Share

บทที่ 370

Author: สั่งไม่หยุด
ฉีจื่อฟู่มองเสิ่นเยี่ยนซูอย่างตั้งใจ และพยายามหาหลักฐานการโกหกที่อยู่บนใบหน้าของอีกฝ่าย แต่สิ่งที่เห็นกลับเป็นเพียงความโปร่งใสเท่านั้น

ฉีจื่อฟู่กัดฟันกล่าว “ดังนั้นท่านเสนาบดีอยากจะบอกว่า แม้ท่านจะรักและชื่นชมนาง แต่หลายปีมานี้ก็ไม่เคยมีการกระทำที่เกินขอบเขตเลยงั้นหรือขอรับ?”

เสิ่นเยี่ยนซูไม่ตอบ แต่กลับกล่าวเพียงแค่ว่า “นางกับข้า ต่างก็เป็นคนรักษามารยาท และซื่อสัตย์”

ฉีจื่อฟู่จะฟังไม่เข้าใจได้อย่างไร ว่าเสิ่นเยี่ยนซูกำลังบอกว่า มีเพียงตนเองที่ไร้ยางอาย ถึงจะสามารถพูด และเกิดความสงสัยอย่างน่าเหลือเชื่อเช่นนั้นออกมาได้

ฉีจื่อฟู่กำลังจะยืนกรานว่าตนเองไม่เชื่อ

แต่เสิ่นเยี่ยนซูยังพูดอีกว่า “เจ้าพูดอยู่ตลอด ว่าเจ้าชอบนางจริง ๆ แต่เมื่อเจ้ามาถึงจวนของข้า ทุกการคาดเดาของเจ้า ล้วนเป็นการดูถูกนาง”

“ฉีจื่อฟู่ เจ้าคิดว่าความชอบของเจ้า สามารถพิสูจน์ออกมาได้จริง ๆ หรือ?”

ครานี้

สีหน้าของฉีจื่อฟู่ดูย่ำแย่ลงโดยสิ้นเชิง จะสามารถพิสูจน์ออกมาได้หรือไม่นั้น? เขาคิดว่า อย่างน้อยในสายตาของหรงจือจือ เขาคงพิสูจน์อะไรออกมาไม่ได้ เพราะตอนนี้ความเกลียดชังที่นางมีต่อเขา แทบจะเขียนอยู่บนใบหน้าแล้ว

เซิ่ง
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 370

    ฉีจื่อฟู่มองเสิ่นเยี่ยนซูอย่างตั้งใจ และพยายามหาหลักฐานการโกหกที่อยู่บนใบหน้าของอีกฝ่าย แต่สิ่งที่เห็นกลับเป็นเพียงความโปร่งใสเท่านั้นฉีจื่อฟู่กัดฟันกล่าว “ดังนั้นท่านเสนาบดีอยากจะบอกว่า แม้ท่านจะรักและชื่นชมนาง แต่หลายปีมานี้ก็ไม่เคยมีการกระทำที่เกินขอบเขตเลยงั้นหรือขอรับ?”เสิ่นเยี่ยนซูไม่ตอบ แต่กลับกล่าวเพียงแค่ว่า “นางกับข้า ต่างก็เป็นคนรักษามารยาท และซื่อสัตย์”ฉีจื่อฟู่จะฟังไม่เข้าใจได้อย่างไร ว่าเสิ่นเยี่ยนซูกำลังบอกว่า มีเพียงตนเองที่ไร้ยางอาย ถึงจะสามารถพูด และเกิดความสงสัยอย่างน่าเหลือเชื่อเช่นนั้นออกมาได้ ฉีจื่อฟู่กำลังจะยืนกรานว่าตนเองไม่เชื่อแต่เสิ่นเยี่ยนซูยังพูดอีกว่า “เจ้าพูดอยู่ตลอด ว่าเจ้าชอบนางจริง ๆ แต่เมื่อเจ้ามาถึงจวนของข้า ทุกการคาดเดาของเจ้า ล้วนเป็นการดูถูกนาง” “ฉีจื่อฟู่ เจ้าคิดว่าความชอบของเจ้า สามารถพิสูจน์ออกมาได้จริง ๆ หรือ?”ครานี้สีหน้าของฉีจื่อฟู่ดูย่ำแย่ลงโดยสิ้นเชิง จะสามารถพิสูจน์ออกมาได้หรือไม่นั้น? เขาคิดว่า อย่างน้อยในสายตาของหรงจือจือ เขาคงพิสูจน์อะไรออกมาไม่ได้ เพราะตอนนี้ความเกลียดชังที่นางมีต่อเขา แทบจะเขียนอยู่บนใบหน้าแล้วเซิ่ง

