แพทเองออกมาห้องน้ำเธอพยายามอย่างเป็นที่สุด ที่จะขจัดคราบโสโครกที่เขาทำกับเธอ เธออยากมอบร่างกายให้กับชายที่เธอรัก และเขาก็รักเธอแต่ตอนนี้... ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้วเธอมีราคีมีตราบาปที่เธอไม่สมยอม เธอเกลียดเขา ถ้าไม่ติดว่าคุณลุงเป็นผู้มีพระคุณ เธอฆ่าเขาแน่ เธอทำแน่
"คุณพ่อขา.... หนูจะทนได้อีกนานไหมคะคุณพ่อ" ร่างเล็กล้มตัวลงบนที่นอนขนาด 3ฟุต ห้องที่เล็กแคบมันยังไม่อึดอัดเท่ากับหัวใจที่มันคับแคบของเขา เธอสัญญาเลยเธอจะรีบหาเงินให้ได้เยอะๆ แล้วเอามาคืนให้กับคุณลุงภพกูลเธอไม่อยากอยู่ในสภาพแบบนี้แล้ว ไม่อยากอยู่แล้ว
ด้วยร่างกายและหัวใจที่บอบช้ำของแพทตี้ มันทำให้เธอเผลอหลับลงไปโดยที่เธอไม่ได้ปิดไฟ
เอกดนัยมายืนอยู่ที่หน้าห้องเล็กๆคล้ายห้องเก็บของ ห้องที่เป็นที่สุดของบ้านแต่มันก็เหมาะกับผู้หญิงคนนี้แล้วแต่เพราะอะไร ทำไมเขาต้องมาอยู่ที่หน้าห้องของยัยปลิงดูดเงินนี้ด้วย....
มือหนาจับไปที่ลูกบิดของห้องเล็กๆนั่น เขารู้ว่ายัยนี่ต้องล็อกประตูแน่นอน ดังนั้นเขาจึงใช้กุญแจไขเข้าไปเพื่อที่จะดูว่ายัยผู้หญิงหน้าเงินคนนี้ทำอะไรอยู่
เพียงแค่เอกดนัยก้าวเข้าไปภายในเขาก็ต้องตกใจเพราะภายในห้องเล็กแคบนี้เปิดไฟทิ้งไว้ หัวใจเขาร่วงหล่นลงไปกับพื้นเพราะเขากลัวว่าเจ้าของห้องจะออกมาเห็นยืนอยู่ในนี้ แต่เพียงเขาเพ่งมองไปยังเตียงเล็กขนาด3ฟุต เขาก็เห็นร่างเล็กที่นอนขดตัวเป็นก้อนอยู่บนที่นอน เท้าเจ้ากรรมมันพาตัวเองไปหยุดยืนที่ข้างเตียงเล็กนั่น...
เอกดนัยใช้สายตากวาดไล่ดูที่ร่างเล็กนั่น
"เป็นรอยได้ขนาดนี้เลยเหรอ?" เอกดนัยมองไปยังแขนเล็กๆนั่น แขนที่เขาตั้งใจบีบมัน ตอนนี้มันเป็นรอยช้ำทั้งสองข้าง มันเป็นรอยช้ำสีม่วงแดงช้ำเลือด แต่ยัยผู้หญิงบ้านี่กลับไม่ร้องขอให้เขาหยุด ถือว่าใจกล้ามาก คิดจะต่อต้านเขางั้นเหรอ ได้สิเขาจะสนองให้เอง
เอกดนัยยังคงสับสนเล็กน้อยเขาไม่เข้าใจว่าเขาจะมาในห้องแคบๆนี้ทำไมกัน เขาจะมาดูเพราะอะไร เป็นห่วงก็ไม่น่าใช่ อาจจะแค่ว่าดูว่ายัยนี่ตายรึยังต่างหาก ใช่แล้วเขาแค่อยากมาดูว่ายัยนี่ตายรึยัง แต่ดูทรงแล้วน่าจะปกติสุขดี ไม่ตายง่ายๆหรอก ไม่มีใครตายเพราะโดนเอาครั้งแรก...
