หลังจากที่ยัยปลิงดูดเงินพูดจบ เอกดนัยก็ถึงกับควันออกหู เขาไม่คิดว่ายัยนี่จะปากกล้าได้ขนาดนี้... แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวเขาจะช่วยน้องแยมล้างจานเอง...
แพทตี้เหนื่อยมากแค่ต่อปากต่อคำกับไอ้ผู้ชายสารเลวคนนั้นแค่คนเดียวเธอก็แทบจะตายแล้ว แต่นี่ยังมาเพิ่มอีกหนึ่ง เธอจะตายก่อนวัยอันควรไหมเนี่ย....
แพทตี้เลือกที่จะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเธอหยิบโน๊ตบุ๊คเครื่องเล็กๆของเธอออกมา เธอเปิดหาข้อมูลบางอย่าง และหางานเสริม เธอต้องหาเงินให้ได้เยอะๆ เธอไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว เธอไม่อยากอยู่เลย...
แพทตี้เสียบหูฟังเข้าไปที่โน๊ตบุ๊คของเธอ เธอเปิดเพลงฟังไปเรื่อยๆ แว่นตาอันโตถูกหยิบมาใส่เพื่อกรองแสงจากโน๊ตบุ๊ค มือที่ขยับไปมาสายตาที่ไล่หาข้อมูลไปเรื่อย เพียงแค่เธอเจออะไรที่มันน่าสำคัญๆกับเธอ เธอก็รีบจดมันลงใส่สมุดเล่มเล็กเอาไว้ทันที...
การกระทำของแพทตี้อยู่ในสายตาของเอกดนัยตลอด เขาถือวิสาสะไขประตูเข้ามาเอง เขาจะเข้ามาต่อว่ายัยนี่สักหน่อย แต่เพียงแค่เห็นยัยนี่นั่งหึมหัมๆ มือที่ขีดเขียนอะไรยุกยิกๆไปมา มันทำให้เขาหลงลืมไปเลยว่าเขาจะขึ้นมาพูดอะไร ดวงตากลมโตที่อยู่ภายใต้แว่นตาอันโตมันทำให้ยัยนี่ดูเหมือนเด็กม.ปลายที่กำลังนั่งหาข้อมูลเพื่อเอาไปทำรายงาน แล้วไหนปากที่จะขยับไปมาระหว่างการเขียนอะไรพวกนั้นอีก มันทำให้เขาได้แต่มองนิ่งๆ.....
แพทตี้มัวแต่สนใจในส่งที่เธอกำลังหาเธอก็ไม่ได้ระวังอะไรเลยสักนิด เพราะห้องนี้เป็นพื้นที่ส่วนตัวของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่จำเป็นต้องระวังอะไรให้มากแต่แล้วเธอกลับคิดผิดไปอย่างมหันต์.....
ว๊ายยยยยย
ร่างบางแทบจะตกจากเก้าอี้ เพราะเธอหันมาเจอกับ เขา เขายืนจังก้าอยู่ด้านหลังของเธอเขาเข้ามาโดยไม่ขออนุญาตเธอ เขาไม่เป็นคนเลวทรามจริงๆ มารยาทคงจะไม่เคยเรียนมาแน่นอน...
" คุณเข้ามาในห้องฉันทำไมคะ" แพทตี้ถามออกไปโดยที่เธอลืมไปว่าที่หูของเธอยังคงมีหูฟังอยู่..
" ห้องเธอแต่บ้านฉันเพื่อคนหน้าเงินและโง่อย่างเธอจะไม่รู้"
" ห๊ะ? คุณพูดอะไรฉันไม่ได้ยิน"
เอกดนัยถึงกับต้องเงยหน้าขึ้นแล้วก็ถอนหายใจออกมาทันที เขาเดินตรงไปยังยัยปลิงดูดเงิน...
