หนึ่งเดือนผ่านไป
ธนัทธามเดินทางไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษได้หนึ่งเดือนแล้ว เขาต้องปรับตัวเป็นอย่างมาก กว่าทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทางก็ทำเอาซะหืดขึ้นคอ การไปใช้ชีวิตอยู่คนเดียวในต่างแดนไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ชายหนุ่มทั้งโทรทั้งส่งข้อความคุยกับฌาริยาทุกวัน มันไม่ง่ายเลยกับการที่ต้องนอนคนเดียวบนเตียงกว้าง เขาอยากกลับไปนอนกับเธอบนเตียงแคบๆ มากกว่า ทางด้านฌาริยา ที่ตอนนี้กำลังเตรียมตัวเข้าเรียนมหาวิทยาลัยที่เธอสอบได้ตามคณะที่เธอต้องการ แต่เมื่อสองวันก่อนเธอก็รู้สึกเวียนหัว พะอืดพะอม อยากจะอาเจียน จนผู้เป็นป้าสงสัยจึงได้เอ่ยถามหลานสาว “ฌา..เป็นอะไร ไม่สบายหรือเปล่า?” “น่าจะเป็นโรคกระเพาะจ่ะป้า ช่วงนี้ฌาทานข้าวไม่ค่อยตรงเวลา” “ไม่ใช่ว่าท้องหรอกเหรอ?” “ป้า” หญิงสาวหน้าซีดเมื่อได้ยินคำถามของผู้เป็นป้า ทันใดนั้น เสียงของคุณหญิงพิมาลาก็ดังขึ้นมา “ฌา นิภา ไปคุยกับฉันบนตึกหน่อย” “คุณผู้หญิง / คุณหญิง” สองป้าหลานต่างตกใจที่ได้ยินเสียงของคุณหญิงพิมาลา หน้าของฌาริยาซีดเผือดขึ้นกว่าเดิม “ค่ะ / ค่ะ” จากนั้นฌาริยากับนิภาก็เดินตามคุณหญิงพิมาลาไป “เธอท้องเหรอฌา?” เสียงของคุณหญิงพิมาลาเอ่ยถามออกมาอย่างน่ากลัว “เอ่อ..คือว่า” ฌาริยานั่งก้มหน้านิ่งพูดไม่ออก “ฉันถามว่าเธอท้องเหรอ?” คุณหญิงพิมาลาถามออกมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเจือโมโห “ฌาไม่แน่ใจค่ะ ฌายังไม่ได้ตรวจ” “ยัยฌา..นี่แกไปท้องกับใครบอกป้ามาเดี๋ยวนี้นะ?” เสียงของผู้เป็นป้าเอ่ยถามหลานสาว “นิภา เธอเป็นป้าประสาอะไร หลานของตัวเองนอนกับลูกชายเจ้าของบ้านที่ให้ที่อยู่ที่กิน เธอไม่เคยรู้เรื่องนี้เลยเหรอ?” “ตายจริง! ดิฉันไม่เคยทราบเรื่องนี้เลยค่ะ” “เธอนี่ก็ฉลาดนะ..ปล่อยให้ตัวเองท้องเพื่อที่จะจับลูกชายฉัน เธอมันกินบนเรือนขี้รดบนหลังคา ฉันอุตส่าห์ส่งเสียเลี้ยงดูเธอมาอย่างดี เธอทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง ฌาริยา?” “คุณผู้หญิงคะ ฌาไม่เคยคิดแบบนั้นเลยนะคะ” “หึ! ไม่เคยคิด แต่เธอก็ทำเนี่ยนะ” “ฌาขอโทษค่ะคุณผู้หญิง” หญิงสาวยกมือไหว้ผู้เป็นเจ้าของบ้าน “ฉันจะพาเธอไปตรวจ ถ้าเธอท้องจริงๆ เธอต้องเอาเด็กออก” “คุณผู้หญิงคะ ไม่นะคะ ฌาไม่ทำ” คำพูดของคุณหญิงพิมาลาทำให้เธอและผู้เป็นป้าต่างก็ตกใจ ไม่คิดว่าคุณหญิงพิมาลาจะพูดคำนี้ออกมา “เธอต้องทำ..