Mag-log in“มีอะไรหรือเปล่าลี แล้วนี่ใคร”
ขณะที่เธอกำลังยืนพูดคุยอยู่กับเดวิด เจษฎ์ที่เพิ่งกลับมาหลังจากที่ไปหยิบน้ำก็เอ่ยพูดออกมา
“ลูกน้องของเจ้านายพี่สาวลีน่ะเจษฎ์ พอดีบังเอิญเจอกันเลยทักทายนิดหน่อย เราไปจากตรงนี้กันเถอะ” ลีอาห์เอ่ยตอบเสียงสั่น พร้อมกับยื่นมือไปจับมือเพื่อนชายอย่างรีบร้อน ตั้งใจจะพาออกห่างจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด
ทว่ายังไม่ทันจะก้าวพ้น ก็มีมือใหญ่มาขวางไว้เสียก่อน ซึ่งลีอาห์ก็หันขวับไปมองทันทีด้วยความไม่พอใจ
“ผมเตือนคุณลีแล้วนะครับ” เดวิดเอ่ยเสียงเรียบ
ลีอาห์จ้องกลับด้วยแววตาดื้อดึง ก่อนจะเอ่ยเสียงหนักแน่น “นี่มันชีวิตของลีค่ะ ลีตัดสินเองได้ว่าจะอยู่หรือจะกลับ ไม่ต้องให้คนอื่นมาตัดสินให้ ขอตัวก่อนนะคะ”
หญิงสาวเอ่ยพูด จากนั้นก็เดินเลี่ยงไปอีกทาง แล้วไม่ลืมจูงมือเพื่อนชายไปนั่งยังเก้าอี้ว่างใกล้ ๆ โดยมีสายตาหลายคู่เริ่มหันมองตาม ทำให้บรรยากาศรอบตัวเหมือนถูกกดดันมากยิ่งขึ้น แต่เธอก็เลือกจะทำเป็นไม่สนใจ พยายามนั่งคุยเรื่องทั่วไปกับเพื่อนอย่างปกติ
โดยนั่งคุยอยู่แบบนั้นไปเรื่อย ๆ จนเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง ลีอาห์ก็รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ เธอจึงเอ่ยบอกเพื่อนชาย จากนั้นก็ลุกขึ้นพร้อมกับรีบเดินออกมาจากงานเลี้ยงเพื่อจะเข้าห้องน้ำที่อยู่โซนด้านหลังทันที
ซึ่งเธอใช้เวลาไม่นานในการจัดการธุระของตัวเอง หลังจากนั้นหญิงสาวก็รีบเดินออกมาจากห้องน้ำ แต่พอเดินพ้นทางเดินที่ค่อนข้างเงียบ ก็บังเอิญเห็นเงาร่างสูงของใครบางคนยืนพิงผนังอยู่… และพอสายตาเลื่อนไปเห็นเจ้าของเงานั้น หัวใจของลีอาห์เต้นแรงขึ้นทันที เธอรีบก้มหน้าลงและเร่งฝีเท้าอย่างหวังว่าจะเดินผ่านไปโดยไม่ถูกสังเกต แต่ยังไม่ทันพ้น ก็มีมือแกร่งคว้าข้อมือเธอไว้เสียก่อน
โดยหญิงสาวเงยหน้าขึ้นอย่างตกใจ และก็เป็นอย่างที่เธอหวั่นใจ เพราะคนที่จับมือเธอไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นมาโคร คนที่เธอไม่ค่อยอยากสนทนาด้วย
“ฉันบอกให้ไอ้เดวิดไปบอกแล้วใช่ไหมว่าให้เธอกลับบ้าน” น้ำเสียงของเขาต่ำทุ้มและเย็นจัด ดวงตาคมกริบจ้องหญิงสาวอย่างเอาเรื่อง “ทำไมถึงไม่ทำตามที่ฉันสั่ง”
