Share

บทที่ 123

Penulis: สั่งไม่หยุด
นางถาน “เจ้า...”

ครั้นนางเห็นบุตรสาวดื้อด้านเช่นนี้ ก็เกิดมีน้ำโหเช่นกัน

เมื่อนางเบือนศีรษะก็เห็นถานผิงถิง จึงถามขึ้นมาประโยคหนึ่ง “ผิงถิง ท่านโหวบอกว่าเจ้าก็ไปด้วย เหตุใดเจ้าถึงไม่ห้ามน้องของเจ้าล่ะ?”

เมื่อนางกล่าวถึงถานผิงถิง

สายตาเหี้ยมโหดของฉีอวี่เยียนก็ตกไปที่ถานผิงถิง “ทั้งหมดเป็นเพราะท่าน! หรงจือจือก็บอกแล้ว ที่จางหมัวมัวมาที่จวนไม่ได้มาพูดเรื่องหมั้นหมายใหม่อีกครั้ง!”

“ท่านก็เอาแต่ยุแยงตะแคงรั่วอยู่ข้าง ๆ อยู่นั่น บอกว่าหรงจือจือดูถูกข้า จงใจปิดบังข้า เพราะไม่อยากให้ข้าแต่งงานเข้าจวนอ๋อง”

“เพราะข้าฟังคำพูดซี้ซั้วของท่าน ถึงได้ไปโวยวาย! หากท่านไม่พูดเรื่องพวกนั้น ข้าจะเลอะเลือนเช่นนี้ได้อย่างไร?”

คนอย่างฉีอวี่เยียน เห็นแก่ตัวมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ทว่าหากมีอะไรต้องรับผิดชอบ เช่นนั้นก็เป็นคนข้างกาย

ในวินาทีนี้ไหนเลยที่นางจะนึกคำพูดในตอนนั้นของถานผิงถิงไม่ออก?

ครั้นเห็นสายตาเย็นเยียบของนางถานทอดมองมา ถานผิงถิงก็รีบเอ่ยขึ้นว่า “น้องอวี่เยียน ตอนนั้นก็เป็นเพราะข้าหวังดีกับเจ้านะ! ข้าเพียงกลัวว่าสกุลหรงจะมีเจตนาไม่ดี ถึงได้คาดเดา...”

ฉีอวี่เยียนกล่าวขึ้นอย่างโกรธแค้น “ท่านก็ไม่ไ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 124

    คิ้วตาของอวี้หมัวมัวขยับเล็กน้อย ทว่าอย่างไรนางก็สุขุมกว่าเจาซีหน่อย ในฐานะบ่าวรับใช้ แม้จะไม่พอใจ ก็ไม่มีทางโวยวายกับเจ้านายง่าย ๆ หากยั่วจนฉีจื่อฟู่สั่งสอนตน จะเป็นการสร้างความลำบากให้คุณหนูโดยไม่มีสาเหตุเปล่า ๆจึงไม่ได้พูดอะไรมากความ นางเอ่ยเพียง “ท่านซื่อจื่อ เตาอุ่นมือนี้ ปกติฮูหยินซื่อจื่อโปรดปรานเป็นอย่างมาก”ฉีจื่อฟู่ “นั่นแล้วอย่างไร? หรือว่าความชอบเล็กน้อยนั่นของนาง มันสำคัญกว่าเด็กในท้องของม่านหวา?”พูดจบก็ไม่สนใจอวี้หมัวมัวอีก จากนั้นก็สาวเท้าก้าวยาวเดินออกไปอวี้หมัวมัวชะงักไป ก่อนจะมองเจาอู้ทีหนึ่ง “คิดว่าคุณหนูคงออกมาจากห้องท่านโหวแล้ว เจ้าไปบอกเรื่องนี้กับคุณหนูซะ”กะอีแค่เตาอุ่นมืออันเดียว อวี้หมัวมัวรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ที่จริงคุณหนูก็ไม่ได้ขาดแคลนเลยทว่าการกระทำของฉีจื่อฟู่ กลับทำคนสะอิดสะเอียนอย่างไร้สาเหตุเจาอู้ “เจ้าค่ะ!”…ในวินาทีนี้หรงจือจือออกมาจากห้องหนังสือของซิ่นหยางโหวพร้อมกับเจาซีแล้วจริง ๆครั้นเห็นว่ารอบข้างปลอดคน เจาซีก็กดเสียงต่ำเอ่ยขึ้นว่า “ภาพเหมือนที่คุณหนูให้พวกเรารวบรวมในก่อนหน้านี้พวกนั้น บ่าวยังรู้สึกข้องใจไม่หายเลยเจ้าค