ถ้าเธอไม่ทำ เธอจะไม่มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ เธอก็รู้ว่าฉันสามารถทำให้เธอหายไปจากโลกนี้ได้โดยที่ไม่มีใครรู้” คุณหญิงพิมาลาใช้อิทธิพลของผู้เป็นสามีมาข่มขู่ “คุณผู้หญิงสงสารฌาเถอะนะคะ ฌาทำไม่ได้จริงๆ ค่ะ ฌาฆ่าลูกไม่ได้ ฮือ ฮือ” ฌาริยาร่ำร้องออกมา “แต่ฉันยอมไม่ได้ที่จะให้เลือดเนื้อเชื้อไขของตาธามอยู่ในท้องของเธอ ลูกของตาธามต้องเกิดกับผู้หญิงที่เพียบพร้อมเท่านั้น ผู้หญิงอย่างเธอไม่มีวันได้เป็นแม่ของหลานฉัน เธออย่าหวังสูงไปหน่อยเลย อยากเป็นหนูตกถังข้าวสารหรือยังไง” “ฌาขอร้องนะคะ..คุณผู้หญิงให้ฌาไปจากที่นี่ก็ได้ ฌาสัญญาว่าฌาจะไม่กลับมาที่นี่อีก ฌาจะไม่ติดต่อคุณธามอีก แต่ขอแค่ให้ลูกยังอยู่กับฌา” “ไม่ได้! ยังไงเธอก็ต้องเอาเด็กออก ฉันไม่ต้องการให้ไอ้เด็กนี่มาสร้างปัญหาในอนาคต” “โถ่! คุณผู้หญิง ฮือ ฮือ” ฌาริยาร้องไห้แทบขาดใจส่วนผู้เป็นป้านั้นก็ไม่สามารถช่วยอะไรหลานสาวได้เพราะรู้อิทธิพลของคุณหญิงพิมาลาดี “ฌา ทำตามที่คุณผู้หญิงสั่งเถอะนะ” นิภาโน้มน้าวหลานสาวอีกคน “ป้า ฮือ ฮือ” ฌาริยาร้องไห้ปานจะขาดใจ โรงพยาบาลxxx ฌาริยาถูกพาตัวมาโรงพยาบาลเพื่อตรวจการตั้งครรภ์ สรุปว่าเธอท้องจริงๆ ฌาริยาตั้งท้องได้แปดสัปดาห์ ผู้หญิงที่อายุครรภ์ไม่เกินสิบสองสัปดาห์ สามารถทำแท้งได้โดยไม่มีความผิด หากเป็นการยุติการตั้งครรภ์โดย ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ดังนั้น ฌาริยาจึงถูกส่งตัวเข้าห้องผ่าตัดทันทีโดยที่เธอไม่สามารถทัดทานได้ ฌาริยาพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสองวันหลังจากที่ยุติการตั้งครรภ์เรียบร้อยแล้ว ในวันที่เธอต้องออกจากโรงพยาบาล คุณหญิง พิมาลาพาป้านิภามาหาเธอพร้อมกับกระเป๋าใบใหญ่สองใบ ฌาริยายังไม่ทันได้เอ่ยถามออกไป คุณหญิงพิมาลาก็ชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน “ฉันคงจะให้เธอกับป้าของเธออยู่ที่บ้านฉันต่อไม่ได้ ฉันจะให้เงินเธอสองคนไปตั้งตัวหนึ่งล้านบาท ถ้าใช้ดีๆ เธอสองคนก็อยู่กันได้อย่างสบาย” คุณหญิงพิมาลาเชิดหน้าก่อนจะพูดออกมา “ค่ะ” ฌาริยายอมรับแต่โดยดี เพราะเธอจำเป็นต้องใช้เงิน “และเธอต้องตัดการติดต่อทุกช่องทางกับตาธาม เธอต้องสาบานต่อหน้าฉันและป้าของเธอว่าเธอจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับลูกชายของฉันอีก” คุณหญิงพิมาลาสั่งด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ค่ะ ฌาสาบานว่าฌาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับคุณธามอีก” ฌาริยาทำตามอย่างว่าง่ายทั้งที่ภายในใจมันแทบจะแตกสลาย “เอาโทรศัพท์ของเธอมา” “คุณผู้หญิงจะเอาไปทำอะไรคะ” หญิงสาวถามด้วยความสงสัย “ส่งข้อความหาตาธามว่าเธอหนีไปกับผู้ชายคนอื่นแล้วก็บล็อกทุกช่องทางการติดต่อ” คุณหญิงพิมาลาสั่งเธออีกครั้ง ฌาริยายื่นโทรศัพท์ให้คุณหญิงพิมาลา