~~~~~
แพทตี้สะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะเสียงนาฬิกาปลุกที่เธอตั้งเอาไว้ แต่วันนี้ร่างกายเธอมันช่างปวดร้าวไปหมด เธอเกลียดตัวเอง เกลียดที่ไม่เข้มแข็งมากพอ.... แพทตี้ค่อยๆแคะตัวเองออกจากที่นอน และในที่สุดเธอก็ทำสำเร็จ เธอรีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะไปทำงาน วันนี้วันศุกร์แล้ววันสุดท้ายของสัปดาห์แล้วที่เธอทำงาน ดังนั้นเธอต้องสู้ ส่วนเนื้อผ้าเธอค่อยซื้อใหม่เอา
แพทตี้รีบอาบน้ำและหอบร่างกายที่แสนเจ็บปวดของเธอลงมาด้านล่างของบ้าน เธอต้องรีบออกไปก่อนที่ไอ้ผู้ชายสารเลวคนนั้นจะเจอเธอ และมันก็เป็นใจเสียด้วยสิ เมื่อเธอมองซ้ายมองขวาแล้วไม่เจอเขา เธอจึงรีบก้าวเท้าออกไปจากบ้านทันที.....
วันทั้งวันแพทตี้ทำงานด้วยจิตใจที่ห่อเหี่ยวเธอปวดไปทั้งตัว
" แพทจ๋า แพทตี้ที่รักเป็นอะไรเอ่ย...วันนี้ทำไมแพทของน้ำขิงถึงเงี๊ยบเงียบ" น้ำขิงสังเกตมาสักพักแล้ว วันนี้แพทดูเหม่อๆ ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวยังไงบอกไม่ถูก...
" ไม่มีอะไรๆ คิดอะไรไปเรื่อยนะ พอดีแพทกำลังคิดว่าจะไปซื้อชุดทำงานใหม่ เพราะชุดเมื่อวานมันขาดน่ะ ใส่เครื่องซักผ้าปั่นแล้วไม่รู้ไปโดนอะไรที่มันคมๆตัดเข้าให้.. ตอนเลิกงานว่าจะไปที่แผนกบุคคลไปลองถามเรื่องชุดดูน่ะขิง.." แพทตี้นึกขอโทษน้ำขิงที่เธอต้องโกหกน้ำขิงอีกแล้ว เมื่อวานก็ครั้งหนึ่งแล้ว วันนี้ก็ยังจะโกหกอีก... แต่จะให้เธอทำยังไงได้ล่ะ เธอไม่กล้าบอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับใครหรอก...
เธอได้ยินไหมว่าพนักงานฝ่ายการตลาดคนนึงท้องกับหัวหน้าแผนกด้วยล่ะ แล้วอีตาหัวหน้าแผนกนะมีเมียเป็นตัวเป็นตนแล้ว ตอนนี้เมียกำลังมาแหกอกพนักงานคนนั้นด้วยแหละเธอ.....
ท้อง... ท้องงั้นเหรอ แพทตี้ถึงกับมือชา เมื่อคืนเธอกินยาคุมกำเนิดฉุกเฉินไปแล้วหนึ่งเม็ด เธอจะต้องกินอีกหนึ่งเม็ด เธอจะต้องไปหายาคุมฉุกเฉินก่อน อย่าลืมนะแพทตี้ เธอต้องอย่าลืม เพราะถ้าเธอลืมเธอท้องแน่ ท้องกับผู้ชายเฮงซวย ผู้ชายสารเลวคนนั้น...