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 125

    อนุส่วนใหญ่ได้รับความรักและความโปรดปรานของสามี จึงกระวนกระวายได้ง่าย สร้างปัญหาโดยไร้สาเหตุนางกระตุกรอยยิ้มเย็นเยือกมุมปาก “ฉีจื่อฟู่ทำเช่นนี้ ยิ่งเป็นการมอบหมากที่ดีแก่ข้าตัวหนึ่ง ข้าย่อมต้องยิ่งใช้มันให้ดี”หลังจากนั้นนางก็มองเจาอู้ “ไปห้องคุณชายสี่ บอกว่าพรุ่งนี้ข้าจะไปหาอาจารย์ให้เขา เชิญเขามาหารือว่าจะเลือกใคร”เจาอู้ “เจ้าค่ะ!”เจาซีตามหรงจือจือกลับเรือนหลันด้วยความฉงน เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับคุณชายสี่อีก?ครั้นเห็นหรงจือจือกลับมา อวี้หมัวมัวก็รายงานอีกว่า “คุณหนู ทางสวนฉางโซ่วมีเรื่องขึ้นมาอีกแล้ว ฉีอวี่เยียนเอาเชิงเทียนไปทำให้ถานผิงถิงเสียโฉม หมอประจำจวนบอกว่าจะทิ้งรอยแผลเป็นไว้บนหน้าแน่นอน”เจาซีอดไม่ได้ที่จะหัวเราะแล้วพูด “มีเรื่องดี ๆ เช่นนี้ด้วยหรือ?”จะว่าไปแล้ว หลังคุณหนูมาถึงจวนสกุลฉีแห่งนี้ ไป ๆ มา ๆ ไม่รู้ว่าถานผิงถิงนั่น หาเรื่องมาให้คุณหนูเท่าไรแล้ว ผ่านไปสามปี เรื่องกึ่งหนึ่งในบ้านก็เป็นเพราะนางคนชั้นต่ำนั่นยุแยงตะแคงรั่วตอนนี้ถือว่ากรรมตามสนองแล้วอวี้หมัวมัว “นั่นน่ะสิ ตอนนี้ถานผิงถิงกำลังร้องไห้โวยวายอยู่ที่สวนฉางโซ่ว บอกว่าจะจับตัวฉีอวี่เยียนส่งทางการ บ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 126

    ในตอนนี้เจาซีถึงเข้าใจความคิดของคุณหนู นางพลันดีใจกระโดดโลดเต้น “คุณหนู สมแล้วที่เป็นคุณหนู! กะอีแค่เตาอุ่นมืออันเดียว ก็ทำให้พวกเขาทะเลาะกันรุนแรงได้!”แสดงละครตบตากับฉีจื่อเสียนอยู่นาน ท้ายที่สุดก็ปากแห้งคอแห้งหรงจือจือยกแก้วชาขึ้นมา แล้วจิบคำหนึ่ง “นี่เพิ่งจะเท่าไรเอง เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ อย่างที่เจ้าคิด มีเรื่องสนุก ๆ รออยู่หลังจากนี้!”ช่วงนี้ฉีจื่อเสียนหุนหันพลันแล่นเป็นอย่างมาก อาจจะแลกหมัดกับพี่ชายเขาขึ้นมาก็เป็นได้ทว่าตอนนี้ร่างกายของฉีจื่อฟู่ ไม่สามารถต้านทานการต่อยตีได้...แต่เมื่อฉีจื่เสียนไปถึงห้องของฉีจื่อฟู่ กลับหาเขาไม่เจอ ครั้นถามบ่าวรับใช้ถึงได้รู้ว่า ฉีจื่อฟู่ไปเรือนจวี๋ ที่พักของอวี้ม่านหวาสีหน้าของฉีจื่อเสียนยิ่งคล้ำดำหมองเข้าไปใหญ่เขาไม่รู้เลยว่าพี่ชายของตนหลงผิดหรือเปล่า บุรุษแต่งภรรยา หรือว่าไม่ได้เพื่อช่วยตนเอง ช่วยยกระดับทั้งตระกูลตน?อวี้ม่านหวาผู้นั้นมีอะไรดีกันแน่ ถึงทำให้ท่านพี่ไม่ไว้หน้าหรงจือจือเและทำลายตนเช่นนี้!ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งเดือดดาลกระทั่งบุกเข้าไปในห้องของอวี้ม่านหวาเลยโดยไม่รอให้คนใช้ไปรายงานเช่นนี้ทำเอาสองคนนั้นตกตะลึงก

