Share

บทที่ 12

Aвтор: เสี่ยวฉู่
สาวสวยท่านนี้ คุณไม่สนใจผมเกินไปแล้ว”

หวางเส้าหลงโกรธขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินประโยคก่อนหน้านี้

ฉันเป็นถึงคุณชายผู้สูงส่งแห่งตระกูลหวาง สู้คนไร้ค่าอย่างหลินเฟิงไม่ได้ตรงไหน?

ถังหว่านพูดอย่างดูถูก “เพราะแบบนี้ไงฉันถึงไม่สนใจคุณ”

มุมปากของหวางเส้าหลงกระตุก มือกำหมัดจนเส้นเลือดขึ้น

“คนสวย ผมบอกคุณตรง ๆ นะ นายนี่จนถึงตอนนี้แม้แต่งานจะทำยังไม่มีเลย”

“ไม่อย่างนั้นหลี่ฮุ่ยหรานคงไม่หย่ากับเขาหรอก”

“นอกจากหน้าตาที่พอไปวัดไปวาได้แล้ว เขาสามารถให้อะไรกับคุณได้บ้าง?”

ทันทีที่ได้ยินถังหว่านก็หันไปมองหลินเฟิง และชมว่า “คุณหลินขาดแค่เวลาเท่านั้น ฉันเชื่อว่าแค่ให้เวลาเขาสักหน่อย”

“ก้าวนำหน้าตระกูลหวางภายในหนึ่งเดือน ไม่ใช่เรื่องยากเลย”

“ฮ่าฮ่าฮ่า...”

หวางเส้าหลงรู้สึกขบขันและหัวเราะเสียงดัง

หนึ่งเดือน เริ่มต้นจากศูนย์และก้าวนำหน้าตระกูลหวาง เป็นเรื่องที่เหลวไหลไร้สาระที่สุดในโลก

“คนสวยคุณนี่พูดจาได้ตลกจริง ๆ”

ถังหว่านยิ้มและพูดว่า “ฉันไม่ได้ล้อคุณเล่นนะ งั้นเรามาพนันกันไหมล่ะ?”

“ถ้าคุณหลินก้าวนำหน้าตระกูลหวางได้ภายในหนึ่งเดือน คุณจะต้องคุกเข่าลงและขอโทษฉัน”

หวางเส้าหลงหรี่ตาลงเล็กน้อย และเริ่มรู้สึกสนใจขึ้นมาทันที

“แล้วถ้าก้าวนำหน้าไม่ได้ล่ะ?”

“ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะคุกเข่าลงและขอโทษคุณ” ถังหว่านพูดอย่างไม่ร้อนใจ

“ได้ นั้นพวกเราก็ตกลงตามนี้เลย” หวางเส้าหลงตอบกลับทันที

กลัวว่าอีกฝ่ายจะเสียใจ

หลินเฟิงหรี่ตาลงเล็กน้อย และมองไปที่ถังหว่าน

ผู้หญิงคนนี้ชอบทำให้มีเรื่องจริง ๆ

เขาไม่อยากเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปะทะฝีปากของคนพวกนี้

เขาหันหลังกลับแล้วเดินไปที่ห้องจัดเลี้ยง

“คุณหลิน รอฉันด้วยสิคะ” เมื่อถังหว่านเห็นแบบนั้นก็รีบเดินตามเขาไปทันที

เธอคว้าแขนของหลินเฟิงมาควงไว้

“เมื่อกี้ฉันเดิมพันไว้ว่าคุณจะชนะ คุณต้องให้กำลังใจฉันบ้าง”

“ผมไม่สนใจที่จะเป็นเดิมพันของพวกคุณ หลินเฟิงกล่าวเรียบ ๆ

ถังหว่านพูดอย่างอ้อน ๆ “ถ้าอย่างนั้นคุณจะยอมทนเห็นฉันไปคุกเข่าต่อหน้าชายนิสัยไม่ดีคนนั้นหรอ”

มองไปแล้วยิ่งเหมือนกับคู่รักที่กำลังง้องอนกันอยู่

“หลินเฟิง ฉันอยากคุยกับคุณสักหน่อย” จู่ ๆ หลี่ฮุ่ยหรานก็พูดขึ้น

“เรื่องอะไร พูดเถอะ”

“พวกเราไปคุยกันตามลำพังได้ไหม? แค่พวกเราสองคน”

หลินเฟิงหัวเราะอย่างเย็นชา “ตามลำพังงั้นหรออย่าเลย เดี๋ยวจะถูกคนอื่นนินทาเอาได้”

พูดจบ เขาก็เดินออกไปโดยไม่หันหลังกลับมามอง

“คุณ...”

