แชร์

บทที่ 270

ผู้เขียน: สั่งไม่หยุด
ครั้นนางกำนัลเฉินได้ยินดังนั้น ก็ยิ้มอ่อน ๆ พลางมองไปที่นางหวัง “ไม่ทราบว่าฮูหยินเป็นฮูหยินตราตั้งขั้นสูงขั้นไหนหรือเจ้าคะ?”

นางหวังอึ้งไปครู่หนึ่ง รู้สึกขวยเขินอยู่เล็กน้อย “เพราะท่านพี่เขากตัญญูกตเวที ก่อนหน้านี้เคยมีโอกาสขอพระราชทานแต่งตั้งฮูหยินตราตั้งขั้นสูงคราหนึ่ง แต่ว่าท่านพี่ให้ท่านแม่สามีไป”

“แต่คิดว่ารอท่านพี่กลับราชสำนักแล้ว มีโอกาสต้องขอพระราชทานแต่งตั้งให้ข้าแน่...”

ที่นางกล่าวเช่นนี้ ย่อมเพื่อกู้หน้าตัวเองกลับมาอยู่แล้ว

ทว่านางกำนัลเฉินกลับจี้จุดสำคัญออกมา “พูดเช่นนี้ ฮูหยินไม่มีตำแหน่งฮูหยินตราตั้งขั้นสูงแล้ว?”

นางหวังกัดฟัน ก่อนจะตอบกลับอย่างอิหลักอิเหลื่อ “ตอนนี้ไม่มีจริง ๆ”

นางกำนัลเฉินสีหน้าราบเรียบ กล่าวว่า “ในเมื่อฮูหยินมิได้มีฐานะอะไร แล้วมีคุณสมบัติอะไรมาตบปากท่านหญิงของเราจนบวมหรือ?”

นางหวัง “ข้า...ข้าเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดของนาง ตบตีนางไม่ได้หรือ?”

สีหน้าของนางกำนัลเฉินเคร่งขรึม “ฮูหยินเจ้าคะ ที่เรียกว่าภักดีกตัญญูมีมารยาท เหตุใดความภักดีถึงมาก่อนความกตัญญูกันเล่า? ย่อมเป็นเพราะภักดีต่อฝ่าบาทรักชาติ สำคัญกว่าความกตัญญูอย่างไรล่ะ”

“ฝ่าบาทเป็นผู้แต่งตั้งตำ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 458

    จวนสกุลหรงหลังมหาราชครูหรงตรวจนับคลังทั้งจิตใจห่อเหี่ยว ก็รู้สึกว่าเกรงว่าตนต้องขายขี้หน้าอย่างแน่แท้ หรือว่าจะออกจากบ้านไปยืมเงินมาเพิ่มเป็นสินเจ้าสาวสักหน่อย เพื่อประคับประคองหน้าตาของจวนสกุลหรง?แต่การยืมเงิน ก็จะทำให้ตนขายขี้หน้าเช่นกันเฮ้อ ตนเป็นขุนนางมานานกว่าเสนาบดีเฉินตั้งหลายปี เหตุใดจึงไม่มั่งคั่งอย่างอีกฝ่ายนะ?หรงม่อชิงที่ก่อนหน้านี้มักจะอิจฉาเฉินเยี่ยนซู ในวันนี้จะไม่ยอมรับก็ไม่ได้ ระยะเวลาการเป็นขุนนางของอีกฝ่ายน้อยกว่าตน ทว่าความดีความชอบมากกว่าตนจริง ๆ เวลาที่ฝ่าบาทตกรางวัลให้ก็มากกว่าตนมหาราชครูหรงหอบเรื่องในใจแสนหนักหนามุ่งหน้าไปยังเรือนเฮ่าเย่ว์ระหว่างทางกลับบังเอิญเจอกับหรงจือจือหรงจือจือเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ท่านพ่อ ข้าอยากคุยกับท่านพ่อเรื่องท่านย่า ไม่อย่างนั้นขอเวลาสักครู่ได้หรือไม่?”มหาราชครูหรงมิได้ปฏิเสธ เขากลับอยากรู้ว่า หรงจือจือมีแผนการอะไรอยู่กันแน่...เรือนเฮ่าเย่ว์ในวินาทีนี้ หรงเจียวเจียวเพิ่งใส่ยาเสร็จ เปลี่ยนชุดเสร็จ ร้องไห้จนเหมือนคนขี้แยก็มิปานนางหวังพูดปลอบ “เอาละ เลิกร้องไห้ได้แล้ว! วันนี้เจ้าก็จริง ๆ เลย อย่างไรมีแขกมากม