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 127

    ฉีจื่อฟู่ถูกท้าทายความน่าเกรงขามในฐานะผู้เป็นพี่ ยอมให้เขาเอาไปเสียที่ไหน รีบยื่นมือออกไปขวางทันที “ในเมื่อข้าเอาเตาอุ่นมืออันนี้มาแล้ว ก็ต้องเป็นของม่านหวา!”ฉีจื่อเสียนถนัดเรื่องการพูดหาประโยชน์ใส่ตัวที่สุด “ท่านพี่ ของสิ่งนี้เป็นของใช้ส่วนตัวของท่านพี่สะใภ้ ท่านพี่เอาไปโดยไม่ได้รับอนุญาตจากท่านพี่สะใภ้ เอาไปโดยไม่บอกกล่าวเช่นนี้ เรียกว่าขโมย! ท่านพี่มีสิทธิ์อะไรมาบอกว่านี่เป็นของอนุอวี้?”ฉีจื่อฟู่ตอบกลับอย่างไม่สบอารมณ์ทั้งหน้าคล้ำดำเขียว “ฉีจื่อเสียน ข้าไม่อยากพูดเรื่องพวกนี้กับเจ้า! เจ้ารีบออกไปเสีย!”ฉีจื่อเสียน “ข้าไม่ไป! ท่านพี่ ท่านพี่เลอะเลือนไปเอง ทิ้งอนาคตเพื่อปิศาจจิ้งจอกตัวเดียวก็ช่างเถอะ ท่านพี่ยังจะทำลายอนาคตข้าด้วยหรือ?”“ท่านพี่ก็คิดเสียว่าทำเพื่อข้า คืนของสิ่งนี้ให้ท่านพี่สะใภ้แล้วจะเป็นอะไรไป? เรื่องหาอาจารย์ยังต้องหวังพึ่งนาง ท่านพี่เป็นพี่แท้ ๆ ของข้าจริง ๆ หรือ?”ประโยคนี้ทำเอาฉีจื่อฟู่ลังเลไปครู่หนึ่งทว่าขณะนี้ ในใจของอวี้ม่านหวาเองก็เคียดแค้นฉีจื่อเสียนยิ่งนักนางพูดเสี้ยมด้วยท่าทางน่าสงสาร “ทั้งหมดเป็นความผิดของข้าเอง เป็นเพราะข้าชีวิตต่ำต้อย ไม่คู่คว

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 128

    อวี้ม่านหวาตกตะลึง “ท่านพี่ฟู่...”ฉีจื่อเสียนกลับไม่แยแสสถานการณ์ของฉีจื่อฟู่เลยแม้แต่น้อย คิดเพียงว่าที่อีกฝ่ายเป็นลมหมดสติไป เพราะตนกล้าหาญไร้ที่เปรียบ ทักษะการต่อสู้โดดเด่นเขายกเตาอุ่นมือของหรงจือจือขึ้นมา แล้วเดินออกไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามองอวี้ม่านหวารีบเอ่ยขึ้นว่า “เร็วเข้า รีบไปเชิญหมอประจำจวนมา!”...ก่อนที่ฉีจื่อเสียนจะกลับมา อวี้หมัวมัวได้บอกสถานการณ์ทางนั้นกับหรงจือจือเรียบร้อยแล้วไม่นานก็ได้ยินเสียงของฉีจื่อเสียน “ท่านพี่สะใภ้ ท่านดูสิข้าเอาอะไรกลับมาให้ท่าน”หรงจือจือกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย พลางมองเตาอุ่นมือที่หวนคืนสู่เจ้าเดิม ก่อนจะแสร้งเอ่ยขึ้นด้วยความตื้นตันใจ “ต้องขอบคุณน้องเสียนมาก ๆ น้องเสียนรู้เหตุรู้ผลอย่างที่คิดจริง ๆ”เจาซีรีบไปรับเตาอุ่นมือมาฉีจื่อเสียนเขียวช้ำไปทั้งหน้า เขามองหรงจือจือ “เช่นนั้น...เช่นนั้นเรื่องหาอาจารย์ใหม่ให้ข้า ที่ท่านพี่สะใภ้พูดก่อนหน้านี้...”หรงจือจือ “เจ้าวางใจ พรุ่งนี้ข้าจะไปจวนของท่านเจียงด้วยตัวเอง ขอร้องให้เขาช่วยแนะนำให้ ไม่รู้ว่าน้องเสียนมีอาจารย์ที่ดูไว้ในใจหรือไม่?”แววตาของฉีจื่อเสียนเปล่งประกาย “ย่อมมีอยู่แ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 129

    เป็นอย่างที่คิดเอาไว้จริง ๆ ครั้นซิ่นหยางโหวฟังการร่ำไห้ของอวี้ม่านหวาจบ สายตาที่ไม่สบอารมณ์ก็ตกไปบนหน้าของหรงจือจือ กำลังจะตำหนินางว่าเพราะเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ถึงกลับอาละวาดจนวุ่นวายไปหมดทั้งจวนทว่าหรงจือจือเอ่ยปากกับอวี้ม่านหวาก่อน “เจ้ารู้ว่าเจ้าไม่ดีก็ดี! ในจวนเตาอุ่นมือแบบไหนจะไม่มีเลยหรืออย่างไร?”“เป็นแค่อนุผู้หนึ่ง ดันจะยังยุยงให้ท่านพี่ไปแย่งของภรรยาเอก ก่อเรื่องจนวุ่นวายไปทั้งจวน ไม่รู้ว่าฮองเฮาของแคว้นเจาองค์ก่อน สั่งสอนเจ้ามาอย่างไร!”“น้องเสียนทนเห็นไม่ได้ จึงไปเอากลับมา ข้าโน้มน้าวอย่างก็โน้มน้าวไม่ได้ ช่างเถิด มาพูดเรื่องพวกนี้ตอนนี้ก็ไร้ประโยชน์ เจาซี เอาเทียบของข้ามา เชิญท่านพ่อบุญธรรมมาดูซื่อจื่อที่จวน!”เจาซี “เจ้าค่ะ บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ”แน่นอนว่าพ่อบุญธรรมที่หรงจือจือกล่าวถึง หมายถึงหมอเทวดาลูกบุญธรรมของนายหญิงผู้เฒ่าหรงในตอนนี้ซิ่นหยางโหวกล้าด่านางเสียที่ไหน?กลับหันหน้าไปมองอวี้ม่านหวา และด่าอย่างไม่สบอารมณ์ขึ้นมาประโยคหนึ่ง “ช่างเป็นตัวสร้างปัญหาจริง ๆ!”ฉีจื่อเสียนเองก็ยังไม่ลืมว่าตอนนั้น เหตุใดตนถึงต่อยตีกับพี่ชายขึ้นมา จึงเอ่ยขานรับ “ไม่ใช่เพร

