หลังจากที่ยัยปลิงดูดเงินพูดจบ เอกดนัยก็ถึงกับควันออกหู เขาไม่คิดว่ายัยนี่จะปากกล้าได้ขนาดนี้... แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวเขาจะช่วยน้องแยมล้างจานเอง...
แพทตี้เหนื่อยมากแค่ต่อปากต่อคำกับไอ้ผู้ชายสารเลวคนนั้นแค่คนเดียวเธอก็แทบจะตายแล้ว แต่นี่ยังมาเพิ่มอีกหนึ่ง เธอจะตายก่อนวัยอันควรไหมเนี่ย....
แพทตี้เลือกที่จะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเธอหยิบโน๊ตบุ๊คเครื่องเล็กๆของเธอออกมา เธอเปิดหาข้อมูลบางอย่าง และหางานเสริม เธอต้องหาเงินให้ได้เยอะๆ เธอไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว เธอไม่อยากอยู่เลย...
แพทตี้เสียบหูฟังเข้าไปที่โน๊ตบุ๊คของเธอ เธอเปิดเพลงฟังไปเรื่อยๆ แว่นตาอันโตถูกหยิบมาใส่เพื่อกรองแสงจากโน๊ตบุ๊ค มือที่ขยับไปมาสายตาที่ไล่หาข้อมูลไปเรื่อย เพียงแค่เธอเจออะไรที่มันน่าสำคัญๆกับเธอ เธอก็รีบจดมันลงใส่สมุดเล่มเล็กเอาไว้ทันที...
การกระทำของแพทตี้อยู่ในสายตาของเอกดนัยตลอด เขาถือวิสาสะไขประตูเข้ามาเอง เขาจะเข้ามาต่อว่ายัยนี่สักหน่อย แต่เพียงแค่เห็นยัยนี่นั่งหึมหัมๆ มือที่ขีดเขียนอะไรยุกยิกๆไปมา มันทำให้เขาหลงลืมไปเลยว่าเขาจะขึ้นมาพูดอะไร ดวงตากลมโตที่อยู่ภายใต้แว่นตาอันโตมันทำให้ยัยนี่ดูเหมือนเด็กม.ปลายที่กำลังนั่งหาข้อมูลเพื่อเอาไปทำรายงาน แล้วไหนปากที่จะขยับไปมาระหว่างการเขียนอะไรพวกนั้นอีก มันทำให้เขาได้แต่มองนิ่งๆ.....
แพทตี้มัวแต่สนใจในส่งที่เธอกำลังหาเธอก็ไม่ได้ระวังอะไรเลยสักนิด เพราะห้องนี้เป็นพื้นที่ส่วนตัวของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่จำเป็นต้องระวังอะไรให้มากแต่แล้วเธอกลับคิดผิดไปอย่างมหันต์.....
ว๊ายยยยยย
ร่างบางแทบจะตกจากเก้าอี้ เพราะเธอหันมาเจอกับ เขา เขายืนจังก้าอยู่ด้านหลังของเธอเขาเข้ามาโดยไม่ขออนุญาตเธอ เขาไม่เป็นคนเลวทรามจริงๆ มารยาทคงจะไม่เคยเรียนมาแน่นอน...
" คุณเข้ามาในห้องฉันทำไมคะ" แพทตี้ถามออกไปโดยที่เธอลืมไปว่าที่หูของเธอยังคงมีหูฟังอยู่..
" ห้องเธอแต่บ้านฉันเพื่อคนหน้าเงินและโง่อย่างเธอจะไม่รู้"
" ห๊ะ? คุณพูดอะไรฉันไม่ได้ยิน"
เอกดนัยถึงกับต้องเงยหน้าขึ้นแล้วก็ถอนหายใจออกมาทันที เขาเดินตรงไปยังยัยปลิงดูดเงิน...
" ยะ..อย่าเข้ามานะ ฉัน... ฉันฟาดคุณจริงๆด้วย" แพทตี้ก้าวถอยหลังจนไปชนกับโต๊ะเล็กๆของเธอ
เอกดนัยถอดหูฟังออกจากหัวของยัยผู้หญิงหน้าเงินทันที เขาไม่คิดว่าจะโง่และซื่อบื่อด้วย...
" ฉันบอกว่าห้องเธอแต่นี่มันบ้านของฉัน..." เอกดนัยย้อนคำที่พึ่งพูดออกไปอีกครั้ง
" แล้วไงคะ แต่ฉันแต่งงานกับคุณแล้ว ห้องนี้มันเป็นห้องของฉัน คุณไม่ควรเข้ามาในห้องของฉันก่อนที่ฉันจะอนุญาตนะคะ มารยาทคุณควรจะมีบ้าง " แล้วไงล่ะ เธอแต่งงานกับเขาแล้วถึงแม้ว่ามันจะเป็นการแต่งงานที่ไม่เต็มใจทั้งสองฝ่ายก็ตามแต่เธอก็มีสิทธิ์ในการอยู่บ้านหลังนี้เหมือนกัน....
หมับ!!!
" หึ หน้าด้านไม่มีใครเปรียบได้เลยสินะ หน้าเงิน หน้าด้าน โง่.. มันรวมอยู่ในผู้หญิงแบบเธอทุกอย่างสินะ ทุเรศ" เอกดนัยผลักร่างของผู้หญิงหน้าเงินคนนี้อย่างแรง จนร่างบางไปชนขอบโต๊ะและร่วงลงไปกองกับพื้น...
อึก....
ถึงแม้ว่าแพทตี้จะรู้สึกจุกและเจ็บที่สีข้าง แต่เธอก็เลือกที่จะไม่ร้องหรือส่งเสียงออกมาว่าเธอเจ็บ
" ออกไปค่ะ ถ้าคุณยังเข้ามาในห้องของฉันโดยไม่ขออนุญาตก่อน ฉันจะเปลี่ยนลูกบิดใหม่ แล้วต่อไปคุณจะไม่สามารถเข้าห้องนี้ได้อีก เชิญค่ะ ออกไปหาผู้หญิงของคุณซะ เธอรอนานแล้ว รีบออกไปก่อนที่เธอคนนั้นจะมาแหกอกฉัน..." แพทตี้ไม่อยากมีเรื่องกับผู้หญิงคนนั้นนัก เธอรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้หงิมๆ เรียบร้อยอย่างที่เธอคนนั้นชอบแสดงและแสร้งทำ...
