เกาหมิงอี้คิดถึงว่าร่างเล็ก ๆ ของเขา ถ้าตกไปอยู่ในมือของพระราชวังไป๋ฮวา เขาจะไม่ถูกทรมานเป็นชิ้น ๆ เหรอ?เมื่อนึกถึงตรงนี้ ร่างกายของเขาก็เริ่มสั่นเทา และเขาแทบจะกลัวจนออกไปจากใจแม้ว่าสาวงามที่อยู่ตรงหน้าเขาจะร้อนแรง น่าทึ่ง และสะบึมขนาดไหน แต่เขาก็ไม่มีความคิดร้ายกาจในใจของเขาหรอกเขารู้จักพระราชวังไป๋ฮวาเป็นอย่างดี แม้ว่าพวกเธอจะมีเสน่ห์และตระการตาก็ตามแต่เมื่อมันตกไปอยู่ในมือพวกเธอแล้ว ชีวิตจะเลวร้ายยิ่งกว่าความตายอย่างแน่นอนเขารีบขอบคุณผู้หญิงตรงหน้าอย่างให้เกียรติและไม่กล้าล่วงเกินนาง!“พี่นางฟ้าแสนสวย ข้าเป็นแค่คนไร้ประโยชน์ ปล่อยข้าไปเถอะ!”“เฮ้ นายน้อยเกา ผู้หญิงอ่อนแออย่างข้าจะทำอะไรเจ้าได้บ้าง ทำไมเจ้าถึงกลัวขนาดนี้?”“ดูเจ้ากับน้องชายที่มันอ่อนปวกเปียกนั่นของเจ้าสิ น่าเบื่อจริง ๆ”หญิงสาวตรงหน้าเธอคือศิษย์พี่หก สถานะของเธอสูงมากในหมู่สาวกรุ่นเยาว์แห่งวังไป๋ฮวาด้วยพลังการต่อสู้อันน่าสะพรึงกลัว เธอจับตามอง เกาหมิงอี้มานาน รูปลักษณ์ของเกาหมิงอี้ตรงกับภาพลักษณ์เจ้าชายขี้ม้าขาวในใจของเธอเป็นอย่างดีน่าเสียดายที่เกาหมิงอี้เป็นเป็นพวกไก่อ่อน เพราะอย่างนั้นเธอจึงเกลีย

ระดับวรยุทธ์ของนายหญิงสิบสามนั้นไม่อาจหยั่งรู้ได้ และไม่มีใครรู้ว่าระดับวรยุทธ์ของเธออยู่ที่ระดับใดสาวกทุกคนรู้ดีว่าเธอได้สืบทอดตำแหน่งวังไป๋ฮวามาหลายร้อยปีแล้ว และตามปกติเธอก็จะไม่ปรากฏตัวเลยเหล่าสาวก ผู้อาวุโส และมัคนายกทุกคนต่างตกตะลึงมาก แต่ครั้งนี้เธอปรากฏแต่ลองคิดดูทุกคนก็เข้าใจนับตั้งแต่ก่อตั้งวังไป๋ฮวา ไม่มีใครกล้าทำให้วังไป๋ฮวาต้องอับอายเช่นนี้ และไม่มีใครกล้าฆ่าสาวกของวังไป๋ฮวาอย่างไร้ศีลธรรมและประมาทเลินเล่อขนาดนี้แม้ว่าวังไป๋ฮวาจะไม่ใช่สำนักที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองจูเชวีย แต่ทักษะที่ฝึกฝนในวังไป๋ฮวานั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างมากและต้องฝึกระดับวรยุทธ์เป็นคู่กับชายหนุ่มรูปร่างกำยำดังนั้น หลายปีที่ผ่านมา กองกำลังเกือบทั้งหมดในเมืองจูเชวียจึงไม่ต้องการมีส่วนเกี่ยวข้องกับวังไป๋ฮวาแม้แต่เผ่าเซียนก็ไม่ต้องการ เพราะการมีอยู่ของวังไป๋ฮวาที่เป็นเอกลักษณ์จึงแทบไม่มีกองกำลังใดกล้ายั่วยุพวกเขาเป็นเพราะเหตุนี้เองที่วังไป๋ฮวาจึงมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ร้อยปีที่ผ่านมา และชื่อเสียงของวังไป๋ฮวาก็แพร่กระจายไปทั่ว ทำให้ผู้คนหวาดกลัวสาวกทุกคนในวังไป๋ฮวา ตั้งแต่เจ้า

