All Chapters of ท้าอำนาจวังหลัง: Chapter 61 - Chapter 70

100 Chapters

บทที่ 61

ลู่เฟิงจิ่นออกไปจากจวนกั๋วกงพร้อมกับความเดือดดาลแต่พอขึ้นบนรถม้าไม่นาน เขากลับแหวกม่านหน้าต่างหลังรถม้าอย่างอดไม่ได้ ทอดสายตามองประตูใหญ่จวนกั๋วกงค่อย ๆ ไกลออกไปอารมณ์ขุ่นมัวไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด จู่ ๆ เขาก็โพล่งเสียงขรึม "หยุด!"ฉินอู่หยุดรถม้าในทันที เหลียวกลับไปกำลังจะเอ่ยปาก ก็เห็นท่านอ๋องแหวกเปิดผ้าม่าน ลงมาจากรถเขาถามอย่างงุนงง "ท่านอ๋องจะไปไหนพ่ะย่ะค่ะ?"ลู่เฟิงจิ่นไม่ตอบ ขายาวก้าวลงแล้วก็เดินไปใต้ร่มไม้ข้าง ๆ หันกลับไปมองประตูบานใหญ่ที่อยู่ไกลออกไปจวนกั๋วกงดูภายนอกยังคงโอ่อ่า แต่ผู้ใดต่างก็รู้ว่าหลังจากฉู่เซียวเหอเกิดเรื่องขึ้น อีกไม่นานจวนกั๋วกงคงต้องล่มสะลายแล้วฉู่เยว่หลีเองก็รู้ดีแก่ใจ!"ท่านอ๋อง" ฉินอู่เดินมาหยุดอยู่ข้างหลังเขา เอ่ยเสียงแผ่วเบา "ท่านอ๋องให้ข้าน้อยส่งคนไปสืบไหมพ่ะย่ะค่ะ วันนี้สองพี่น้องแม่ทัพฉู่ไปทำอะไรที่จวนโม่อ๋องกันแน่""จวนโม่อ๋องคุ้มกันหนาแน่น ยามนี้คนของข้าไปแล้วจะสืบได้หรือไม่ก็ยังไม่รู้ แต่หากตกอยู่ในเงื้อมือของคนของพี่ชายสี่แล้วถูกจับส่งไปให้เสด็จพ่อ ข้าจะไม่กลายเป็นผู้ร้ายลอบชิงอำนาจท่านพี่หรอกหรือ?"แม้เขากับโม่อ๋องจะไม่ถูกกั
Read more

บทที่ 62

สามวันต่อมา องค์ชายสามแห่งตงโจวเดินทางมาถึง ยังไม่ทันได้เข้าเมือง เหล่าราชนิกุลตงหลิงก็รอต้อนรับเขาที่เรือนรับรองนอกเมืองแล้วคิดไม่ถึงเลยว่าฮองเฮาจะสั่งให้ฉู่เยว่หลีเดินทางไปพร้อมกับเหล่าองค์ชายเพื่อต้อนรับองค์หญิงเจ็ดแห่งตงโจว ทั่วป๋าหลิวหลี"เหตุใดถึงแซ่ทั่วป๋าอีกแล้ว!" จื่อซูจงเกลียดจงชังแช่ทั่วป๋ายิ่งนักฉู่เยว่หลียิ้มเอ่ย "ทั่วป๋าเฟยเยวียนเติบโตในทะเลทราย ทะเลทรายแห่งนั้นใกล้กับตงโจว ไม่แน่ว่าแต่ก่อนพวกเขาอาจจะเป็นชาวตงโจว แซ่เดียวกันมีอะไรแปลกเล่า?"ไม่นานรถม้าก็หยุดลงที่หน้าเรือนรับรองยามฉู่เยว่หลีลงจากรถม้า สายตาเหลือบขึ้นมองเห็นรถม้าที่ห่างออกไปไม่ไกลตรงหน้า และเงาร่างสูงใหญ่"โม่อ๋อง?" จื่อซูเองก็เห็นเช่นกัน ลึกในใจยังกลัวอยู่ไม่น้อยแม้ฉู่เยว่หลีจะประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ยังสงบสติอารมณ์ของตัวเองได้ ก่อนจะเดินเข้าไปหาเขา "วันนี้ท่านอ๋อง..."ทันใดนั้นก็มีเสียงฉึกดังมาจากภายในเรือนรับรอง มีดสั้นเล่มหนึ่งบินออกมาฉู่เยว่หลีขมวดคิ้วเล็กน้อย แขนเสื้อสีน้ำหมึกตวัดผ่านใบหน้าเสียงปึกดังขึ้น มีดสั้นเล่มนั้นปักลงกลางต้นไม้ที่อยู่ไม่ไกลฉู่เยว่หลีถูกลู่เป่ยโม่ดึงตัวไปอยู่ข้
Read more

