โนเนจัง
มหาวิทยาลัย T
"เดวา สามนาฬิกา หล่อ สูง ขาว เอ๊ะๆน่าจะเป็นพี่เทมปีสี่คณะวิศวะนะนั่น หล่อเวอร์วัง"
"..."
"เดวา!"
"หา?! แกว่าไงนะ มีอะไร?" ฉันหลุดจากภวังค์มองหน้าเพื่อนสนิทตัวเองตกใจ จนเธอเบ้ปากใส่แล้วส่ายหน้าอย่างเอือมระอา
"แกเหม่ออีกแล้วนะ ชวนดูผู้ชายก็ไม่ดู จะเรียนจบแล้วยังหาผู้เย้ยไอ้บ้านั่นไม่ได้เลย ใช้หน้าสวยๆให้มีประโยชน์บ้างสิ"
ไอ้บ้าที่เพื่อนฉันหมายถึงคือแฟนเก่าฉันเอง เราคบกันตั้งแต่ม.ปลายจนถึงปีสาม แต่เราจบไม่ค่อยสวย ไม่สิ ไม่สวยเลยแหละ...
แต่ที่ฉันไม่หาผู้ใหม่ ฉันมีเหตุผลและที่เหม่อคิดอะไรคนเดียวก็เพราะเรื่องนี้
'อยู่ปีไหนแล้วเดวา'
'ปีสามเทอมสองค่ะ'
'เรียนจบแต่งงานเลยไหม?'
ฉันละจากจานข้าวเงยขึ้นมองพ่อตัวเอง พ่อไม่รู้ว่าฉันเคยมีแฟนด้วยซ้ำ... แต่หมายถึงแต่งงานกับใคร?
'เดวายังไม่มีแฟนเลยนะคะ จะแต่งงานกับใคร'
'มีคนให้แต่งด้วยแล้วกัน'
'พ่อหาให้เดวาเหรอคะ'
'เปล่าครับ... เขาเลือกเรา และจองไว้นานแล้ว'
เลือก จอง อะไร? แล้วเขาคนนั้นคือใครล่ะเนี่ย!
"เดวา แกเหม่ออีกแล้วนะ ตั้งแต่กลับจากจันทบุรีแกเหม่อเก่งมากเลยเพื่อน มีอะไรรึเปล่า?" ฉันมองหน้าเพื่อนตัวเองอย่างถอดใจ
"เพลง ฉันมีเรื่องอยากปรึกษา" เพลงพยักหน้า แล้วขยับมาใกล้ๆเท้าคางรอฟัง
"อ่ะ ว่ามา"
"กลับบ้านไปรอบนี้พ่อฉันถามว่าเรียนจบจะแต่งงานเลยไหม"
"ถามจริง! ฮ่าๆ พ่อแกอารมณ์ไหน!"
อยู่ๆคนฟังก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทั้งๆที่หน้าฉันสุดจะเครียด มันเป็นเรื่องตลกตรงไหน? ฉันไม่เข้าใจในคำพูดพ่อเลย ยิ่งบอกว่าโดนจองแล้ว โดนเลือกแล้วยิ่งงงไปใหญ่ ฉันเป็นแค่ลูกสาวสวนทุเรียนส่งออก ธุรกิจอื่นๆของพ่อก็มีแค่ผับที่ทองหล่อและรีสอร์ตตีนเขา ไม่ใช่นักธุรกิจสายไฮโซเหมือนในละครหลังข่าวที่มีคู่หมั้นคู่หมายตั้งแต่เด็ก
"ฉันไม่ตลกนะ ฉันพูดจริงๆ"
"รู้ แต่พ่อแกหวงแกมากเลยนะเดวา ขนาดคบกับไอ้บ้าแฟรงค์ พ่อแกยังรู้ไม่ได้เลย ถามเรื่องแต่งงานเนี่ยนะ"
ใช่ พ่อฉันหวงมาก ที่ท่านขับรถขึ้นลงกรุงเทพบ่อยไม่ใช่เพราะดูผับของตัวเองอย่างเดียว แต่จับตาดูลูกสาวด้วย บางวันโผล่ที่หน้าประตูคอนโดแล้วจ๊ะเอ๋ก็มี
ส่วนผู้ชายชื่อแฟรงค์ ฉันเคยแอบคบมาตั้งแต่ม.ปลายจนถึงมหาวิทยาลัย และพึ่งจับได้ว่าเขาคบซ้อนมาตลอดจนถึงปีสาม ความสัมพันธ์ของเราจึงขาดสะบั้นตั้งแต่ตอนนั้น
ฉันเกลียดเข้ากระดูกดำ เพราะคนที่เขาคบซ้อนคือเพื่อนเก่าสมัยมัธยมของฉันเอง
"นั่นสิ แต่พ่อไม่ได้ถามเล่นๆนะ สีหน้าจริงจังมากอ่ะ"
"แล้วหลังจากที่พ่อแกพูดแบบนั้น พูดอะไรอีกไหม?"
