LOGINดาราหนุ่มเจ้าของฉายา 'คาสโนว่าตัวพ่อ' กับประโยคเด็ด "เธอก็รู้นี่... ว่าฉันไม่เอากับใครซ้ำสอง" ปะทะผู้จัดการสาวเจ้าของฉายา 'เต้าหู้ขาว' แต่...ดูเหมือนว่าจะมีคนกลืนน้ำลายตัวเอง
View Moreบทนำ
เสียงดนตรีแจ๊สผสมกลิ่นอายเรโทรลอยคลอในอากาศ ไฟสลัวสีอำพันสะท้อนผ่านแก้วเหล้าราคาแพงบนโต๊ะที่อยู่ลึกที่สุดของบาร์แห่งนี้ บาร์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพมหานคร “The Midnight Trap”
“Cheers!”
เสียงแก้วกระทบกันเบา ๆ ระหว่างชายหนุ่มสามคนที่การแต่งตัวและหน้าตาดีเกินกว่าจะเป็นเพียงลูกค้าธรรมดา พวกเขาไม่ใช่คนแปลกหน้า แต่คือ... สามพี่น้องแห่งตระกูลรัตนวรากุล ที่ต่างก็แบกชีวิตไว้คนละแบบ และหนึ่งในนั้นคือเจ้าของบาร์สุดหรูแห่งนี้
“ว่าแต่…พี่ไอซ์ควงสาวไม่ซ้ำหน้าแบบนี้ พี่ไม่กลัวท่านประธานว่าบ้างเหรอ?”
คินปรายตามองพี่รองที่วันนี้เพิ่งมีข่าวซุบซิบออกมาว่าควงสาวคนใหม่เข้าโรงแรม
“มึงก็ว่าไปคิน พี่ไม่เคยควงใครสักหน่อย”
ธันวา รัตนวรากุล หรือ ไอซ์ ดาราชายสุดฮอต ที่แค่กระพริบตาก็มีคนอยากถอดเสื้อให้แล้ว
เวย์นั่งพิงพนักเบา ๆ สายตาเรียบนิ่งมองน้องทั้งสองคน พลางจิบเหล้าในแก้วสก็อตช์ของตัวเองอย่างไม่เร่งรีบ
“มึงเลิกเจ้าชู้บ้างก็ดีนะ”
“ถ้าพี่เลิกก่อน กูค่อยคิด” ไอซ์ยักคิ้วให้พี่ชาย พร้อมเอียงแก้วเบา ๆ
“ชิ! ไอ้น้องเวร” เวย์สบถคำเบา ๆ
“แล้วมึงล่ะคิน?” เวย์ถามเสียงเรียบ “ลูกสาวเจ้าของห้างดังที่มึงชอบนี่ จีบติดยังวะ”
คินหัวเราะ “ยังว่ะพี่ ใจแข็งโคตร พี่เบนซ์บอกว่าผมเด็กเกินไป”
“นี่ผมอายุยี่สิบแล้วนะ เด็กตรงไหน”
“มึงฟังกูนะคิน” ไอซ์พูดขึ้น
“ประโยคหลังจากนี้ที่พี่เบนซ์จะพูดคือ ‘คิน นายยังอ่อนประสบการณ์เกินไป’” เขาพูดพร้อมทำเสียงล้อเลียน
“ไอ้พี่ไอซ์โว้ยยยย!”
“ฮ่า ๆ ๆ จี้ใจดำล่ะสิ”
“ก็ไม่แปลกใจที่เบนซ์จะบอกว่ามึงเด็กเกินไป” เวย์พูดเสริม “ดูมึงกับไอซ์เถียงกันตอนนี้สิ หึ! โคตรเด็กน้อยเลย”
“ไอ้พี่เฮียเวย์!” ไอซ์กับคินพูดขึ้นเสียงดัง พร้อมหันหน้ามาทางพี่ชาย
เวย์เพียงแต่ยกยิ้มบาง ๆ ที่มุมปาก ดวงตาสะท้อนแสงไฟบนเพดาน ก่อนจะยกแก้วเครื่องดื่มของตัวเองขึ้นมาจิบ
“แล้วทำไมวันนี้พี่ถึงเลือกสั่งเครื่องผมพวกนี้ให้พวกผมล่ะ?”
