Semua Bab ชายาแพทย์พลิกชะตา: Bab 1981 - Bab 1990

1998 Bab

บทที่ 1981

ในสายตาเจ้าเด็กบ้ามีเพียงมารดา ไม่มีบิดา!ซูจิ่งสิงอยากตีก้นเจ้าเด็กคนนี้สักที แต่เห็นใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตาของเขา ยังตัดสินใจปล่อยไปก่อนจ้านจ้านเงยหน้า เหลือบมองบิดาของเขาแวบหนึ่ง พูดขึ้นมาอย่างไม่รู้สึกผิดเลยสักนิด “เสด็จพ่อ ท่านไม่ใช่พูดว่าจะพาเสด็จแม่กลับมาในสองเดือนหรือ?”เขากำหมัดแน่นถูกบิดาหลอกแล้ว!ตอนบิดาจากไปยังพูดว่าสองเดือนก็กลับมา เขาถึงดีใจพูดว่าอยากได้น้องสาวสักคน ขอให้พาน้องสาวกลับมาพร้อมกันใครรู้เล่าว่าบิดาไปครั้งนี้นานถึงหนึ่งปี!“เกิดความเปลี่ยนแปลง กลับมาช้าไปแล้ว”ซูจิ่งสิงลูบศีรษะเต็มไปด้วยเส้นผมของลูกชาย “แต่ครั้งนี้ข้าและแม่เจ้าได้รับมาไม่น้อย รอภายภาคหน้าค่อยๆ เล่าให้เจ้าฟังดีหรือไม่?”กู้หว่านเยว่ฟังออก ซูจิ่งสิงนี่คือต้องการเบี่ยงเบนความสนใจของจ้านจ้านนางพยักหน้าให้ความร่วมมือ “ใช่แล้วจ้านจ้าน พวกเราผ่านป่าซิงโตวมาด้วย นั่นคือสถานที่กว้างใหญ่เท่าต้าฉีสองแห่งเลยทีเดียว”จ้านจ้านกระพริบตา เขาอ่านหนังสือมาไม่น้อย นึกถึงระยะห่างภายในสมองภายในหนังสือพูดว่าอาณาเขตเหนือใต้ของต้าฉีมีระยะห่างราวหนึ่งพันห้าร้อยลี้ ต้าฉีสองแห่ง นั่นไกลมากเหลือเกิน“ภายใ
Baca selengkapnya

บทที่ 1982

“ร้องไห้ทำไม? โตเพียงนี้แล้วยังเสียน้ำตาอีก”ซูจิ่งสิงขมวดคิ้ว สั่งสอนอย่างเข้มงวดภายในสายตานางหยางเจือประกายน้ำตา สบมองกู้หว่านเยว่ ทั้งยังหันมองซูจิ่งสิง“ตอนเจ้าไม่อยู่ จื่อชิงเด็กคนนี้สุขุมมากนัก”“มีเพียงได้เห็นพวกเจ้า เขาถึงตื่นเต้นมากถึงเพียงนี้”ซูจื่อชิงไม่ตื่นเต้นได้หรือ เขาทำงานหนักเพื่อพี่ใหญ่พี่สะใภ้ทุกวัน ดูแลบ้านเมืองงานยิ่งใหญ่นี้ เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด นอนดึกยิ่งกว่าสุนัข ตื่นเช้ายิ่งกว่าไก่ เหนื่อยแทบตาย“พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ใหญ่ ในที่สุดพวกท่านก็กลับมาแล้ว ฮือฮือๆ...” ซูจื่อชิงกอดขาทั้งคู่ ร้องไห้โฮ“รีบปล่อยเร็วเข้า อย่าทำให้ข้าขายหน้า”ซูจิ่งสิงสบถด่าเสียงเยียบเย็นทั้งคู่ทำความเคารพนางหยางพร้อมกัน “ท่านแม่ พวกเรากลับมาแล้ว ช่วงนี้ทำให้พวกท่านกังวลแล้ว”จ้านจ้านขาวขาวเนียนเนียน สุขภาพแข็งแรงร่าเริง นางหยางย่าคนนี้ใส่ใจไม่น้อย กู้หว่านเยว่รู้สึกซาบซึ้งอยู่ภายในก้นบึ้งของหัวใจ“ล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน พูดจาห่างเหินเพียงนี้ทำอันใด”นางหยางปาดน้ำตาที่หางตา มองกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงอย่างชื่นชม“ขอเพียงพวกเจ้าสองคนกลับมาได้อย่างปลอดภัย แม่ก็วางใจแล้ว”“ใ
Baca selengkapnya