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 369

    เสิ่นเยี่ยนซูกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “ข้าคิดว่าสมองของเจ้าน่าจะเพี้ยน”ฉีจื่อฟู่กลับเข้าใจผิด จึงรีบกล่าวว่า “ท่านเสนาบดี ข้าน้อยรู้ว่าตนเองเลอะเลือน และไม่ควรมาหาท่านที่นี่เพื่อพูดถึงเรื่องผู้หญิงคนหนึ่งตั้งมายมายเช่นนี้ขอรับ”“แต่ไม่ว่าจะอย่างไร สุดท้ายหรงจือจือก็เคยเป็นฮูหยินของข้าน้อย ข้าน้อยกังวลจริง ๆ ว่านางจะทนต่อแรงโจมตีและการทำร้ายไม่ไหว ถึงได้...”เสิ่นเยี่ยนซูหัวเราะเสียงเย็น “แต่ตามที่ข้ารู้มา จนถึงตอนนี้ คนที่ทำร้ายนางมากที่สุด ดูเหมือนจะเป็นเจ้า”ฉีจื่อฟู่สะอึกไป ถึงกับต่อบทสนทนาไม่ได้เล็กน้อย “ข้าน้อย ข้าน้อย...”เขาอ่ำอึ้งอยู่นานมาก ในที่สุดก็ยังคงยืดหลังตรง “แต่ข้าน้อยชอบจือจือด้วยความจริงใจ ส่วนท่านเสนาบดีรู้สึกกับนางแค่ชั่ววูบเท่านั้น เหตุใดท่านต้อง...”เสิ่นเยี่ยนซูขัดจังหวะ “ผู้ใดบอกเจ้า ว่าข้ารู้สึกแค่ชั่ววูบ?”ฉีจื่อฟู่ตกตะลึงในชั่วขณะนั้น พลางมองไปทางเสิ่นเยี่ยนซูอย่างเหลือเชื่อ “หรือว่าความหมายของท่านเสนาบดีคือ...เมื่อก่อนท่านก็ชอบนางแล้ว?”เสิ่นเยี่ยนซูมองเขาอย่างไม่ใส่ใจอยู่พักหนึ่งจากนั้นก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกว่า “ก็เพราะเป็นคนอย่างเจ้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 368

    เห็นหรงซื่อเจ๋อไม่สนใจตนเอง หรงเจียวเจียวก็เบะปากกล่าว “พี่ชาย ความจริงข้าคิดว่าหรงจือจือแค่กำลังตั้งใจพูดให้คนอื่นตกใจกลัว ส่วนอวิ๋นเสวี่ยเซียวนั่นแค่ข่มขู่ท่านก็เท่านั้น”“พวกเรารออีกหน่อยดีกว่า หลังผ่านไปไม่กี่วันนางพบว่าหาสามีที่ดีกว่าท่านไม่ได้ คิดว่าก็คงจะเสียใจภายหลังเป็นแน่เจ้าค่ะ!”หรงซื่อเจ๋อ “หุบปาก!”เขาแค่เพราะเอาแต่ฟังคำพูดของน้องหญิง ถึงทำให้กลายเป็นเช่นนี้ แล้วนางยังจะบอกว่าตนเองทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีก!อีกอย่าง อะไรคืออวิ๋นเสวี่ยเซียวหาสามีที่ดีกว่าไม่ได้ ก็จะกลับมาหาตนเอง? หรือว่าเขาเป็นเพียงตัวเลือกของอวิ๋นเสวี่ยเซียวงั้นหรือ? เดิมทีเขาเป็นตัวเลือกแรก แต่ทั้งหมดเป็นเพราะน้องหญิง ถึงทำให้กลายเป็นเช่นนี้!จู่ ๆ หรงเจียวเจียวกก็ถูกเขาตะโกนใส่ ขอบตาจึงแดงขึ้นมาในทันที “พี่ชาย ท่านจะดุทำไม ทุกอย่างที่ข้าทำไม่ใช่เพื่อท่านหรือเจ้าคะ?”“หากไม่ใช่เพราะใส่ใจท่าน ข้ากับท่านแม่คงไม่คิดแผนการเพื่อท่านมากมายเช่นนี้!”“อีกอย่าง ครั้งก่อนท่านพูดชัดเจนแล้ว ว่าสามารถทำให้หรงจือจือสละการแต่งงานให้ข้าได้ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ ข้าไม่ได้ตำหนิท่าน แต่ท่านกลับตำหนิข

