แชร์

บทที่ 693

ผู้เขียน: ซินต้งหรูสุ่ย
ขณะที่นางก็กำลังคิดเช่นกัน พลันอุโบสถด้านในเกิดเสียงดัง ‘โครม’ ขึ้น

ทั้งคู่ต่างสบตา แล้ววิ่งเข้าไปด้านในทันที

ภายในอุโบสถมีพุทธรูปตั้งอยู่สามองค์ ขาดการเซ่นไหว้ด้วยธูปนานแล้ว

ทันทีที่เข้าไปถึง ฉู่จวินสิงก็ตระหนักถึงไอสังหารอยู่รอบกาย

มีดาบยาวเล่มหนึ่งพุ่งมาทางพวกเขา

ฉู่จวินสิงรีบดึงตัวเจี่ยนอันอันให้ถอยหลัง พร้อมยกเท้าขึ้นเตะดาบกระเด็นไป

เขาชักกระบี่เฝินเทียนที่เหน็บอยู่บั้นเอวออกมา สายตาเย็นชามองปราดไปรอบข้าง

ไม่นานก็เห็นเงาหนึ่งแวบผ่านไป

“นั่นใคร หยุดนะ!”

ฉู่จวินสิงดึงตัวเจี่ยนอันอัน พร้อมพุ่งตัวไปยังเงานั้น

ขณะทั้งคู่มาถึงอุโบสถด้านหลัง พลันมีดาบยาวอีกหนึ่งเล่มพุ่งตรงมา

ฉู่จวินสิงรีบใช้กระบี่เฝินเทียน ฟันดาบที่พุ่งมาขาดเป็นสองท่อน

ลู่ซานมองดูดาบในมือตน ช่างถูกฟันหักได้อย่างง่ายดายยิ่ง

เขาเปล่งเสียงคำราม พร้อมจู่โจมไปทางฉู่จวินสิงอีก

หลังจากฉู่จวินสิงเห็นหน้าอีกฝ่ายชัดเจน จึงใช้วิธีหมุนตัว เตะอีกฝ่ายจนล้มลงกับพื้น

เขาไม่ได้ใช้กำลังทั้งหมด ด้วยเกรงว่าเพียงลูกเตะจะทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บ

ลู่ซานถูกเตะจนล้มลง มือกุมจุดที่โดนเตะ พยายามลุกขึ้นเพื่อจะต่อสู้อีกครั้ง

ฉู่จวินสิงรี
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 694

    แต่ฉู่จวินสิงกลับไม่คิดเช่นนั้น เขากับเจี่ยนอันอันสามารถใช้พลังแห่งการเคลื่อนย้ายชั่วพริบตากลับไปเมื่อใดก็ได้แต่กว่าจะตามหาลูกน้องทั้งสามจนพบมิใช่เรื่องง่าย จึงไม่อยากให้พวกเขาจากไปอีกและพวกเขายังไม่ได้ผ่านการแปลงโฉม หากถูกทหารพบเห็นเข้า คงไม่พ้นเกิดการเข่นฆ่าขึ้นมาพวกหลิ่วหยวนนั่งอยู่ในรถม้า ต่างไม่กล้ามองหน้าเจี่ยนอันอันโดยตรงเจี่ยนอันอันจึงถือโอกาสนี้หลับตานิ่ง ส่งภวังค์เข้าไปในห้วงมิติอีกนางคิดมองหาร้านค้าในมิติ ว่าพอมีหน้ากากหนังมนุษย์วางขายอยู่หรือไม่แต่นางสำรวจมารอบหนึ่งก็ยังหาไม่พบ จึงได้แต่คิดหาวิธีอื่นหากพวกเขาจะกลับไปเมืองจิงโจวพร้อมกันจริง จะต้องแปลงโฉมเป็นผู้อื่นเสียก่อนมิเช่นนั้นอาจถูกคนของฉู่ชางเหยียนจับได้ขณะที่เจี่ยนอันอันกำลังคิดว่าจะหาหน้ากากหนังมนุษย์ได้จากที่ใด พลันรถม้าก็หยุดลงพวกหลิ่วหยวนไม่กล้าแหวกม่านออกไปดู เพราะได้ยินเสียงสนทนาที่อยู่ด้านนอกรถม้ามีทหารผู้หนึ่งกล่าว “ใต้เท้าอิ่น ท่านมาอยู่นี่ได้อย่างไร?”ฉู่จวินสิงแสร้งกดเสียงต่ำลง “ฝ่าบาทมีรับสั่งให้มาจับนักโทษหลบหนี”ทหารมองดูรถม้า คิดเปิดผ้าม่านไปดูว่าข้างในมีคนที่พวกเขาต้องการจับตัว

