All Chapters of หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก: Chapter 981 - Chapter 990

990 Chapters

บทที่ 981

ทาสใบ้ขยี้ตาของตนเองแล้วมองไปยังศพนั้นอีกครั้ง แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ นางคิดว่าตนเองอาจจะตาฝาดไป จึงไม่คิดอะไรมากนักและยื่นมือออกไปเพื่อจะอุ้มศพบนแท่นอีกครั้งแต่ในวินาทีต่อมา...“ฉึก”ทาสใบ้ตัวแข็งทื่อ นางค่อยๆ ก้มศีรษะลงมอง ก็เห็นมือข้างหนึ่งเสียบอยู่ที่บริเวณหัวใจของตนและเจ้าของมือนั้นก็คือศพที่อยู่บนแท่น“ที่นี่...ที่ไหน?”ศพนั้นเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าและน่ารังเกียจอย่างยิ่งทาสใบ้อ้าปากค้างอย่างแข็งทื่อศพนั้นจึงได้เห็นช่องปากที่ว่างเปล่าของนาง“ไร้ประโยชน์”ศพพูดจบ มีเสียง “ฉึก” ดังขึ้นอีกครั้ง ครานี้ควักหัวใจของทาสใบ้ออกมาโดยตรง แล้วโยนทิ้งไปข้างๆ อย่างไม่ไยดีนางไม่สนใจเลือดที่เปรอะเปื้อนเต็มมือ ลุกขึ้นเดินไปรอบๆ ห้องลับหนึ่งรอบ และในไม่ช้าก็พบกระจกทองแดงบานหนึ่งนางเดินไปที่หน้ากระจกทองแดง เมื่อเห็นร่างกายที่เย็บปะติดปะต่อกัน ทำให้ “เวินเยวี่ย” อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าดุร้ายออกมาทันที“บัดซบ! นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?!”นางตายไปแล้วไม่ใช่หรือ?เหตุใดจิตสำนึกของนางถึงมาปรากฏอยู่ที่นี่ได้?นางเกิดใหม่หรือ?แต่เหตุใดร่างกายของนางถึงเปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์เ
Read more

บทที่ 982

“เจ้าบอกว่านังเวินซื่อนั่นยังไปที่สกุลหลาน? สกุลหลานล่มสลายไปแล้วมิใช่หรือ? นางไปที่สกุลหลานได้อย่างไร?”เวินเยวี่ยขมวดคิ้ว พลางซักถามสาวใช้ที่ถูกนางควบคุมตัวไว้อย่างต่อเนื่องสาวใช้ตัวสั่นเทา แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่กล้าที่จะไม่ตอบคำถามของเวินเยวี่ย “เรียน...เรียนคุณหนูหก ท่านธิดาศักดิ์สิทธิ์นาง...”“ห้ามเรียกนางว่าท่านธิดาศักดิ์สิทธิ์!”สายตาของเวินเยวี่ยพลันฉายแววโหดเหี้ยม นางตวาดเสียงกร้าว “นังสารเลวนั่นเป็นเพียงมดปลวกที่ควรจะถูกข้าเหยียบย่ำอยู่ใต้ฝ่าเท้า จะคู่ควรกับคำว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์อะไรกัน น่าขันสิ้นดี”สาวใช้ตกใจจนเหงื่อเต็มใบหน้า แต่เนื่องจากมีมีดจ่ออยู่ที่ลำคอ หากไม่เชื่อฟัง เกรงว่าวินาทีต่อมานางคงถูกปาดคอเป็นแน่สาวใช้จึงได้แต่เอ่ยอย่างระมัดระวัง “เจ้า...เจ้าค่ะ ประมุขตระกูลหลานนั่น...”บัดนี้เวินซื่อคือประมุขตระกูลของสกุลหลาน สาวใช้ไม่กล้าเรียกธิดาศักดิ์สิทธิ์ แต่การเรียกว่า “ประมุขตระกูลหลาน” ก็ไม่ผิดทว่าสีหน้าของเวินเยวี่ยกลับน่ากลัวยิ่งขึ้น นางจ้องเขม็งไปยังสาวใช้ เอ่ยข่มขู่ด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “ไม่เรียกนางว่านังสารเลว ก็ให้ข้าประหารนังสารเลวอ
Read more