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 367

    หรงจือจือย้อนถาม “หลังจากทุกอย่างสำเร็จ ความดีความชอบล้วนเป็นของเจ้ากับมารดาเจ้า แต่หากมันล้มเหลว ก็จะโทษว่าเป็นเพราะการทำตามใจตนเองของข้า?”ดวงตาของหรงเจียวเจียวฉายวาบ และมีความรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย เพียงเพราะนางรู้ดี ว่าสิ่งที่หรงจือจือพูดล้วนเป็นความจริงหรงจือจือหัวเราะเสียงเย็นพลางกล่าว “พวกเจ้าคิดมาดีมาก แต่น่าเสียดาย มิตรภาพของข้ากับพวกเจ้าไม่ได้ลึกซึ้งเช่นนั้นมานานแล้ว!”เรื่องอย่างพอมีอะไรผิด มีอะไรต้องรับผิดชอบ ตนเองจะแบกรับไว้คนเดียว แต่พอมีอะไรดี ล้วนแบ่งปันให้พวกเขา เมื่อก่อนหรงจือจือเคยทำไปไม่น้อย แถมยังทำอย่างไม่ลังเลเสียด้วยแต่ตอนนี้ นางไม่เต็มใจทำแม้แต่เรื่องเดียว เพราะว่าพวกเขา ต่างก็ไม่คู่ควร!นางจ้องมองหรงซื่อเจ๋อ “แทนที่เรื่องนี้เจ้าจะโทษข้า ไปโทษคนที่คิดว่าตนเองฉลาดพวกนั้นไม่ดีกว่าหรือ จิ๊....พระโพธิสัตว์ช่างเมตตา ถึงทำให้เขาคิดแผนที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ออกมาได้!”ขณะที่พูด นางยังแสยะยิ้ม โดยมีทั้งการเยาะเย้ยและมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น จนแทบจะเขียนอยู่บนใบหน้าหรงเจียวเจียวโมโหจนกระทืบเท้า “หรงจือจือ เจ้าเป็นเช่นนี้ ไม่กลัวข้าจะไปฟ้องกับท่านพ่อ ว่าเจ้าไ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 366

    หรงจือจือกล่าวด้วยเสียงเนิบนาบว่า “แน่นอนว่าทุกอย่างล้วนทำตามคำพูดของน้องสาม อย่างหรงซื่อเจ๋อ ยังทำตามแผนของเจ้า และข้าก็เป็นเพียงคนคอยจัดการธุระให้เท่านั้น ไหนเลยจะกล้าทำตามใจตนเอง?”หรงเจียวเจียว “เจ้า...”เห็นหรงจือจือไม่รู้สึกผิดแม้แต่น้อย ในขณะนั้นนางก็เริ่มไม่ค่อยแน่ใจแล้วแต่หรงจือจือยังพูดอีกประโยคหนึ่งว่า “หากพวกเจ้าไม่เชื่อ สามารถส่งคนไปถามแม่นางอวิ๋นอู่ได้ ว่าข้าเคยไปขอร้องให้นางกลับมาแต่งเข้าสกุลหรงอีกหรือไม่? แล้วข้าได้พูดคำที่น้องสามบอกไว้ โดยไม่ตกหล่นแม้แต่คำเดียวหรือเปล่า”หรงเจียวเจียวเห็นหรงจือจือกล้าเผชิญหน้า ก็ยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่ นางจึงกล่าวอย่างเหลือเชื่อว่า “นี่ นี่จะเป็นไปได้อย่างไรกัน...”หรงจือจือเห็นท่าทางที่นางโดนความโง่ของตนเองเล่นงาน กลับรู้สึกอารมณ์ดีไม่น้อยจากนั้นก็ให้คำแนะนำกับคนโง่เขลาทั้งสองไปว่า “ท่านพ่อสนใจสกุลอวิ๋น นั่นก็เป็นเพราะว่าใต้เท้าอวิ๋นเป็นขุนนางที่ซื่อตรงอย่างมาก และสกุลอวิ๋นก็ไม่ใช่พวกที่ชอบประจบผู้มีอำนาจเช่นนั้น”“แถมพี่ชายทั้งสี่ของคุณหนูอวิ๋นอู่โดดเด่นกันทุกคน แม้ตำแหน่งงานจะไม่สูง แต่ล้วนกำอำนาจที่แท้จริงอยู่ในมือ สกุลอวิ๋นขอ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 365

