All Chapters of ท้าอำนาจวังหลัง: Chapter 71 - Chapter 80

100 Chapters

บทที่ 71

ฮองเฮากลับไม่ได้ต่อบทสนทนาเรื่ององค์ชายสามแห่งตงโจวทว่าเพียงแต่ถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง : "อาหลี ยามที่แม่ของเจ้าายังอยู่ นางเป็นวีรสตรีผู้ห้าวหาญที่หาตัวจับยากยิ่ง""แม้ข้าจะอยู่แต่ในวังชั้นใน แต่กลับได้ยินเรื่องราวที่แม่เจ้าตามติดโหวจงยงพ่อของเจ้าไปสนามรบ ข้าชื่นชมแม่เจ้ามานาน เพียงแต่น่าเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้รู้จัก"ฉู่เยว่หลีไม่ได้ตอบ เพียงแค่ฟังอย่างเงียบๆฮองเฮารู้ว่าเด็กคนนี้ละเอียดรอบครอบ นางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม : "อาหลี ไม่จำเป็นต้องคิดมาก ข้าเพียงแค่เอ็นดูเจ้าจริงๆ คำพูดที่เจ้าพูดในงานเลี้ยงวันนั้น ตรงใจข้าเหลือเกิน""ฮองเฮาทรงชมเกินไป" ฉู่เยว่หลีตอบเสียงเบาฮองเฮาถอนใจ ท่าทางจนปัญญา:"สิ่งที่เจ้าพูด เหตุใดข้าจะไม่อยากพูดออกมา ความคับแค้นใจในวังหลัง ชายใดบนโลกจะเข้าใจ"เป็นอีกครั้งที่ฉู่เยว่หลีไม่ได้ตอบโต้สิ่งใดฮองเฮาฐานะสูงศักดิ์ อีกทั้งผู้ที่นางกำลังตัดพ้ออยู่นั้นก็เป็นถึงจักรพรรดิผู้ปกครอง บางอย่าง นางไม่อาจพูดได้ หรือแม้กระทั่งไม่อาจเออออคล้อยตามได้ภัยเกิดเพราะปากฮองเฮาจ้องมองนางด้วยความลึกซึ้งอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้ม:"ข้ารู้ว่าเจ้าเพิ่งประสบเค
Read more

บทที่ 72

ตอนขึ้นรถม้า สีหน้าของฉู่เซียวเหอดูเคร่งเครียดอย่างที่คิดไว้ฉู่เยว่หลีพูดปลอบด้วยรอยยิ้ม "พี่ใหญ่ไม่ต้องกังวล กระบวนท่าที่ใต้เท้าจิ่งเหลยถ่ายทอดมาให้ ข้าเห็นว่าเป็นประโยชน์นักไม่ใช่หรือ"ฉู่เซียวเหอกลับมองมือขวาของตนเอง แล้วเอ่ยอย่างระอา : "กระบวนท่าดี ทั้งยังสามารถต้านอูตานได้แน่ แต่คืนก่อนข้าได้พบอูตานแล้ว ร่างกายของเขากำยำแข็งแกร่งไร้เทียมทาน เกรงว่าเพียงแค่กระบวนท่าเดียวก็ทำให้ทวนข้าปลิวได้""แต่ด้วยกระบวนท่าของใต้เท้าจิ่งเหลย รับประกันได้ว่าทวนของพี่ใหญ่จะไม่กระทบกับทวนยาวของอูตานซึ่งๆ หน้า เช่นนี้ เขาก็น่าจะไม่มีโอกาสทำให้ทวนของพี่ใหญ่ถูกกระแทกจนลอยไปได้ถึงจะถูก""อาหลีเจ้าอ่านกระบวนท่าได้ปรุโปร่งเพียงนี้เชียวหรือ" ฉู่เซียวเหอตะลึงฉู่เยว่หลีตอบด้วยรอยยิ้ม:"กระบวนท่าของแต่ละสำนัก ข้าล้วนแต่เคยศึกษามาหมดแล้ว ตำรายุทธวิถีวิชาการต่อสู้ทั้งหลายก็สามารถท่องจำได้อย่างแม่นยำ มองปราดเดียวก็อ่านกระบวนท่าได้ทะลุปรุโปร่ง"ฉู่เซียวเหอรู้สึกเลื่อมใสอาหลีของพวกเขา เพรียบพร้อมเสียจริง ไม่ว่าเรื่องใดก็ทำได้เสียหมดหากนางรู้วิชาการต่อสู้ เช่นนั้นคงต้องได้เป็นยอดฝีมือขั้นสูงแน่แต่อาหลี
Read more

