หลังจากที่ฌาริยาออกจากโรงพยาบาล นิภาก็พาหลานสาวกลับไปยังบ้านเกิดเมืองนอนที่จังหวัดเชียงราย บ้านที่แทบจะเป็นบ้านร้างเพราะไร้คนอยู่อาศัย สองป้าหลานต้องช่วยกันทำความสะอาดใช้เวลากว่าสองวันจึงเสร็จเรียบร้อย
“เฮ้อ! เหนื่อยจังเลยป้า” “เอ็งเหนื่อยคนเดียวหรือไง ป้าก็เหนื่อยเหมือนกัน” พูดจบสองป้าหลานก็พากันหัวเราะออกมา โชคดีที่บ้านยังมีสภาพดีอยู่ไม่ต้องซ่อมแซมอะไรมากนัก บ้านเป็นบ้านสองชั้น ชั้นล่างเป็นปูนส่วนชั้นบนเป็นไม้ จ้างช่างมาทาสีใหม่สักหน่อยก็อยู่ได้สบายๆ “ป้าเห็นแถวนี้มีแต่ร้านขายกับข้าว ไม่มีร้านขายขนมหวาน ป้าว่าเราทำขนมหวานขายหน้าบ้านกันดีมั้ย?” “ก็ดีนะป้า เดี๋ยวฌาช่วยป้าเอง” “แล้วเรื่องเรียนฌาจะเอายังไง” “ก็คงต้องหยุดเรียนไปก่อนพอฌาคลอดลูกแล้ว ฌาว่าจะกลับไปเรียนค่ะ” “อืม..ป้าก็เห็นด้วย ตอนนี้ก็ดูแลตัวเองกับลูกในท้องให้ดี” “ค่ะป้า” “แล้วนี่ฌาไม่คิดจะบอกคุณธามจริงๆ เหรอ?” “ไม่ค่ะ..ป้าก็รู้ว่าคุณผู้หญิงเป็นคนยังไง ฌากลัวว่าลูกของฌาจะไม่ปลอดภัย ถ้าคุณผู้หญิงรู้เรื่องนี้ ไม่รู้ว่าเขาจะตามมาฆ่าฌากับลูกหรือเปล่า” “ไม่คิดเลยนะว่าคุณผู้หญิงจะใจร้ายใจดำได้ขนาดนี้” “ช่างมันเถอะป้า ตอนนี้เราก็เริ่มต้นชีวิตใหม่แล้ว เราจะไม่พูดถึงเรื่องที่ผ่านมาอีก” “อืม..ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องเครียด เรามาช่วยกันคิดดีกว่าว่าเราจะทำขนมอะไรขายดี” “ค่ะ” หลังจากวันนั้นสองป้าหลานก็ช่วยกันทำขนมหวานขายที่หน้าบ้าน แรกๆ ก็ยังไม่ค่อยมีลูกค้า แต่สักพักลูกค้าก็เริ่มมากขึ้นเพราะความอร่อยของขนมทำให้ลูกค้าพูดปากต่อปาก และมีลูกค้าประจำเพิ่มมากขึ้น ฌาริยาไปฝากครรภ์ที่คลินิกเพราะความสะดวกและรวดเร็ว เธอไม่อยากไปฝากที่โรงพยาบาลของรัฐบาลเพราะคนเยอะต้องรอคิวนาน เธอก็เลยเลือกที่จะฝากครรภ์ที่คลินิกแทน ทางด้านธนัทธาม เขาหันหลังให้กับผู้หญิงหลายใจ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยบอกว่าเขารู้สึกอย่างไรกับเธอ และเขาเองก็รู้ว่าที่ผ่านมาเธอรู้สึกอย่างไรกับเขา ทั้งเขาและเธอต่างก็รู้สึกตรงกันเพียงแต่ต่างฝ่ายต่างไม่เคยพูดมันออกมา แต่พอเขาไม่อยู่ทำไมเธอถึงได้เปลี่ยนไป เธอทรยศหักหลังเขาด้วยการหนีไปกับผู้ชายคนอื่น คำบอกเล่าของมารดากับข้อความสุดท้ายที่เธอส่งมาให้เขามันช่างตรงกันเสียเหลือเกิน เขาจึงไม่คิดว่ามารดาของเขาจะโกหก ถึงแม้ว่ามารดาของเขาจะไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฌาริยาก็ตาม