" แยมเป็นคนดี ไม่ร่านเหมือนเธอ อ๋อ แยมเป็นผู้หญิงดีมาก ไม่หน้าเงินเหมือนเธอด้วยสิ อย่าเอานิสัยหรือสันดานอันต่ำตมของเธอเองมาเที่ยวเปรียบเทียบกับคนอื่นสิ มันน่าสมเพชนะ ที่ฉันเข้ามาในห้องนี้ก็เพราะฉันจะมาบอกว่าแยมจะมาอยู่ที่นี่ อยู่ในฐานะคนรักของฉัน เธออย่าทำอะไรให้แยมไม่สบายใจล่ะ ถ้าเธอทำเมื่อไหร่ ฉันจะจับเธอโยนทิ้งออกจากบ้านแน่... จำไว้..."
"หึ คุณอย่าลืมนะ ถึงฉันไม่ได้อยากจะแต่งงานกับคุณนัก แต่ฉันก็มีทะเบียนสมรส ฉันจะกอดมันเอาไว้แน่นๆเลย อย่างน้อยๆ ผู้หญิงคนนั้นก็เป็นได้แค่... เมียน้อย ยินดีล่วงหน้ากับคนรักของคุณด้วยนะคะ ที่จะได้เลื่อนขั้นจากผู้หญิงที่คุณเอาไว้ปลอดปล่อยมาเป็น เมียน้อย อย่างเต็มตัว และมีอีกเรื่องหนึ่งที่คุณคงจะลืมไป ว่าถ้าคุณหย่ากับฉันก่อนกำหนดที่คุณลุงระบุเอาไว้ล่ะก็.... ฟี้ววว หายเลยค่ะ เงินทองและสิ่งต่างที่คุณอยากได้ มันจะหายวับไปกับตา เอาสิคะ อยากหย่านัก... ก็เอาเลย.. เชิญออกไปได้แล้ว" ถึงแม้ว่าภายในใจของแพทตี้มันจะเต้นเร่าๆเหมือนเจ้าเข้าอยู่ก็ตาม แต่เธอจะไม่ยอมให้เขามาข่มขู่เธออีกแล้ว ในเมื่อพวกเขาเริ่มเล่นสงครามประสาทกับเธอแล้ว เธอก็ต้องหาวิธีป้องกันหัวใจอันอ่อนแอของตัวเอง...
หมับ!!!
อึก....
เอกดนัยถึงกับถลาพาตัวเองไปยังร่างทุเรศทุรังของผู้หญิงหน้าเงินคนนี้ เขาบีบไปที่ลำคอเล็กของยัยนี้...
แปะๆๆๆ
แพทตี้ตีลงไปที่แขนแกร่งของสามีเธอ เขาบีบลงมาอย่างแรงที่คอของเธอ มันทำให้เธอหายใจแทบจะไม่ออกแต่จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่ปล่อยเธอเลยต้องใช้เล็บสั้นๆของเธอจิกและขูดลงไปที่ผิวของเขา ด้วยความที่เขาเป็นคนผิวขาวตอนนี้มันเลยเกิดรอยแดงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แพทตี้ขูดลงไปแรงๆจนตอนนี้แขนของเขามีเลือดไหลออกมาเพราะรอยเล็บที่เธอฝากฝังเอาไว้และนั้นมันจึงทำให้เขาปล่อยเธอ....
แค่กๆๆ แฮ่ๆๆ
" แล้วเราจะได้เห็นดีกัน เธอจะได้เห็นดีกับฉันแน่ ในเมื่อเธออยากเล่นกับไฟ ฉันนี่แหละจะแผดเผาเธอเอง" ถึงแม้ว่าเขาจะเจ็บนิดๆเพราะรอยขูดจากเล็บของยัยผู้หญิงหน้าเงิน แต่มันก็ยังเจ็บน้อยกว่าที่ผู้หญิงคนนั้นจะเจอในสิ่งที่เขากำลังจะเริ่มทำต่อจากนี้....