คินถามพลางเลิกคิ้ว เขามองแก้วสีแดงจัดตรงหน้าที่มีเชอร์รี่ลูกโตวางบนขอบแก้วด้วยความสงสัย
เวย์พยักหน้าเบา ๆ ไม่เงยหน้าจากแก้วตัวเอง
“อืม…ก็เหมาะกับพวกมึงดีนี่”
“ของกูชื่อไรวะพี่?” ไอซ์เอียงหน้าไปมองแก้วของตัวเอง สีแดงอมม่วง เนื้อสัมผัสดูนุ่มนวลแต่มีเปลวไฟบาง ๆ เหมือนจะลุกไหม้ที่ขอบ
“Burnt Velvet” เวย์ตอบ
“ข้างนอกดูหรู ดูนุ่ม แต่จริง ๆ แล้ว…มีเปลวไฟเผาอยู่ข้างใน ไม่ต่างจากมึงหรอกไอซ์ หน้ากล้องแสนดี หลังกล้อง จุด จุด จุด”
ไอซ์นิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะแสยะยิ้มออกมา
“โห พี่เวย์ นี่พี่กำลังชมกูเหรอวะ”
คินหัวเราะ แต่สายตาเหลือบมองแก้วของตัวเอง
“ของผมล่ะ พี่สั่ง Cherry Shot ให้ทำไม?”
เวย์ปรายตามองน้องเล็ก
“ก็มึงไง ข้างนอกดูหวาน สดใส ดื่มง่าย แต่เอาจริง ๆ มันแรงนะ แค่ช็อตเดียวก็แทบลืมตัว หวานแต่ก็ทำให้ล้มได้”
เวย์จิบเหล้าของตัวเองเบา ๆ
“…เหมือนคนที่คิดว่ามึงเป็นเด็กน่ารัก แล้วสุดท้ายแล้วเดี๋ยวเขาก็เผลอรักเข้าแบบไม่ทันตั้งตัว”
คินหลุดหัวเราะ แต่ก็เม้มปากไว้เมื่อเห็นสายตาของพี่ชาย มันไม่ใช่แค่คำแซว แต่มันเหมือนกับว่าเวย์…รู้อะไรมากกว่านั้น
“เชี่ย! พี่แม่งคารมคมคายเกินไปละ”
“แล้วของพี่ล่ะ?” ไอซ์ถามกลับ
“Midnight Scotch?”
เวย์เงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะวางแก้วลงบนโต๊ะเสียงเบา
“มันคือเหล้าที่ขมที่สุดตอนดึกที่สุด” เสียงเขาต่ำ แต่มั่นคง “ชีวิตที่แท้จริงของกูจะเริ่มขึ้นหลังเที่ยงคืน”
“โห วันนี้พี่ก็ไปทำงานให้พ่ออีกแล้วเหรอ”
“แค่งานที่บาร์ก็แทบจะล้นมือแล้ว พี่แม่ง! ไม่ใช่คนละกูว่า”
“ก็ช่วยไม่ได้ งานถนัดกูนี่”
ระหว่างที่บทสนทนาของสามพี่น้องกำลังดำเนินไปเรื่อย ๆ ก็มีเสียงส้นสูงกระทบพื้นดังแผ่วเบา เสียงนั้นตรงมายังโต๊ะที่พวกเขานั่งอยู่ ก่อนที่กลิ่นน้ำหอมหวานจัดจะลอยมาก่อนตัวเธอจะโผล่มาให้เห็น
“พี่ไอซ์ใช่ไหมคะ?”
