Semua Bab ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย: Bab 1491 - Bab 1500

1545 Bab

บทที่ 1491

คนใบ้พยักหน้า ชี้ไปยังลั่วชิงยวน แล้วชี้ไปยังร้านขายอาหารเล็ก ๆ ข้างหน้าลั่วชิงยวนพยักหน้า “เช่นนั้นข้าจะไปรอเจ้าที่นั่น”“เจ้ารีบกลับไปเถิด”จากนั้นคนใบ้ก็อุ้มของรีบเดินจากไปลั่วชิงยวนจึงไปยังร้านนั้น สั่งอาหารมิกี่จานระหว่างรอคนใบ้กลับมาแต่เมื่อคนใบ้กลับมา เขากลับถือของบางอย่างมาด้วยลั่วชิงยวนมองมิชัด นางถามด้วยความประหลาดใจ “เจ้ามิได้นำของกลับไปแล้วหรอกหรือ?”คนใบ้วางของลงบนโต๊ะลั่วชิงยวนมองชัดแล้วก็ตกใจเล็กน้อย “นี่มัน… ดอกไม้ไฟหรือ?”“มิใช่ว่าขายหมดแล้วหรือ?”คนใบ้ดึงลั่วชิงยวนลุกขึ้น ถือดอกไม้ไฟ แล้วรีบออกไปทั้งสองกลับไปยังเนินเขาเดิม แล้วจุดดอกไม้ไฟด้วยกันจากนั้นก็เปลี่ยนที่ไปนอนลงชมดอกไม้ไฟที่บานสะพรั่งบนท้องฟ้าอย่างเงียบ ๆขณะที่ลั่วชิงยวนมองดูอยู่นั้น ในห้วงความคิดก็หวนรำลึกถึงวันเวลาที่ซีหยางดอกไม้ไฟในตอนนั้นงดงามกว่านี้เสียอีก“สวยงามจริง ๆ” ลั่วชิงยวนรำพึงส่วนในดวงตาของฟู่เฉินหวน สิ่งที่เห็นกลับเป็นสัญญาณที่ซ่อนอยู่ในดอกไม้ไฟเขาหยิบกิ่งไม้เขียนลงบนพื้นว่า “อีกสองวันข้าจะจากไปแล้ว”ลั่วชิงยวนหันมามองแล้วรู้สึกประหลาดใจ “เจ้าจะกลับไปแล้วหรือ? ฉินอ
Baca selengkapnya

บทที่ 1492

รองเท้าไหมปักลายดอกไม้สีทอง รองเท้าคู่นี้กับอาภรณ์ที่สวมใส่มิควรปรากฏอยู่บนร่างคนเดียวกันเพราะราคานั้นแตกต่างกันมากเกินไปเด็กสาวผู้นี้ควรจะเกิดในตระกูลร่ำรวย ไม่มีทางยากจนถึงขั้นขโมยเงิน ทั้งยังต้องการฝากตัวเป็นศิษย์โฉวสือชี หวังพึ่งพาวิชานี้เลี้ยงชีพนางกำลังโกหกเด็กสาวผู้นี้มิใช่คนธรรมดา เพียงแต่ยังมิรู้ว่านางมุ่งเป้าไปที่ผู้ใดเมื่อกลับถึงบ้าน ลั่วชิงยวนก็กลับห้องพักทันทีแต่เมื่อเดินผ่านสวน กลับเห็นอวี๋หงนั่งดื่มสุราอยู่บนขั้นบันไดหินข้างทางท่าทางเศร้าซึมอยู่คนเดียวลั่วชิงยวนจึงเข้าไปถามว่า “ท่านพี่ เหตุใดท่านจึงมาดื่มสุราอยู่ตรงนี้?”อวี๋หงมีสีหน้าเศร้าสร้อย กล่าวเบา ๆ ว่า “หัวหนิงจากไปแล้ว”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกใจเล็กน้อย “จากไปแล้วหรือ?”อวี๋หงหยิบจดหมายฉบับหนึ่งออกมาจากอก “นางจากไปเมื่อกลางวัน ทิ้งจดหมายฉบับนี้ไว้ให้ข้า”“นางคิดว่าข้าคงมิให้อภัยนางอีกแล้ว”“ทั้งหมดเป็นความผิดของข้า หากบอกนางเร็วกว่านี้ นางอาจจะมิจากไป”ลั่วชิงยวนมองท่าทางเหม่อลอยของอวี๋หงแล้วก็อดมิได้ที่จะเศร้าใจนางจึงกล่าวแนะนำว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็ไปตามหานางเถิดเจ้าค่ะ”“
Baca selengkapnya

