“สิ่งที่เจ้าควรทำที่สุดไม่ใช่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือไปที่ใด”สวีฉังชิงหันไปมองสวีจวินโหลวแล้วกล่าวว่า “สิ่งที่เจ้าควรทำที่สุด คือทำให้ดีในสิ่งที่ฝ่าบาททรงคาดหวังให้เจ้าไปทำให้สำเร็จต่างหาก”สวีจวินโหลวชะงักไปครู่หนึ่งสวีฉังชิงเดินนำไปพลางพูดว่า “ข้าเองก็เพราะเป็นห่วงจึงใจร้อนไปหน่อย ในเมื่อเรื่องนี้ตัดสินแล้ว ก็อย่าแบกภาระทางความคิดไว้มากนัก ทำตามพระบัญชาของฝ่าบาทก็พอ แม่นางวั่นก็พูดมีเหตุผล ข้ากับเจ้าล้วนเป็นขุนนางรับใช้ใกล้ชิดฝ่าบาท ฝ่าบาทจะทรงทอดทิ้งพวกเราได้หรือ?”สวีจวินโหลวเม้มริมฝีปาก ไม่พูดอะไร เดินตามหลังสวีฉังชิงกลับบ้านไปอย่างเงียบๆเพียงแต่ในหัวของเขานั้น ภาพใบหน้ายิ้มพรายในแสงตะเกียงของวั่นเจียวเจียวยังคงวนเวียนไม่หยุดราวกับถูกดลใจ สวีจวินโหลวจู่ๆ ก็พูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยว่า “ท่านอา ข้ามีเรื่องหนึ่งอยากปรึกษา”สวีฉังชิงหันไปมองเขาหนึ่งแวบ “มีอะไรก็ว่ามาเถอะ”แต่สวีจวินโหลวเพียงแค่จะอ้าปาก ใบหน้าก็แดงซ่านขึ้นมาเสียก่อนสวีฉังชิงซึ่งผ่านโลกมามาก อีกทั้งยังช่างสังเกต เห็นท่าทีของหลานชายก็หัวเราะออกมาแล้วว่า “หึ หรือว่าเจ้ามีคนที่หมายปองอยู่แล้ว?”สวีฉังชิงหัวเร
Baca selengkapnya