คุณเอกดนัยพาผู้หญิงของเขามาอยู่ด้วยเกือบจะครบอาทิตย์แล้วพวกเขาเป็นพวกที่... น่าขยะแขยงที่สุด เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าการที่พวกเขาจะเป็นลูกคุณหนูมีเงินมีทองมากมายก่ายกองขนาดนี้ พวกเขาจะไม่มีสามัญสำนึกเลยสักนิด ไม่เพียงแค่เธอมีงานประจำที่ต้องทำ เธอกลับบ้านมาเธอก็ต้องมาเก็บกวาดเช็ดล้างในสิ่งที่เธอไม่ได้ก่ออีก มันเหนื่อยนะ เหนื่อยสายตัวแทบขาดเลย เธอไม่อยากอยู่แล้ว แต่เธอก็ไปไหนไม่ได้เธอไม่มีที่ไป กลับไปอยู่บ้านนานๆก็ไม่ได้เพราะเขาจะหาเรื่องไปตามเธอกลับบ้านพร้อมกับตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จว่าเธองอนเขา เธอไม่เคยงอนเขาสักนิดไม่เลย เธอไม่เคยเลยจริงๆ เธอแค่เกลียดเขากับคนของเขา เธอก็ผู้หญิงคนหนึ่งน่ะ เธอเจ็บได้ร้องไห้เป็น หลายต่อหลายครั้งที่เธอพยายามที่จะไม่คิดเรื่องที่มันเกิดขึ้นกับเธอ แต่มันก็ยังมีบางครั้งที่อยู่ๆเธอก็คิด... ทั้งที่รู้ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้แต่เธอก็เผลอคิดไปแล้ว สิ่งที่เธอคิดน่ะเหรอ เธอแค่อยากให้เขาคุยกับเธอดีๆบ้าง เห็นใจเธอหน่อย สงสารเธอบ้างก็ได้ เธอก็คนเหมือนกัน แต่สิ่งที่เขาทำมันไม่ต่างกับหมู หมา กา ไก่ ที่ถ้าวันไหนเขาต้องการบีบให้ตาย... เธอก็คงจะตายคามือของเขา แต่สำหรับผู้หญิง
เพียงแค่เธอลืมตาขึ้นมาเธอก็รับรู้ว่าร่างกายของเธอมันไม่เหมือนเดิม มันเจ็บไปหมด ไม่รู้ว่าตรงไหนแตกหรือตรงไหนหักบ้าง...ที่เธอร้องไห้เพราะเธอเจ็บที่ร่างกาย ส่วนจิตใจของเธอนั้น...มันเจ็บมานานแล้ว นานจนมันชินชา มันไม่รู้สึกยินดียินร้ายกับเรื่องต่างๆ"ลบคลิปนั่นซะ ก่อนที่ฉันจะฆ่าเธอทิ้ง.." เอกดนัยขู่ผู้หญิงหน้าเลือดคนนี้ทันทีที่เจ้าหล่อนฟื้น..." ไม่มีทาง ต่อให้ฉันตายไปฉันก็จะไม่ลบ และส่งหนึ่งที่คุณไม่รู้ก็คือ ฉันส่งไปให้คนที่ฉันไว้ใจแล้ว.. หึ ต่อให้ฉันตายเรื่องทุเรศทุรังของพวกคุณมันก็สามารถเผยแพร่ออกไปได้ อึก..." แพทตี้พยายามที่จะพูดต่อ แต่เธอก็ทำมันไม่ได้เพราะตอนนี้เธอถูกมือหนาของเขาบีบที่ลำคอของเธอเอาไว้อย่างแน่น... เธอไม่ขัดขืนเขาเหมือนทุกครั้ง เธอปล่อยให้เขาบีบให้พอ ถ้าเธอจะต้องตายก็ขอให้ตายด้วยน้ำมือของเขา มันจะได้ทำให้เขารู้สึกผิดขึ้นมาบ้าง...น้ำตาหยดใสๆมันไหลออกมาจากหางตาของผู้หญิงหิวเงินคนนี้ เขาต้องการเห็นเธอดิ้นรน หรือจิกเล็บของเธอลงมายังที่แขนของเขาเหมือนทุกครั้ง เขาต้องการเห็นเธอทรมานที่เขาทำให้เธอเจ็บ แต่ครั้งนี้ยัยนี่มันไม่ทำอะไรเลย นอนให้เขาบีบง่ายแบบนี้ได้ยังไงกัน..."โถ่เ
แพทตี้มาอยู่ที่บ้านหลังเล็กของน้ำขิงได้สองวันแล้ว เธอไม่ได้ไปทำงานด้วยสภาพที่ไม่เป็นใจให้เธอไปทำงานหาเงิน เธอจึงขอยืมโทรศัพท์ของน้ำขิงโทรไปลางาน ทำเรื่องลาป่วย ถึงแม้ว่าทางฝ่ายบุคคลจะเรื่องมากไปหน่อย เธอจึงถ่ายรูปและส่งไปให้เขาจริงปล่อยผ่านไป "ขิงแพทฝากซื้อชุดทำงานหน่อยได้ไหม สักสามชุด อันเก่ามันขาดอ่ะ ไปฝากซักที่ร้านมา แล้วไม่รู้ว่าเขาซักรวมกับอะไรบ้าง หรืออาจจะใช้น้ำยาอะไรก็ไม่รู้ทำให้ชุดเราขาด แต่ไม่ต้องห่วงเราได้ค่าเสียหายมาแล้วถึงแม้ว่ามันไม่มากแต่ก็พอที่จะซื้อชุดทำงานใหม่ได้ ฝากด้วยนะ" ขอโทษอีกครั้งนะน้ำขิงที่ต้องโกหกอีกแล้ว " อืมๆว่าแต่ มีโทรศัพท์ใช้ไหม เอาเครื่องเก่าขิงไปใช้ก่อนก็ได้นะ มันนอนอยู่เฉยๆอ่ะ เอาไปใช้ก่อน เครื่องเก่าที่มันพังเดี๋ยวจะลองเอาไปซ่อมให้..." น้ำขิงสงสารแพทตี้มาก มันจะซวยอะไรซ้ำซ้อนขนาดนั้น ตกบรรได้ลงมาแล้วโทรศัพท์ยังกระเด็นตกลงมาพร้อมอีก... น่าสงสารจริงๆที่รักของน้ำขิง ถ้ามาเป็นแฟนน้ำขิงนะ น้ำขิงคนนี้จะเลี้ยงให้ดีเลยทีเดียว" ขอบใจนะ งั้นเราฝากขิงด้วย ถ้าเงินเดือนออกเราจะ ทยอยๆคืนให้นะ เพราะเราไม่มีเงินมากขนาดนั้น ห้ามปฏิเสธเรานะขิง แค่นี้เราก็เกรงใจขิง