    หรงจือจือพยักหน้า กล่าวเบาๆ ว่า “ไม่เลว วิธีที่เจ้ากับท่านแม่คิดขึ้นมานับว่าดีมาก”เมื่อหรงเจียวเจียวฟังจบ ดวงตาก็พลันเปล่งประกายท่าทางยิ่งดูได้ใจ “ข้ารู้อยู่แล้ว! แม้ว่าท่านพ่อจะมีตำแหน่งถึงมหาราชครู แต่เรื่องความคิดของพวกสตรีในเรือนหลัง เขาจะรู้ดีไปกว่าข้ากับท่านแม่ได้อย่างไร?”ใจที่แขวนอยู่ของหรงซื่อเจ๋อในที่สุดก็วางลงไปได้กว่าครึ่งอันที่จริง หลังจากที่หรงจือจือออกไปแล้ว เขาก็ยังคงรู้สึกหวาดกลัวอยู่บ้าง ในมือถือตำราอยู่ก็อ่านไม่เข้าหัว ครานี้จึงจะวางใจได้เสียทีหรงเจียวเจียวถามต่อว่า “อวิ๋นเสวี่ยเซียวได้บอกหรือไม่ว่า ตระกูลอวิ๋นของพวกเขาจะมาสู่ขอใหม่เมื่อใด? แล้วจะมาขอโทษพี่รองเมื่อใด?”“ข้าล่ะยอมใจให้กับตระกูลนี้จริงๆ มีชีวิตดีๆ อยู่ไม่ชอบ ต้องมาสร้างเรื่องเช่นนี้ สุดท้ายก็ยังต้องหน้าด้านมาที่บ้าน มาขอร้องให้พี่ชายแต่งนางใหม่ แบบนี้ไม่ยิ่งน่าขายหน้ากว่าหรือ?”“เหอะ ไม่รู้ว่าก่อเรื่องวุ่นวายนี้ขึ้นมา ทั้งหมดนี้เพื่ออะไรกัน!”หรงซื่อเจ๋อกล่าวว่า “อันที่จริง ข้าก็ไม่ต้องการให้นางมาขอร้องอะไรข้า เพียงแค่นางส่งใบเทียบดวงชะตากลับมาใหม่ และกล่าวขอโทษเจียวเจียวสักคำก็พอแล้ว”“อย

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 364

    ฉีอวี่เยียนกล่าว “ท่านมันช่างโง่เขลาเสียจริง! ท่านเอาใจใส่นางถึงเพียงนี้ แต่นางกลับไม่เห็นค่าแม้แต่น้อย ข้าช่างไม่เข้าใจเลยว่าท่านต้องการอะไร!”ฉีจื่อฟู่ตอบเพียงสั้นๆ “แค่อยากให้ตัวเองไม่รู้สึกผิดก็เท่านั้น”......หรงจือจือไปพบมหาราชครูหรงและบอกว่าตนเองได้เกลี้ยกล่อมแล้ว แต่ตระกูลอวิ๋นไม่ยอมนางไม่ได้เอ่ยถึงคำพูดที่ฉีจื่อฟู่และหรงเจียวเจียวสั่งให้นางพูด เพราะพวกเขาพูดได้ แต่นางไม่สามารถพูดความจริงนั้นได้หากนางพูดออกไป บิดาคงตำหนินางกลับมาว่าไม่รู้ความ ไม่รู้ว่าอะไรควรพูดหรือไม่ควรพูดนางจึงเลือกที่จะไม่พูดอะไรเลย ปล่อยให้บิดาไม่รู้เรื่องมหาราชครูหรงรู้ว่าล้มเหลว แม้จะผิดหวังบ้าง แต่ก็ไม่ได้ตำหนิอะไรมากนัก เพียงแค่บอกให้นางกลับไปกลับถึงเรือนอี่เหมยคำพูดที่พี่น้องตระกูลฉีพูดกันที่หน้าประตูหลังจากหรงจือจือเข้ามาในจวน ถูกเจาอู้เล่าให้หรงจือจือฟังทั้งหมดหรงจือจือซึ่งปกติก็ใจเย็น ยังอดไม่ได้ที่จะกระตุกมุมปากเบาๆ ยังจะพูดว่าทำไปเพื่อมโนสำนึกอยู่อีกหรือ? ฉีจื่อฟู่นี่ คงใกล้จะซาบซึ้งจนน้ำตาซึมกับความดีของตัวเองแล้วกระมัง?เจาซีเกือบจะอาเจียนออกมา “ที่แท้การพยายามป้ายสีตัวเองให้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 363