"ฉันถามว่าจะหาให้ฉันใช่ไหม? แต่พ่อก็บอกว่าเปล่า... เขาเลือกฉันแล้ว และจองไว้แล้วด้วย งงเป็นบ้าเลยแก เขาคนนั้นใครก็ไม่รู้"
"เออว่ะ เป็นฉันฉันก็งง หรือพ่อแกพูดลองเชิงแกวะ"
แต่ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น ถึงพ่อจะใจดีมากชอบอำบ่อยแต่ฉันรู้ว่าเวลาไหนท่านพูดเล่นหรือพูดจริง
"แกคิดว่าพ่อจะลองเชิงฉันเรื่องอะไรเพลง"
"ก็...อาจจะสงสัยว่าแกมีแฟนไง ก็เลยแกล้งพูด"
จริงด้วย! เหตุผลของยัยเพลงก็น่าคิด ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ แล้วฉันจะคิดมากทำไมเนี่ย เฮ้อ...ให้พ่อลองเชิงไปเถอะเพราะตอนนี้ฉันก็ไม่ได้คบใครอยู่แล้ว
"คงเป็นแบบที่แกว่านั่นล่ะ งั้นฉันไม่สนใจแล้ว ขอเปเปอร์วิชาอาจารย์สมใจที่แกสรุปไว้มาอ่านหน่อย"
ยัยเพลงพยักหน้าก่อนจะเอี้ยวไปหยิบเปเปอร์จากกระเป๋าถือคริสเตียนดิออร์ส่งให้ฉัน เพลงเป็นเพื่อนสนิทฉันตั้งแต่มัธยมเช่นกัน และเราสองคนก็คบกันบุกเบิกจนถึงมหาวิทยาลัย
อีกอย่างเราสองคนเป็นคนต่างจังหวัดมาเรียนกรุงเทพด้วยกัน ฉะนั้นไม่ว่ามีเรื่องอะไรฉันจะปรึกษาเพลงเป็นคนแรก แม้แต่เรื่องแฟรงค์ เพลงก็รับรู้และเกลียดไอ้บ้านั่นเข้าไส้ ถึงขั้นจะบึ่งไปมหาลัยที่ผู้หญิงคนนั้นเรียนเพื่อตบสั่งสอน
แต่ฉันห้ามไว้เองจบกันไปได้ก็ดี เพราะสองคนนั้นคงรักกันมานานมาก ถึงขนาดจบม.ปลายมาเรียนคนละมหาลัยก็ยังดอดไปนอนด้วยกัน ที่ฉันรู้เพราะผู้หญิงคนนั้นทนเก็บตัวตนตัวเองไม่ไหว ส่งข้อความมาแสดงตัวพร้อมรูปถ่ายแฟนของฉันด้วยตัวเอง
ไม่ใช่ฉันไม่สู้คน...