หลี่ฮุ่ยหรานคิดไม่ถึงว่าเขาจะเมินเฉยต่อเธอถึงเพียงนี้

ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอขอให้เขาช่วยอะไรแม้เพียงเล็กน้อย เขาก็จะพยายามทำตามคำขอของเธออย่างสุดความสามารถ

ถังหว่านยิ้มอย่างมีเลศนัย “ดูเหมือนว่าคุณหลินจะไม่อยากคุยกับคุณนะ!”

“คุณหลี่ควรไปให้ความสนใจกับโครงการของตระกูลถังเถอะค่ะ อย่าไปสนใจความคิดของคุณหลินเลย”

หลี่ฮุ่ยหรานกัดฟันพูด “เรื่องนี้คุณไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ”

ถังหว่านล้วงมือเข้าไปในกระเป๋า เผยให้เห็นรอยยิ้มที่มั่นใจ

“ฉันแค่กังวลว่าตระกูลหลี่ของพวกคุณจะไม่สามารถคว้าโครงการของตระกูลถังมาได้ และเมื่อถึงตอนนั้นคุณจะขายหน้า”

หลังจากที่ถังหว่านพูดจบ เธอก็หันหลังกลับและเดินตามหลินเฟิงไป

มองดูด้านหลังของทั้งสองคนที่จากไป

หลี่ฮุ่ยหรานรู้สึกผิดหวังลึก ๆ ในใจอย่างมาก

กำมือทั้งสองข้างแน่น ไม่ยอมปล่อย

ตั้งแต่ต้นจนจบ หลินเฟิงไม่ได้หันมาสบตาเธอตรง ๆ เลยสักครั้ง

ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่คิดที่จะอธิบายเกี่ยวกับผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาให้เธอฟังเลยด้วยซ้ำ

หรือว่าเขาลืมความรู้สึกตลอดสามปีที่ผ่านมาหมดแล้วจริง ๆ?

หวางเส้าหลงที่ตอนนี้เดินเข้ามาด้วยความพอใจอย่างมาก

“ฮุ่ยหรานคุณไม่ต้องกังวล หลังจากนี้หนึ่งเดือน ผมจะให้ผู้หญิงคนนี้คุกเข่าและขอโทษคุณ”

เวลาสั้น ๆ เพียงหนึ่งเดือน อยากจะก้าวนำหน้าตระกูลหวาง? เป็นฝันของคนโง่เท่านั้นแหละ

หลี่ฮุ่ยหรานกลับไม่ได้พูดอะไรในครั้งนี้

เธอกลับรู้สึกว่าผู้หญิงคนนั้นแปลก ๆ

ท่าทางเย็นชา และรอยยิ้มที่มั่นใจนั้นยังคงติดอยู่ในใจของหลี่ฮุ่ยหราน

ในสถานการณ์แบบนี้ ฉันไม่มีอารมณ์จะมาใจเย็นขนาดนั้น

ผู้หญิงคนนั้นเป็นแค่กิ๊กของหลินเฟิงจริง ๆ หรอ?

“ฉันรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเท่าไร”

โรงแรมเทียนอวี่ ณ ห้องจัดเลี้ยงอัมพร 1

ในเวลานี้ภายในงานเลี้ยงมีนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงจำนวนไม่น้อยถยอยเข้ามา

ในฐานะที่ถังหว่านเป็นคนสำคัญหลักในงานเลี้ยงนี้ทำให้เธอไม่สามารถอยู่กับหลินเฟิงได้ตลอดเวลา

“คุณหลิน กรุณานั่งรอก่อนสักครู่ ฉันขอไปรับแขกคนอื่นก่อน”

หลินเฟิงพยักหน้า “คุณตามสบายเถอะ ไม่ต้องเป็นห่วงผม”

เขานั่งบนเก้าอี้ และเริ่มตักอาหารบนโต๊ะกินด้วยตนเอง

เขาไม่รู้จักเถ้าแก่ใหญ่เหล่านี้เลยสักคน และก็ไม่จำเป็นที่จะต้องคุยกับพวกเขา

ในเวลานี้ หลี่ฮุ่ยหรานกับอีกสองคนก็เดินเข้ามาในงานเลี้ยง

เถ้าแก่หลายคนเมื่อเห็นดังนั้นก็หยิบแก้วไวน์เดินเข้าไปห้อมล้อมทันที

“คุณหลี่ ยินดีด้วย ตอนนี้คุณถังหายจากอาการป่วยหนักแล้ว ตระกูลหลี่ครั้งนี้คงจะสำเร็จแบบก้าวกระโดดเป็นแน่”

“ทีนี้โครงการในซีเฉิงจะเป็นของใครไปได้นอกจากตระกูลหลี่”

“ใช่แล้ว หลังจากนี้คุณหลี่ได้โปรดช่วยสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ”

หลี่ฮุ่ยหรานยิ้มกว้างจนจะถึงหู และค่อย ๆ ปิดริมฝีปากสีแดงของเธอ “ไม่หรอก ฉันก็จะพยายามอย่างสุดความสามารถ”

หัวใจของเธอเบิกบานอย่างมีความสุข

เมื่อเช้านี้ได้รับข่าวว่าคุณถังหายจากอาการป่วยหนัก เธอรีบสั่งให้เลขากระจายข่าวออกไปทันที

ตอนนี้สิ่งที่ตัวเธอเองปรารถนา ได้มีแสงสว่างจากผู้มีพระคุณอย่างคุณถังมาช่วยชีวิตไว้

ใครจะสามารถทำแบบเธอได้?

ฝ่ากลุ่มคนที่รายล้อม หลี่ฮุ่ยหรานเดินมาถึงแถวหน้าแล้ว

ร่างของคนที่ไม่เข้าพวกปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอ

“หลินเฟิง ใครให้นายมานั่งตรงนี้ ไสหัวไปเดี๋ยวนี้” หวางเส้าหลงตะโกนด้วยความโกรธ

นี่คือโต๊ะรับรองหลักของตระกูลถัง และคนที่มีสิทธิ์จะนั่งตรงนี้ได้มีแค่หลี่ฮุ่ยหรานเท่านั้น

หลินเฟิงวางตะเกียบลง แล้วเช็ดครีมออกจากปาก “คุณถังให้ฉันนั่งตรงนี้ นายมีข้อโต้แย้งอะไรไหม”

“เหอะ...”

หวางเส้าหลงพูดอย่างเหยียดหยาม “นายนี่มันอวดดีจริง ๆ ทำไมคุณถังต้องให้นายนั่งตรงนี้”

“นายมีคุณสมบัติพอที่จะพบคุณถังหรอ?”

“คนนี้เป็นใครกัน?”

เถ้าแก่ทุกคนต่างมองไปที่หลินเฟิงอย่างสงสัย

หวางเส้าหลงกลอกตาแล้วพูดว่า “คนนี้ก็คือสามีเก่าของคุณหลี่ เขาไม่มีงานทำมาสามปีแล้ว วันทั้งวันก็อาศัยคุณหลี่เลี้ยง”

“ตอนนี้คุณหลี่หย่ากับเขาแล้ว เขาก็ยังตามมาสร้างเรื่องถึงที่นี่”

หลังจากที่ได้ฟัง ทุกคนต่างก็เริ่มพูดกัน “อะไรกัน? บนโลกใบนี้ยังมีคนที่ไร้ยางอายแบบนี้อยู่อีกหรอ?”