บทที่ 73

ราชสำนัก ไร้ซึ่งไมตรีในยามที่มีประโยชน์ มียศถาบรรดาศักดิ์ ราชสำนักจะปอปั้น เอาอกเอาใจแต่หากหมดประโยชน์แล้ว เช่นนั้นราชสำนักก็จะคิดทำทุกวิถีทาง เอาทุกอย่างคืน เพื่อนำไปให้ผู้ที่มีประโยชน์เพียงแค่ต้องการเอาของของเราคืนไป ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ทำได้ หรือแม้กระทั่ง ทำลายทุกสิ่งของเราโดยไม่แยแสใดๆจู่ๆ ฉู่เยว่หลีก็เดินจ้ำเข้าไปอย่างรวดเร็ว แล้วดึงแขนเสื้อของฉู่เซียวเหอฉู่เซียวเหอกำลังคิดกระบวนท่าที่จะต้องต่อสู้กับอูตานในอีกไม่ช้า ทันทีที่ถูกนางดึงก็หันขวับกลับมาเห็นสีหน้าของนางขาวซีด ฉู่เซียวเหอรีบปลอบโยน:"อาหลี ไม่ต้องกลัว พี่ใหญ่ชนะการประลองครั้งนี้ได้แน่ หรืออย่างแย่ที่สุด ต่อให้พี่ใหญ่ไม่อาจชนะได้ ขอเพียงแค่พี่ใหญ่พยายามสุดกำลัง ฝ่าบาทก็ไม่มีทางโทษจวนกั๋วกงของเราหรอก"ฉู่เยว่หลีเงยหน้าขึ้นไปมองเขา ภายในใจรู้สึกปวดร้าวอย่างห้ามไม่ได้พี่ใหญ่ผู้น่าสงสาร ทำเพื่อชาติบ้านเมืองเพื่อประชาชน จงรักภักดีต่อฝ่าบาท พลทหารนายหนึ่ง ไม่รู้วิธีการอ่านใจคน ลำบากตรากตรำก็เพื่อความรุ่งโรจน์ของบ้านเมืองเท่านั้นแต่กลับไม่รู้เลยว่า ลานไท่เหอแห่งนี้ คือสุสานที่ฝ่าบาททรงเตรียมไว้เพื่อทำให้เขาเสียช
Read more