เสียงใส ๆ ของสาวสวยคนหนึ่งที่เดินตรงเข้ามาหาผมพร้อมรอยยิ้มแบบที่ใครก็รู้ว่า ไม่ใช่ยิ้มธรรมดา
ดาราหนุ่มละสายตาจากแก้วเหล้า หันไปยิ้มบาง ๆ อย่างสุภาพตามมารยาทคนดัง
“อ่า…ครับ”
“หนูชอบพี่มากเลยค่ะ ติดตามผลงานพี่ตลอดเลย”
เธอพูดเสียงตื่นเต้น ดวงตาเปล่งประกายแบบแฟนคลับที่ อยากเป็นมากกว่าแฟนคลับ
“ขอบคุณครับ” เขาพยักหน้าช้า ๆ ส่งยิ้มที่ฝึกมาแล้วกว่าร้อยแบบในกระจก วันนี้เลือกแบบอบอุ่นแต่แฝงซน
“ขอถ่ายรูปได้ไหมคะ?” เธอถามพลางยกมือถือขึ้น แต่ไม่ได้ลืมแนบแขนเธอเข้ากับต้นแขนของเขา
“อ๋อ ได้สิครับ”
เขาเอนตัวเข้าไปใกล้เธอนิดหน่อย กลิ่นน้ำหอมทำให้ไอซ์หัวเราะเบา ๆ ในลำคอ นี่เธอเตรียมตัวมาดีจริง ๆ เสียงชัตเตอร์จากกล้องมือถือดังขึ้นไม่กี่ครั้ง ก่อนที่เธอจะโน้มหน้ามากระซิบเบา ๆ ข้างหู ลมหายใจเธอแตะไล้ผิวเขาชัดเจน
“ไปต่อกันไหมคะ…”
เขาหันไปมองเธอเต็มตา หญิงสาวตรงหน้าสวมเดรสสั้นสีดำ แนบชิดลำตัวเผยให้เห็นสรีระที่ได้สัดส่วน หน้าอกหน้าใจก็ดูใหญ่โตเกินว่าจะเป็นแค่เด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เขาชั่งใจคิดอยู่สักพักก่อนจะโน้มใบหน้าไปกระซิบกลับช้า ๆ ด้วยเสียงต่ำกระเส่า
“น้องอายุยี่สิบหรือยัง… ถ้าถึงแล้วพี่จะพิจารณาลองดู”
เธอเบิกตาเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า กัดริมฝีปากตัวเองเบา ๆ
โอเค… ผ่านเกณฑ์ เขาหัวเราะในใจ ก่อนจะหันกลับไปทางโต๊ะ พูดกับเวย์และคินที่ยังนั่งอยู่ที่เดิม
“ไปก่อนนะพี่”
ทั้งคู่ไม่ได้ตอบอะไร นอกจากยกแก้วขึ้นมาชนกันเบา ๆ ราวกับซ้อมไว้แล้วสำหรับโมเมนต์นี้ แววตาสองคู่นั้นบอกชัดว่า… “กูว่าแล้ว”
‘หึ… แล้วจะให้พี่ไอซ์คนนี้อยู่เฉย ๆ ได้ยังไงล่ะครับ มีสาวสวยหุ่นน่า ขย่ำมาเสิร์ฟถึงโต๊ะขนาดนี้ คืนนี้ต้องมีของหวานก่อนนอนสิครับ’
เธอโยนกระเป๋าถือทิ้งลงพื้นโดยไม่แม้แต่จะเหลือบตามองว่ากระเป๋าจะวางถูกที่หรือไม่ ริมฝีปากที่เคยยิ้มหวานตอนอยู่ในบาร์ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่กระหายยิ่งกว่าแอลกอฮอล์ทุกแก้วที่ดื่มมา
เขากดร่างเธอลงบนเตียง ผ้าปูสีดำยับย่นตามแรงกระแทกของร่างกาย เธอไม่พูดอะไร สองมือเรียวสอดคล้องที่ต้นคอของชายหนุ่ม ก่อนออกแงดึงโน้มคอเขาลงไป เหมือนทุกอย่างมันควรจะเป็นไปตามนั้น