น้ำขิงเห็นคิ้วของแพทตี้กำลังทำท่าขมวดชนกันเธอก็นึกสงสัยอีกแล้ว ว่าตกลงวันนี้แพทตี้มีเรื่องอะไรให้คิดมากมายกันนะ
"คิ้วขมวดอีกแล้ว... เป็นอะไร?" น้ำขิงถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกมาว่าเธอเป็นห่วงแพท
" อ๋อเมื่อกี้ได้ยินไหมที่พนักงานคนอื่นเขาคุยกันที่ว่ามีพนักงานฝ่ายการตลาดท้องกับหัวหน้าแผนกน่ะ แล้วเมียเขาก็กำลังมาแหกอกพนักงานคนนั้นอยู่.."
" ได้ยินสิ ข่าวออกจะดังยัยคนนั้นน่ะ เคยที่จะจับลูกชายท่านประธานด้วย นางสวยนะ แต่ใช้ความสวยไปในทางที่ผิด แบบว่าถ้านางเห็นใครที่พอมีเงินนะ นางจะพุ่งเข้าใส่เลยล่ะ ไม่สนด้วยว่ามีเมียหรือแต่งงานรึเปล่า ขิงได้ยินมานานแล้วเรื่องของยัยนี่น่ะ"
" แล้วลูกชายท่านประธานไม่มีเมียเหรอ? " เธอแกล้งถามไปงั้นแหละเพราะเธอนี่แหละคือเมียของเขา เมียที่ไม่ตั้งใจจะมี เมียที่เขาดูถูก...
" ไม่มีนะ ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยเรื่องนี้อ่ะ แต่ขิงไม่แน่ใจว่าลูกชายคนไหน"
" ห๊ะลูกชายคนไหน อะไร อะไรคือลูกชายคนไหน ท่านประธานมีลูกแค่คนเดียวไม่ใช่เหรอ?" นั่นสิคุณลุงภพกูลมีลูกชายคนเดียวไม่ใช่เหรอ?
" บ้า สองคนค่ะสาว สองคนผู้ชายทั้งคู่ คนโตอยู่ไทย คนเล็กไปอยู่เมืองนอกแต่เท่าที่ได้ยินมานะคนเล็กน่าจะเป็นลูกของเมียน้อยน่ะ... ฟังแล้วเหยียบเอาไว้เลยนะที่รัก ลูกชายคนเล็กเป็นลูกรักของท่านประธาน เพราะว่าเมียน้อยคนนั้นเป็นคนที่ท่านประธานรักน่ะ ส่วนคนที่เป็นเมียหลวงเมียแรก เมียเก่าเป็นคนที่ครอบครัวหามาให้ ดังนั้นท่านประธานเลยรักลูกไม่เท่ากัน ท่านรักลูกชายคนเล็กมากกว่าคนโต คนโตก็ทำตัวเสเพลไปเรื่อย ส่วนคนเล็กก็สดใส หล่อ กร้าวใจ จบนอก..." น้ำขิงทำท่าเพ้อฝันแต่ก็เพียงแค่แป๊บเดียวเพราะเธอไม่ได้ชอบผู้ชาย
" รู้ดี รู้เยอะ อย่างกับป้าข้างบ้าน..." แพทตี้ถึงกับต้องแซวในความแสนรู้ของน้ำขิง...
" อ้าวที่รัก ทำไมพูดแบบนี้คะ ที่รู้เพราะมีคนเขาเล่าต่อๆกันมาค่ะไม่เคยได้ยินเหรอ? ออ... ลืมไปที่รักพึ่งมาทำงาน เอาเป็นว่าเรื่องหน้าตาหล่อแค่ไหนน้ำขิงไม่สามารถทราบได้ค่ะ เพราะไม่เคยเห็นเหมือนกัน ฮ่าๆ" เธอก็พูดไปเรื่อยแหละใครเขาบอกว่าไงเธอก็บอกตามเขา...
