Mag-log in“อรุณสวัสดิ์ตอนเช้าค่ะคุณลี”
“อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่อิ่ม” ลีอาห์เอ่ยทักทายกลับด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน หลังจากที่พี่แม่บ้านซึ่งกำลังยืนเช็ดราวบันไดเงยหน้าขึ้นมาทักเธอก่อน จากนั้นหญิงสาวก็ก้าวลงบันไดต่อ แล้วรีบตรงดิ่งไปยังห้องครัวทันที
“กำลังทำอะไรกันอยู่เหรอคะ”
ร่างเล็กโผล่หน้าเข้าไปทักทายบรรดาป้าแม่บ้านที่ยืนล้อมวงคุยกันอยู่ในครัว เสียงหัวเราะคิกคักของพวกเขาหยุดลงทันทีเมื่อเธอเอ่ยถามขึ้น สายตาหลายคู่หันมาทางเธอพร้อมรอยยิ้ม
“ทำข้าวต้มค่ะ คุณลีจะกินตอนนี้เลยไหมคะ พวกป้าเพิ่งทำเสร็จร้อน ๆ เลยค่ะ” ป้าแม่บ้านคนหนึ่งรีบเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงใจดี
“กินตอนนี้เลยก็ได้ค่ะ ลีหิวแล้ว” เธอตอบพร้อมกับยิ้มกว้างดวงตาเป็นสระอิ
“งั้นคุณลีไปนั่งรอที่ห้องอาหารก่อนนะคะ เดี๋ยวป้าจะตักไปให้”
“ค่ะ” ลีอาห์พยักหน้ารับ ก่อนจะหมุนตัวเดินไปยังห้องอาหารที่อยู่ติดกันกับห้องครัว
โดยห้องอาหารยามเช้าดูเงียบสงบ แสงแดดอ่อน ๆ ลอดผ่านผ้าม่านสีครีมเข้ามา ทำให้บรรยากาศดูอบอุ่นน่านั่ง หญิงสาวเดินมานั่งลงที่นั่งประจำของตัวเอง จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงยีนขาสั้นขึ้นมาไถเล่นแก้เบื่อ
“ข้าวต้มร้อน ๆ มาแล้วค่ะคุณลี”
ร่างเล็กที่นั่งเล่นโทรศัพท์รอไม่นาน ป้าแม่บ้านก็ยกถาดข้าวต้มมาวางตรงหน้า กลิ่นหอมกรุ่นลอยขึ้นชวนให้น้ำลายสอ
“ขอบคุณค่ะป้า” ลีอาห์เอ่ยพูดขึ้นมา จากนั้นหยิบช้อนขึ้นตักข้าวต้มคำแรก ความอุ่นร้อนของน้ำซุปซึมซาบไปทั่วร่างกาย ทำให้รู้สึกสบายท้องอย่างบอกไม่ถูก
“รู้สึกดีจัง”
“รีบจัดการสิ่งที่กูบอก อย่าให้มีผิดพลาด”
แต่ระหว่างที่กำลังเพลิดเพลินกับข้าวต้มอยู่นั้น เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาแทรก ซึ่งเป็นเสียงคุ้นหู ที่เธอจำได้ดีว่าเป็นเสียงของใคร
โดยไม่กี่วินาทีต่อมา เจ้าของเสียงก็ปรากฏตัวเดินเข้ามาในห้องอาหารที่เธอนั่งอยู่
มาเฟียหนุ่มผู้เย็นชาไม่ได้แม้แต่ปรายตามองใครอีกคนที่นั่งกินข้าวอยู่ก่อนหน้า เขาเพียงเดินตรงไปยังเก้าอี้ประจำของตัวเอง แล้วทรุดตัวนั่งลงอย่างไม่ใส่ใจ
ลีอาห์เห็นเช่นนั้นก็เพียงแค่เหลือบตามองเล็กน้อย ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินข้าวต้มของตัวเองต่อ เลือกที่จะทำเป็นไม่สนใจเช่นเดียวกัน
