로그인ความมืดและเสียงเครื่องปรับอากาศที่ทำงานเงียบกริบควรจะช่วยให้หลับสบาย แต่สำหรับเอื้องทรายแล้ว เตียงนอนราคามหาศาลนี้กลับให้ความรู้สึกเหมือนสนามรบที่สงบนิ่งก่อนพายุจะเข้า
แม้จะได้รับอนุญาตหรือกึ่งบังคับให้ขึ้นมานอนบนเตียง แต่เธอก็พยายามรักษาระยะห่างให้มากที่สุด เธอนอนตะแคงหันหลังให้คอสโม่ ตัวเกร็งชิดขอบเตียงจนแทบจะร่วงลงไปอีกรอบ ผ้าห่มผืนหนาที่เขาแบ่งให้แม้จะอุ่นกาย แต่ใจของเธอกลับหนาวเหน็บและสั่นไหว
เวลาผ่านไปนาทีแล้วนาทีเล่า เธอก็ยังข่มตาหลับไม่ลง ภาพเหตุการณ์ในห้องน้ำ คำพูดเหยียดหยาม และสายตาที่มองเธอเหมือนวัตถุสิ่งของยังคงวนเวียนอยู่ในหัว เอื้องทรายพลิกตัวกลับมานอนหงาย แล้วพลิกกลับไปตะแคงอีกด้าน พยายามหาท่านอนที่จะทำให้เธอผ่อนคลายได้ แต่ไม่ว่าจะขยับไปทางไหน รัศมีอุ่นร้อนจากร่างสูงใหญ่ที่นอนอยู่ข้างหลังก็ยังคงแผ่ซ่านมารบกวนจิตใจเธออยู่ดี
โดยเฉพาะเสียงเสียดสีของผ้าปูที่นอนและแรงสั่นสะเทือนจากการพลิกตัวของเธอ ทำให้คนที่นอนนิ่งอยู่ด้านหลังเริ่มหมดความอดทน
คอสโม่นอนไม่หลับ...เขาตื่นเต็มตามาตั้งแต่ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของแชมพูที่ลอยมาจากผมของเธอแล้ว กลิ่นนั้นมันปลุกเร้าสัญชาตญาณดิบเถื่อนในตัวเขาให้ตื่นตัว ยิ่งเธอขยับตัวดุ๊กดิ๊กไปมา มันยิ่งเหมือนการยั่วยวนโดยไม่รู้ตัวที่ทำให้เส้นความอดทนของเขาขาดผึง
หมับ!
“ว้าย!”
เอื้องทรายร้องเสียงหลงเมื่อจู่ๆ ท่อนแขนแข็งแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามก็ตวัดรวบเอวบางของเธอจากด้านหลัง แล้วกระชากร่างเล็กของเธอให้ถอยกรูดเข้าไปปะทะกับแผงอกกว้างที่แข็งแกร่งราวกับกำแพงหิน
แรงดึงมหาศาลทำให้ศีรษะของเธอเลื่อนขึ้นไปหนุนอยู่บนท่อนแขนล่ำสันของเขาแทนหมอนหนุนโดยอัตโนมัติ แผ่นหลังบางแนบชิดไปกับหน้าอกกว้างที่ร้อนระอุ เอื้องทรายสัมผัสได้ถึงจังหวะหัวใจของคอสโม่ที่เต้นหนักหน่วงอยู่ด้านหลัง หนักหน่วงและรุนแรงพอๆ กับความตกใจของเธอ
“คุณคอสโม่! ปล่อยนะ จะทำอะไร!?” เอื้องทรายดิ้นขลุกขลัก พยายามแกะมือหนาที่ล็อกเอวเธอไว้อย่างแน่นหนาเหมือนคีมเหล็ก
“นอนนิ่งๆ!” คอสโม่คำรามเสียงต่ำชิดใบหูขาวสะอาด ลมหายใจอุ่นร้อนของเขารินรดต้นคอจนขนอ่อนของเธอลุกชัน “ถ้าเธอยังขยับตัวไปมาสร้างความรำคาญให้ฉันอีกแม้แต่นิดเดียว... ฉันจะไล่เธอออกเดี๋ยวนี้!”
