Semua Bab ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ: Bab 691 - Bab 700

859 Bab

บทที่ 691

เมื่อทั้งสามเดินออกจากร้านจำหน่ายเสื้อผ้า ถังหมิงเซวียนยังไม่คิดกล่าวอำลาเหยียนอวี่เอ่ยปากด้วยความละอายใจ “เมื่อครู่เพราะข้าล่วงเกินคุณชายไป ขอโปรดให้อภัยด้วย”ถังหมิงเซวียนเห็นว่าตนได้บรรลุจุดประสงค์แล้ว จึงรีบคารวะตอบกลับคนทั้งคู่“โปรดอย่าได้เกรงใจ เราต่างพบกันโดยบังเอิญ ได้รู้จักก็นับเป็นวาสนา”“ข้าเห็นแม่นางมีฝีมือไม่เลว ไม่ทราบพอตัดเย็บเสื้อผ้าให้ข้าสักชุดได้หรือไม่?”ถังหมิงเซวียนกล่าว พลางหยิบเงินจำนวนหนึ่งออกมาจากถุงเงิน“นี่คือเงินมัดจำสำหรับการซื้อเสื้อผ้า รบกวนแม่นางช่วยวัดตัวและตัดให้ข้าสักหนึ่งชุด”เหยียนซวงพอดูออกว่า ถังหมิงเซวียนหาใช่คนพาลเกเรตามที่นางคาดคิดไม่พลางพิจารณาถังหมิงเซวียนตั้งแต่ศีรษะจรดเท้ารอบหนึ่ง ในใจพอประมาณการได้บ้าง“ขอถามคุณชายบ้านอยู่หนใด เผื่อข้าตัดเย็บเสื้อผ้าเสร็จแล้ว จะติดต่อท่านได้อย่างไร?”ถังหมิงเซวียนคิดจะบอกที่ตั้งโรงเตี๊ยมที่ตนพักอยู่ให้นางรู้ แต่กลับเฉลียวใจฉุกคิด มิสู้ถามที่อยู่อีกฝ่ายจะดีกว่าเช่นนี้แล้ว วันหน้ามีเวลาจะได้แวะไปเยี่ยมเยียนนางจึงกล่าวตอบยิ้มๆ “อย่าได้รบกวนแม่นางนำเสื้อมาส่งแก่ข้าเลย สู้บอกที่อยู่ให้ข้ารู้ คา
Baca selengkapnya

บทที่ 692

ทันใดนั้นเขายังมองไปที่หน้าแข้งของหม่าลู่ ซึ่งโผล่พ้นชายกระโปรงออกมารำไรเดิมทีควรจะมีขนหน้าแข้งหนาทึบเป็นชั้นๆ แต่บัดนี้กลับถูกโกนจนเกลี้ยงเกลาขาวสะอาดหม่าลู่เหลียวมองเจี่ยนอันอันด้วยสีหน้าจนใจ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความคิดของนางจนยามนี้แม้แต่พี่น้องแท้ๆ ยังจำเขาไม่ได้อีกเจี่ยนอันอันหลุดหัวเราะออกมา นางกล่าวยิ้มๆ ต่อหม่าลู่ “เป็นอย่างไรบ้าง ความคิดข้าไม่เลวใช่หรือไม่?”“ยามนี้ถึงขั้นน้องชายแท้ๆ ยังจำท่านไม่ได้ อย่าว่าแต่ทหารที่ไล่ตามมาเลย”หม่าลู่เหยียดริมฝีปาก ไม่รู้จะตอบโต้นางอย่างไรดีด้วยระหว่างทางทั้งเขาและเฉินเช่อ แทบกลายเป็นจุดสนใจของผู้คนก็ว่าได้ทุกคนที่ผ่านไปมา ล้วนต้องหยุดฝีเท้าและหันมาจ้องมองพวกเขาปากก็พร่ำนินทาไม่หยุด ต่างบอกว่าสองคนนี้ช่างอัปลักษณ์สิ้นดี ใครเห็นเข้าคงจะถูกหลอนไปนาน กลางคืนฝันร้ายเป็นแม่นมั่นเฉินเช่อกล่าวเสียงเบา “ฮูหยินช่างมีความคิดพิเรนทร์นัก แต่ก็ดีที่เราแต่งกายเช่นนี้ ช่วยให้ตัดปัญหาไปได้มาก”เจี่ยนอันอันปิดปากแอบหัวเราะ นางคุ้นชินกับการแต่งกายของพวกเขานานแล้วและหม่าจั๋วก็เพิ่งจำได้ ว่าผู้ที่เอ่ยปากก็คือเฉินเช่อเขาตะลึงจนหัวใจแทบหล่นไป
Baca selengkapnya