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 695

    เพียงไม่นานหนังหน้าของทหารสิบกว่าคน ก็ได้ถูกฉู่จวินสิงกรีดออกมาจนสิ้นเขานำหนังหน้ามนุษย์ที่ชุ่มด้วยโลหิต ยื่นส่งให้เจี่ยนอันอันเจี่ยนอันอันยิ้มแย้มขณะรับมา พลางส่งเข้าไปในห้วงมิติ ใช้น้ำพุวิญญาณแช่เอาไว้หนังใบหน้าที่ผ่านการแช่มา ไม่เพียงมีความนุ่มลื่น ผิวนั้นยังใสกระจ่างเป็นอย่างมากหลังจากแช่หนังใบหน้าเรียบร้อย เจี่ยนอันอันจึงหยิบผงสลายศพออกมา นำร่างทหารสิบกว่าคนนั้นสลายจนกลายเป็นของเหลวทำเอาหลิ่วหยวนกับพวกมองจนตาค้างพวกเขารู้ดีว่าท่านอ๋องไม่เคยปรานีต่อศัตรูก็จริงแต่ไม่คาดคิดว่าพระชายาจะโหดร้ายยิ่งกว่าเจี่ยนอันอันมองดูพวกหลิ่วหยวนที่ยืนตาค้าง พลางยิ้มเล็กน้อย “อย่ามัวยืนเฉยเลย รีบขึ้นรถเถิด”หลิ่วหยวนกับพวกจึงค่อยตั้งสติกลับมา พวกเขาต่างขึ้นรถม้า ปล่อยให้ฉู่จวินสิงควบเดินทางต่อไปรถม้าเดินทางราวหนึ่งชั่วยาม ในที่สุดก็มาถึงหมู่บ้านทุกคนต่างลงจากรถม้า พร้อมเคาะประตูลานบ้านทันใดนั้นเอง หวังโหย่วเหอเห็นฉู่จวินสิงกับเจี่ยนอันอันกลับมา จึงรีบก้าวเท้ามาหาพลางคารวะต่อคนทั้งคู่ “ขอถามท่านทั้งสอง เรื่องที่ลูกข้าสมัยก่อนเข้าสอบจอหงวน แล้วถูกแอบอ้างชื่อแทน ไม่ทราบพอมีเบาะแส

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 696

    แต่เป็นเช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน เมื่อตามหาคนจนพบแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะทำสิ่งใดก็สะดวกขึ้นเมื่อทุกคนเห็นว่าฉู่จวินสิงตัดสินใจแน่วแน่ จึงต่างเบนสายตาไปยังเจี่ยนอันอันแทนพวกเขาต้องการให้นางช่วยเกลี้ยกล่อมนายท่าน แต่กลับเห็นนางมีท่าทีไม่รู้ร้อนรู้หนาว“พวกท่านจงวางใจเถิด ป่านนี้แล้วยังไม่เชื่อมั่นในความสามารถของนายท่านอีกรึ?”คำพูดของเจี่ยนอันอัน ทำให้พวกหม่าลู่ต่างเงียบเสียงลงท่านอ๋องของพวกเขาเก่งกล้าสามารถโดยแท้ หาไม่คงไม่นำพาพวกเขาไปออกศึกหลายครั้ง ล้วนได้ชัยชนะกลับมาทั้งสิ้นเพียงแต่ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันมิได้มีความเมตตาดั่งเช่นอดีตฮ่องเต้ หากฐานะพวกเขาถูกฮ่องเต้พบเห็นเข้า จะมีโทษถึงขั้นหัวหลุดจากบ่าแน่นอนพวกเขาตายไม่เสียดายหรอก เพราะอย่างไรก็ล้วนเป็นชายโสดทั้งสิ้นแต่ท่านอ๋องไม่เหมือนกัน บัดนี้เขามีภรรยาแล้วหากเกิดเรื่องอันใดขึ้นจริง ฮูหยินคงยากจะทำใจได้เมื่อนึกถึงตรงนี้ สายตาทุกคนมีฉายแววกังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัดเจี่ยนอันอันดูออกว่าพวกเขาเป็นห่วงตนเอง จึงให้รู้สึกอุ่นใจขึ้นเหล่าบริวารของฉู่จวินสิง นับว่ายังพอมีน้ำใจอยู่นางจึงยิ้มให้พวกเขา “ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงแทนข้า”“หา