บทที่ 983

น่ารังเกียจเสียจริง!“แล้วคุณหนูสามสกุลอันนั่นเป็นใคร? สกุลอันไม่ได้มีเพียงอันหมิงจูและอันหลันซินหรอกหรือ? เหตุใดข้าจึงไม่เคยได้ยินว่ามีคุณหนูสามด้วย?”สาวใช้รีบเล่าเรื่องที่อันหลันซินตายแล้ว รวมถึงเรื่องที่สกุลอันตามหาอันซินรุ่ย บุตรสาวคนที่สามที่เร่ร่อนอยู่ข้างนอกเมื่อหลายปีก่อนกลับมาจนพบเมื่อได้ยินเช่นนั้น เวินเยวี่ยก็ทั้งตกตะลึงและขมวดคิ้วอันหลันซินตายแล้ว?นี่เป็นเรื่องที่นางคาดไม่ถึงชาตินี้มีเรื่องราวมากมายที่ไม่ตรงกับชาติที่แล้วของนาง คนที่ควรตายกลับไม่ตาย คนที่ควรมีชีวิตอยู่กลับไม่อยู่นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?หรือว่าเวินซื่อก็เกิดใหม่จริงๆ ?หรือว่าเรื่องราวในชาตินี้ไม่สอดคล้องกับชาติที่แล้วของนาง?เวินเยวี่ยนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงถามต่อ “จริงสิ เจ้าบอกว่านังสารเลวเวินซื่อนั่นทูลขอเปลี่ยนสกุลจากฝ่าบาท แล้วท่านพ่อไม่ได้ขัดขวางเลยหรือ?”“เรื่องนี้...เรื่องนี้บ่าวก็ไม่ค่อยทราบอะไรมากนัก เพียงแต่ได้ยินข่าวลือจากข้างนอกว่า อาจจะเกี่ยวข้องกับคุณชายน้อยที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์...ที่นังสารเลวนั่นช่วยท่านกั๋วกงตามหากลับมาเจ้าค่ะ”เวินเยวี่ยขมวดคิ้ว “คุณชายน้อยอะไรกัน?”สาวใช้เ
Read more

บทที่ 984

“อะไรนะ?”หลานซื่อยังไม่ทันได้ถามว่าศพหุ่นเชิดที่ฟ่านจุ้ยพูดถึงคืออะไร ก็ถามเขาก่อนว่า “รู้หรือไม่ว่าเป็นผู้ใด?”ฟ่านจุ้ยส่ายหน้า “ระยะทางไกลเกินไป การรับรู้ของข้ากับศพหุ่นเชิดไม่ลึกซึ้งนัก ต้องกลับไปถึงเมืองหลวงก่อนจึงจะรู้”หลานซื่อพยักหน้า “เช่นนั้นเจ้ารีบกลับไปก่อนเถอะ”พูดจบ นางก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วมอบแมงมุมตัวเล็กๆ สีขาวจนเกือบจะโปร่งใสให้ฟ่านจุ้ยหนึ่งตัว “นี่คือแมงมุมผลึก สามารถติดต่อกับข้าได้ในระยะร้อยลี้ หากมีสิ่งใดจำเป็น ก็พูดกับมันได้ มันจะส่งข่าวมาให้ข้าเอง”เมื่อได้ยินเช่นนั้น สายตาของฟ่านจุ้ยที่มองไปยังแมงมุมตัวน้อยก็พลันเป็นประกาย รับมาด้วยความยินดี“พี่หญิงวางใจได้ น้องชายไปแล้วจะรีบกลับมา”หลังจากเก็บแมงมุมแล้ว เขาก็หันไปกำชับจวี้เอ๋าหนึ่งประโยค “เจ้าตัวโต เฝ้าที่นี่ให้ดีล่ะ”เขาไม่ได้เป็นห่วงทางฝั่งของหลานซื่ออย่างไรเสียข้างกายหลานซื่อก็มีผู้มีฝีมือสูงส่งอยู่ไม่น้อยและหากอารามสุ่ยเยว่เกิดเรื่องขึ้น เกรงว่าคนผู้นั้นคงจะรีบรุดมาในทันทีดังนั้นเขาจึงสามารถวางใจไปจัดการเรื่องของตนเองก่อนได้เมื่อมองดูฟ่านจุ้ยจากไป หลานซื่อก็ลูบคางพลางครุ่นคิด“ศพหุ่น
Read more