บทที่ 693

ขณะที่นางก็กำลังคิดเช่นกัน พลันอุโบสถด้านในเกิดเสียงดัง ‘โครม’ ขึ้นทั้งคู่ต่างสบตา แล้ววิ่งเข้าไปด้านในทันทีภายในอุโบสถมีพุทธรูปตั้งอยู่สามองค์ ขาดการเซ่นไหว้ด้วยธูปนานแล้วทันทีที่เข้าไปถึง ฉู่จวินสิงก็ตระหนักถึงไอสังหารอยู่รอบกายมีดาบยาวเล่มหนึ่งพุ่งมาทางพวกเขาฉู่จวินสิงรีบดึงตัวเจี่ยนอันอันให้ถอยหลัง พร้อมยกเท้าขึ้นเตะดาบกระเด็นไปเขาชักกระบี่เฝินเทียนที่เหน็บอยู่บั้นเอวออกมา สายตาเย็นชามองปราดไปรอบข้างไม่นานก็เห็นเงาหนึ่งแวบผ่านไป“นั่นใคร หยุดนะ!”ฉู่จวินสิงดึงตัวเจี่ยนอันอัน พร้อมพุ่งตัวไปยังเงานั้นขณะทั้งคู่มาถึงอุโบสถด้านหลัง พลันมีดาบยาวอีกหนึ่งเล่มพุ่งตรงมาฉู่จวินสิงรีบใช้กระบี่เฝินเทียน ฟันดาบที่พุ่งมาขาดเป็นสองท่อนลู่ซานมองดูดาบในมือตน ช่างถูกฟันหักได้อย่างง่ายดายยิ่งเขาเปล่งเสียงคำราม พร้อมจู่โจมไปทางฉู่จวินสิงอีกหลังจากฉู่จวินสิงเห็นหน้าอีกฝ่ายชัดเจน จึงใช้วิธีหมุนตัว เตะอีกฝ่ายจนล้มลงกับพื้นเขาไม่ได้ใช้กำลังทั้งหมด ด้วยเกรงว่าเพียงลูกเตะจะทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บลู่ซานถูกเตะจนล้มลง มือกุมจุดที่โดนเตะ พยายามลุกขึ้นเพื่อจะต่อสู้อีกครั้งฉู่จวินสิงรี
Baca selengkapnya

