All Chapters of ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ: Chapter 561 - Chapter 570

652 Chapters

บทที่ 561

อวิ๋นฝูหลิงพยักหน้าให้เกาเทียนหย่วนเล็กน้อย และกล่าวว่า “หัวหน้าเกา พวกเราจะเปลี่ยนเส้นทางไปเกาะหมัวกุ่ย”“ความสามารถในการแยกแยะทิศทางในทะเล บนเรือนี้ไม่มีผู้ใดมีความสามารถเท่าท่านดังนั้นถึงได้เรียกท่านมาที่นี่ ท่านช่วยรับฟังคำขอนี้ด้วย”“พวกท่านจะไปที่เกาะหมัวกุ่ยหรือ!” สีหน้าเกาเทียนหย่วนเปลี่ยนไปทันที และเผยความลังเลออกมาอวิ๋นฝูหลิงเห็นเช่นนั้น ก็ถามว่า “ท่านรู้จักเกาะหมัวกุ่ยหรือ?”เกาเทียนหย่วนพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะบอกทุกสิ่งที่ตัวเองรู้ออกไป“เกาะหมัวกุ่ยเป็นสถานที่ต้องห้ามในทะเล แต่ไหนแต่ไรก็ไม่มีใครที่ทำการค้าทางทะเลกล้าเข้าใกล้ที่นั่น”“ได้ยินว่าบนเกาะหมัวกุ่ยไม่เพียงแต่มีกลุ่มโจรสลัดโฉดชั่ว แถวนั้นยังมีกระแสน้ำเชี่ยวกรากและปลากินคน อันตรายเป็นอย่างยิ่ง”“ไม่มีผู้ใดกล้าไปที่นั่น ข้าก็ไม่เคยไปเช่นกัน”“ดังนั้นข้าจึงรู้เพียงทิศทางคร่าว ๆ ว่าเกาะหมัวกุ่ยตั้งอยู่ที่ใด เพราะทุกครั้งที่ออกเรือก็มักจะหลีกเลี่ยงทิศทางนั้นเสมอ”เกาเทียนหย่วนพูดมาถึงตอนนี้ ก็มองไปทางอวิ๋นฝูหลิง และกล่าวยืนยัน “คุณชายหาง ท่านแน่ใจหรือว่าจะไปที่เกาะหมัวกุ่ยจริงๆ?”อวิ๋นฝูหลิงพยักหน้า “ข้ามีเหต
Read more

บทที่ 562

ขนส่งสินค้าผิดกฎหมายแน่นอน!หลังจากเซียวจิ่งอี้กับจั่วเยี่ยนหารือกัน ก็ตัดสินใจอยู่บนเรือต่อ เพื่อฉวยโอกาสตรวจสอบภูมิหลังของคนญี่ปุ่นคนนั้นเดิมทีทั้งสองคนยังกังวลว่าจะถูกคนจับได้ระหว่างทางคาดไม่ถึงว่าเมื่อออกเรือ กลับพบว่าชาวบ้านแรงงานเหล่านั้นที่ขนของกับพวกเขาก็ต่างขึ้นเรือมาด้วยเช่นกันเขาสอบถาม จึงได้ทราบว่าคนงานบนเรือไม่พอ ดังนั้นชาวบ้านแรงงานเหล่านั้นจึงได้ขึ้นมาช่วยงานบนเรือ หลังเสร็จงานก็จะได้เงินตอบแทนเป็นจำนวนมากในยามนั้นเซียวจิ่งอี้ยังไม่ทันสังเกตว่ามีสิ่งใดผิดปกติ กลับยังโล่งใจที่พวกเขาสามารถอยู่บนเรือต่อได้อย่างเปิดเผย จึงลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกเจอตัวหรือต้องคอยหลบซ่อนคาดไม่ถึงว่าหลังจากเดินทางมาห้าวัน พวกเขากลับถูกส่งมายังเกาะหมัวกุ่ย และได้เริ่มถูกใช้แรงงานอย่างหนักเซียวจิ่งอี้จึงเพิ่งตระหนักได้ว่า ชาวบ้านแรงงานเหล่านั้นทั้งหมดล้วนถูกหลอกขึ้นเรือ เพื่อเอาพวกเขาส่งมาเป็นแรงงานบนเกาะหมัวกุ่ยค่าตอบแทนสูงลิ่วที่สัญญาไว้ก่อนหน้านี้ ล้วนเป็นเพียงคำพูดหลอกลวงของพวกเขาคนงานบนเกาะหมัวกุ่ย แทบจะทั้งหมดล้วนถูกลักพาตัวหรือถูกหลอก เพื่อส่งมาที่นี่
Read more