แต่มันอยู่ที่สิ่งที่ฉันสู้เพื่อได้มา มันมีค่าแค่ไหนต่างหาก
ฉะนั้นแล้ว...ผู้ชายคนนั้นปัดตกไปก็ดี รกสมอง
"แกๆ พี่โต๊ะนั้นมองแกตลอดเลยอ่ะ แฟนบอยแกอีกคนป่ะเนี่ย"
เมื่อฉันเงียบไป เพลงก็สะกิดให้ฉันมองโต๊ะทางขวามือที่มีรุ่นพี่นั่งอยู่ นี่คืออีกหนึ่งสาเหตุที่ฉันไม่แคร์ เพราะฉันค่อนข้างป๊อป เป็นดาวคณะที่มีผู้ชายหมายปองพอตัว ไม่ว่าจะดอกไม้ ขนม หรือแม้กระทั่งเช็คเงินสดหลักล้านก็เคยมีคนส่งมาจีบฉันแล้ว
แต่ฉันไม่สนใจ ยิ่งเจอผู้ชายแบบแฟรงค์มาภูมิต้านทานเรื่องหัวใจฉันยิ่งมีมาก ฉันปิดกั้นและปฏิญาณกับตัวเองว่าจะไม่ตกลงคบกับใครง่ายๆอีก
"ปล่อยให้ผู้ชายพวกนั้นมองไปเถอะ ฉันชินแล้ว"
ฉันตอบเพื่อนแล้วก้มหน้าอ่านเปเปอร์ต่อ แต่ยัยเพลงสะกิดฉันอีกแล้ว!
"เออแก โชคดีมากเลยที่แกไม่ได้เสียตัวให้ไอ้บ้าแฟรงค์ ไม่อย่างนั้นน่าเสียดายแย่"
ฉันละจากเปเปอร์เงยขึ้นมองหน้ายัยเพลง เรื่องโชคดีของฉันเรื่องเดียว คือเรื่องไม่ตกลงปลงใจเป็นของผู้ชายคนนั้น เราคบกันนานมากแต่แฟรงค์ทำได้มากสุดแค่จับมือ
"จริง...ฉันโชคดี ตอนคบกันสัญชาตญาณฉันมันบอกว่ากับผู้ชายคนนี้มันไม่ใช่ จะเรียกว่าผีประจำตัวคุ้มครองได้ไหมแก แต่มันหลายครั้งมากเลยนะที่เราอยู่กันสองต่อสองแต่ฉันไม่เคยปล่อยตัวให้แฟรงค์เลย"
"ดีแล้วเพื่อนรักคนสวย และหลังจากนี้แกก็อย่ากลัวการเริ่มต้นใหม่นะ ลุยเลยเพื่อน สวย บ้านรวย มีผู้ชายมาให้เลือกเพียบ"
"พักก่อน" ฉันตอบเพลงอย่างเหนื่อยหน่าย พึ่งเลิกกับคนเก่าไม่ถึงเดือน ฉันยังไม่พร้อมจริงๆ
"ไม่ต้องพักจะเรียนจบแล้วนะ หาๆไว้บ้าง อย่างน้อยๆก็ทำให้อิบ้าแฟรงค์มันอกแตกตาย ฉันรู้ว่ามันยังรักแกอยู่ ถ้าแกไม่จับได้มันไม่เลิกกับนังนั่นหรอก พรุ่งนี้ตอนเย็นเลี้ยงส่งพี่ปีสี่ไปฝึกงาน แกต้องเจอมันนะเดวา ไม่หาคนควงไปเย้ยจริงดิ"
ฉันยกมือสองข้างปิดหู
"ไม่เอาไม่ฟัง พอแล้วเพลง แกพูดเรื่องแฟรงค์ไม่หยุดเลยนะ ฉันไม่สนใจแล้ว"
เพลงลุกขึ้นยืนแล้วดึงมือฉันออกจากหู แถมยังจับข้อมือดึงไปจ้องตา
"แกฟังฉันนะเดวา แกต้องเอาคืนมันให้ได้ การเอาคืนของแกไม่ได้หมายถึงแกยังรักมัน แต่ทำให้เห็นว่ามันไม่มีค่าสำหรับแกแล้ว มันจะได้เลิกมั่นหน้ามั่นโหนกสักที!"
พอพูดจบยัยเพลงก็ปล่อยข้อมือฉันแล้วถอนหายใจ
"เฮ้อ! บอกได้แค่นี้แหละไปคิดดูเอาเองแล้วกัน ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ พูดถึงไอ้บ้าแฟรงค์แล้วปวดอึ"
ฉันปล่อยให้ยัยเพลงไปเข้าห้องน้ำแล้วก้มหน้าอ่านเปเปอร์ต่อ ฉันพอรู้ว่าทำไมเพื่อนถึงอยากให้ฉันเอาคืน ก็เพราะว่าหลังจากที่เราเลิกกัน คนในมหาลัยลือให้แซ่ดว่าเดวาคนป๊อปโดนเขี่ยทิ้ง ซึ่งฉันไม่เคยถือเพราะไม่ใช่เรื่องจริง
จนหลังจากที่เพลงกลับมา และเราขึ้นไปเรียนคาบสุดท้ายเสร็จสรรพ จนฉันเตรียมกลับคอนโด ฉันก็เจอกับแฟรงค์ที่ลานจอดรถล่างตึกพอดี
ตอนเห็นเขายืนพิงรถฉัน ปลายเท้าที่กำลังเดินหยุดชะงักอยู่กับที่...