แต่มารดาก็รู้ว่าเขาและเธอสนิทสนมกัน ในเมื่อผู้หญิงอย่างฌาริยาไม่รักดี เขาก็จะปล่อยเธอไป แต่อย่าให้เขาได้เจอเธออีก เพราะถ้าเขาเจอเธออีกครั้ง เขาจะเอาคืนให้สาสมกับที่เธอทำให้เขาต้องเจ็บปวด ฌาริยาช่วยป้านิภาทำขนมหวานขายทุกวันจนวันเวลาล่วงเลยไปจนกระทั่งเธอใกล้จะคลอด ป้านิภาจึงอยากให้เธอพักผ่อน “ฌาท้องแก่ใกล้คลอดเต็มทีแล้ว..หยุดเถอะลูก ให้ป้าทำเองดีกว่า” “ไม่เป็นไรหรอกค่ะป้า จะได้คลอดง่ายๆ ไง” “ป้ากลัวว่ามันจะเป็นอันตรายกับลูกในท้องน่ะสิ” “โอ๊ย!! ป้า ฌารู้สึกเจ็บท้อง” “จริงเหรอ..หรือว่าจะคลอดแล้ว” “ฌาโทรเรียกรถพยาบาลเถอะ เดี๋ยวป้าไปเตรียมของก่อน” “ค่ะป้า” ไม่นานนักรถพยาบาลก็มารับสองป้าหลานไปโรงพยาบาล ระหว่างทางฌาริยาก็เจ็บท้องถี่ขึ้นกว่าเดิม เธอร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด จนกระทั่งถึงโรงพยาบาล ฌาริยาถูกส่งตัวเข้าห้องคลอดทันที ส่วนป้านิภาก็รออยู่หน้าห้องคลอดด้วยความกระวนกระวายเพราะเป็นห่วงหลานสาว ในที่สุด ฌาริยาก็คลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย เธอได้ลูกสาว ฌาริยาพักที่ห้องผู้ป่วยพิเศษเพื่อความสะดวกสบาย โดยมีป้านิภาคอยดูแล “ฌาตั้งชื่อลูกไว้หรือยัง?” ผู้เป็นป้าเอ่ยถามเมื่ออุ้มหลานสาวตัวน้อยไว้ในอ้อมกอด “คิดไว้แล้วค่ะ..ชื่อเล่นชื่อ น้องเฌอ ส่วนชื่อจริง เฌอริตา ค่ะ” “อืม..ป้าว่าก็เพราะดีนะ ใช่มั้ยคะ? น้องเฌอของยาย” “แล้วฌาจะใส่ชื่อพ่อในใบเกิดหรือเปล่า?” ป้านิภาถามขึ้นมาอีกครั้ง “เว้นว่างไว้ค่ะ..ฌาไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับคนบ้านนั้นอีก” “ตามใจฌาก็แล้วกัน” ลูกเป็นของเธอคนเดียว ส่วนลูกของธนัทธามได้ตายจากไปตั้งแต่วันที่มารดาของเขาบังคับให้เธอทำแท้งแล้ว อิทธิพลของบิดามารดาเขาทำให้เธอเกรงกลัวก็จริง แต่เธอก็กล้าที่จะขัดคำสั่งของมารดาเขาด้วยการขอร้องหมอไม่ให้ทำแท้งให้เธอ เธอต้องการเด็กคนนี้ เพราะลูกคือตัวแทนความรักที่เป็นไปไม่ได้ของเธอกับเขา เธอรู้สถานะของตัวเองดีว่าเป็นได้แค่ที่ระบายความใคร่ของเขาเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ได้แต่งงานจดทะเบียนเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายและเชิดหน้าชูตาให้กับครอบครัวของเขาได้ และที่สำคัญ ธนัทธามไม่เคยรักเธอ..