จากนั้นคุณหญิงพิมาลาก็ส่งข้อความหาธนัทธาม และบล็อกทุกช่องทางการติดต่อ จากนั้นก็ยื่นโทรศัพท์พร้อมกับเช็กใบหนึ่งให้เธอ และเดินออกจากห้องไปในทันที หลังจากที่คุณหญิงพิมาลาเดินออกไปจากห้อง ฌาริยาร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย เธอร้องจนน้ำตาแทบจะเป็นสายเลือด เธอไม่คิดว่าคุณผู้หญิงที่ภายนอกดูจิตใจดีมีเมตตา จะใจร้ายใจดำได้ถึงเพียงนี้ สั่งฆ่าได้แม้กระทั่งหลานของตัวเอง “ป้า ฌาขอโทษนะคะ ที่ทำให้ป้าต้องเดือดร้อนไปด้วย” “ไม่เป็นไรหรอกฌา ป้าเองก็ทำงานมาหลายสิบปี ป้าจะได้พักผ่อนสักที ป้าพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง รวมกับที่คุณผู้หญิงให้ ป้าว่าเราคงไม่ลำบากหรอก ฌาก็เรียนมาหาลัยให้จบจะได้เป็นใบเบิกทางในอนาคต” “ป้า..ฌามีเรื่องจะบอก” “เรื่องอะไร?” “จริงๆ แล้ว ลูกในท้องของฌายังอยู่ ฌาไม่ได้ทำแท้งตามที่คุณผู้หญิงสั่ง” “จริงเหรอฌา..มันจะเป็นไปได้ยังไง?” “ฌาขอร้องให้หมอช่วยค่ะ..ฌาฆ่าลูกของฌาไม่ได้จริงๆ ค่ะ” “เอาเถอะ..ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่เป็นบาปติดตัวด้วย เดี๋ยวป้าจะช่วยฌาเลี้ยงเอง ฌาไม่ต้องห่วงนะ” “ฌาขอบคุณป้ามากๆ นะคะ ถ้าชีวิตนี้ของฌาไม่มีป้า ไม่รู้ว่าป่านนี้ฌาจะเป็นอย่างไรบ้าง” “เตรียมตัวออกจากโรงพยาบาลเถอะ..คุณผู้หญิงจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายให้เรียบร้อยแล้ว” “แล้วเราจะไปอยู่ที่ไหนกันคะ?” “ป้าจะพาฌากลับไปอยู่บ้านเกิดของป้ากับแม่ของฌาที่เชียงราย” “ค่ะก็ดีเหมือนกัน..ไปให้ไกลจากที่นี่” ทางด้านธนัทธามหลังจากที่เขาได้รับข้อความจากฌาริยา เขารีบโทรกลับมาหาเธอทันที แต่ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้ ชายหนุ่มสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่ จู่ๆ ก็ส่งข้อความมาให้เขาแบบนี้ ตอนนี้จิตใจของเขากระวนกระวายจนไม่เป็นอันทำอะไร ในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหวต้องโทรไปสอบถามผู้เป็นมารดา (ฮัลโหล ว่ายังไงธาม) “คุณแม่ครับ เกิดอะไรขึ้นกับฌาครับ พอดีผมติดต่อฌาไม่ได้” (ยัยฌามันหนีไปกับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ ก่อนหน้านี้แม่เห็นผู้ชายมารับมาส่งทุกวัน ไม่รู้ว่าพากันไปไหน แล้วยัยฌาก็เก็บข้าวของหนีไปกับผู้ชายคนนั้น ส่วนนิภาก็ขอลาออกเพราะละอายต่อการกระทำของหลานสาว) “จริงเหรอครับคุณแม่?” (จริงสิธาม แม่ไม่โกหกธามหรอกนะ) “ขอบคุณครับแม่” หลังจากที่ธนัทธามรับรู้ความจริงที่เกิดขึ้น เขาเอาแต่ดื่มเหล้าเมามาย จนไม่เป็นผู้เป็นคน ทำไมฌาริยาถึงไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับเขา ความเจ็บปวด ความเสียใจถาโถมเข้ามาจนเขารับแทบไม่ไหว จนในที่สุดเขาก็ตัดใจจากฌาริยา ผู้หญิงสารเลว ผู้หญิงที่ไม่รักดี ตอนนี้เขามีแต่ความโกรธ ความเกลียดให้กับเธอเท่านั้น ถ้าเขาเจอเธออีกครั้ง เธอต้องชดใช้อย่างสาสม เขาสาบานกับตัวเองสองปีผ่านไป“น้องฌาร์ม..