บทที่ 563

“เจ้ากล้าขวางข้า คิดจะก่อกบฏหรือ?”ดวงตาคนคุมงาน จ้องมองมาที่เซียวจิ่งอี้อย่างโกรธเกรี้ยวเซียวจิ่งอี้ได้ยินคำว่า ‘กบฏ’ สองพยางค์นี้ แววตาก็เย็นชาขึ้นมาโดยพลันคิดว่าเป็นใครกัน เขาถึงได้กล้าพูดสองพยางค์นี้ออกมา!คนคุมงานเห็นเซียวจิ่งอี้ไม่ขยับ อารมณ์ที่แสดงออกบนใบหน้าก็โหดเหี้ยมมากขึ้นเขาคิดจะดึงมือออก และฟาดแส้ใส่เซียวจิ่งอี้สักสองครั้ง คาดไม่ถึงว่ามือของเซียวจิ่งอี้ราวกับคีมเหล็ก ไม่ว่าเขาจะดิ้นรนอย่างไร ก็ไม่อาจหลุดออกมาได้คนคุมงานตื่นตระหนกขึ้นมาโดยพลัน และรู้สึกหวาดกลัวอย่างยากจะอธิบายแต่ภายใต้สายตาของทุกคน เขาจะแสดงความหวาดกลัวได้อย่างไร แม้จิตใจจะขี้ขลาดแต่ก็พูดออกมาอย่างดุร้ายว่า “ข้าขอเตือนเจ้า ปล่อยข้าเสีย ไม่อย่างนั้นข้า...”เขายังพูดไม่ทันจบ เซียวจิ่งอี้ก็ปล่อยมืออย่างกะทันหันคนคุมงานไม่ทันได้ตั้งตัว จึงเซไปข้างหลังเพราะแรงเฉื่อยทันทีเดิมทีเขาคิดว่าจะล้มหัวทิ่ม คาดไม่ถึงว่าล้มไปได้ครึ่งทาง ก็ถูกมือใหญ่ข้างหนึ่งคว้าคอเสื้อไว้อย่างกะทันหัน และออกแรงดึงเขาขึ้นมาคนคุมงานเงยหน้ามอง ก็พบว่าคนที่ดึงเขาไว้คือเซียวจิ่งอี้เซียวจิ่งอี้เลิกคิ้วยิ้มให้เขา “นายท่าน ท่า
Read more