มีเพียงแค่เธอที่แอบรักเขาอยู่ข้างเดียว นั่นคือเหตุผลที่เธอยอมเป็นที่ระบายความใคร่ให้กับเขา ฌาริยาพักฟื้นที่โรงพยาบาลสามวัน จากนั้นเธอกับลูกสาวตัวน้อยก็ได้กลับบ้าน เธอเลี้ยงลูกด้วยความรักและความเอาใจใส่ ฌาริยาให้ลูกดื่มนมจากเต้าสลับกับปั๊มนมใส่ขวดเพื่อฝึกให้ลูกทานได้ทั้งสองแบบเผื่อเวลาที่เธอกลับไปเรียนจะได้ไม่ลำบาก เธอตั้งใจว่าจะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ไปจนลูกอายุครบหนึ่งขวบ “แอ้ แอ้” ลูกสาวตัวน้อยส่งเสียงร้องออกมา “ว่าไงคะ ลูกสาวของแม่ หิวนมใช่มั้ยคะ?” เธออุ้มลูกสาวตัวน้อยขึ้นมาแนบอกและเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน จากนั้นก็เลิกชายเสื้อเผยให้เห็นเต้านมที่ใหญ่เกือบจะเท่าลูกส้มโอ และจับจุกทับทิมสีเข้มดันเข้าปากลูกน้อยที่กำลังอ้าปากรอรับ จากนั้นลูกสาวตัวน้อยก็ดูดดังจ๊วบๆ ด้วยความหิวกระหาย เธอมองดูลูกสาวดื่มนมจากอกด้วยความรักใคร่ ลูกสาวตัวน้อยคือของขวัญที่มีค่าที่สุดในชีวิตเธอ ฌาริยาสัญญากับตัวเองว่าเธอจะดูแลของขวัญที่ธนัทธาม ผู้ชายที่เธอแอบหลงรัก มอบให้เธอก่อนที่เขาจะไปเรียนต่อต่างประเทศ ให้ดีที่สุดเท่าที่คนเป็นแม่อย่างเธอจะดูแลลูกน้อยได้ เหตุผลที่ธนัทธามถูกส่งตัวไปเรียนต่างประเทศไวกว่าเดิม นั่นเป็นเพราะคุณหญิงพิมาลา มารดาของเขาล่วงรู้ความสัมพันธ์ของเธอกับธนัทธาม คุณหญิงพิมาลาจึงต้องการที่จะแยกเขาและเธอออกจากกัน ซึ่งเธอก็เข้าใจเหตุผลของคุณหญิงพิมาลาดีว่าแม่ทุกคนก็ต้องรักลูก อยากให้ลูกมีอนาคต มีครอบครัวที่ดี มีภรรยาที่คู่ควรกัน ไม่ใช่เด็กรับใช้ในบ้านอย่างเธอ เธอเข้าในใจมุมนี้ของคุณหญิงพิมาลา แต่เธอก็รับไม่ได้ในความใจร้ายของมารดาธนัทธามเช่นกัน ที่สั่งฆ่าได้แม้กระทั่งหลานในไส้ของตัวเอง ฌาริยาเลี้ยงดูลูกสาวตัวน้อยพร้อมกับช่วยป้านิภาทำขนมขาย จวบจนลูกสาวของเธออายุครบหนึ่งปี เธอจึงไปเรียนต่อในระดับปริญญาตรี สาขาการบัญชี ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย โดยมีป้านิภาช่วยเลี้ยงลูกสาวของเธอพร้อมกับขายขนมหวานด้วย เพียงแต่ลดจำนวนขนมหวานที่ทำขายในแต่ละวันลงเพราะป้านิภาต้องดูแลหลานสาวตัวน้อย และจะทำขายช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์เยอะเหมือนเดิม เพราะฌาริยาไม่ได้ไปเรียนสองปีผ่านไป“น้องฌาร์ม..