บทที่ 1493

ปรากฏว่าเป็นข้าวต้มและขนมขบเคี้ยวลั่วชิงยวนชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วจึงถามว่า “ซื้อให้ข้าหรือ?”คนใบ้พยักหน้า“ขอบคุณ”“ไปกันเถิด ไปหาที่นั่งกินกัน”เมืองป้านกุ่ยยามกลางวันกลับคืนสู่ชีวิตปกติแล้ว ทั้งสองมานั่งลงที่ศาลาเล็กแห่งหนึ่งลั่วชิงยวนแทบรอมิไหวที่จะเปิดกล่องอาหารคาดมิถึงว่าทุกอย่างล้วนเป็นรสชาติที่นางโปรดปราน“บังเอิญนัก สิ่งที่เจ้าซื้อมาล้วนเป็นสิ่งที่ข้าชอบกินทั้งนั้นเลย”คนใบ้เผยรอยยิ้มจางถึงแม้จะมิได้เอ่ยคำใด แต่ลั่วชิงยวนสัมผัสได้ถึงความสุขของเขาขณะกิน ลั่วชิงยวนก็กล่าวว่า “วันนี้ข้าจะเริ่มฝึกวรยุทธ์ เจ้าจะไปกับข้าหรือไม่?”คนใบ้พยักหน้าโดยมิลังเลลั่วชิงยวนมองเขาด้วยความสงสัย “เหตุใดข้ากล่าวสิ่งใดเจ้าก็เห็นด้วยทุกอย่าง? นอกจากฉินอี้แล้ว เจ้าทำเช่นนี้กับคนอื่นด้วยหรือไม่?”คนใบ้กลับส่ายหน้าเขาเชื่อฟังนางแต่เพียงผู้เดียว“เช่นนั้นประเดี๋ยวเจ้าไปป่าด้านหลังกับข้าเถิด ไปฝึกขี่ม้าและยิงธนูกัน”นางกินบัวถวายที่ท่านพ่อบุญธรรมมอบให้แล้ว ร่างกายฟื้นฟูขึ้นมาก รู้สึกว่ามีพลังแข็งแกร่งบางอย่างอยู่ภายใน แต่ยังมิได้ปลดปล่อยออกมาฉวยโอกาสอยู่ที่ตลาดมืดสองสามวันนี้ฝึกว
Baca selengkapnya

บทที่ 1494

ลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก “เป็นคำสั่งของฉินอี้หรือ?”คนใบ้กลับส่ายหน้า เขียนว่า “เราเป็นสหายกัน”ลั่วชิงยวนยิ้มสองวันต่อมา คนใบ้ติดตามนางฝึกกระบี่ ฝึกวิชาตัวเบา ฝึกขี่ม้าและยิงธนู กอปรกับสรรพคุณของบัวถวาย นางรู้สึกว่าร่างกายมีกำลังวังชามากขึ้นคนใบ้ออกจากตลาดมืดไปในรุ่งเช้าวันที่สามลั่วชิงยวนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องช่วยอวี๋หงดูแลกิจการของตลาดมืดก่อนที่เขาจะกลับมาทุกวันจะต้องไปจับชีพจร ฝังเข็มและจ่ายยาให้ผู้อาวุโสทั้งสองพาผู้อาวุโสทั้งสองไปเดินเล่นชมทิวทัศน์ เล่นหมากรุก ผู้อาวุโสทั้งสองมีความสุขมาก เมื่อจิตใจดีขึ้น อาการป่วยทางกายก็ลดน้อยลงวันหนึ่งโฉวสือชีมาหา กล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า “ข้าสืบทราบมาว่า คืนนี้จะมีคนประมูลบัวถวาย หากพวกเราสามารถซื้อมาก่อนได้ ก็มิต้องนำไปประมูลในตลาดมืดแล้ว”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็รีบลุกขึ้น“จริงหรือ? แล้วเจ้ามีเบาะแสอันใดบ้าง?”โฉวสือชีพยักหน้า “ข้าจะหาวิธีไปหาคนผู้นั้นก่อน เพียงแต่หากต้องเจรจาต่อรอง อาจจะต้องให้เจ้าออกหน้า”ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ดี”ถึงแม้ว่าในตอนนี้ร่างกายของนางจะฟื้นตัวดีขึ้นแล้ว แต่บาดแผลภายในยังต้องบำรุงรักษาใ
Baca selengkapnya