บทที่ 564

ชายชราผู้นั้นกล่าวขอบคุณเซียวจิ่งอี้วันนี้หากไม่ใช่เพราะเซียวจิ่งอี้ขวางไว้ เกรงว่าชายชราผู้นั้นคงถูกตีจนตายไปแล้วหลังจากพูดคุยกันไม่กี่ประโยค เซียวจิ่งอี้จึงเพิ่งรู้ว่าชายชราผู้นี้ชื่อว่าโจวไห่เซิง ซึ่งเดิมทีเป็นชาวประมงแม้จะเรียกว่าชายชรา ทว่าความจริงปีนี้เขายังอายุไม่ถึงสี่สิบปีเสียด้วยซ้ำเพียงแต่เพราะเผชิญลมแดดบนทะเล กอปรกับหลังมาถึงเกาะหมัวกุ่ยก็ทำงานอย่างหนักตลอดทั้งปี ทั้งยังถูกคนทุบตีด่าทอเสมอ จึงทำให้ดูแก่กว่าวัยมากขึ้นเรื่อย ๆหลังจากเซียวจิ่งอี้ได้ยินเรื่องที่ชายชราต้องเผชิญ ในใจก็รู้สึกไม่สบอารมณ์คนเหล่านี้เดิมทีล้วนเป็นประชาชนของแคว้นต้าฉี ซึ่งอยู่ในแผ่นดินต้าฉีอย่างสงบสุขและมีความสุขทว่ากลับถูกคนลักพาตัวหรือหลอกมาที่เกาะแห่งนี้ ไม่เพียงแต่ต้องทำงานหนักโดยไม่ได้ค่าตอบแทน อีกทั้งยังกินอาหารไม่อิ่มท้อง และถูกทุบตีด่าทอเสมอเกาะที่ปลูกดอกอิงซู่แห่งนี้ เกรงว่าเป็นเพียงห่วงโซ่หนึ่งที่เชื่อมโยงกับผลประโยชน์ของขี้ผึ้งทองเท่านั้นเซียวจิ่งอี้แอบกัดฟัน เขาตั้งมั่นว่าจะต้องถอนรากถอนโคนกองกำลังทั้งหมดที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้หลังจากนั้นจะต้องช่วยประชาชนทุกคนออกไปจา
Read more

บทที่ 565

เซียวจิ่งอี้กับจั่วเยี่ยนหลบเลี่ยงป้อมยามชั้นแรกไปได้อย่างง่ายดาย และตรงไปยังใจกลางเกาะยิ่งเข้าใกล้ใจกลางเกาะ แสงเทียนก็ยิ่งสว่าง ของประดับตกแต่งก็ยิ่งหรูหรา การเฝ้ายามก็ยิ่งเข้มงวดเซียวจิ่งอี้กับจั่วเยี่ยนต่างมีวรยุทธ์แกร่งกล้า การหลบเลี่ยงทหารยามเข้าไปเงียบ ๆ จึงไม่ใช่เรื่องยากเย็นอันใดโดยเฉพาะจั่วเยี่ยน เขาสามารถรักษาตำแหน่งผู้บัญชาการหน่วยเงากระบี่ไว้ได้อย่างมั่นคง วรยุทธ์ของตัวเขายอดเยี่ยมเป็นที่สุด บนโลกนี้คนที่สามารถเอาชนะเขาได้ก็มีไม่มากหลังจากมาถึงเกาะหมัวกุ่ย เขาป่วยหนักอย่างกะทันหันโดยไม่ทราบสาเหตุบนเกาะหมัวกุ่ยไม่เลี้ยงดูคนที่ทำงานไม่ได้ หากป่วยหรือได้รับบาดเจ็บ จนไม่อาจทำงานได้ ก็จะถูกโยนลงทะเลไปเป็นอาการปลา เพื่อไม่ให้สิ้นเปลืองอาหารยามนั้นจั่วเยี่ยนคิดว่าตัวเองกำลังจะตายเสียแล้วหากไม่ป่วยตาย ก็คงถูกโยนลงทะเลไปตามยถากรรมโชคดีที่ได้เซียวจิ่งอี้ปกป้องไว้ต่อมาเซียวจิ่งอี้ป้อนน้ำยาหยดหนึ่งให้เขาน้ำยาหยดนั้นไม่เพียงแต่รักษาอาการป่วยของเขา อีกทั้งเขายังพบว่าประสาทสัมผัสทั้งห้าของตัวเองเฉียบคมยิ่งกว่าก่อนหน้านี้ แม้แต่กำลังภายในก็เพิ่มขึ้นไม่น้อยเช่นกันของศ
Read more

