ระหว่างคิ้วของหลินเฟิงแสดงถึงความมั่นใจอย่างแน่วแน่ “ไม่เพียงเท่านั้น ท่านผู้ว่าหลิวทุกเช้าหลังจากตื่นนอนจะรู้สึกได้ว่ากล้ามเนื้อเอวเมื่อยล้า แขนขาอ่อนแรง”หลิวกั๋วฮุยสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ และมองไปที่หลินเฟิงอย่างจริงจัง “คุณรู้ได้อย่างไร?”เจ้าเด็กนี่ยังไม่เคยได้จับชีพจรของเขาเลยสักครั้ง และก็ยังไม่เคยได้ตรวจร่างกายของเขาเลยอาจจะเป็นไปได้ว่าถังหว่านไปเล่าอาการป่วยของตัวเองให้เขารู้ก่อนหน้านี้?”หลินเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “อาการเจ็บป่วยทั้งหมดของท่านผู้ว่าหลิวต่างเขียนแสดงอยู่บนใบหน้า แค่มองก็รู้แล้ว”หลิวกั๋วเฟิงหัวเราะเยาะออกมา “แค่มองหน้าฉันก็สามารถรู้อาการของฉันได้หมดเลยหรอ?” “ถ้าอย่างนั้นนายลองบอกมาว่าแท้จริงแล้วฉันเป็นโรคอะไร?”หลินเฟิงตอบกลับอย่างตรงไปตรงมา “เลือดและลมปราณพร่อง ไฟหยินกำเริบ จัดอยู่ในกลุ่มอาการของหัวใจและปอด” “ท่านผู้ว่าหลิวป่วยเป็นโรคปอดขั้นรุนแรง ถ้าตามการคาดการณ์ของผมอีกไม่เกินสามวัน อาการของเขาจะเปลี่ยนไปในทิศทางที่แย่ลงไปอีก” “ควรได้รับการรักษาอย่างเร็วที่สุด”ทันทีที่พูดจบ ภายในห้องก็เงียบกริบไปชั่วขณะหนึ่งวินาทีต่อมาก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้น “ฮ่าฮ
Read more