" ยะ..อย่าเข้ามานะ ฉัน... ฉันฟาดคุณจริงๆด้วย" แพทตี้ก้าวถอยหลังจนไปชนกับโต๊ะเล็กๆของเธอ
เอกดนัยถอดหูฟังออกจากหัวของยัยผู้หญิงหน้าเงินทันที เขาไม่คิดว่าจะโง่และซื่อบื่อด้วย...
" ฉันบอกว่าห้องเธอแต่นี่มันบ้านของฉัน..." เอกดนัยย้อนคำที่พึ่งพูดออกไปอีกครั้ง
" แล้วไงคะ แต่ฉันแต่งงานกับคุณแล้ว ห้องนี้มันเป็นห้องของฉัน คุณไม่ควรเข้ามาในห้องของฉันก่อนที่ฉันจะอนุญาตนะคะ มารยาทคุณควรจะมีบ้าง " แล้วไงล่ะ เธอแต่งงานกับเขาแล้วถึงแม้ว่ามันจะเป็นการแต่งงานที่ไม่เต็มใจทั้งสองฝ่ายก็ตามแต่เธอก็มีสิทธิ์ในการอยู่บ้านหลังนี้เหมือนกัน....
หมับ!!!
" หึ หน้าด้านไม่มีใครเปรียบได้เลยสินะ หน้าเงิน หน้าด้าน โง่.. มันรวมอยู่ในผู้หญิงแบบเธอทุกอย่างสินะ ทุเรศ" เอกดนัยผลักร่างของผู้หญิงหน้าเงินคนนี้อย่างแรง จนร่างบางไปชนขอบโต๊ะและร่วงลงไปกองกับพื้น...
อึก....
ถึงแม้ว่าแพทตี้จะรู้สึกจุกและเจ็บที่สีข้าง แต่เธอก็เลือกที่จะไม่ร้องหรือส่งเสียงออกมาว่าเธอเจ็บ
" ออกไปค่ะ ถ้าคุณยังเข้ามาในห้องของฉันโดยไม่ขออนุญาตก่อน ฉันจะเปลี่ยนลูกบิดใหม่ แล้วต่อไปคุณจะไม่สามารถเข้าห้องนี้ได้อีก เชิญค่ะ ออกไปหาผู้หญิงของคุณซะ เธอรอนานแล้ว รีบออกไปก่อนที่เธอคนนั้นจะมาแหกอกฉัน..." แพทตี้ไม่อยากมีเรื่องกับผู้หญิงคนนั้นนัก เธอรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้หงิมๆ เรียบร้อยอย่างที่เธอคนนั้นชอบแสดงและแสร้งทำ...
" แยมเป็นคนดี ไม่ร่านเหมือนเธอ อ๋อ แยมเป็นผู้หญิงดีมาก ไม่หน้าเงินเหมือนเธอด้วยสิ อย่าเอานิสัยหรือสันดานอันต่ำตมของเธอเองมาเที่ยวเปรียบเทียบกับคนอื่นสิ มันน่าสมเพชนะ ที่ฉันเข้ามาในห้องนี้ก็เพราะฉันจะมาบอกว่าแยมจะมาอยู่ที่นี่ อยู่ในฐานะคนรักของฉัน เธออย่าทำอะไรให้แยมไม่สบายใจล่ะ ถ้าเธอทำเมื่อไหร่ ฉันจะจับเธอโยนทิ้งออกจากบ้านแน่... จำไว้..."