แพทตี้อยู่ว่างๆที่บ้านของขิง เธอไม่รู้จะทำอะไร เพราะป้าแมวชอบห้ามเธอ ห้ามไปหมด จนในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป..." ป้าแมวค่ะ หนูเบื่อแล้วค่ะ อยู่เฉยๆมาตั้งหลายวันแล้ว วันนี้หนูขอทำกับข้าวนะคะ หนูเหง๊าเหงา... เบื่อมากๆเลยค่ะ นะคะป้าแมวคนสวย... ให้หนูช่วยก็ได้ค่ะ หนูสัญญาว่าจะไม่ดื้อไม่สนไม่แอบกินด้วย..." แพทตี้ถึงกับต้องทำตัวให้น่ารักตัวเล็กตัวน้อย...เพื่อที่จะให้ป้าแมวใจอ่อน..." ก็ได้ค่ะๆ เห็นว่าเหงาหรอกนะคะ ไม่งั้นป้าแมวไม่ให้ช่วยทำหรอก... มาค่ะ งั้นวันนี้เราทำแกงเผ็ดเป็ดย่างกัน หนูแพททำเป็นไหมคะ?" ป้าแมวผู้ที่มีความรู้ด้านอาหารระดับหนึ่งเธอเอ่ยถามสาวน้อยน่าตาน่ารักจิ้มลิ้มคนนี้อย่างใคร่รู้..."เคยได้ยินค่ะ ไม่เคยชิมไม่เคยทำด้วย แทพทำแต่กับข้าวง่ายๆ อย่างเช่นมัสมั่น พะโล้ แกงเทโพ ผัดผักรวมมิตร ฉู่ฉี่ด้วยค่ะ แพทชอบกิน คุณพ่อก็ชอบ..." น้ำเสียงช่วงสุดท้ายที่เปล่งออกไปกลับเบาราวกับเสียงลมที่พัดผ่านไป... " งั้นมาช่วยป้าแมวดีกว่า มาคะ่ จะได้เอาไปทำให้คุณพ่อหนูแพททานไงคะ ดีไหม? " หญิงสูงวัยถึงกับหาทางเปลี่ยนเรื่องพูด เพราะดูๆแล้วสาวน้อยคนนี้น่าจะรักครอบครัวมาก ยิ่งคนเป็นพ่อแล้วด้วยเพียงแ
หลังจากที่ครามได้สอบถามแพทตี้เรื่องต่างๆนานา เขาก็ทำได้แค่.. นั่งรอ และช่วยป้าแมวบ้าง เพราะเอาจริงๆ เขาไม่ถนัดทำกับข้าวหรอก ได้แต่กิน และตอนนี้ก็คงจะต้องรอยัยน้องกลับมา แต่ก็คงจะอีกนานเลย ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เขาจึงไปหามุมสงบๆนั่งทำงานของเขาไป แต่ในช่วงที่เขาทำงานนั้น เขาก็จะเหลือบตามองไปยังหญิงสาวตัวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มคนนั้น เธอเป็นคนหน้าเล็กๆ ผมดำยาวสลวย มือเล็กๆ ปากเล็กนั่น ดูไปมันก็เข้ากันดีไปหมด เสียงหัวเราะที่ดังออกมาเป็นระยะๆ มันทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายและมีบ้างเป็นบางครั้งที่เขาถึงกับต้องยิ้มออกมาเพราะเสียงหัวเราะนั่น... " คุณครามคะ อยากได้ของทานเล่นไหมคะ เดี๋ยวแพทไปเอามาให้" หญิงสาวถามออกมาด้วยความใจดี อันที่จริงเธอไม่สมควรถามเลยด้วยซ้ำไปเพราะคุณครามเป็นพี่ของน้ำขิง แต่เธอนี่สิทำตัวราวกับว่าตัวเองเป็นเจ้าของบ้านเสียเอง"ไม่เป็นไร เรียกว่าเฮียครามดีกว่าจะได้เหมือนยัยน้อง เราน่ะ นั่งนิ่งๆบ้าง เดินกะเผลกๆไปมาๆอยู่ทั้งวันเนี่ย... ระวังเถอะจะไม่ได้ถอดเฝือก..." ครามพูดออกไปด้วยความเป็นห่วง นี่ถ้าเป็นน้องเป็นนุ่งนะเขาจะตีก้อนให้เข็ดเลย" พอดีพรุ่งนี้จะไปทำงานน่ะค่ะ ต้องเร
เอกดนัยอุ้มร่างเล็กจิ๋วของเมียที่เขาไม่ยินยอมพร้อมใจที่จะให้เป็นมายังรถของเขา เมื่อมาถึงลูกน้องของเขาก็เปิดประตูทันที...ตุ๊บ!!!" เข้าไป!!" เอกดนัยโยนร่างของยัยผู้หญิงหน้าเงินคนนี้เข้าไปในรถทันที เขาไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรทั้งสิ้น เขาสั่งให้ลูกน้องของเขาขับรถไปยังเซฟเฮ้าส์ของเขาทันที... แพทตี้ยังคงนั่งเงียบไม่พูดไม่จา เธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับเขา เธอไม่รู้จะเริ่มยังไง เธออุตส่าห์หนีเขาแล้ว เธอหนีมาได้ตั้งเกือบสามอาทิตย์แล้ว.. แต่วันนี้เธอกลับดวงซวย ไม่รู้ว่าวันนี้เธอก้าวเท้าไหนออกจากบ้านกันแน่...มันเลยทำให้เธอต้องมาเจอกับเขา... " ร่านนักนะ อยากมีผัวใหม่มากนักใช่ไหม... รอไปก่อนเถอะยัยปลิงดูดเงิน... รอให้หย่ากันก่อนก็แล้วกัน รอให้ฉันใช้เธอให้คุ้มค่ากับเงินที่พ่อฉันเสียไปก่อนก็แล้วกัน... เมื่อนั้นฉันจะทำให้เธอได้อับอายขายขี้หน้าผัวใหม่เธอเอง..." เอกดนัยบีบไปที่แขนของผู้หญิงหน้าเงินคนนี้อย่างแรง... เขาโมโหมากที่เห็นยัยนี่ยืนยิ้มหน้าบานให้กับผู้ชายคนอื่น.. ยัยนี่ไม่มีสิทธิ์ที่จะหัวเราะหรือมีความสุข....แพทได้แต่เก็บกลั้นความรู้สึกเจ็บของเธอ ไม่ว่าจะเป็นที่แขนหรือที่ขา และไหนเมื่อครู่เธอล้มล
