Share

1 อยู่ร่วมกัน

last update Last Updated: 2025-11-18 13:25:52

เด็กหญิงผมเปียใบหน้าน่ารักสมวัยสีหน้าไม่ค่อยดีนักเมื่อได้ยินว่าบิดาของตัวเองพาเด็กผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาในบ้าน สภาพมอมแมมไม่ต่างอะไรจากเด็กข้างถนน เด็กหญิงนันท์ลินีไม่ค่อยชอบใจนัก เธอต้องการเป็นจุดศูนย์รวมของความรักของคนทั้งบ้าน ไม่ได้ต้องการมีพี่น้องหรือสมาชิกอื่นใด เพิ่มเข้ามาในครอบครัวอีก

“น้องอันทำไมทำหน้าแบบนั้นละคะ” สาวิตรี ผู้เป็นมารดาเห็นหน้าของบุตรสาวบึ้งตึงจึงเข้าไปปลอบประโลม

“ไอ้เด็กนั่นเป็นใครคะ” เธอรู้อยู่แล้วว่ามารดาจะต้องถามคำถามนี้

“เด็กนั่น!! ทำไมน้องอันพูดไม่เพราะเลยล่ะคะ” ผู้เป็นมารดาดุ เธอจำได้ว่าไม่เคยสอนให้เด็กหญิงมีนิสัยเช่นนี้

“แล้วมันเป็นใครล่ะคะคุณแม่” นันท์ลินียังคงรอคำตอบจากปากของมารดา

สาวิตรีถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายใจ ที่เด็กหญิงตัวน้อยมีท่าทางเช่นนั้น คงเป็นเพราะเธอตามใจบุตรสาวมากจนเกินไป เพราะในอดีตกว่าที่เธอจะตั้งครรภ์นันท์ลินี ก็ใช้เวลาเฝ้ารออยู่หลายปี เมื่อเด็กหญิงถือกำเนิดขึ้นมา ทั้งครอบครัวเลยค่อนข้างตามใจ

แม้จะรู้ว่าในอนาคตเด็กหญิงจะต้องเสียคนอย่างแน่ ๆ แต่ทั้งผู้เป็นบิดาและมารดายามเมื่อเห็นน้ำตาของเด็กหญิง ทั้งสองคนก็อดไม่ได้ที่จะใจอ่อน

“ใจเย็น ๆ นะคะน้องอัน” สาวิตรีพยายามทำให้บุตรสาวใจเย็นลง และเริ่มอธิบายถึงที่มาที่ไปของเด็กชายคนดังกล่าว “คนนี้พี่น้ำค่ะ เป็นลูกชายของเพื่อนคุณพ่อคุณแม่เอง เพราะที่บ้านพี่น้ำเกิดเรื่อง คุณพ่อคุณแม่เคยรับปากเอาไว้ว่า ถ้าทั้งสองคนเป็นอะไรไป จะรับพี่น้ำมาอยู่ด้วย และต่อไปนี้...”

“ไม่เอา ที่บ้านนี้ต้องมีอันเป็นเด็กคนเดียวเท่านั้น” ผู้เป็นมารดายังไม่ทันจะพูดจบเด็กหญิงนันท์ลินีก็พูดแทรกเข้ามา

“ฟังก่อนสิคะ” สาวิตรีพยายามใจเย็นกับบุตรสาว

“ไม่เอา อันไม่ฟัง” เด็กหญิงเอามือปิดหู จนกระทั่งเห็นบิดาเดินตามเข้ามาในบ้าน เธอจึงเดินไปหาบิดาแทน “คุณพ่อคะ คุณแม่บอกว่าจะเลี้ยงไอ้เด็กมอมแมมนั่น อันไม่ยอมนะ อันอยากเป็นเด็กคนเดียวในบ้านค่ะ” เธอรู้ว่าบิดาตามใจเธอ ไม่ว่าจะขอร้องอะไรเขาก็พร้อมจะรับฟัง

สีหน้าของนพดลดูลำบากใจ

“น้องอัน ฟังพ่อนะครับ” ร่างสูงของผู้เป็นบิดานั่งคุกเข่าลงกับพื้น และจับหัวไหล่ของเด็กหญิงเอาไว้ “ต่อไปนี้พี่น้ำจะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรา คุณพ่อกับคุณแม่จะยังรักน้องอันเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง พี่น้ำก็จะรักน้องอันด้วยเหมือนกัน”

เด็กหญิงเบะปากทำท่าจะร้องไห้ สายตามองไปยังเด็กผู้ชายที่อายุมากกว่าเธอ สภาพแบบนั้นน่ะเหรอจะมาเป็นพี่ชายของเธอ