"หึ คุณอย่าลืมนะ ถึงฉันไม่ได้อยากจะแต่งงานกับคุณนัก แต่ฉันก็มีทะเบียนสมรส ฉันจะกอดมันเอาไว้แน่นๆเลย อย่างน้อยๆ ผู้หญิงคนนั้นก็เป็นได้แค่... เมียน้อย ยินดีล่วงหน้ากับคนรักของคุณด้วยนะคะ ที่จะได้เลื่อนขั้นจากผู้หญิงที่คุณเอาไว้ปลอดปล่อยมาเป็น เมียน้อย อย่างเต็มตัว และมีอีกเรื่องหนึ่งที่คุณคงจะลืมไป ว่าถ้าคุณหย่ากับฉันก่อนกำหนดที่คุณลุงระบุเอาไว้ล่ะก็.... ฟี้ววว หายเลยค่ะ เงินทองและสิ่งต่างที่คุณอยากได้ มันจะหายวับไปกับตา เอาสิคะ อยากหย่านัก... ก็เอาเลย.. เชิญออกไปได้แล้ว" ถึงแม้ว่าภายในใจของแพทตี้มันจะเต้นเร่าๆเหมือนเจ้าเข้าอยู่ก็ตาม แต่เธอจะไม่ยอมให้เขามาข่มขู่เธออีกแล้ว ในเมื่อพวกเขาเริ่มเล่นสงครามประสาทกับเธอแล้ว เธอก็ต้องหาวิธีป้องกันหัวใจอันอ่อนแอของตัวเอง...
หมับ!!!
อึก....
เอกดนัยถึงกับถลาพาตัวเองไปยังร่างทุเรศทุรังของผู้หญิงหน้าเงินคนนี้ เขาบีบไปที่ลำคอเล็กของยัยนี้...
แปะๆๆๆ
แพทตี้ตีลงไปที่แขนแกร่งของสามีเธอ เขาบีบลงมาอย่างแรงที่คอของเธอ มันทำให้เธอหายใจแทบจะไม่ออกแต่จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่ปล่อยเธอเลยต้องใช้เล็บสั้นๆของเธอจิกและขูดลงไปที่ผิวของเขา ด้วยความที่เขาเป็นคนผิวขาวตอนนี้มันเลยเกิดรอยแดงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แพทตี้ขูดลงไปแรงๆจนตอนนี้แขนของเขามีเลือดไหลออกมาเพราะรอยเล็บที่เธอฝากฝังเอาไว้และนั้นมันจึงทำให้เขาปล่อยเธอ....
แค่กๆๆ แฮ่ๆๆ
" แล้วเราจะได้เห็นดีกัน เธอจะได้เห็นดีกับฉันแน่ ในเมื่อเธออยากเล่นกับไฟ ฉันนี่แหละจะแผดเผาเธอเอง" ถึงแม้ว่าเขาจะเจ็บนิดๆเพราะรอยขูดจากเล็บของยัยผู้หญิงหน้าเงิน แต่มันก็ยังเจ็บน้อยกว่าที่ผู้หญิงคนนั้นจะเจอในสิ่งที่เขากำลังจะเริ่มทำต่อจากนี้....
ครอบครัวใหญ่สองครอบครัวกำลังมารอลุ้นว่าตอนนี้พวกเขาจะได้หลายชายหรือหลานสาว สองสาวบอกว่าไม่ขอตรวจเพศให้รอมาลุ้นตอนคลอดเอา และวันนี้คนเป็นปู่เป็นตาก็มาลุ้นกันที่หน้าห้องคลอดกันอย่างเนืองแน่น... ครามถูกตามให้มากรุงเทพ ตอนแรกเขาก็ไม่ได้อยากจะกลับมาสักเท่าไหร่ แต่ว่าเมื่อคนเป็นพ่อบอกว่ายัยน้องกำลังจะคลอดเขาก็เลยต้องรีบจองตั๋วแล้วก็มายังโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังทันที....พลั่ก.... อุ๊ย...." ขอโทษครับ... ฝ้าย...." ครามถึงกับตกใจในสิ่งที่เขาเห็น... รักแรกของเขา.... เขาไม่ได้เจอรักแรกของเขาตั้งแต่ที่เธอบอกเลิกเขาไป.... จนป่านนี้... ก็เกือบ8ปีแล้ว...