บทที่ 1983

ห้องเครื่องของวังหลวงทำอาหารเสร็จเรียบร้อยอย่างรวดเร็ว เหล่าญาติฝ่ายหญิงที่มาเข้าร่วมงานเลี้ยงภายในวังหลวงล้วนถูกกระจายออกไปแล้วชิงเหลียนมองกู้หว่านเยว่ที่ไม่ได้พบหน้านานมาก ตื่นเต้นจนน้ำตาไหล“ฮูหยิน นับว่ารอจนท่านกลับมาแล้ว”นางปาดน้ำตา พูดยิ้มๆ อย่างเก้อกระดาก “หงซิ่งเด็กคนนั้นแต่งงานแล้ว ตอนนี้จึงไม่ได้อยู่ภายในวัง วันหน้าบ่าวจะพานางเข้ามาโขกศีรษะให้ท่านให้ได้เจ้าค่ะ”กู้หว่านเยว่แปลกใจอยู่บ้าง“เวลาผ่านไปเร็วยิ่งนัก หงซิ่งเด็กคนนั้นแต่งงานแล้วหรือนี่”นางนึกถึงก่อนหน้านี้เตรียมสินเดิมให้เหล่าสาวใช้ รอได้พบหงซิ่ง จะต้องมอบสินเดิมให้นางชิงเหลียนพยักหน้ายิ้มๆ “พวกเขาสองสามีภรรยาเปิดร้านขายผ้าแห่งหนึ่งในเมืองหลวง การค้านับว่าไม่เลว ไม่ทำให้ท่านต้องผิดหวัง”กู้หว่านเยว่นึกดีใจแทนพวกเขาภายในก้นบึ้งของหัวใจ“ใช่แล้ว นี่เป็นลูกของใคร เหตุใดไปอยู่ในตำหนักบรรทมของจ้านจ้านได้?”จู่ๆ กู้หว่านเยว่ก็นึกถึงเด็กหญิงตัวน้อยที่หลบใต้โต๊ะของจ้านจ้านขึ้นมาได้ ดวงตากลมโตดุจหยก กลับเป็นเด็กน่ารักคนหนึ่งชิงเหลียนรีบเล่าฐานะของเด็กหญิงให้กู้หว่านเยว่ฟัง กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงชะงักไป เงียบ
Baca selengkapnya

บทที่ 1984

แต่จี้เยว่ไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของสกุลซุน ไม่ได้รับความสำคัญมากเพียงพอ อีกทั้งยังไม่สามารถตำหนิพวกเขาอย่างรุนแรงได้นางหยางกวาดตามอง “ดูเด็กคนนี้น่ารักมากเพียงใด ข้าอายุปูนนี้แล้ว ว่างงานยิ่งนัก ชอบให้เด็กรายล้อมรอบกาย หากไม่สะดวกเลี้ยงดูในวัง ก็สามารถส่งมาที่จวนข้าได้”“เด็กคนนี้งดงามดุจหยก ขาวๆ นุ่มๆ มองดูแล้วเป็นคนมีวาสนาคนหนึ่ง กินอิ่มแล้วก็นอน นิสัยเองก็ดี ภายภาคหน้าจ้านจ้านโตแล้ว ก็ช่วยคลายเหงาให้จ้านจ้านได้”ซูจิ่งสิงไม่รับสนม วังหลังคล้ายไม่มีอยู่จริง กู้หว่านเยว่เองก็ไม่มีลูกในตอนนี้ภายในวังมีเพียงจ้านจ้านเป็นเด็กคนเดียว เหงาอยู่บ้างจริงๆมีเด็กคนอื่นอยู่เป็นเพื่อน ก็เป็นเรื่องดีสองสามคนปรึกษากันและตัดสิน ให้จี้เยว่อยู่ภายในวังก่อนอย่างน้อยทางฝั่งสกุลซุนนั้น ซูจิ่งสิงย่อมส่งคนไปแจ้งข่าว คาดว่าสกุลซุนเองก็ไม่มีวันคัดค้านขณะเดียวกันดรุณีน้อยนอนหลับฝันหวานภายในอ้อมกอดของชิงเหลียนยังไม่รู้เลยว่าบัดนี้ชะตาชีวิตของตนกำลังจะเปลี่ยนไปแล้วนับตั้งแต่นี้ไป จะผูกติดกับองค์ชายน้อยที่มอบขนมให้ตนเองกินสองสามคนพูดคุยกันขณะรอ กู้หว่านเยว่เล่าเรื่องที่ได้พบเห็นในที่ราบแห่งความโกลาหล
Baca selengkapnya

