“แล้วนายจะทำยังไงกับนักข่าวนั่น” โอเวนถามถึงแจ็กสัน นฤบดินทร์จึงแค่นยิ้มร้ายกาจก่อนพูดว่า
“พวกนายมีใครที่รู้จักทนายความเก่ง ๆ บ้างไหม” เมื่อเขาพูดจบ ดีแลนก็เบิกตากว้างแล้วชี้มาทางเขา
“นายจะเล่นงานหมอนั่น? หรือว่าเอ็มเอสเดลีด้วย”
นฤบดินทร์ยักไหล่ “แน่นอนว่าฉันจะเล่นทั้งคู่ ทำไงได้ ฉันเป็นผู้เสียหายและเสียชื่อเสียง ในเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้ฉันก็ควรหาเงินเข้ากระเป๋าสักหน่อยไม่ดีกว่าหรือเพื่อน”
เสียงเคาะประตูห้องทำงานดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้มัลลิกาลงจากตักของภาวินแล้วนั่งบนเก้าอี้อีกตัวก่อนจะตะโกนอนุญาตคนที่ยืนหน้าห้องให้เข้ามาได้
พราวนภายืนบีบมือเข้าหากันพลางบิดไปมาเล็กน้อย สีหน้าและแววตาที่มองบิดามีแต่ความเว้าวอนอ้อนขอจนคนมองอย่างมัลลิกายังใจอ่อนยวบ แล้วผู้เป็นบิดาที่รักบุตรสาวปานแก้วตาดวงใจจะใจแข็งไหวหรือ
“หนูขอร้องค่ะคุณพ่อ ให้หนูไปนะคะ” พราวนภาอ้อนวอนบิดาเสียงสั่น ภาวินมองแล้วได้แต่ถอนหายใจแผ่วพลางหลับตาลงอย่างครุ่นคิด จนกระทั่งรับรู้ได้ถึงแรงบีบเบา ๆ บน
“แล้วนายจะทำยังไงกับนักข่าวนั่น” โอเวนถามถึงแจ็กสัน นฤบดินทร์จึงแค่นยิ้มร้ายกาจก่อนพูดว่า“พวกนายมีใครที่รู้จักทนายความเก่ง ๆ บ้างไหม” เมื่อเขาพูดจบ ดีแลนก็เบิกตากว้างแล้วชี้มาทางเขา“นายจะเล่นงานหมอนั่น? หรือว่าเอ็มเอสเดลีด้วย”นฤบดินทร์ยักไหล่ “แน่นอนว่าฉันจะเล่นทั้งคู่ ทำไงได้ ฉันเป็นผู้เสียหายและเสียชื่อเสียง ในเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้ฉันก็ควรหาเงินเข้ากระเป๋าสักหน่อยไม่ดีกว่าหรือเพื่อน”เสียงเคาะประตูห้องทำงานดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้มัลลิกาลงจากตักของภาวินแล้วนั่งบนเก้าอี้อีกตัวก่อนจะตะโกนอนุญาตคนที่ยืนหน้าห้องให้เข้ามาได้พราวนภายืนบีบมือเข้าหากันพลางบิดไปมาเล็กน้อย สีหน้าและแววตาที่มองบิดามีแต่ความเว้าวอนอ้อนขอจนคนมองอย่างมัลลิกายังใจอ่อนยวบ แล้วผู้เป็นบิดาที่รักบุตรสาวปานแก้วตาดวงใจจะใจแข็งไหวหรือ“หนูขอร้องค่ะคุณพ่อ ให้หนูไปนะคะ” พราวนภาอ้อนวอนบิดาเสียงสั่น ภาวินมองแล้วได้แต่ถอนหายใจแผ่วพลางหลับตาลงอย่างครุ่นคิด จนกระทั่งรับรู้ได้ถึงแรงบีบเบา ๆ บน
ภาวินนั่งเอามือกุมศีรษะพลางหลับตานิ่งอยู่บนโต๊ะทำงาน หนักใจไม่น้อยเมื่อเห็นสายตาผิดหวังของบุตรสาว ใช่ว่าเขาไม่มีเหตุผลหรือต้องการกีดกันทั้งคู่ไม่ให้เจอกัน แต่เพราะมีหลายสาเหตุที่ทำให้เขาตัดสินใจว่าพราวนภาไม่ควรไปอย่างยิ่งหนึ่งคือเขาไม่ได้ไปด้วย จึงไม่สามารถสอดส่องให้บุตรสาวอยู่ในสายตาได้ สองคือเพราะเขารู้ว่าพราวนภากับนฤบดินทร์มีใจให้กัน