“ให้ตายเถอะ คิดว่าเขาเป็นคนแบบไหนกัน”

“ขนาดมีดกับส้อมยังใช้ไม่เป็นเลย แค่มองแวบเดียวก็เหมือนคนบ้านนอก มีสิทธิ์อะไรถึงมารบกวนคุณหลี่?”

ตอนนี้ตระกูลหลี่มีอิทธิพล แน่นอนว่าทุกคนก็ต้องเข้าข้างตระกูลหลี่เป็นธรรมดา

เมื่อหลี่ฮุ่ยหรานเห็นว่าทุกคนต่างกล่าวหาหลินเฟิง ก็รีบก้าวไปด้านหน้าพร้อมกับพูดเสียงเบาว่า “หลินเฟิง คุณควรออกไปก่อนดีกว่า”

หลินเฟิงค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น “ทำไม? แม้แต่คุณก็จะไล่ผมออกไปเหรอ?”

หลี่ฮุ่ยหรานขมวดคิ้ว “คุณคิดว่ามันยังขายหน้าไม่พอหรอ?”

“ขายหน้า?”

หลินเฟิงพูดอย่างเหยียดหยาม “เป็นเพราะคุณกลัวว่าผมจะทำให้ตระกูลหลี่ต้องขายหน้าละสิ? ตลอดสามปีที่ผ่านมานี้ผมอยู่ในตระกูลหลี่ของพวกคุณยังมีหน้าให้พูดถึงอยู่อีกหรอ?”

จางกุ้ยหลานดึงหลี่ฮุ่ยหรานกลับมา “เธอไปพูดเรื่องไร้สาระอะไรกับเขากัน!”

“รอให้คุณถังมาก่อน เขาได้ตายโดยไม่รู้ตัวแน่”

หวางเส้าหลงเดินไปหาหลินเฟิงอย่างผู้ชนะ “นี่นาย หนังหน้าของนายนี่มันคงหนามากเลยจริง ๆ สินะ ทุกคนต่างไล่ให้นายออกไป แต่นายกลับยังสามารถนั่งนิ่งเฉยได้อยู่”

“ถ้าฉันเป็นนาย คงไม่รอช้าที่จะเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนีไปแล้ว”

หลินเฟิงเหลือบมองเขา “เห็นแก่หน้าตระกูลถัง ฉันไม่อยากมีเรื่องในงานเลี้ยง ดังนั้นออกไปซะ”

“เหอะเหอะ อยากจะตีฉันเหรอ? มาเลย ฉันก็อยากรู้ว่านายจะกล้ามากแค่ไหน”

หวางเส้าหลงยิ้มเยาะ และเริ่มที่จะเอาหน้าของเขาเข้ามาใกล้มากขึ้น

พูดด้วยเสียงที่มีแค่พวกเขาสองคนได้ยิน

“ฉันจะบอกนายให้ คืนนี้ฉันได้จองห้องไว้ที่โรงแรมชุนเจียง เพื่อที่จะได้จัดงานฉลองให้กับฮุ่ยหรานในคืนนี้”

“ได้ยินมาว่านายไม่ได้นอนกับหลี่ฮุ่ยหรานเลยตลอดสามปีที่ผ่านมา? นายนี่มันใช้ไม่ได้”

“อยากให้ฉันบันทึกวิดีโอส่งให้นายดูคืนนี้ไหม?”

หลินเฟิงมองด้วยสายตาพิฆาต ความเคียดแค้นพุ่งสูงขึ้นมาในทันที

“เพี๊ยะ” เสียงฝ่ามือฟาดเข้าที่หน้าเขาอย่างรุนแรง

“อ๊ะ...”

หวางเส้าหลงส่งเสียงร้องดังลั่น

แค่รู้สึกเหมือนกับว่าโลกหมุนไปพักหนึ่ง

ตัวทั้งตัวลอยออกไป

“นี่...”

ทันใดนั้น เสียงดังทั้งหมดก็หยุดลงไปในทันที

ทุกคนต่างตกตะลึงอ้าปากค้าง คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าชายคนนี้จะกล้าทำร้ายใครในงานเลี้ยงตระกูลถัง

“แม่งเอ้ย...”