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 697

    เสิ่นจืออวี้กลับรั้งแขนเสิ่นจือเจิ้งเอาไว้“พี่ใหญ่ ข้าอยากไปเดินเล่นในอำเภอ ท่านไปกับข้าได้หรือไม่?”เสิ่นจืออวี้มองหน้าเสิ่นจื้อเจิ้งด้วยความคาดหวัง อยากให้เขาไปกับตนด้วยเสิ่นจือเจิ้งกลับมองมือเสิ่นจืออวี้ที่จับอยู่ด้วยความเย็นชา “ปล่อยมือ!”เสิ่นจืออวี้ตกใจจนรีบปล่อยมือออก เขารู้นิสัยเสิ่นจือเจิ้งดี ไม่ชอบให้ผู้อื่นถูกเนื้อต้องตัวแต่เมื่อครู่เพราะเขาร้อนใจเกินไป จึงได้จับแขนของอีกฝ่ายเอาไว้ ขณะที่เสิ่นจืออวี้คิดว่า พี่ชายคงไม่พาเขาไปอำเภอไถหยางแน่นอนกลับได้ยินเสิ่นจือเจิ้งกล่าวเนิบๆ “เจ้าไปเอารถม้ามา”เสิ่นจืออวี้ได้ยินดังนี้ สีหน้ารีบปรากฏรอยยิ้มออกมาเขารีบร้อนวิ่งออกไป จูงรถม้ามาคันหนึ่งขณะเสิ่นจือเจิ้งเดินออกจากลานบ้าน เซียงเสวี่ยได้ติดตามมาด้วยเสิ่นจือเจิ้งหันไปกล่าวต่อนาง “เจ้าอยู่เฝ้าบ้านไว้”เซียงเสวี่ยตอบรับว่า “เจ้าค่ะ” พลางหยุดเดินนางเป็นเพียงสาวใช้ผู้หนึ่ง แม้ใจนึกอยากติดตามไปเที่ยวอำเภอไถหยางบ้าง แต่ก็ต้องฟังคำสั่งเสิ่นจือเจิ้งให้อยู่เฝ้าบ้านแทนจำได้ว่าตอนถูกเนรเทศมาใหม่ๆ นางก็เคยไปอำเภอไถหยางแล้วครั้งหนึ่งแต่เพียงเดินผ่านครู่เดียวเท่านั้น มิได้เ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 698

    หากจะถามว่าร้านใดขายอาหารอร่อยบ้าง เขาคงตอบไม่ได้จริงๆและทันใดนั้นเอง ไม่ใกล้ไม่ไกลพลันมีเสียงแหลมกล่าวตวาดขึ้น“เป็นขอทานมาจากที่ใดกัน? ไม่มีตาดูหรือไร เดินมาสุ่มสี่สุ่มห้าเหยียบถูกรองเท้าข้าจนเลอะหมด ชดใช้มาเดี๋ยวนี้!”เสิ่นจืออวี้ถูกเสียงแหลมนั้นสะกดสายตาเข้า จนแม้แต่เซียงเสวี่ยก็พลอยมองตามพลันเห็นเบื้องหน้าของหญิงสาวในชุดสีม่วงอ่อนผู้หนึ่ง มีเด็กชายแต่งกายมอมแมมอีกคนมายืนอยู่เด็กชายถูกหญิงสาวตวาดจนใบหน้าซีดเผือด เขาเงยหน้าขึ้นมองมารดาของตน“ท่านแม่ เมื่อครู่ข้าไม่ตั้งใจเหยียบถูกนาง”เด็กชายกล่าวเสียงอ่อย มือน้อยจับมือมารดาที่อยู่ข้างกายไว้แน่นเสิ่นจืออวี้จำได้ในบัดดล เด็กชายผู้นั้นเป็นบุตรของพี่ใหญ่นามว่าเสิ่นคังและหญิงที่ยืนอยู่กับเขา ก็คือเจียงหว่านเอ๋อร์ในชุดเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นยามนี้เจียงหว่านเอ๋อร์รีบกล่าวขอขมาหญิงสาวเป็นการใหญ่ แต่ยังไม่ได้รับการให้อภัย“ว่าอย่างไร? เพียงแค่ขอโทษก็จะหมดเรื่องกระนั้นรึ ข้าบอกให้จ่ายเงินมา เจ้าไม่ได้ยินหรือไร?”เจี่ยนหลิงเยว่มีสีหน้าหงุดหงิดยิ่ง วันนี้นางช่างโชคร้ายนักติดตามกู้มั่วหลีมาถึงอำเภอซอมซ่อแห่งนี้ กั่วมู่หลีบอกว่าจะไ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 699

    แต่เขากำลังจะเดินไป กลับได้ยินเสียงเสิ่นจือเจิ้งดังขึ้นในรถม้า“อย่าได้ไปยุ่งมากความ!”“แต่ว่าพี่ใหญ่ นั่นเป็นอดีตอาซ้อของข้าและคังเอ๋อร์นะ”เสิ่นจืออวี้ไม่เข้าใจจริงๆ เหตุใดพี่ชายจึงมาห้ามเขาไว้เช่นนี้ภาษิตว่าผัวเมียวันเดียวมีบุญคุณทั้งชาติ หนำซ้ำนั่นยังเป็นเลือดเนื้อของพวกเขาต่อให้พี่ใหญ่เกลียดชังเจียงหว่านเอ๋อร์ ก็ไม่สมควรจะพาลไปถึงเสิ่นคังด้วยอีกอย่างสตรีเสื้อม่วงผู้นั้นก็ทำเกินไปจริงๆ เจียงหว่านเอ๋อร์ได้ขอขมานางแล้ว ไฉนจึงยังไม่ยอมรามืออีก?ไม่เพียงตบหน้าเสิ่นคัง ยังตบไปถึงเจียงหว่านเอ๋อร์ด้วยหากเขายังนิ่งดูดายเช่นนี้ คงจะละอายต่อเจียงหว่านเอ๋อร์ที่เคยดูแลเขามาในอดีตเซียงเสวี่ยก็ดูออกเช่นกัน ว่าสองคนนั้นคือเจียงหว่านเอ๋อร์และเสิ่นคังเดิมนางก็ไม่ชอบเจียงหว่านเอ๋อร์อยู่แล้ว และสองวันนี้เจียงหว่านเอ๋อร์ก็ไประรานที่บ้านเสิ่นจือเจิ้งอยู่บ่อยครั้งเมื่อมาเห็นนางถูกผู้อื่นตบตี เซียงเสวี่ยก็รู้สึกสะใจยิ่งในที่สุดก็มีคนมาสั่งสอนเจียงหว่านเอ๋อร์เสียบ้างขณะที่เสิ่นจืออวี้คิดเดินไปช่วยเหลือ กลับเห็นชายอีกคนเดินไปทางนั้นเช่นกัน“เจ้าทำกระไรอยู่?” กู้มั่วหลีเห็นเจี่ยนหลิงเ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 700