และรู้ด้วยว่าทุกวันนี้สองหนุ่มสาววิดีโอคอลคุยกันแทบทุกวัน เขากลัวว่าหากทั้งสองคนได้เจอหน้ากันแล้วอาจเกิดเรื่องเลยเถิดได้ และสามคือเขาไม่รู้ว่าสถานการณ์ทางนั้นเป็นอย่างไร ตึงเครียดหรือวุ่นวายมากแค่ไหน นฤบดินทร์อาจจะกำลังยุ่งกับการให้ปากคำตำรวจ หรือยุ่งกับเรื่องเหล่านี้อยู่ ดังนั้นเขาจึงอยากให้บุตรสาวคอยฟังข่าวอยู่ทางนี้มากกว่าลึก ๆ แล้วเขาไม่เคยรังเกียจนฤบดินทร์ ออกจะยินดีด้วยซ้ำหากว่าในอนาคตบุตรสาวของเขาจะลงเอยกับอีกฝ่าย แต่เพราะพราวนภายังเด็กเกินไป ยังไม่บรรลุนิติภาวะเลยด้วยซ้ำ ส่วนนฤบดินทร์ก็อายุแค่ยี่สิบสี่ หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล หากทั้งสองคนเลยเถิดกันตอนนี้แล้วอนาคตต่างคนต่างเจอคนใหม่ แต่ยังต้องเจอหน้ากันเกือบทุกวันเพราะบ้านติด
“พราวเชื่อข่าวพวกนั้นไหม เท่าที่พี่เห็นดูเหมือนว่าข่าวของที่นี่กับที่เมืองไทยจะไปคนละทางกันเลยนะ” ชายหนุ่มมองหน้าเธอนิ่ง เธอจึงตอบไปทันทีโดยแทบไม่ต้องคิด“ไม่เชื่อ! ไม่มีอะไรเป็นเรื่องจริงสักอย่าง คนที่ชื่อแอนนั่นจงใจใส่ร้ายพี่ แชตพวกนั้นก็ไม่ใช่ของจริง ผู้หญิงคนนั้นสร้างแชตปลอมขึ้นมาเอง นิสัยแย่มาก” เธอได้แต่แค้นแทนเขา ผู้หญิงที่ชื่ออันธิกานั่นฆ่าตัวตายไปเองแท้ ๆ แต่กลับทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ให้นฤบดินทร์“แค่พราวเชื่อพี่ อย่างอื่นพี่ก็ไม่สนแล้ว” เขายิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เธอกลับร้อนรนแทนเขา“ได้ยังไง พวกนั้นเข้าใจผิดแล้วก็มาด่าพี่สาดเสียเทเสียแบบนี้พราวไม่ชอบเลย พราวจะให้พวกที่ด่าพี่ได้รู้ความจริงว่าอะไรเป็นอะไร”“อย่าเชียวนะพราว ห้ามไปโพสต์อะไรในเฟซนั้นเด็ดขาด บอกคนที่บ้านด้วยว่าปล่อยเฟซนั้นไปเลยไม่ต้องเข้าไปอ่านเลยยิ่งดีจะได้ไม่ประสาทเสีย อย่าเข้าไปแสดงตัวอะไรทั้งนั้นเพราะอาจโดนหางเลขไปด้วย พี่มีวิธีจัดการของพี่ ตอนนี้แค่รอให้ตำรวจที่นี่เขาทำงานไปก่อน อีกไม่นานหรอก เดี๋ยวทุกอย่างก็เปิดเผยออกมา
พราวนภามองดูนาฬิกาบนหัวเตียงแล้วก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ ใกล้เที่ยงคืนแล้วแต่ยังไร้วี่แววสายเรียกเข้าจากนฤบดินทร์ ทั้งที่ปกติชายหนุ่มจะต้องวิดีโอคอลมาหาตั้งแต่ช่วงหนึ่งหรือสองทุ่มแล้วเธอไม่กล้าโทร. หาเขาก่อนเพราะไม่แน่ใจว่าเวลานี้นฤบดินทร์กำลังเข้าคลาสเรียนหรือไม่ ดังนั้นหากเป็นเวลาช่วงนี้พราวนภาจึงมักเฝ้ารอให้เขาเป็นฝ่ายโทร. มาหา เว้นเสียแต่ว่าเวลาที่บอสตันเป็นช่วงกลางคืนที่เขาไม่มีเรียน เธอถึงจะกล้าโทรศัพท์ไปหาเขา“สงสัยอ่านหนังสือจนหลับไปแล้วมั้งเนี่ย” แม้รูปลักษณ์ของนฤบดินทร์จะดูเป็นหนุ่มเสเพลเจ้าสำอาง แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าความจริงแล้วชายหนุ่มเป็นคนทุ่มเทและจริงจังกับสิ่งที่ตนสนใจอย่างยิ่งยวดตอนเรียนปริญญาตรีในช่วงใกล้สอบ เขาเหมือนทำตัวสบาย ๆ ไม่แยแสเรื่องผลการเรียน ซึ่งผลก็ออกมาดีเลิศทุกครั้งจนหลายคนคิดว่าเขามีมันสมองที่ฉลาดปราดเปรื่อง แต่คนเหล่านั้นไม่รู้เลยว่านฤบดินทร์อ่านหนังสือหนักแค่ไหน ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำได้ล้วนมาจากความเพียรพยายามของเขาทั้งสิ้น“เอ๊ะ! หรือจะไม่สบาย” นึกถึงเรื่องนี้ก็อดเป็นห่
จริงสินะ เขาก็ลืมไปเลยว่าพ้นเที่ยงคืนวันนี้ไปจะเป็นวันเกิดของเขา“พี่ดินอธิษฐานนะ พราวจะเป่าเทียนให้เอง”“อธิษฐานอะไรดีล่ะ อธิษฐานไปแล้วไม่ได้ตามที่ขอก็แย่น่ะสิ” เขาอดยิ้มไม่ได้ ยิ่งเห็นหน้าเธอก็ยิ่งอยากเจอตัวเป็น ๆ อยากกอดให้เต็มอ้อมแขน อยากจูบให้หายคิดถึง“แล้วพี่ดินจะอธิษฐานอะไรล่ะ” เธอถามโดยที่มือยังถือคัพเค้กไว้อย่างนั้น และเทียนก็ยังไม่ถูกเป่า“อยากให้พราวมาหาพี่ที่นี่ไง คิดว่าจะเป็นไปได้ไหมล่ะ” เขาเห็นเธอยิ้มกว้างจนหน่วยตาเรียวเล็ก“อันนี้พราวก็ไม่แน่ใจนะพี่ว่าจะสมหวังดังที่ขอไหม ต้องขึ้นอยู่กับคุณพ่อแล้วละ ถ้างั้นพราวเป่าเทียนให้พี่นะ” เธอพูดจบก็ห่อปากเป่าเทียนเล่มนั้น และช่วยไม่ได้เลยที่ผู้ชายอย่างเขาจะอดคิดลึกไม่ได้“เอาไว้กลับถึงเมืองไทยแล้วจะให้เป่าเทียนเล่มใหญ่กว่านี้”เขาพูดกลั้วหัวเราะ ก่อนจะหัวเราะดังลั่นห้องกว่าเดิมเมื่อได้ยินประโยคถัดมาของพราวนภา“เทียนพรรษารึไง ไม่เอาหรอก อันนั้นต้องใช้พัดลมเป่าแล้วมั้ง”“อันนั้นก
“แหม พี่ดินไม่ต้องคิดมากเรื่องพราวหรอก พราวมากกว่าที่น่าจะเป็นฝ่ายคิดมาก พี่ไปอยู่ที่นั่นไม่รู้จะมีสาว ๆ มาปิ๊งบ้างไหม ตัวเองยิ่งเสน่ห์แรงอยู่” เธอทำหน้ายู่ใส่เขา ชายหนุ่มยิ้มให้แล้วพูดว่า“มีอะไรต้องคิดมากละหืม...พราวน่าจะรู้ดีที่สุดว่าพี่เป็นคนยังไง พี่ชอบกินอะไรก็จะกินอยู่แต่อย่างนั้นไม่เคยเบื่อ กับพราวก็เหมือนกัน”พราวนภารู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นทันที แม้เขาจะไม่ได้บอกรักออกมาโต้ง ๆ แต่ประโยคของเขากลับฟังแล้วรู้สึกได้ถึงความหนักแน่นในหัวใจของคนพูดได้เป็นอย่างดีนฤบดินทร์ยืนกอดอกมองแมทธิวจ้วงกำปั้นใส่กระสอบทรายรัว ๆ อย่างไม่มีแบบแผนแต่กระสอบทรายแทบไม่ขยับ เขาเริ่มรู้สึกทนมองไม่ได้จึงต้องตะโกนสั่งให้หยุดแล้วเดินเข้าไปหาพลางสวมนวมให้ตัวเองไปด้วย“นายเหวี่ยงหมัดแบบนั้นไม่ได้เพราะจะทำให้เหนื่อยง่ายและความแรงของกำปั้นไม่เพียงพอ นายดูนี่”ชายหนุ่มยืนแยกขาเล็กน้อย ตั้งการ์ดขึ้นแล้วพูดต่อ “ตั้งการ์ดไว้ตลอดเวลา ถ้านายถนัดขวานายต้องเอาแขนขวาไว้ข้างหลังแล้วให้แขนซ้ายอยู่ข้างหน้าเล็กน้อยเ