บทที่ 1495

โฉวสือชีกล่าวว่า “ข้าสืบประวัติฉีอวี้มาแล้ว คนในตลาดมืดที่รู้จักนางล้วนกล่าวว่า นางเป็นเด็กกำพร้า อาศัยอยู่ในตลาดมืด หาเงินจากการช่วยเหลือผู้อื่นทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ”“เป็นเด็กสาวที่น่าสงสาร”“หรือว่าจะพาไปด้วยดี?”ลั่วชิงยวนพยักหน้า “เอาสิ”ทว่าคำพูดต่อไปของโฉวสือชีกลับทำให้นางตกใจเล็กน้อย“คราวนี้ข่าวเรื่องบัวถวายก็เป็นนางที่สืบทราบมาให้”“นางสืบมาให้หรือ?” ลั่วชิงยวนประหลาดใจ“ใช่ เด็กสาวคนนี้ฉลาดมีไหวพริบ หากเก็บไว้ ต่อไปอาจจะมีประโยชน์บ้าง อย่างไรแล้วก็มิได้ลำบากอันใด แค่เพิ่มภาระเรื่องกินอีกคน”ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้วก็พาไปด้วยเถิด”เพียงแต่ในใจนางยังคงสงสัย หลังจากนำบัวถวายกลับไปเก็บแล้ว ลั่วชิงยวนก็ออกจากบ้านอีกครั้งนางไปยังตลาดมืด เดินเตร็ดเตร่ไปทั่วจึงได้พบเถ้าแก่สวีจริง ๆลั่วชิงยวนแอบตามเขาไปโดยมิให้เขาสังเกตเห็น ตามไปจนถึงลานประมูลทองคำเมื่อเข้าไปในห้อง ปรากฏว่าในห้องมีคนอยู่แล้ว“ข้าจัดการสิ่งที่ท่านสั่งเรียบร้อยแล้วขอรับ”น้ำเสียงของเถ้าแก่สวีเต็มไปด้วยความเคารพยิ่งลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อย เถ้าแก่สวีกำลังพูดกับใคร?นางค่อย ๆ แง้มประตูออ
Baca selengkapnya

บทที่ 1496

ลั่วชิงยวนพลันร่างแข็งทื่ออยู่ตรงนั้นฉีอวี้กล่าวต่อ “ครั้งแรกที่ข้ารู้จักเขา เขาปล้นเงินหลวงจำนวนมากเพื่อช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบภัย”“แต่ในตอนนั้นผู้คนมากมายเข้าใจเขาผิด รวมถึงข้าด้วย ข้าถึงกับไล่ตามล่าเขาอยู่หลายวัน แต่ก็มิสามารถจับเขาได้ทัน”“ต่อมาความจริงก็ปรากฏ เงินหลวงจำนวนนั้นถูกขุนนางโกงกินไป ยามนั้นข้ารู้สึกทันทีว่าเขามิใช่คนเลวร้ายอย่างที่ร่ำลือกัน”“มิควรถูกมองว่าเป็นคนร้ายในสายตาคนอื่นเลยด้วยซ้ำ”“เขาคือวีรบุรุษ!”ขณะที่ฉีอวี้กล่าวคำนี้ ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความเลื่อมใสลั่วชิงยวนอดมิได้ที่จะถามว่า “แล้วเหตุใดเขาจึงมิรู้จักเจ้า? ตามหลักเหตุผลแล้ว พวกเจ้าน่าจะเคยพบกันมาก่อน”ฉีอวี้กลับส่ายหน้า “ตอนนั้นข้าติดตามผู้อื่นไป เขาจึงมิได้สังเกตเห็นข้า”“แล้วเจ้าเป็นใครกันแน่?”ฉีอวี้ตอบว่า “ข้าคือบุตรีเจ้าเมืองแห่งเมืองอวิ๋นโจว”“ที่ข้าออกมาคราวนี้ก็เพื่อหนีการแต่งงาน”“ข้าเพียงต้องการตามหาโฉวสือชี”“แต่หากมิทำเช่นนี้ เขาคงมิชายตามองข้าแม้แต่น้อย แล้วข้าจะดึงดูดความสนใจของเขาได้อย่างไร?”กล่าวจบ ฉีอวี้ก็ดึงแขนเสื้อนาง แล้วอ้อนวอนว่า “ท่านพี่ ท่านช่วยมิบอกเขาได้หรือไม่
Baca selengkapnya