“วันนี้ไม่มีเรียนหรือไง ทำไมได้มานั่งกินข้าวสบายใจเฉิบอยู่แบบนี้”
ลีอาห์ที่กำลังนั่งกินข้าวต้มอย่างเอร็ดอร่อยถึงกับชะงักมือ เมื่อได้ยินเสียงทุ้มเข้มดังขึ้นจากอีกฟากของโต๊ะ บรรยากาศที่เงียบสงบในห้องอาหารเหมือนถูกกดทับด้วยน้ำเสียงนั้น เธอหยุดเพียงครู่ ก่อนจะทำเป็นไม่สนใจ แล้วตักข้าวต้มเข้าปากต่อไป
“ฉันถามอยู่ ทำไมไม่ตอบ”
น้ำเสียงเข้มดังขึ้นอีกครั้ง จนทำให้ร่างเล็กถอนหายใจออกมาเบา ๆ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้น พร้อมกับเลื่อนสายตาไปจ้องมองร่างสูง
“ถามฉันเหรอคะ” หญิงสาวเลิกคิ้วถามกลับ แววตาไม่เกรงกลัวแม้จะเห็นอีกฝ่ายนั่งกอดอกพิงเก้าอี้ จ้องเธอด้วยสายตาเย็นชา
“อยู่กันแค่สองคน ถ้าฉันไม่ได้ถามเธอแล้วฉันจะถามใคร”
“…..” ลีอาห์เบ้ปากเล็กน้อย พลางถอนหายใจออกมาพรืดยาว “ก็ฉันไม่คิดว่าคุณจะพูดด้วยนี่นา”
“แทนตัวเองเหมือนเดิม” น้ำเสียงเรียบแต่ทรงอำนาจดังขึ้น
“ไม่ ทำไมฉันต้องทำตามที่คุณบอกด้วย” เธอแกล้งย้อนกลับอย่างไม่ยอมแพ้ ทั้งที่ในใจเริ่มรู้สึกเกร็งกับสายตาคมคู่นั้น
“อย่าให้ฉันพูดซ้ำเป็นครั้งที่สามนะลีอาห์ คนอย่างฉันไม่ได้เป็นคนที่มีความอดทนมากขนาดนั้น”
เพียงแค่ร่างสูงเอ่ยพูดออกมา บรรยากาศในห้องอาหารก็เงียบกริบ จนได้ยินแม้กระทั่งเสียงช้อนกระทบชาม
“ทำไม คุณจะทำอะไร” หญิงสาวขมวดคิ้ว
“ถ้าอยากรู้... ก็พูดออกมาให้ฉันได้ยินอีกสิ เพราะถ้าเธอหลุดพูดออกมาอีกครั้ง ฉันจะจัดการเธอแน่”
น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยแรงกดดัน ทำให้หัวใจร่างเล็กเต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ลีอาห์ชะงักไปครู่ ก่อนจะแสดงสีหน้าไม่พอใจทันที เธอวางช้อนลงกับโต๊ะอย่างแรง แล้วรีบลุกพรวดจากเก้าอี้
“จะไปไหน”
เสียงคมเข้มดังขัดจังหวะขึ้น เมื่อร่างเล็กกำลังจะหมุนตัวเตรียมเดินออกจากห้องอาหาร
“กลับขึ้นห้อง” เธอตอบเสียงแข็งโดยไม่หันกลับมามอง
“กินข้าวเสร็จแล้วหรือไง”
“เสร็จแล้ว”
“แล้วที่ฉันถามไปล่ะ เธอยังไม่ตอบฉัน”
หญิงสาวหยุดก้าวชั่วครู่ สูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะหันกลับมาตอบสั้น ๆ ด้วยน้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำ
“วันนี้อาจารย์ยกคลาส ค่ะ!”