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 130

    หนังหน้าเขาตึงเปรี๊ยะ คิดไม่ถึงว่าหมอเทวดาจะไม่ไว้หน้าขนาดนี้ และพูดจาขวานผ่าซากเช่นนี้ทว่าตอนนี้ยังต้องขอร้องให้อีกฝ่ายช่วยบุตร จึงระเบิดอารมณ์ไม่ได้ ได้แต่กล่าวว่า “ขอท่านหมอเทวดาช่วยลูกข้าด้วย เขาคือซื่อจื่อแห่งจวนโหว เป็นสามีของจือจือ...”หมอเทวดาหยิบเข็มเงินออกมา แล้วแทงฉีจื่อฟู่ให้ตื่นอย่างไม่เกรงใจมิหนำซ้ำยังจงใจไม่ออมแรงอีกด้วย แทงจนเขามีเลือดออกมามากมายซิ่นหยางโหวที่เห็นดังนั้นขมวดคิ้วมุ่น แต่อย่างไรเขาก็ไม่เป็นวิชาแพทย์ และไม่มั่นใจว่าเลือดนี่ไม่ไหลไม่ได้หรือเปล่า จึงไม่กล้าพูดมากแต่อย่างใดทว่าหมอประจำจวนที่เข้าใจวิชาแพทย์ซึ่งดูอยู่ข้าง ๆ ยิ่งไม่กล้าพูดเข้าไปใหญ่ คิดเพียงว่าที่หมอเทวดาแทงเช่นนี้ ย่อมมีเหตุผลของหมอเทวดาเองหลังฉีจื่อฟู่ฟื้นขึ้นมาก็ได้ยินหมอเทวดากล่าวว่า “พักผ่อนสักพัก ก็ลุกจากเตียงได้แล้ว เพียงแต่เมื่อเป็นเพราะโรคเก่ากำเริบ หลังจากนี้อาจจะอ่อนแอลงทุกวัน อาการกำเริบอยู่เป็นระยะ กลับไปเป็นอย่างแต่ก่อน กระทั่งถึงแก่ความตาย”คำพูดของพ่อบุญธรรม ย่อมอยู่ในการคาดคะเนของหรงจือจือเช่นกันเมื่อฉีจื่อฟู่อาการกำเริบครั้งแรก หลังจากนั้นก็จะถี่ขึ้นเรื่อย ๆ กระ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 131

    หมอเทวดาเล่นตามน้ำว่า “ใช้ความรุนแรงให้น้อย โมโหให้น้อยก็พอ”หรงจือจือ “นี่ เฮ้อ…”เดิมทีสองพ่อลูกซิ่นหยางโหวยังมีข้อสงสัยอยู่บ้าง เพราะฉีจื่อฟู่ไม่ได้ดีกับหรงจือจือ อีกทั้งหมอเทวดาก็ไม่ได้ตรวจโดยละเอียด แต่เมื่อเห็นหรงจือจือถามโดยละเอียดเช่นนี้ก็คลายความสงสัยเหล่านี้ลงก็จริง อย่างไรจื่อฟู่ก็เป็นสามีของหรงจือจือ นางจะไม่อยากให้เขาได้ดีได้อย่างไร?หมอเทวดาประสานมือพูดว่า “ไปเชิญคนอื่นมาตรวจเถิด! ข้าขอตัว!”หรงจือจือ “ข้าจะไปส่ง”นางเดินไปส่งหมอเทวดาออกจากจวนโหว หลังจากเดินห่างออกมาหลายก้าวเพื่อหลีกเลี่ยงคนในจวนหมอเทวดาถึงค่อยมองหรงจือจือด้วยความชื่นชม “เจ้าไม่ได้เลอะเลือน”ตอนที่ได้ยินว่าหรงจือจือกลับมาที่จวนซิ่งหยางโหวก่อนหน้านี้ ทั้งยังช่วยวางแผนให้ครอบครัวนี้ เขาก็โมโหแทบอกแตกตายครั้งนี้เขามาโดยอ้างว่ามาช่วยตรวจฉีจื่อฟู่ ทว่าความจริงแล้วต้องการมาด่าหรงจือจือต่างหากเคราะห์ดีที่เขาทำการจับชีพจรก่อน ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้เข้าใจหรงจือจือผิดแต่ก็ไม่แปลก คนนอกอาจจะไม่รู้ถึงวิชาแพทย์ของจือจือ แต่เขากลับรู้ดีว่านางเก่งกาจกว่าเขาผู้เป็นอาจารย์เสียอีก หากคิดจะช่วยฉีจื่อฟู่จริงๆ ม