"ขอคุยด้วยหน่อยสิเดวา"
"คุยอะไร? ฉันไม่มีอะไรจะคุยด้วยแล้ว"
แฟรงค์เดินมาหาฉันทันที ก่อนที่จะพยายามจับมือฉันไปกุม แต่ฉันสะบัดออก 'พรึ่บ!' แล้วถอยออกห่างเขาหนึ่งก้าว
"อย่าจับตัวฉัน"
"เดวา... เราเลิกกับเอื้อยแล้ว"
"แล้วมาบอกฉันทำไม?"
"เราอยากขอโอกาส"
"ไม่มี และจะไม่มีวันมี ถอยออกไป ฉันจะขึ้นรถ" ฉันว่าจบก็เดินเลี่ยงร่างสูงไปอีกทาง แต่เขายังเดินมาขวางและพยายามจะจับมือฉันให้ได้
"คุยกันดีๆนะเดวา"
"ปล่อยฉันนะ! ปล่อย!"
'ฟุ่บ' แฟ้มรายงานที่ฉันหอบหล่นลงพื้นเพราะแรงกระชากของคนตัวใหญ่ และคนแรงน้อยกว่าอย่างฉันจะไปเหลืออะไร ตอนนี้ถลาไปข้างหน้าชนกับหน้าอกเขาแล้ว
"ปล่อย!"
"แค่ครั้งสุดท้ายเดวา เราจะไม่ทำแบบนั้นอีก ขอร้องเถอะนะ"
ฉันไม่สนใจสิ่งที่แฟรงค์วอนขอ พยายามผลักและแกะมือใหญ่ออกจากข้อมือตัวเอง แต่เมื่อขาก้าวออกมาเข้าเลนรถเท่านั้นแหละ รถหรูคันหนึ่งที่ขับมาก็เบรกกระทันหัน แล้วตบไฟสูงใส่เรารัวๆ
"ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย!" ฉันหันไปขอความช่วยเหลือจนแฟรงค์หันตาม ก่อนที่จะฉวยโอกาสตอนนั้นยกเข่ากระทุ้งเป้าเต็มๆ
'ปึก!'
"โอ๊ย! เดวา!"
ฉันวิ่งไปอีกฝั่งของตัวรถหรู และใช้มือเล็กคลำหาที่เปิดประตูพัลวันทำทุกทางเพื่อไปจากที่นี่ แต่พอเปิดประตูหน้าไม่ได้ฉันก็รีบไปเปิดประตูหลังต่อทันที
แต่พระเจ้าช่วย มันเปิดได้!