บทที่ 63

นี่เป็นครั้งแรกที่ฉู่เยว่หลีเห็นลู่เป่ยโม่โมโหตั้งแต่รู้จักกันมาแม้ว่าเขาจะไม่พูด หรือกระทั่งบนใบหน้าจะไม่มีอารมณ์ใดหลงเหลือแต่นางนั้นรู้ดีว่าเขานั้นโมโหประโยคสุดท้ายที่ทิ้งเอาไว้ ยังแฝงไปด้วยความเอาแต่ใจเกี่ยวอะไรกับเจ้า?โม่อ๋องผู้เย่อหยิ่งแสนเย็นชาจะพูดจาเช่นนี้หรือ?เสียงเอะอะโวยวายหน้าเรือนรับรองของพวกเขา ทำเอาคนข้างในแตกตื่นตั้งแต่ต้นแล้วเมื่อโม่อ๋องเดินเข้าไป องค์ชายสามตงโจวและองค์หญิงเจ็ดก็ออกมาจากห้องเพื่อต้อนรับด้วยตนเองด้านในครื้นเครงไม่น้อยด้านนอกเรือนรับรอง ลู่เฟิงจิ่นยังคงจ้องหน้าฉู่เยว่หลี น้ำเสียงเริ่มสงบนิ่งลงในที่สุด "อาหลี เจ้ามาที่นี่ทำไม?"เมื่อครู่พี่ชายสี่โมโห เขาเองก็รู้ พอชั่งน้ำหนักแล้ว วันนี้ตำแหน่งของเขาในใจของอาหลีนั้นเหนือกว่า จู่ ๆ ก็อารมณ์ดีขึ้นมาเสียอย่างนั้น"ฮองเฮารับสั่งให้ข้ามอบของกำนัลให้แก่องค์หญิงเจ็ด" ฉู่เยว่หลีเพิ่งตั้งสติได้ ชำเลืองมองกองทหารด้านหลังของลู่เฟิงจิ่น "ท่านอ๋องมาต้อนรับองค์ชายสามหรือ?"ในเมื่อมอบให้ลู่เฟิงจิ่นมารับแล้ว เหตุใดโม่อ๋องถึงอยู่ที่นี่ด้วย?เมื่อฉู่เยว่หลีเข้าประตูไป ในที่สุดก็ได้รับคำตอบ--โม่อ๋องและอ
Read more