“ไม่....อันไม่ยอม” เด็กหญิงเริ่มหลั่งน้ำตา น้ำตาของเธอได้ผลทุกครั้ง

เด็กชายชลาธิปเห็นสีหน้าและท่าทางของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ แล้วก็รู้สึกโกรธ แต่ก็ต้องอดทนอดกลั้นความรู้สึกเอาไว้ อย่างไรเขาก็เป็นผู้มาขออาศัย และคุณน้าทั้งสองคนก็เป็นผู้มีพระคุณของเขา อีกอย่างทั้งบิดาและมารดาของตนเองนั้นก่อนที่จะจากไปยังกำชับให้เขา ซาบซึ้งในบุญคุณของคุณน้าอย่างที่สุด

เขาจึงต้องอดทนอดกลั้นต่อสายตาที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยาม ที่แสดงออกมาจากใบหน้าของเด็กหญิงที่ใบหน้าน่ารักนั่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เด็กชายเชื่อว่าถ้าเขาไม่ไปยุ่งกับเธอ เธอก็คงจะไม่ยุ่งกับเขา ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังใหญ่นี้อย่างเจียมตัว

“คุณน้าครับ ผมไปอยู่ที่บ้านข้างหลังก็ได้” ตอนที่เดินสำรวจบ้านเด็กชายเห็นเรือนหลังเล็กด้านหลัง คิดว่าน่าจะเป็นที่อยู่ของคนรับใช้ของบ้าน เขาไปอยู่ที่นั่นน่าจะเหมาะสมกว่า

นพดลได้ยินสิ่งที่เด็กชายเอ่ยออกมาก็ไม่ชอบใจนัก

“ได้ยังไงกัน น้ารับปากพ่อกับแม่ของน้ำเอาไว้แล้วว่าจะดูแลน้ำอย่างดี จะไปอยู่ที่นั่นได้ยังไงกัน” ผู้เป็นนายของบ้านไม่ยินยอมเด็ดขาดไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เขาตั้งใจจะเลี้ยงดูเด็กชายที่เป็นบุตรชายของเพื่อนสนิทของภรรยาเป็นอย่างดี “น้าไม่ได้จะให้เรามาเป็นคนรับใช้สักหน่อย”

“คุณพ่อ” นันท์ลินีได้ยินสิ่งที่บิดากล่าวก็ปรี๊ดกว่าเดิม เด็กหญิงเขวี้ยงแก้วกระเบื้องไปยังจุดที่เด็กชายยืนอยู่ เพื่อเป็นการระบายความโกรธ แต่ดูเหมือนเขาจะรับเอาไว้ได้ ทำให้แก้วราคาแพงไม่ได้รับความเสียหาย

“น้องอันหยุดนะ อย่าทำนิสัยแบบนี้” ผู้เป็นบิดาโล่งอกที่เด็กชายไม่ได้รับบาดเจ็บ

“คุณพ่อ....อันจะไปฟ้องคุณปู่” ในเมื่อโวยวายกับบิดาและมารดาไม่ได้ผล เธอจะเอาเรื่องนี้ไปบอกกับคุณปู่

เมื่อพูดจบเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ก็วิ่งหนีหายไป

เหลือไว้แค่เพียงสาวิตรี นพดลและเด็กชายเท่านั้น ร่างกายสูงใหญ่ของนพดลทรุดตัวนั่งลงกับโซฟา ยกแขนข้างหนึ่งขึ้นก่ายหน้าผาก เขาผิดเองที่ตามใจเด็กคนนี้มาตั้งแต่ยังเด็ก ตอนยังเล็กนันท์ลินีก็ดูน่ารักน่าเอ็นดู แต่ครั้นโตขึ้นนิสัยเช่นนั้นกลับทำให้เธอไม่น่ารัก

“คุณน้านพครับ ผมขอโทษ” ชลาธิปรู้สึกผิดที่ทำให้ครอบครัวที่เคยสงบสุขต้องมาถกเถียงกัน

ซึ่งสาวิตรีเองก็ปวดใจที่เรื่องราวดำเนินมาจนถึงขั้นนี้

“ไม่เป็นไรนะจ๊ะน้ำ ยายอันน่ะ โกรธแป๊บเดียวก็หาย พวกน้าผิดเองนั่นแหละที่เลี้ยงเด็กนั่นมาแบบตามใจ” สาวิตรีเองก็เครียดไปไม่น้อยกว่าสามี เห็นที หลังจากนี้คงต้องตามใจเจ้าหล่อนให้น้อยลง เพื่อที่ในอนาคตจะได้ไม่กลายเป็นผู้ใหญ่ที่นิสัยเสีย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ใครจะอยากเป็นนางร้าย   6 เป็นอะไรกันไปหมด