Bab terbaru

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 338

    เสิ่นเยี่ยนซูดวงตาเย็นยะเยือก และเดินไปตรงหน้าหรงเจียวเจียวเขามองนางด้วยสายตาที่เหนือกว่า พลางถามเสียงเย็นว่า “เจ้าว่าผู้ใดเป็นคนชั้นต่ำ?”เขามักจะมีอำนาจในฐานะผู้เหนือกว่าอยู่เสมอ ทำเอาหรงเจียวเจียวตกใจสีหน้าซีดเผือด อดไม่ได้ที่จะคุกเข่าและถอยหลังไปหนึ่งก้าว น้ำตาก็คลอเบ้า จนแทบจะไหลลงมาอีกครั้งนางกล่าวด้วยริมฝีปากที่สั่นเทา “ข้า ข้า ข้า...”ดวงตาที่เสิ่นเยี่ยนซูมองนาง มองราวกับเป็นของที่ตายแล้ว “วันนี้ข้าจะให้เกียรติมหาราชครูหรง”“เจ้าคุกเข่าอยู่ที่นี่สองชั่วยาม ตบหน้าหนึ่งร้อยที ก็จะสามารถลุกขึ้นได้”“หากครั้งหน้าข้าได้ยินคำพูดเช่นนี้อีก ลิ้นของเจ้าก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป องครักษ์หลงสิงมีวิธีดึงลิ้นออกมามากมาย เข้าใจหรือไม่?”หรงเจียวเจียวตกใจมากจนฉี่จะราดอยู่แล้ว นั่นเป็นครั้งแรกที่รู้ว่า ชายที่ตนเองชื่นชอบ มีด้านที่น่ากลัวเช่นนี้ด้วย จึงกล่าวด้วยตัวสั่นเทิ้มว่า “เข้า เข้าใจเจ้าค่ะ!”เสิ่นเยี่ยนซูหัวเราะเสียงเย็นทีหนึ่ง ก่อนจะสะบัดแขนเสื้อและจากไปหรงจือจือเห็นเช่นนี้ ยังตกตะลึงอยู่เล็กน้อยแม้ท่านย่าจะเอ็นดูนาง แต่ก็ไม่ค่อยออกไปด้านนอก ดังนั้น นี่จึงเป็นครั้งแรก ที่นางสัม

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 337

    สายตาที่ประจบของฮูหยินหลี่ มองไปทางหรงจือจือ “จือจือ ได้ยินว่าเจ้าเป็นสตรีผู้มีพรสวรรค์เป็นเลิศอันดับหนึ่งของเมืองหลวงมาตั้งนาน ไม่สู้เจ้าแต่งกวีเสียหนึ่งบท จะได้เปิดหูเปิดตาให้พวกข้าด้วย!”หรงจือจือกล่าวเสียงเรียบ “ข้าไม่ได้เตรียมตัว ให้คนอื่นแต่งดีกว่าเจ้าค่ะ”สีหน้าของฮูหยินหลี่ดูจะเก็บอาการไม่ค่อยอยู่แล้ว แต่ก็รู้ ว่าก่อนหน้านี้ตนเองประพฤติตัวไม่ดี หรงจือจือจะโกรธก็สมควร ดังนั้นจึงเดินไปตรงหน้าหรงจือจือเมื่อจับมือของนาง ขณะที่ยิ้มก็กล่าว “เจ้ามีความคิดที่ปราดเปรื่อง การแต่งบทกวีจำเป็นต้องเตรียมตัวเสียที่ใด? ตอนนี้สุ่มเขียนมาเสียหนึ่งบท คิดดูแล้วก็ดีมากแล้ว”หรงจือจือดึงมือของตนเองออกมาจากอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเรียบเฉย “พูดขึ้นมาแล้ว ตอนนั้นป้าสะใภ้บอกว่า วันนี้ข้าไม่ได้รับเชิญไม่ใช่หรือเจ้าคะ?”“ข้ามาโดยไม่ได้รับเชิญ จริง ๆ ก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควร ท่านเสนาบดี ทุกท่าน ขอให้เพลิดเพลินให้เต็มที่ ข้าขอตัวลาไปก่อนเจ้าค่ะ!”ขณะที่พูด หรงจือจือก็ลุกขึ้นเตรียมจะจากไปฮูหยินหลี่ตื่นตระหนกแล้ว จึงรีบกล่าว “นี่...จือจือ เข้าใจผิด! ล้วนเป็นเรื่องเข้าใจผิด! ป้าสะใภ้แค่เลอะเลือนไปชั่วขณะจึงพู