ใบหน้าของหวางเส่าหลงบิดเบี้ยว ตะเกียกตะกายขึ้นมาอย่างโซซัดโซเซ

รู้สึกปากเบี้ยวไปเล็กน้อย

“คุณหวาง คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม”

จางกุ้ยหลานตกใจจนหน้าซีด

เธอมองไปที่หลินเฟิงและต่อว่า “นายหลิน นายบ้าไปแล้วหรอ นายกล้าดียังไงมาทำร้ายคุณหวาง?”

หลินเฟิงสะบัดข้อมือของเขาเล็กน้อย “ผมไม่ฆ่าเขาก็ดีเท่าไรแล้ว”

หลี่ฮุ่ยหรานก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะระเบิดอารมณ์ขนาดนี้ จึงพูดขึ้นด้วยความโกรธ “หลินเฟิง ทำไมคุณถึงต้องลงมือทำร้ายคนอื่นด้วย?”

“คุณรีบขอโทษคุณหวางเร็ว”

หลินเฟิงชะงักไปทันที และมองไปที่หลี่ฮุ่ยหรานอย่างเหลือเชื่อ “คุณให้ผมขอโทษเขาอย่างนั้นหรอ”

“เมื่อกี้ตอนที่เขาเป็นคนเริ่มทำให้ผมขายหน้า ทำไมคุณถึงไม่ให้เขาขอโทษผม”

หลี่ฮุ่ยหรานหลบตาเขา “เมื่อสักครู่คุณหวางก็ทำไม่ถูก แต่คุณก็ไม่สามารถที่จะลงมือทำร้ายใครได้!”

หลินเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “ขอโทษที ฉันก็แค่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา ถ้าคุณไม่สบายใจก็มาแก้แค้นแทนเขาได้”

“คุณ...คุณนี่มันเกินเยียวยาแล้วจริง ๆ” หลี่ฮุ่ยหรานมองเขาด้วยสีหน้าผิดหวัง

“คุณถังมาแล้ว...”

ท่ามกลางฝูงคนไม่รู้ว่าใครส่งเสียงตะโกนขึ้นมา

ทุกคนต่างหลีกทางออกเป็นทางเดิน

หวางเส้าหลงยิ้มขึ้นที่มุมปาก พูดกับหลินเฟิงอย่างเยาะเย้ย

“นายหลิน นายแย่แน่ กล้าที่จะทำร้ายคนในงานเลี้ยงของตระกูลถัง แม้แต่พระเจ้าก็ไม่สามารถปกป้องนายได้”

เขาหันกลับไปมองท่ามกลางฝูงชน

ทันใดนั้นก็ตาค้างไปทันที
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Комментарии (6)
goodnovel comment avatar
ชนาวุธ ประทุมชาติ
ผมไปล้างโทรศัพท์ทำให้ข้อมูลหายต้องมาเริ่มอ่านใหม่ต้องทำอย่างไร
goodnovel comment avatar
Heart
สนุกดีค่ะ ชอบ
goodnovel comment avatar
เซบายชายสี่ ตระกูลตั้ง
สนุกน่าติดตาม
ПРОСМОТР ВСЕХ КОММЕНТАРИЕВ