บทที่ 985

“เป็นเจ้าเองหรือ?!”“ไม่สิ จะเป็นเจ้าไปได้อย่างไร เจ้ามาปรากฏตัวในเวลานี้ได้อย่างไร?!”ใบหน้าของศพหุ่นเชิดที่ปรากฏออกมานั้น เหมือนกับฟ่านจุ้ยทุกประการดังนั้นจึงดูคล้ายกับ “เวินเยวี่ย” อย่างยิ่งถึงขนาดที่หลังจาก “เวินเยวี่ย” ได้เห็นใบหน้านี้ นางก็พลันนึกถึงบางสิ่งบางอย่างขึ้นมาได้ความรู้สึกตกตะลึงนี้ ดูเหมือนจะไม่ได้มาจากความจริงที่ว่าฟ่านจุ้ยหน้าตาเหมือนนาง แต่มาจากเวลาที่ฟ่านจุ้ยปรากฏตัวในตอนนี้เพราะในชาติที่แล้ว นางจำได้อย่างชัดเจนว่า คนผู้นี้ไม่เคยกลับมาที่จวนเจิ้นกั๋วกงเลย!“ที่แท้ก็คือเจ้า ที่แท้เจ้าคือบุตรนอกสมรสของเขา มิน่าเล่า...มิน่าเล่าเจ้าถึงปฏิบัติต่อพวกเรา...”“เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”ขณะที่ “เวินเยวี่ย” กำลังตกตะลึงอยู่นั้น เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นจากนอกประตู ในน้ำเสียงนั้นเจือไปด้วยความไม่พอใจเวินเยวี่ยหันไปมอง ก็เห็นเวินเฉวียนเซิ่งยืนอยู่ที่หน้าประตูด้วยสีหน้าบูดบึ้งอย่างยิ่ง กำลังมองนางด้วยสายตาที่ทั้งประหลาดใจและสงสัย“เจ้าไปทำอะไรที่จวนจงหย่งโหวมากันแน่? เจ้ารู้หรือไม่ว่าพ่อตามหาเจ้ามานานแค่ไหนแล้ว หายตัวไปหลายวันเช่นนี้ไปอยู่ที่ไหนมา เหตุใดถึงเพ
Read more

บทที่ 986

ก่อนหน้านี้ หลังจากกลับมาถึงจวนเจิ้นกั๋วกง เวินเยวี่ยก็ได้จัดการชำระล้างร่างกายตนเอง เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่และแต่งหน้าแม้ว่าจะยังไม่สามารถกลับคืนสู่สภาพเดิมในอดีตได้ แต่อย่างน้อยก็ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาบ้าง ไม่ใช่สภาพศพที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดและใบหน้าซีดเขียวอีกต่อไปถึงกระนั้น ท่วงท่าและสีหน้าของนางก็ยังคงมีความแข็งทื่ออยู่บ้างเล็กน้อยเพียงแต่ความแข็งทื่อเช่นนี้ หากไม่สังเกตอย่างละเอียดถี่ถ้วนก็จะไม่เห็นแม้ว่าเวินเฉวียนเซิ่งจะรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ อยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อเทียบกับยอดฝีมือด้านการต่อสู้ทั้งหลายแล้ว เขาก็ยังห่างชั้นอยู่บ้าง ดังนั้นจึงมองไม่เห็นความผิดปกติของเวินเยวี่ยเช่นกันเขาขมวดคิ้วแล้วเอ่ยถาม “แค่สลบไป? สลบไปที่ไหน ใครเป็นคนลอบทำร้าย? เห็นหน้าคนผู้นั้นหรือไม่?”เวินเยวี่ยส่ายหน้า พลางแสดงสีหน้าเสแสร้งต่อไปเวินเฉวียนเซิ่งถามอีก “แล้วตอนที่เจ้าตื่นขึ้นมา พบอะไรบ้างหรือไม่?”เวินเยวี่ยส่ายหน้าอีกครั้ง ทำสีหน้าราวกับจะร้องไห้พลางกล่าวโทษตนเอง “เยวี่ยเอ๋อร์...เยวี่ยเอ๋อร์ไร้ความสามารถ เยวี่ยเอ๋อร์ไม่พบอะไรเลยเจ้าค่ะ ไม่ทราบว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือไม่? หากทำใ
Read more