    นันท์ลินีคิดถึงเรื่องเก่า ๆ เมื่อหลายปีก่อน เธอจำได้ว่านั่นเป็นช่วงเวลาที่ได้เจอกับภาคภูมิเป็นครั้งแรก อันที่จริง เขาก็ไม่ได้หล่อไปกว่าชลาธิปเลยสักนิด แต่หลังจากเรียนจบมัธยมภาคภูมิก็ผันตัวเข้าสู่วงการบันเทิง ส่วนพี่ชายร่วมบ้านของเธอเรียนบริหารธุรกิจ ถึงแม้จะเดินกันคนละเส้นทางแต่กระนั้นทั้งสองคนก็ยังเป็นเพื่อนสนิทกันอยู่เช่นเดิมส่วนเธอเองช่วงหลังก็ได้จับพลัดจับผลูเข้ามาอยู่ในวงการเดียวกันกับภาคภูมิด้วยเช่นกัน เขาจึงกลายเป็นทั้งเพื่อนสนิทของชลาธิป เป็นรุ่นพี่ในวงการบันเทิง รวมถึงเป็นผู้ชายที่เธอแอบชอบ“น้องอัน....ถึงคิวแต่งหน้าทำผมแล้วค่ะ” ผู้จัดการกองถ่ายเรียกตัวให้นันท์ลินีเดินไปแต่งหน้าคนตัวเล็กเหลือบตาดูเวลาในโทรศัพท์ก่อนจะเห็นว่า สายไปครึ่งชั่วโมง“สายไปครึ่งชั่วโมงนะคะ” น้ำเสียงของนันท์ลินีแสดงออกชัดเจนว่าไม่พอใจ “เพราะอะไรล่ะคะ ทุกคนก็รู้ว่าอันเป็นคนรักษาเวลา” ผู้จัดการกองถ่ายหน้าเสีย ไม่รู้จะบอกกับนางร้ายคนนี้ยังไงดีเพราะถึงแม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ไม่ค่อยดีเท่า

  • ใครจะอยากเป็นนางร้าย   5 คนร่วมบ้าน

    ชลาธิปเดินจูงมือน้องสาวร่วมบ้านไปจนถึงจุดที่รถยนต์จอดรออยู่ พี่เลี้ยงของเด็กทั้งสองคนเมื่อเห็น เด็กหญิงอยู่ในสภาพไม่น่าดูนักก็รีบลงจากรถเข้ามาดูแล“คุณอันเป็นอะไรคะ ทำไมเสื้อผ้าถึงเลอะเทอะมอมแมมแบบนี้” ดาวใจรีบหยิบกระดาษทิชชูเปียกออกมาเช็ดเสื้อผ้าให้กับเด็กหญิงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่นันท์ลินีไม่อยากตอบคำถาม ผู้เป็นน้องจึงสะกิดให้เด็กหนุ่มเป็นคนตอบ“ล้มน่ะครับ สะดุดก้อนหินล้มเลยมอมแมมไปหน่อย” เขารู้ว่านันท์ลินีคงไม่อยากพูดความจริง จึงไม่ได้บอกสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ให้พี่เลี้ยงและคนขับรถรับรู้“เป็นแบบนั้นเหรอคะ” ดาวใจยังไม่ค่อยเชื่อในสิ่งที่ชลาธิปพูดนัก“ค่ะ อย่างที่น้ำบอก” นันท์ลินีเออออไปกับอีกฝ่ายโชคดีที่เขาหัวไว คิดเรื่องโกหกออกมาได้แนบเนียน และยิ่งออกมาจากปากของเด็กหนุ่มคนนี้ใคร ๆ ก็พร้อมจะเชื่อในสิ่งที่เขาพูดหมดเมื่อเห็นว่าดาวใจเชื่อในสิ่งที่เขาพูด ชลาธิปจึงไม่ได้กล่าวอะไรต่อ เด็กหนุ่มจึงเดินไปขึ้นรถฝั่งที่ตัวเองนั่งประจำรถยนต์คันหรูเคลื่อนตัวออกมาจากจุดจอดรถไปเรื่อย ๆ เพราะว่าเด็กทั้งสองคนมาช้าไปราว 20 นาที นั่นก็เพียงพอจะทำให้ ทั้งหมดติดแหงกอยู่บนท้องถนนของเมืองหล

