All Chapters of ชายาแพทย์พลิกชะตา: Chapter 1991 - Chapter 2000

2146 Chapters

บทที่ 1991

“คุณหนูใหญ่เพิ่งถูกท่านพาไปข้างไว้ที่ด้านหลัง ตอนนี้กำลังโมโหมากเจ้าค่ะนางบอกว่าท่านไม่ตามใจนาง ไม่สามารถส่งนางเข้าวัง ตอนนี้อยู่ในห้อง เกลี้ยกล่อมอย่างไรก็ไม่ยอมฟัง ทั้งทุบทั้งขว้าง และยังไล่สาวออกมาใช้ทั้งหมด” แม่นมกล่าวพลางส่ายศีรษะคุณหนูใหญ่นิสัยไม่ดีตั้งแต่เด็ก ไม่รู้ว่าโตมาจะเป็นอย่างไร ส่วนคุณหนูเยว่แม้สติไม่ดี แต่นิสัยดีมาก ไม่ว่าคนรับใช้จะทำอะไรก็ไม่เคยโกรธ และยิ่งไม่เคยผูกใจเจ็บไม่น่าแปลกใจที่ฮองเฮาจะให้คุณหนูเยว่อยู่ในวังต่อซุนฮูหยินลูบไข่มุกแม่น้ำแมนจูเรียนในมือ สีหน้าก็ฉายแววรำคาญ“อยากโมโหก็ให้นางโมโหไปเถอะ โตป่านนี้แล้วยังไม่รู้จักแยกแยะหนักเบาอีก”ตอนแรกซุนฮูหยินยังรู้สึกไม่สบายใจ เหตุใดคนที่เข้าวังไม่ใช่ลูกสาวของตน?แต่พอได้รับรางวัลจากกู้หว่านเยว่ก็พึ่งพอใจมาก ยังจะมีเรื่องอะไรขุ่นเคืองอีก “เด็กคนนี้นิสัยไม่ดี ควรหาอาจารย์หญิงสักคนมาสอนนางเรื่องหลักและเหตุผลหน่อย วันข้างหน้าจะได้ไม่ก่อเรื่องใหญ่โต”แม่นมรู้สึกแปลกใจ เหตุใดจู่ๆ ซุนฮูหยินก็กลายเป็นนิ่งเฉยเช่นนี้“ฮูหยิน ท่านไม่โกรธเรื่องของคุณหนูเยว่เลยหรือ?”ฮูหยินซุนส่ายศีรษะ นางไม่ได้ให้ความสำคัญก
Read more

บทที่ 1992

“ผู้ดูแล เถ้าแก่น้อยของพวกเจ้าอยู่หรือไม่?”ผู้ดูแลเงยหน้ามองกู้หว่านเยว่ด้วยความสงสัยแวบหนึ่ง เมื่อเห็นเครื่องแต่งกายของกู้หว่านเยว่ดูดีมีฐานะ จึงกล่าวด้วยท่าทีนอบน้อม“ตอนนี้เถ้าแก่น้อยของเรากำลังดูบัญชีอยู่ที่ชั้นบนขอรับ แต่เถ้าแก่น้อยกำชับไว้ว่าเขาไม่พบแขกทั่วไป ไม่ทราบว่าฮูหยินท่านนี้จะพบเถ้าแก่น้อยของเรา มีธุระสำคัญอะไรหรือไม่?”กู้หว่านเยว่ยิ้มแล้วยิ้มอีก อวิ๋นมู่ยังคงไม่ชอบออกไปไหนเหมือนเมื่อก่อนตนแค่เดาก็รู้แล้วว่าเขาอยู่ในเฉียนจวงแห่งนี้นางล้วงป้ายคำสั่งผู้นำตระกูลออกจากหน้าอก เมื่อผู้ดูแลเห็นก็ต้องเบิกตากว้าง และหันไปมองกู้หว่านเยว่อย่างไม่เชื่อสายตาอยู่หลายรอบ “ท่าน ท่านคือ…”ชิงเหลียนก้าวออกมาเตือนเสียงเบา “ฮูหยินของเราไม่อยากเปิดเผยตัวตน รีบไปรายงานเถ้าแก่น้อยของพวกเจ้าเดี๋ยวนี้”ผู้ดูแลรีบพยักหน้า“โปรดวางใจ ข้าน้อยจะไปรายงานเถ้าแก่น้อยเดี๋ยวนี้ขอรับ”เขากล่าวพลางคืนป้ายคำสั่งผู้นำตระกูลให้กู้หว่านเยว่ หลังจากนั้นก็รีบวิ่งขึ้นชั้นบนไปแล้วผ่านไปครู่หนึ่ง ร่างเงาสีขาวสายหนึ่งแทบจะกระโดดลงมาจากชั้นบน“หว่านเยว่!”เสียงอันนุ่มนวลของชายหนุ่มปนความร้อนใจเล็กน้อย
Read more