บทที่ 694

แต่ฉู่จวินสิงกลับไม่คิดเช่นนั้น เขากับเจี่ยนอันอันสามารถใช้พลังแห่งการเคลื่อนย้ายชั่วพริบตากลับไปเมื่อใดก็ได้แต่กว่าจะตามหาลูกน้องทั้งสามจนพบมิใช่เรื่องง่าย จึงไม่อยากให้พวกเขาจากไปอีกและพวกเขายังไม่ได้ผ่านการแปลงโฉม หากถูกทหารพบเห็นเข้า คงไม่พ้นเกิดการเข่นฆ่าขึ้นมาพวกหลิ่วหยวนนั่งอยู่ในรถม้า ต่างไม่กล้ามองหน้าเจี่ยนอันอันโดยตรงเจี่ยนอันอันจึงถือโอกาสนี้หลับตานิ่ง ส่งภวังค์เข้าไปในห้วงมิติอีกนางคิดมองหาร้านค้าในมิติ ว่าพอมีหน้ากากหนังมนุษย์วางขายอยู่หรือไม่แต่นางสำรวจมารอบหนึ่งก็ยังหาไม่พบ จึงได้แต่คิดหาวิธีอื่นหากพวกเขาจะกลับไปเมืองจิงโจวพร้อมกันจริง จะต้องแปลงโฉมเป็นผู้อื่นเสียก่อนมิเช่นนั้นอาจถูกคนของฉู่ชางเหยียนจับได้ขณะที่เจี่ยนอันอันกำลังคิดว่าจะหาหน้ากากหนังมนุษย์ได้จากที่ใด พลันรถม้าก็หยุดลงพวกหลิ่วหยวนไม่กล้าแหวกม่านออกไปดู เพราะได้ยินเสียงสนทนาที่อยู่ด้านนอกรถม้ามีทหารผู้หนึ่งกล่าว “ใต้เท้าอิ่น ท่านมาอยู่นี่ได้อย่างไร?”ฉู่จวินสิงแสร้งกดเสียงต่ำลง “ฝ่าบาทมีรับสั่งให้มาจับนักโทษหลบหนี”ทหารมองดูรถม้า คิดเปิดผ้าม่านไปดูว่าข้างในมีคนที่พวกเขาต้องการจับตัว
Baca selengkapnya

บทที่ 695

เพียงไม่นานหนังหน้าของทหารสิบกว่าคน ก็ได้ถูกฉู่จวินสิงกรีดออกมาจนสิ้นเขานำหนังหน้ามนุษย์ที่ชุ่มด้วยโลหิต ยื่นส่งให้เจี่ยนอันอันเจี่ยนอันอันยิ้มแย้มขณะรับมา พลางส่งเข้าไปในห้วงมิติ ใช้น้ำพุวิญญาณแช่เอาไว้หนังใบหน้าที่ผ่านการแช่มา ไม่เพียงมีความนุ่มลื่น ผิวนั้นยังใสกระจ่างเป็นอย่างมากหลังจากแช่หนังใบหน้าเรียบร้อย เจี่ยนอันอันจึงหยิบผงสลายศพออกมา นำร่างทหารสิบกว่าคนนั้นสลายจนกลายเป็นของเหลวทำเอาหลิ่วหยวนกับพวกมองจนตาค้างพวกเขารู้ดีว่าท่านอ๋องไม่เคยปรานีต่อศัตรูก็จริงแต่ไม่คาดคิดว่าพระชายาจะโหดร้ายยิ่งกว่าเจี่ยนอันอันมองดูพวกหลิ่วหยวนที่ยืนตาค้าง พลางยิ้มเล็กน้อย “อย่ามัวยืนเฉยเลย รีบขึ้นรถเถิด”หลิ่วหยวนกับพวกจึงค่อยตั้งสติกลับมา พวกเขาต่างขึ้นรถม้า ปล่อยให้ฉู่จวินสิงควบเดินทางต่อไปรถม้าเดินทางราวหนึ่งชั่วยาม ในที่สุดก็มาถึงหมู่บ้านทุกคนต่างลงจากรถม้า พร้อมเคาะประตูลานบ้านทันใดนั้นเอง หวังโหย่วเหอเห็นฉู่จวินสิงกับเจี่ยนอันอันกลับมา จึงรีบก้าวเท้ามาหาพลางคารวะต่อคนทั้งคู่ “ขอถามท่านทั้งสอง เรื่องที่ลูกข้าสมัยก่อนเข้าสอบจอหงวน แล้วถูกแอบอ้างชื่อแทน ไม่ทราบพอมีเบาะแส
Baca selengkapnya