ริมฝีปากของเธอเลื่อนเข้ามาใกล้ ใกล้เกินไป…
แต่เขาเบือนหน้าหนี เขาไม่เคยจูบใคร…นอกจากบนเวทีหรือหน้ากล้อง และไม่เคยคิดจะให้สิ่งนั้นกับคนที่เขาจะลืมในวันพรุ่งนี้
“ไม่” เขาพูดเสียงต่ำ ก่อนจะกระชากชุดเดรสสั้นของเธอออกจนมันปลิวหลุดจากไหล่ ไม่มีคำขอโทษ ไม่มีความอ่อนโยน มีเพียงความเร่าร้อนที่ทั้งเธอและเขาต่างก็ยินยอม
เธอปลดกระดุมเสื้อเขาด้วยความชำนาญ ก็อย่างว่า…คนศีลเสมอกัน มันรู้กันดีอยู่แล้วว่าเราต้องการอะไร นิ้วเรียวของเธอลูบผ่านหน้าท้องเขา เหมือนกำลังลากเส้นนำทางไปยังสิ่งที่เธออยากพบเจอ
เขาไม่ได้เอ่ยชื่อเธอ และเขาเองก็ไม่ได้อยากรู้จักชื่อเธอด้วยซ้ำ คืนนี้…แค่ให้ร่างกายได้พูดแทนความเงียบในใจที่ไม่คิดจะจดจำ
มือของเธอเลื่อนลงไปจนถึงจุดกึ่งกลางของร่างกายภายในนั้นตึงแน่น…ร้อนระอุและพร้อมจะถูกปลดปล่อย เธอปลดมันออกจากพันธนาการ แล้วไล้นิ้วไปมาอย่างยั่วเย้า ก่อนจะก้มลงรับมันเข้าไปในปาก
“อืม…”
เขาครางเสียงต่ำในลำคอ แม้จะไม่ชอบให้ใครคุมเกม แต่เขาก็ไม่ปฏิเสธความช่ำชองของเธอ แต่เกมของเธอจบแค่นั้น ถึงตาเขาแล้ว เขาไม่ชอบเกมที่ยืดยื้อกับคนที่แค่อยากตักตวงความสุขจากกันและกัน
เขาผลักเธอลงให้นอนราบกับเตียง มืออีกข้างประคองความแข็งแกร่งที่ร้อนระอุอยู่ในอุ้งมือ สวมอุปกรณ์ป้องกันอย่างช่ำชอง ก่อนจะกดมันเข้าร่องลึกของเธออย่างไม่รีรอ เสียงครางหลุดจากปากเธอทันทีเมื่อเขาโยกเอว
“อ๊ะ… อ๊ะ… อ้า… พะ พี่ไอซ์…”
เขาไม่ตอบ แค่ขยับเอวอย่างรุนแรง เข้าออกอย่างไม่ปรานี เธอเสนอร่างกายนี้ให้เขาถึงโต๊ะเองไม่ใช่หรือ? งั้นก็สมใจแล้วล่ะ
เสียงครางของเธอดังไปพร้อมกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อ จังหวะโยกไหวของร่างกายราวกับบรรเลงอยู่บนเวทีที่ไม่มีใครเห็น แต่อารมณ์มันจริงยิ่งกว่าแสดงหน้ากล้องไหน ๆ
สองร่างยังวนเวียนอยู่ในความร้อนระอุของเตียง เธอร้อน…แต่เขาร้อนกว่า หลังจากทุกอย่างจบลง เขาเดินเข้าห้องน้ำ ล้างตัวให้สะอาด แล้วแต่งตัวกลับอย่างรวดเร็วแต่เป๊ะทุกกระดุม
“จะไปแล้วเหรอคะ?” เธอถามเสียงแผ่ว ราวกับยังอยากรั้ง
“อืม” เขาตอบ ไม่แม้แต่จะสบตา
“พี่ยังไม่รู้จักชื่อหนูเลยนะ ไม่คิดจะถามบ้างเหรอ…”
เขาหันไปเล็กน้อย แต่ยังคงเสียงเรียบเย็น
“ไม่จำเป็น”