แพทตี้ทำงานของตัวเองต่อโดยที่เธอพยายามลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน จนในที่สุดเวลาก็สิ้นสุดเธอเลิกงานแล้วเธอก็รีบไปยังฝ่ายบุคคลและสอบถามเรื่องยูนิฟอร์ม และก็โชคดีที่มันมีอยู่สองชุดเธอเลยเอามาทั้งสองชุดเลย
ทางกลับบ้านแพทตี้ได้แวะร้านขายยาก่อนเพื่อที่จะซื้อยาคุมฉุกเฉิน เมื่อเธอได้มันมาเธอก็จัดการแกะมันแล้วก็กลืนลงไปในคอพร้อมกับดื่มน้ำตามลงไป...
เพียงแค่เธอมาถึงบ้านเธอก็ได้ยินเสียงหัวเราะของชายหญิงที่ดังออกมาจากตัวบ้าน....
เธอคนนั้นมาอีกแล้ว...
แพทตี้พยายามเดินให้เบาที่สุดเธอไม่ต้องการเห็นสองคนนี้ เธอเกลียดทั้งคู่ เกลียดมาก...
" อ้าวคุณแพทตี้นี่เอง กลับมาแล้วเหรอคะ วันนี้แยมซื้อกับข้าวมาเยอะเลยค่ะ มากินด้วยกันนะคะ.."
เสียงหวานรีบทักผู้หญิงที่เป็นมารความรักของเธอทันที เธอเห็นนานแล้วว่าอีผู้หญิงคนนี้มันกลับมาแล้ว แต่มันก็พยายามเดินเลี่ยงเพื่อไม่ให้พี่เอกเห็น ก็ถือว่ายังดีที่อีผู้หญิงคนนี้มันไม่พยายามเสนอหน้ามาให้พี่เอกเห็น
" แยมไม่ต้องไปชวนคนแบบนั้นหรอกครับ เรากินกันสองคนน่ะดีแล้ว ถ้ายัยปลิงดูดเงินมานั่งร่วมโต๊ะด้วย พี่คงจะกินไม่ลง คงจะได้อ้วกออกมาแน่เลยครับ..." เอกดนัยปรายตามองยัยผู้หญิงหน้าเงินคนนั้นด้วยความเกลียดชัง
" เชิญพวกคุณตามสบายนะคะ ออแล้วอย่าลืมเก็บกวาดให้เรียบร้อยด้วยนะคะ เพราะฉันคิดว่าพวกคุณคงจะมีสามัญสำนึกกันบ้าง ครอบครัวคงจะสอนมาดีพอ ขอตัวนะคะ" พูดจบแพทตี้ก็หันหลังให้แล้วเดินขึ้นไปด้านบนทันที...
ครอบครัวใหญ่สองครอบครัวกำลังมารอลุ้นว่าตอนนี้พวกเขาจะได้หลายชายหรือหลานสาว สองสาวบอกว่าไม่ขอตรวจเพศให้รอมาลุ้นตอนคลอดเอา และวันนี้คนเป็นปู่เป็นตาก็มาลุ้นกันที่หน้าห้องคลอดกันอย่างเนืองแน่น... ครามถูกตามให้มากรุงเทพ ตอนแรกเขาก็ไม่ได้อยากจะกลับมาสักเท่าไหร่ แต่ว่าเมื่อคนเป็นพ่อบอกว่ายัยน้องกำลังจะคลอดเขาก็เลยต้องรีบจองตั๋วแล้วก็มายังโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังทันที....พลั่ก.... อุ๊ย...." ขอโทษครับ... ฝ้าย...." ครามถึงกับตกใจในสิ่งที่เขาเห็น... รักแรกของเขา.... เขาไม่ได้เจอรักแรกของเขาตั้งแต่ที่เธอบอกเลิกเขาไป.... จนป่านนี้... ก็เกือบ8ปีแล้ว...ฝ้ายมาเป็นพยาบาลอยู่ที่นี่เหรอ...." สวัสดีค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ..." หญิงสาวรีบทักทายพร้อมกับก้มหัวให้หนึ่งครั้งและเดินจากไปทันที...