บทที่ 64

เสียงเพียะดังขึ้น สายแส้ยาวฟาดลงพื้นเกิดเป็นรอยร้าวฝุ่นคลุ้งตลบอบอวล!เห็นได้ชัดว่าพลังปราณไม่ธรรมดาจื่อซูหัวใจกระตุกวูบ กลัวคุณหนูจะเสียเปรียบ รีบเข้าไปปกป้องฉู่เยว่หลีฉู่เยว่หลีรู้สึกเพียงขมับเริ่มกระตุกหงึก ไม่เอ่ยคำใด แต่ดึงอีกฝ่ายกลับมาอยู่ข้างหลังตนผู้ชาย ช่างเป็นคำที่น่ารำคาญนัก โปรยเสน่ห์ไปทั่วแล้วเกี่ยวอะไรกับนาง?นางมองแส้ยาวของทั่วป๋าหลิวหลี ทันใดนั้นก็พลันยกมุมปาก ดวงตาเหมือนจะเป็นประกาย"องค์หญิงเจ็ด ท่านเข้าใจผิดแล้ว เมื่อครู่ข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น โม่อ๋องเหมือนจะทะเลาะกับจิ่นอ๋อง ส่วนข้ากับจิ่นอ๋องนั้นรู้จักกันมานาน...แต่ด้วยเหตุผลซับซ้อน อธิบายตอนนี้คงไม่ชัดเจน ว่าแต่แส้ขององค์หญิงเจ็ดช่างงามนัก ทำมาจากวัสดุใดหรือเพคะ? ข้าไม่เคยแส้ที่พิเศษเช่นนี้มาก่อน!"แส้ยาวของทั่วป๋าหลิวหลีนั้น ในสีดำแวววาวแฝงไปด้วยเหลือบสีแดง ต้องทำมาจากของล้ำค่าหายากแน่นอนพอฉู่เยว่หลีเยินยอเช่นนั้น ไฟโกรธในใจของทั่วป๋าหลิวหลีก็ดับมอดลงไปครึ่งหนึ่งอย่างน่าอัศจรรย์นางลูบแส้ของตัวเองเบา ๆ ยิ้มอย่างพึงพอใจ "ทำมาจากหนังสิงโตเพลิงน่ะ สิงโตเพลิงนั้นดุร้ายเป็นที่สุด ทหารกล้าตงโจวใช้เวลาส
Read more

บทที่ 65

ในที่สุดก็พาองค์ชายสามตงโจวและองค์หญิงเจ็ดมาส่งถึงตำหนักถงชิ่งที่ใช้รับแขกอย่างราบรื่นทั่วป๋าหลิวหลีพันแข้งพันขาฉู่เยว่หลีให้อยู่นั่งเล่นที่ตำหนักถงชิ่งทั้งครึ่งเช้า ขากลับจึงเหนื่อยล้าไร้เรี่ยวแรงเด็กผู้หญิงคนนี้กำลังเหลือล้นเหมือนใช้ไม่มีวันหมด"คุณหนู ข้าว่าองค์หญิงเจ็ดนั้น ช่างจริงใจนัก เป็นน่าสนใจจริง ๆ" จื่อซูแรกเริ่มนั้นเป็นกังวลคิดไม่ถึงเลยว่าองค์หญิงเจ็ดจะกลายเป็นเพื่อนรักกับคุณหนูฉู่เยว่หลีเอ่ยเสียงยานคาง "นางคิดแต่จะเล่นสนุก ใจร้อน แต่ไม่ใช่คนเลวร้าย สุดท้ายแล้วก็เป็นคนในราชวงศ์คนหนึ่ง""คุณหนูเองก็ไม่คิดว่าจะได้เป็นเพื่อนกับนางใช่ไหมเจ้าคะ" จื่อซูชักอดทนไม่ไหวหลายปีที่ผ่านมา คุณหนูนั้นใช้ชีวิตเพื่อลู่เฟิงจิ่น ไม่มีเคยมีเพื่อนของตัวเองจริง ๆ เลยสักคนนางคิดว่าคราวนี้ะได้มีเพื่อนเสียที"โม่อ๋องคือหนามที่ทิ่มแทงข้ากับนาง หากหนามนี้ยังอยู่ ก็ไม่มีทางเป็นเพื่อนกันได้จริง ๆ"ฉู่เยว่หลีหลับตาลง พิงเบาะรถบนรถม้าเพื่อพักกาย"เว้นเสียแต่ว่าวันหนึ่ง โม่อ๋องจะโยนหมากอย่างข้าทิ้งไป หรือไม่ก็นางไม่ชอบโม่อ๋องแล้ว""หมาก?" จื่อซูได้ยินแล้วก็ตกใจฉู่เยว่หลีกลับเสียงเรียบต้
Read more

