เหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นในเช้าวันนี้เกือบทำให้ชารอนไปทำงานสาย ทันทีที่ถึงบริษัท ชารอนได้รับแจ้งว่าท่านประธานได้เรียกเธออีกแล้วไซม่อนได้มอบหมายให้ชารอนรับผิดชอบโครงการเม้าเท่น ลิงกวิสติค ของบริษัท บางที ไซม่อนอาจต้องการสอบถามความคืบหน้าในการทำงานของชารอนก็ได้ชารอนมาถึงห้องทำงานของท่านประธาน ไซม่อนนั่งอยู่บนเก้าอี้หมุนพร้อมกับกำลังจัดการเอกสารอยู่ เขาสวมสูทเย็บมือพอดีตัว มันทำให้ไซม่อนดูดีไม่น้อย“ท่านประธานแซคคารี่คะ” ชารอนเดินไปยังหน้าโต๊ะทำงานไซม่อนเงยหน้าขึ้นมองชารอนและหรี่ตา “หน้าคุณเป็นอะไรน่ะ?”ชารอนตกใจเล็กน้อย อันที่จริง เธอทายามาบ้างแล้ว แต่อาการบวมก็ชัดเจนขึ้นมากเช่นกันชารอนไม่อยากบอกให้ไซม่อนรู้ว่ามันเป็นฝีมือของฟิโอน่า เพราะไซม่อนเคยพูดว่าเขาไม่อยากเข้ามายุ่งเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างตัวชารอนเองและโฮเวิร์ดดังนั้น เธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากโกหก "วันนี้ฉันบังเอิญสะดุดล้มน่ะค่ะ"ดวงตาของไซม่อนหรี่ลง ถึงจะรู้ว่าชารอนกำลังโกหก แต่ไซม่อนก็ไม่อยากพูดอะไรที่ทำให้เธอเสียหน้าออกมา เพราะไม่ว่าชารอนจะต้องการบอกความจริงหรือไม่ มันก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเธอเ
ชารอนไม่สนอาการบาดเจ็บบริเวณขาของเธออีกต่อไปแล้ว เพราะเธอรีบไปโรงเรียนของลูกชาย ครูประจำชั้นเพิ่งโทรมาและแจ้งว่าเซบาสเตียนทะเลาะกับเพื่อนที่โรงเรียนเมื่อเห็นว่าชารอนวิตกกังวลขนาดไหน อีกทั้ง มันยังเป็นเรื่องยากถ้าจะปล่อยให้เธอไปที่นั่นคนเดียว ด้วยเหตุนั้น ไซม่อนจึงเสนอว่าเขาจะพาเธอไปโรงเรียนเองแม้ว่าอาการบาดเจ็บที่ขาของชารอนจะไม่รุนแรงนัก แต่เธอก็ยังเดินเองไม่ได้ เมื่อมาถึงโรงเรียน ชารอนลังเลว่าจะลงจากรถยังไงดีไซม่อนเดินไปยังประตูฝั่งชารอนโดยไม่พูดอะไรสักคำ จากนั้น เขาก็ยื่นมือออกไป “ลงมาสิ เดี๋ยวผมพยุงคุณเข้าไปข้างในเอง”ชารอนมองดูมือที่ใหญ่และเรียวยาวของไซม่อนตรงหน้า ลึกลงไปในจิตใจ เธอรู้สึกกังวลเรื่องลูกชายไม่น้อย ด้วยเหตุนั้น เธอจึงไม่จำเป็นต้องคิดอะไรเลย ชารอนรีบเอื้อมไปจับมือของไซม่อนทันทีไซม่อนพยุงเธอไปยังห้องพักครู ทันทีที่ทั้งสองเข้าไป เธอเห็นเซบาสเตียนยืนอยู่กับเด็กผู้ชายอีกคนหนึ่งเสื้อของเด็กน้อยสกปรกและขาดวิ่น อีกทั้ง เขายังมีรอยฟกช้ำที่มุมปาก พร้อมกับแขนที่เปื้อนเลือดอีกด้วย ดูเหมือนว่าเซบาสเตียนคงจะทะเลาะกับเด็กชายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ มา ชารอนรู้สึกราวกับหัวใจตก