ไม่วิ่งนะคะ เดี๋ยวล้มค่ะ” ฌาริยาเดินอุ้ยอ้ายตามลูกสาวคนเล็กที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ที่สนามหญ้าข้างบ้านใช่แล้ว! เธอท้องลูกคนที่สามได้ยี่สิบเจ็ดสัปดาห์ หรือเจ็ดเดือนแล้ว ธนัทธามนั่นแหละที่ขอร้องอ้อนเธอว่าอยากได้ลูกชายอีกสักคน ตอนแรกเธอปฏิเสธเพราะยังเหนื่อยกับการเลี้ยงลูกสาวคนเล็กที่ตอนนี้อายุพึ่งจะสามขวบ แต่เธอก็ทนการรบเร้าของสามีไม่ไหว สุดท้ายก็ต้องตามใจสามีอันเป็นที่รักส่วนเด็กหญิงเฌอริตานั้น ตอนนี้ก็เริ่มโตเป็นสาวช่วยแม่เลี้ยงน้องได้แล้ว และตอนนี้ก็กำลังช่วยยายภาจัดเตรียมของว่างอยู่ “ป้อ ป้อ” เสียงเรียกพ่อของเด็กหญิงฌาริญญา หรือน้องฌาร์ม ดังขึ้นเมื่อเห็นผู้เป็นบิดาเดินเข้ามาหา“ว่าไงคะ..คนเก่งของพ่อ” ธนัทธามยื่นแขนไปอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาหอมแก้มซ้ายขวาจนเด็กน้อยหัวเราะ คิกๆ เพราะจั๊กจี้“กลับมาแล้วเหรอคะ? คุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงเป็นอย่างไรบ้างคะ?” ฌาริยาเอ่ยถามสามีเมื่อเห็นว่าเขากลับมาไวกว่าปกติ“ก็เหมือนเดิม คิดถึงลูก คิดถึงเมีย ก็เลยรีบกลับ เหมือนจะเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวด้วย” ธนัทธามยังคงดูแลทุกอย่าง ทุกคนอยู่เหมือนเดิม“เดี๋ยวคืนนี้ฌานวดให้นะคะ”“นาบด้วยได้มั้ย?”
ห้าเดือนผ่านไปฌาริยาตั้งครรภ์เข้าสู่ไตรมาสที่สามแล้ว เหลืออีกประมาณสองเดือนเธอก็ใกล้จะคลอดแล้ว เมื่อห้าเดือนก่อนธนัทธามพาฌาริยาไปจดทะเบียนสมรส และไปฝากครรภ์ ตอนนี้เขาและเธอใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายมาห้าเดือนแล้ว ชีวิตของฌาริยาในตอนนี้มีความสุขมากๆ ธนัทธามไปรับป้านิภามาอยู่ด้วยกัน และในตอนนี้เขาได้ซื้อบ้านหลังใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมหลายเท่า มีพื้นที่ไว้ให้ลูกๆ เล่นอย่างกว้างขวาง และมีสระว่ายน้ำอยู่ภายในบริเวณบ้านด้วย เรียกได้ว่าชีวิตของเธอตอนนี้สมบูรณ์แบบที่สุด มีสามีที่รักและเอาใจใส่เธอกับลูก และที่สำคัญสามีของเธอนั้นไม่เคยนอกลู่นอกทางเลย ธนัทธามเองก็ยังกลับไปดูแลบุพการีในวันเสาร์อาทิตย์เช่นเดิม ฌาริยารู้ว่าเขาเหนื่อย ไหนจะต้องทำงานที่บริษัท ไหนจะต้องดูแลบิดามารดา และยังต้องดูแลเธอกับลูกอีก ฌาริยาจึงพยายามแบ่งเบาภาระของเขาให้ได้มากที่สุด เธอไม่อยากให้เขาเหนื่อยจนเกินไป แต่เธอก็ทำอะไรได้ไม่มากเพราะตอนนี้เธอก็ท้องแก่ใกล้จะคลอดแล้ว พวกงานบ้านต่างๆ และการทำอาหารตอนนี้กลายเป็นหน้าที่ของป้านิภาไปแล้ว ส่วนฌาริยาก็ช่วยงานเล็กๆ น้อยๆ แต่จะดูแลเด็กหญิงเฌอริตาเป็นหลัก และอีกเรื่องที่