เอื้องทรายชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ความอัดอั้นตันใจทำให้เธอเผลอบ่นงึมงำออกมาอย่างลืมตัว
“เอะอะก็ขู่ไล่ออก... เอะอะก็ไล่ออก... ชีวิตคุณไม่มีคำขู่คำอื่นแล้วหรือไงคะ”
“เธอว่าไงนะ?” น้ำเสียงของเขาเข้มขึ้น แต่แทนที่จะโกรธจัด เขากลับกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นไปอีก จนแผ่นหลังของเธอแทบจะหลอมรวมไปกับอกแกร่งของเขา ขาข้างหนึ่งของเขาตวัดขึ้นมาเกี่ยวก่ายทับขาของเธอไว้ ล็อกเธอไว้ในกรงขังแห่งพันธนาการอย่างสมบูรณ์
“ก็มันจริงนี่คะ!” เอื้องทรายหันหน้ามาเถียงเขา แม้จะทำได้เพียงแค่เอี้ยวคอมาเล็กน้อย แต่ใบหน้าของเธอก็อยู่ห่างจากปลายจมูกโด่งคมของเขาเพียงไม่กี่เซนติเมตร “ดิฉันเป็นคนนะ ไม่ใช่ตุ๊กตา ไม่ใช่หมอนข้าง ที่นึกอยากจะดึงมาหนุนก็ทำตามใจชอบ ปล่อยค่ะ อึดอัด!”
แทนที่จะผลักไส คอสโม่กลับฝังจมูกลงกับเรือนผมหอมกรุ่นของเธอ สูดดมความหอมหวานที่ทำให้เขาแทบคลั่ง ยิ่งเธอพยศ ยิ่งเธอดิ้นรน เขากลับยิ่งรู้สึกปรารถนาที่จะปราบพยศม้าสาวตัวนี้ให้เชื่องคาอก
ความรู้สึกขัดแย้งตีกันยุ่งเหยิงในหัวใจมาเฟียหนุ่ม
ใจหนึ่งเขาอยากจะบีบเธอให้แหลกคามือเพื่อแก้แค้นกับสิ่งที่ครอบครัวเธอทำ แต่อีกใจหนึ่ง ร่างกายที่นุ่มนิ่ม กลิ่นหอมละมุน และความอบอุ่นที่เขาโหยหามาตลอด กลับทำให้เขาไม่อยากปล่อยเธอไป
เขาเกลียดที่ต้องการเธอ แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการมีเธออยู่ในอ้อมกอดแบบนี้ มันทำให้ฝันร้ายของเขาจางหายไป
“ถ้าฉันเห็นเธอเป็นแค่หมอนข้าง ป่านนี้เธอคงถูกถีบตกเตียงไปนานแล้ว เอื้องทราย...” คอสโม่กระซิบเสียงพร่าที่ข้างหู น้ำเสียงนั้นเจือไปด้วยความดุดันแต่แฝงความนัยที่ชวนให้วาบหวาม “หยุดดิ้นก่อนที่ความอดทนของฉันจะหมดลง แล้วฉันจะเปลี่ยนจาก ‘กอด’ เป็นอย่างอื่นที่เธอจะไม่มีวันลืม”
คำขู่นั้นได้ผลชะงัด เอื้องทรายตัวแข็งทื่อทันที เธอรู้ดีว่าผู้ชายอย่างคอสโม่พูดจริงทำจริง ริมฝีปากอุ่นจัดของเขาที่เฉียดผ่านแก้มใสไปมาทำให้หัวใจเธอกระตุกวูบ
“คุณ... คุณคงไม่ได้คิดจะ...” เสียงเธอสั่นเครือ
“อย่าท้าทายฉัน” คอสโม่ตัดบท เขากดจมูกลงสูดดมความหอมที่ซอกคอขาวเนียนอย่างถือสิทธิ์ ทำให้เอื้องทรายต้องหดคอหนีด้วยความเสียวซ่านและหวาดหวั่น “หน้าที่ของเธอตอนนี้คือ ‘อยู่นิ่งๆ’ ให้ฉันกอด... ถ้าทำไม่ได้ ฉันจะถือว่าเธอเรียกร้องอยากทำหน้าที่อื่นที่อยู่เหนือสัญญาจ้าง”
เอื้องทรายเม้มปากแน่น เธอหยุดดิ้นรนแต่โดยดี ยอมจำนนต่อวงแขนแข็งแกร่งที่พันธนาการรอบกาย แม้ปากจะบอกว่าเกลียดและกลัวเขา แต่ลึกๆ แล้ว เธอกลับปฏิเสธไม่ได้ว่าอ้อมกอดที่กักขังเธอนี้ มันช่างอบอุ่นและรู้สึกปลอดภัยอย่างน่าประหลาด