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 457

    ทว่าคิด ๆ ดูแล้วอยู่ที่จวนเสนาบดี ของของเขาก็ไม่เท่ากับของของนางหรือ?จึงฝืนปลอบให้ตนยอมตอบตกลงไป “ขอรับ!”เดิมทีมหาราชครูหรงคิดจะรอให้เฉินเยี่ยนซูไปก่อน แล้วค่อยไปสั่งสอนหรงเจียวเจียว แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ เขาจึงตัดสินใจว่าอย่างไรอีกเดี๋ยวค่อยไปตรวจนับจำนวนในคลังเสียหน่อย เรื่องอื่นเดี๋ยวค่อยว่ากันหลังตนตรวจนับจำนวนเสร็จ...หลังคนสกุลเฉินออกไปจากจวนมหาราชครู เฉินเยี่ยนซูก็เข้าวังไปอ่านฎีกาเป็นเพื่อนฮ่องเต้น้อยหนึ่งชั่วยาม แล้วไปจัดการงานที่กรมขุนนางทุกคนต่างเห็นว่าในฤดูหนาว เขากลับถือพัดเล่มหนึ่งไว้ในมือ พร้อมยังคลี่ออกมาพัดทีสองทีอยู่เป็นระยะ ไม่แยแสความรู้สึกของคนที่ยืนอยู่ข้างเขาแต่อย่างใดท่านเสนาบดีไม่หนาว แต่พัดสองสามทีเช่นนี้ พวกเขาที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หนาวนะกระทั่งฮ่องเต้น้อยยังคำราม “ท่านเสนาบดี ตอนที่ท่านพัดช่วยอยู่ให้ห่างจากเราหน่อย หนาวจนฮ่องเต้อย่างเราอยากฟ้องกรมขุนนางแล้ว!”“วันนี้ท่านเป็นอะไรกันแน่? ท่านร่างกายอ่อนแอ ร่างกายมีความเย็นมากเกินไปไม่ใช่หรือ?”ฤดูหนาวแสนหนาวเหน็บขนาดนี้ กลับเอาเจ้าสิ่งนี้มาเล่นเนี่ยนะ?เซิ่งเฟิงเห็นท่าทางไม่ควรค่าของเจ้านายบ้านตน ก็อด