ร่างเล็กเน้นคำว่าค่ะอย่างชัดเจนราวกับตั้งใจยั่วโมโห แล้วรีบหันหลังเดินออกไปทันที โดยไม่รอให้เขาพูดอะไรต่อ
“ดื้อด้าน” มาโครบ่นพึมพำออกมา จากนั้นก็ยื่นมือไปหยิบแท็บเล็ตที่ตัวเองถือติดมือมาขึ้นมาเปิดอ่านงาน
หลายวันต่อมา...
“เส้นนี้เป็นไง”
เจษฎ์ยกเนกไทสีกรมท่าขึ้นลองทาบกับเสื้อเชิ้ตสีขาวที่พนักงานหยิบมาให้ ก่อนจะหันมาถามความคิดเห็นจากเพื่อนสาวที่ยืนกอดอกมองอยู่ไม่ไกล
“ดีนะ เข้ากับเจษฎ์มากเลย ดูสุภาพด้วย” ลีอาห์เอ่ยตอบพร้อมรอยยิ้มเล็ก ๆ
โดยในตอนนี้ทั้งคู่กำลังยืนอยู่ภายในร้านเสื้อผ้าผู้ชายใจกลางห้างสรรพสินค้าใหญ่ จริง ๆ แล้วเธอไม่ได้ตั้งใจจะมาที่นี่ตั้งแต่แรก แต่เพราะเพื่อนชายดันชวนให้มาช่วยเลือกชุด และเธอเองก็ไม่มีธุระอะไร จึงยอมมากับเพื่อน
ลีอาห์เดินเข้าไปหยิบสูทตัวหนึ่งขึ้นมา แล้วรีบเดินกลับมาลองทาบกับเพื่อนแล้วหันเอียงศีรษะพิจารณา
“ถ้าใส่สูทตัวนี้กับเนกไทที่เลือกเมื่อกี้ ลีว่ามันเข้ากับเจษฎ์ดีนะ”
“เหรอ แต่เจษฎ์ว่ามันดูเป็นผู้ใหญ่เกินไปนะ” เจษฎ์หันไปถามเสียงกึ่งลังเล พลางมองสูทในมืออีกรอบ
“ไปพบคนใหญ่คนโตก็ต้องแต่งตัวแบบนี้แหละ จะได้ดูโต ดูน่าเชื่อถือด้วย” ลีอาห์ยิ้มตอบอย่างมั่นใจ
“โอเค งั้นเอาตัวนี้ก็ได้” เจษฎ์หัวเราะเบา ๆ อย่างยอมแพ้ ก่อนจะหันไปยื่นชุดที่เพื่อนสาวเลือกให้พนักงานจัดการต่อ
โดยระหว่างที่ยืนรอ หญิงสาวก็เดินมองนั่นดูนี่ไปทั่วร้านด้วยความเพลิดเพลิน สินค้าแต่ละชิ้นถูกจัดเรียงไว้อย่างหรูหรา บรรยากาศในร้านเต็มไปด้วยผู้ชายวัยทำงานที่แวะมาเลือกซื้อเสื้อผ้า แต่ไม่นานนัก เจษฎ์ก็กลับมาหาอีกครั้ง หลังจากที่จัดการจ่ายเงินเสร็จ
“ไปกันเถอะ” เจษฎ์ยกถุงเสื้อผ้าในมือพลางส่งยิ้ม
ซึ่งทั้งสองคนก็เดินออกมาจากร้านพร้อมกัน ซึ่งแสงไฟของห้างสรรพสินค้าที่สว่างไสวและผู้คนที่เดินขวักไขว่ไปมา ทำให้บรรยากาศครึกครื้นยิ่งขึ้น
“เราไปกินปิ้งย่างกันต่อไหม ร้านที่ลีชอบ” เจษฎ์เอ่ยชวนด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ
“ก็อยากไปนะ” หญิงสาวลากเสียงนิดหน่อย ก่อนจะเหลือบตามองเขา “แต่ไหนเจษฎ์บอกว่าต้องกลับบ้านไม่ใช่เหรอ”
เจษฎ์ทำหน้าเก้อแสร้งเกาหัวพลางหัวเราะ “ก็ใช่... แต่เดี๋ยวกลับตอนเย็น ๆ ก็ได้”
“แน่ใช่ไหม” ลีอาห์แกล้งเลิกคิ้วใส่เพื่อนชาย “อย่าโกหก รีบก็บอกรีบ”
“ไม่รีบ ไปได้”