    เจียงหว่านเอ๋อร์หน้าขรึมลง ไม่มีท่าทีอ่อนน้อมดังเช่นเมื่อครู่นี้อีก“แล้วจะเอาอย่างไร ข้าก็ได้ขอขมาไปแล้ว ยังจะไม่จบไม่สิ้นอีกรึ?เช่นนั้นข้าบอกได้เพียงว่า เอาเงินน่ะไม่มี มีเพียงชีวิตเท่านั้น”เจี่ยนหลิงเยว่ไม่คาดคิดว่า เจียงหว่านเอ๋อร์จะกล้าพูดจาไร้ยางอายเช่นนี้ออกมานางโกรธจนคิดเอ่ยปากโต้ตอบ พลางถูกสายตาเย็นชาของกู้มั่วหลีจ้องมองจนต้องเดินกลับไปเจี่ยนหลิงเยว่โกรธจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แต่เมื่ออยู่ต่อหน้ากู้มั่วหลี จะใช้อำนาจบาตรใหญ่เกินไปก็ไม่กล้า“ยังคิดจะอาละวาดไปถึงเมื่อใด?” กู้มั่วหลีกล่าวเสียงเย็นชา จนแม้แต่เจียงหว่านเอ๋อร์ยังก้มหน้างุดเจี่ยนหลิงเยว่โกรธจนกระทืบเท้า จึงยอมหลีกทางให้เจียงหว่านเอ๋อร์จูงมือน้อยของเสิ่นคังแล้วเดินจากไปกู้มั่วหลีมองดูสีหน้าไม่พอใจของเจี่ยนหลิงเยว่ พลางกล่าวเย็นชา “กลับไปกับข้า ครั้งหน้าจะไม่พาเจ้าออกมาอีกแล้ว”“คุณชายกู้ เรื่องนี้มิใช่ความผิดข้าเสียหน่อย เหตุใดท่านจึงชอบมาดุข้าเช่นนี้เจ้าคะ”เจี่ยนหลิงเยว่น้อยใจจนรู้สึกแสบในจมูก น้ำตาคลอเบ้าขึ้นมากู้มั่วหลีไม่คิดสนใจนางอีก พลางเดินไปข้างหน้าเจี่ยนหลิงเยว่ถลึงตาใส่แผ่นหลังของเจียงหว่า

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 701

    เจียงหว่านเอ๋อร์เห็นสภาพเปื้อนมอมแมมไปทั้งตัวของเสิ่นคังแล้วก็ยิ่งรู้สึกปวดใจทบเท่าทวีคูณ“ท่านแม่ พวกเราต้องไปอยู่ที่นั่นบ้างที่นี่บ้างแบบนี้ไปจนถึงเมื่อไร?”“ข้าคิดถึงท่านพ่อ ท่านแม่พาข้ากลับไปหาท่านพ่อได้ไหมขอรับ?”เจียงหว่านเอ๋อร์เห็นเสิ่นคังพูดถึงเสิ่นจือเจิ้งอีกแล้ว นางแค่นหัวเราะอย่างอดไม่ได้ “พ่อเจ้าไม่ต้องการเจ้าแล้ว ยังจะไปหาเขาทำไม?”“ถ้าเจ้าไม่อยากอยู่กับแม่ เจ้าก็กลับไปหาเขาเองก็แล้วกัน!”ท่าทางไม่พอใจของเจียงหว่านเอ๋อร์ทำให้เสิ่นคังตกใจกลัว เขาเม้มริมฝีปากน้อยๆ ไม่กล้าปริปากอีกเขาไม่เข้าใจเลยว่าเหตุใดท่านพ่อกับท่านแม่ต้องแยกทางกันด้วยความสัมพันธ์ของพวกเขาดีมากมาตลอดไม่ใช่หรือ เหตุใดจู่ๆ ท่านพ่อก็ไล่เขากับท่านแม่ออกมา?เวลานั้นเอง เงาร่างของเจี่ยนอันอันพลันปรากฏขึ้นในหัวเสิ่นคังหลายวันมานี้เจียงหว่านเอ๋อร์มักเอ่ยถึงเจี่ยนอันอันด้วยความโกรธขึ้งอยู่บ่อยๆ บอกว่านางเป็นตัวการทำลายความสัมพันธ์ระหว่างท่านพ่อกับท่านแม่คำพูดเช่นนี้เสิ่นคังได้ยินมาไม่ต่ำกว่ายี่สิบครั้งแล้วถึงเขาจะอายุยังน้อย แต่ก็รู้ว่าเขากับท่านแม่ถูกไล่ออกมา ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของเจี่ยนอันอัน