ฉันจึงรีบขึ้นไปบนรถแล้วยกมือไหว้คนข้างในทันที
"ช่วยเดวาด้วยค่ะ ผู้ชายคนนั้นจะทำร้ายเดวา ขอติดรถไปลงหน้ามหาลัยนะคะ เก็บเงินก็ได้"
"คุณแทนขวัญยังไม่ได้คุยเรื่องนี้กับพี่แทนคุณเหรอคะ""ฉันคุยกับพี่แทนคุณนับคำได้ค่ะ และกว่าจะรอพี่แทนคุณตอบก็เหนื่อยแย่ ยังไงลองเก็บไปคิดดูนะคะ"จริงด้วย สองพี่น้องคุยกันนับคำได้เลย"ขอบคุณมากๆเลยนะคะ""ไม่เป็นไรค่ะ"ฉันพอรู้ว่าสามีแทนขวัญรวยมาก ทายาทสายการบินและโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศ แต่ไม่คิดว่าจะมีไปถึงเกาะส่วนตัว เมื่อได้กุญแจมาน้องสามีก็อยู่คุยกับฉันครู่หนึ่งที่โซฟา แทนขวัญถามสารทุกข์สุขดิบทั่วไป และถามเรื่องเดนิสเป็นหลัก เพราะเธอกำลังกลุ้มใจที่แฝดคนโตดื้อมาก แต่อยู่ๆเข้ามาเรื่องแทนทิวได้ยังไงไม่รู้..."เมื่อวานแทนทิวพาแฟนใหม่มาเหรอคะ เธอเป็นยังไงบ้าง""ก็ดีนะคะ น่ารักนอบน้อม" แทนขวัญหัวเราะเหอะราวกับรู้อะไรมา"แต่ไอ้บ้านั่น... ไม่ได้นิสัยดีอย่างที่เราคิด ฉันรู้มาว่ามันชอบข่มขู่น้องผู้หญิงคนนั้น ตอนนี้ฉันกำลังลังเลว่าจะปรึกษาพี่แทนคุณกับพ่อดีรึเปล่า เพราะถ้าสองคนนั้นรู้คือเรื่องใหญ่" จริงเหรอเนี่ย แทนขวัญก็รู้... ฉันค่อยโล่งใจหน่อย ไม่อยากคิดให้ร้ายแทนทิวไปเอง"จริงๆแล้ว น้องโบนัสก็ขอความช่วยเหลือเดวามาเหมือนกันค่ะ แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ต้นสายปลายเหตุเลยไม่กล้ารับปาก แล้วคุณแทนขว
"ปู่พึ่งอุ้มไม่ใช่เหรอ?" นิ้วชี้ของเดนิสชูขึ้นแล้วกระดิกไปมา"โนวๆ คุณปู่ไม่โกหกสิคะ"คุณปู่นิ่งไปเลย ส่วนคุณย่าปิดปากขำ และคำพูดของเดนิสก็เรียกเสียงหัวเราะให้ตลอดมื้ออาหารเย็น คุณย่าของเดนิสเล่าให้ฟังด้วยว่าแทนขวัญจะฝากพายุฝาแฝดคนโตมาอยู่ที่นี่ทุกศุกร์เสาร์อาทิตย์ เพราะรายนั้นดื้อมาก ล่าสุดกระโดดหน้าต่างจากชั้นสอง ซึ่งแทนขวัญยังท้องอ่อนๆ ตกใจเป็นลมล้มพับไปเลย "หลานเต็มไปหมด นี่ถ้าแทนทิวแต่งงานอีกคนคงจำชื่อหลานไม่ไหว"พอท่านพูดถึงแทนทิว ฉันก็ชะงักมองหน้าคุณแม่ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวที่ท่านมองหน้าฉันพอดี"เดวา มีอะไรรึเปล่าจ๊ะ วันนี้เจอแฟนแทนทิวหนูคนนั้นเป็นยังไงบ้าง"ฉันเริ่มลำบากใจมองหน้าทุกคนที่อยู่ในโต๊ะอาหาร แต่คุณปู่และพ่อของเดนิสไม่ได้ใส่ใจฟัง ทั้งคู่เอาแต่มองเจ้าหญิงตัวน้อยเคี้ยวข้าวตุ้ยๆ"น้องน่ารักดีค่ะ แต่เหมือนสองคนนั้นจะมีปัญหากัน""ยังไง""ดูงอนๆกันน่ะค่ะ ตามประสาคนเป็นแฟนกัน" คุณแม่พยักหน้าที่ฉันยังไม่บอกท่านตอนนี้เพราะมันไม่ใช่เรื่องของฉัน และอีกอย่างยังไม่รู้ที่มาที่ไปด้วย ขืนคิดไปเองว่าแทนทิวทำร้ายโบนัสน้องจะซวยเอา"อ๋อไม่น่าล่ะกลับเร็ว แต่ไม่เป็นไร... เดี๋ยวยังไงก็เ