คอสโม่หลับตาลงทั้งที่ใบหน้ายังซุกไซ้อยู่กับกลุ่มผมนุ่ม เขาถอนหายใจยาวอย่างผ่อนคลายเมื่อคนตัวเล็กในอ้อมกอดเลิกพยศ มือหนาที่กอดเอวเธอไว้เริ่มลูบไล้หน้าท้องแบนราบผ่านเนื้อผ้าชุดนอนแผ่วเบา เป็นสัมผัสที่แสดงออกถึงความหวงแหนมากกว่าการคุกคาม
“นอนซะ...” เขาพึมพำเสียงทุ้มต่ำ “เพราะถ้าเธอไม่หลับ... ฉันก็จะไม่ยอมให้เธอได้หลับทั้งคืนเหมือนกัน”
เอื้องทรายไม่กล้าขยับตัวอีกเลย เธอปล่อยให้เขาใช้เธอเป็นที่พักพิง เป็นหมอนข้างที่มีชีวิต ภายใต้ความเงียบงันในอ้อมกอดของศัตรูที่ร้ายกาจที่สุด หัวใจสองดวงกลับเต้นประสานในจังหวะเดียวกันอย่างไม่อาจห้ามได้
บทเพลงรักบทใหม่เริ่มต้นขึ้นท่ามกลางความคลุมเครือ ก่อนแปรเปลี่ยนเป็นความโหยหา คอสโม่ จ้องมองใบหน้าหวานที่เปื้อนไปด้วยหยดน้ำตาแห่งความน้อยใจ เขาก้มลงบดจูบที่ริมฝีปากอิ่มอย่างรุนแรงและเอาแต่ใจ ราวกับจะสูบเอาวิญญาณของเธอมาเป็นของเขาเพียงผู้เดียวเขาปลดกุญแจมือออกเพียงเพื่อจะช้อนร่างของเธอขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนที่ทรงพลัง ชายหนุ่มพาเอื้องทรายเดินตรงไปยังห้องน้ำสุดหรู ก่อนจะวางเธอลงใต้ฝักบัวเรนชาวเวอร์ขนาดใหญ่ สายน้ำอุ่นพุ่งทะยานลงมากระทบผิวเนียนละเอียดจนเปียกโชก ชุดเดรสตัวสวยแนบไปกับส่วนเว้าส่วนโค้งจนดูยั่วยวนเกินห้ามใจ"พี่คอสโม่... ปล่อยนะคะ ทรายยังโกรธพี่อยู่" เอื้องทรายครางประท้วงในลำคอ แต่ร่างกายกลับสั่นสะท้านเมื่อมือหนาลูบไล้ไปตามแผ่นหลัง"โกรธไปเถอะคนดี... แต่อย่าหันหลังให้พี่ เพราะพี่จะทำให้ทรายลืมชื่อยัยผู้หญิงพวกนั้นไปให้หมด" คอสโม่กระซิบเสียงพร่า เขารูดซิปเดรสของเธอลงช้าๆ จนมันหลุดไปกองอยู่ที่พื้นเขาดันร่างเธอให้แผ่นหลังแนบชิดกับผนังกระเบื้องที่เย็นเฉียบ ขณะที่ตัวเขาแผ่ความร้อนรุ่มเข้าหา เจ้าของใบหน้าครั่นคร้ามค่อยๆ ย่อตัวลงคุกเข่าต่อหน้าเธอ สายตาคมกริบมองกึ่งกลางกายสาวที่สั่นระริกด
แสงไฟจากวิลล่าลอยฟ้าเหนือโรงแรมแอสทรีอา สาขาลาสเวกัสสว่างไสวทันทีที่ประตูเพนต์เฮาส์เปิดออก คอสโม่ เดินกุมมือเอื้องทรายเข้ามาเพื่อหวังจะใช้เวลาที่เหลือของคืนนี้ปรับความเข้าใจ แต่ทว่าความสงบสุขกลับถูกพังทลายลงในวินาทีถัดมา"คอสโม่! คุณกลับมาแล้ว!"ร่างโปร่งระหงในชุดเดรสรัดรูปสีดำพุ่งทะยานออกมาจากมุมมืดของห้องรับแขก เซลิน่า หนึ่งในนางแบบสาวที่เคยอยู่ในสต๊อกของคอสโม่พุ่งเข้ามากอดคอมาเฟียหนุ่มแล้วประกบจูบอย่างดูดดื่มต่อหน้าต่อตาเอื้องทราย คอสโม่ตกใจสุดขีด เขาพยายามผลักหญิงสาวคนนั้นออกทันที แต่ภาพตรงหน้าก็ทำลายความเชื่อใจที่เพิ่งสร้างขึ้นของเอื้องทรายจนหมดสิ้น"พี่คอสโม่!" เอื้องทรายอุทานด้วยความเสียใจ เธอสะบัดมือออกจากการเกาะกุมแล้วหันหลังวิ่งหนีเข้าลิฟต์ส่วนตัวที่ยังไม่ทันปิดสนิท"ทราย! เดี๋ยว! มันไม่ใช่แบบนั้น!" คอสโม่สบถออกมาอย่างบ้าคลั่ง เขาผลักเซลิน่าจนล้มลงกับพื้นโดยไม่ใยดี ก่อนจะรีบวิ่งตามไปติดๆมาเฟียหนุ่มแทรกตัวเข้าลิฟต์มาได้ทันท่วงทีก่อนประตูจะปิด เขาหอบหายใจหนักพลางพยายามจะเข้าใกล้เธอ "ทราย พี่ขอโทษ พี่ไม่รู้ว่าเซลิน่าพุ่งมาจากไหน แต่ทรายต้องฟังพี่ก่อน!""ฟังอะไรคะ?" เอื้องท