บทที่ 696

แต่เป็นเช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน เมื่อตามหาคนจนพบแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะทำสิ่งใดก็สะดวกขึ้นเมื่อทุกคนเห็นว่าฉู่จวินสิงตัดสินใจแน่วแน่ จึงต่างเบนสายตาไปยังเจี่ยนอันอันแทนพวกเขาต้องการให้นางช่วยเกลี้ยกล่อมนายท่าน แต่กลับเห็นนางมีท่าทีไม่รู้ร้อนรู้หนาว“พวกท่านจงวางใจเถิด ป่านนี้แล้วยังไม่เชื่อมั่นในความสามารถของนายท่านอีกรึ?”คำพูดของเจี่ยนอันอัน ทำให้พวกหม่าลู่ต่างเงียบเสียงลงท่านอ๋องของพวกเขาเก่งกล้าสามารถโดยแท้ หาไม่คงไม่นำพาพวกเขาไปออกศึกหลายครั้ง ล้วนได้ชัยชนะกลับมาทั้งสิ้นเพียงแต่ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันมิได้มีความเมตตาดั่งเช่นอดีตฮ่องเต้ หากฐานะพวกเขาถูกฮ่องเต้พบเห็นเข้า จะมีโทษถึงขั้นหัวหลุดจากบ่าแน่นอนพวกเขาตายไม่เสียดายหรอก เพราะอย่างไรก็ล้วนเป็นชายโสดทั้งสิ้นแต่ท่านอ๋องไม่เหมือนกัน บัดนี้เขามีภรรยาแล้วหากเกิดเรื่องอันใดขึ้นจริง ฮูหยินคงยากจะทำใจได้เมื่อนึกถึงตรงนี้ สายตาทุกคนมีฉายแววกังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัดเจี่ยนอันอันดูออกว่าพวกเขาเป็นห่วงตนเอง จึงให้รู้สึกอุ่นใจขึ้นเหล่าบริวารของฉู่จวินสิง นับว่ายังพอมีน้ำใจอยู่นางจึงยิ้มให้พวกเขา “ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงแทนข้า”“หา
Baca selengkapnya

บทที่ 697

เสิ่นจืออวี้กลับรั้งแขนเสิ่นจือเจิ้งเอาไว้“พี่ใหญ่ ข้าอยากไปเดินเล่นในอำเภอ ท่านไปกับข้าได้หรือไม่?”เสิ่นจืออวี้มองหน้าเสิ่นจื้อเจิ้งด้วยความคาดหวัง อยากให้เขาไปกับตนด้วยเสิ่นจือเจิ้งกลับมองมือเสิ่นจืออวี้ที่จับอยู่ด้วยความเย็นชา “ปล่อยมือ!”เสิ่นจืออวี้ตกใจจนรีบปล่อยมือออก เขารู้นิสัยเสิ่นจือเจิ้งดี ไม่ชอบให้ผู้อื่นถูกเนื้อต้องตัวแต่เมื่อครู่เพราะเขาร้อนใจเกินไป จึงได้จับแขนของอีกฝ่ายเอาไว้ ขณะที่เสิ่นจืออวี้คิดว่า พี่ชายคงไม่พาเขาไปอำเภอไถหยางแน่นอนกลับได้ยินเสิ่นจือเจิ้งกล่าวเนิบๆ “เจ้าไปเอารถม้ามา”เสิ่นจืออวี้ได้ยินดังนี้ สีหน้ารีบปรากฏรอยยิ้มออกมาเขารีบร้อนวิ่งออกไป จูงรถม้ามาคันหนึ่งขณะเสิ่นจือเจิ้งเดินออกจากลานบ้าน เซียงเสวี่ยได้ติดตามมาด้วยเสิ่นจือเจิ้งหันไปกล่าวต่อนาง “เจ้าอยู่เฝ้าบ้านไว้”เซียงเสวี่ยตอบรับว่า “เจ้าค่ะ” พลางหยุดเดินนางเป็นเพียงสาวใช้ผู้หนึ่ง แม้ใจนึกอยากติดตามไปเที่ยวอำเภอไถหยางบ้าง แต่ก็ต้องฟังคำสั่งเสิ่นจือเจิ้งให้อยู่เฝ้าบ้านแทนจำได้ว่าตอนถูกเนรเทศมาใหม่ๆ นางก็เคยไปอำเภอไถหยางแล้วครั้งหนึ่งแต่เพียงเดินผ่านครู่เดียวเท่านั้น มิได้เ
Baca selengkapnya