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 336

    แม้หรงจือจือเห็นท่าทางของเซิ่งเฟิง ล้วนยังต้องหยิบผ้าเช็ดหน้ามาปิดมุมปากไว้เล็กน้อย ก็ไม่รู้ว่าเสิ่นเยี่ยนซูไปหาคนที่มีอารมณ์ขันเช่นนี้มาจากที่ใดช่างน่าสนุกยิ่งนัก!เดิมทีหรงเจียวเจียวไม่สบายใจ ยังถูกเซิ่งเฟิงก่อเรื่องเช่นนี้อีก ก็เกิดความคิดอยากตายขึ้นมาจริง ๆ แล้ว “ข้า ข้า...”คิดว่าวันนี้ชื่อเสียงของตนเองคงเสียหายเป็นแน่ นางจึงตัดสินใจทุ่มสุดตัวไปเลย!ขณะมองหรงจือจืออย่างดุร้ายก็กล่าวว่า “หรงจือจือ เจ้าตั้งใจขโมยงานแต่งของข้าใช่หรือไม่? เจ้าก็แค่ไม่อยากให้ข้ามีชีวิตที่ดี เจ้า...”หรงจือจือยังไม่ทันได้เอ่ยปากเสิ่นเยี่ยนซูก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “ไร้สาระ! เดิมทีก็เป็นของของนาง เหตุใดต้องพูดถึงการขโมยด้วย? เจ้าไม่ลองดูใบหน้าของลูกพี่ลูกน้องเจ้า และคิดดูอีกทีว่าควรจะพูดจาไร้สาระต่อไปหรือไม่”เพียงคำพูดเดียว ก็ทำให้หรงเจียวเจียวสั่นสะเทือนแล้วจากสีหน้าของเสิ่นเยี่ยนซู นางมองออก ว่าเขาไม่ได้กำลังล้อเล่นกับนาง หากตนเองโวยวายต่อไป มีหวังโดนตบหน้าจริง ๆ แน่เห็นนางสงบลงได้เสียทีฮูหยินหนิงกั๋วกงก็ยิ้มพลางกล่าว “ครั้งก่อนข้าไปงานเลี้ยงของสกุลฉี เห็นสกุลฉีวุ่นวายไปหมด แม่นา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 335

    เขาเอ่ยเน้นย้ำทีละคำอย่างชัดเจน “คุณหนูสามหรง เจ้าฟังให้ดี ก่อนหน้าวันนี้ แม้แต่หน้าตาของเจ้าเป็นเช่นไรข้าก็ยังไม่รู้ชัด ไม่เคยมีความคิดที่จะแต่งเจ้าเป็นชายาเลยแม้แต่น้อย”“ตั้งแต่ต้นจนจบ ผู้ที่ข้าต้องการสู่ขอ ก็คือพี่สาวของเจ้ามาโดยตลอด หากเจ้ายังไม่เชื่อ ก็ลองกลับไปสอบถามบิดาของเจ้าดูเถิด”หรงเจียวเจียวส่ายศีรษะไปมา ไม่อาจยอมรับความจริงอันโหดร้ายนี้ได้นางยังคงคิดว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าหาใช่ความจริงไม่ แต่เป็นเพียงฝันร้ายอันน่าสะพรึงกลัวเท่านั้น นางยิ่งร่ำไห้สะอึกสะอื้นหนักกว่าเดิม “ไม่จริง เป็นไปได้อย่างไร... เป็นไปไม่ได้...”ในชั่วขณะนั้นเอง บ่าวรับใช้ของจวนตระกูลหลี่ ก็ได้พาเหวินหมัวมัวเข้ามาด้านในพอเหวินหมัวมัวเห็นภาพเหตุการณ์ตรงหน้า ก็รู้ได้ทันทีว่าคงเกิดเรื่องยุ่งยากขึ้นแล้วเป็นแน่เฉินเยี่ยนซูเหลือบมองเหวินหมัวมัวแวบหนึ่ง ก่อนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ดูท่าแล้ว เจ้าคงมาเพื่อจะบอกคุณหนูสามของเจ้ากระมัง ว่าแท้จริงแล้วผู้ที่ข้าต้องการหมั้นหมายด้วยคือผู้ใดกันแน่?”เมื่อท่านอัครมหาเสนาบดีเอ่ยถาม มีหรือที่เหวินหมัวมัวจะกล้าไม่ตอบ? นางรีบคุกเข่าลงกับพื้น ใบหน้าซีดขา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 334