บทที่ 74

ลู่เฟิงจิ่นละสายตาออกมา แล้วเดินไปยังที่นั่งของจวนจิ่นอ๋องจากนั้นก็ไม่ได้เบนสายตาไปมองทางจวนกั๋วกงอีกแม้แต่น้อยทว่าทั่วป๋าเฟยเยวียนกลับเอาแต่ยืนอยู่ข้างๆ ไม่มีท่าทีว่าจะนั่งลงลู่เฟิงจิ่นมุ่นคิ้วเบาๆ:"เป็นอะไรไป ไม่สบายที่ใดหรือ"หลังจากที่นางถูกโบยก็นอนพักฟื้นอยู่บนเตียงหลายวัน เพิ่งจะฝืนเดินได้บ้างในช่วงสองสามวันมานี้ลู่เฟิงจิ่นเตือนให้นางพักผ่อนต่ออีกสักวันสองวันแล้ว แต่นางรั้นจะมาให้ได้ เขาจึงไม่ขัดแล้วทั่วป๋าเฟยเยวียนก้มหน้า ถลึงตามองเขา ท่าทีหงุดหงิดเล็กน้อย:"เจ้าไม่รู้สึกว่าวันนี้ข้ามีสิ่งใดเปลี่ยนไปบ้างหรือ"ลู่เฟิงจิ่นพินิจนางตั้งแต่หัวจรดเท้ารอบหนึ่งวันนี้นางตั้งใจแต่งตัวเป็นพิเศษ ปะแป้งบนใบหน้า แต่งหน้าอย่างประณีต สวมเครื่องแต่งกายชุดชาววังสีม่วงสดใส ลู่เฟิงจิ่นเห็นตั้งแต่ก่อนเดินทางออกมาแล้ว ยังคิดอยู่เลยว่าช่างงดงามยิ่งนักตอนนั้นก็ชมนางไปเปราะหนึ่งแต่ยามนี้ ไม่ไกลออกไปคือจวนกั๋วกง นางผู้นั้น...ฉู่เยว่หลีที่หน้าเปลือยไร้เครื่องสำอางในเครื่องแต่งกายชุดจิ้นจวงนั่งอยู่ในขอบเขตสายตาเขาพอดี ราวกับว่า ไม่ว่าจะมองไปทางใด หางตาก็ยังสามารถเห็นร่างของนางได้ใบหน้าเล
Read more

บทที่ 75

"ลู่เฟิงจิ่น ข้ากำลังพูดกับเจ้า!" เขาเอาแต่นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา ทำให้ความโกรธของทั่วป๋าเฟยเยวียนลุกโชนยิ่งกว่าเดิมเขาเงียบ เป็นการยอมรับเป็นกลายๆ แล้วใช่หรือไม่ว่าเมื่อครู่ตนเองมองฉู่เยว่หลีอยู่ตลอดจริง"ในเมื่อเจ้าถูกใจนางเช่นนั้น เหตุใดตอนแรกถึงมาตามเกาะแกะข้า เจ้าไปหานางสิ!""เจ้าพูดพอหรือยัง" น้ำเสียงของลู่เฟิงจิ่นแฝงไว้ด้วยความดุดันที่ยากจะสังเกตเห็นได้ แม้ว่าใบหน้าของเขายังคงดูสงบนิ่งก็ตามแต่หากทั่วป๋าเฟยเยวียนไม่ได้รับการขอโทษจากเขาต่อหน้าผู้คน นางไม่มีทางยอมหยุดตอนนี้ผู้ที่ทำผิดคือเขา เหตุใดเขาถึงยังกล้าพูดกับนางด้วยท่าทีเช่นนี้"ลู่เฟิงจิ่น..."เสียงเพี้ยะดังขึ้นรอบข้างไม่ได้ยินแม้แต่เสียงหายใจครึ่งใบหน้าของทั่วป๋าเฟยเยวียนบวมเป่งออกมาในพริบตานางจ้องลู่เฟิงจิ่นเขม็ง นิ่งอึ้งไปโดยสิ้นเชิงเขาทำร้ายนางอีกแล้วครั้งแรก ที่เขาตบนางคือในงานเลี้ยง แต่ครั้งนั้นแม้แต่ทั่วป๋าเฟยเยวียนเองก็ดูออกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจหลังจากที่ตบนาง เขาเองก็ตกใจไม่น้อย แววตาเต็มไปด้วยความตกตะลึงและรู้สึกผิดแต่ครั้งนี้ หลังจากที่ลู่เฟิงจิ่นตบนางแล้ว สายตาที่มองนาง ช่างเย็นชาไร้หัวใจ อีกท
Read more