ฝ้ายมาเป็นพยาบาลอยู่ที่นี่เหรอ...." สวัสดีค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ..." หญิงสาวรีบทักทายพร้อมกับก้มหัวให้หนึ่งครั้งและเดินจากไปทันที...ครามเดินมายังกลุ่มคนด้วยท่าทางที่เหม่อลอย.. เขาบอกไม่ถูกว่าเขาควรจะรู้สึกยังไงดี ดีใจ? หรือเสียใจ...." มาแล้วเหรอเจ้าคราม ตอนนี้กำลังรอลุ้นอยู่เลยว่าใครจะคลอดก่อนกัน.... " พ่อตาของยัยน้องพูดขึ้น แต่เท่าเขาคิดไว้เขาว่ายัยน้องน่าจะคลอดก่อน เพราะยัยน้องท้องก่อนไม่ใช่เหรอ..." น้ำขิงต้องคลอดก่อนสิครับเพราะน้ำขิงท้องก่อนแพทเกื
หลังจากที่ภพกูลบอกกล่าวคนในวงการนักธุรกิจให้มาร่วมงานบุญในครั้งนี้ ครอบครัวของน้ำขิงก็ได้มาร่วมงานบวชของลูกชายคนโตของเขาด้วย.....โดยการบวชครั้งนี้เป็นการบวชช่วงเข้าพรรษาพอดี และลูกชายของท่านก็ขอบวชหนึ่งพรรษาหรือการบวชเอาพรรษาก็เท่ากับ3เดือน ตอนแรกท่านก็คิดว่าลูกชายเขาจะบวชหนึ่งพรรษาที่แปลว่า 1 ปี เพราะเขาคิดว่าลูกชายเขาไม่น่าจะบวชได้นานขนาดนั้น เอกดนัยที่พยายามข่มอารมณ์เอาไว้... เพราะเขากลัวว่าเขาจะเผลอด่าไอ้ผัวเมียคู่นี้... เมียมันก็คอยมาออเซาะเมียเขา ส่วนไอ้น้อยเวรมันก็คอยส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มให้เมียเขาเช่นกัน และที่สำคัญไอ้สองผัวเมียคู่นี้มันชอบมากวนใจให้เขาแทบจะหลงลืมตัวและด่ามันออกไป แต่ติดที่ว่าเขาต้องสำรวมทั้งกาย วาจา และใจ... นี่สินะที่เขาเรียกว่า มารผจญ ก่อนบวชมักจะมีมารผจญ.. ที่แท้มันก็เป็นแบบนี้นี่เอง เมื่อถึงเวลาที่เอกดนัยเข้าสู่ใต้ร่มกาสาวพัสตร์ทุกคนในงานก็ต่างสงบเสงี่ยมมากขึ้น... เอกภพเลือกวัดที่นอกเมืองหน่อย เพราะมันไม่ค่อยวุ่นวาย.... แต่สิ่งที่เขาคิดไว้มันกลับผิดไปหมด.....ทุกเช้าที่เขาออกมาบิณฑบาตก็มักจะมีสาวๆไม่ว่าจะเด็กสาววัยรุ่น วันกลางคน และคนแก่แม่ม่ายก็มักจะตื
หลังจากงานแต่งงานอันใหญ่โตได้สิ้นสุดลง ตอนนี้น้ำขิงและเอกภพก็พากันไปอยู่ที่ภูเก็ต เพราะเอกดนัยบอกให้ทั้งสองคนไปดูแลงานที่นั่น เพราะตอนนี้ที่ภูเก็ตขาดคนดูแลและไหนพ่อกับพี่ของยัยน้ำเน่าที่ปักหลักอยู่ที่นั่นอีก ดังนั้นมันก็เป็นทางออกเดียวที่จะทำให้ไอ้สองคนนั้นกระเด็นออกจากบ้านไป เพราะเขาเบื่อขี้หน้าของสองคนผัวเมียที่คอยแต่จะเคลมเมียเขา... เขารู้หรอกน๊าว่าเมียเขาน่ะน่ารัก ถึงแม้ว่าเขาจะมองเห็นความน่ารักของเมียเขาช้าไปนิดก็ตาม แต่อย่างน้อยตอนนี้เขาก็เห็นแล้วไงจะมาวุ่นวายอะไรกันอีก..." รีบๆไสหัวกันไปได้แล้ว น่ารำคาญ" เพี๊ยะ....