Latest chapter

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 1636

    "หลินเฟิง ในเมื่อฉันก็เป็นภรรยาของหลี่ไห่หง ต่อไปฉันอยากให้ตระกูลหยวนและตระกูลหลี่รวมกัน สองตระกูลไม่แบ่งแยกกัน นายคิดว่ายังไง?""อะไรนะ?!"เมื่อหยวนเยี่ยนเซี่ยพูดคำเหล่านี้ออกมา ไม่เพียงแต่คนในตระกูลหยวนที่ตกตะลึง แม้แต่หลี่ฮุ่ยหรานที่อยู่ข้างๆ ก็มีสีหน้างุนงงนายหญิงหยวนกำลังพูดอะไรกันแน่เนี่ย! รวมกัน? ตอนนี้มีความเป็นไปได้ที่จะรวมกับตระกูลหยวนด้วยเหรอ?!"นายหญิงหยวน คุณเป็นบ้าไปแล้วเหรอ?!"หยวนชางทนไม่ไหว ลุกขึ้นยืนและตะโกนเสียงดังว่า:"ตอนนี้ตัวประกันอยู่ในมือของพวกเรา แถมตระกูลหยวนของพวกเราก็ใหญ่กว่าตระกูลหลี่มาก ถึงแม้ว่าจะยึดตระกูลหลี่และหลี่ซื่อกรุ๊ปไม่ได้ พวกเราก็สามารถกลับไปที่ปินโจวได้!""ทำไมถึงต้องรวมกับตระกูลหลี่เล็กๆ นี่ด้วย?!""ใช่แล้วนายหญิง มันไม่มีเหตุผลเลย!""เท่าที่ฉันเห็น นายหญิงคงจะตกใจกับเรื่องเมื่อครู่ เริ่มพูดจาเพ้อเจ้อแล้วมั้ง""หุบปากให้หมด! ฉันยังไม่บ้านะ!"หยวนเยี่ยนเซี่ยตะคอกและจ้องมองไปที่หยวนชางและคนในตระกูลหยวนคนอื่นๆ"ตอนนี้ฉันก็ยังเป็นนายหญิงของตระกูลหยวน ไม่ว่าพวกแกจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม ต้องฟังคำสั่งของฉัน ไม่งั้นแล้ว...""อย่าโทษฉันถ้าฉ

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 1635

    หยวนเยี่ยนเซี่ยพูดคำขอความเมตตาไม่ออกเพราะเมื่อครู่ระหว่างทาง เธอยังพูดคุยกับลูกน้องด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า เกี่ยวกับวิธีแบ่งปันผลประโยชน์และพัฒนาหลังจากที่รับช่วงต่อหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้วแต่ในพริบตา เธอกลับกลายเป็นนักโทษถูกหักหน้าเร็วเกินไปหน่อยถ้าขอความเมตตาหน้าแก่ ๆ ของเธอคงจะขายหน้าไปหมดในวันนี้ นายหญิงของตระกูลหยวนคงจะกลายเป็นเรื่องตลกก็คงจะไม่มีใครในตระกูลหยวนฟังเธออีกต่อไปและการขู่เพิ่งใช้ไปแล้วเมื่อครู่ย่าไท่เป่า ทุนที่ใหญ่ที่สุดของเธอในการขู่หลินเฟิง น่าจะถูกหลินเฟิงจัดการไปแล้วตอนนี้เธอจะเอาอะไรมาขู่หลินเฟิงได้อีก?"นายหญิง พวกเรายังมีไพ่ในมืออยู่! จำตระกูลหลี่ได้ไหม?"หยวนชางที่อยู่ข้างๆ เขย่านายหญิงที่กำลังเหม่อลอยอย่างแรง ลดเสียงลงและพูดว่า:"ตอนนี้ฮ่าวหยางยังอยู่ที่ตระกูลหลี่ไม่ใช่เหรอ? คนเก่งของตระกูลหยวนเรามีมากมาย!""ตอนนี้คนในตระกูลหลี่ก็ยังถูกพวกเรากักบริเวณอยู่ ถ้าหลินเฟิงกล้าลงมือกับพวกเรา พวกเราก็จะยอมตายไปด้วยกัน!"เมื่อได้ยินคำเตือนของหยวนชางที่อยู่ข้างๆในที่สุดหยวนเยี่ยนเซี่ยก็ตั้งสติได้"ใช่แล้ว!""ตอนนี้หลี่กงเฉิง หลี่ไห่เจียงและคนอื่นๆ