บทที่ 1993

แม้เขาไม่มีความรู้เรื่องศาสตร์สมุนไพร แต่แค่ดูก็รู้ว่าสมุนไพรต้นนี้ล้ำค่ามาก อีกทั้งยาที่กู้หว่านเยว่เคยใช้บำรุงเขาก็เห็นผลจริง ด้วยเหตุนี้อวิ๋นมู่จึงรับสมุนไพรมาโดยไร้ข้อกางขาใดๆ“หว่านเยว่ ขอบคุณท่านมาก แม้จะอยู่ข้างนอกก็ยังไม่ลืมข้า”อวิ๋นมู่รู้สึกซาบซึ้งจริงๆ ที่กู้หว่านเยว่ยังจดจำเขาไว้ในใจ และรู้สึกซาบซึ้งมากที่นำสมุนไพรมาให้เขา“พวกเราเป็นสหายกันมากี่ปีแล้ว พูดเช่นนี้ฟังดูห่างเหินกันเกินไปแล้วนะ”กู้หว่านเยว่ถือโอกาสนี้ตรวจชีพจรให้อวิ๋นมู่ แม้หลายปีนี้โรคของเขายังไม่หายขาด แต่ก็ดูแลสุขภาพอย่างดีตามที่นางแนะนำมาโดยตลอดอวิ๋นมู่ยิ้มแล้วยิ้มอีกใช่แล้ว ในใจเขาเห็นมองกู้หว่านเยว่เป็นคนรู้ใจไปแล้ว“สองปีที่ท่านไม่อยู่ สองปีที่ท่านไม่อยู่ ข้าให้คนเย็บสมุดบัญชีของสกุลอวิ๋นเข้าเล่ม และเก็บไว้ในเฉียนจวงแห่งนี้ตลอด จะได้สะดวกตอนที่ท่านมาตรวจอยู่ นี่คือกุญแจ”อวิ๋นมู่ล้วงกุญแจดอกหนึ่งออกมายื่นให้กู้หว่านเยว่ กุญแจดอกนี้เขาพกติดตัวตลอด และก็คาดหวังมากเช่นกันว่า ไม่แน่ว่าวันไหนที่กู้หว่านเยว่กลับมา ถึงเวลาเขาก็สามารถมอบกุญแจดอกนี้ให้กู้หว่านเยว่กับมือตัวเองกู้หว่านเยว่ยื่นมือไปรับก
Read more