ทันที่รถเคลื่อนที่มาถึงจุดหมายปลายทาง แพทตี้ก็ถูกเขาลากลงมาจากรถทันที..." เจ็บค่ะ... เบาๆหน่อยได้ไหมคะฉันเจ็บ" แพทตี้ทำได้แค่ร้องขอแต่เขาจะทำตามรึเปล่า.... เธอก็ไม่อาจรู้ได้..." เรื่องมาก..." เอกดนัยตะคอกออกไปเสียงดังพร้อมกับคว้าร่างเล็กของยังผู้หญิงหน้าเงินคนนี้.... เขาเห็นท่าทางที่ยัยนี้เดินแล้วก็หงุดหงิดดังนั้นการแบกคงจะเป็นทางเดียวที่เขาต้องทำ...หมับ!!! ว๊ายยยยแพทตี้ถึงกับหลุดอุทานออกมาเพราะความตกใจ ตอนแรกเขาฉุดกระชากเธออย่างบ้าคลั่ง แต่ตอนนี้อยู่ๆเขาก็แบกเธอพาดไว้ที่บ่าหนาและแข็งแกร่งของเขา..."ปล่อยนะ... ปล่อยฉันนะคุณเอกดนัย ฉันอยากกลับบ้าน... พาฉันกลับไปบ้านที...." น้ำเสียงที่เปล่งออกมาเชิงร้องขอและขอความเห็นใจถูกใช้ออกมาเธอต้องทำทุกอย่างเพื่อให้เขาเห็นใจและสงสารเธอให้ได้... เธอไม่อยากอยู่ที่นี่...." หุบปากของเธอซะก่อนที่ฉันจะทนไม่ไหวแล้วจับเธอโยนลงน้ำ...." น้ำเสียที่เรียบถูกเอ่ยออกมาจากปากของเขา ยัยนี่ทำให้เขาโมโหหลายเรื่องแล้วนะ ตึกตึกตึก.....ตุ๊บ!!" โอ๊ย... อู้ย....." เสียงโอดโอยจากปากเล็กจิ้มลิ้มดังออกมาทันทีที่ชายร่างยักษ์โยนเธอลงบนเตียงคิงไซซ์ เขาไม่มีความปรานีต่อ
ตั้งแต่วันที่เขาลากเธอออกมาจากโรงแรมนี่ก็เข้าสู่วันที่สิบแล้ว คงไม่ต้องพูดถึงเรื่องงานของเธอแล้ว... เธอคงจะโดนไล่ออกแล้ว และต่อไปเธอจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายหนี้คุณลุงภพกูล....แพทตี้นั่งคิดเรื่องราวต่างๆไปเรื่อยจนทำให้เธอไม่ทันสังเกตว่าชายคนนั้นมาหยุดยืนอยู่ด้านหลังของเธอ เธออยู่ในบ้านหลังนี้ของเขาโดยไม่ได้ออกไปไหน ได้เห็นก็แค่แสงตะวันที่มันสาดส่องเข้ามาในตัวบ้าน และท้องฟ้าที่มืดครึ้มในช่วงเย็น.. รอบบ้านเป็นกำแพงรั้วสูงมีลวดหนามขึงเอาไว้ราวกับว่าที่นี่คือคุกเอาไว้ขังเธอ.... เอกดนัยจับยัยนี่มาขังเอาไว้ที่เซฟเฮาส์ของเขาเกือบจะครบ10วันแล้ว และตอนนี้มันก็ถึงกำหนดที่เขาจะต้องกลับบ้านสักที เพราะเขาโกหกแยมออกไปว่าเขาไปทำธุระให้พ่อของเขาที่ต่างประเทศ 10วัน ดังนั้นวันนี้เขาจะต้องกลับไปที่นั่น และที่สำคัญ เขาจะพายัยผู้หญิงหน้าเงินคนนี้กลับไปด้วย..."ลุก... " และเป็นเสียงเดียวที่แพทตี้ได้ยิน เธอยังไม่ทันจะได้พูดหรือเอ่ยตอบอะไร เขาก็กระชากเธอให้ลุกขึ้นมาจากโซฟาทันที... ไม่เพียงเท่านั้นเขายังหาผ้ามามัดที่มือและปิดตาเธอเอาไว้... เธอเลือกที่จะไม่ขัดขืนหรือทำท่าดื้อดึงต่อเขา เพราะเธอรู้ดีว่าที่นี่เธอท
ครอบครัวใหญ่สองครอบครัวกำลังมารอลุ้นว่าตอนนี้พวกเขาจะได้หลายชายหรือหลานสาว สองสาวบอกว่าไม่ขอตรวจเพศให้รอมาลุ้นตอนคลอดเอา และวันนี้คนเป็นปู่เป็นตาก็มาลุ้นกันที่หน้าห้องคลอดกันอย่างเนืองแน่น... ครามถูกตามให้มากรุงเทพ ตอนแรกเขาก็ไม่ได้อยากจะกลับมาสักเท่าไหร่ แต่ว่าเมื่อคนเป็นพ่อบอกว่ายัยน้องกำลังจะคลอดเขาก็เลยต้องรีบจองตั๋วแล้วก็มายังโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังทันที....พลั่ก.... อุ๊ย...." ขอโทษครับ... ฝ้าย...." ครามถึงกับตกใจในสิ่งที่เขาเห็น... รักแรกของเขา.... เขาไม่ได้เจอรักแรกของเขาตั้งแต่ที่เธอบอกเลิกเขาไป.... จนป่านนี้... ก็เกือบ8ปีแล้ว...