แรงกดดันที่แผ่ออกมาจากมาเฟียหนุ่ม ทำให้หญิงสาวเหมือนถูกตรึงอยู่กับที่ แม้ใจหนึ่งอยากจะสะบัดมือหนี แต่ก็รับรู้ได้ว่าคนตรงหน้าไม่ใช่คนที่เธอจะท้าทายได้ง่าย ๆ
“ละ...แล้วทำไมหนูต้องทำตามคำสั่งคุณด้วย”
“เพราะพี่สาวเธอให้ฉันดูแลเธอไง” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยช้า ๆ แต่ทุกคำเต็มไปด้วยอำนาจในการตัดสินใจ “นั่นก็หมายความว่า... เธอเป็นคนของฉัน ฉันสั่งอะไร เธอก็ต้องทำตาม”
ลีอาห์เบิกตากว้าง ความโกรธแล่นพล่านในอกทันที เธอจ้องเขม็งกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว
“บ้าอำนาจที่สุด พี่เลให้คุณดูแลหนูก็จริง แต่มันไม่ได้หมายความว่าหนูเป็นคนของคุณสักหน่อย กรุณาทำความเข้าใจใหม่ด้วยค่ะ”
“นี่เธอกล้าเถียงฉันเหรอ” น้ำเสียงกดต่ำจนบรรยากาศรอบตัวเหมือนจะหยุดนิ่ง
“แล้วทำไมจะต้องไม่กล้าด้วย คุณไม่ใช่พ่อแม่หนูสักหน่อย” เธอตอบโต้กลับไปทันควัน แม้หัวใจจะเต้นแรงอย่างหวาดหวั่น แต่ริมฝีปากเล็กกลับไม่ยอมเงียบ
“ลีอาห์ ฉันไม่ใช่คนที่เธอจะมาเถียงด้วย” เขาขยับเข้ามาใกล้ จนลมหายใจร้อนผ่าวแทบจะสัมผัสแก้มเธอ
“คุณสูงส่งมาจากไหน ทำไมหนูจะเถียงด้วยไม่ได้ ก็แค่มาเฟียเลว ๆ คนหนึ่ง” เธอยกคางขึ้นเถียงกลับ แม้แววตาจะสั่นไหว แต่ความดื้อดึงก็ยังฉายชัด
มาโครกัดฟันกรอด ความอดทนที่เหลือน้อยนิดแทบจะขาดสะบั้น
“อยากตายหรือไง แล้วอยากรู้ไหมว่ามาเฟียเลว ๆ เป็นแบบไหน”
ทันทีที่สิ้นเสียง มือแกร่งของเขาก็พุ่งไปคว้าลำคอระหงของหญิงสาว บีบเข้าหากันแน่นจนเสียงหายใจเริ่มติดขัด
“อึก!” ลีอาห์ดิ้นไปมา สองมือเล็กพยายามดึงข้อมือหนาของมาเฟียหนุ่มออกจากคอ น้ำตาเริ่มคลอเบ้าจากความเจ็บปวดและความหวาดกลัว
“ปล่อย นะ...หนูหายใจไม่ออก” เสียงเธอแผ่วเบา สั่นเครือราวกับจะขาดหายไปทุกเมื่อ
ดวงตาคมเข้มของมาโครยังคงจับจ้องมองร่างเล็กราวกับนักล่าที่ไม่คิดปล่อยเหยื่อออกไปง่าย ๆ
“คุณมาร์ค ปล่อยหนูนะ” ลีอาห์พยายามดีดดิ้นสุดแรง เพราะเธอหายใจไม่ออก ใบหน้าสวยเริ่มซีดเซียวจากการขาดเลือดไปหล่อเลี้ยง ดวงตาคู่หวานเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำใส
เดวิดที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ไม่ไกลนัก จึงเอ่ยเตือนสติผู้เป็นนาย ก่อนจะเผลอพลาดพลั้งฆ่าเด็กในปกครอง
“นายครับ คุณลีอาห์เธอจะไม่ไหวแล้วนะครับ นาย!”