สองเดือนผ่านไปอุ๊บ! อุ๊บ! ฌาริยาตื่นมาพร้อมกับความรู้สึกอยากจะอาเจียน เธอรีบพุ่งตัวไปที่ห้องน้ำอย่างไว ก่อนจะอ้วกออกมาจนหมดหรือว่าเราจะท้อง? ต้องเป็นวันนั้นแน่ๆ เลย วันที่เธอโดนธนัทธามฝืนใจ และหลังจากนั้นเธอก็ไม่สบายจึงลืมกินยาคุมฉุกเฉิน เพราะเธอหยุดกินยาคุมกำเนิดตั้งแต่ที่จบความสัมพันธ์กับเขาแล้วถ้าท้องขึ้นมาจริงๆ เธอจะทำอย่างไรดี?หลังจากที่ธนัทธามไปส่งเด็กหญิงเฌอริตาที่โรงเรียนและเขาก็เลยไปทำงาน ฌาริยาจึงรีบขึ้นแท็กซี่ไปโรงพยาบาล เธอต้องการตรวจให้แน่ใจว่าท้องจริงหรือเปล่า“ยินดีด้วยนะคะ คนไข้ตั้งครรภ์ได้แปดสัปดาห์แล้วค่ะ” สิ้นเสียงของหมอ โสตประสาทสัมผัสของเธอหยุดทำงานไปชั่วขณะ กว่าจะตั้งสติได้ก็ผ่านไปนานหลายวินาที“ดิฉันท้องจริงๆ ใช่มั้ยคะ? คุณหมอ”“ใช่ค่ะ คนไข้จะฝากครรภ์เลยมั้ยคะ?”“เอ่อ..ยังค่ะ”“ได้ค่ะ.งั้นเดี๋ยวหมอจะจัดยาบำรุงครรภ์ให้นะคะ ถ้าคนไข้จะมาฝากครรภ์คราวหน้าให้พาคุณพ่อมาด้วยนะคะ”“อ๋อค่ะ”ฌาริยาออกจากโรงพยาบาลและกลับมาถึงบ้านในสภาพจิตใจที่ไม่มั่นคงนัก เธอนั่งมองภาพอัลตร้าซาวด์ลูกน้อยที่อยู่ในท้องของเธอด้วยความรู้สึกหลากหลาย มีทั้งความดีใจ มีทั้งความกังวลใจ ตอนนี้เ
หลังจากที่ไข้ลดฌาริยาก็ไปทำอาหารเช้า เธอปล่อยให้เขานอนอยู่อย่างนั้น เธอไม่กล้าปลุกเพราะกลัวว่าเขาจะตื่น เธอไม่รู้ว่าเขาได้นอนตอนไหน“แม่ฌาหายดีแล้วเหรอคะ?” เด็กน้อยที่พึ่งตื่นงัวเงียถามมารดา“แม่ดีขึ้นแล้วค่ะ วันนี้น้องเฌอคงต้องลาอีกหนึ่งวันนะคะ เดี๋ยวแม่โทรบอกคุณครูเองค่ะ” “ได้ค่ะ” “น้องเฌอหิวหรือยังคะ? แม่ทำอาหารเช้าเสร็จแล้ว”“ยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ค่ะ แล้วพ่อธามล่ะคะ?” เด็กน้อยตอบก่อนจะถามหาบิดา“พ่อธามหลับอยู่ค่ะ” “เมื่อวานพ่อธามดูแลแม่ฌาทั้งวันเลยค่ะ เพราะแม่ฌาไม่สบายตัวร้อน แล้วพ่อธามก็ทำอาหารให้น้องเฌอทาน อาบน้ำให้น้องเฌอ แล้วก็พาน้องเฌอเข้านอน เสร็จแล้วพ่อธามก็ไปดูแลแม่ฌาต่อค่ะ” เด็กน้อยอธิบายจนเธอเห็นภาพ“จริงเหรอคะ?” “จริงค่ะ” “งั้นเราปล่อยให้พ่อธามนอนพักผ่อนดีมั้ยคะ?”“ดีค่ะ” จากนั้นสองแม่ลูกก็พากันเล่นของเล่นอยู่ในห้องรับแขกธนัทธามตื่นมาอีกทีเกือบสิบเอ็ดโมง ขณะนั้น ฌาริยากำลังทำอาหารกลางวันอยู่“ดีขึ้นแล้วเหรอ? ถึงมาทำอาหารได้” เขาเอ่ยถามเมื่อเดินเข้ามาในครัวเพราะได้กลิ่นหอมเหมือนแกงจืดอะไรสักอย่าง“ไม่มีไข้แล้วค่ะ” หญิงสาวตอบเสียงเรียบ“ฉันขอโทษนะที่ทำให้ฌาต้องเ
ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูดังขึ้น ฌาริยาจึงเดินมาเปิดประตู“คุณธามมีอะไรหรือเปล่าคะ?” “ลูกหลับแล้วเหรอ?” เขาไม่ตอบแต่หากเป็นฝ่ายถามเธอกลับ“หลับแล้วค่ะ มีอะไรคะ?” “ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย” เขาตอบเสียงเรียบ“เรื่องอะไรคะ?” เธอเลิกคิ้วถามออกมา“จะยืนคุยกันตรงประตูนี่หรือไง?” ฌาริยาพ่นลมหายใจออกมาก่อนจะตอบออกไป“งั้นก็ออกไปคุยกันข้างนอกก็ได้ค่ะ เดี๋ยวลูกจะตื่น” พูดจบเขาและเธอก็เดินออกมาจากห้อง เธอปิดประตูและหมุนตัวมาคุยกับเขา“คุณธามมีอะไรจะคุยกับฌาคะ?” “ฉันไม่ชอบให้ฌาไปคุยหรือสนิทสนมกับผู้ชายคนอื่นแบบนั้น” “ฌาจะคุยกับใครหรือสนิทกับใครมันก็สิทธิ์ของฌาหรือเปล่าคะ?” “ฌาไม่มีสิทธิ์คุยกับผู้ชายคนอื่น”“คุณธามก็ไม่มีสิทธิ์มาสั่งฌาเหมือนกัน เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกัน”“ฉันไม่มีสิทธิ์อย่างนั้นเหรอ? ไม่ได้เป็นอะไรกันอย่างนั้นเหรอ? สงสัยต้องทบทวนหน่อยล่ะมั้งว่าเราเป็นอะไรกัน” พูดจบเขาก็จับข้อมือทั้งสองข้างของเธอขึ้นมาและตรึงเธอไว้กับประตูห้อง“คุณธาม จะทำอะไร?” “ก็ทำแบบนี้ไง” สิ้นเสียงของชายหนุ่ม เขาก็ประกบริมฝีปากของตัวเองลงบนริมฝีปากของเธอ และสอดลิ้นอุ่นร้อนเข้าไปในโพรงปากหวาน เขาบดจูบเธออย
วันเสาร์วันนี้เด็กหญิงเฌอริตาตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวไปเรียนศิลปะ เด็กน้อยดีใจที่จะได้เจอเพื่อนที่เรียนด้วยกันซึ่งมีอายุเท่ากัน “มาตา มานานแล้วเหรอ?” เด็กหญิงเฌอริตาเอ่ยทักเมื่อเห็นว่าเพื่อนอยู่ที่ศูนย์แกลลอรี่ก่อนแล้ว“อืมม เราพึ่งมาถึงเมื่อกี้นี้เอง นี่คุณพ่อของเรา” เด็กหญิงคนที่ชื่อมาตาแนะนำให้เพื่อนรู้จักกับบิดาของเธอ“สวัสดีค่ะ คุณลุง” เด็กหญิงเฌอริตายกมือไหว้บิดาของเพื่อน“สวัสดีครับ น้องเฌอใช่มั้ยครับ เห็นมาตาเล่าให้ฟังอยู่บ่อยๆ” “ใช่ค่ะ ส่วนนี่แม่ของน้องเฌอเองค่ะ” เด็กน้อยหันไปแนะนำมารดา“สวัสดีค่ะ คุณน้า คุณน้าสวยจังเลยค่ะ” เด็กหญิงมาตายกมือไหว้มารดาของเพื่อนพร้อมกับเอ่ยชม“สวัสดีค่ะ น้องมาตา ขอบคุณมากนะคะ” ฌาริยายิ้มออกมา“เอ่อ..สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ คุณเอ่อ..” มานพ บิดาของเด็กหญิงมาตากล่าวทักทายหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า เธอสวยเหมือนที่มาตาพูดจริงๆ ด้วย“สวัสดีค่ะ ฌาริยาค่ะ เรียกฌาเฉยๆ ก็ได้ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ” “ผมมานพนะครับ เรียกนพเฉยๆ ก็ได้ครับ” “อ๋อค่ะ คุณนพ”หลังจากนั้นเด็กน้อยสองคนก็เข้าคลาสเรียนศิลปะ ส่วนผู้ปกครองของเด็กหญิงทั้งสองก็ไปนั่งดื่