บทที่ 566

เมื่อนึกถึงอวิ๋นฝูหลิง ก้นบึ้งในดวงตาของเซียวจิ่งอี้ก็เผยประกายอ่อนโยนขึ้นมาสายหนึ่งเขาแตะที่หน้าอกโดยไม่รู้ตัว ตรงหน้าอกกลับว่างเปล่า ไร้ซึ่งร่องรอยของน้ำเต้าหยกนานแล้วเซียวจิ่งอี้นึกถึงน้ำเต้าหยกที่เขาทำหายไป ในใจก็รู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างยิ่งตอนแรกที่เพิ่งมาถึงเกาะหมัวกุ่ย จั่วเยี่ยนป่วยหนักกะทันหันบนเกาะหมัวกุ่ยไม่มีหมอ คนบนเกาะก็ไม่เอาสมุนไพรมาให้แรงงานที่ถูกจับมาอย่างพวกเขาเมื่อเห็นชีวิตจั่วเยี่ยนกำลังตกอยู่ในอันตราย เซียวจิ่งอี้ก็ทำได้เพียงป้อนน้ำยาในน้ำเต้าหยกนั้นให้เขาน้ำยาที่อวิ๋นฝูหลิงให้มาประสิทธิภาพยอดเยี่ยม หลังจากจั่วเยี่ยนดื่มไปไม่นาน ทั้งร่างก็กลับมามีชีวิตชีวา วันรุ่งขึ้นก็มีเรี่ยวแรงแล้วน้ำเต้าหยกเปล่านั้นเดิมทีเซียวจิ่งอี้เก็บไว้อย่างดี ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นของที่อวิ๋นฝูหลิงให้ เขาจึงหวงแหนมากแต่ไม่รู้เพราะเหตุใด หลังจากนั้นหนึ่งวันมันก็หายไปเซียวจิ่งอี้หาอยู่นานมาก ก็หาไม่เจอคิดมาถึงตรงนี้ เซียวจิ่งอี้ก็อดไม่ได้ที่จะเศร้าใจเล็กน้อยน้ำเต้าหยดนั้นเป็นสิ่งที่อวิ๋นฝูหลิงมอบให้ เขาจะทำหายได้อย่างไร?ช่างเถิด รอให้เขาควบคุมเกาะหมัวกุ่ยได้แล้ว และค้นหา
Read more

บทที่ 567

เซียวจิ่งอี้ไม่รู้ว่าราชครูในจดหมายคือผู้ใดแต่จดหมายฉบับนี้ค้นเจอจากตัวของผู้นำคนนั้น คิดว่า ‘แม่ทัพใหญ่เฉา’ ที่กล่าวถึงบนจดหมาย น่าจะเป็นผู้นำของเกาะหมัวกุ่ยแห่งนี้หลังจากเซียวจิ่งอี้มาถึงเกาะแห่งนี้ ก็รู้สึกว่าคนเหล่านั้นบนเกาะ ไม่ว่าจะอิริยาบถใด ก็ล้วนเหมือนคนในกองทัพที่แท้ความรู้สึกของเขาก็ถูกต้อง คนเหล่านี้ล้วนเป็นคนในกองทัพจริง ๆคาดไม่ถึงจริง ๆ ว่าผู้นำกลุ่มโจรสลัดชื่อเสียงฉาวโฉ่ผู้หนึ่ง จะเป็นแม่ทัพใหญ่แคว้นเยว่ทว่าแคว้นเยว่ล่มสลายไปหลายปีแล้ว แม่ทัพใหญ่ที่เคยองอาจสง่างาม ยามนี้กลับกลายเป็นโจรสลัดยิ่งไปกว่านั้นยังยึดครองเกาะหมัวกุ่ย แอบปลูกดอกอิงซู่บนเกาะ และผลิตขี้ผึ้งทองมาทำร้ายคน!ดูท่าผู้ที่ยังภักดีต่อแคว้นเยว่เหล่านั้นจะมีความทะเยอทะยานไม่น้อยเกรงว่าพวกเขาคงไม่ได้วางแผนแค่จะฟื้นฟูแคว้น!เซียวจิ่งอี้เชื่อมโยงเรื่องราวก่อนหลังทั้งหมดเข้าด้วยกัน ก็คาดเดาได้ว่าราชครูผู้นั้น เกรงว่าคงคิดจะใช้ขี้ผึ้งทองพิชิตทั้งแคว้นต้าฉีสร้างแคว้นเยว่ขึ้นมาใหม่ บนแผ่นดินแคว้นต้าฉีถึงครานั้นแคว้นต้าฉีจะล่มสลาย และแคว้นเยว่จะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง!ยิ่งไปกว่านั้นผู้ที่ยังภักดีต
Read more