ซึ่งคำเตือนของลูกน้องคนสนิทดูเหมือนจะดึงสติของมาเฟียหนุ่มที่มองทุกอย่างมืดบอดได้สติกลับมา มือหนาจึงค่อย ๆ คลายแรงบีบที่คอระหงออก
ร่างเล็กทรุดตัวลงช้า ๆ เธอรีบยกมือขึ้นจับลำคอของตัวเองไว้ แล้วไอออกมาไม่หยุด
“นี่คุณจะฆ่าฉันหรือไง” เสียงหวานแหบพร่าเต็มไปด้วยความโกรธและความหวาดกลัวเอ่ยออกมาด้วยความไม่พอใจ
มาโครปรายตามองคนดื้อรั้นตรงหน้าอย่างเย็นชา...
“ฉันทำแค่นี้เธอไม่ตายหรอก”
น้ำเสียงเรียบนิ่งพูดราวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่กลับยิ่งทำให้เธอขนลุก
“คนบ้า!” เธอตวาดใส่เสียงดัง
“…..”
“ฉันเกลียดคุณ” ร่างเล็กสะบัดตัว ตั้งใจจะเดินออกไปให้เร็วที่สุด
แต่ยังไม่ทันก้าวพ้นก็ถูกมือใหญ่คว้าข้อมือไว้เสียก่อน แล้วกระชากเข้าหาอกแกร่งอย่างแรง จนร่างเล็กเซกระแทก
“นี่! ปล่อยฉันนะ” ลีอาห์ดีดดิ้นอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ยิ่งดิ้น วงแขนแกร่งก็ยิ่งรัดแน่นขึ้น แรงกอดรัดจากร่างสูงใหญ่ทำให้เธอไม่สามารถขยับได้เลย
“กลับบ้าน” น้ำเสียงของเขาหนักแน่น ราวกับคำสั่งที่ไม่เปิดโอกาสให้ปฏิเสธ
“ปล่อย ถ้าจับอยู่แบบนี้แล้วฉันจะกลับยังไงเล่า”
“ทำไมไม่แทนตัวเองว่าหนูเหมือนที่ผ่านมา” ร่างสูงรู้สึกหงุดหงิดอย่างหาสาเหตุไม่ได้ เมื่อได้ยินคำแทนตัวเองจากหญิงสาวที่เปลี่ยนไป
“.....”
“พาลีอาห์กลับบ้าน” มาโครออกคำสั่งกับลูกน้อง จากนั้นก็ผลักเธอออกจากตัวเอง แล้วเดินกลับเข้างานเลี้ยง
ซึ่งลีอาห์ที่ยืนนิ่งอยู่ก็จำใจต้องเดินตามลูกน้องอีกคนของมาเฟียหนุ่มมาที่รถ พร้อมกับบ่นพึมพำออกมาด้วยความไม่พอใจ
“ไอ้มาเฟียบ้าอำนาจ!!”