    ประโยคนั้นเล่นเอาเจาซีถึงกับสะดุ้ง เพราะนางเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ก่อนหน้านี้ท่านอัครเสนาบดีเคยพูดว่าจะขอนางในเรือนของพวกตน แต่ว่า เป็นภรรยาเอกหรือแค่อนุนั้น ดูจะยังไม่เคยพูดชัดเจนเสียด้วยซ้ำฉีอวี่เยียนก็รีบโพล่งขึ้นมาอย่างมีโมโหว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะพี่ข้าคิดเผื่อเจ้า เขาคงไม่เสียเวลาอยู่กับเจ้าเป็นวันๆ อย่างนี้หรอก! ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเขาลงแรงมาพูดกับเจ้าด้วยตัวเอง!”“เราก็แค่หวังดีแท้ๆ เจ้ายังจะมองเป็นน้ำใจเน่าๆ เหมือนตับลาของใครเข้าอีก! ไม่รู้ดีชั่วจริงๆ!”หรงจือจือหัวเราะเบาๆ อย่างเย็นชา ก่อนจะเหลือบตามองทั้งคู่ด้วยท่าทีเฉยเมย “เรื่องของข้า ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาเหนื่อยใจแทนหรอก พวกเจ้าจะเก็บน้ำใจอันแสนงดงามนี้ไว้ไปมอบให้คนที่รู้จักดีชั่วอย่างที่ปากเจ้าพร่ำบอกเถิด ข้า ข้าไม่มีปัญญารับไว้แม้แต่เสี้ยวเดียว”เห็นนางพูดเช่นนั้น ฉีจื่อฟู่ก็ขมวดคิ้วแน่น จ้องหน้าหรงจือจือพลางเอ่ยด้วยเสียงเข้ม “ทำไม? หรือว่าเจ้าไม่เชื่อในสิ่งที่ข้าพูด?”หรงจือจือย่อมไม่เชื่ออยู่แล้ว นางตอบเรียบเย็นว่า “ท่านอัครเสนาบดีเป็นคนฉลาด หากข้ายินดีจะเป็นแค่อนุ คงไม่ถึงขั้นต้องตัดขาดกับตระกูลฉีอย่างที่ผ่านมา และเขาเ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 362

    หรงจือจือสงสัยว่าอาการป่วยทางสมองของคนตระกูลฉี จะหนักกว่าเดิมแล้วหรือไม่ตั้งแต่แรกนางก็ไม่อยากเจอฉีจื่อฟู่แล้วไม่ใช่หรือ? ใครใช้ให้พวกเขามารอที่นี่กัน?เจาซีอดไม่ไหว เอามือเท้าสะเอวด่าฉีอวี่เยียน “เจ้าคงไม่ใช่จิตรกรชั้นยอดหรอกนะ คนอื่นไม่ให้หน้าเจ้า แต่เจ้ากลับวาดหน้าตัวเองให้ทั้งใหญ่ทั้งกลมได้!”“คุณหนูของข้าเห็นพวกเจ้าพี่น้อง ก็มีแต่จะรู้สึกว่าเป็นลางร้าย!”“พวกเจ้าเองที่เสนอหน้าเข้ามา ปักหลักไม่ยอมไปจากหน้าจวนตระกูลหรง ตอนนี้ยังมาพูดเหมือนใครไปอ้อนวอนให้พวกเจ้ามา ถึงขนาดต้องขอโทษพวกเจ้าด้วยงั้นหรือ?”ฉีอวี่เยียนฟังจบก็โกรธจนหน้าเขียวคล้ำ มองไปยังหรงจือจือแล้วกล่าวว่า “หรงจือจือ เจ้าก็ไม่คิดจะดูแลบ่าวของเจ้าหน่อยหรือ!”“เจ้าฟังดูสิว่านางพูดอะไรออกมา? เจ้านายพูดกันอยู่ ถึงคราวให้บ่าวใช้ชั้นต่ำผู้หนึ่งพูดสอดตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”ฉีจื่อฟู่ถูกเจาซีด่าเช่นนี้ ก็รู้สึกเสียหน้ามากเช่นกันหรงจือจือกล่าวด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “เจาซีเป็นบ่าว ก็เป็นแค่บ่าวของข้า ยังไม่ถึงตาเจ้ามาสั่งสอน”“ที่นี่ไม่ใช่ตระกูลฉีของพวกเจ้า ข้าก็ไม่ใช่คนตระกูลฉีของพวกเจ้า เจ้าอยากจะวางอำนาจ ก็กลับไปวางที่จวนข

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status