บทที่ 66

ใต้แสงจันทร์ส่อง เงาร่างหนึ่งเงียบสงัดปานสายน้ำ แต่กลับอานุภาพรุนแรงดั่งมังกรคะนองวารีเขานั่งอยู่บนต้นไม้ ท่อนขายาวพาดอยู่บนกิ่งไม้ข้าง ๆ ขาแกร่งนั้นยาวจนน่าตกใจราวกับเพียงแค่ก้าวออกไปก็สามารถลงจากต้นไม้มาหยุดอยู่ตรงหน้านางได้แล้วในใจของฉู่เยว่หลีหนักอึ้งภายใต้แสงจันทร์ หน้ากากครึ่งใบหน้านั้นสะท้อนแสงสีเงินเย็นยะเยือกทำเป็นไม่เห็นเขาได้หรือไม่?ฉู่เยว่หลีมาครุ่นคิดดูแล้ว เขาอุตส่าห์มาทั้งที หากจะแสร้งทำเป็นไม่เห็น ไม่แน่ว่าประเดี๋ยวเขาจะมาถีบประตูห้องนางเอาชายหญิงอยู่ด้วยกันลำพัง กลางดึกกลางดื่น อย่างน้อยด้านนอกก็ปลอดภัยกว่าในห้องฉู่เยว่หลีปิดหน้าต่าง สวมทับเสื้อคลุมเนื้อบาง เปิดประตูเดินตรงไปหาเขาใต้ต้นไม้"ท่านอ๋อง ท่านมาถึงจวนกั๋วกงกลางดึกเช่นนี้ ไม่ทราบว่ามีธุระอันใดหรือ?"เขานั่งอยู่สูงเกินไป ยามฉู่เยว่หลีคุยกับเขาจึงต้องแหงนหน้า เมื่อยชะมัดลู่เป่ยโม่ก้มมองลง มองนางด้วยหางตา "ในเมื่อข้าชอบเจ้า จะมาพูดคุยกับเจ้าไม่ได้เชียวหรือ?""ข้ายังเป็นหญิงโสด ท่านอ๋องโปรดระวังคำพูดด้วย"เมื่อประโยคนั้นเอ่ยออกไป ก็รู้สึกเหมือนไอเย็นยะเยือกเคลือบคลานเข้ามาแต่เพียงพริบตา ร่
Read more

บทที่ 67

หัวใจของฉู่เยว่หลีเย็นวาบยามนั้นโม่อ๋องอายุเพียงสิบเจ็ดสิบแปดปีชายหนุ่มบนม้าขาว ห้าวหาญเกรียงไกรตอนนั้นนางเองก็ยังอายุน้อย แต่ได้ยินชื่อเสียงของโม่อ๋องมานานแล้วชายงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวงเพราะเหตุนี้แม้แต่ลู่เฟิงจิ่นยังคิดว่าเพราะเขาทำให้โม่อ๋องต้องเสียโฉม โม่อ๋องกลับมาแล้วต้องแก้แค้นพวกเขาแน่นอนนั่นเป็นเพราะโม่อ๋องในยามนั้น รูปงามเป็นที่เลื่องลือไปทั่วแคว้นเขาเสียโฉมที่ชายแดนเหนือ เพราะแผนการที่ฉู่เยว่หลีวางไว้ในยามนั้น หลอกล่อเขาจากสนามรบฉีโจวไปยังชายแดนเหนือ หลังจากนั้นก็ถูกขังตัวไว้ที่ชายแดนเหนือไม่อาจหนีออกมาได้"ข้าไม่ได้คิดจะซ้ำเติมท่านอ๋องแต่อย่างใด สงครามในยามนั้น ข้าคิดเพียงแค่อยากให้ท่านอ๋องส่งต่อสนามรบฉีโจวให้กับจิ่นอ๋องก็เท่านั้น"ฉู่เยว่หลีไม่ได้ปัดความรับผิดชอบ แต่ยามนั้นชายแดนเหนือวุ่นวายนัก ต้องมีคนไปปราบให้สงบเพียงแต่ระหว่างจิ่นอ๋องกับโม่อ๋อง นางเลือกให้จิ่นอ๋องอยู่ในที่ปลอดภัยอย่างฉีโจวว่าตามตรงนั่นก็เป็นเพราะฉู่เยว่หลีรู้ว่าชายแดนเหนือนั้นอันตรายเพียงใด คนที่ไปแล้วใช่ว่าจะกลับมาอย่างปลอดภัยสุดท้ายแล้วจิ่นอ๋องกลับมาจากฉีโจว กลายเป็นเทพสงคราม
Read more