บทที่ 1497

ฉีอวี้กล่าวจบก็ลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งไปเมื่อโฉวสือชีเห็นนางก็รีบก้าวเท้าเร็วขึ้นเล็กน้อย เดินเข้าไปถามว่า “เจ้าไปที่ใดมา?”ฉีอวี้ยิ้มเจ้าเล่ห์ “เหตุใด? ท่านเป็นห่วงข้าหรือ?”“อย่าวิ่งไปทั่ว ประเดี๋ยวตลาดมืดยามกลางคืนจะมีคนพลุกพล่าน ใครต่อใครปะปนกันไปหมด” โฉวสือชีกล่าวจบก็หันหลังเดินจากไปฉีอวี้รีบเดินตามเขาไป ในใจนึกปลาบปลื้ม “ได้ ได้ ได้ ข้าจะมิวิ่งไปทั่วแล้ว ท่านไปที่ใดข้าก็จะไปด้วย”ลั่วชิงยวนยังคงนั่งอยู่บนพื้น มองแผ่นหลังของทั้งสองที่จากไป ช่างดูเป็นคู่ที่เหมาะสมกันนัก......สำนักหุบเขาซีหลิงจี้เยวี่ยจากความมืดมิดสู่รุ่งอรุณ แสงตะวันขับไล่หมอกหนา ในที่สุดสะพานที่อยู่เบื้องหน้าของหน้าผาก็ปรากฏแก่สายตาอย่างชัดเจนซ่งเชียนฉู่ยืนอยู่ริมหน้าผาพลางมองสะพานที่สร้างขึ้นใหม่ ในใจรู้สึกตื้นตันคนที่อยู่ตรงข้ามหน้าผาก็ชูธงขึ้น แสดงว่าสร้างเสร็จแล้ว“เยี่ยมไปเลย สะพานนี้สร้างเสร็จเสียที!” ซ่งเชียนฉู่กล่าวพร้อมน้ำตาที่นองหน้าเพราะความตื้นตัน“ข้าจะไปลอง!” ซ่งเชียนฉู่รีบก้าวไปยังสะพานเพื่อลองใช้แต่กลับถูกฉู่จิ้งจับข้อมือไว้ แล้วดึงตัวกลับมา“ข้าจะไปลองเอง ต่อให้ตกข้าก็มิตาย” ฉู่จิ
Baca selengkapnya

บทที่ 1498

ฟู่เฉินหวนเดินข้ามสะพานมา แล้วกล่าวว่า “มิคิดว่าพวกเจ้าจะสร้างสะพานสำเร็จจริง ๆ”ฉู่จิ้งหัวเราะเบา ๆ “มีข้าอยู่ จะสร้างมิสำเร็จได้อย่างไร?”ซ่งเชียนฉู่จ้องมองฟู่เฉินหวนด้วยความงุนงง แล้วถามว่า “ท่านมาจากทางนั้นหรือ?”“ท่านมาจากแคว้นหลีหรือ?”ฟู่เฉินหวนพยักหน้าซ่งเชียนฉู่ประหลาดใจ นางหันไปมองฉู่จิ้งด้วยความสับสน “เจ้ารู้ว่าเขาไปแคว้นหลีหรือ?”ฉู่จิ้งเลิกคิ้ว “ขึ้นไปคุยกันข้างบนเถิด”จากนั้นทั้งสามก็ปีนบันไดเถาวัลย์ขึ้นไปยังหน้าผาแต่คาดมิถึงว่าเฉินเซี่ยวหานจะอยู่ที่นี่“สะพานสร้างเสร็จแล้วใช่หรือไม่?” เฉินเซี่ยวหานถามซ่งเชียนฉู่พยักหน้า แต่มิได้เอ่ยคำใดทุกคนเดินทางไปยังคฤหาสน์ บรรยากาศแปลกประหลาด เพราะทุกคนเงียบกันไปตลอดทางเฉินเซี่ยวหานมาถึงคฤหาสน์นานแล้ว เข้าร่วมในการสร้างคฤหาสน์ สร้างสะพานและทุ่มเทแรงกายแรงใจเดิมทีซ่งเชียนฉู่ก็จะไล่เขาไป แต่เขากลับมิยอมไป เอาแต่ช่วยเหลือเงียบ ๆ เสมอนานวันเข้า ผู้คนในคฤหาสน์ก็ยอมรับการมีอยู่ของเขาเพียงแต่ซ่งเชียนฉู่ยังคงมิค่อยพูดคุยกับเขา นางกลัวตัวเองจะใจอ่อน จึงมักหลบหน้าเฉินเซี่ยวหานเสมอถึงแม้นางจะไปที่ใด เฉินเซี่ยวหานก็จะไปท
Baca selengkapnya