บทที่ 698

หากจะถามว่าร้านใดขายอาหารอร่อยบ้าง เขาคงตอบไม่ได้จริงๆและทันใดนั้นเอง ไม่ใกล้ไม่ไกลพลันมีเสียงแหลมกล่าวตวาดขึ้น“เป็นขอทานมาจากที่ใดกัน? ไม่มีตาดูหรือไร เดินมาสุ่มสี่สุ่มห้าเหยียบถูกรองเท้าข้าจนเลอะหมด ชดใช้มาเดี๋ยวนี้!”เสิ่นจืออวี้ถูกเสียงแหลมนั้นสะกดสายตาเข้า จนแม้แต่เซียงเสวี่ยก็พลอยมองตามพลันเห็นเบื้องหน้าของหญิงสาวในชุดสีม่วงอ่อนผู้หนึ่ง มีเด็กชายแต่งกายมอมแมมอีกคนมายืนอยู่เด็กชายถูกหญิงสาวตวาดจนใบหน้าซีดเผือด เขาเงยหน้าขึ้นมองมารดาของตน“ท่านแม่ เมื่อครู่ข้าไม่ตั้งใจเหยียบถูกนาง”เด็กชายกล่าวเสียงอ่อย มือน้อยจับมือมารดาที่อยู่ข้างกายไว้แน่นเสิ่นจืออวี้จำได้ในบัดดล เด็กชายผู้นั้นเป็นบุตรของพี่ใหญ่นามว่าเสิ่นคังและหญิงที่ยืนอยู่กับเขา ก็คือเจียงหว่านเอ๋อร์ในชุดเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นยามนี้เจียงหว่านเอ๋อร์รีบกล่าวขอขมาหญิงสาวเป็นการใหญ่ แต่ยังไม่ได้รับการให้อภัย“ว่าอย่างไร? เพียงแค่ขอโทษก็จะหมดเรื่องกระนั้นรึ ข้าบอกให้จ่ายเงินมา เจ้าไม่ได้ยินหรือไร?”เจี่ยนหลิงเยว่มีสีหน้าหงุดหงิดยิ่ง วันนี้นางช่างโชคร้ายนักติดตามกู้มั่วหลีมาถึงอำเภอซอมซ่อแห่งนี้ กั่วมู่หลีบอกว่าจะไ
Baca selengkapnya