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 1634

    สีหน้าของคุณอู่เปลี่ยนจากรอยยิ้มที่น่ากลัวตอนที่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ค่อยๆ กลายเป็นความงุนงง สุดท้ายจ้องมองไปที่หลินเฟิงด้วยความตกตะลึงและความหวาดกลัว"เป็นยังไง โทรติดไหม?"หลินเฟิงเดินเข้าไปใกล้และถามอย่างจงใจ"คุณอู่ พี่สาวของฉัน เธอ... โทรศัพท์ของย่าไท่เป่า คุณโทรติดไหม?!"หยวนเยี่ยนเซี่ยก็เร่งเร้าถามอยู่ข้างๆรอจนกระทั่งคุณอู่หันหน้ามา หยวนเยี่ยนเซี่ยถึงได้เห็นความตกตะลึงและความสับสนในดวงตาของคุณอู่ต้องรู้ว่าหมายเลขเฉพาะที่ใช้ติดต่อภายในซือไจของพวกเขาเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยส่วนบุคคล!สมาชิกซือไจทุกคน ไม่ว่าจะเป็นระดับสูงหรือต่ำ หากกล้าที่จะไม่รับหมายเลขเฉพาะ จะถูกซือไจและสำนักร้อยพิษลงโทษในฐานะผู้ทรยศทั้งหมดสำหรับผู้ทรยศนั้น มีจุดจบที่เจ็บปวดยิ่งกว่าความตายดังนั้นในอดีตในซือไจและสำนักร้อยพิษจึงมีผู้ทรยศน้อยมาก ดังนั้นหากโทรศัพท์เฉพาะติดต่อไม่ได้ ก็มีคำอธิบายเดียวเท่านั้นนั่นคือเจ้าของโทรศัพท์ ตายไปแล้ว!คุณอู่เป็นคนที่คิดถึงสิ่งนี้เป็นคนแรก และหลังจากที่ได้เห็นสีหน้าของคุณอู่แล้ว หยวนเยี่ยนเซี่ยก็คิดได้เช่นกัน"คุณอู่ หรือว่าพี่สาวของฉัน ตายแล้วจริงๆ..."ในข

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 1633

    "หือ?"ถึงแม้ว่าจะขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นสูงแล้ว แต่ทุกคนในตระกูลหยวนก็ยังได้ยินเสียงดังมาจากข้างล่าง"เกิดอะไรขึ้น?"ในขณะที่หยวนเยี่ยนเซี่ยก็สงสัยเช่นกัน ลิฟต์ก็ส่งเสียงเตือนขึ้น"ติ๊ง"ลิฟต์แสดงว่ามาถึงชั้นบนสุดแล้วหยวนเยี่ยนเซี่ยเคยมาที่หลี่ซื่อกรุ๊ป ย่อมรู้ว่าชั้นบนสุดคือสมองหลักของหลี่ซื่อกรุ๊ป ไม่เพียงแต่หลี่ฮุ่ยหรานและคนอื่นๆ ทำงานอยู่ที่นี่ ห้องประชุมของคณะกรรมการบริหารก็อยู่ที่ชั้นนี้ด้วยแต่ในขณะที่ประตูลิฟต์ค่อยๆ เปิดออก หยวนเยี่ยนเซี่ยเตรียมที่จะพาคนในตระกูลหยวนออกไป เพื่อถามว่าเสียงดังข้างล่างมันเกิดอะไรขึ้นในสายตาของเธอ ก็เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยพอดีหลินเฟิง!หยวนเยี่ยนเซี่ยงุนงงไปหมดเธอมองหลินเฟิงที่ยืนอยู่หน้าประตูลิฟต์อย่างงุนงง ราวกับว่ารอคอยการมาเยือนของพวกเขาอยู่ หัวใจของเธอจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งในทันที"นี่... นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่..."หยวนเยี่ยนเซี่ยถามด้วยเสียงสั่นเครือแต่ในที่เกิดเหตุ คนตระกูลหยวนที่อยู่ข้างหลังเธอไม่มีใครให้คำตอบเพราะในขณะนี้ผู้บริหารระดับสูงของตระกูลหยวนทุกคนรู้ว่า พวกเขาถูกหลอกแล้ว กระโดดเข้าไปในกับดักของหลินเฟิงด้วยความเต็มใจ"ย