บทที่ 1994

ถ้าหากการตายของใต้เท้าจี้มีเงื่อนงำจริงๆ เช่นนั้นกู้หว่านเยว่ก็จำเป็นต้องทวงความเป็นธรรมให้สกุลจี้ จะปล่อยให้ใต้เท้าจี้ตายอย่างรอให้ความยุติธรรมไม่ได้เด็ดขาดเผชิญหน้ากับการจี้ถามของกู้หว่านเยว่ อวิ๋นมู่เงียบไปชั่วขณะหลังจากนั้นจึงค่อยๆ กล่าว“ท่านเองก็รู้ การค้าของสกุลอวิ๋นแผ่ขยายไปทั่วทั้งแผ่นดิน แทบจะทุกที่ล้วนมีร้านค้าของสกุลอวิ๋น โดยเฉพาะเจดีย์หนิงกู่ เป็นสถานที่ที่พวกเราเริ่มทำการค้า ดังนั้นที่นั้นย่อมมีร้านค้ามากเป็นพิเศษ”กู้หว่านเยว่พยักหน้า นางรู้เรื่องนี้ร้านค้าเหล่านี้มีหน้าทีหลักอยู่สองอย่าง หนึ่งคือเป็นแหล่งทำเงินของสกุลอวิ๋น และต่อมาก็กลายเป็นเครือข่ายข่าวกรองแบบเรียบง่าย ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล“เคยมีโรงน้ำชาแห่งหนึ่งส่งข้อมูลสำคัญให้ข้า”“ข้อมูลอะไร?”“พวกเขาบอกว่า มีชายคนหนึ่งเคยพูดว่า ใต้เท้าจี้ขัดผลประโยชน์ของเขาขณะดื่มชาในโรงน้ำชา”อวิ๋นมู่นึกย้อนกลับไป“เขาเคยพยายามประจบสอพลอใต้เท้าจี้ แต่น่าเสียใดที่ไม่มีประโยชน์ สุดท้ายจึงเชิญคนมาวางแผน อยากจะกำจัดเขาทิ้งเสีย”เขากล่าว “ข้าเคยถามอย่างละเอียดว่าคำพูดเหล่านี้เกิดขึ้นเมื่อไร คนของข้าก็บอกกับข้าอย่างชั
Read more

บทที่ 1995

นี่เพิ่งจะผ่านไปนานแค่ไหนเอง จี้เยว่ก็สนิทกับจ้านจ้านมากแล้ว นางคอยเดินตามเขาอยู่ข้างๆ ทีละก้าวบางครั้งที่ตามไม่ทัน จ้านจ้านก็จะหยุดรอจนกว่าจี้เยว่จะตามทันอย่างมีความอดทน“เดินช้าหน่อย เดิมทีเจ้าก็ไม่ฉลาดอยู่แล้ว อย่าหกล้มเสียล่ะ” จ้านจ้านหยุดฝีเท้า สายตาจ้องไปที่จี้เยว่ เพียงแต่สิ่งที่พูดออกมาไม่ค่อยไพเราะนักโชคดีที่จี้เยว่ก็ไม่เข้าใจ ปัจจุบันนางอายุสี่ขวบกว่า พอเข้าใจคำพูดของผู้อื่นอยู่บ้าง แต่ไม่มากและส่วนใหญ่ นางมักจะคาดเดาความหมายของคำพูดอีกฝ่ายจากน้ำเสียงตอนนี้ก็เป็นเช่นนี้นางฟังออก องค์ชายกำลังเป็นห่วงนาง“องค์ชาย กินข้าวแล้ว” จี้เยว่ยื่นมือน้อยไปดึงชายเสื้อของจ้านจ้าน จ้านจ้านพยักหน้า “เป็นยัยบ๊องจริงๆ รู้จักแต่กินข้าว”เขาลากจี้เยว่มาถึงตรงหน้ากู้หว่านเยว่กับซูจิ่งสิ่ง แล้วทักทายทั้งสองอย่างนอบน้อม“กระหม่อมถวายบังคมเสด็จพ่อเสด็จแม่พ่ะย่ะค่ะ”จี้เยว่ยังไม่เข้าใจอะไรนัก ตอนนี้นางยังจำหน้าผู้คนได้ไม่หมดเลย เข้าวังวันที่สอง นางจำได้แค่ชิงเหลียนกับจ้านจ้านพี่ชิงเหลียนบอกนางว่า อยู่ในวังห้ามพูดจาส่งเดช ต้องหัดสังเกตและเรียนรู้เยอะๆเมื่อจี้เยว่เห็นการกระทำขององค
Read more