เขาพูดแค่นั้น แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นดูเวลา
“เดี๋ยวอีกไม่เกินสามสิบนาที ผู้จัดการพี่จะเอาสัญญาปกปิดความลับมาให้เซ็น…พร้อมกับค่าเสียหาย”
พูดจบก็เดินออกจากห้องไปโดยไม่หันกลับไปมอง
ไม่มีชื่อ
ไม่มีความทรงจำ
ไม่มีความผูกพัน
นี่แหละ สไตล์ของ ไอซ์ ธันวา รัตนวรากุล
ดาราหนุ่มวัยยี่สิบหกปี เจ้าของฉายาคาสโนว่าตัวพ่อ แม้จะมีข่าวฉาวเรื่องผู้หญิงออกมาบ่อยครั้ง แต่ทุกครั้งก็ไม่เคยมีการฟ้องร้องหรือขึ้นศาลแต่อย่างใด เป็นเพียงแค่... ข่าวลือที่ไม่มีหลักฐาน
เขาเป็นที่ยอมรับในวงการบันเทิงด้านฝีมือการแสดง การเดินแบบ ด้วยใบหน้าที่มีเสน่ห์ ความเป็นกันเองกันแฟนคลับ และการทำงานอย่างเป็นมืออาชีพ ทำให้เขาเป็นดาราชายยอดนิยมที่มีฐานแฟนคลับล้นหลามทั้งในและต่างประเทศ แบรนด์สินค้าต่าง ๆ ไว้วางใจให้เขาเป็นพรีเซ็นเตอร์ของ
แบรนด์มากกว่าสามสิบตัวแสงไฟในบาร์ค่อย ๆ ดับลงทีละจุด เหลือเพียงแสงสีส้มสลัวจากโคมไฟเหนือโต๊ะตัวเดิม เสียงเพลงแจ๊สเปลี่ยนเป็นโทนช้ากว่าก่อนหน้านี้ เหมือนทุกจังหวะกลายเป็นเสียงสะท้อนของความเงียบ
เวย์ยังนั่งอยู่ที่เดิม มือหนึ่งวางนิ่งข้างแก้วสก็อตช์ของตัวเอง อีกมือเอื้อมไปหยิบแก้ว Burnt Velvet ของไอซ์ที่วางทิ้งไว้กลางโต๊ะ แก้วนั้นยังเย็นอยู่เล็กน้อย น้ำแข็งบางส่วนละลายผสมกับของเหลวสีแดงอมม่วงจนดูข้นขึ้นเล็กน้อย
เขามองมันอยู่พักหนึ่ง… ก่อนจะยกขึ้นมาแนบปลายจมูก สูดลมหายใจช้า ๆ กลิ่นแรงของเหล้าหวานผสมเชอร์รี่ลอยแตะจมูก แต่เขาไม่ได้จิบ ริมฝีปากกระซิบเบา ๆ แทบจะไม่มีเสียง แต่ชัดเจนพอให้ความคิดได้ยิน
“รสชาติของคนที่ไม่รู้ว่าตัวเอง…กำลังจะไหม้”
เมื่อส่งหญิงสาวตรงหน้าสู่ฝั่งฝัน เขาถอดถอนนิ้วยาวออกจากร่องสวาท ก่อนจะปลดเปลื้องอาภรณ์ของตัวเอง เผยให้เห็นกล้ามหน้าท้องแน่น ๆ สายตาคมกริบยังคงจับจ้องไปที่ร่างบางที่อยู่ใต้ร่างเขา พลางใช้มือรูดซิปกางเกงออกเหลือเพียงสิ่งบดบังแก่นกายที่ปวดหนึบเพียงชิ้นเดียว“ลุกขึ้น” เสียงของเขาออกคำสั่งอย่างเจ้าเล่ห์เธอเองก็ลุกขึ้นอย่างว่าง่าย ใบหน้ายังเปรอะไปด้วยคราบน้ำตาที่ยังไม่แห้งเหือดจากสมรภูมิความเสียวซ่านเมื่อครู่“ถอดของฉันออก”เธอเอื้อมมือไปดึงสิ่งบดบังชิ้นสุดท้ายออกอย่างว่าง่าย