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 1632

    หน้าอาคาร มีฝูงชนจำนวนมากมาชุมนุมกันเมื่อเห็นฝูงชนที่วุ่นวายเหล่านี้ หยวนเยี่ยนเซี่ยก็ขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย"ใครอนุญาตให้พวกมันมาที่นี่? ไล่พวกมันออกไปให้หมด!""ครับ/ค่ะ!"เมื่อตระกูลหยวนเริ่มไล่ผู้คนออกไป ผู้ชมที่มามุงดูก็พยักหน้าและโค้งคำนับทีละคน ขณะที่ถูกไล่ออกไป แววตาของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความดุร้าย แต่ไม่มีใครมองเห็นเมื่อหยวนเยี่ยนเซี่ยเห็นว่าผู้คนเหล่านี้ถูกไล่ออกไป เธอก็ยิ่งภาคภูมิใจมากขึ้นเธอนำหน้าเข้าไปในอาคารหลี่ซื่อกรุ๊ป เงยหน้าขึ้น ราวกับเป็นแม่ทัพผู้มีชัยในสมัยโบราณ รอให้ศัตรูนำเมืองมาถวายและยอมจำนน"ตงหยางล่ะ?"เมื่อเข้าไปในห้องโถงและเห็นว่าที่นี่ไม่มีใครอยู่ หยวนเยี่ยนเซี่ยก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจดูเหมือนว่าสิ่งที่ตงหยางพูดจะเป็นความจริง เขาได้ควบคุมหลี่ฮุ่ยหรานไว้แล้วจริงๆตอนนี้หลี่ซื่อกรุ๊ปอยู่ในสถานะหยุดชะงัก"คุณ...คุณตงหยางอยู่ที่ห้องประธานค่ะ"หญิงสาวคนหนึ่งที่รับผิดชอบต้อนรับที่ประตู เมื่อเห็นผู้คนมากมายจากตระกูลหยวน ก็ตกใจจนพูดตะกุกตะกัก"ไป ไปที่ห้องประธานกับฉัน"หยวนเยี่ยนเซี่ยโบกมือ จากนั้นเธอก็สั่งให้องครักษ์บางส่วนของตระกูลหยวนอยู่

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 1631

    ขบวนรถที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลหยวนแล่นจากเจียงโจวมายังเมืองเจิ้งเต๋อฉากนั้นอึกทึกครึกโครมเกินไป รถหรูมากกว่ายี่สิบคัน ทั้งหมดมีตราประจำตระกูลหยวนแห่งปินโจว ดึงดูดความสนใจจากผู้คนที่สัญจรไปมาบนท้องถนนอย่างไม่ต้องสงสัยคนเดินเท้าจำนวนน้อยที่รู้จักตระกูลหยวนต่างก็ตกตะลึงทำไมตระกูลหยวนแห่งปินโจวถึงปรากฏตัวขึ้นที่เมืองเจิ้งเต๋อได้? หรือว่าตระกูลหยวนกำลังจะยื่นมือมาที่เมืองเจิ้งเต๋อ?ตามระยะห่างระหว่างปินโจวและเจียงโจวแล้ว เห็นได้ชัดว่ามันไม่สมเหตุสมผล เพราะถึงแม้ว่าระยะห่างระหว่างสองเมืองจะไม่เรียกว่าไกลมากแต่มีหนิงโจวคั่นกลาง จะเรียกว่าใกล้ก็ไม่ได้หากต้องการขยายออกไปภายนอก ควรยึดหนิงโจวที่อยู่ใกล้ที่สุดก่อน ทำไมจู่ๆ ถึงยื่นมือมาที่เมืองเจิ้งเต๋อ?ในขณะที่คนเดินถนนบนท้องถนนคาดเดาและชี้ไปยังขบวนรถที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลหยวน หยวนเยี่ยนเซี่ยที่นั่งอยู่ในรถลีมูซีนลินคอล์นที่ยาวที่สุดซึ่งอยู่ตรงกลางขบวนรถก็หัวเราะออกมาเธอหัวเราะอย่างภาคภูมิใจมากเพราะเธอได้ตรวจสอบล่วงหน้าแล้วว่า เดิมทีเมืองเจิ้งเต๋อมีสามผู้ยิ่งใหญ่ คนภายนอกจึงไม่สามารถเข้ามาแทรกแซงได้แต่ตอนนี้จู่ๆ ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสามคนก็

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status