บทที่ 1996

กู้หว่านเยว่คิดแล้วคิดอีก ในเมื่อจี้เยว่จะอยู่ในวัง ก็ต้องมีการจัดการที่เหมาะสม“อาหาร เครื่องแต่งกาย และของใช้ของนาง ให้จัดตามมาตรฐานของจ้านจ้านทั้งหมด ถ้าขาดเหลืออะไร เจ้าไปเบิกเอาได้เลย ไม่ต้องกังวลใดๆ”ชิงเหลียนรีบพยักหน้า “หม่อมฉันทราบแล้วเพคะ”นางกล่าวกับจี้เยว่ด้วยรอยยิ้ม “คุณหนูเยว่ รีบขอบพระทัยพระมเหสีสิ”จี้เยว่เงยหน้า “ขอบพระทัยพระมเหสีเพคะ”“ไม่ต้องเกรงใจ”กู้หว่านเยว่ยิ้มพลางหยิกแก้มของนางเบาๆ จ้านจ้านที่อยู่ด้านข้างเบะปากกล่าว “เดิมทีเสด็จแม่ก็มีเวลาให้ข้าไม่มาก ตอนนี้พอนางมา ในสายตาเสด็จแม่ยิ่งไม่มีข้าแล้ว”ซูจิ่งสิงกล่าวอย่างจนคำ “ลูกผู้ชายอกสามศอกยังจะน้อยใจอีก”“กระหม่อมเรียนมาจากเสด็จพ่อนั่นแหละ เสด็จพ่อก็มักจะน้อยใจไม่ใช่หรือ?” จ้านจ้านฉลาดเกินวัย คำพูดของเขาทำเอาซูจิ่งสิงสำลักโดยตรงขณะที่ทั้งสองกำลังสนทนา ร่างกายของจี้เยว่ที่ข้างๆ ชะงักกะทันหัน ใบหน้าบิดเบี้ยวดูเจ็บปวดเล็กน้อย จากนั้นก็กุมหน้าอกด้วยสีหน้าที่ซีดเผือก“เจ็บ เจ็บจัง!”“เป็นอะไร?” กู้หว่านเยว่อยู่ใกล้จี้เยว่ที่สุด จึงรีบประคองร่างกายของนางไว้เพียงแค่คู่เดียว จี้เยว่ก็เหงื่อท่วมศีรษะ ร่างก
Read more

บทที่ 1997

จี้เยว่หมดสติไปแล้ว แต่ยังขมวดคิ้วแน่น เห็นได้ว่านางทรมานมากชิงเหลียนกล่าวอย่างปวดใจ “พระมเหสี หรือไม่ให้หม่อมฉันออกจากวัง ไปถามจวนซุนเดี๋ยวนี้?”ข้างกายจี้เยว่ไม่มีสาวใช้คนสนิทเมื่อกู้หว่านเยว่ที่ได้ยินก็ส่ายศีรษะ “ไม่จำเป็นแล้ว ข้าว่าเด็กคนนี้ไม่ได้เป็นโรคหัวใจ”นางยื่นมือไปลูบท้ายทอยก่อนจี้เยว่หลังจากลูบอยู่พักใหญ่ มือของกู้หว่านเยว่ไปหยุดอยู่ที่จุดหนึ่ง สีหน้าก็ค่อยๆ เคร่งขรึมลง“เหมือนกับที่ข้าคิดไว้ไม่มีผิด”“หมายความว่าอย่างไร?” ซูจิ่งสิงจับมือจ้านจ้านที่สีน่าดูร้อนใจอย่างเห็นได้ชัดยืนรอที่ข้างๆ “ที่ท้ายทอยของจี้เยว่มีเข็มเงินปักอยู่หนึ่งเล่ม เข็มเงินเล่มนี้ปิดกั้นเส้นลมปราณของนาง ไม่แปลกใจเลยที่นางสติไม่สมประกอบ”อาการเจ็บที่หน้าอกก็เป็นผลจากเข็มเงินเล่มนี้เช่นกันซูจิ่งสิงขมวดคิ้วแน่น “เจ้าบอกว่าที่ท้ายทอยของเด็กคนนี้มีเก็บเงินปักอยู่หนึ่งเล่ม?”ใครกันที่ใจดำเช่นนี้ ถึงขั้นลงมือกับเด็กคนหนึ่งได้ลงคอ“สามารถดึงเก็บเงินเล่มนี้ออกมาหรือไม่?”กู้หว่านเยว่ลองลูบคลำครู่หนึ่งก็ชักมือกลับมาพลางส่ายหัวด้วยความผิดหวัง“เข็มเงินเล่มนี้อยู่ในร่างกายจี้เยว่มาได้สักระยะแ
Read more