วันต่อมา...หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ สองสามีภรรยาพากันขับรถมาที่บ้านใหญ่เพื่อมารับลูกชายเพื่อกลับบ้าน โดยทันทีที่ก้าวลงจากรถ ทั้งสองก็เดินจูงมือเข้ามาภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ ก่อนจะพบพ่อแม่ของมาโครที่กำลังนั่งเล่นกับหลานอยู่ที่ห้องโถงกลางบ้านหญิงสาวก็ยกมือไหว้พ่อแม่สามีตามมารยาท คุณแม่ก็ส่งยิ้มกลับมาให้ ส่วนคุณพ่อแม้สีหน้ายังคงเรียบนิ่ง แต่ก็ดูผ่อนคลายกว่าเดิมที่ผ่านมามาก“ผมมารับลูกกลับบ้านครับ” มาเฟียหนุ่มเอ่ยขึ้น“กลับเร็วจัง ให้หลานมาแค่วันเดียวเองเนี่ยนะ” เสียงทุ้มของพ่อสามีแทรกขึ้น "ครับ" มาโครเดินจูงมือภรรยาสาวมานั่งโซฟาที่ว่าง“ทําไมมารับเร็วจัง แม่คิดว่าจะมารับตอนเย็นเสียอีก” “คือตอนเที่ยงหนูมีนัดทานข้าวกับพี่สาวค่ะ เลยจะพาตัวเล็กไปด้วย” หญิงสาวตอบพร้อมรอยยิ้ม“ไปกินเสร็จแล้วค่อยมารับไม่ได้เหรอ” เสียงพ่อสามีดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อได้ยินเช่นนั้น หญิงสาวก็เงยหน้ามองสามีอย่างขอความเห็น“ผมอยากให้ลูกผมไปด้วยครับ ทำไมครับ ยังอยากเล่นกับหลานอยู่เหรอ” ชายหนุ่มจึงเอ่ยเสียงเรียบแต่หนักแน่น“ใช่” พ่อสามีตอบรับสั้น ๆ“งั้นไว้วันหลังแล้วกัน วันนี้ผมอยากให้ลูกไปด้วย”บรรยากาศรอบตัวเงี
และการเสร็จสมครั้งนี้ มาโครก็ปลดปล่อยออกมามากกว่าปกติพอสมควร เนื่องจากตัวเขาเองก็ไม่ได้ปลดปล่อยออกมานานแล้วเหมือนกัน อีกทั้งการเล้าโลมของภรรยาสาวก็เร่าร้อนจนเขาแทบจะสำลักความสุขเลยด้วยลีอาห์บรรจงกลืนหยาดน้ำรักของสามีลงคอให้มากที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ ก่อนจะค่อย ๆ โลมเลียทำความสะอาดท่อนเอ็นใหญ่ของเขาจนเสร็จสรรพ“ซี้ดดด รู้สึกดีเป็นบ้าเลย”มาโครสูดปากพลางส่งเสียงครางแผ่วเบา เนื่องด้วยหญิงสาวยังคงกลืนกินเขาที่เพิ่งเสร็จสมไป ทำให้มาเฟียหนุ่มรู้สึกเสียวซ่านด้วยหัวสมองแทบขาวโพลน“อ่า... แล้วพี่ชอบแบบนี้หรือเปล่าคะ” เธอค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นแล้วเอ่ยถามอย่างเย้าแหย่มาโครที่เสียววูบวาบจนตัวเบาเองก็ผงกหัวขึ้นสบตา แล้วคลี่ยิ้มบาง“ชอบสิ ชอบมากเลยด้วย เสียวแทบบ้า”เขาพ่นลมหายใจเฮือกใหญ่ สติที่แทบจะหลุดลอยไปก็ค่อย ๆ กลับคืนมา มาเฟียหนุ่มจึงขยับตัวลุกขึ้นนั่ง พลางจ้องมองหญิงสาวซึ่งยังคลอเคลียตรงหว่างขาของตัวเอง แล้วเอื้อมมือไปลูบแก้มเนียนใสของเขาแผ่วเบา“แต่พี่ต้องการมากกว่านี้”เมื่อพูดจบ ร่างหนาก็พลันรั้งกายบางลงมานอนราบบนเตียงกว้าง ก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายพลิกตัวขึ้นไปคร่อมร่างของเธอไว้ พร้อมกับถอดเสื้