“โอเค งั้นไปกินปิ้งย่างกัน” ลีอาห์ตอบตกลงเสียงสดใส ก่อนจะก้าวนำเพื่อนชายออกจากโซนร้านเสื้อผ้า แล้วเดินตรงไปยังร้านปิ้งย่างที่อยู่อีกฝั่งของตัวห้างสรรพสินค้า
แต่ระหว่างที่เธอกำลังเดินเพลินอยู่นั้น สายตาก็พลันเหลือบไปเห็นร่างสูงคุ้นตาของใครบางคน คนที่เธอไม่คิดว่าจะบังเอิญเจอในสถานที่แบบนี้กำลังเดินสวนมา
ทว่าเขาไม่ได้มาคนเดียว หากแต่มีหญิงสาวร่างสูงเพรียวคนหนึ่งคล้องแขนอยู่ข้างกาย และถ้าเธอจำไม่ผิด หญิงสาวคนนั้นก็คือนางแบบสาวดาวรุ่งที่กำลังเป็นที่จับตามอง และมีชื่อเสียงโด่งดังอยู่ในช่วงนี้นั่นเอง
และเหมือนเป็นจังหวะเดียวกัน อีกฝ่ายก็เงยหน้าขึ้นมาพอดี ทำให้ดวงตาคมสบเข้ากับสายตาของเธออย่างจัง
บรรยากาศรอบตัวพลันเหมือนเงียบลงทันที ทั้งที่ผู้คนยังเดินพลุกพล่านอยู่เต็มทางเดิน แต่สิ่งที่ลีอาห์สัมผัสได้กลับเป็นเพียงแรงกดดันจากสายตาของเขา
“เป็นอะไรหรือเปล่าลี” เจษฎ์ที่เดินตามมาก็ทักด้วยความสงสัย เมื่อเห็นว่าอยู่ดี ๆ เพื่อนสาวก็หยุดเดิน
หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะหันไปส่งรอยยิ้มบาง ๆ กลบเกลื่อน “เปล่าหรอก ไม่มีอะไร ไปกันต่อเถอะ”
ลีอาห์สูดหายใจเข้าลึก กดสายตาไม่ให้หันไปมองคนตรงหน้าอีกครั้ง ก่อนจะก้าวเดินต่อไปข้างหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
วันต่อมา...หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ สองสามีภรรยาพากันขับรถมาที่บ้านใหญ่เพื่อมารับลูกชายเพื่อกลับบ้าน โดยทันทีที่ก้าวลงจากรถ ทั้งสองก็เดินจูงมือเข้ามาภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ ก่อนจะพบพ่อแม่ของมาโครที่กำลังนั่งเล่นกับหลานอยู่ที่ห้องโถงกลางบ้านหญิงสาวก็ยกมือไหว้พ่อแม่สามีตามมารยาท คุณแม่ก็ส่งยิ้มกลับมาให้ ส่วนคุณพ่อแม้สีหน้ายังคงเรียบนิ่ง แต่ก็ดูผ่อนคลายกว่าเดิมที่ผ่านมามาก“ผมมารับลูกกลับบ้านครับ” มาเฟียหนุ่มเอ่ยขึ้น“กลับเร็วจัง ให้หลานมาแค่วันเดียวเองเนี่ยนะ” เสียงทุ้มของพ่อสามีแทรกขึ้น "ครับ" มาโครเดินจูงมือภรรยาสาวมานั่งโซฟาที่ว่าง“ทําไมมารับเร็วจัง แม่คิดว่าจะมารับตอนเย็นเสียอีก” “คือตอนเที่ยงหนูมีนัดทานข้าวกับพี่สาวค่ะ เลยจะพาตัวเล็กไปด้วย” หญิงสาวตอบพร้อมรอยยิ้ม“ไปกินเสร็จแล้วค่อยมารับไม่ได้เหรอ” เสียงพ่อสามีดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อได้ยินเช่นนั้น หญิงสาวก็เงยหน้ามองสามีอย่างขอความเห็น“ผมอยากให้ลูกผมไปด้วยครับ ทำไมครับ ยังอยากเล่นกับหลานอยู่เหรอ” ชายหนุ่มจึงเอ่ยเสียงเรียบแต่หนักแน่น“ใช่” พ่อสามีตอบรับสั้น ๆ“งั้นไว้วันหลังแล้วกัน วันนี้ผมอยากให้ลูกไปด้วย”บรรยากาศรอบตัวเงี