โอ๊ย...." เจ็บน้ำยัยหน้าเงิน!!! " เอกดนัยถึงกับร้องโอ๊ยออกมาทันทีเพราะเมียเขาฟาดลงมาที่แขนด้วยไม้พายที่กวนขนม...ดูสิแขนหักไปแล้วมั้งเนี่ย..." ทำไมคุณเอกดนัยถึงพูดแบบนี้คะ? น้ำขิงเป็นน้องสะใภ้คุณ และพี่ภพก็เป็นน้องชายคุณด้วย..." แพทตี้ล่ะไม่ชอบเลยที่คุณเอกดนัยชอบพูดจาแบบนี้ใส่น้ำขิงและพี่ภพ.." โห้... ที่มันเธอเรียกว่าพี่ ส่วนฉันเธอเรียกว่าคุณ.... น่าน้อยใจฉิบหาย..." เพียงเท่านั้นเอกดนัยก็เดินหนีออกจากห้องนั่งเล่นทันที...เอกดนัยเดินออกไปด้านนอกของตัวบ้าน จากอารมณ์
หลังจากเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นในครอบครัวพิจารุวรรณ ก็มีข่าวดีเกิดขึ้นเพราะคุณภพกูลได้ไปสู่ขอหนูน้ำขิงกับพ่อของหนูน้ำขิงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และทั้งสองฝ่ายต่างก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก จะมีแค่คนเดียวเท่านั้นที่ไม่ค่อยยินดีสักเท่าไรนั่นก็คือน้ำขิง...." คุณจะมาเดินตามอะไรฉันหนักหนาคุณเอกภพ..." เจ้าสาวคนสวยถึงกับหน้างอคอหักเลยทีเดียว เพราะตอนนี้เจ้าบ่าวของเธอเดินตามเธอยิ่งกว่าเงาอีก..." เฮียภพ เรียกเฮียภพ... แล้วที่เดินตามเพราะว่าเธอกำลังให้พ่อของฉันและพ่อของเธอต้องเสียหน้าเพื่อเธอไม่รู้... เรื่องแค่นี้ยังคิดไม่ได้ถ้าเกิดท้องขึ้นมาจะเลี้ยงลูกได้ยังไงกัน..." เอกภพถึงกับต้องถอนหายใจออกมายาวๆ "ฉันคงไม่ซวยขนาดนั้นมั้งที่จะท้องเลย..." น้ำขิงเบ้ปากใส่เจ้าบ่าวของเธอไปหนึ่งที และตอนนี้เธอเห็นแพทกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะพร้อมกับกำลังกินอาหารอย่างสนุกสนานโดยมีไอ้คุณเอกดนัยจับนั่น ป้อนนี้ใส่ปากแพทตี้ของเธออยู่.." อิจฉาน้องแพทเหรอ? จะให้ป้อนแบบนั้นไหม.. แบบว่า.. ป้อนบนเตียง... ป้อนในห้องน้ำ... ป้อนบนโต๊ะทำงาน แบบนั้นก็คงจะอร่อยไปอีกแบบนะ.." เอกภพถึงกับรีบยียวนเมียมาดๆของเขา เพราะเท่าที่เขาเดาได้.. ยั