บทล่าสุด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 827

    และไม่นานเขาก็รู้สึกถึงความผิดปกติ ร่างกายเริ่มมีอาการสะบัดร้อนสะบัดหนาว กระดูกและข้อต่อค่อยทวีความเจ็บปวดรุนแรงขึ้นเสียงร้องของเขาดังยิ่งกว่าเมื่อครู่หลายเท่าตัว แต่หัวหน้าผู้คุมและลูกน้องต่างไม่เห็นยาพิษที่เจี่ยนอันอันโยนออกไป จึงเห็นการกู่ร้องของเฝิงซานกวงเป็นเพียงการขัดขืนครั้งสุดท้ายเท่านั้นแม้พวกเราจะรู้ดีว่า เฝิงซานกวงเป็นญาติกับเจ้าเมืองตานแต่เมื่อท่านเจ้าเมืองออกคำสั่งมาแล้ว พวกเขาก็ย่อมต้องปฏิบัติตามพวกเขาคุมตัวเฝิงซานกวงไปยังห้องลงทัณฑ์ พร้อมจับมัดไว้กับม้านั่งตัวหนึ่งผู้คุมสองคนยกไม้พลองขึ้น พร้อมฟาดลงที่สะโพกเฝิงซานกวงอย่างแรง“อ๊าก โอ๊ย โอ๊ย!”เดิมทีร่างกายก็เจ็บปวดอยู่แล้ว ยังมาถูกโบยซ้ำอีกเฝิงซานกวงเจ็บเสียจนเสียงร้องโหยหวนราวกับหมูโดนเชือดไม่นานก็โบยครบยี่สิบไม้ พร้อมกับสะโพกเฝินซานกวงซึ่งยับเยินไม่เป็นชิ้นดีเลือดไหลซึมออกมาจนเปื้อนเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นเจี่ยนอันอันตามมายังห้องลงทัณฑ์ มองลอดหน้าต่างเห็นทุกอย่างอยู่ในสายตาและบัดนี้เฝิงซานกวงได้หมดสติไปแล้ว เสื้อผ้ายังเปื้อนด้วยเหงื่อเย็นที่โซมกายนางพอใจเป็นอย่างมากที่ผลออกมาเช่นนี้ จึงได้กล่าวต่อเจ้

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 826

    เฝิงซานกวงถลึงตาใส่เจี่ยนอันอัน พลางกล่าวแก้ตัว “ท่านอารอง ข้าไม่เห็นว่าแร่หินจะมีปัญหาอันใด”“หากแร่เหล่านี้มีพิษจริง แล้วข้าจะอยู่รอดปลอดภัยมาได้อย่างไร?”คำกล่าวนี้ย่อมทำให้เจ้าเมืองตานเกิดความกังขาเช่นกัน จึงมองไปยังฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอัน รู้สึกว่าคำพูดของสองคนนี้ ดูจะไม่ชอบมาพากลนักเจี่ยนอันอันยิ้มหยันพลางกล่าว “ท่านย่อมจะปลอดภัยแน่นอน เพราะรู้แต่แรกแล้วว่าแร่หินมีพิษ จึงกินยาป้องกันไว้ก่อนล่วงหน้า”เฝินซานกวงแอบสะดุ้งในใจ แต่ยังไม่คิดยอมรับว่าแร่หินมีพิษจริงจึงได้กล่าวแก้ตัวอีกครั้ง “เจ้าอย่าได้กล่าวเหลวไหล ข้าเคยกินยาถอนพิษเมื่อไหร่กัน”นี่ล้วนเป็นสิ่งที่เจ้าคิดเองเออเองทั้งเพ หวังนำมาซ้ำเติมให้ข้ามีโทษหนักมากขึ้น”เจี่ยนอันอันพอดูออกว่า เจ้าเมืองตานเริ่มคล้อยตามคำพูดเฝิงซานกวงบ้างแล้วนางจึงกล่าวต่อเจ้าเมืองตานว่า “หากท่านเจ้าเมืองไม่เชื่อคำพูดของข้า ก็ให้ส่งคนไปตรวจสอบที่เหมืองแร่ได้ เพื่อดูว่าข้าพูดถูก หรือเฝิงซานกวงพูดถูกกันแน่”เจ้าเมืองตานจึงรีบเรียกทหารในจวนมา พร้อมสั่งให้ไปตรวจสอบที่เหมืองแร่ไม่นานทหารผู้นั้นก็ได้กลับมา พร้อมรายงานว่าคนงานที่อยู่ในเหมือง ล