บทที่ 76

ในขณะที่ฉู่เยว่หลีและจื่อซูไม่รู้ว่าจะปลอบใจฉู่เซียวเหอเช่นไรดี หลิวอวิ๋นก็เดินเข้ามาจากฝั่งของจวนโม่อ๋อง"แม่ทัพฉู่" หลิวอวิ๋นเดินไปหยุดตรงหน้าทั้งคู่ โน้มตัวเล็กน้อย:"แม่นางหลี""ใต้เท้าหลิวอวิ๋น" ทั้งสองคนทำความเคารพตอบหลังจากที่หลิวอวิ๋นยิ้มทักทายฉู่เยว่หลี ก็ยกกล่องไม้ทรงยาวกล่องหนึ่งขึ้นมาตรงหน้าฉู่เซียวเหอกล่องไม้ที่มีความยาวเช่นนี้..."นี่คือ..." ดวงตาของฉู่เซียวเหอฉายประกายออกมาในพริบตา แต่เขาไม่กล้าปักใจเชื่อ เพราะอย่างไรก็ไม่น่าเป็นไปได้แต่ช่วงนี้โม่อ๋องกระทำสิ่งใด ดูเหมือนจะมีหลายสิ่งที่ "ไม่น่าเป็นไปได้"หลิวอวิ๋นเปิดกล่องไม้ออก เป็นอย่างที่คิด ท่ามกลางสายตาประหลาดใจของฉู่เซียวเหอ เขาหยิบทวนทองคำนิลออกมา แล้วยื่นมันมาตรงหน้าฉู่เซียวเหอด้วยมือทั้งสองข้างฉู่เซียวเหอลุกพรวดขึ้นมา เอ่ยด้วยความตื่นเต้นดีใจ:"ท่านอ๋อง...ท่านอ๋องยอมให้ข้ายืมทวนหรือ"ใครจะคิดว่าหลิวอวิ๋นกลับส่ายหน้า:"ไม่"สีหน้าของฉู่เซียวเหอสลดลงทันตาเห็นในเมื่อไม่ยอมให้เขายืม แล้วเหตุใดถึงเอามาหลอกล่อเขา เห้อ อยากได้เหลือเกิน...แน่นอนว่าหลิวอวิ๋นเห็นสายตาผิดหวังของเขา รอยยิ้มมุมปากกลับชัดเจนยิ่ง
Read more

บทที่ 77

ช่วงเวลาชาหนึ่งถ้วย ฉู่เซียวเหอนับได้ว่ายอมรับทวนของโม่อ๋องไว้แล้วใจอ่อนเพราะติดค้างบุญคุณรอกระทั่งลู่เป่ยโม่และหรงอ๋องเริ่มคุยกันอีกครั้ง ไม่ได้สนใจตนแล้ว ฉู่เซียวเหอก็หันไปมองที่ฉู่เยว่หลีทันที"อาหลี ต่อไปห้ามรังเกียจที่โม่อ๋องหน้าตาอัปลักษณ์อีก แต่ก่อนเขาเคยเป็นชายงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองหลวง ตอนที่พี่ใหญ่เห็นเขา ก็อดไม่ได้ที่จะมองเขาอีกหลายๆ หน ความหล่อเหลาของเขาเกินกว่าเจ้าจะจินตนาการได้""พี่ใหญ่ ข้า..."ฉู่เยว่หลียังพูดไม่จบ ฉู่เซียวเหอกลับพูดขึ้นมาอีก:"ยามนี้ท่านอ๋องเสียโฉม นั่นก็เพื่อประชาชนในชายแดนเหนือ เขาเจ็บตัวเพื่อชาติบ้านเมือง พี่ใหญ่รู้ว่าเจ้าชอบชายรูปงามมาแต่ไหนแต่ไร แต่จะมองโม่อ๋องด้วยอคติไม่ได้ เขาจะน้อยเนื้อต่ำใจได้"น้อยเนื้อต่ำใจ?ฉู่เยว่หลีเกือบจะสงสัยว่าตนได้ยินผิดไปหากมารอ๋องน้อยเนื้อต่ำใจเป็น เช่นนั้นทั้งใต้หล้าก็ไม่มีชายใดมั่นใจในตัวเองอีกแล้วผู้ที่มีอำนาจใหญ่โตอย่างมารอ๋อง อย่าว่าแต่เขาเสียโฉมเพียงแค่ครึ่งหน้าเลย ต่อให้เขาเสียโฉมทั้งใบหน้า หรือแม้กระทั่งร่างทั้งร่างของเขาถูกทำลาย เกรงว่าแปดชาติก็ไม่มีทางเกี่ยวข้องกับคำว่า"น้อยเนื้อต่ำใจ"ได้แต่
Read more