มีเพียงคนในวังไป๋ฮวาเท่านั้นที่มียาแก้พิษ“เอาล่ะทุกคน กลับกันเถอะ มีเรื่องมากมายเกิดขึ้นในระยะนี้ ดังนั้น ช่วงนี้ก็อย่าออกไปข้างนอก”“ไม่ต้องห่วง พวกเขาสองคนไม่มีวันรอด”ทันทีที่นายหญิงสิบสามออกไปพร้อมกับลูกศิษย์ของเธอทั้งหมด ไม่นานหลังจากที่พวกเขาจากไป ฉินเป่ยและชางเยว่ก็ปีนขึ้นมาจากด้านล่างของหน้าผาทั้งสองไม่ได้ตกลงไปที่ด้านล่าง เพราะฉินเป่ยใช้พลังดาบในวงแหวนพลังดาบสกัดกั้นทั้งสองคนไว้กลางอากาศ และยาที่พวกเขาเพิ่งได้รับไปก็เพียงพอที่จะปกป้องพวกเขาจากก๊าซพิษที่อยู่ไปทั่วในอากาศแต่ในเวลานี้ ทั้งสองเหลือเพียงลมหายใจเฮือกสุดท้ายเท่านั้นยาของวังไป๋ฮวานั้นร้ายกาจเกินไปจริง ๆ แถมยังถูกกัดกร่อนด้วยก๊าซพิษที่อยู่ด้านล่างตอนนี้ฉินเป่ยและชางเยว่กลายเป็นอัมพาตอยู่บนพื้น พวกเขาอาเจียนเป็นเลือดโชคดีที่หลังจากพักผ่อนไปสักพัก ความแข็งแกร่งทางกายภาพของชายทั้งสองก็ฟื้นตัวขึ้น แต่พลังการต่อสู้ของพวกเขายังไม่กลับคืนมาแต่นี่เป็นพรในความโชคร้ายอยู่แล้ว“ครั้งต่อไปช่วยบอกข้าล่วงหน้าก่อนที่จะกระโดดลงจากหน้าผาได้ไหม”“รู้ไหมว่าเมื่อกี้ข้าเกือบตายเพราะเจ้า”“ถ้าข้ารู้เรื่องนี้ ข้าจะไม่มีว

เพียงดาบเดียว ฉินเป่ยก็สังหารสาวกทุกคนในวังไป๋ฮวา เหลือเพียงนายหญิงสิบสามเท่านั้น!ภาพเบื้องหน้านี้ทำให้นายหญิงสิบสามตกใจมากและหวาดกลัวตามสารที่เหยียนเซินมอบให้เธอ ฉินเป่ยไม่ได้แข็งแกร่งถึงเพียงนี้!จากนั้นเธอก็รู้ว่าเธอถูกหลอก แต่เธอไม่ได้เกลียดเหยียนเซิน เพราะเธอไม่กล้าเพราะเธอเป็นเพียงทาสของเหยียนเซิน ถ้าเหยียนเซินสั่งให้เธอตายเธอก็จะต้องตายดาบของฉินเป่ยทำให้เธอตระหนักว่าระดับวรยุทธ์ของเขานั้นเหนือกว่าเธอมากถ้าให้เธอต้านเขาตรง ๆ เธอไม่มีทางทำได้แน่แต่เธอมีหลายวิธี การที่ฉินเป่ยจะฆ่าเธอมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแป๊ะ แป๊ะ!นายหญิงสิบสามปรบมือของเธอ ก่อนที่ฉินเป่ยจะทันได้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็เห็นมนุษย์โลหิตสองคนปรากฏตัวขึ้นทันทีเขาฟันดาบออกไปโดยไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียวฉึบ!พลังดาบอันน่าสะพรึงกลัวโจมตีมนุษย์โลหิตสองคนนั้น แต่กลับทำให้พวกเขาทั้งคู่บาดเจ็บสาหัสเท่านั้นภาพเบื้องหน้านี้ทำให้ฉินเป่ยประหลาดใจ“น่าสนใจนี่ เจ้าสองสิ่งนี้มันคืออะไร!”ฉินเป่ยไม่รีบร้อนที่จะลงมืออีกครั้ง แต่กลับถามด้วยความสงสัยนายหญิงสิบสามซ่อนตัวอยู่หลังมนุษย์โลหิตสองคนนั้น เธอยื่นหัวออก