ความเงียบงัดในรถสปอร์ตซีดานคันหรูที่กำลังแล่นผ่านถนนสายหลักของลาสเวกัสช่างน่าอึดอัดเสียจน เอื้องทราย รู้สึกหายใจลำบาก เธอนั่งชิดติดประตูรถฝั่งซ้าย ดวงตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ดูแสงสีของคาซิโนที่วูบไหวผ่านตาไป ขณะที่คอสโม่ก็นั่งชิดประตูอีกฝั่งหนึ่งเช่นกันระยะห่างระหว่างเขากับเธอในเบาะหลังที่กว้างขวางนั้น ดูเหมือนจะกลายเป็นเหวที่ลึกสุดหยั่งถึงเจ้าของกรอบใบหน้าคมคายเหลือบมองร่างอรชรในชุดเดรสสีเทามิดชิดที่เขาสั่งตัดให้ เธอช่างดูสง่าแต่กลับแฝงไปด้วยความเปราะบาง มือหนาขยับเหมือนจะเอื้อมไปหา แต่แล้วเขาก็หดกลับมาวางบนตักตามเดิม เขาพยายามสะกดกลั้นความรู้สึกอยากดึงเธอเข้ามากอดปลอบ แล้วเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงราบเรียบเพื่อทำลายความเงียบ“พี่จะพาทรายไปหาอะไรทาน... ทรายยังไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่จบประชุม”“ทรายไม่หิวค่ะ” เธอตอบสั้นๆ โดยไม่หันกลับมามอง“แต่พี่หิว...และทรายต้องไปกับพี่”คำสั่งที่เอาแต่ใจทำให้เอื้องทรายเม้มปากแน่น แต่เธอก็รู้ดีว่าการขัดใจมาเฟียอย่างเขาในตอนนี้มีแต่จะทำให้เรื่องมันยากขึ้นรถหรูจอดสนิทที่หน้าโรงแรม The Venetian Resort คอสโม่พาเธอเดินผ่านโถงทางเดินที่ประดับประดาด้วยภาพวาด
เอื้องทรายตัวแข็งทื่อ การที่วรัทรู้จักเธอและเอ่ยถึงพ่อของเธออย่างไม่เป็นมงคล ทำให้เธอรู้สึกถึงภัยอันตรายที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่คอสโม่บีบมือเธอใต้โต๊ะเป็นสัญญาณให้ใจเย็นมาเฟียหนุ่มยิ้มหยันให้กับวรัท“คุณรู้จักภรรยาของผมด้วยหรือครับ คุณวรัท” คอสโม่เน้นคำว่า ‘ภรรยา’ ชัดเจนราวกับเป็นการประกาศถึงสถานะของเธอวรัทหัวเราะเยาะในลำคอ “ฮ่า! ภรรยาหรือ... ตลกสิ้นดี คอสโม่ ผมรู้จักเธอดีมากกว่าที่คุณคิดไว้ซะอีก ก็เธอคือลูกสาวของโฆษิต ที่เป็นหนอนบ่อนไส้จนทำให้พ่อคุณตายไงล่ะ ไม่ใช่หรือครับ”เอื้องทรายสะท้านไปทั้งร่าง เธอรู้สึกเหมือนถูกเปลื้องผ้าต่อหน้าทุกคน แต่ชายหนุ่มก็ตอบกลับแทนเธอทันควัน“ใช่... เธอคือลูกสาวของโฆษิต และเพราะความผิดพลาดของพ่อเธอ... ผมจึงต้องรับผิดชอบดูแลเธอไปตลอดชีวิต” คอสโม่เอนตัวพิงพนักเก้าอี้อย่างผ่อนคลาย “แต่ก่อนที่เราจะไป ผมขออนุญาตแนะนำตัวให้ถูกก่อน”คอสโม่ยื่นเอกสารแผ่นหนึ่งไปทางวรัท“ผมไม่ได้มาที่นี่ในฐานะทายาทที่รอวันสืบทอดอะไรทั้งสิ้น... ผมมาในฐานะ เจ้าของ The Astraea Palace คนใหม่ และผมคือคนที่จะนั่งหัวโต๊ะในการประชุมวันนี้”วรัทรับเอกสารไปดูด้วยสีหน้าไม่เชื่อสายตา เมื่