พออาบน้ำเสร็จ ร่างเล็กก็ก้าวออกมาจากห้องน้ำในชุดเสื้อยืด กางเกงขาสามส่วนสบาย ๆ พร้อมกับผ้าเช็ดหัวผืนเล็กที่คล้องคออยู่ พลันสายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นร่างสูงของสามีกำลังนั่งอยู่ที่ปลายเตียงด้วยใบหน้าอิดโรย ราวกับคนที่เพิ่งผ่านสงครามมา เธอเดินตรงมาหาเขาพลางสบตาแล้วคลี่ยิ้มอ่อนโยน"ไปอาบน้ำ จะได้สดชื่นขึ้นค่ะ"แม้ว่าจะรู้สึกเอ็นดู แต่ลีอาห์ก็อดหัวเราะในลำคอเบา ๆ ไม่ได้ เพราะเธอรู้ดีว่าที่สามีมีสภาพแบบนี้ ก็เนื่องมาจากการที่เขาอาสาเลี้ยงลูกแทนเธอหนึ่งวันโดยมาโครก็เงยหน้าขึ้นสบตากับภรรยาสาวคนสวย พลางยิ้มเนือย ๆ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตัวเขาเองก็เพิ่งรู้ว่าการเลี้ยงลูกอยู่บ้านแบบนี้มันเหนื่อยจริง ๆ"เหนื่อย" "รู้ค่ะว่าเหนื่อย ไปอาบน้ำ""ไม่มีแรงลุกเลย""เวอร์มาก ปล่อยเลี้ยงลูกวันเดียวเอง แต่จะว่าไปแล้ว แบบนี้แพลนเรื่องลูกคนที่สองล่ะ ยังอยากมีอยู่หรือเปล่าคะ”“ไม่เอา ไม่มีแล้ว แค่คนเดียวก็พอแล้ว” มาโครรีบส่ายหน้าทันควัน ท่าทางแสดงออกว่าเข็ดหลาบภรรยาสาวเมื่อได้เห็นดังนั้นก็พลันหัวเราะออกมาด้วยความเอ็นดู ก่อนจะเอื้อมมือไปลูบแก้มคนเป็นสามี พลางเอ่ยปลอบโยนเบา ๆ“ขอบคุณพี่นะคะที่ช่วยดูแลลูก รีบไปอาบ
สามปีต่อมา…“แดดดี้เป็นอารายคับ” (แดดดี้เป็นอะไรครับ) “ไม่มีอะไร เล่นต่อเถอะ” มาโครเอ่ยตอบ ไมเคิล ลูกชายวัยสองขวบสี่เดือน โดยวันนี้เป็นวันหยุด เขาไม่ได้ออกไปทำงาน มาเฟียหนุ่มเลยอาสาภรรยาว่าจะเป็นคนดูแลลูกอยู่ที่บ้านเอง และให้เธอออกไปช็อปปิง เพราะคิดว่าการเลี้ยงลูกแค่วันเดียวคงไม่เหนื่อยเท่าไหร่แต่ดูเหมือนเขาจะคิดผิด เพราะผ่านไปแค่ครึ่งวันก็ทำเอาเสียพลังไปเกือบหมด ลูกชายเขาทั้งดื้อ ทั้งซนแบบสุด ๆ แถมช่วงนี้พี่เลี้ยงก็ดันลากลับบ้านอีก กว่าจะกลับมาก็สัปดาห์หน้า ภรรยาสุดสวยของเขาต้องเลี้ยงลูกแบบนี้ทุกวัน เธอทำได้ยังไงกันนะ“เล่นอยู่ตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวแด๊ดดี้ขอไปกินน้ำก่อน”“ได้เยย” (ได้เลย) เมื่อเห็นลูกชายพยักหน้าแล้วยิ้มหวานให้ มาโครก็ลุกขึ้น ก้าวปีนออกจากคอกกั้นแล้วเดินออกมานอกห้อง ก่อนจะพบกับเดวิด ลูกน้องคนสนิทที่กำลังยืนมองอยู่“ไปเอาน้ำมา” เขาทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาด้วยความเมื่อยล้า โดยเดวิดก็เดินออกไป ไม่นานก็เดินกลับมาพร้อมแก้วน้ำ ก่อนจะวางลงตรงหน้า มาโครยื่นมือไปรับแล้วดื่มรวดเดียวเกือบหมดแก้ว“นายไหวแน่นะครับ”“หน้ากูตอนนี้ดูเหมือนไหวไหม”“แต่นายอาสาเองนะครับ นายหญิงคัดค้าน นายก็
