“จ้ะ”“แป้งอิ่มแล้ว รีบเก็บข้าวของไป แต่ระวังชูใจจะไข้กลับมีอีก ส่วนตรงนี้พี่จัดการเอง” ณัฐกรเอ่ยปากไล่รามิลคุยกับทวี “ผมขับรถไปเองนะครับ ผมจะขับตามคุณวีไปอย่างช้า เพราะขากลับ ผมจะได้กลับเลย ไม่ทราบว่าบ้านคุณวีอยู่ที่ไหนหรือครับ”“อยู่ทางไปอ่าวลึกครับ”“อ้าวมันก็เป็นคนละทางนะสิครับ ถ้าอย่างนั้นขากลับ ผมอาสามาส่งชูใจแล้วก็แป้งเองครับคุณวี”“ก็ดีเหมือนกันครับคุณหมอ”รามิลยังอยากรู้ “ผมถามจริง ๆ เถอะนะครับคุณวีจะแต่งงานกับคุณแป้งเมื่อไร
นรินภัทรเริ่มฉุกคิดว่า การปล่อยให้รามิลเข้าใกล้เธอและลูก พร้อมกับครอบครัวแบบนี้ มีแต่เสีย ไม่มีได้ มองแล้วจะมีแต่เธอที่จะเสียเปรียบและเพลี่ยงพล้ำอีกอย่างเธอกลัวตัวเองมากกว่า หัวใจที่มันเคยอ่อนแอ หัวใจที่มันเคยรักรามิล คนรักกันแล้ว จะทำให้ลืมกันได้หรือนรินภัทรได้คำตอบในทันทีว่า เป็นไปไม่ได้ เธอรักรามิล มาก เคยรักแบบไหนมาก่อน ทุ่มเทสุดตัวและหัวใจ ถึงแม้ว่าเขาจะร้ายกับเธอแค่ไหน แต่ลึก ๆ มันมีความโหยหาพิเศษความรัก เมื่อเรารักใครสักคน แล้วจะเปลี่ยนให้เลิกรักได้หรือ อาจจะเกลียดชัง รักมากก็เกลียดมาก แล้วถ้ามันเท่ากัน แล้วเกิดแยกไม่ออกล่ะ หรือเป็นแค่ทั้งรักทั้งเกลียดยิ่งคิดเธอก็ยิ่งปวดหัว แทบจะไม่ได้ยินในสิ่งที่หนุ่ม ๆ สนทนากันแล้วนรินภัทรเฝ้าแต่คิดถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่เคยทำร่วมกันกับรามิลมา ที่ยังเป็นความทรงจำที่ยากจะลืม ทั้งดีและร้าย แล้วที่เธอนึกถึงอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คือเรื่องเลวร้ายที่เขาได้พูดกับเธอ แม้นรินภัทรจะสั่งให้เธอลืม แต่หลักฐานคือลูก หญิงสาวทำให้ลืมไม่ได้ที่จริงแกงไตปลาก็อร่อยมาก แต่นรินภัทรกลับกินไม่ลง เธอกินหมดจานนั้น เธอก็รีบรวบช้อน“อ้าว... น้องแป้ง แกงไตปลาไม่ถูกปา
ส่วนทวีนั้นกำลังตักน้ำแกงไตปลาราดเส้นขนมจีนอยู่อรนิลเดินมาสมทบ “น่ากินจังเลย แต่ตอนนี้อรยังกินไม่ได้ก่อน เพราะกำลังอยู่ไฟ”“เอาไว้มาคราวหน้า พี่จะให้แม่ทำแกงพริกมาให้นะ อรกินแล้วจะได้ขับเลือดขับลม”“ขอบคุณค่ะพี่วี”อรนิลก็ขอตัวออกไปซักเสื้อผ้าของลูกน้อยกลิ่นแกงไตปลาที่หอมกรุ่นลอยมาจนถึงห้องรับแขก“คุณหมอครับไปกินแกงไตปลากันดีกว่า วันนี้ผมนึ่งปลากระพงเอาไว้ให้คุณหมอด้วย