"ลูกของเราจะตื่นเอานะ"อารมณ์ของฉันมันฉุดไม่อยู่แล้ว ฉันบีบแขนพี่แทนคุณแน่นแล้วมองหน้าเขา มาเฟียหนุ่มโน้มลงจูบซับตามกรอบหน้าเคลื่อนช้าๆลงมาถึงซอกคอ เขาบอกว่าลูกจะได้ยินแต่ไม่หยุดเร่งเร้าและไม่หยุดสาดส่งความกระสันเข้ามาที่ฉันจนสุดท้ายฉันจับขอบอ่างล้างหน้ากดปลายนิ้วยึดรั้งตัวเอง และระบายความกระสัน'ปึก ปึก ปึก ปึก~'"อื้อ~~"เขาปล่อยให้ฉันตอบสนองความต้องการตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนจะรีบยึดเอวให้ฉันหยุดและถอนกายออกเพื่ออุ้มฉันนั่งบนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าฉันกางขาออกต้อนรับทันที และเมื่อแก่นกายชื้นแทรกเข้าอีก มือเรียวก็รั้งไหล่กว้างดึงเขาลงมาจูบ เรานัวเนียกายแนบกายไปพร้อมกับการเคลื่อนไหวของเรียวลิ้น ริมฝีปากพี่แทนคุณหวานหยดจนฉันหยุดจูบไม่ได้ ทำไมนะ ทำไมหลงเขาได้ขนาดนี้เราคบกันแทบจะทั้งชีวิตแต่ฉันไม่เคยเบื่อเขาเลย"อื้อ~""ที่รัก..." เขาผละออกเพียงนิดแล้วเรียกฉันเสียงกระเส่า "คะ...""พี่รักเดวานะครับ" ฉันยิ้มให้กับความสุขที่เอ่อล้นออกมา พลางแหงนหน้าขึ้นมองเพดานหลงอยู่ในภวังค์ของความรักและความสุขที่พี่แทนคุณมอบให้ ซึ่งขณะนั้นร่างใหญ่เคลื่อนไหวเร็วขึ้นๆ เขาเร่งส่งฉันให้ก้าวถึงที่สุดขอ
"ไม่อยากมีน้องเหรอคะ น้องตัวเล็กๆ"เดนิสส่ายหน้ารัวแล้วหยิบช้อนขึ้นมาตักข้าวของเธอกิน"ไม่อยากมีค่ะ" งานยากอีกแล้วค่ะ ลูกสาวไม่อยากมีน้อง และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันถามนะ ถามบ่อยมากและเปิดการ์ตูนเด็กให้ดูทุกวันพร้อมกับซื้อตุ๊กตาเด็กให้เดนิสด้วย แต่เดนิสไม่ชอบ เธอไม่เล่นไม่ดูและบอกว่าไม่อยากมีน้องอะไรทั้งนั้น ต้องการเป็นลูกคนเดียวของปะป๊า"ไม่อยากมีเพื่อนเล่นเหรอคะ""ไม่อยากค่ะ เดนิสเล่นกับผู้ใหญ่ได้""แต่ว่าแม่อยากมีน้องให้เดนิสนะ ขอเพิ่มอีกสักคนได้ไหมคะ""ไม่ได้ค่ะ ไม่อนุมัติ"พี่แทนคุณก้มหน้าอมยิ้ม ก่อนจะตักผักบรอกโคลีให้ลูกสาวของเขากิน เดนิสติดพ่อแต่หน้าเหมือนฉันอย่างกับแกะ และที่สำคัญพี่แทนคุณบอกว่าเธอคล้ายกับฉันตอนเด็กที่ตัวเองตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นตอนรู้ฉันดีใจมากเลย... พึ่งรู้ว่าสามีตัวเองตกหลุมรักมานานมากแล้ว นานโดยที่ฉันไม่ต้องพยายามตื้อหรือทำอะไร นี่ล่ะนะ...คนมันเป็นเนื้อคู่กัน ยังไงก็ต้องสมหวังอยู่แล้ว"ก็ได้ค่ะ งั้นเรื่องน้องแม่จะพักไว้ก่อน" เดนิสยิ้มตอบแล้วก้มหน้ากินข้าว และหลังจากนั้นฉันกับพี่แทนคุณก็ไม่มีใครพูดเรื่องนี้อีกเลย เราเอาใจใส่เดนิสเต็มที่ และฉันเลี้ยงเองกั