ลีอาห์ที่เดินออกมาจากลิฟต์เรียบร้อยแล้ว กำลังจะตรงไปยังห้องทำงานของมาโครเพื่อรอเขาประชุมเสร็จ ทว่าขาที่กำลังจะก้าวต่อกลับชะงักลงทันที เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นร่างสูงที่ควรจะอยู่ในห้องประชุม แต่ตอนนี้กลับกำลังยืนคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งด้วยท่าทีสนิทสนม ซึ่งผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเพื่อนสนิทของเขา และสองคนเคยเกือบได้แต่งงานกันอีกด้วยหัวใจของลีอาห์เต้นแรงจนแทบควบคุมไม่อยู่ ความรู้สึกหึงหวงพุ่งขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัว เธอรีบก้าวตรงไปหาทั้งคู่ทันที“คุณมาร์ค”เสียงเรียกของเธอทำให้คนที่กำลังสนทนากันอยู่หันมามองพร้อมกัน มาโครเมื่อเห็นเธอก็มีสีหน้าตกใจเล็กน้อย ก่อนจะรีบเดินมาหยุดตรงหน้า“มาได้ยังไง ใครพามา” น้ำเสียงของเขาฟังดูเรียบเฉย แต่กลับมีแววความห่วงใยซ่อนอยู่ในนั้น“คุณเดวิดค่ะ”“แล้วมันไปไหน ทำไมปล่อยเธอขึ้นมาคนเดียว”“หนูอยากกินชมพู่ค่ะ คุณเดวิดเลยอาสาไปซื้อให้”“อ๋อ” มาโครพยักหน้าเบา ๆ ก่อนที่หญิงสาวอีกคนจะเดินเข้ามาทักด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน“สวัสดีค่ะน้องลี เป็นยังไงบ้างคะ ตอนนี้ตัวเล็กกี่เดือนแล้วเอ่ย”“ห้าเดือนแล้วค่ะ” ลีอาห์ตอบสุภาพ“รู้หรือยังคะว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย”“ผู้ชายค่ะ
หนึ่งเดือนต่อมา...“ค่าน้ำตาลของเธอค่อนข้างสูง หมอบอกให้ลดของหวานเข้าใจไหม”“ค่ะ”“ต่อไปจะกินอะไรก็ต้องระวัง โดยเฉพาะของหวานที่เธอชอบกินทุกวัน ต่อไปนี้ลดได้คือลด”น้ำเสียงของเขาฟังดูนิ่งเรียบ แต่ในแววตากลับมีความกังวลซ่อนอยู่ชัดเจน ขณะที่คนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนโซฟาอีกฝั่งกลับทำหน้าบูดบึ้ง มือเล็กจิกชายเสื้อคลุมของตัวเองแน่น ก่อนที่น้ำตาซึ่งพยายามกลั้นไว้จะค่อย ๆ ไหลรินออกมา“เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม” เขาถามด้วยน้ำเสียงอ่อนลงนิดหน่อยเมื่อเห็นเธอเงียบไปนานหญิงสาวเม้มปากแน่น ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยแววตาแดงก่ำ “หนูอยากกินเค้กส้ม”“.....” คิ้วเข้มของเขากระตุกขึ้นทันที “ฉันเพิ่งพูดไปเมื่อกี้เองนะ”“ก็มันหิว~” เสียงเธออ่อนลงเหมือนเด็กโดนดุ “หนูชอบกินเค้กค่ะ”“รู้ว่าชอบ แต่วันนี้กินไปแล้วไม่ใช่เหรอ” เขาพูดพลางยกคิ้วถาม“ก็ใช่” เธอก้มหน้าลงเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน “แต่หนูกินไปนิดเดียวเอง”“กินไปนิดเดียวก็คือกิน”“.....” หญิงสาวเงยหน้ามองเขาอีกครั้ง ดวงตากลมโตฉ่ำน้ำมองเหมือนกำลังอ้อน “ขอหนูกินเพิ่มได้ไหม สัญญาว่าจะกินนิดเดียว พอหายอยากค่ะ”ร่างสูงถอนหายใจออกมาพรืดยาว พลางยกมือขึ้นนวดขมับตัวเองอย่