ครามเดินมายังกลุ่มคนด้วยท่าทางที่เหม่อลอย.. เขาบอกไม่ถูกว่าเขาควรจะรู้สึกยังไงดี ดีใจ? หรือเสียใจ...." มาแล้วเหรอเจ้าคราม ตอนนี้กำลังรอลุ้นอยู่เลยว่าใครจะคลอดก่อนกัน.... " พ่อตาของยัยน้องพูดขึ้น แต่เท่าเขาคิดไว้เขาว่ายัยน้องน่าจะคลอดก่อน เพราะยัยน้องท้องก่อนไม่ใช่เหรอ..." น้ำขิงต้องคลอดก่อนสิครับเพราะน้ำขิงท้องก่อนแพทเกื
หลังจากที่ภพกูลบอกกล่าวคนในวงการนักธุรกิจให้มาร่วมงานบุญในครั้งนี้ ครอบครัวของน้ำขิงก็ได้มาร่วมงานบวชของลูกชายคนโตของเขาด้วย.....โดยการบวชครั้งนี้เป็นการบวชช่วงเข้าพรรษาพอดี และลูกชายของท่านก็ขอบวชหนึ่งพรรษาหรือการบวชเอาพรรษาก็เท่ากับ3เดือน ตอนแรกท่านก็คิดว่าลูกชายเขาจะบวชหนึ่งพรรษาที่แปลว่า 1 ปี เพราะเขาคิดว่าลูกชายเขาไม่น่าจะบวชได้นานขนาดนั้น เอกดนัยที่พยายามข่มอารมณ์เอาไว้... เพราะเขากลัวว่าเขาจะเผลอด่าไอ้ผัวเมียคู่นี้... เมียมันก็คอยมาออเซาะเมียเขา ส่วนไอ้น้อยเวรมันก็คอยส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มให้เมียเขาเช่นกัน และที่สำคัญไอ้สองผัวเมียคู่นี้มันชอบมากวนใจให้เขาแทบจะหลงลืมตัวและด่ามันออกไป แต่ติดที่ว่าเขาต้องสำรวมทั้งกาย วาจา และใจ... นี่สินะที่เขาเรียกว่า มารผจญ ก่อนบวชมักจะมีมารผจญ.. ที่แท้มันก็เป็นแบบนี้นี่เอง เมื่อถึงเวลาที่เอกดนัยเข้าสู่ใต้ร่มกาสาวพัสตร์ทุกคนในงานก็ต่างสงบเสงี่ยมมากขึ้น... เอกภพเลือกวัดที่นอกเมืองหน่อย เพราะมันไม่ค่อยวุ่นวาย.... แต่สิ่งที่เขาคิดไว้มันกลับผิดไปหมด.....ทุกเช้าที่เขาออกมาบิณฑบาตก็มักจะมีสาวๆไม่ว่าจะเด็กสาววัยรุ่น วันกลางคน และคนแก่แม่ม่ายก็มักจะตื
หลังจากงานแต่งงานอันใหญ่โตได้สิ้นสุดลง ตอนนี้น้ำขิงและเอกภพก็พากันไปอยู่ที่ภูเก็ต เพราะเอกดนัยบอกให้ทั้งสองคนไปดูแลงานที่นั่น เพราะตอนนี้ที่ภูเก็ตขาดคนดูแลและไหนพ่อกับพี่ของยัยน้ำเน่าที่ปักหลักอยู่ที่นั่นอีก ดังนั้นมันก็เป็นทางออกเดียวที่จะทำให้ไอ้สองคนนั้นกระเด็นออกจากบ้านไป เพราะเขาเบื่อขี้หน้าของสองคนผัวเมียที่คอยแต่จะเคลมเมียเขา... เขารู้หรอกน๊าว่าเมียเขาน่ะน่ารัก ถึงแม้ว่าเขาจะมองเห็นความน่ารักของเมียเขาช้าไปนิดก็ตาม แต่อย่างน้อยตอนนี้เขาก็เห็นแล้วไงจะมาวุ่นวายอะไรกันอีก..." รีบๆไสหัวกันไปได้แล้ว น่ารำคาญ" เพี๊ยะ....