บทที่ 699

แต่เขากำลังจะเดินไป กลับได้ยินเสียงเสิ่นจือเจิ้งดังขึ้นในรถม้า“อย่าได้ไปยุ่งมากความ!”“แต่ว่าพี่ใหญ่ นั่นเป็นอดีตอาซ้อของข้าและคังเอ๋อร์นะ”เสิ่นจืออวี้ไม่เข้าใจจริงๆ เหตุใดพี่ชายจึงมาห้ามเขาไว้เช่นนี้ภาษิตว่าผัวเมียวันเดียวมีบุญคุณทั้งชาติ หนำซ้ำนั่นยังเป็นเลือดเนื้อของพวกเขาต่อให้พี่ใหญ่เกลียดชังเจียงหว่านเอ๋อร์ ก็ไม่สมควรจะพาลไปถึงเสิ่นคังด้วยอีกอย่างสตรีเสื้อม่วงผู้นั้นก็ทำเกินไปจริงๆ เจียงหว่านเอ๋อร์ได้ขอขมานางแล้ว ไฉนจึงยังไม่ยอมรามืออีก?ไม่เพียงตบหน้าเสิ่นคัง ยังตบไปถึงเจียงหว่านเอ๋อร์ด้วยหากเขายังนิ่งดูดายเช่นนี้ คงจะละอายต่อเจียงหว่านเอ๋อร์ที่เคยดูแลเขามาในอดีตเซียงเสวี่ยก็ดูออกเช่นกัน ว่าสองคนนั้นคือเจียงหว่านเอ๋อร์และเสิ่นคังเดิมนางก็ไม่ชอบเจียงหว่านเอ๋อร์อยู่แล้ว และสองวันนี้เจียงหว่านเอ๋อร์ก็ไประรานที่บ้านเสิ่นจือเจิ้งอยู่บ่อยครั้งเมื่อมาเห็นนางถูกผู้อื่นตบตี เซียงเสวี่ยก็รู้สึกสะใจยิ่งในที่สุดก็มีคนมาสั่งสอนเจียงหว่านเอ๋อร์เสียบ้างขณะที่เสิ่นจืออวี้คิดเดินไปช่วยเหลือ กลับเห็นชายอีกคนเดินไปทางนั้นเช่นกัน“เจ้าทำกระไรอยู่?” กู้มั่วหลีเห็นเจี่ยนหลิงเ
Baca selengkapnya

บทที่ 700

เจียงหว่านเอ๋อร์หน้าขรึมลง ไม่มีท่าทีอ่อนน้อมดังเช่นเมื่อครู่นี้อีก“แล้วจะเอาอย่างไร ข้าก็ได้ขอขมาไปแล้ว ยังจะไม่จบไม่สิ้นอีกรึ?เช่นนั้นข้าบอกได้เพียงว่า เอาเงินน่ะไม่มี มีเพียงชีวิตเท่านั้น”เจี่ยนหลิงเยว่ไม่คาดคิดว่า เจียงหว่านเอ๋อร์จะกล้าพูดจาไร้ยางอายเช่นนี้ออกมานางโกรธจนคิดเอ่ยปากโต้ตอบ พลางถูกสายตาเย็นชาของกู้มั่วหลีจ้องมองจนต้องเดินกลับไปเจี่ยนหลิงเยว่โกรธจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แต่เมื่ออยู่ต่อหน้ากู้มั่วหลี จะใช้อำนาจบาตรใหญ่เกินไปก็ไม่กล้า“ยังคิดจะอาละวาดไปถึงเมื่อใด?” กู้มั่วหลีกล่าวเสียงเย็นชา จนแม้แต่เจียงหว่านเอ๋อร์ยังก้มหน้างุดเจี่ยนหลิงเยว่โกรธจนกระทืบเท้า จึงยอมหลีกทางให้เจียงหว่านเอ๋อร์จูงมือน้อยของเสิ่นคังแล้วเดินจากไปกู้มั่วหลีมองดูสีหน้าไม่พอใจของเจี่ยนหลิงเยว่ พลางกล่าวเย็นชา “กลับไปกับข้า ครั้งหน้าจะไม่พาเจ้าออกมาอีกแล้ว”“คุณชายกู้ เรื่องนี้มิใช่ความผิดข้าเสียหน่อย เหตุใดท่านจึงชอบมาดุข้าเช่นนี้เจ้าคะ”เจี่ยนหลิงเยว่น้อยใจจนรู้สึกแสบในจมูก น้ำตาคลอเบ้าขึ้นมากู้มั่วหลีไม่คิดสนใจนางอีก พลางเดินไปข้างหน้าเจี่ยนหลิงเยว่ถลึงตาใส่แผ่นหลังของเจียงหว่า
Baca selengkapnya
Sebelumnya
1
...
6869707172
...
86
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status