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 825

    ครั้นเจ้าเมืองตานได้ยินว่าฉู่จวินสิงมา หัวใจก็พลันหนักอึ้งเขาสาวเท้าออกไปจากคุกในทันที “รีบเชิญพวกเขาเข้ามา”องครักษ์ได้ยินเจ้าเมืองตานใช้คำว่าเชิญ ในใจก็คิดว่าฉู่จวินสิงจะต้องเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งเป็นแน่เขาไม่กล้าชักช้าจึงย้อนกลับไปโดยพลันเขากล่าวกับฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันอย่างนอบน้อม “ใต้เท้าของข้าเชิญพวกท่านเข้าไปข้างใน”ฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันสาวเท้าเข้าไปในจวน โดยมีองครักษ์นำทางไปยังโถงใหญ่คนทั้งสองมาถึงบริเวณนอกโถงใหญ่ก็เห็นว่าเจ้าเมืองตานรออยู่ข้างในแล้วเจ้าเมืองตานรีบออกมาต้อนรับ เขาประสานมือกล่าว “ทั้งสองท่านมาที่จวนข้าได้อย่างไร เหมืองนั่นเกิดเรื่องอันใดขึ้นอีกอย่างนั้นรึ?”“เจ้าเมืองตานกล่าวไม่ผิด เหมืองนั่นเกิดเรื่องขึ้นแล้วจริงๆ”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้สองมือของเจ้าเมืองตานกำแน่นเขานึกแล้วเชียวว่าจะต้องเป็นเรื่องดีๆ ที่เฝิงซานกวงทำอีกแล้วเป็นแน่เจี่ยนอันอันบอกเรื่องที่แร่ในเหมืองมีพิษออกมาเจ้าเมืองตานได้ยินแล้วก็ยิ่งโมโหอย่างหนักเขามีหลานแบบนี้ได้อย่างไรกันนะ ถึงกับให้คนเหล่านั้นขุดแร่มีพิษเลยหรือนี่ถ้าไม่ใช่เพราะเฝิงซานกวงเป็นหลานของเขา เขาคงส

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 824

    พวกลูกน้องต่างมองหน้ากัน ความงุนงงฉายเกลื่อนใบหน้าพวกเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุใดตนเองจึงไม่ถูกพิษหากไม่ใช่เพราะเจี่ยนอันอันเพิ่งพูดออกมาว่าแร่ของที่นี่มีพิษ พวกเขาก็คงยังไม่รู้เรื่องนี้ด้วยซ้ำลูกน้องคนหนึ่งในจำนวนนั้นเอ่ยขึ้น “พวกข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ แต่ตอนแรกที่พวกข้ามาที่นี่เคยได้กินน้ำแกงปลาจี้ที่เจ้าเหมืองเฝิงทำ”“หรือจะเป็นเพราะน้ำแกงนั่น พวกข้าถึงได้ไม่ถูกพิษ?”ลูกน้องคนอื่นๆ ก็รีบร้อนพยักหน้าด้วยเช่นกัน“ใช่แล้ว วันแรกที่พวกข้ามาที่นี่ล้วนแต่ได้ดื่มน้ำแกงปลาจี้ไปหนึ่งถ้วย”“ข้าคิดออกแล้วเหมือนกัน ตอนที่ข้าซดน้ำแกงปลาจี้นั่นยังคิดอยู่เลยว่าเจ้าเหมืองเฝิงช่างใจกว้างนัก เพิ่งมาถึงก็ให้พวกข้าดื่มน้ำแกงปลาจี้ที่สดใหม่เช่นนี้ อาศัยน้ำแกงปลาจี้นี้ ข้าก็จะตั้งใจทำงานให้เขา”เจี่ยนอันอันมุ่นคิ้ว เมื่อครู่นางดมดูแล้ว พิษในแร่นั่นไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถถอนพิษได้ด้วยน้ำแกงปลาจี้ถ้วยเดียวเห็นทีเรื่องนี้คงต้องไปถามเฝิงซานกวงถึงจะรู้เรื่องในเมื่อแร่มีพิษ แต่เฝิงซานกวงและพวกลูกน้องล้วนแต่ปลอดภัยไม่ได้รับผลกระทบ แสดงว่าเขาจะต้องมีวิธีแก้พิษอยู่อย่างแน่นอนนา