บทที่ 1985

ซูจิ่งสิงนับญาติแล้ว ก็คือคนของราชวงศ์ต่อให้พูดว่าภายในใจของเขาเห็นนางหยางและซูจิ้งเป็นบิดามารดา ทว่าตั้งแต่ต้นจนจบซูจิ้งล้วนคิดว่าขุนนางและกษัตริย์แตกต่างกันมารยาทพิธีการต้องครบถ้วน ถึงจะสามารถทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขายาวนานมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้สกุลซูดียิ่งขึ้นอีกด้วย“ท่านปู่ ท่านมานั่งเถอะ” จ้านจ้านสืบเท้าขึ้นมา จูงซูจิ้งไปนั่งซูจิ้งพยักหน้ายิ้มๆ หยิบขนมถังหูลู่ออกจากอกหนึ่งไม้“ให้เจ้า ปู่ซื้อมาจากนอกวัง”“ว้าว ขนมถังหูลู่นี่นา ขอบคุณท่านปู่มากขอรับ”จ้านจ้านดีใจอย่างมาก เขาออกจากวังน้อยมาก ดังนั้นจึงอยากกินของนอกวังยิ่งนัก“กินช้าหน่อย ไม่มีใครแย่งเจ้าหรอก” ใบหน้าซูจิ้งประดับยิ้ม มองดูแล้วรักเอ็นดูจ้านจ้านอย่างแท้จริงกู้หว่านเยว่กวาดตามองโดยรอบ “ใช่แล้ว เหตุใดไม่พาชิงหว่านเข้าวังเล่า?”หลังชิงหว่านแต่งงานกับจื่อชิงแล้ว ก็กลายเป็นครอบครัวเดียวกันกับพวกเขานางหยางยิ้มไม่หุบ ใบหน้าซูจื่อชิงสะท้อนแววเขินอาย “ชิงหว่านตั้งครรภ์ ตอนนี้หกเดือนแล้ว ร่างกายกำลังหนัก กลัวเกิดข้อผิดพลาดอันใด ข้าจึงส่งคนไปแจ้งข่าวนาง รอข้ากลับจวนแล้ว จะพูดกับนางด้วยตนเอง พรุ่งนี้ค่อยพานางมาพบ
Baca selengkapnya

บทที่ 1986  

ชิงเหลียนอุ้มเด็กน้อยออกไป เมื่อถึงเวลานอนในยามค่ำคืน กู้หว่านเยว่สั่งให้คนอุ้มจ้านจ้านเข้ามา ทั้งสามคนนอนพูดคุยอยู่บนเตียงเดียวกัน กู้หว่านเยว่เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในที่ราบแห่งความโกลาหลให้จ้านจ้านฟัง จ้านจ้านที่ดูเหมือนจะตั้งใจฟังเรื่องเล่า ไม่นานก็เข้าสู่ห้วงนิทรา กู้หว่านเยว่ตบหลังของจ้านจ้านเบา ๆ สายตาอบอุ่น “พี่สะใภ้ใหญ่ของเจ้ากลับมาแล้ว เรานำเรื่องนี้ไปหารือกับพี่สะใภ้ของเจ้าก่อนดีหรือไม่?” ภายในตำหนักของซูจิ่นเอ๋อร์ นางหยางคว้ามือของนาง แล้วทอดถอนใจ ในระหว่างการสนทนาเมื่อครู่นั้น ซูจื่อชิงได้เอ่ยถึงการตั้งครรภ์ของเมี่ยชิงหว่าน สีหน้าของซูจิ่นเอ๋อร์ดูไม่ดีนัก นางหยางผู้เป็นมารดาเห็นทุกอย่างอยู่ในสายตา “พี่สะใภ้ใหญ่ของเจ้ามีทักษะการแพทย์สูง ไม่แน่อาจจะมีวิธีการก็ได้” นัยน์ตาของซูจิ่นเอ๋อร์ฉายแววสับสน “แต่ปรมาจารย์แพทย์กล่าวไว้ว่าร่างกายของนางไม่ค่อยแข็งแรง การตั้งครรภ์ยากยิ่งกว่าการขึ้นสวรรค์เสียอีก” นางอยากให้กู้หว่านเยว่ตรวจอาการให้นาง แต่ก็กลัวว่าจะผิดหวัง หากแม้แต่พี่สะใภ้ใหญ่ยังหาวิธีให้ไม่ได้ เกรงว่านางคงมีลูกของตัวเองไม่ได้ไปตลอดชีวิต “ท่านแม่ ข้
Baca selengkapnya