  • ใครจะอยากเป็นนางร้าย   4 เริ่มต้น

    “น้ำ น้องสาวนายนี่ก็เอาเรื่องดีเหมือนกันนะ”ภาคภูมิสะกิดไหล่เพื่อนสนิท“อือ” ชลาธิปรับคำสั้น ๆ ง่าย ๆ ไม่ได้พูดอะไรต่อเขาเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากมุมไกล ๆ แต่ไม่รู้ว่าตรงนั้นกำลังสนทนาอะไรกันและเขาเองก็รู้ว่า ยายเด็กนั่นต้องเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว ตอนที่ภาคภูมิบอกให้เขาแสดงตัวไปช่วยเหลือเธอ จึงไม่ได้คิดจะออกไปช่วยตั้งแต่แรก“แต่ยังไงก็ระวังเอาไว้บ้างก็ดีนะ ในโรงเรียนไอ้หมอนั่นอาจจะทำอะไรน้องนายไม่ได้ แต่นอกโรงเรียนก็ระวังหน่อย ฉันได้ยินว่าครอบครัวมันทำงานสีเทา ๆ” ภาคภูมิเป็นห่วงน้องสาวของเพื่อนสนิท มีไม่กี่คนที่รู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างนันท์ลินีและชลาธิปว่าเป็นอะไรกัน“เข้าใจแล้ว” เด็กหนุ่มยังคงเฉยชาอยู่เช่นเดิม แต่ก็ยอมรับฟังคำเตือนของเพื่อนสนิทถึงเวลาเลิกเรียน เพราะไม่อยากให้ใครรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเธอและชลาธิป นันท์ลินีกับเขาจึงตกลงกันเอาไว้ว่าให้รถของที่บ้านจอดอยู่ห่างจากโรงเรียนไปอีกสักหน่อย เธอที่อยู่ในระดับมัธยมต้นจะได้รับการปล่อยให้ออกจากโรงเรียนก่อนจะเดินไปรอเขาที่นั่น พอเขาเลิกเรียนแล้วก็ค่อยให้เขาตามมาทีหลังในตอนแรกทั้งนพดลและสาวิตรีก็ไม่ค่อยจะเห็นด้วยนักเพราะเป็นห่

  • ใครจะอยากเป็นนางร้าย   3 จะจำเรื่องวันนี้เอาไว้

    หลังจากเสร็จงานศพของบิดามารดาของชลาธิป นพดลและสาวิตรี ต้องต่อสู้กับการพาตัวเด็กชายเข้ามาอยู่ในการอุปการะ ทั้งข้อกำหนดทางกฎหมายและญาติพี่น้องที่ทำตัวเป็นเหลือบไร พอไม่มีบิดามารดาของชลาธิปแล้วพวกนั้นก็หมดที่พึ่งพิง สุดท้ายก็ตั้งใจเตรียมตัวจะฮุบทรัพย์สินในส่วนที่เป็นของเด็กชายและดูเหมือนว่าสองสามีภรรยาที่จากไปแล้วนั้นจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ถึงได้เขียนพินัยกรรมเอาไว้ และไว้ใจให้เพื่อนสนิทอย่างนพดลและสาวิตรีเป็นผู้พาเด็กชายไปเลี้ยงดู ส่วนทรัพย์สินที่ควรจะเป็นของเด็กชาย ผู้ปกครองตามกฎหมายอย่างคุณน้าทั้งสองจะเป็นผู้ดูแลให้โดยไม่แตะต้อง แต่อาจจะมีการนำบางส่วนไปลงทุนให้กับเด็กชาย จนกว่าชลาธิปจะบรรลุนิติภาวะเด็กชายวัย 12 ปี จำต้องย้ายที่อยู่จากบ้านริมน้ำเงียบสงบในต่างจังหวัด เข้ามาอยู่ในกรุงเทพสภาพแวดล้อมทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงหลายปีผ่านไป...“อันฉันได้ยินว่าพี่น้ำที่อยู่ ม.6 เป็นพี่ชายของอันเหรอ” เด็กสาวคนหนึ่งถามนันท์ลินีอย่างใคร่รู้เด็กหญิงวัยมัธยมต้นหน้าบึ้ง ทันทีที่เพื่อนสนิทในกลุ่มพูดถึงเด็กชายที่ที่บ้านของเธออุปการะ“ใครบอกพวกเธอ” นันท์ลินีคิ้วขมวด มือเรียวเล็กกดปิดหน้าจอโทรศัพท