ไม่วิ่งนะคะ เดี๋ยวล้มค่ะ” ฌาริยาเดินอุ้ยอ้ายตามลูกสาวคนเล็กที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ที่สนามหญ้าข้างบ้านใช่แล้ว! เธอท้องลูกคนที่สามได้ยี่สิบเจ็ดสัปดาห์ หรือเจ็ดเดือนแล้ว ธนัทธามนั่นแหละที่ขอร้องอ้อนเธอว่าอยากได้ลูกชายอีกสักคน ตอนแรกเธอปฏิเสธเพราะยังเหนื่อยกับการเลี้ยงลูกสาวคนเล็กที่ตอนนี้อายุพึ่งจะสามขวบ แต่เธอก็ทนการรบเร้าของสามีไม่ไหว สุดท้ายก็ต้องตามใจสามีอันเป็นที่รักส่วนเด็กหญิงเฌอริตานั้น ตอนนี้ก็เริ่มโตเป็นสาวช่วยแม่เลี้ยงน้องได้แล้ว และตอนนี้ก็กำลังช่วยยายภาจัดเตรียมของว่างอยู่ “ป้อ ป้อ” เสียงเรียกพ่อของเด็กหญิงฌาริญญา หรือน้องฌาร์ม ดังขึ้นเมื่อเห็นผู้เป็นบิดาเดินเข้ามาหา“ว่าไงคะ..คนเก่งของพ่อ” ธนัทธามยื่นแขนไปอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาหอมแก้มซ้ายขวาจนเด็กน้อยหัวเราะ คิกๆ เพราะจั๊กจี้“กลับมาแล้วเหรอคะ? คุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงเป็นอย่างไรบ้างคะ?” ฌาริยาเอ่ยถามสามีเมื่อเห็นว่าเขากลับมาไวกว่าปกติ“ก็เหมือนเดิม คิดถึงลูก คิดถึงเมีย ก็เลยรีบกลับ เหมือนจะเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวด้วย” ธนัทธามยังคงดูแลทุกอย่าง ทุกคนอยู่เหมือนเดิม“เดี๋ยวคืนนี้ฌานวดให้นะคะ”“นาบด้วยได้มั้ย?”
ห้าเดือนผ่านไปฌาริยาตั้งครรภ์เข้าสู่ไตรมาสที่สามแล้ว เหลืออีกประมาณสองเดือนเธอก็ใกล้จะคลอดแล้ว เมื่อห้าเดือนก่อนธนัทธามพาฌาริยาไปจดทะเบียนสมรส และไปฝากครรภ์ ตอนนี้เขาและเธอใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายมาห้าเดือนแล้ว ชีวิตของฌาริยาในตอนนี้มีความสุขมากๆ ธนัทธามไปรับป้านิภามาอยู่ด้วยกัน และในตอนนี้เขาได้ซื้อบ้านหลังใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมหลายเท่า มีพื้นที่ไว้ให้ลูกๆ เล่นอย่างกว้างขวาง และมีสระว่ายน้ำอยู่ภายในบริเวณบ้านด้วย เรียกได้ว่าชีวิตของเธอตอนนี้สมบูรณ์แบบที่สุด มีสามีที่รักและเอาใจใส่เธอกับลูก และที่สำคัญสามีของเธอนั้นไม่เคยนอกลู่นอกทางเลย ธนัทธามเองก็ยังกลับไปดูแลบุพการีในวันเสาร์อาทิตย์เช่นเดิม ฌาริยารู้ว่าเขาเหนื่อย ไหนจะต้องทำงานที่บริษัท ไหนจะต้องดูแลบิดามารดา และยังต้องดูแลเธอกับลูกอีก ฌาริยาจึงพยายามแบ่งเบาภาระของเขาให้ได้มากที่สุด เธอไม่อยากให้เขาเหนื่อยจนเกินไป แต่เธอก็ทำอะไรได้ไม่มากเพราะตอนนี้เธอก็ท้องแก่ใกล้จะคลอดแล้ว พวกงานบ้านต่างๆ และการทำอาหารตอนนี้กลายเป็นหน้าที่ของป้านิภาไปแล้ว ส่วนฌาริยาก็ช่วยงานเล็กๆ น้อยๆ แต่จะดูแลเด็กหญิงเฌอริตาเป็นหลัก และอีกเรื่องที่