บทที่ 1998

หลังจากทั้งสองคุยกันเสร็จ ลั่วยางเห็นจ้านจ้านยืนเฝ้าจี้เยว่ที่ข้างเตียง จึงอดประหลาดใจไม่ได้“ปกติองค์ชายน้อยไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตาเลย วันนี้กลับห่วงใยเด็กผู้หญิงคนนี้ถึงเพียงนี้”กู้หว่านเยว่เลิกคิ้วลูกชายเป็นคนนิสัยเฉยชาจริงนั่นแหละหายากนักที่จะมีใครสักคนเข้าตาเขาแม้กู้หว่านเยว่ไม่สามารถดึงเข็มเงินออกจากท้ายทอยของจี้เยว่ แต่อยากให้นางฟื้นนั้นไม่ใช่ปัญหา เพียง ไม่นานจี้เยว่ก็ค่อยๆ ลืมตานางขยี้ตาก็พบว่าทุกคนมาล้อมอยู่ที่หน้าเตียงจี้เยว่รู้สึกไม่ค่อยชิน รีบมองหาจ้านจ้านทันที“องค์ชาย” นางเรียกเสียงอ่อน “กินข้าว”ความหมายคือ เมื่อครู่ยังกินข้าวอยู่เลย เหตุใดจู่ๆ ก็มานอนบนเตียงแล้ว อีกทั้งทุกคนยังกำลังจ้องนางจ้านจ้านเบะปาก “ไม่เพียงเป็นยัยบ๊อง ยังเป็นแมวตะกละด้วย”ไม่นานนัก ชิงเหลียนก็กลับมาสีหน้าของนางดูเคร่งขรึมกว่าตอนไป“พระมเหสี หม่อมฉันถามคนสกุลซุนแล้ว ซุนฮูหยินไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยเพคะแต่สาวใช้สองคนที่ดูแลจี้เยว่รู้เรื่องนี้เพียงแต่พวกนางก็รู้แค่ว่าบางครั้งจี้เยว่จะมีอาการปวดหัวและแน่นหน้าอก แต่ไม่รู้สาเหตุ ดูจากท่าทางของพวกนางไม่เหมือนกำลังโกหก
Read more