แก่นกายที่ได้รับอิสระตอนนี้กำลังชูชันชี้หน้าเธอ“ชิมดูสิ”“หืม?” เมษาทำหน้าสงสัย“อ้าปาก แล้วเอามันเข้าไป”เธออ้าปากออกตามที่เขาบอก ก่อนจะกลืนกินแก่นกายชายเข้าไปในปากจนสุด มันทำให้เธอแทบสำลักกับความยาว มือหนึ่งจับประคองไว้ที่โคน ก่อนจะค่อย ๆ ใช้ปากรูดขึ้นลงอย่างช้า ๆ“เลียด้วย”ลิ้นเล็กตวัดรัวใส่แก่นกายชายพร้อมทั้งรูดขึ้นลง มือแกร่งจับประคองศีรษะของเธอไว้เพื่อนสอนจังหวะให้เร็วขึ้น“อื้ม...”เสียงครางทุ้มต่ำเล็ดลอดออกมาจากลำคอเขาเมื่อปลายลิ้นเล็ก ๆ ตวัดเลียรอบแก่นกายที่กำลังสั่นกระตุกเป็นจังหวะ มือเล็กยังคงรูดขึ้นลงช้า
“คุณ... สอนฉันหน่อย”เสียงเธอสั่นนิด ๆ แต่สายตากลับนิ่งแน่วแน่ ไอซ์เลิกคิ้วขึ้นทันที “หือ? สอนอะไร?” เขาถามด้วยความงุนงง สองตามองสบกับใบหน้าเธอที่ยังแดงก่ำจากน้ำตาเมื่อครู่“เรื่องที่คุณถนัด” เมษาตอบเสียงแน่นไอซ์หัวเราะหึ ๆ ในลำคอ ทำทีเป็นเล่น “อ๋อ การแสดงสินะ...”แต่ยังไม่ทันขาดคำ เมษาพูดสวนขึ้นมา เสียงหนักแน่นจนเขาชะงัก“เรื่องบนเตียง... คืนนี้เอากับฉันไหม”คำพูดนั้นเหมือนตบหน้าเขาฉาดใหญ่ ไอซ์นิ่งไปทันที ร่างแข็งค้างในวินาทีนั้น สองตาเบิกนิด ๆ มองเธอด้วยความตกใจ“รู้ตัวป่ะเนี่ย ว่าพูดอะไรออกมา?” น้ำเสียงเขาเริ่มจริงจังขึ้นทันทีรู้สิ... นอนกับฉันไหม” เธอพูดซ้ำ พลางยกมือซับคราบน้ำตาบนแก้มแล้วเงยหน้ามองเขาเต็มตา สายตาที่สะท้อนทั้งความบาดเจ็บและ... ความกล้าในแบบที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนไอซ์หันหน้าหนี ถอนหายใจเฮือกยาวเหมือนกำลังเรียบเรียงความคิด“นี่เมษา! ฉันไม่เอากับคนที่ไม่ยินยอมหรอกนะ เธอก็รู้” เขามองเธออีกครั้ง คราวนี้ดวงตามีแววเข้มจริงจังมากกว่าเดิม“…” เมษานิ่งไป พลางนึกย้อนถึงเรื่องราวของเธอกับผู้ชายคนนั้น คนที่หักหลังเธออย่างเลือดเย็นเมื่อก่อนไม่ว่าเธอจะแต่งตัวแบบไหน หรือต่อให้ไ
บรรยากาศงานเลี้ยงในโซนวีวีไอพีของบาร์หรู ‘The Midnight Trap’ยังคงเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและแสงไฟระยิบระยับ แขกแต่ละคนแต่งตัวกันจัดเต็มไม่แพ้กัน ดาราและเซเลบริตี้ชื่อดังในวงการบันเทิงทยอยกันมาร่วมงานอย่างต่อเนื่อง