    ครานี้ ทุกผู้คนต่างตกตะลึงงัน สายตาตำหนิหลายคู่พลันจับจ้องไปยังฮูหยินหลี่อะไรกัน! ในเมื่อไม่ได้หมั้นหมาย แล้วเหตุใดเจ้าจึงมาหลอกลวงพวกเรา? เช่นนั้นเมื่อครู่พวกเราก็ประจบเอาใจนางเสียเปล่าไปตั้งนานนะสิ?! เจ้ารู้หรือไม่ว่าการที่พวกเราต้องสรรหาคำเยินยอหรงเจียวเจียวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเมื่อครู่นั้น มันต้องสิ้นเปลืองความคิดอ่านไปมากเพียงใด? สมองแทบจะระเบิดอยู่แล้ว!ฮูหยินหลี่เองก็ตกตะลึงงันไปเช่นกัน ตามเหตุผลแล้ว นาวหวังไม่น่าจะวิปลาสถึงขั้นกุเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาได้! เมื่อเห็นสายตาตำหนิของผู้คนจับจ้องมา นางจึงพยายามอธิบายอย่างตะกุกตะกัก “ไม่... ไม่ใช่! ข้า... เจียวเจียว นี่มันเรื่องอันใดกันแน่!”หรงเจียวเจียวมองไปยังเฉินเยี่ยนซู ด้วยแววตาไม่อยากจะเชื่อ “ท่านอัครมหาเสนาบดี! ข้าคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าท่านจะเป็นคนเช่นนี้! ท่านเห็นข้าโกรธจนเอ่ยปากขอถอนหมั้น ท่านไม่คิดจะง้อก็แล้วไปเถิด แต่ยังจะกล่าวปดว่าไม่เคยมาสู่ขอข้าอีกอย่างนั้นหรือ?”เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ ประกอบกับเห็นท่าทางมั่นอกมั่นใจของหรงเจียวเจียว ผู้คนก็เริ่มรู้สึกสับสนขึ้นมาอีกครั้ง สายตาเต็มไปด้วยความกังขาจับจ้องสลับไปมาระหว่า

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 333

    หรงเจียวเจียวชะงักไปครู่หนึ่ง “อ๊ะ?”จ้าวหมัวมัวกล่าวว่า “ท่านอัครมหาเสนาบดีคงต้องการจะแสดงอำนาจความเป็นสามี ทั้งยังต้องการจะดูท่าทีคุณหนูด้วยว่าจะยอมอ่อนข้อให้เขาหรือไม่ อย่างไรเสีย ฐานะฮูหยินของราชเลขาธิการผู้ทรงเกียรติ จะเป็นเพียงสตรีที่เอาแต่ใจตน พอเขาขุ่นเคืองก็เอาแต่ร้องขออภัยไปเสียทุกเรื่องไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ”หรงเจียวเจียวมีสีหน้าลังเล “เป็นเช่นนั้นจริงหรือ?”จ้าวหมัวมัวกล่าว “ใช่แล้วเจ้าค่ะ ต้องเป็นเช่นนี้เป็นแน่! คุณหนู ท่านต้องรู้จักแสดงความอ่อนแอบ้าง คนที่อยู่ในตำแหน่งสูงส่งและทรงอำนาจเช่นท่านอัครมหาเสนาบดี หรือจะยอมลดตัวลงมาง้อคุณหนูได้เล่าเจ้าคะ?”หากไม่เช่นนั้นแล้ว จะอธิบายได้อย่างไรว่าเหตุใดท่านอัครมหาเสนาบดีจึงจงใจสร้างความลำบากให้คู่หมั้นของตนต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้เล่า?เมื่อสองนายบ่าวปรึกษาหารือกันเสร็จสิ้นในที่สุดหรงเจียวเจียวก็รวบรวมความกล้าได้ นางรอจนกระทั่งบัณฑิตผู้หนึ่งแต่งบทกวีเสร็จสิ้นจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้นว่า “ท่านอัครมหาเสนาบดี... ข้ารู้ตัวว่าผิดไปแล้ว ท่านจะโปรดให้ข้าลุกขึ้นได้หรือไม่เจ้าคะ เจียวเจียวปวดเข่าเหลือเกิน พื้นก็ทั้งเย็นทั้งแข็

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 332

    ทุกคนย่อมเห็นแผ่นหลังของหรงเจียวเจียวที่กำลังหันหลังจากไป และพอจะเดาได้ว่านางกำลังแสดงความเอาแต่ใจออกมาบรรดาสตรีที่สนิทสนมกับหรงเจียวเจียวต่างแอบตำหนิอัครมหาอัครมหาเสนาบดีเฉินอยู่ในใจ ว่าช่างไม่รู้จักถนอมบุปผาเทิดทูนหยกล้ำค่าเอาเสียเลย เหตุใดจึงไม่รู้จักไว้หน้าคู่หมั้นของตนเองเช่นนี้?เฉินเยี่ยนซูสังเกตเห็นความเคลื่อนไหวของหรงเจียวเจียวอยู่แล้ว จึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “หยุดอยู่ตรงนั้น!”ฝีเท้าของหรงเจียวเจียวพลันชะงัก นางคิดในใจ ในที่สุดเขาก็เรียกข้าแล้ว หรือว่าในใจเขายังคงเป็นห่วงข้าอยู่?นางแค่นเสียงหึเบาๆ แล้วหันไปมองเฉินเยี่ยนซู “ในใจของท่าน ไม่ใช่มีเพียงแต่พี่สาวของข้าหรอกหรือ? แล้วจะมารั้งข้าไว้อีกด้วยเหตุใด?”กล่าวจบ นางก็เช็ดน้ำตาพลางหันเสี้ยวหน้าอย่างดื้อรั้นให้เฉินเยี่ยนซูมองนางเชื่อว่าเมื่อเขาเห็นหยาดน้ำตาบนใบหน้าของนาง จะต้องสำนึกได้แน่ว่าตนเองทำผิดไปแล้ว นางเคยส่องกระจกพิจารณาดูตนเองยามร้องไห้อย่างละเอียดแล้ว รู้อยู่แก่ใจว่าท่าทางเช่นนี้จะยิ่งขับเน้นความงดงามแววตาของเฉินเยี่ยนซูเย็นชา “ในใจของข้ามีผู้ใดอยู่ ถึงตาเจ้ามาสอดปากวิจารณ์ด้วยหรือ?”หรงเจียวเจียวฟั