เขาไม่ยอม รีบโอบไหล่ฉันให้หันไปมองแขกที่มาร่วมงาน"ไว้เข้าหอพี่ให้มากกว่าจูบ""แต่ผลเพศลูกออกแล้วนะคะ ถ้าอยากรู้ก็ต้องจูบตอนนี้" เท่านั้นแหละมาเฟียหนุ่มก็จับไหล่ฉันหันเข้าหาตัวเองทันที ทุกคนในที่นี้รู้ว่าฉันจะทำอะไรจึงเบาเพลงที่เปิดคลอลงและแม่ฉันเดินถือซองสีขาวมาให้พี่แทนคุณมองซองนั้นอึ้งๆ ตั้งใจจะรับจากแม่ฉันด้วยมือของตัวเอง แต่เสียใจค่ะ! ฉันรีบคว้ามาก่อน"ถ้าไม่จูบ... ก็ไม่บอก""ที่รัก... ตรงนี้คนเยอะ""แล้วไงคะ ลูกพี่แทนคุณอยู่ในมือเดวาแล้วนะ" แก้มขาวแดงระเรื่อขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่เขาจะขยับมาใกล้มากกว่าเดิมแล้วจ้องเข้ามาในตาฉัน แต่เมื่อฉันเผลอสบตาลุ่มหลงเข้าไปเพียงไม่กี่วินาที พี่แทนคุณก็รีบคว้าซองจดหมายไปจากมือฉันทันที"ว้ายพี่แทนคะ!..." ขณะที่ฉันเขย่งขึ้นคว้าซองจดหมายคืน สรรพสิ่งรอบๆก็หยุดชะงัก แม้แต่เสียงแซวของแขกที่มาร่วมงานฉันก็ไม่ได้ยิน ภาพมันช้าไปหมดเพราะฉันมัวแต่จดจ่อกับสัมผัสนุ่มที่หวานหยดของเขาใช่ ฉันถูกเจ้าบ่าวรั้งท้ายทอยไปจูบ และพี่แทนคุณก็ไม่หยุดจูบง่ายๆ เขาสอดลิ้นเข้ามาป่ายพัวพันข้างในพยายามรู้จักฉันให้มากที่สุด มันหวานจนฉันทนไม่ไหวตัวอ่อนยวบใจเต้นระส่ำ และ
"เราจะบาปไหม?" พี่แทนคุณเดินล้วงกระเป๋าไปที่ริมกระจก"พี่ไม่มีศาสนา ไม่สนบาปบุญคุณโทษ ใครที่มันสมควรตาย...มันก็ต้องตาย"จากนั้นพี่แทนคุณก็หันมามองหน้าฉัน"เห็นใจมันงั้นเหรอ..." เมื่อฉันไม่ตอบ พี่แทนคุณก็ก้าวมาประชิดและมองหน้าฉันในระยะที่ใกล้กว่าเดิม "เมียที่ดีต้องเป็นยังไงรู้รึเปล่า?" ทำไมน้ำเสียงพี่แทนคุณเปลี่ยนไป เขางอนฉันเหรอ? ฉันไม่ได้รู้สึกกับแฟรงค์แบบนั้นสักหน่อย แค่คิดในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเท่านั้น"เป็นยังไงเหรอคะ?""ห้ามเห็นใจคนอื่น นอกจากผัว..." "...""พี่จะเดินออกไปจากห้อง ตามมาง้อด้วย"ใช่ค่ะ หลังจากนั้นพี่แทนคุณก็เดินออกไปจากห้องทำงานเลย เขางอนฉันแล้วบอกให้ง้อเอง และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่พี่แทนคุณงอนฉันด้วย ง้อยังไงดี จะชวนขึ้นเตียงก็ไม่ได้ ฉันจึงตัดสินใจเดินตามออกไปก่อน ตั้งใจไปกอดไปหอมตามสเต็ป แต่เมื่อเปิดประตูออกมาก็จ๊ะเอ๋กับมาเฟียหนุ่มที่หน้าประตู เขายืนเอามือไขว้หลังมองหน้าฉันนิ่งๆราวกับเรื่องที่ฉันเห็นใจคนตายเป็นเรื่องใหญ่"โกรธเดวาขนาดนี้เลยเหรอคะ เดวาแค่กลัวเราเป็นบาปที่เห็นคนฆ่าตัวตายแล้วไม่ห้าม แล้วก็..."ฉันพูดไม่ทันจบก็ชะงักนิ่ง เมื่อพี่แทนคุณยกแหวนเพชรเม