บทที่ 1987  

เช่นนั้นแม้แต่ปรมาจารย์แพทย์ก็ยังทำไม่ได้ ดูท่าทางสถานการณ์ของซูจิ่นเอ๋อร์คงจะเข้าขั้นวิกฤตเสียแล้ว ซูจิ่นเอ๋อร์เห็นกู้หว่านเยว่เงียบไป ก็แทบจะร่ำไห้ด้วยความร้อนใจ “พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านกำลังจะบอกข้าว่าข้าจะมีบุตรไม่ได้ตลอดชีวิตใช่หรือไม่เจ้าคะ?” กู้หว่านเยว่รีบเอ่ย “อย่าพูดจาเหลวไหล” ซูจิ่นเอ๋อร์เองก็ไม่อยากมองโลกในแง่ร้าย แต่นางกลัวจริง ๆ กู้หว่านเยว่ครุ่นคิดอยู่ครึ่งวัน อาการป่วยนี้ไม่ใช่โรคที่จะรักษาให้หายขาดในทันที จะรีบร้อนไม่ได้ “เอาอย่างนี้ ข้ามีธุระต้องออกนอกวัง เจ้าอยู่รอข้าในวังไปก่อน รอให้ข้าจัดการธุระเสร็จแล้วค่อยกลับมาตรวจชีพจรให้เจ้า ดูว่าเจ้าเป็นอะไร” ซูจิ่นเอ๋อร์ร้อนใจอยู่ภายใน อย่าว่าแต่ครึ่งวันเลย แม้แต่เสี้ยววินาทีนางก็รอไม่ได้ แต่ในเมื่อพี่สะใภ้ใหญ่มีธุระก็คงห้ามอะไรไม่ได้ จึงฝืนใจพยักหน้า “พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านไปจัดการธุระของท่านก่อนเถอะ ข้าจะรอท่านเสร็จธุระอยู่ในวัง” กู้หว่านเยว่เอ่ยโน้มน้าว “เจ้าอย่ากังวลไปเลย เรื่องมีบุตรเราบังคับกันไม่ได้ ยิ่งเครียดยิ่งมียาก” “เจ้าค่ะ” ซูจิ่นเอ๋อร์เหม่อลอย เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ตั้งใจฟัง หลังจากที่พบว่าตัวเองมีบุต
Baca selengkapnya

บทที่ 1988  

จ้านจ้านกลอกตาเล็กน้อย “นี่มันขนมของเด็ก ข้าไม่กินแล้ว เจ้ากินเถอะ” จี้เยว่ยังคงดื้อดึง “อร่อย ให้พี่ชายกิน” จ้านจ้านไม่ต้องการ เขาไม่ได้พูดโกหก เขาไม่กินอมยิ้มมานานมากแล้ว ป้ายางเคยบอกว่า กินอมยิ้มเยอะจะทำให้ฟันจะผุง่าย เขาจึงไม่กิน แต่จี้เยว่ก็เหมือนปลาสเตอร์เหนียวหนึบ หากเขาไม่ยอม นางก็จะตามติดเขา และมองเขาด้วยสายตาไร้เดียงสา อ้อนวอนซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ช่างเถอะๆ ข้ากินหนึ่งเม็ดก็ได้” จ้านจ้านยอมแพ้ กู้หว่านเยว่มองการกระทำของเด็กทั้งสองคนอยู่ข้าง ๆ และคลี่ยิ้มอย่างเอ็นดู ไม่นาน เสียงของชิงเหลียนก็ดังเข้ามาจากด้านนอก “พระมเหสี คนของจวนซุนมาถึงแล้วเจ้าค่ะ” กู้หว่านเยว่พยักหน้า เมื่อวานก็มีคนจากสกุลซุนมาหา บอกว่าพวกเขาจะพาจี้เยว่เข้าวัง วันนี้ตั้งใจจะมาเก็บข้าวของของจี้เยว่ ภายในจวนซุน มีเด็กสาวที่ดูโตกว่าหน่อยจำนวนหนึ่งกำลังจับกลุ่มคุยกัน “เมื่อวานคนในวังบอกว่าจะพายัยบ๊องผู้นั้นเข้าไปอยู่ในวัง” เหตุใดโชคชะตาของยัยบ๊องถึงได้ดียิ่งนัก?” คนที่พูดคือคุณหนูใหญ่ของสกุลซุน ปีนี้อายุหกขวบกว่าแล้ว นางคอยติดตามอยู่ข้างกายของฮูหยินซุน ได้รับการอบรมสั่งสอนจนฉลาดปราดเปรื่อง เวลา
Baca selengkapnya