บทที่ 568

หน้าผาสูงชันแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างไกล จึงมีคนผ่านมาน้อยมากมีเพียงหน่วยลาดตระเวนบนเกาะ ที่จะมาเป็นระยะ เพื่อลาดตระเวนแถวนี้สักคราดังนั้นที่นี่จึงเป็นสถานที่พูดคุยอันยอดเยี่ยมหลังเซียวจิ่งอี้กับจั่วเยี่ยนมาถึงตรงหน้าผา ทั้งสองคนก็เริ่มแลกเปลี่ยนข้อมูลจั่วเยี่ยนพูดก่อนว่า “หลังจากท่านไป กลุ่มคนในห้องก็ดื่มเหล้ากัน จู่ ๆ สองคนในบรรดานั้นมีปากเสียงกันเรื่องผู้หญิง จากนั้นก็ตัดสินใจจะสู้กัน ใครชนะ คืนนี้จะได้พาผู้หญิงคนนั้นกลับไป”เมื่อเห็นเซียวจิ่งอี้ขมวดคิ้ว จั่วเยี่ยนก็เร่งความเร็วในการพูดทันที“ท่านโปรดทนฟังข้าพูดต่อไปก่อน คำพูดนี้ของข้ามิได้เหลวไหล”“ระหว่างที่สองคนนั้นต่อสู้กันก็กระชากเสื้อของอีกฝ่าย ซึ่งข้าเห็นสัญลักษณ์รูปพระจันทร์สักอยู่บนร่างของพวกเขา”“ข้าสงสัยว่าคนเหล่านี้บนเกาะ มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นคนของแคว้นเยว่!”เซียวจิ่งอี้พยักหน้า “ไม่ใช่มีความเป็นไปได้ แต่พวกเขาเป็นคนของแคว้นเยว่!”พูดจบ เซียวจิ่งอี้ก็หยิบจดหมายที่ซ่อนไว้กับตัวออกมา“นี่คือสิ่งที่ข้าค้นเจอบนตัวของผู้นำคนนั้น ทั้งยังมีของเหล่านี้ที่หาเจอในช่องลับในห้องของเขาด้วย”“จดหมายนี้เขียนโดยราชครูขอ
Read more