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 456

    หรงจือจือ “...”ขณะที่คนกำลังอยากจะยิ้ม ง่ายที่จะอดกลั้นไว้ไม่อยู่นางเบี่ยงสายตาออก ยังไม่ทันให้เขาได้เห็น แม้เขาอยากจะแสร้งว่าไม่ชอบนาง เช่นนั้นก็ให้เขาแสร้งก่อนแล้วกัน นางคิดว่าแกล้งเขาก็สนุกดีเช่นกันโอ๊ะ...หรือว่าความจริงแล้วนิสัยเดิมของนาง จะ ‘แย่’ อยู่เล็กน้อยกระมังนางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ท่านเสนาบดียินดีรับเอาไว้ เช่นนั้นข้าก็วางใจแล้ว! ภาพที่อยู่บนหน้าพัด เป็นผลงานฝีมือของข้าเอง หวังว่าท่านเสนาบดีจะไม่รังเกียจ”ครั้นนางพูดเช่นนี้ เฉินเยี่ยนซูย่อมรีบคลี่หน้าพัดออกเห็นป่าลำไผ่เรียวยาวด้านบน แต่ละเส้นแต่ละการลากวาด ไม่ด้อยกว่าใคร ดวงตาหงส์ของเขาเปื้อนยิ้ม “ขอบคุณท่านหญิงมาก นี่เป็นของขวัญที่ดีที่สุดที่ข้าเคยได้รับมาในชีวิตนี้”หรงจือจือไม่ตอบใด ๆ ท่านผู้นี้เป็นสมุหราชเลขาธิการ ย่อมเคยได้รับของขวัญที่ทั้งแพงล้ำค่า และหายากกว่าพัดของตนเล่มนี้อยู่แล้วแต่เขากลับบอกว่าที่ตนให้นั้น เป็นของที่ดีที่สุดที่เคยรับมาใน ‘ชีวิตนี้’ถึงขั้นนี้แล้ว ยังกล้าบอกว่าไม่ชอบนางอีก?หรงจือจือจึงพูดหยอกเขาอีกประโยคหนึ่ง “ในเมื่อเราหมั้นหมายกันแล้ว ท่านเสนาบดีไม่จำเป็นต้องทำตัวห่างเหิ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 455

    บัดนี้ แม้ว่าจะฉวยโอกาสหลังจากที่ฉีจื่อฟู่รนหาที่ตายแต่ภายในใจนางก็ยังคงคะนึงถึงเรื่องอื่นอยู่ ไม่ได้ยอมรับในตัวเขาแต่อย่างใดหรงจือจือฟังเขาพูดจบก็เลิกคิ้วถาม “ท่านราชเลขาธิการ ท่านคงไม่ได้…ชอบข้าจริงๆ กระมังเจ้าคะ?”มิเช่นนั้นจะอธิบายอาการต่างๆ ของเขาว่าอย่างไร?จะอธิบายอาการผิดหวังและน้อยใจที่เห็นได้ชัดเจนในตอนนี้ว่าอย่างไร?สีหน้าเย็นเรียบของเฉินเยี่ยนซูแข็งทื่อเล็กน้อย กลัวว่าการแต่งงานจะเกิดความเปลี่ยนแปลง จะกล้ายอมรับได้อย่างไร?เขาเก็บซ่อนความรู้สึกในแววตา พูดอย่างสงบว่า “ท่านหญิงคิดมากแล้ว ตัวข้าทุ่มเทให้ชาติบ้านเมือง ไม่สนใจเรื่องรักใคร่ระหว่างชายหญิง การแต่งงานนี้เป็นเพียงการเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันก็เท่านั้น”เซิ่งเฟิงกลอกตามองบนจนตาแทบจะถลนขึ้นฟ้า!ท่านไม่สนใจเรื่องรักใคร่ระหว่างชายหญิง เช่นนั้นเหตุใดเมื่อครู่จึงได้รีบแย่งใบเทียบดวงชะตานัก?หรงจือจือมองเฉินเยี่ยนซูเงียบๆ บอกตามตรง หากไม่ใช่เพราะเห็นว่าตอนนี้ใบหน้าเขาแดงก่ำไปจนถึงใบหู ประกอบกับเห็นเซิ่งเฟิงที่อยู่ด้านหลังมีอาการทนฟังไม่ได้…ลำพังแค่จากน้ำเสียงนิ่งเรียบของเขาอย่างเดียว นางก็อาจจะเชื่อคำพูดของเขา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 454