โอ๊ย...." เจ็บน้ำยัยหน้าเงิน!!! " เอกดนัยถึงกับร้องโอ๊ยออกมาทันทีเพราะเมียเขาฟาดลงมาที่แขนด้วยไม้พายที่กวนขนม...ดูสิแขนหักไปแล้วมั้งเนี่ย..." ทำไมคุณเอกดนัยถึงพูดแบบนี้คะ? น้ำขิงเป็นน้องสะใภ้คุณ และพี่ภพก็เป็นน้องชายคุณด้วย..." แพทตี้ล่ะไม่ชอบเลยที่คุณเอกดนัยชอบพูดจาแบบนี้ใส่น้ำขิงและพี่ภพ.." โห้... ที่มันเธอเรียกว่าพี่ ส่วนฉันเธอเรียกว่าคุณ.... น่าน้อยใจฉิบหาย..." เพียงเท่านั้นเอกดนัยก็เดินหนีออกจากห้องนั่งเล่นทันที...เอกดนัยเดินออกไปด้านนอกของตัวบ้าน จากอารมณ์
หลังจากเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นในครอบครัวพิจารุวรรณ ก็มีข่าวดีเกิดขึ้นเพราะคุณภพกูลได้ไปสู่ขอหนูน้ำขิงกับพ่อของหนูน้ำขิงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และทั้งสองฝ่ายต่างก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก จะมีแค่คนเดียวเท่านั้นที่ไม่ค่อยยินดีสักเท่าไรนั่นก็คือน้ำขิง...." คุณจะมาเดินตามอะไรฉันหนักหนาคุณเอกภพ..." เจ้าสาวคนสวยถึงกับหน้างอคอหักเลยทีเดียว เพราะตอนนี้เจ้าบ่าวของเธอเดินตามเธอยิ่งกว่าเงาอีก..." เฮียภพ เรียกเฮียภพ... แล้วที่เดินตามเพราะว่าเธอกำลังให้พ่อของฉันและพ่อของเธอต้องเสียหน้าเพื่อเธอไม่รู้... เรื่องแค่นี้ยังคิดไม่ได้ถ้าเกิดท้องขึ้นมาจะเลี้ยงลูกได้ยังไงกัน..." เอกภพถึงกับต้องถอนหายใจออกมายาวๆ "ฉันคงไม่ซวยขนาดนั้นมั้งที่จะท้องเลย..." น้ำขิงเบ้ปากใส่เจ้าบ่าวของเธอไปหนึ่งที และตอนนี้เธอเห็นแพทกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะพร้อมกับกำลังกินอาหารอย่างสนุกสนานโดยมีไอ้คุณเอกดนัยจับนั่น ป้อนนี้ใส่ปากแพทตี้ของเธออยู่.." อิจฉาน้องแพทเหรอ? จะให้ป้อนแบบนั้นไหม.. แบบว่า.. ป้อนบนเตียง... ป้อนในห้องน้ำ... ป้อนบนโต๊ะทำงาน แบบนั้นก็คงจะอร่อยไปอีกแบบนะ.." เอกภพถึงกับรีบยียวนเมียมาดๆของเขา เพราะเท่าที่เขาเดาได้.. ยั