บทที่ 68

ไม่อยากทั้งนั้น!ฉู่เยว่หลีโมโห "จะห้องนอนหรือว่าที่นี่ก็เป็นเรือนของข้า! ท่านอ๋อง ข้าเป็นหญิงโสด จะให้ท่านค้างแรมที่เรือนของข้าได้อย่างไร?""เช่นนั้นอยากให้ข้านอนในห้องนอนเจ้าสินะ?" น้ำเสียงของลู่เป่ยโม่ทุ้มต่ำยิ่งกว่าเดิม ขึ้นจมูกน้อย ๆ ฟังดูเหมือนจะใกล้จะหลับฉู่เยว่หลีทั้งโมโหทั้งร้อนใจ นางไม่เคยเจอชายใดที่หน้าทนปานนี้"หากท่านอ๋องทำลายชื่อเสียงข้าเช่นนี้ แล้ววันหน้าไม่แต่งงานกับข้าจริง ๆ ท่านอ๋องคงไม่สนใจว่าข้าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรอยู่แล้วใช่หรือไม่? แล้วท่านอ๋องจะต่างอะไรกับคนพวกนั้น?"นางคิดว่าอย่างน้อยต้องทำให้เขาโมโห โมโหแล้วก็จะได้รีบไปจากที่นี่ วันหน้าอย่างได้ญาติดีกันอีกเลยแต่คิดไม่ถึงเลยว่าลู่เป่ยโม่กลับไม่โมโหแม้แต่นิดเขายิ้มบางออกมาด้วยซ้ำ "ตัวหนังสือคร่ำครี ธรรมเนียมจอมปลอมพวกนั้น จะสนใจไปใย? ข้าบอกแล้วหากเจ้าคิดว่าอยู่เมืองหลวงแล้วไม่สบาย ก็ตามไปอยู่ชายแดนเหนือกับข้า""ท่านอ๋องยังคิดจะกลับไปชายแดนเหนืออีกหรือ?" ฉู่เยว่หลีชะงักไป นี่เป็นครั้งที่สองที่นางได้ยินลู่เป่ยโม่พูดว่าวันหน้าจะพานางกลับไปยังชายแดนเหนือแต่เขาคือโม่อ๋อง คนที่มีสิทธิได้สืบทอดบัลลังก์มาก
Read more