และการเสร็จสมครั้งนี้ มาโครก็ปลดปล่อยออกมามากกว่าปกติพอสมควร เนื่องจากตัวเขาเองก็ไม่ได้ปลดปล่อยออกมานานแล้วเหมือนกัน อีกทั้งการเล้าโลมของภรรยาสาวก็เร่าร้อนจนเขาแทบจะสำลักความสุขเลยด้วยลีอาห์บรรจงกลืนหยาดน้ำรักของสามีลงคอให้มากที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ ก่อนจะค่อย ๆ โลมเลียทำความสะอาดท่อนเอ็นใหญ่ของเขาจนเสร็จสรรพ“ซี้ดดด รู้สึกดีเป็นบ้าเลย”มาโครสูดปากพลางส่งเสียงครางแผ่วเบา เนื่องด้วยหญิงสาวยังคงกลืนกินเขาที่เพิ่งเสร็จสมไป ทำให้มาเฟียหนุ่มรู้สึกเสียวซ่านด้วยหัวสมองแทบขาวโพลน“อ่า... แล้วพี่ชอบแบบนี้หรือเปล่าคะ” เธอค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นแล้วเอ่ยถามอย่างเย้าแหย่มาโครที่เสียววูบวาบจนตัวเบาเองก็ผงกหัวขึ้นสบตา แล้วคลี่ยิ้มบาง“ชอบสิ ชอบมากเลยด้วย เสียวแทบบ้า”เขาพ่นลมหายใจเฮือกใหญ่ สติที่แทบจะหลุดลอยไปก็ค่อย ๆ กลับคืนมา มาเฟียหนุ่มจึงขยับตัวลุกขึ้นนั่ง พลางจ้องมองหญิงสาวซึ่งยังคลอเคลียตรงหว่างขาของตัวเอง แล้วเอื้อมมือไปลูบแก้มเนียนใสของเขาแผ่วเบา“แต่พี่ต้องการมากกว่านี้”เมื่อพูดจบ ร่างหนาก็พลันรั้งกายบางลงมานอนราบบนเตียงกว้าง ก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายพลิกตัวขึ้นไปคร่อมร่างของเธอไว้ พร้อมกับถอดเสื้
พออาบน้ำเสร็จ ร่างเล็กก็ก้าวออกมาจากห้องน้ำในชุดเสื้อยืด กางเกงขาสามส่วนสบาย ๆ พร้อมกับผ้าเช็ดหัวผืนเล็กที่คล้องคออยู่ พลันสายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นร่างสูงของสามีกำลังนั่งอยู่ที่ปลายเตียงด้วยใบหน้าอิดโรย ราวกับคนที่เพิ่งผ่านสงครามมา เธอเดินตรงมาหาเขาพลางสบตาแล้วคลี่ยิ้มอ่อนโยน"ไปอาบน้ำ จะได้สดชื่นขึ้นค่ะ"แม้ว่าจะรู้สึกเอ็นดู แต่ลีอาห์ก็อดหัวเราะในลำคอเบา ๆ ไม่ได้ เพราะเธอรู้ดีว่าที่สามีมีสภาพแบบนี้ ก็เนื่องมาจากการที่เขาอาสาเลี้ยงลูกแทนเธอหนึ่งวันโดยมาโครก็เงยหน้าขึ้นสบตากับภรรยาสาวคนสวย พลางยิ้มเนือย ๆ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตัวเขาเองก็เพิ่งรู้ว่าการเลี้ยงลูกอยู่บ้านแบบนี้มันเหนื่อยจริง