บทที่ 569

ขณะที่เซียวจิ่งอี้กำลังกังวลว่าจะกวาดล้างคนแคว้นเยว่บนเกาะหมัวกุ่ยอย่างไร เรือที่นำโดยอวิ๋นฝูหลิงก็กำลังมุ่งตรงมายังทิศทางของเกาะหมัวกุ่ยมีฟางอวี่นำทาง เกาเทียนหย่วนคอยคุมหางเสือ ทั้งสองคนร่วมมือกัน ใช้เวลาไม่ถึงสองวัน ก็มาถึงอาณาเขตทะเลของเกาะหมัวกุ่ยที่นี่อยู่ห่างจากเกาะหมัวกุ่ยประมาณสิบกว่าไมล์ทะเลฟางอวี่กล่าวเตือน “บนเกาะหมัวกุ่ยมีคนคอยลาดตระเวน หากเรือใหญ่ขนาดนี้ของพวกเราแล่นผ่านไป ไม่ทันได้เข้าใกล้เกาะหมัวกุ่ย ก็คงถูกเจอตัวก่อน”อวิ๋นฝูหลิงได้ยินก็พยักหน้า คิดว่าฟางอวี่พูดมีเหตุผลเรือของพวกเขาใหญ่ขนาดนี้ เป็นเป้าสายตาที่ใหญ่เกินไปอวิ๋นฝูหลิงใคร่ครวญครู่หนึ่ง ไม่นานก็นึกถึงเรือลำเล็กสองสามลำบนเรือหากไปด้วยเรือลำเล็ก เป้าสายตาก็จะเล็กลงมากยามที่เคลื่อนไหวก็ระมัดระวังเสียหน่อย โอกาสที่จะถูกเจอตัวก็จะลดลงมากตอนนี้อวิ๋นฝูหลิงไม่ได้ตัดสินใจลงมืออย่างบุ่มบ่าม แต่ถามความคิดเห็นของฟางอวี่ก่อนถึงอย่างไรเขาก็เคยอยู่ที่เกาะหมัวกุ่ยมาสองปี จึงคุ้นเคยกับเกาะหมัวกุ่ยมากครั้งนี้ยังหนีออกจากเกาะหมัวกุ่ยได้สำเร็จ ย่อมมีประสบการณ์อยู่บ้าง รู้ว่าไปตรงไหนสามารถหลบเลี่ยงสายตาของทห
Read more

บทที่ 570

“หากเดินไปเส้นทางอื่น จะถูกคนของหน่วยลาดตระเวนเหล่านั้นพบตัวได้ง่ายมาก”หลังฟางอวี่คิดว่าจะถูกพบตัว และถูกจับไปใช้แรงงานบนเกาะหมัวกุ่ยอีกครั้งถึงขั้นที่อาจมีคนจำได้ว่าเขาคือคนที่หนีออกไปจากเกาะหมัวกุ่ยก่อนหน้านี้ สิ่งที่รอเขาอยู่ ก็ยิ่งเป็นจุดจบที่น่าอนาถคิดมาถึงตรงนี้ ฟางอวี่ก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเทาด้วยความกลัวอวิ๋นฝูหลิงเก็บสายตากลับมาแม้ว่าแนวปะการังแห่งนี้จะสูงชัน จนคนทั่วไปปีนได้ยากอยู่บ้าง ทว่าสำหรับนางไม่นับว่าเป็นอันใดเลยยิ่งไปกว่านั้นแนวปะการังแห่งนี้ยังถูกน้ำทะเลกัดเซาะมานานหลายปี พื้นผิวจึงขรุขระ นี่ทำให้ระหว่างทางที่ปีนมีจุดที่สามารถใช้เหยียบเท้าได้เยอะมาก ความยากในการปีนขึ้นไปจึงลดระดับลงบ้างสายตาของอวิ๋นฝูหลิงกวาดมองร่างของพวกเทียนเฉวียนทั้งสามคนเทียนเฉวียนมีวรยุทธ์สูงส่ง การปีนแนวปะการังระเกะระกะแห่งนี้จึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาแม้แต่น้อยก่อนหน้านี้ฟางอวี่หลบหนีไปจากตรงนี้ คิดว่าเขาคงคุ้นเคยกับแนวปะการังระเกะระกะแห่งนี้เป็นอย่างดี การปีนขึ้นไปย่อมไม่ใช่เรื่องยากเช่นกันยามที่สายตาของอวิ๋นฝูหลิงตกมาอยู่ที่ร่างของลูกพี่อู๋เป็นคนสุดท้าย ก็ชะงักอยู่นานล
Read more
PREV
1
...
5556575859
...
66
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status