ผมทำน้ำจิ้มซีฟู้ดแยกต่างหาก ถ้าหมอชอบแซ่บ ๆ เพียงแค่ราดน้ำจิ้มก็อร่อยแล้วครับ”คนที่รู้สึกหึงหวงนรินภัทร ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมียของเขา รีบลุกและเดินตามณัฐกรเดินไปนั่งลงใกล้ ๆ กับนรินภัทรที่ยืนจับขนมจีนอยู่“ผมนั่งตรงนี้ได้ไหมครับ” ซึ่งเป็นตำแหน่งที่อยู่ตรงข้ามกับทวีพอดี“ผมก็ลืมไปเลย พี่วีครับ ผมแนะนำให้รู้จักกับคุณหมอรามิล คุณหมอรามิลทำงานอยู่ที่โรงพยาบาล เป็นหมอรักษาเด็กนะครับ”ทวียิ้มให้อย่างจริงใจ“คุณหมอยังหนุ่มยังแน่นอยู่เลยนะครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ” ทวีเป็นคนมีอัธยาศัยดี“เมื่อไหร่จะมีการแจกการ์ดแต่งงานครับ” รามิลถามขึ้น ทำให้ทวีหน้าแดง ทวีเหลือบมองนรินภัทรที่ทำท่าไม่ใส่ใจ แท้จริงในใจเดือดปุด ๆ รามิลกำลังก่อส
“เข้าไปข้างในก่อนค่ะ พี่วี น้องวาวา” นรินภัทรชักชวน แถมไม่พอ ไหนจะแสดงอะไร ๆ ให้คนได้ดูแล้ว มันก็ต้องไปให้สุดทางนรินภัทรสอดแขนคล้องแขนของทวี อีกมือจับจูงน้องวาวา เธอต้องแสดงตัวให้เหมือนเป็นคู่รักของทวี เพื่อให้แผนการมันลงล็อก แม้ว่านรินภัทรจะขัดใจตัวเองอยู่นิด ๆส่วนทวีคนที่ถูกควงแขน เขายิ้มหน้าบานยิ้มแบบไม่หุบ จนเห็นสีฟันสีขาว ๆ ตัดกับสีดำคล้ำของผิวได้อย่างชัดเจน“ขอบคุณมากนะคะพี่วี ที่เอาของมาฝากมาให้ แล้วมากินด้วยอีก” นรินภัทรทำฉอเลาะ ทั้งที่ไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน“พี่ก็หิวเหมือนกัน เพราะเมื่อเช้าพี่กินแต่โกปี๊” ทวีหมายถึงกาแฟ ซึ่งคนทางใต้เรียกโกปี๊“น้องวาวาล่ะคะกินอะไรมาหรือยัง”“เมื่อเช้าหนูก็กินแต่ปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้ค่ะ” รอยยิ้มของสองพ่อลูกที่เหมือนกันมาก ๆ“ถ้าอย่างนั้นน้าแป้งจะตั้งโต๊ะเลยนะคะ” เธอผละเดินไปยังข้างใน ที่เป็นห้องโล่งกว้าง และมีโต๊ะกินข้าวตัวใหญ่นั่งได้ประมาณแปดคนได้อรนิลเดินออกมาจากห้อง เพราะเพิ่งกล่อมอ๊บอ๊บให้หลับไป“อ้าวพี่วี หวัดดีค่ะ” อรนิลทักทาย“น้องวาวาใช่ไหมเนี่ย โตเป็นสาวแล้วนะ แล้วลมอะไรพัดมาคะ”สองพ่อลูกตกเป็นเป้าสายตา“คนนี้มาจีบน้องสาวของผมนะครั