บทที่ 78

หลังจากที่ฉู่เยว่หลีนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ก็รีบสงบสติอารมณ์ แล้วส่งยิ้มให้ทั่วป๋าอี้ทั่วป๋าอี้เองก็ยิ้มตอบ ทว่ารอยยิ้มนั้นกลับลุ่มลึกจนยากจะคาดเดาแต่ฉู่เยว่หลีก็ไม่อยากจะครุ่นคิดอะไรมาก หลังจากที่ยิ้มให้แล้วก็ละสายตากลับมาทันทีไม่นานนัก ฮ่องเต้และฮองเฮาก็เสด็จมาถึง เบื้องหลังตามมาด้วยพระสนมรุ่ย พระสนมหนิง และพระสนมจวงพระสนมเหล่านี้ ล้วนแต่เป็นพระชายารองในจวนอ๋องก่อนที่ฮ่องเต้จะทรงขึ้นครองราชย์ทุกคนต่างก็ต่อสู้อย่างบากบั่น จนมีโอรสกันทุกคน นี่เป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งต่อราชวงศ์ด้วยเหตุนี้ ตำแหน่งในวังหลังของพระสนมแต่ละคนจึงนับว่ายังมั่นคงอยู่พระสนมจวงคือเสด็จแม่ของอ๋องรองลู่เจิงหรง พระสนมหนิงเป็นเสด็จแม่ของอ๋องสามลู่ซ่างเฟิง ส่วนโม่อ๋อง เสด็จแม่ของเขาคือพระสนมอวี้ แต่พระสนมอวี้ต่างไปจากพระสนมคนอื่นๆพระสนมอวี้เป็นคนเรียบง่ายไม่ชอบความคึกคักเป็นทุนเดิม และไม่ชอบการชิงดีชิงเด่นในวังหลังหลายปีมานี้ เวลาครึ่งหนึ่งของพระสนมอวี้มักหมดไปกับการขอพรให้ฮ่องเต้และลูกชายในตำหนักฉางเล่อ เวลาอีกครึ่งหนึ่งมักไปไหว้พระ สวดมนต์ที่เขาอู่กง น้อยครั้งที่จะมาเข้าร่วมงานเลี้ยงในวังหลวงช่วงหลายวันนี
Read more