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 331

    ถึงจะอยู่ที่บ้านตระกูลหลี่ แต่เมื่อนางทำผิด หากเฉินเยี่ยนซูไม่เอ่ยอนุญาต นางก็ไม่อาจนั่งได้เมื่อได้รับอนุญาตให้นั่งจากเฉินเยี่ยนซู หลี่เซียงเหยากลับยิ่งรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ นางรู้สึกราวกับว่าพี่เขยสาม ผู้นี้กำลังตบหน้านางอย่างแรง แล้วค่อยยื่นขนมหวานปลอบใจ ทว่าการตบหน้านี้ช่างหนักหน่วงเหลือเกินนางร่ำไห้ออกมา กล่าวด้วยน้ำเสียงตัดพ้อระคนน้อยใจ “ขอบคุณท่านอัครมหาเสนาบดีเจ้าค่ะ!”เมื่อครู่หรงเจียวเจียว ไม่ได้ออกหน้าช่วยนาง ตอนนี้จึงรีบเข้ามากล่าวกลบเกลื่อน “เหยาเหยา เห็นหรือไม่ ท่านอัครมหาเสนาบดียังคงให้ความสำคัญกับเจ้านะ ถึงได้อนุญาตให้เจ้าอยู่ในงานเลี้ยงแต่งบทกวีต่อ!”เฉินเยี่ยนซูเอ่ย “ย่อมต้องให้ความสำคัญ”หรงเจียวเจียวพลันยิ้มออก นางคิดว่าอย่างไรเสียท่านอัครมหาเสนาบดีก็ต้องไว้หน้านางบ้าง แต่คาดไม่ถึงว่าเฉินเยี่ยนซู จะเอ่ยประโยคถัดมาว่า “หากนางจากไปแล้ว ไม่มีนางอยู่ที่นี่เป็นข้อเปรียบเทียบ ผู้ใดจะรู้เล่าว่าจุดจบของการลบหลู่ท่านหญิงเป็นเช่นไร?”ทุกคน “…”เหล่าสตรีที่เมื่อครู่ร่วมวงนินทาหรงจือจือ ตอนนี้ต่างรู้สึกชาวาบไปทั้งศีรษะ!ส่วนหรงเจียวเจียวยิ่งหน้าเขียวคล้ำ นางเข้าใจในท

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 330

    วันนี้หรงจือจือถึงได้รู้ว่า อันที่จริงเฉินเยี่ยนซูคนผู้นี้ใจดำอำมหิตเป็นอย่างมาก บางทีก่อนหน้านี้ที่เขาไม่รู้จักเจียวเจียวอาจเป็นเรื่องจริง แต่ตอนนี้ที่บิดเบือนความหมายของหรงเจียวเจียว เขาต้องจงใจเป็นแน่สายตาของทุกคนเองก็ตกไปที่ตัวหรงจือจือที่พวกเขากระแหนะกระแหนอยู่นานสองนานนี่...เหตุใดท่านเสนาบดีจัดการเรื่อง ไม่ให้หน้าหรงเจียวเจียวแม้แต่น้อยก็ช่างมันเถอะ ยังจะถามความเห็นของหรงจือจืออีก? นี่หากไม่รู้ ยังคิดว่าคู่ที่ดูตัวหมั้นหมายกัน เป็นหรงจือจือจริง ๆ เสียอีก!หรงจือจือทำทีท่าไม่เกี่ยวกับตน ตอบกลับชืด ๆ ว่า “เรื่องนี้ท่านเสนาบดีตัดสินใจก็พอเจ้าค่ะ”เฉินเยี่ยนซูพยักหน้า ก่อนจะกวาดสายตามองไปที่หรงเจียวเจียว “เจ้าแน่ใจหรือว่าจะถูกตบปากไปด้วย?”จากสายตาของเขา หรงเจียวเจียวมองออกว่า เขาพูดจริง และไม่ได้ล้อเล่นกับตน สีหน้าของนางก็ยิ่งซีดเผือดเข้าไปอีกนางรีบถอยหลังไปก้าวหนึ่ง “ข้า...ข้าไม่ได้หมายความว่าเช่นนั้นเจ้าค่ะ!”หลี่เซียงเหยามองพี่หญิงสามของตนอย่างยากจะเชื่อทีหนึ่ง หากไม่ใช่เพราะตนช่วยนางพูด ก็คงไม่ตกมาอยู่ในขั้นนี้ แต่เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่อยากแยแสตนเฉินเยี่ยนซูกวาดสา

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status