เสียงกรี๊ดที่ดังสะนั่นบ้านปลุกทุกคนให้ตื่นขึ้นและคนที่ตกใจมากที่สุดจะเป็นใครไปไม่ได้..."คุณทำอะไรฉัน...ห๊ะ... กรี๊ดดด...." น้ำขิงกรี๊ดสุดเสียงเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยัง..."เงี๊ยบ!! ผมบอกให้เงี๊ยบบบ " เอกภพไม่พูดเปล่าเขายังใช้ฝ่ามือของเขาปิดทับลงไปที่ริมฝีปากอวบอิ่ม.... จากการดูด และขบเม้ม... ไม่ต้องบอกก็รู้แล้วว่าเขามันขนาดไหน" ถ้ายังร้องโวยวายอีกละก็...ฉันจะฆ่าหมกเตียง.. ลองดูไหมล่ะ ฉันไม่ได้ใจดีเหมือนหน้าตานะจะบอกให้..." น้ำขิงถึงกับต้องทำหน้ายี้เลยทันทีคนบ้าอะไรชมตัวเอง พูดเองเออเองเหมือนคนเป็นพี่ไม่มีผิด...อือ.. อือ...อือ......เอกภพค่อยๆปล่อยมือออกจากปากของน้ำขิงช้าๆ เพราะเขาคิดว่าน้ำขิงคงอยากจะพูดอะไรกับเขาเป็นแน่..." แก... ไอ้คนนิสัยไม่ดี ไอ้คนฉวยโอกาส ไอ้หน้าหมา ไอ้อืออออ" และนั่นก็เป็นคำสุดท้ายของน้ำขิงที่ถูกพ่นออกมาก...เอกภพไม่รอช้าเขาจูบหนักๆที่ริมฝีปากบางแต่กลับพูดมาก พูดจาไม่ดี พูดจากไม่เพราะจากแค่เขาต้องการที่จะทำโทษน้ำขิงที่พูดไม่ดีใส่เขา แต่เพียงแค่เขาจูบไปจูบมา... มันก็ทำให้อารมณ์ที่โกรธจางหายไปและแปลเปลี่ยนไปเป็นอารมณ์แห่งความดิบเถื่อนชวนสยิว....น้ำขิงถึงกับทำอะไร
มื้อค่ำถูกจัดขึ้นที่ห้องอาหารใหญ่ เพราะวันนี้ลูกชายเจ้าของบ้านทั้งสองคนมานั่งร่วมโต๊ะด้วยพร้อมกับน้ำขิงแขกประจำของบ้าน แต่กว่าน้ำขิงจะหยุดโวยวายได้ก็ทำเอาเอกภพถึงกับปวดหัว...และในที่สุดมื้อค่ำก็ถูกจัดเรียงเอาไว้ให้ทุกคนได้ลิ้มลอง อาหารแต่ละอย่างนั้นถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยแม่ครัวประจำของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นมื้อไหนๆอาหารทุกจานก็จะถูกกวาดเรียบเสียจนไม่เหลือแม่แต่น้ำสักหยด ทุกคนบนโต๊ะอิ่มเอมกับอาหารตรงหน้า คนที่มีอายุมากที่สุดของบ้านก็ชวนเด็กๆรุ่นลูกคุยเรื่องต่างๆนานา คุยสัพเพเหระ และถามแขกของบ้านว่าอยากจะเปลี่ยนตำแหน่งไหม แต่เขาก็ได้คำตอบมาเพียงว่าเธอไม่ต้องการ เธอชอบตำแหน่งนั้นมากกว่าเธอเรียนมาทางนี้ จะให้เธอไปทำบัญชีก็คงจะไม่ไหว เธอพอทำได้บ้างแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ถนัดเอาเสียเลย คุณภพกูลถึงกับถูกใจในคำตอบของหนูน้ำขิง ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะมีเงินมากมายจนไม่จำเป็นต้องทำงานก็สามารถมีกินได้ไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน แต่เจ้าตัวก็เลือกที่จะออกมาทำงานหาเงินเพื่อหาประสบการณ์ให้กับตัวเอง แบบนี้สิดี ถ้าได้มาเป็นลูกสะใภ้อีกคนก็คงจะดี....เอกดนัยจ้องมองสายตาของคนเป็นพ่อที่ดูจะถูกอกถูกใจในตัวของยัยน้ำเน่านี่