เมื่อหลี่เฉินเอ่ยถ้อยคำลงท้ายอย่างเฉียบขาด แสดงชัดว่าต้องการใช้อำนาจผลักดันแผนการนี้ด้วยพระองค์เอง เฉียนซื่อยวนก็ถึงกับร้อนรนขึ้นมาทันทีขณะเดียวกัน ขุนนางตงฉินคนอื่นๆ ก็สังเกตเห็นว่าในพระสุรเสียงของหลี่เฉินเริ่มมีแววโกรธ จึงแอบยื่นมือไปกระตุกแขนเสื้อของเฉียนซื่อยวน เป็นสัญญาณให้อีกฝ่ายลดท่าทีลงบ้างท้ายที่สุด ไม่ใช่ทุกคนที่กล้าเอาชีวิตมาเดิมพันเช่นเฉียนซื่อยวนแต่เฉียนซื่อยวนกลับยิ่งเดือดดาล เขาสะบัดมือออกจากอีกฝ่ายทันที พลางตวาดเสียงดังว่า “เจ้าดึงข้าไว้ทำไม? ฝ่าบาทกระทำโดยขาดไตร่ตรอง ไม่รับฟังคำทัดทานอันสุจริต เช่นนี้ไม่ต่างจากเอาราชกิจมาเล่นสนุก พวกข้าขุนนางตงฉิน กินเบี้ยหวัดของแผ่นดิน ย่อมต้องชี้แนะแนวทางคุณธรรมแก่จักรพรรดิ แม้แต่จักรพรรดิก็ยังต้องรับฟังคำเตือนของขุนนางตงฉิน ยิ่งกว่านั้นไฉนจะเป็นแค่รัชทายาทเล่า!?”คำพูดนี้ดังขึ้นทั่วท้องพระโรงใหญ่แห่งพระที่นั่งไท่เหอ จนบังเกิดความเงียบงันอย่างที่สุดทุกคนต่างใช้สายตาของผู้มองวีรบุรุษ จับจ้องไปที่เฉียนซื่อยวนหากเป็นในอดีตก็ว่าไปอย่างแต่ในตอนนี้ แม้แต่คณะรัฐมนตรีก็ยังถูกตำหนักบูรพากดเอาไว้ได้ การกบฏใหญ่โตเมื่อไม่นานนี้ กลับ
Read more