บทที่ 79

ชี่จินถือค้อนคู่ขึ้นมาบนเวทีประลองยุทธ์อีกคนที่ขึ้นไป คือหยางซู่ เป็นนายทหารภายใต้บังคับบัญชาของหรงอ๋องรูปร่างสูงเก้าฟุต ด้านความสูงเป็นต่ออย่างแน่นอน ดาบเล่มใหญ่ทรงพลัง แม้จะดูเทอะทะไปบ้าง แต่ฝีก้าวหนักแน่นมั่นคง แค่มองก็รู้ว่าเป็นยอดฝีมือที่มาจากการฝึกฝนวิชามวยภายใน"คุณหนูว่าคนของหรงอ๋องจะชนะ หรือนักรบชี่จินผู้นั้นจะชนะ" จื่อซูถามอย่างอดไม่ได้ฉู่เซียวเหอที่อยู่ข้างๆ ยิ้มร่า:"ชี่จินฝึกกังฟูกำลังภายนอก หยางซู่ฝึกฝนกำลังภายใน ดูไม่ออกจริงๆ ว่าผู้ใดจะชนะ"ฉู่เยว่หลีมองเขาปราดหนึ่ง ก่อนจะตอบด้วยรอยยิ้ม:"ดูท่าพี่ใหญ่จะอารมณ์ดีมากเลยนะ""เป็นเช่นนั้นเสียเมื่อไหร่ ข้าแค่พูดไปเรื่อยก็เท่านั้น" แต่รอยยิ้มในดวงตาของฉู่เซียวเหอไม่อาจปกปิดได้เลยแม้แต่น้อยแม้แต่จื่อซูเองก็ได้รับผลจากรอยยิ้มร่าของเขา นัยน์ตาพลอยฉายแววยิ้มไปด้วยคุณชายใหญ่ได้รับทวนทองคำนิลที่โม่อ๋องมอบให้แล้ว อารมณ์ดีขึ้นมาเลยท่าทางมั่นอกมั่นใจ ช่างดูดียิ่งนัก"คุณชายใหญ่ดื่มชาสักหน่อยไหม" จื่อซูรินน้ำชาให้เขาฉู่อีกลับยังคงตื่นเต้นไม่หาย:"คุณชายใหญ่ ใกล้จะถึงตาจวนกั๋วกงของพวกเราขึ้นประลองแล้ว ท่าน ท่านดื่มให้น้อยหน
Read more

บทที่ 80

ฉู่เยว่หลีบอกว่าหยางซู่จะต้องแพ้ในสิบกระบวนท่า นี่เป็นกระบวนท่าที่สิบพอดี แล้วก็พ่ายแพ้จริงๆฉู่อีและฉู่เซียวเหอต่างก็ตกตะลึงไปตามกันส่วนจื่อซูที่กลับเคยชินกับเรื่องนี้แต่แรกแล้ว พึมพำออกมาเบาๆ:"มีสิ่งใดประหลาด คุณหนูสามารถวิเคราะห์ผลแพ้ชนะจากการดูกระบวนท่าได้ตั้งแต่สิบสองขวบแล้ว พวกท่านต่างหากที่รู้จักคุณหนูไม่ดีพอ"ฉู่เซียวเหอและฉู่อีอึ้งยิ่งกว่าเดิมสิบสองขวบ!สิบสองขวบยังเป็นเด็กน้อยอยู่เลย จะไปเข้าใจอะไรแต่คำพูดนี้ของจื่อซู พวกเขาต่างก็เชื่อสนิทใจแต่ เด็กหญิงอายุสิบสอง นี่...จะเป็นไปได้อย่างไรกัน"พี่ใหญ่ รอบต่อไปก็จะถึงตาท่านแล้ว ยังไม่รีบทำสมาธิอีกหรือ" ฉู่เยว่หลีเตือนฉู่เซียวเหอถึงได้สติกลับมา เป็นอย่างที่พูด ได้ยินอันเต๋อลู่กำลังประกาศว่าการประลองสนามที่สอง คุณชายใหญ่แห่งจวนกั๋วกงฉู่เซียวเหอ ปะทะกับนักรบจากตงโจว อูตานฉู่เซียวเหอลุกขึ้นมา ในมือถือทวน ก่อนจะขึ้นไปก็ไม่ลืมที่จะหันมาส่งสายตาปลอบโยนให้ฉู่เยว่หลีจื่อซูอดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ:"คุณชายใหญ่เป็นคนดีจริงๆ ไม่ว่าที่ใดเวลาใด ก็ไม่เคยอยากให้คุณหนูเป็นกังวล"ฉู่อีเดินตามฉู่เซียวเหอไปถึงล่างเวทีประลองแล้ว เขายื
Read more
PREV
1
...
5678910
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status