“แม่จ๊ะ อ๊บอ๊บมาแล้ว” ชูใจวิ่งไปต้อนรับขับสู้เลย“หายแล้วเหรออ๊บอ๊บ พี่ชูใจก็หายแล้วนา” นรินภัทรออกไปช่วยณัฐกรขนของเข้าบ้าน“ฉันจัดการบ้านให้เอี่ยมแล้ว ฉีดยาฆ่าเชื้อทั่วเลย”“ดีแล้วล่ะ”“ว่าแต่กลับมาตั้งแต่วันไหน” อรนิลถาม“ก็วันนั้นแหละ นอนกันได้สองคืนมั้ง นอนไม่ค่อยหลับขอกลับมาอยู่บ้านดีกว่า มันไม่คุ้นที่นอน” คำถามของอรนิลทำให้นรินภัทรอดคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่โรงแรมไม่ได้“อ้อ... วันนี้พี่แวะไปที่ร้านกาแฟมา พี่สายบัวเขาถามเรื่องแกใหญ่ มีอะไรกัน พี่งงไปหมด ตอนที่พี่สายบัวเข้ามาคุยด้วยนะ”“ก็ไม่มีอะไร เพียงแต่ฉันคิดว่า ฉันอยากจะมีผัวน่ะ”“หื้อ!” ณัฐกรตาโตเมื่อได้ยินคำตอบของน้องสาว“หา! เรื่องอะไรนะแป้ง พี่ฟังไม่ถนัด” อรนิลถามย้ำ เพราะฟังไม่ถนัดถนี่จริง ๆ“ฉันคิดว่า อาจจะถึงเวลาที่ต้องหาแฟน แบบว่าอยากได้คนมาช่วยดูแลชูใจด้วย”“เฮ้ย! คิดดี ๆ นะโว้ย” พี่ชายโวยวาย ปกติเขาก็หวงน้องสาวอยู่แล้ว“ทำไม พี่วีเขาไม่ดีตรงไหน”“ไม่ใช่ ไม่ดี เดี๋ยวจะมีปัญหา” ณัฐกรพยักพเยิดให้หันไปดูชูใจ“ฉันก็คิดเผื่อชูใจนั่นแหละ เด็กโตทุกวัน ถ้ามีพ่อก็จะดี”“มันจะดีได้อย่างไร มีข่าวถมถืดที่ว่า พ่อเลี้ยงปล้ำลู
วันต่อมา“ออกโรงพยาบาลได้แล้วนะครับวันนี้”“ขอบคุณมากนะคะหมอที่ดูแลอ๊บอ๊บเป็นพิเศษ”“เป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้ว ว่าแต่อ๊บอ๊บเนี่ย ใครเป็นคนตั้งให้ครับ” เขาลูบแก้มเด็กชายด้วยความเอ็นดู“ชูใจอย่างไรล่ะครับ เรียกอ๊บอ๊บ จนผมต้องยอมให้แกเรียกน้องอย่างนั้น ตอนนี้กลายเป็นชื่อเล่นไปแล้ว”“ผมไม่เห็นชูใจกลับไปที่คลินิกอีกเลย”“ยายหนูชูใจของผมแข็งแรงมากครับ ไม่ค่อยเป็นอะไรหรอก ปีปีหนึ่ง ตั้งแต่เกิดมา ผมจำได้ว่ายังไม่เคยเข้าโรงพยาบาลเลยนะครับ ใช่ไหมอร”“ใช่พี่ เราเรียกน้องถึกนะคะ ล้มเอย อะไรเอย ก็ไม่เคยร้องไห้โยเย มากสุดก็ตอนที่แม่แกขัดใจนั่นแหละ”“ร้องไห้นะเหรอครับ”“ค่ะ” แล้วก็พากันหัวเราะ“ทำไมหรือครับ”“ผมชอบตามใจหลานนะ แม่เขาก็เลยพาล”“อ้อครับ”พยาบาลเดินเข้ามา “รอทางห้องการเงินโทรมาตามนะคะ แล้วพอจ่ายเงินเรียบร้อยก็กลับบ้านได้เลย”“ค่ะ หมอคะ” อรนิลเรียกรามิลเอาไว้“ครับ”“เราอยากชวนหมอไปกินข้าวที่บ้านนะคะ”“กินข้าว” หัวใจของรามิลพองฟู แต่พอนึกถึงหน้าของคู่กรณีที่จัดการเขาอยู่หลายรอบ และสิ่งที่เธอประกาศ“คือว่าผม”“เราสองคนรู้ว่าหมอเพิ่งย้ายมาที่นี่ ยังไม่รู้จักใคร และที่แน่ ๆ คงไม่มีเพื่อนกิน