บรรยากาศภายในห้องทำงานพลันเงียบกริบ โดยเฉพาะบรรยากาศระหว่างเซบาสเตียนกับไซม่อน ทั้งหมดเป็นเพราะคำพูดของคุณครูสวิฟต์ใจของชารอนเต้นแรงทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น อันที่จริง ระหว่างมองไปที่ไซม่อน ชารอนเองก็รู้สึกว่าเขาหน้าคล้ายเซบาสเตียนเช่นกัน เธอเคยสงสัยในเรื่องนี้มาสักพักหนึ่งแล้ว แต่ชารอนเองก็ไม่กล้าคิดไปไกลขนาดนั้นชารอนเผยเสียงหัวเราะอันแผ่วเบาเพื่อทำให้บรรยากาศดีขึ้น “คุณครูสวิฟต์คะ ฉันว่าคงจะเป็นความเข้าใจผิดกันระหว่างนักเรียนแหละค่ะ ก็เลยทำให้พวกเขาทะเลาะกัน อย่าไปคิดมากเลยคะ”อันที่จริง คุณครูสวิฟต์เคยเห็นเด็กนักเรียนทะเลาะกันมานับไม่ถ้วนแล้ว "ครูแค่อยากแจ้งพวกคุณในฐานะพ่อแม่ เพื่อที่พวกเขาจะได้เข้าใจเหตุการณ์ได้มากขึ้น แต่แน่นอน มันต้องดีกว่าเดิมแน่ถ้าต่างฝ่ายสงบศึกกันได้อย่างสงบสุขน่ะค่ะ”คุณครูสวิฟต์มองไปที่ลีวายด้วยท่าทางเคร่งขรึม “เธอเห็นพ่อของเซบาสเตียนแล้วนะ ต่อจากนี้ไป เธออย่าพูดจาว่าร้ายใส่เขาอีกล่ะ เข้าใจที่ครูพูดไหม?"ทว่า ลีวายยังคงรู้สึกไม่พอใจอยู่เล็กน้อย ถึงกระนั้น เขาก็ก้มศีรษะลงและกล่าวคำพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เข้าใจแล้วครับ”“งั้นพวกเธอทั้งคู่ก็ควรขอโทษ
"เอ่อ ท่านประธานแซคคารี่คะ ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ แต่เซบาสเตียนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโฮเวิร์ดแน่นอนค่ะ" ชารอนกล่าวครั้งอดีต ชารอนคิดว่าชายในโรงแรมคืนนั้นคือโฮเวิร์ด แต่ทว่า เธอเพิ่งมารู้ทีหลังว่ามันเป็นฉากที่แซลลี่จัดเอาไว้โฮเวิร์ดไม่ใช่คนที่ทำให้เธอเสียความบริสุทธิ์เลย นอกจากนี้ เธอเองก็ไม่รู้ด้วยว่าชายคนนั้นเป็นใครอันที่จริง ทันทีที่รู้ความจริงเรื่องนี้ในระหว่างงานวิวาห์ ชารอนก็แทบทรุดเลยด้วยซ้ำแต่ทว่า เธอเองก็ไม่คาดคิดเลยว่าตัวเองจะ 'โชคดี' ขนาดนี้ เพราะอะไรกัน? เพราะเธอสามารถตั้งครรภ์ได้ด้วยการมีเพศสัมพันธ์เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นนับตั้งแต่เริ่มคบกัน ชารอนและโฮเวิร์ดไม่เคยมีความสัมพันธ์แบบลึกซึ้งต่อกันเลย เพราะฉะนั้น เซบาสเตียนจะเป็นลูกของโฮเวิร์ดได้อย่างไร?ระหว่างที่ชารอนมองไปยังไซม่อน ดูเหมือนว่าเขาเองก็ยังไม่ได้รู้สึกมั่นใจขนาดนั้นเธอหายใจเข้าเฮือกใหญ่และตอบกลับ "อันที่จริง ฉันเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าพ่อเด็กเป็นใคร..." 'แต่ยังไงเสีย มันไม่ใช่โฮเวิร์ดแน่นอน'ไซม่อนรู้สึกแปลกใจและตกใจไม่น้อย 'เธอเป็นถึงแม่ของเด็ก แต่กลับไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นพ่อเนี่ยนะ?'เธอต