บทที่ 1499

ซ่งเชียนฉู่รีบถามอีกว่า “เช่นนั้นในเมื่อท่านได้พบกับชิงยวนแล้ว ท่านช่วยเกลี้ยกล่อมนางให้กลับมาได้หรือไม่?”“ใช้เส้นทางนี้เถิด สะพานสร้างเสร็จแล้ว กลับมาจากทางนั้นเถิด!”เมื่อได้ยินดังนั้น ฟู่เฉินหวนกลับหัวเราะขื่น “มิง่ายเช่นนั้น ข้ามิได้พบนางด้วยใบหน้าที่แท้จริง นางคิดว่าข้าตายไปแล้ว”ซ่งเชียนฉู่ตกใจ “เหตุใด? เช่นนั้นนางคงเสียใจมาก เหตุใดท่านจึงมิบอกนางว่าท่านยังมิสิ้นพระชนม์เล่า?”นางมิเข้าใจ เหตุใดเมื่อพบกันแล้วกลับมิบอกตัวตนที่แท้จริง เหตุใดจึงต้องปิดบังดวงตาของฟู่เฉินหวนหม่นแสง น้ำเสียงแฝงความขมขื่น “นางมิอยากพบข้า”แม้กระทั่งไปเข้าฝันนาง นางยังมิยินยอมคิดไปแล้ว ความทรงจำที่เขามอบให้นางคงเหลือเพียงความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานนางคงมิปรารถนาที่จะพบเขาอีก มิปรารถนาที่จะหวนรำลึกถึงความทรงจำอันเจ็บปวดเหล่านั้น“ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ลั่วชิงยวนยังมิอาจจากแคว้นหลีมาได้” ฟู่เฉินหวนเงยหน้ามองไปยังที่ไกลโพ้นขณะกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักอึ้ง“หากจะช่วยลั่วชิงยวนกลับมา ต้องสังหารเฉินชีเสียก่อน หรือไม่ก็ต้องมั่นใจอย่างยิ่งว่าจะสามารถสังหารเฉินชีได้”“มิเช่นนั้นหากลั่วชิงยวนจากแคว้นหลีไ
Baca selengkapnya

บทที่ 1500

ซ่งเชียนฉู่ฟังแล้วทั้งตื่นเต้นทั้งกังวลในที่สุดก็มีหนทางช่วยลั่วชิงยวนแล้ว แต่โอกาสมีเพียงครั้งเดียว ย่อมทำให้นางวิตกกังวลอย่างเลี่ยงมิได้นางจึงมองไปยังฉู่จิ้งที่อยู่ข้าง ๆ “คราวนี้พวกเราต้องการเจ้าอย่างยิ่ง”ฉู่จิ้งเมื่อได้ยินก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็อดมิได้ที่จะยกยิ้ม“นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าบอกว่าต้องการข้า”“วางใจเถิด ต่อให้ข้าจะต้องมอดไหม้เป็นเถ้าธุลีก็จะช่วยให้เจ้าช่วยลั่วชิงยวนออกมาให้ได้!”เมื่อได้ยินดังนั้น ซ่งเชียนฉู่ก็รีบส่ายหน้า “ไม่ ข้ามิได้หมายความเช่นนั้น”“ข้าเพียงอยากถามว่าช่วงนี้เจ้าฝึกปรือเป็นอย่างไรบ้าง? เจ้าต้องการสมุนไพรใดช่วยในการฝึก ข้าจะช่วยเจ้าเอง!”“ข้าจะช่วยลั่วชิงยวน แต่ข้าก็มิอยากให้เจ้าตาย”ซ่งเชียนฉู่กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นฉู่จิ้งชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็ยกยิ้มมุมปาก “ข้าจะมิตาย”เขาต้องมีชีวิตอยู่เพื่อนาง ท่าทีของซ่งเชียนฉู่ที่มีต่อเขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เขาคิดว่าความพยายามในช่วงนี้คุ้มค่าแล้วถึงแม้นางจะยังมิอาจยอมรับเขาได้ในยามนี้ แต่เขาสามารถรอได้เวลาที่ยาวนานถึงเพียงนั้นเขาก็รอมาแล้วเขาสามารถรอได้ชั่วกัลปาวสาน ค
Baca selengkapnya
Sebelumnya
1
...
148149150151152
...
155
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status