ๆ"เหนื่อย" "รู้ค่ะว่าเหนื่อย ไปอาบน้ำ""ไม่มีแรงลุกเลย""เวอร์มาก ปล่อยเลี้ยงลูกวันเดียวเอง แต่จะว่าไปแล้ว แบบนี้แพลนเรื่องลูกคนที่สองล่ะ ยังอยากมีอยู่หรือเปล่าคะ”“ไม่เอา ไม่มีแล้ว แค่คนเดียวก็พอแล้ว” มาโครรีบส่ายหน้าทันควัน ท่าทางแสดงออกว่าเข็ดหลาบภรรยาสาวเมื่อได้เห็นดังนั้นก็พลันหัวเราะออกมาด้วยความเอ็นดู ก่อนจะเอื้อมมือไปลูบแก้มคนเป็นสามี พลางเอ่ยปลอบโยนเบา ๆ“ขอบคุณพี่นะคะที่ช่วยดูแลลูก รีบไปอาบ
สามปีต่อมา…“แดดดี้เป็นอารายคับ” (แดดดี้เป็นอะไรครับ) “ไม่มีอะไร เล่นต่อเถอะ” มาโครเอ่ยตอบ ไมเคิล ลูกชายวัยสองขวบสี่เดือน โดยวันนี้เป็นวันหยุด เขาไม่ได้ออกไปทำงาน มาเฟียหนุ่มเลยอาสาภรรยาว่าจะเป็นคนดูแลลูกอยู่ที่บ้านเอง และให้เธอออกไปช็อปปิง เพราะคิดว่าการเลี้ยงลูกแค่วันเดียวคงไม่เหนื่อยเท่าไหร่แต่ดูเหมือนเขาจะคิดผิด เพราะผ่านไปแค่ครึ่งวันก็ทำเอาเสียพลังไปเกือบหมด ลูกชายเขาทั้งดื้อ ทั้งซนแบบสุด ๆ แถมช่วงนี้พี่เลี้ยงก็ดันลากลับบ้านอีก กว่าจะกลับมาก็สัปดาห์หน้า ภรรยาสุดสวยของเขาต้องเลี้ยงลูกแบบนี้ทุกวัน เธอทำได้ยังไงกันนะ“เล่นอยู่ตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวแด๊ดดี้ขอไปกินน้ำก่อน”“ได้เยย” (ได้เลย) เมื่อเห็นลูกชายพยักหน้าแล้วยิ้มหวานให้ มาโครก็ลุกขึ้น ก้าวปีนออกจากคอกกั้นแล้วเดินออกมานอกห้อง ก่อนจะพบกับเดวิด ลูกน้องคนสนิทที่กำลังยืนมองอยู่“ไปเอาน้ำมา” เขาทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาด้วยความเมื่อยล้า โดยเดวิดก็เดินออกไป ไม่นานก็เดินกลับมาพร้อมแก้วน้ำ ก่อนจะวางลงตรงหน้า มาโครยื่นมือไปรับแล้วดื่มรวดเดียวเกือบหมดแก้ว“นายไหวแน่นะครับ”“หน้ากูตอนนี้ดูเหมือนไหวไหม”“แต่นายอาสาเองนะครับ นายหญิงคัดค้าน นายก็
ลีอาห์ที่เดินออกมาจากลิฟต์เรียบร้อยแล้ว กำลังจะตรงไปยังห้องทำงานของมาโครเพื่อรอเขาประชุมเสร็จ ทว่าขาที่กำลังจะก้าวต่อกลับชะงักลงทันที เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นร่างสูงที่ควรจะอยู่ในห้องประชุม แต่ตอนนี้กลับกำลังยืนคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งด้วยท่าทีสนิทสนม ซึ่งผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเพื่อนสนิทของเขา และสองคนเคยเกือบได้แต่งงานกันอีกด้วยหัวใจของลีอาห์เต้นแรงจนแทบควบคุมไม่อยู่ ความรู้สึกหึงหวงพุ่งขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัว เธอรีบก้าวตรงไปหาทั้งคู่ทันที“คุณมาร์ค”เสียงเรียกของเธอทำให้คนที่กำลังสนทนากันอยู่หันมามองพร้อมกัน มาโครเมื่อเห็นเธอก็มีสีหน้าตกใจเล็กน้อย ก่อนจะรีบเดินมาหยุดตรงหน้า“มาได้ยังไง ใครพามา” น้ำเสียงของเขาฟังดูเรียบเฉย แต่กลับมีแววความห่วงใยซ่อนอยู่ในนั้น“คุณเดวิดค่ะ”“แล้วมันไปไหน ทำไมปล่อยเธอขึ้นมาคนเดียว”“หนูอยากกินชมพู่ค่ะ คุณเดวิดเลยอาสาไปซื้อให้”“อ๋อ” มาโครพยักหน้าเบา ๆ ก่อนที่หญิงสาวอีกคนจะเดินเข้ามาทักด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน“สวัสดีค่ะน้องลี เป็นยังไงบ้างคะ ตอนนี้ตัวเล็กกี่เดือนแล้วเอ่ย”“ห้าเดือนแล้วค่ะ” ลีอาห์ตอบสุภาพ“รู้หรือยังคะว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย”“ผู้ชายค่ะ
หนึ่งเดือนต่อมา...“ค่าน้ำตาลของเธอค่อนข้างสูง หมอบอกให้ลดของหวานเข้าใจไหม”“ค่ะ”“ต่อไปจะกินอะไรก็ต้องระวัง โดยเฉพาะของหวานที่เธอชอบกินทุกวัน ต่อไปนี้ลดได้คือลด”น้ำเสียงของเขาฟังดูนิ่งเรียบ แต่ในแววตากลับมีความกังวลซ่อนอยู่ชัดเจน ขณะที่คนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนโซฟาอีกฝั่งกลับทำหน้าบูดบึ้ง มือเล็กจิกชายเสื้อคลุมของตัวเองแน่น ก่อนที่น้ำตาซึ่งพยายามกลั้นไว้จะค่อย ๆ ไหลรินออกมา“เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม” เขาถามด้วยน้ำเสียงอ่อนลงนิดหน่อยเมื่อเห็นเธอเงียบไปนานหญิงสาวเม้มปากแน่น ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยแววตาแดงก่ำ “หนูอยากกินเค้กส้ม”“.....” คิ้วเข้มของเขากระตุกขึ้นทันที “ฉันเพิ่งพูดไปเมื่อกี้เองนะ”“ก็มันหิว~” เสียงเธออ่อนลงเหมือนเด็กโดนดุ “หนูชอบกินเค้กค่ะ”“รู้ว่าชอบ แต่วันนี้กินไปแล้วไม่ใช่เหรอ” เขาพูดพลางยกคิ้วถาม“ก็ใช่” เธอก้มหน้าลงเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน “แต่หนูกินไปนิดเดียวเอง”“กินไปนิดเดียวก็คือกิน”“.....” หญิงสาวเงยหน้ามองเขาอีกครั้ง ดวงตากลมโตฉ่ำน้ำมองเหมือนกำลังอ้อน “ขอหนูกินเพิ่มได้ไหม สัญญาว่าจะกินนิดเดียว พอหายอยากค่ะ”ร่างสูงถอนหายใจออกมาพรืดยาว พลางยกมือขึ้นนวดขมับตัวเองอย่
![เจ้าเวหา [มาเฟียร้ายรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)