บทที่ 1999

กู้หว่านเยว่ยังได้ถือโอกาสนี้ถามสถานการณ์ของจิ่นเอ๋อร์ด้วย ลั่วยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้าเขียนจดหมายหาอาจารย์ ใช่ว่าเขาจะกลับมาเสมอไป แต่ถ้าเขารู้ว่าท่านมีสมุนไพรหายาก ไม่เกินสามวันก็จะปรากฏตัวในเมืองหลวงแน่นอน”บนใบหน้าของนางปรากฏแววอิจฉาเสี้ยวหนึ่งที่จริงไม่เพียงแค่อาจารย์ ถ้าหากนางได้ยินว่ามีสมุนไพรหายาก ก็จะรีบมาหาเช่นกันสำหรับคนเป็นหมออย่างพวกเขา ของเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถปฏิเสธเหมือนกู้หว่านเยว่มองความคิดนางออก“อย่าเพิ่งใจร้อน นอกจากให้อาจารย์ของเจ้า ข้ายังมีสมุนไพรอีกไม่น้อยที่จะให้เจ้าสมุนไพรพวกนี้ล้วนเป็นของที่ข้าเอากลับมาจากที่ราบแห่งความโกลาหลบางส่วนก็แปรรูปแล้ว สามารถเอาไปใช้ได้เลยและบางส่วนยังมีดินติดอยู่ เจ้าสามารถลองเอาไปปลูกดูว่าจะรอดหรือไม่”ลั่วยางคิดไม่ถึงว่าจะมีส่วนของตนเองด้วย รอยยิ้มแห่งความดีใจจึงเปล่งประกายทั่วใบหน้าทันที“พระมเหสี ท่านยังเตรียมของไว้ให้ข้าด้วย?”นางรู้สึกเลื่อมใสในตัวกู้หว่านเยว่มากการถูกคนที่ตนเองเลื่อมใสจดจำ ความรู้สึกเช่นนี้มันวิเศษจงอธิบายไม่ถูกจริงๆกู้หว่านเยว่กะพริบตาปริบๆ “เป็นอย่างไร เจ้าอยากได้หรือไม่อยากได้?
Read more

บทที่ 2000

เช้าวันนี้ไม่ตรวจเพราะยุ่งเกินไป เพิ่งจะมาว่างตอนนี้ ตั้งใจว่าจะตรวจให้นางอย่างละเอียด ซูจิ่นเอ๋อร์ยื่นมือออกไปอย่างสั่นเทาเมื่อกู้หว่านเยว่วางปลายนิ้วลงไป ใบหน้านางยิ่งเต็มไปด้วยความหวาดกลัว และยังประหม่าจนกลั้นหายใจพลันกู้หว่านเยว่ก็ขมวดคิ้วซูจิ่นเอ๋อร์รีบถาม “เป็นอย่างไรพี่สะใภ้ใหญ่ ข้ายังสามารถมีลูกหรือไม่?”กู้หว่านเยว่พบความผิดปกติบางอย่าง “เหตุใดเจ้าประหม่าเช่นนี้? ฟู่หลานเหิงล่ะ เจ้ากลับเมืองหลวงครั้งนี้ เหตุใดเขาไม่มากับเจ้า?”ซูจิ่นเอ๋อร์ลังเลครู่หนึ่ง “เขามา แต่ แต่อยู่ที่สกุลฟู่ จึงไม่ได้เข้าวังมาด้วยกัน”สีหน้ากู้หว่านเยว่จริงจังขึ้นมาก“เจ้าบอกข้ามาตามตรง เจ้ามีเรื่องปิดบังข้าใช่หรือไม่?”ซูจิ่นเอ๋อร์จะร้องไห้แล้ว นางกล่าวอ้อนวอน “พี่สะใภ้ใหญ่ ได้โปรดท่านบอกข้าเถอะ”กู้หว่านเยว่ปล่อยมือ พลางกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ “ภายในร่างกายมีความเย็นสะสมมากเกินไป น่าจะเป็นเพราะเผชิญความหนาวเหน็บอย่างรุนแรงตอนเดินทางไปเจดีย์หนิงกู่ จึงทิ้งอาการไว้จนถึงตอนนี้”“แต่นี่ไม่ได้ยากเกินกว่าจะรักษา ขอแค่ดูแลตัวเองดีๆ และดื่มยาอีกหน่อย ไม่เกินหนึ่งปีก็จะดีขึ้นเอง”เมื่อพูดถึงตรงนี้
Read more
PREV
1
...
198199200201202
...
215
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status