สองเดือนผ่านไปอุ๊บ! อุ๊บ! ฌาริยาตื่นมาพร้อมกับความรู้สึกอยากจะอาเจียน เธอรีบพุ่งตัวไปที่ห้องน้ำอย่างไว ก่อนจะอ้วกออกมาจนหมดหรือว่าเราจะท้อง? ต้องเป็นวันนั้นแน่ๆ เลย วันที่เธอโดนธนัทธามฝืนใจ และหลังจากนั้นเธอก็ไม่สบายจึงลืมกินยาคุมฉุกเฉิน เพราะเธอหยุดกินยาคุมกำเนิดตั้งแต่ที่จบความสัมพันธ์กับเขาแล้วถ้าท้องขึ้นมาจริงๆ เธอจะทำอย่างไรดี?หลังจากที่ธนัทธามไปส่งเด็กหญิงเฌอริตาที่โรงเรียนและเขาก็เลยไปทำงาน ฌาริยาจึงรีบขึ้นแท็กซี่ไปโรงพยาบาล เธอต้องการตรวจให้แน่ใจว่าท้องจริงหรือเปล่า“ยินดีด้วยนะคะ คนไข้ตั้งครรภ์ได้แปดสัปดาห์แล้วค่ะ” สิ้นเสียงของหมอ โสตประสาทสัมผัสของเธอหยุดทำงานไปชั่วขณะ กว่าจะตั้งสติได้ก็ผ่านไปนานหลายวินาที“ดิฉันท้องจริงๆ ใช่มั้ยคะ? คุณหมอ”“ใช่ค่ะ คนไข้จะฝากครรภ์เลยมั้ยคะ?”“เอ่อ..ยังค่ะ”“ได้ค่ะ.งั้นเดี๋ยวหมอจะจัดยาบำรุงครรภ์ให้นะคะ ถ้าคนไข้จะมาฝากครรภ์คราวหน้าให้พาคุณพ่อมาด้วยนะคะ”“อ๋อค่ะ”ฌาริยาออกจากโรงพยาบาลและกลับมาถึงบ้านในสภาพจิตใจที่ไม่มั่นคงนัก เธอนั่งมองภาพอัลตร้าซาวด์ลูกน้อยที่อยู่ในท้องของเธอด้วยความรู้สึกหลากหลาย มีทั้งความดีใจ มีทั้งความกังวลใจ ตอนนี้เ
หลังจากที่ไข้ลดฌาริยาก็ไปทำอาหารเช้า เธอปล่อยให้เขานอนอยู่อย่างนั้น เธอไม่กล้าปลุกเพราะกลัวว่าเขาจะตื่น เธอไม่รู้ว่าเขาได้นอนตอนไหน“แม่ฌาหายดีแล้วเหรอคะ?” เด็กน้อยที่พึ่งตื่นงัวเงียถามมารดา“แม่ดีขึ้นแล้วค่ะ วันนี้น้องเฌอคงต้องลาอีกหนึ่งวันนะคะ เดี๋ยวแม่โทรบอกคุณครูเองค่ะ” “ได้ค่ะ” “น้องเฌอหิวหรือยังคะ? แม่ทำอาหารเช้าเสร็จแล้ว”“ยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ค่ะ แล้วพ่อธามล่ะคะ?” เด็กน้อยตอบก่อนจะถามหาบิดา“พ่อธามหลับอยู่ค่ะ” “เมื่อวานพ่อธามดูแลแม่ฌาทั้งวันเลยค่ะ เพราะแม่ฌาไม่สบายตัวร้อน แล้วพ่อธามก็ทำอาหารให้น้องเฌอทาน อาบน้ำให้น้องเฌอ แล้วก็พาน้องเฌอเข้านอน เสร็จแล้วพ่อธามก็ไปดูแลแม่ฌาต่อค่ะ” เด็กน้อยอธิบายจนเธอเห็นภาพ“จริงเหรอคะ?” “จริงค่ะ” “งั้นเราปล่อยให้พ่อธามนอนพักผ่อนดีมั้ยคะ?”“ดีค่ะ” จากนั้นสองแม่ลูกก็พากันเล่นของเล่นอยู่ในห้องรับแขกธนัทธามตื่นมาอีกทีเกือบสิบเอ็ดโมง ขณะนั้น ฌาริยากำลังทำอาหารกลางวันอยู่“ดีขึ้นแล้วเหรอ? ถึงมาทำอาหารได้” เขาเอ่ยถามเมื่อเดินเข้ามาในครัวเพราะได้กลิ่นหอมเหมือนแกงจืดอะไรสักอย่าง“ไม่มีไข้แล้วค่ะ” หญิงสาวตอบเสียงเรียบ“ฉันขอโทษนะที่ทำให้ฌาต้องเ
ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูดังขึ้น ฌาริยาจึงเดินมาเปิดประตู“คุณธามมีอะไรหรือเปล่าคะ?” “ลูกหลับแล้วเหรอ?” เขาไม่ตอบแต่หากเป็นฝ่ายถามเธอกลับ“หลับแล้วค่ะ มีอะไรคะ?” “ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย” เขาตอบเสียงเรียบ“เรื่องอะไรคะ?” เธอเลิกคิ้วถามออกมา“จะยืนคุยกันตรงประตูนี่หรือไง?” ฌาริยาพ่นลมหายใจออกมาก่อนจะตอบออกไป“งั้นก็ออกไปคุยกันข้างนอกก็ได้ค่ะ เดี๋ยวลูกจะตื่น” พูดจบเขาและเธอก็เดินออกมาจากห้อง เธอปิดประตูและหมุนตัวมาคุยกับเขา“คุณธามมีอะไรจะคุยกับฌาคะ?” “ฉันไม่ชอบให้ฌาไปคุยหรือสนิทสนมกับผู้ชายคนอื่นแบบนั้น” “ฌาจะคุยกับใครหรือสนิทกับใครมันก็สิทธิ์ของฌาหรือเปล่าคะ?” “ฌาไม่มีสิทธิ์คุยกับผู้ชายคนอื่น”“คุณธามก็ไม่มีสิทธิ์มาสั่งฌาเหมือนกัน เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกัน”“ฉันไม่มีสิทธิ์อย่างนั้นเหรอ? ไม่ได้เป็นอะไรกันอย่างนั้นเหรอ? สงสัยต้องทบทวนหน่อยล่ะมั้งว่าเราเป็นอะไรกัน” พูดจบเขาก็จับข้อมือทั้งสองข้างของเธอขึ้นมาและตรึงเธอไว้กับประตูห้อง“คุณธาม จะทำอะไร?” “ก็ทำแบบนี้ไง” สิ้นเสียงของชายหนุ่ม เขาก็ประกบริมฝีปากของตัวเองลงบนริมฝีปากของเธอ และสอดลิ้นอุ่นร้อนเข้าไปในโพรงปากหวาน เขาบดจูบเธออย
วันเสาร์วันนี้เด็กหญิงเฌอริตาตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวไปเรียนศิลปะ เด็กน้อยดีใจที่จะได้เจอเพื่อนที่เรียนด้วยกันซึ่งมีอายุเท่ากัน “มาตา มานานแล้วเหรอ?” เด็กหญิงเฌอริตาเอ่ยทักเมื่อเห็นว่าเพื่อนอยู่ที่ศูนย์แกลลอรี่ก่อนแล้ว“อืมม เราพึ่งมาถึงเมื่อกี้นี้เอง นี่คุณพ่อของเรา” เด็กหญิงคนที่ชื่อมาตาแนะนำให้เพื่อนรู้จักกับบิดาของเธอ“สวัสดีค่ะ คุณลุง” เด็กหญิงเฌอริตายกมือไหว้บิดาของเพื่อน“สวัสดีครับ น้องเฌอใช่มั้ยครับ เห็นมาตาเล่าให้ฟังอยู่บ่อยๆ” “ใช่ค่ะ ส่วนนี่แม่ของน้องเฌอเองค่ะ” เด็กน้อยหันไปแนะนำมารดา“สวัสดีค่ะ คุณน้า คุณน้าสวยจังเลยค่ะ” เด็กหญิงมาตายกมือไหว้มารดาของเพื่อนพร้อมกับเอ่ยชม“สวัสดีค่ะ น้องมาตา ขอบคุณมากนะคะ” ฌาริยายิ้มออกมา“เอ่อ..สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ คุณเอ่อ..” มานพ บิดาของเด็กหญิงมาตากล่าวทักทายหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า เธอสวยเหมือนที่มาตาพูดจริงๆ ด้วย“สวัสดีค่ะ ฌาริยาค่ะ เรียกฌาเฉยๆ ก็ได้ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ” “ผมมานพนะครับ เรียกนพเฉยๆ ก็ได้ครับ” “อ๋อค่ะ คุณนพ”หลังจากนั้นเด็กน้อยสองคนก็เข้าคลาสเรียนศิลปะ ส่วนผู้ปกครองของเด็กหญิงทั้งสองก็ไปนั่งดื่