  • ใครจะอยากเป็นนางร้าย   2 กลัวจะแย่งความรัก

    นพดลพาเด็กชายขึ้นไปบนชั้นสองของบ้าน ตั้งใจจะให้เด็กชายอยู่ร่วมกันแบบเจ้านายคนหนึ่งของบ้าน เขาไม่ต้องการให้ชลาธิปรู้สึกด้อยไปกว่าเด็กคนอื่น ๆ เขารับปากเพื่อนสนิทของภรรยาเอาไว้แล้ว ไม่ว่าอย่างไรนพดลก็ต้องทำให้ได้ อย่างน้อย ๆ ตอนที่ภรรยาเขาลำบากบิดามารดาของเด็กชายก็เคยช่วยชีวิตเธอเอาไว้ทั้งเขาและสาวิตรี ร่วมถึงบิดาของตนนั้นไม่เท่าไหร่ ติดปัญหาอยู่ที่เด็กหญิงตัวแสบนั่นมากกว่า เขายังคิดเสียใจที่เลี้ยงบุตรสาวให้กลายเป็นแบบนี้ ถ้าเขากล้าดุหรือสั่งสอนเธอสักหน่อยเรื่องคงไม่ดำเนินมาถึงขั้นนี้“เป็นยังไงน้ำ เราอยู่ได้ไหม” นพดลถามไถ่เด็กชายยิ้มและตอบรับอย่างมีมารยาท“ครับ ดีกว่าที่ผมเคยอยู่ซะอีก” เขาตอบ ถ้าให้เทียบกับบ้านริมน้ำที่เคยอยู่ร่วมกันกับครอบครัว ที่นี่นับว่าดีมาก“เพราะว่าที่บ้านเรา ไฟมันไหม้ไปหมดแล้ว ก็คงไม่มีอะไรเหลือแล้วล่ะ หลังจากเสร็จงานศพของพ่อกับแม่เรา น้าจะพาไปซื้อเสื้อผ้าใส่นะ แล้วก็จากนี้คงต้องย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพด้วยกัน” สาวิตรีปลอบประโลมเด็กชายบิดาและมารดาของเด็กชายเสียชีวิตเมื่อวันก่อน และก่อนที่พวกเขาจะจากไปได้ขอร้องให้สาวิตรีช่วยดูแลเด็กชาย ผู้เป็นนายหญิงของบ้านรู้ว่าช

  • ใครจะอยากเป็นนางร้าย   1 อยู่ร่วมกัน

    เด็กหญิงผมเปียใบหน้าน่ารักสมวัยสีหน้าไม่ค่อยดีนักเมื่อได้ยินว่าบิดาของตัวเองพาเด็กผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาในบ้าน สภาพมอมแมมไม่ต่างอะไรจากเด็กข้างถนน เด็กหญิงนันท์ลินีไม่ค่อยชอบใจนัก เธอต้องการเป็นจุดศูนย์รวมของความรักของคนทั้งบ้าน ไม่ได้ต้องการมีพี่น้องหรือสมาชิกอื่นใด เพิ่มเข้ามาในครอบครัวอีก“น้องอันทำไมทำหน้าแบบนั้นละคะ” สาวิตรี ผู้เป็นมารดาเห็นหน้าของบุตรสาวบึ้งตึงจึงเข้าไปปลอบประโลม“ไอ้เด็กนั่นเป็นใครคะ” เธอรู้อยู่แล้วว่ามารดาจะต้องถามคำถามนี้“เด็กนั่น!! ทำไมน้องอันพูดไม่เพราะเลยล่ะคะ” ผู้เป็นมารดาดุ เธอจำได้ว่าไม่เคยสอนให้เด็กหญิงมีนิสัยเช่นนี้“แล้วมันเป็นใครล่ะคะคุณแม่” นันท์ลินียังคงรอคำตอบจากปากของมารดาสาวิตรีถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายใจ ที่เด็กหญิงตัวน้อยมีท่าทางเช่นนั้น คงเป็นเพราะเธอตามใจบุตรสาวมากจนเกินไป เพราะในอดีตกว่าที่เธอจะตั้งครรภ์นันท์ลินี ก็ใช้เวลาเฝ้ารออยู่หลายปี เมื่อเด็กหญิงถือกำเนิดขึ้นมา ทั้งครอบครัวเลยค่อนข้างตามใจแม้จะรู้ว่าในอนาคตเด็กหญิงจะต้องเสียคนอย่างแน่ ๆ แต่ทั้งผู้เป็นบิดาและมารดายามเมื่อเห็นน้ำตาของเด็กหญิง ทั้งสองคนก็อดไม่ได้ที่จะใจอ่อน“ใจเย็น ๆ นะ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status