หลังจากชารอนเห็นไซม่อนออกไปแล้ว เธอเหลือบมองไปยังขวดน้ำหอมที่วางอยู่บนโต๊ะ ชารอนรู้สึกว่าไซม่อนดูจะสนใจน้ำหอมของเธอมากเป็นพิเศษบางที มันอาจเพราะน้ำหอมที่คุณพ่อทำนั้นมีกลิ่นหอมพิเศษเกินไป มันอาจเป็นกลิ่นหอมที่สามารถสะกดคนอื่นได้เลยในระหว่างที่ชารอนกำลังครุ่นคิด ทันใดนั้น เซบาสเตียนก็วิ่งเข้ามาหาเธอและคว้าแขนเอาไว้ “แม่ครับ ผมหน้าเหมือนลุงใจยักษ์ขนาดนั้นเลยเหรอครับ?”ชารอนก้มศีรษะลงมองเด็กน้อย เธออยากยอมรับว่าใบหน้าของเซบาสเตียนคล้ายกับไซม่อนมาก ยิ่งมองใกล้เท่าไหร่ ก็ยิ่งเหมือนมากเท่านั้น'เป็นไปได้ไหมนะว่าเขาเป็นพ่อของลูกชายเรา?'ความคิดเช่นนั้นแวบเข้ามาในหัวของชารอน และมันทำให้เธอตกใจไม่น้อยชารอนพลันกล่าวคำพูดออกมาโดยไม่รู้ตัว "จะเหมือนได้ยังไงกันล่ะจ้ะ? ลูกไม่เห็นเหมือนคุณลุงเลย" เธอกล่าวคำพูดที่ขัดกับความคิดของตัวเองออกมา“แม่กำลังโกหกอยู่แน่เลย!” เด็กน้อยมองตาชารอนแล้วตะโกน“ตอนไหน... แม่โกหกลูกตอนไหน?” ชารอนไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอไม่กล้าสบตาลูกชายของตัวเองเซบาสเตียนมองชารอนโดยไม่กระพริบตาเลยด้วยซ้ำ “ทุกครั้งที่แม่โกหก แม่จะไม่มองหน้าผม แต่แม่จะกระพริบตาแทน”ชารอนจ้องไปย
ฟิโอน่าเริ่มวิตกกังวล ทันใดนั้น เธอจึงก้าวเท้าออกไปตามไซม่อนกลับมา "ไซม่อน ธุระอะไรสำคัญขนาดนั้นล่ะ? นั่งทานข้าวกับครอบครัวไม่ได้เลยหรือยังไงกัน?" ทว่า ฟิโอน่าทำได้เพียงแค่มองดูแผ่นหลังไซม่อนเท่านั้น“ช่างมันเถอะ ปล่อยเขาไปเถอะ” ดักลาสพูดขึ้น อันที่จริง ดักลาสรู้ดีว่าเหตุหารณ์จะเป็นอย่างไรหลังจากพวกเขาแนะนำให้ไซม่อนรู้จักผู้หญิงสักคนฟิโอน่ากำหมัดแน่น 'เราจะยอมปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ไม่ได้! เราต้องทำให้ไซม่อนกับรีเบคก้าอยู่ด้วยกันให้ได้ เราจะไม่ยอมให้ไซม่อนตกเป็นของนางแพศยาชารอนหรอก'หลังจากนั้น ไซม่อนก็ตรงไปยังบริษัท อันที่จริง เขาไม่มีธุระอะไรเร่งด่วนเลย เขาแค่ไม่อยากให้ใครคนอื่นมารบกวนก็เท่านั้นในตอนนั้นเอง พนักงานออกไปหมดแล้ว ความเงียบปกคลุมทั่วทั้งอาคารบริษัทไซม่อนนั่งอยู่บนเก้าอี้หมุนในห้องทำงาน เขาจุดบุหรี่ให้ตัวเอง ทว่า จิตใจส่วนลึกของไซม่อนในตอนนี้ท้วมท่นไปด้วยเรื่องของชารอนและเซบาสเตียนทันใดนั้น โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานก็สั่นขึ้น มันเป็นสายจากผู้ช่วยของไซม่อน แฟรงกี้นั้นเองทันใดนั้น ไซม่อนก็ตระหนักได้ถึงบางสิ่งและรีบรับสายทันที “พูดมา”"ท่านประธานแซคคารี่ครับ
“ทำไมเธอไม่ลองสืบดูเองล่ะ?” แซลลี่ไม่ได้รู้สึกกังวลเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว“ฉันได้ยินสนทนาระหว่างพวกเธอสองคนก่อนหน้านี้หมดแล้ว เธอไม่กลัวว่าฉันจะเปิดเผยความลับนี้ให้โฮเวิร์ดเหรอ?”“อ่า เราพูดอะไรไปก่อนหน้านี้ล่ะ? เธอจะบอกโฮเวิร์ดว่าอะไรงั้นเหรอ?” แซลลี่เผยสีหน้าไร้เดียงสาออกมา“ลูกในท้องเธอไม่ใช่ลูกโฮเวิร์ด แต่เป็นของผู้ชายคนนั้น!” ชารอนไม่เคยคิดเลยว่าแซลลี่จะนอกใจโฮเวิร์ดดวงตาของแซลลี่ท้วมท่นด้วยความโกรธ ถึงกระนั้น ในไม่ช้า เธอก็พลันสงบสติและหัวเราะออกมา "แล้วไงล่ะ? เธอคิดว่าโฮเวิร์ดจะเชื่อเธองั้นเหรอ? แฟนเก่าที่นอกใจเขาเนี่ยนะ? ทั้งที่ฉันเป็นถึงภรรยาของเขา!"ชารอนมองแซลลี่อย่างเย็นชา “บางทีเขาอาจจะไม่เชื่อฉัน แต่ถ้าเธอคลอดลูกออกมาเมื่อไหร่ ฉันจะบอกแม่ของสามีเธอให้รู้เรื่องตัวตนของเด็กคนนี้ ฉันเชื่อว่าพวกเขาจะต้องทำการตรวจดีเอ็นเอเพื่อดูว่าใครเป็นพ่อของเด็กแน่!”รอยยิ้มบนใบหน้าของแซลลี่หายไป สายตาอันเคร่งขรึมของเธอจับจ้องไปที่ชารอน “ชารอน ทำไมเธอถึงไม่คิดจะยอมแพ้หน่อยล่ะ? โฮเวิร์ดไม่รักเธอแล้วนะ แถมเธอก็แย่งเขาไปจากฉันไม่ได้เหมือนกัน!"“ใครบอกกันล่ะว่าฉันจะไปแย่งสามีของเธอ?"“
โฮเวิร์ดจ้องไปยังชารอนอย่างเย็นชา เขาชำเลืองมองไปยังแซลลี่ซึ่งทำดูเหมือนตัวเองถูกชารอนรังแก “คุณทำอะไรกับแซลลี่น่ะ?”ชารอนเหลือบมองไปที่โฮเวิร์ดที่กำลังพยายามปกป้องแซลลี่อย่างเย็นชา เธอรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่น่าตลกไม่น้อย เหตุการณ์ตรงหน้าทำให้ชารอนประหลาดใจ ผู้ชายที่เคยอ้างว่าเขาจะรักแค่เธอเท่านั้นกำลังปกป้องผู้หญิงอีกคนอยู่ แถมเขายังเผยท่าทีเหมือนโกรธเธอด้วย ชารอนจ้องไปที่แซลลี่และถามขึ้น “ฉันจะถามเธอเป็นครั้งสุดท้ายนะ จะบอกฉันไหมว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร?”ความวิตกกังวลปรากฏขึ้นในดวงตาของแซลลี่ มันคงเป็นไปไม่ได้หรอกที่แซลลี่จะไม่กลัวชารอนเผลอพูดพล่อย ๆ ออกมาต่อหน้าโฮเวิร์ด“ผู้ชายอะไรกัน?” โฮเวิร์ดถามด้วยความสงสัยแซลลี่พูดอย่างเป็นกังวล “อย่าไปสนใจเธอเลยค่ะ เธอก็แค่พยายามขู่ฉัน แถมก่อนหน้านี้ เธอยังมาบอกฉันว่าอยากได้คุณคืนไปด้วย”ชารอนเผยยิ้มอย่างเย็นชา 'หลายต่อหลายเรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว แต่แซลลี่ก็ยังเลือกที่จะโกหกโฮเวิร์ด' แม้แต่ชารอนเองก็รู้สึกสงสารโฮเวิร์ดเนื่องจากแซลลีไม่ยอมตอบคำถาม ชารอนจึงไม่คิดจะแสดงความอ่อนโยนอีกต่อไป เธอมองดูโฮเวิร์ดและกล่าวคำพูดออกมา “คุณรู้ไหม