โต๊ะเครื่องดื่มชั้นดีถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ส่วนมุมถ่ายรูปเต็มไปด้วยเสียงแฟลชและกล้องมือถือที่กดรัวไม่หยุดไอซ์เดินเคียงข้างเมษาที่ในค่ำคืนนี้แทบจะเป็นคนละคนกับที่ทุกคนเคยเห็น เดรสเข้ารูปสีน้ำเงินเมทัลลิคสะท้อนแสงไฟแบบมีรสนิยม ทรงผมสลวยที่ดูเป็นธรรมชาติแต่เนี้ยบกริบ และใบหน้าที่ผ่านการแต่งแต้มจนเปล่งประกาย เธอก้าวขาอย่างระมัดระวังในรองเท้าส้นสูงคู่ใหม่ แต่ก็สง่างามจนใครต่อใครต้องหันมามองไอซ์ปรายตามองเธอด้วยความพึงพอใจ ‘โคตรคุ้ม...’ เขาคิดในใจ ‘แบบนี้สิถึงจะเรียกว่าผู้ช่วยของกู’เพียงแค่เขาเดินเข้าไปในงาน เหล่าดาราและเซเลบที่สนิทกันก็ต่างยกแก้วเข้ามาทักทายทันที รอยยิ้มและการทักทายที่คล่องแคล่วของไอซ์ทำให้บรรยากาศตรงจุดนั้นคึกคักทันตา“ว้าว วันนี้ควงสาวออกงานด้วยเหรอคะ” เสียงคุ้นหูดังขึ้นจากด้านข้าง พิม ดาราสาวสุดฮอตที่เพิ่งร่วมงานกับไอซ์เมื่อไม่นานมานี้ เดินเข้ามาพร้อมรอยยิ
ณ ห้างสรรพสินค้าเดอลารัตน์ห้างหรูใจกลางเมืองในช่วงเย็นคึกคักไปด้วยผู้คน แต่โซนบูติกระดับไฮเอนด์กลับเงียบสงบ มีเพียงร่างสูงของดาราหนุ่มที่สวมใส่หน้ากากอนามัยสีดำปกปิดตามสไตล์ดาราดัง ตอนนี้เขากำลังเดินนำผู้ช่วยสาวก้าวฉับ ๆ เข้ามาในร้านแฟชั่นชื่อดังที่เต็มไปด้วยชุดหรูเรียงราย“เอ่อ… ฉันว่าแค่นี้ก็ดูดีแล้วนะคุณไอซ์ เราจะเลือกชุดใหม่อีกทำไม…” เมษาเอ่ยเสียงอ่อย ๆ พลางมองซ้ายขวาอย่างประหม่า“เงียบไปเลย วันนี้จัดเต็ม เปลี่ยนเธอให้เลิกดูเป็นแม่บ้านได้แน่” ไอซ์หันมามองตาเป็นประกายแล้วหันไปสั่งพนักงานเสียงเข้ม “ขอชุดคอลเลกชั่นล่าสุดที่เป็นเดรสค็อกเทลและชุดออกงานทั้งหมด เอาที่ดูไม่โป๊จนเกินไป แต่ต้องสวย ดึงดูด และดูแพง!”พนักงานตาลุกวาว รีบจัดการหยิบชุดออกมาเรียงรายเป็นสิบ ๆ ชุดราวกับรอคิวประกวดแฟชั่นโชว์“เข้าไปลอง! ทุกชุด! แล้วออกมาให้ดูทีละชุด!” ไอซ์สั่งพลางดันหลังเมษาให้เดินเข้าห้องลองเสื้อ“หาาา! คุณจะบ้าหรือไง ตั้งเยอะขนาดนี้!?”“เถียงมาก ชุดละไม่ถึงห้านาที เร็ว!” ดาราหนุ่มกอดอกยืนรอแบบไม่ยอมอ่อนข้อเมษาถอนหายใจอย่างจำยอม แล้วเริ่มสวมชุดแรก ไม่นานนัก เธอเดินออกมาในชุดเดรสแขนกุดสีดำเข้ารูปย