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 823

    เจี่ยนอันอันขมวดคิ้วมุ่น นางมองไปทางซ่งไหล “ท่านเล่า จำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร บ้านอยู่ที่ไหนด้วยเหมือนกันรึ?”ซ่งไหลส่ายหน้าเบาๆ “จำไม่ได้”เจี่ยนอันอันคว้าข้อมือซ่งไหลขึ้นมาจับชีพจรให้เขาในไม่ช้านางก็ได้ข้อสรุปคนเหล่านี้ทุกคนล้วนถูกพิษ ขณะที่พิษประเภทนี้จะทำให้คนที่ถูกพิษสูญเสียความทรงจำไปในชั่วพริบตาหลังจากที่นางปล่อยมือซ่งไหลก็สุ่มหยิบแร่ก้อนหนึ่งบนพื้นขึ้นมานางนำมาจ่อใต้จมูกดมดูก็ได้กลิ่นสกปรกจางๆ ที่แผ่ซ่านออกมาจากก้อนแร่ได้ในทันทีนางกล่าวกับฉู่จวินสิง “ถ้าข้าเดาไม่ผิด แร่ในเหมืองนี้ล้วนแต่มีพิษ”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้ทุกคนบริเวณนั้นล้วนสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวจากก้นบึ้งหัวใจที่พวกเขาจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร เป็นเพราะต้องพิษจากแร่พวกนี้อย่างนั้นหรือ?“พวกข้าควรทำอย่างไรดี ข้าไม่อยากตาย!”“ข้าก็ไม่อยากตายเหมือนกัน ข้าอยากไปจากที่นี่”“แม่นางได้โปรดปล่อยพวกข้าไปเถอะ ให้พวกข้าไปจากที่นี่เถอะนะ”คนงานเหมืองเหล่านั้นขอร้องเจี่ยนอันอันเสียงระงม หวังว่านางจะสามารถปล่อยพวกเขาไปซ่งไหลก็หวาดกลัวมากเช่นกัน เขาอยากไปจากที่นี่ ไม่อยากตายอยู่ในสถานที่แห่งนี้เจี่ยนอันอัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 822

    ฉู่จวินสิงและซ่งไหลที่รออยู่ด้านนอกล้วนร้อนใจอย่างยิ่งโชคดีที่เจี่ยนอันอันออกมาอย่างรวดเร็ว ทั้งยังพาเด็กชายหนึ่งคนออกมาด้วยซ่งไหลรีบอุ้มเด็กชายออกมาข้างนอกเขากระซิบเรียกชื่อเด็กชายเบาๆ “หวายหมิง เจ้าฟื้นเร็วเข้า”เจี่ยนอันอันเห็นว่าซ่งไหลมีท่าทางเป็นกังวลอย่างมาก นางจึงบอกเสียงเบาว่า “เขาแค่สลบไปเท่านั้น ไม่ได้เป็นอันใดมาก”หลังจากที่นางพูดจบก็มุดเข้าไปในถ้ำอีกครั้งรอจนถึงตอนที่นางพาเด็กชายคนที่สองออกมาก็ถอดแว่นสายตากลางคืนออกแล้วนางกล่าวกับฉู่จวินสิงว่า “พวกเราออกไปจากที่นี่ก่อนค่อยคุยกัน”ฉู่จวินสิงพยักหน้าน้อยๆ แล้วอุ้มเด็กชายอีกคนขึ้นมาซ่งไหลอุ้มหวายหมิงตามเจี่ยนอันอันออกไปจากในเหมืองด้วยเช่นกันคนที่รออยู่ด้านนอกล้วนแต่ร้อนใจเป็นที่ยิ่งไม่รู้ว่าข้างในเป็นอย่างไรบ้างแล้วเมื่อพวกเขาเห็นพวกเจี่ยนอันอันออกมาก็พากันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเจี่ยนอันอันให้พวกเขาวางเด็กชายทั้งสองลงบนพื้นที่ว่าง นางหยิบถุงเข็มเงินออกมาจากในมิติแล้วฝังเข็มให้เด็กชายสองคนนั้นผ่านไปไม่นาน ในที่สุดเด็กชายทั้งสองก็ค่อยๆ ฟื้นขึ้นมาซ่งไหลเห็นว่าน้องชายทั้งสองของตนเองฟื้นแล้วก็คุกเข่าล

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 821

    แต่ไม่ว่าเขาออกแรงมากเท่าไรก็ไม่อาจผลักหินยักษ์ออกไปได้ก่อนหน้านี้ที่นี่ก็เคยเกิดการถล่มมาก่อน แต่ไม่ได้หนักหนาเท่าครั้งนี้หากยังไม่ช่วยคนข้างในออกมา เกรงว่าเด็กสองคนนั้นคงต้องจบชีวิตลงที่นี่จริงๆ แล้วเจี่ยนอันอันขมวดคิ้วมุ่น นางพลันก้าวออกมาบริเวณหน้าถ้ำแล้วออกแรงผลักหินยักษ์ก้อนนั้นแต่หินยักษ์หนักเกินไป นางผลักอยู่หลายทีแต่ก็ไม่สามารถทำให้หินยักษ์นั้นขยับเขยื้อนได้เลยฉู่จวินสิงก็รีบเดินเข้ามาหา เขาให้เจี่ยนอันอันถอยออกไปแล้วรวบรวมกำลังภายในฟาดฝ่ามือใส่หินยักษ์ก้อนนั้นอย่างหนักหน่วงครั้นฝ่ามือนั้นฟาดลงไป หินยักษ์ก้อนนั้นเพียงสั่นคลอนไม่กี่ที แต่ก็ไม่ได้ถูกกำลังภายในทะลวงไปได้ขณะที่ทุกคนไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดีนั่นเอง เจี่ยนอันอันพลันกวาดตามองคลังอาวุธในมิติครุ่นคิดว่าสามารถหยิบระเบิดออกมาจากในนั้นสักลูกได้หรือไม่โชคดีที่ตอนที่นางช่วยสองแม่ลูกสกุลเฉียวต่อกรกับเฝิงซานกวงก่อนหน้านี้ คลังอาวุธได้เลื่อนขั้นอย่างเงียบๆคำประกาศปรากฏขึ้นในมิติ : [ระดับคลังอาวุธ 50 สามารถหยิบอาวุธได้สองชนิด]เจี่ยนอันอันนึกยินดี นางรีบบอกให้ทุกคนหลบไปนอกเหมือง แม้แต่ฉู่จวินสิงก็ให้ออกไปจากตร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 820