บทที่ 69

ให้หลังจิ่งเหลยกลับขึ้นไปอยู่บนต้นไม้ก่อนจากยังกำชับอีกว่า "วันนี้ท่านอ๋องดื่มเหล้าแรงมาไม่น้อย กลางคืนลมเย็น ขอแม่นางโปรดดูแลท่านด้วย อย่าให้ท่านอ๋องเป็นไข้หนาวสั่นเป็นการดี"ฉู่เยว่หลีสงบสติอารมณ์อยู่ครู่หนึ่งหลังจากผ่านไปพักใหญ่นางจึงเดินออกมา เรียกหาองครักษ์ที่ไว้ใจได้สี่คน ให้พวกเขาคุ้มกันหน้าประตูเรือน นอกจากจื่อซูและฉู่อีแล้ว ไม่ว่าผู้ใดก็ห้ามเข้ามาเด็ดขาดต่อมาจื่อซูและฉู่อีก็พาฉู่เซียวเหอกลับมา ฉู่เยว่หลีจึงสั่งให้ฉู่อีย้ายมาคุ้มกันที่เรือนของตนแทนฉู่อีไม่ถามว่าเพราะเหตุใด องครักษ์อีกสี่คนก็ไม่ถามยิ่งไม่มีใครกล้าเหลียวกลับไปมองว่าเกิดอะไรขึ้น ประตูใหญ่ของหอบุหลันก็ลงสลักกลอนแล้วเมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ฉู่เยว่หลีถึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก กลับไปหยิบผ้าห่มผืนหนึ่งในห้องของตัเวอง แล้วกลับไปยังศาลารับลมลู่เป่ยโม่หลับสบายจริงเชียว ช่วงนี้คงเหนื่อยล้ายิ่งนัก ถึงได้ส่งเสียงกรนเบา ๆ เป็นระยะฉู่เยว่หลีหอบผ้าห่มมาหยุดอยู่ข้างกายเขา ขณะกำลังจะห่มคลุมให้ นางกลับชะงักไปในทันใดยามนางออกไปจัดแจงเรื่องต่าง ๆ จอมมารอ๋องขยับเปลี่ยนท่า ยามนี้นอนตะแคงอยู่หน้ากากครึ่งใบ
Read more

บทที่ 70

จอมมารอ๋อง!ฉู่เยว่หลีเบิกตาโพรงลมหายใจหอบกระชั้นภาพที่เห็นคือจื่อซูกำลังเก็บกวาดข้าวของในห้องนางถอนหายใจอย่างโล่งอก หัวใจกลับเต้นแรงขึ้นมาอีกหน"จื่อซู เจ้าเข้ามาตั้งแต่เมื่อใด? เมื่อคืน...""เพิ่งเข้ามาไม่นานเจ้าค่ะ คุณหนูหลับลึกยิ่งนัก ข้าเคาะประตูตั้งหลายครั้งแต่คุณหนูไม่ได้ยิน ข้าก็เลยยกน้ำเข้ามาเสียเลย"จื่อซูไม่อยากปลุกนาง แต่วันนี้มีเรื่องสำคัญ ไม่อยากตื่นก็ต้องตื่น"เมื่อคืน...เจ้าไม่ได้เข้ามารึ?" ฉู่เยว่หลีเหงื่อผุดบนขมับเมื่อคืนนี้รู้สึกชัดเจนว่ามีคนจ้องมองนางอยู่ข้างเตียง ดวงตาคู่นั้นแหลมคมดุจนกอินทรี เย็นยะเยือกเหมือนธารน้ำแข็ง น่ากลัวเหลือเกินจื่อซูส่ายหน้าพลายเอ่ย "เมื่อครู่คุณหนูรับสั่งให้ฉู่อีคุ้มกันประตูเรือน พวกเราไม่มีใครเข้ามาเลย"ฉู่เยว่หลีครุ่นคิด แต่กลับมีบางอย่างผุดขึ้นมาในหัว นางกระชากผ้าห่ม วิ่งออกไปนอกห้องภายในเรือนเงียบสงบ ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นณ ศาลารับลม ย่อมไม่มีอะไรทั้งสิ้น แม้แต่ผ้าห่มที่นางคลุมร่างให้เขาเมื่อคืนวานก็เหมือนไม่อยู่แล้ว"คุณหนู วันพรุ่งนี้ในวังมีงานแข่งประลองยุทธ์ คุณชายใหญ่สู้กับอูตาน วันนี้คุณชายใหญ่ออกไปฝึกซ้อมทวนแต่
Read more
PREV
1
...
5678910
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status