บทที่ 1989  

“มัวยืนอึ้งอะไรอยู่อีก? รีบอุ้มคุณหนูออกไปสิ ปล่อยให้พูดจาเพ้อเจ้อจนคนในวังมาได้ยินเข้า จะรอรับโทษอย่างนั้นหรือ?” ฮูหยินซุนโบกมือไล่อย่างขุ่นเคือง บุตรสาวผู้ไม่เอาไหน เวลานี้ทั้งร้องไห้ทั้งโวยวาย หากนางฉลาดกว่านี้ คงหาโอกาสตีสนิทกับยัยบ๊องผู้นั้น ไม่แน่ว่าอาจจะได้ประโยชน์ ถูกพาตัวเข้าไปในวังด้วยก็ได้ ร้องไห้ไปจะมีประโยชน์อะไร? มีแต่จะทำให้คนในวังไม่พอใจ คิดว่าบุตรสาวของสกุลซุนไม่รู้ความ สาวใช้จึงเดินรุดหน้า อุ้มซุนเหวินไปตำหนักหลัง ใบหน้าเล็ก ๆ ของซุนเหวินแสดงสีหน้าตื่นตระหนกราวกับฟ้าถล่มก็มิปาน ไม่นานก็ถูกพาออกไป ฮูหยินซุนลุกขึ้นยืน จัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ทางครู่หนึ่ง จากนั้นก็พาคนที่อยู่ใต้บังคับบัญชาเข้าไปคุกเข่าตรงหน้าของกู้หว่านเยว่ ครั้งนี้กู้หว่านเยว่ออกนอกวังอย่างเงียบ ๆ ไม่ได้สร้างความตื่นตระหนกให้ใครนัก เมื่อรถม้าหยุดลงนอกจวนซุน คนที่เดินเข้ามาต้อนรับก็มีแต่คนของสกุลซุน ฮูหยินซุนเห็นเสลี่ยงปักษาของพระมเหสีแต่ไกล รู้สึกหายใจไม่ค่อยออก รีบรุดหน้า แล้วคุกเข่ากราบหัวโขกดินด้วยความเคารพ “ข้านางซุนของเข้าเฝ้าพระมเหสีเจ้าค่ะ ขอให้พระมเหสีมีพระชนม์ยืนนานหมื่น ๆ
Baca selengkapnya

บทที่ 1990  

นางพูดอ้อม ๆ “จู่ ๆ เด็กสองคนนี้ก็แยกจากกัน เกรงว่าพวกเขาคงจะไม่ชินนะสิเจ้าคะ เช่นนั้นก็ เช่นนั้นก็ให้เหวินน้อยของเราเข้าวังไปด้วย....” แม้ว่าซุนเหวินจะเป็นเด็กโง่เขลา แต่ถึงอย่างไรก็เป็นบุตรสาว ฮูหยินซุนยังอยากพยายามช่วยเหลืออยู่ดี กู้หว่านเยว่มองไปทางจี้เยว่ “เจ้าชอบเล่นกับซุนเหวินหรือไม่?” จี้เยว่ดูจะสับสนเล็กน้อย นางรู้ว่าซุนเหวินเป็นใคร เป็นพี่หญิงเหวิน “พี่หญิงเหวินเหยียบกระต่ายข้าตายไปหนึ่งตัว” ดวงตาของนางแดงก่ำ กู้หว่านเยว่เอื้อมมือออกไปลูบศีรษะของจี้เยว่อย่างอ่อนโยน “อย่าเสียใจไปเลย ข้ามีวิธีช่วยชีวิตกระต่ายตัวนั้น วันหน้าข้าจะพากระต่ายตัวนั้นไปคืนเจ้าดีหรือไม่?” จี้เยว่พยักหน้า “อื้อ!” ฮูหยินซุนที่อยู่ข้างกายถึงกับเหงื่อออกเปียกชุ่ม “เหอะ ๆ คงเป็นเพราะเด็ก ๆ เล่นซน ไม่ระวังเลยออกแรงเกินไปหน่อย” ครั้นนึกถึงความไม่เอาไหนของบุตรสาวของตน บางทีอาจจะแอบทำเรื่องโหดร้ายอย่างเหยียบกระต่ายของน้องเยว่จนตายก็ได้ ทันทีที่เงยหน้า ก็เห็นองครักษ์สองคนเฝ้าอยู่นอกจวนแล้ว ในมือถือหอกกันทุกคน สีหน้าตึงเครียด หากมีสิ่งใดผิดปกติคงจะพุ่งเข้ามาทันที ฮูหยินซุนไม่กล้าพูดจ
Baca selengkapnya
Sebelumnya
1
...
195196197198199200
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status