ฝ้ายมาเป็นพยาบาลอยู่ที่นี่เหรอ...." สวัสดีค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ..." หญิงสาวรีบทักทายพร้อมกับก้มหัวให้หนึ่งครั้งและเดินจากไปทันที...ครามเดินมายังกลุ่มคนด้วยท่าทางที่เหม่อลอย.. เขาบอกไม่ถูกว่าเขาควรจะรู้สึกยังไงดี ดีใจ? หรือเสียใจ...." มาแล้วเหรอเจ้าคราม ตอนนี้กำลังรอลุ้นอยู่เลยว่าใครจะคลอดก่อนกัน.... " พ่อตาของยัยน้องพูดขึ้น แต่เท่าเขาคิดไว้เขาว่ายัยน้องน่าจะคลอดก่อน เพราะยัยน้องท้องก่อนไม่ใช่เหรอ..." น้ำขิงต้องคลอดก่อนสิครับเพราะน้ำขิงท้องก่อนแพทเกื
หลังจากที่ภพกูลบอกกล่าวคนในวงการนักธุรกิจให้มาร่วมงานบุญในครั้งนี้ ครอบครัวของน้ำขิงก็ได้มาร่วมงานบวชของลูกชายคนโตของเขาด้วย.....โดยการบวชครั้งนี้เป็นการบวชช่วงเข้าพรรษาพอดี และลูกชายของท่านก็ขอบวชหนึ่งพรรษาหรือการบวชเอาพรรษาก็เท่ากับ3เดือน ตอนแรกท่านก็คิดว่าลูกชายเขาจะบวชหนึ่งพรรษาที่แปลว่า 1 ปี เพราะเขาคิดว่าลูกชายเขาไม่น่าจะบวชได้นานขนาดนั้น เอกดนัยที่พยายามข่มอารมณ์เอาไว้... เพราะเขากลัวว่าเขาจะเผลอด่าไอ้ผัวเมียคู่นี้... เมียมันก็คอยมาออเซาะเมียเขา ส่วนไอ้น้อยเวรมันก็คอยส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มให้เมียเขาเช่นกัน และที่สำคัญไอ้สองผัวเมียคู่นี้มันชอบมากวนใจให้เขาแทบจะหลงลืมตัวและด่ามันออกไป แต่ติดที่ว่าเขาต้องสำรวมทั้งกาย วาจา และใจ... นี่สินะที่เขาเรียกว่า มารผจญ ก่อนบวชมักจะมีมารผจญ.. ที่แท้มันก็เป็นแบบนี้นี่เอง เมื่อถึงเวลาที่เอกดนัยเข้าสู่ใต้ร่มกาสาวพัสตร์ทุกคนในงานก็ต่างสงบเสงี่ยมมากขึ้น... เอกภพเลือกวัดที่นอกเมืองหน่อย เพราะมันไม่ค่อยวุ่นวาย.... แต่สิ่งที่เขาคิดไว้มันกลับผิดไปหมด.....ทุกเช้าที่เขาออกมาบิณฑบาตก็มักจะมีสาวๆไม่ว่าจะเด็กสาววัยรุ่น วันกลางคน และคนแก่แม่ม่ายก็มักจะตื
หลังจากงานแต่งงานอันใหญ่โตได้สิ้นสุดลง ตอนนี้น้ำขิงและเอกภพก็พากันไปอยู่ที่ภูเก็ต เพราะเอกดนัยบอกให้ทั้งสองคนไปดูแลงานที่นั่น เพราะตอนนี้ที่ภูเก็ตขาดคนดูแลและไหนพ่อกับพี่ของยัยน้ำเน่าที่ปักหลักอยู่ที่นั่นอีก ดังนั้นมันก็เป็นทางออกเดียวที่จะทำให้ไอ้สองคนนั้นกระเด็นออกจากบ้านไป เพราะเขาเบื่อขี้หน้าของสองคนผัวเมียที่คอยแต่จะเคลมเมียเขา... เขารู้หรอกน๊าว่าเมียเขาน่ะน่ารัก ถึงแม้ว่าเขาจะมองเห็นความน่ารักของเมียเขาช้าไปนิดก็ตาม แต่อย่างน้อยตอนนี้เขาก็เห็นแล้วไงจะมาวุ่นวายอะไรกันอีก..." รีบๆไสหัวกันไปได้แล้ว น่ารำคาญ" เพี๊ยะ....โอ๊ย...." เจ็บน้ำยัยหน้าเงิน!!! " เอกดนัยถึงกับร้องโอ๊ยออกมาทันทีเพราะเมียเขาฟาดลงมาที่แขนด้วยไม้พายที่กวนขนม...ดูสิแขนหักไปแล้วมั้งเนี่ย..." ทำไมคุณเอกดนัยถึงพูดแบบนี้คะ? น้ำขิงเป็นน้องสะใภ้คุณ และพี่ภพก็เป็นน้องชายคุณด้วย..." แพทตี้ล่ะไม่ชอบเลยที่คุณเอกดนัยชอบพูดจาแบบนี้ใส่น้ำขิงและพี่ภพ.." โห้... ที่มันเธอเรียกว่าพี่ ส่วนฉันเธอเรียกว่าคุณ.... น่าน้อยใจฉิบหาย..." เพียงเท่านั้นเอกดนัยก็เดินหนีออกจากห้องนั่งเล่นทันที...เอกดนัยเดินออกไปด้านนอกของตัวบ้าน จากอารมณ์
หลังจากเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นในครอบครัวพิจารุวรรณ ก็มีข่าวดีเกิดขึ้นเพราะคุณภพกูลได้ไปสู่ขอหนูน้ำขิงกับพ่อของหนูน้ำขิงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และทั้งสองฝ่ายต่างก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก จะมีแค่คนเดียวเท่านั้นที่ไม่ค่อยยินดีสักเท่าไรนั่นก็คือน้ำขิง...." คุณจะมาเดินตามอะไรฉันหนักหนาคุณเอกภพ..." เจ้าสาวคนสวยถึงกับหน้างอคอหักเลยทีเดียว เพราะตอนนี้เจ้าบ่าวของเธอเดินตามเธอยิ่งกว่าเงาอีก..." เฮียภพ เรียกเฮียภพ... แล้วที่เดินตามเพราะว่าเธอกำลังให้พ่อของฉันและพ่อของเธอต้องเสียหน้าเพื่อเธอไม่รู้... เรื่องแค่นี้ยังคิดไม่ได้ถ้าเกิดท้องขึ้นมาจะเลี้ยงลูกได้ยังไงกัน..." เอกภพถึงกับต้องถอนหายใจออกมายาวๆ "ฉันคงไม่ซวยขนาดนั้นมั้งที่จะท้องเลย..." น้ำขิงเบ้ปากใส่เจ้าบ่าวของเธอไปหนึ่งที และตอนนี้เธอเห็นแพทกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะพร้อมกับกำลังกินอาหารอย่างสนุกสนานโดยมีไอ้คุณเอกดนัยจับนั่น ป้อนนี้ใส่ปากแพทตี้ของเธออยู่.." อิจฉาน้องแพทเหรอ? จะให้ป้อนแบบนั้นไหม.. แบบว่า.. ป้อนบนเตียง... ป้อนในห้องน้ำ... ป้อนบนโต๊ะทำงาน แบบนั้นก็คงจะอร่อยไปอีกแบบนะ.." เอกภพถึงกับรีบยียวนเมียมาดๆของเขา เพราะเท่าที่เขาเดาได้.. ยั
เสียงกรี๊ดที่ดังสะนั่นบ้านปลุกทุกคนให้ตื่นขึ้นและคนที่ตกใจมากที่สุดจะเป็นใครไปไม่ได้..."คุณทำอะไรฉัน...ห๊ะ... กรี๊ดดด...." น้ำขิงกรี๊ดสุดเสียงเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยัง..."เงี๊ยบ!! ผมบอกให้เงี๊ยบบบ " เอกภพไม่พูดเปล่าเขายังใช้ฝ่ามือของเขาปิดทับลงไปที่ริมฝีปากอวบอิ่ม.... จากการดูด และขบเม้ม... ไม่ต้องบอกก็รู้แล้วว่าเขามันขนาดไหน" ถ้ายังร้องโวยวายอีกละก็...ฉันจะฆ่าหมกเตียง.. ลองดูไหมล่ะ ฉันไม่ได้ใจดีเหมือนหน้าตานะจะบอกให้..." น้ำขิงถึงกับต้องทำหน้ายี้เลยทันทีคนบ้าอะไรชมตัวเอง พูดเองเออเองเหมือนคนเป็นพี่ไม่มีผิด...อือ.. อือ...อือ......เอกภพค่อยๆปล่อยมือออกจากปากของน้ำขิงช้าๆ เพราะเขาคิดว่าน้ำขิงคงอยากจะพูดอะไรกับเขาเป็นแน่..." แก... ไอ้คนนิสัยไม่ดี ไอ้คนฉวยโอกาส ไอ้หน้าหมา ไอ้อืออออ" และนั่นก็เป็นคำสุดท้ายของน้ำขิงที่ถูกพ่นออกมาก...เอกภพไม่รอช้าเขาจูบหนักๆที่ริมฝีปากบางแต่กลับพูดมาก พูดจาไม่ดี พูดจากไม่เพราะจากแค่เขาต้องการที่จะทำโทษน้ำขิงที่พูดไม่ดีใส่เขา แต่เพียงแค่เขาจูบไปจูบมา... มันก็ทำให้อารมณ์ที่โกรธจางหายไปและแปลเปลี่ยนไปเป็นอารมณ์แห่งความดิบเถื่อนชวนสยิว....น้ำขิงถึงกับทำอะไร
มื้อค่ำถูกจัดขึ้นที่ห้องอาหารใหญ่ เพราะวันนี้ลูกชายเจ้าของบ้านทั้งสองคนมานั่งร่วมโต๊ะด้วยพร้อมกับน้ำขิงแขกประจำของบ้าน แต่กว่าน้ำขิงจะหยุดโวยวายได้ก็ทำเอาเอกภพถึงกับปวดหัว...และในที่สุดมื้อค่ำก็ถูกจัดเรียงเอาไว้ให้ทุกคนได้ลิ้มลอง อาหารแต่ละอย่างนั้นถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยแม่ครัวประจำของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นมื้อไหนๆอาหารทุกจานก็จะถูกกวาดเรียบเสียจนไม่เหลือแม่แต่น้ำสักหยด ทุกคนบนโต๊ะอิ่มเอมกับอาหารตรงหน้า คนที่มีอายุมากที่สุดของบ้านก็ชวนเด็กๆรุ่นลูกคุยเรื่องต่างๆนานา คุยสัพเพเหระ และถามแขกของบ้านว่าอยากจะเปลี่ยนตำแหน่งไหม แต่เขาก็ได้คำตอบมาเพียงว่าเธอไม่ต้องการ เธอชอบตำแหน่งนั้นมากกว่าเธอเรียนมาทางนี้ จะให้เธอไปทำบัญชีก็คงจะไม่ไหว เธอพอทำได้บ้างแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ถนัดเอาเสียเลย คุณภพกูลถึงกับถูกใจในคำตอบของหนูน้ำขิง ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะมีเงินมากมายจนไม่จำเป็นต้องทำงานก็สามารถมีกินได้ไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน แต่เจ้าตัวก็เลือกที่จะออกมาทำงานหาเงินเพื่อหาประสบการณ์ให้กับตัวเอง แบบนี้สิดี ถ้าได้มาเป็นลูกสะใภ้อีกคนก็คงจะดี....เอกดนัยจ้องมองสายตาของคนเป็นพ่อที่ดูจะถูกอกถูกใจในตัวของยัยน้ำเน่านี่