    มหาราชครูหรงได้ยินดังนี้ ไม่ต้องรอให้เฉินเยี่ยนซูบันดาลโทสะ เขาก็พูดหน้าบึ้งตึงว่า “อุดปากนางไว้! โบยเพิ่มอีกยี่สิบไม้ โบยให้หนัก! ไม่ต้องปรานี!”เขากลัวว่าหากตัวเองพูดช้าอีกนิด เฉินเยี่ยนซูจะตัดลิ้นของหรงเจียวเจียวจริงๆ!เห็นมหาราชครูหรงออกคำสั่งรวดเร็วเช่นนี้ เฉินเยี่ยนซูเพียงแต่มีสีหน้าดำทะมึนแต่ไม่ได้พูดอะไร หากไม่ไว้หน้าอีกฝ่ายแม้เพียงนิด รอเขากลับไปแล้ว เกรงว่ามหาราชครูหรงจะทำให้หรงจือจือลำบากใจเขาแค่นเสียงเย็นเพียงว่า “ท่านพ่อตา หากวันหน้ามิอาจควบคุมคุณหนูสาม ข้าสามารถช่วยสอนสั่งให้แทนได้”มหาราชครูหรงรู้สึกขายหน้ามาก เรื่องภายในบ้านตัวเอง จะชอบให้เฉินเยี่ยนซูเข้ามายุ่งได้อย่างไร? ถึงอย่างไรเสีย ลูกเขยก็ไม่ใช่คนสกุลหรงแต่หรงเจียวเจียวทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ เขาจึงพูดได้เพียงว่า “นางจะปรับปรุงตัวแน่นอน ข้าจะจับตาดูอย่างดี!”เฉินเยี่ยนซูพยักหน้า จากนั้นเดินไปทางสวนบุปผาด้วยกันกับหรงจือจือยืนใต้ต้นไม้หรงจือจือถาม “ท่านราชเลขาธิการอยากพูดอะไรกับข้าหรือเจ้าคะ?”เฉินเยี่ยนซูจ้องมองมาที่นาง พูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “เรื่องของท่านแม่ เป็นความผิดของข้าเอง”วันนี้นางไม่มีท่าทีจะ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 453

    “ส่วนเรื่องที่บอกว่าเป็นน้องหญิงแท้ๆ? ข้าดูจากการกระทำของคุณหนูสามแล้วเหมือนนางมองท่านหญิงเป็นศัตรูมากกว่า ยังเหลือความเป็นพี่น้องที่ใดกัน?”“ท่านมหาราชครูลงโทษเบามากแล้ว หากให้ข้าลงมือ เกรงว่าคงถึงขั้นตัดลิ้น”หรงจือจือรู้สึกซับซ้อนภายในใจ นั่นเพราะตั้งแต่ที่นางกลับมาอยู่จวนเพื่อสืบคดี นางจะได้ยินทุกคนตำหนิตัวเองทุกครั้งที่เกิดเรื่องเสมือนว่านางไม่ใช่คนในครอบครัวนี้อย่างไรอย่างนั้นนี่เป็นครั้งแรกที่หรงเจียวเจียวพูดจาดูหมิ่นแล้วนางไม่ต้องพูดเองแม้แต่ครึ่งคำ นางอวี๋กับเฉินเยี่ยนซูก็ช่วยออกหน้าให้แล้วนางหวังได้ยินว่าจะตัดลิ้นก็กลัวจนหน้าซีด ต้องเกาะโต๊ะนั่งลงอย่างสั่นเทา “เหตุใดต้องทำถึงเช่นนั้น เหตุใดต้อง…”บัดนี้นางเข้าใจแล้ว ตัวเองจะขอร้องอย่างไรก็เปล่าประโยชน์หากยังพูดให้เฉินเยี่ยนซูโมโหมากกว่านี้ เกรงว่าบทลงโทษจะยิ่งรุนแรงขึ้นนางกงซุนพึมพำเสียงเบา “ไม่อย่างนั้น…”พอแค่นี้เถิด?นางค่อนข้างชอบหรงเจียวเจียวเลยทีเดียวนึกไม่ถึงว่านางเพิ่งจะพูดแค่สามคำ สายตาอันว่องไวของนางอวี๋ก็จะมองมาที่นางพร้อมกับการเตือนแววตาเย็นยะเยียบของเฉินเยี่ยนซูมองมาที่นางเช่นกันใบหน้าของนางก

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status