“กริ๊ง กรื๊ง!”เสียงกริ่งหน้าประตูเพนท์เฮาส์หรูดังขึ้นต่อเนื่องในยามเช้าที่เงียบสงบ บนเตียงนุ่ม ๆ ร่างสูงของดาราหนุ่มเจ้าของห้องนอนยังคงขดตัวซุกอยู่ในผ้าห่ม เขาขมวดคิ้ว หงุดหงิดเต็มที่เมื่อเสียงกริ่งยังดังไม่หยุด มือควานหาโทรศัพท์บนโต๊ะหัวเตียงมาเปิดดูเวลา“เจ็ดโมงเช้า... ใครมาปลุกแต่เช้าวะเนี่ย!”เขาพึมพำงัวเงียก่อนจะซุกหน้ากลับลงกับหมอนทันที มืออีกข้างยกขึ้นปิดหูอย่างหัวเสีย“ติ๊ด!”เสียงประตูล็อคที่ถูกเปิดออกอย่างง่ายดาย บ่งบอกว่าแขกคนนั้นมีรหัสเข้าห้อง หลังจากดูแลดาราหนุ่มมาได้ไม่นานนักก็เรียกได้ว่าเธอรู้ไส้รู้พุงเขาหมดทุกเรื่องเลยแหละ ร่างของเมษาในเสื้อเชิ้ตขาว กางเกงสแลคสีดำเดินเข้ามาด้วยท่าทีมั่นใจ สายตากวาดมองรอบห้องนั่งเล่นก่อนจะตรงเข้าไปที่ห้องนอนทันที“คุณไอซ์! วันนี้มีถ่ายงานตอนเก้าโมงเช้า” เสียงเธอดังขึ้นหน้าประตูห้องนอนอย่างไม่เกรงใจไม่มีเสียงตอบกลับ เธอขมวดคิ้วแล้วเคาะแรงขึ้น“คุณตื่นหรือยัง!”“นี่คุณ มันจะเสียเวลานัดลูกค้านะ เข้าใจไหม?”“จะให้คนทั้งกองรอคุณคนเดียวหรือยังไง!”รอแล้วก็ยังเงียบ เมษากัดฟันแน่น ก่อนสูดหายใจเข้าลึกแล้วตะโกนสุดเสียง “คุณไอซ์ ตื่นนนนนนนนนนน!!!
“ก็เหี้ยเหมือนบิดามั้งครับ” ไอซ์ตอบทันควัน โดยไม่แม้แต่จะเหลือบตามองใครเสียงช้อนตกจากมือคะนึงเนตรเบา ๆ ก่อนที่เธอจะถอนหายใจแรง“เฮ้อ หยุดทีเถอะสองพ่อลูก เจอกันทีไรเถียงกันตลอด แม่ปวดหัว!”เวย์ที่นั่งกินข้าวอย่างเงียบ ๆ ตลอดช่วงต้นเพียงเลิกคิ้วนิดหนึ่ง ก่อนจะวางตะเกียบลงช้า ๆ แล้วหันไปทางแม่“ผมบอกมันแล้วนะแม่เนตร แต่สันดานอะ ใครจะเปลี่ยนมันได้” เขาเอ่ยเสียงเรียบ แต่ชัดเจนแล้วหันไปทางน้องชายคนเล็ก “มึงดูอย่างคินดิไอซ์ แชมป์รักเดียวใจเดียวไม่มีใครล้มได้”คินที่กำลังตักต้มจืดเข้าปากชะงักไปทันที “โห แล้ววกมาเรื่องผมได้ไงเนี่ย”“พ่อครับ พี่เวย์แกล้งผม” เขาทำเสียงเหมือนเด็กฟ้องครู แต่รอยยิ้มก็แอบซ่อนอยู่ที่มุมปากอิทธิพลหลุดหัวเราะในลำคอ “เอ้อ พวกมึงนี่ก็แกล้งแต่น้อง”เวย์กับไอซ์หันไปมองกัน ก่อนจะเบ้ปากพร้อมกันอย่างรู้ทัน ไม่มีคำพูดใด แต่การสบตาสั้น ๆ นั้นบอกชัดว่า นี่คือธรรมเนียมของบ้านนี้ บ้านที่รักกันแบบประชดประชัน บ้านที่เสียงด่ายังดังพอ ๆ กับเสียงหัวเราะ“พ่อครับ ผมอยากได้บิ๊กไบค์คันใหม่” จู่ ๆ น้องเล็กของบ้านก็พูดออดอ้อนผู้เป็นพ่อขึ้นมา“หืม?”“นะครับ พ่อ...” สายตาออดอ้อนเป็นประกายร
Comments