หนึ่งอาทิตย์ที่แพทมาอยู่ที่บ้านหลังใหญ่โดยมีน้ำขิงอยู่เป็นเพื่อนเธอ เธอก็ถามว่าน้ำขิงไม่ไปทำงานเหรอ น้ำขิงก็ตอบว่าเธอลาได้สิบวัน นั่นก็คือสองอาทิตย์ หลังจากนั้นเธอก็จะกลับไปทำงานเหมือนเดิม แต่น้ำขิงให้สัญญาว่าเธอจะแวะมาหาทุกเย็นก่อนกลับบ้าน และวันนี้ก็มีแขกพิเศษมาที่บ้าน....แพทกับน้ำขิงอยู่ในครัวทำตัววุ่นวายกันอยู่ในครัวพร้อมกับมีลูกแมวสองตัวที่นั่งเป็นกำลังใจให้ทาสของตัวเอง แม้ว่ามันจะเน้นหลับกับกินมากกว่าการเล่นแต่ดูเหมือนว่าสองสาวก็ไม่ติดอะไรกลับยิ่งชอบในสิ่งที่พวกมันทำเสียอีก..." ทำอะไรกันอยู่ครับ..." น้ำเสียงนุ่มทุ้มดังมาแต่ไกลและมันก็ทำให้สองสาวและคนอื่นๆหันไปมองยังทิศทางของเสียง...." เอ๊ะ.... คุณคนที่เคยชนกันกับฉันที่ตลาดนัดนี่คะ.." แพทจำเขาได้ คนที่ชนกับเธอที่ตลาดนัด เธอเป็นคนจำคนได้แม่นด้วยสิ... เพราะด้วยความสูงบวกกับหน้าตาของเขามันเด่นกว่าคนอื่นมันเลยทำให้เธอจำเขาได้ง่ายขึ้น.."ครับพี่สะใภ้... แต่พี่สะใภ้อายุดันน้อยกว่านี่สิ เลยไม่รู้ว่าจะแทนตัวเองว่ายังไงดี..." เอกภพยิ้มให้พี่สะใภ้ของเขาจนตาของเขาเป็นสระอิ ไม่รู้ว่าจะลำดับขั้นกันยังไงดี" อายุมากกว่าก็ต้องแทนตัวเองว่าพ
เอกดนัยมีเรื่องที่จะต้องไปจัดการดังนั้นเขาจึงฝากพิมาญาไว้กับยัยน้ำเน่าเอาไว้ เขาล่ะชังขี้หน้านัก ถ้าไม่ติดว่าเขาต้องขอให้ยัยนี่อยู่เป็นเพื่อนพิมาญาล่ะก็ พอถีบออกจากบ้านไปนานแล่ว...." เดี๋ยวไปทำธุระก่อนนะยัยหน้าเงินเอ่อ.. พิ.. พิมาญา ฉันไปทำธุระข้างนอกแล้วจะรีบกลับ...." จุ๊บ....เอกดนัยจูบลงไปที่ริมฝีปากค่อนข้างแห้งของพิมาญาเป็นเพราะนอนโรงพยาบาลนานมันเลยทำให้ปากที่เคยอวบอิ่มถึงกับแตกแห้งเป็นขุย... น้ำขิงเบ้ปากใส่ด้วยความหมั่นไส้.. โด่เธอก็ได้จุ๊บแพทตี้ของเธอแล้วเถอะ ถึงแม้ว่าจะเป็นการขโมยจุ๊บก็ตามแต่เธอก็ได้จุ๊บแล้ว... แพทตี้พยักหน้ารับคำของคุณเอกดนัยส่งๆ เธอไม่ได้ยินดียินร้ายอะไรมากนักว่าเขาจะไปไหนหรือทำอะไร ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าเธอจะทำอะไร เธอรู้สึกว่าตอนนี้เธอว่างเปล่าไปหมด ทั้งความคิดและการกระทำ...เพียงแค่เอกดนัยออกไปจากห้องนั่งเล่นน้ำขิงก็สรรหาคำพูดหรือเรื่องราวมาพูดคุยกับแพท แต่ดูเหมือนว่าแพทก็ยังคงไม่ยินดียินร้าย.. เธอไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไปดี เธอกลัวว่าถ้าเธอปล่อยให้แพทตี้คลาดสายตามันจะทำให้แพทตี้คิดอะไรไม่ดีขึ้นมา ดังนั้นไม่ว่าเธอจะเข้าห้องน้ำหรือหาของกินเธอก็จะลากแพทตี้ให้ต
หลังจากที่แพทตี้ไม่ได้สติไปเกือบสองอาทิตย์ เธอก็ตื่นมาพร้อมกับอาการเบลอๆ เธอไม่แน่ใจว่าเธอเป็นอะไร ร่างกายของเธอรู้สึกปวดร้าวไปหมด ตกลงแล้วเธอเป็นอะไรกันแน่....อือ...เอกดนัยที่เฝ้าพิมาญาตลอดทั้งวันทั้งคืนได้ยินเสียงครางเบาๆของใครบางคนมันก็ทำให้เขาลืมตาขึ้นมาและกวาดตามองหาเสียง แต่เขาก็ไม่พบอะไรผิดปกติเลยสักนิด...." คงแค่ฝันไป.... " เอกดนัยพึมพำอยู่คนเดียวแต่เพียงไม่นานเขาก็ได้ยินอีกครั้งและครั้งนี้มันก็ทำให้เขาดีใจจนน้ำตาไหลออกมา...หมับ!! ฮึก.... ฟอดดด" ตื่นแล้วเธอตื่นแล้วยัยผู้หญิงบ้า...ในที่สุดก็ตื่นสักที... รอแป๊บนึงนะ ฉันเรียกหมอก่อน รอแป๊บนึง..." เอกดนัยรีบกดเรียกพยาบาลและหมอให้เข้ามาในห้องของพิมาญาโดยเร็ว เพียงไม่นานทั้งหมอและพยาบาลก็มายืนเสนอหน้ากันเต็มห้องพักผู้ป่วยของพิมาญา....คุณหมอเล่าทุกอย่างให้พิมาญาฟัง เอกดนัยที่ยืนอยู่ไม่ไกลนักเขาเห็นน้ำตาหยดแล้วหยดเล่าที่ไหล่ออกมาจากวงตากลมโตคู่นั้น... แววตาที่เคยเศร้าตอนนี้เปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา.... เขาสงสารพิมาญา เขาจะต้องเอาตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้... เขาสัญญาเลย...เพียงแค่หมอและพยาบาลออกไปเขาก็รีบพาตัวเองที่ยังต้องนั่งรถเข