เสียงกรี๊ดที่ดังสะนั่นบ้านปลุกทุกคนให้ตื่นขึ้นและคนที่ตกใจมากที่สุดจะเป็นใครไปไม่ได้..."คุณทำอะไรฉัน...ห๊ะ... กรี๊ดดด...." น้ำขิงกรี๊ดสุดเสียงเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยัง..."เงี๊ยบ!! ผมบอกให้เงี๊ยบบบ " เอกภพไม่พูดเปล่าเขายังใช้ฝ่ามือของเขาปิดทับลงไปที่ริมฝีปากอวบอิ่ม.... จากการดูด และขบเม้ม... ไม่ต้องบอกก็รู้แล้วว่าเขามันขนาดไหน" ถ้ายังร้องโวยวายอีกละก็...ฉันจะฆ่าหมกเตียง.. ลองดูไหมล่ะ ฉันไม่ได้ใจดีเหมือนหน้าตานะจะบอกให้..." น้ำขิงถึงกับต้องทำหน้ายี้เลยทันทีคนบ้าอะไรชมตัวเอง พูดเองเออเองเหมือนคนเป็นพี่ไม่มีผิด...อือ.. อือ...อือ......เอกภพค่อยๆปล่อยมือออกจากปากของน้ำขิงช้าๆ เพราะเขาคิดว่าน้ำขิงคงอยากจะพูดอะไรกับเขาเป็นแน่..." แก... ไอ้คนนิสัยไม่ดี ไอ้คนฉวยโอกาส ไอ้หน้าหมา ไอ้อืออออ" และนั่นก็เป็นคำสุดท้ายของน้ำขิงที่ถูกพ่นออกมาก...เอกภพไม่รอช้าเขาจูบหนักๆที่ริมฝีปากบางแต่กลับพูดมาก พูดจาไม่ดี พูดจากไม่เพราะจากแค่เขาต้องการที่จะทำโทษน้ำขิงที่พูดไม่ดีใส่เขา แต่เพียงแค่เขาจูบไปจูบมา... มันก็ทำให้อารมณ์ที่โกรธจางหายไปและแปลเปลี่ยนไปเป็นอารมณ์แห่งความดิบเถื่อนชวนสยิว....น้ำขิงถึงกับทำอะไร
มื้อค่ำถูกจัดขึ้นที่ห้องอาหารใหญ่ เพราะวันนี้ลูกชายเจ้าของบ้านทั้งสองคนมานั่งร่วมโต๊ะด้วยพร้อมกับน้ำขิงแขกประจำของบ้าน แต่กว่าน้ำขิงจะหยุดโวยวายได้ก็ทำเอาเอกภพถึงกับปวดหัว...และในที่สุดมื้อค่ำก็ถูกจัดเรียงเอาไว้ให้ทุกคนได้ลิ้มลอง อาหารแต่ละอย่างนั้นถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยแม่ครัวประจำของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นมื้อไหนๆอาหารทุกจานก็จะถูกกวาดเรียบเสียจนไม่เหลือแม่แต่น้ำสักหยด ทุกคนบนโต๊ะอิ่มเอมกับอาหารตรงหน้า คนที่มีอายุมากที่สุดของบ้านก็ชวนเด็กๆรุ่นลูกคุยเรื่องต่างๆนานา คุยสัพเพเหระ และถามแขกของบ้านว่าอยากจะเปลี่ยนตำแหน่งไหม แต่เขาก็ได้คำตอบมาเพียงว่าเธอไม่ต้องการ เธอชอบตำแหน่งนั้นมากกว่าเธอเรียนมาทางนี้ จะให้เธอไปทำบัญชีก็คงจะไม่ไหว เธอพอทำได้บ้างแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ถนัดเอาเสียเลย คุณภพกูลถึงกับถูกใจในคำตอบของหนูน้ำขิง ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะมีเงินมากมายจนไม่จำเป็นต้องทำงานก็สามารถมีกินได้ไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน แต่เจ้าตัวก็เลือกที่จะออกมาทำงานหาเงินเพื่อหาประสบการณ์ให้กับตัวเอง แบบนี้สิดี ถ้าได้มาเป็นลูกสะใภ้อีกคนก็คงจะดี....เอกดนัยจ้องมองสายตาของคนเป็นพ่อที่ดูจะถูกอกถูกใจในตัวของยัยน้ำเน่านี่