เวลาผ่านไปจนกระทั่งแสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้อง คอสโม่ค่อย ๆ ประคองร่างของเอื้องทรายขึ้นอย่างทะนุถนอม อุ้มเธอเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะปล่อยให้เธอจมลงในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยฟองสบู่อุ่น ๆเขาไม่ยอมปล่อยให้เธอทำอะไรเอง ชายหนุ่มบรรจงขัดผิวเนียนละเอียดของเธออย่างอ่อนโยนราวกับสัมผัสแก้วที่เปราะบาง จากนั้นก็สระผมให้เธออย่างตั้งใจ มือที่เคยถือปืนและเซ็นเอกสารพันล้านรวมทั้งจับกระบอกปืน บัดนี้กำลังทำหน้าที่ดูแลเธออย่างละเอียดอ่อนที่สุด“สบายตัวไหม” คอสโม่พึมพำขณะลูบไล้ฟองสบู่ออกจากแผ่นหลังของเธอ“ทราย... รู้สึกเหมือน... ได้หายใจอีกครั้ง” เธอสารภาพคอสโม่ดึงเธอมากอดไว้จากด้านหลังอย่างแนบแน่นในอ่างอาบน้ำ เขาก้มลงจูบที่ไหล่ของเธอแผ่วเบา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยการตัดสินใจเด็ดขาด“ทราย... ต่อจากนี้ ทรายคือภรรยาของพี่”เอื้องทรายชะงัก เธอรีบหันมาสบตาเขาด้วยความตกใจ ดวงตาของเธอเบิกกว้าง “ภรรยา? พี่คอสโม่คะ...มันจะไม่เร็วไปเหรอคะ”คอสโม่จับใบหน้าเธอไว้มั่น ดวงตาของเขากลับมาจริงจังอีกครั้ง แต่แฝงไว้ด้วยความห่วงใยอย่างแท้จริง“ไม่เร็วไปหรอกทราย ช้าไปด้วยซ้ำ” เขาตอบหนักแน่น “สิบปีท
เอื้องทรายสบตาที่สับสนแต่เปี่ยมไปด้วยความต้องการของเขา เธอรับรู้ถึงความสำคัญของการตัดสินใจครั้งนี้ การกระทำที่ทำลายกำแพงทั้งหมดระหว่างเขากับเธอ ทันทีที่เธอพยักหน้ารับอย่างเด็ดเดี่ยว คอสโม่ก็ไม่รอช้าอีกต่อไปเขาค่อยๆ กดปลายแก่นกายที่แข็งขืนและร้อนผ่าว สู่สัมผัสของรอยแยกที่อ่อนนุ่มและอุ่นร้อนของเธออย่างเชื่องช้า สูดลมหายใจเข้าลึกๆ กลั้นความรู้สึกที่พลุ่งพล่านไว้ ก่อนจะเถลือกไถลตัวตนที่เต็มเปี่ยมเข้าไปภายในอย่างหนักแน่น จนกระทั่งได้ยินเสียงเยื่อบางๆ ฉีกขาดที่บาดลึกเข้ากลางใจเพียงแค่นั้น... เขาก็รับรู้ทันทีว่า เธอคือคนแรกและคนเดียวของเขา ในที่สุด.. แล้วความแค้นที่เขาเฝ้าสั่งสมมาตลอดมันจะมีความหมายอะไร ในเมื่อความรักที่เขาพยายามซุกซ่อนไว้มันกลับมากล้นและท่วมท้นจนบดบังความเกลียดชังได้หมดสิ้น"อ๊า...!"เสียงร้องอันเจ็บปวดระคนอัดอั้นของเอื้องทรายดังก้องไปทั่วห้อง มือเล็กจิกลงบนแผ่นหลังกว้างของเขาอย่างแรง จนผิวเนื้อบุ๋มลงไปเป็นรอยเล็บด้วยความเจ็บปวดที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ความรู้สึกของการ ฉีกขาดของเยื่อพรหมจรรย์นั้นรุนแรงจนน้ำตาของเธอรื้นไหลออกมาจากหางตา แต่ทว่าความรู้สึกของการเติมเต็มที่ร้อนรุ