    เจ้าเมืองตานประสานมือต่อเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิง “เรื่องราวได้จบลงแล้ว ข้าน้อยคงต้องขอกลับจวนไปไต่สวนเรื่องนี้ต่อ ขอลาแต่เพียงเท่านี้”เจี่ยนอันอันประสานมือตอบเช่นกัน “ท่านค่อยๆ เดิน ไม่ส่งแล้ว อย่างไรคงต้องรบกวนท่านให้ความเป็นธรรมแก่เรื่องนี้”“ข้าน้อยทราบดี” เจ้าเมืองตานกล่าวพลางขึ้นรถม้าไปพร้อมกับถอนหายใจหนักหน่วงอีกครั้งเหตุใดเขาจึงมีหลานชายที่ชอบก่อเรื่องนี้เช่นนี้หนอ? ช่างไม่ยอมปล่อยให้เขาได้อยู่สบายบ้างเลยรอจนเจ้าเมืองตานจากไปแล้ว เจี่ยนอันอันจึงหันมามองเหล่าบริวารของเฝิงซานกวงอีกครั้งซึ่งทุกคนต่างก็รู้ว่า ยามนี้ในเหมืองได้เปลี่ยนเจ้าของใหม่แล้วพวกเขาจึงไม่กล้าทำส่งเดชอีก ได้แต่ก้มหน้าก้มตายืนนิ่งอยู่เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเย็นชา “พวกเจ้ามัวยืนเซ่อหาอันใดอีก ที่นี่ไม่ใช่ถิ่นของเฝิงซานกวงอีกแล้ว แต่ละคนจงรีบไสหัวไปให้พ้น”“หากวันหน้าข้าได้รู้ว่า พวกเจ้ากลับมาก่อเรื่องที่นี่อีก ข้าจะให้มีจุดจบเช่นเดียวกับเฝิงซานกวง”บรรดาลูกน้องเฝิงซานกวงเห็นว่าบัดนี้คงได้ตกงานเป็นแน่แท้ต่อไปจะรับเงินใต้โต๊ะคงไม่มี ยิ่งอย่าหมายว่าคิดลักขโมยแร่หินในเหมืองออกไปขายบ้างจึงต่างพากัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 819

    แต่เรื่องนี้หากจะว่าไป ก็ล้วนเป็นความผิดของเฝิงซานกวงหากเขามิได้แอบใช้แรงงานเด็ก เจี่ยนอันอันก็ไม่อาจใช้เพียงหนึ่งร้อยตำลึง มาซื้อเหมืองแร่แห่งนี้ได้ไม่ทันรอให้เจ้าเมืองตานได้กล่าวตอบ เฝิงซานกวงกลับโมโหขึ้นก่อน “นังตัวดี อย่าถือว่าเคยเป็นอดีตชายาเยียนอ๋องมาก่อน ก็จะใช้เงินเพียงหนึ่งร้อยตำลึงมาซื้อเหมืองของข้าได้”“ขอบอกให้รู้ เหมืองแห่งนี้ข้าเป็นคนขุดขึ้นเอง จะไม่มีวันยอมขายให้เจ้าเด็ดขาด”เจี่ยนอันอันมองหน้าเฝิงซานกวงด้วยแววตาดูหมิ่น สีหน้าเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน“ฟังนะเฝิงซานกวง บัดนี้เจ้ากลายเป็นนักโทษแล้ว มีสิทธิ์อันใดมาเพ้อเจ้อไร้สาระกับข้าอีก”เฝิงซานกวงโกรธจนสุดจะทนไหว พลันกระอักโลหิตออกจากปากทันทีพร้อมพาเอาฟันหน้าสองซี่ที่ถูกต่อยร่วงเมื่อครู่นี้ออกมาด้วยเจ้าเมืองตานรู้ดีว่าไม่อาจสู้เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงได้ อีกทั้งเรื่องนี้ก็เป็นความผิดของเฝิงซานกวงจริงว่าตามกฎหมายแล้ว เมื่อเฝิงซานกวงทำผิดเช่นนี้ เหมืองของเขาก็ควรจะถูกทางการยึดคืนดังนั้นเจี่ยนอันอันจึงได้มาพูดกับเขา ว่าจะขอซื้อเหมืองแห่งนี้ไว้เองอีกทั้งเฝิงซานกวงก็ไม่มีสิทธิ์ชอบธรรม ที่จะยับยั้งการซื้อขายของ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status