บทที่ 987

ในชั่วพริบตานั้น ความเย็นเยียบสายหนึ่งก็แล่นผ่านแผ่นหลังของฟ่านจุ้ยเขายังคงจำคำพูดของท่านอาจารย์ของพี่หญิงที่พูดกับเขา ณ อารามสุ่ยเยว่ได้การกำเนิด การสลับตัว ความล้มเหลว และการบีบคอตายอะไรนั่น...บิดาของเขาผู้นี้ เริ่มมีความคิดที่จะใช้ประโยชน์จากเขาตั้งแต่แรกแล้วหากการสลับตัวสำเร็จ เขาก็คือหมากตัวหนึ่งที่ใช้ในการต่อกรกับสกุลหลานแต่หากการสลับตัวล้มเหลว ก็บีบคอให้ตายเสียและผลลัพธ์ของเขาก็คือการสลับตัวล้มเหลว ถูกบีบคอจนตายแต่เขากลับไม่รู้ว่ารอดชีวิตมาได้อย่างไรมีคนช่วยเขาเอาไว้มีคนพาเขาไปยังชางโจว คอยปกป้องเขาจนเติบโตอย่างลับๆ จนกระทั่งเขาอายุได้เจ็ดขวบจึงหายตัวไปอย่างสิ้นเชิงเขาไม่รู้ว่าคนผู้นั้นเป็นใคร แต่บนร่างกายของคนผู้นั้นมักจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกกล้วยไม้ติดตัวอยู่เสมอเขาลืมเรื่องราวในวัยเด็กไปมากมายหลายเรื่องแล้วแต่เขากลับไม่มีวันลืมกลิ่นหอมของดอกกล้วยไม้นั้นได้เขาสาบานว่าจะต้องตามหาคนผู้นั้นให้พบ แต่ชางโจวกว้างใหญ่เกินไป และเขาก็เด็กเกินไปเขารอคอยมาโดยตลอด รอคอยโอกาสโอกาสที่จะสามารถพาเขาไปยังเมืองหลวงได้เขารอแล้วรอเล่า ในที่สุดก็รอจนถึงวันนั้นเมื
Read more

บทที่ 988

แต่ก่อนที่จะไปหาพี่หญิง ฟ่านจุ้ยย่อมต้องไปหาเวินฉางอวิ้นก่อน“เกิดอะไรขึ้น?”คนผู้นี้ถูกขังไว้ที่ไหนกันแน่?เหตุใดถึงหาที่ไหนก็ไม่เจอ?หรือว่าถูกพี่สามเวินนั่นพาไปที่ชางโจวแล้ว?ไม่สิ ไม่ใช่พี่สามเวินไปชางโจวเพื่อตามหาพี่สี่เวิน พาพี่ใหญ่เวินไปด้วยจะสะดวกได้อย่างไร?และด้วยความระแวดระวังของบิดาผู้โง่เง่าคนนั้นของเขา ก็คงไม่วางใจให้เวินฉางอวิ้นถูกพาตัวออกไปข้างนอกอย่างไรเสีย ตอนนี้ในสายตาของบิดาผู้โง่เง่าคนนั้นของเขา เกรงว่าคงจะมองว่าเวินฉางอวิ้นเป็นพวกเดียวกับพี่หญิงของเขาไปแล้วเขาคงจะคิดแค่ว่า หากคนออกไปข้างนอก แล้วถูกหลานซื่อช่วยไปจะทำอย่างไร?ดังนั้นคนจะต้องยังอยู่ในมือของเวินเฉวียนเซิ่งถึงแม้จะไม่สามารถฆ่าบุตรชายทรพีคนนี้ได้ แต่อย่างน้อยก็อาจจะยังเป็นตัวประกันที่ใช้ข่มขู่หลานซื่อได้บ้างฟ่านจุ้ยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็ยังคงล็อกเป้าหมายไว้ที่ภายในจวนเจิ้นกั๋วกง“บนพื้นดินไม่มี เช่นนั้นก็คงอยู่ได้เพียงใต้ดินแล้ว”ฟ่านจุ้ยคิดเช่นนั้น พลางเหลือบมองเงาที่แอบตามเขามาเงียบๆ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากด้านหลังอย่างไม่แสดงอาการใดๆ เขายกมุมปากขึ้นหัวเราะเยาะเบาๆ จากนั้นก็หม
Read more

บทที่ 989

ใครกัน?!เวินฉางอวิ้นพยายามฝืนลืมตาขึ้น แล้วเงยหน้ามองขึ้นไปก็เห็นเงาดำร่างหนึ่งเกาะอยู่บนกรงเหล็กเหนือศีรษะของเขา ดวงตาทั้งสองข้างราวกับกำลังส่องประกาย จ้องมองมาที่เขาเขม็งราวกับแมวที่ซ่อนอยู่ในความมืดเวินฉางอวิ้นยังไม่ทันได้ตั้งตัว นึกว่าตัวเองเห็นภาพหลอนไป จึงตกตะลึงอยู่นาน จนกระทั่งฟ่านจุ้ยเอ่ยปากขึ้นอีกครั้ง“นี่ เหตุใดไม่พูดล่ะ? หรือว่าพี่ใหญ่ท่านถูกตัดลิ้นไปแล้ว?”ไม่รอให้เวินฉางอวิ้นได้ทันตั้งตัว มือข้างหนึ่งก็ยื่นลงมาจากด้านบนจนถึงตรงหน้าเขา จากนั้นบีบคางของเขาไว้“เดี๋ยว...เดี๋ยวก่อน...”ในตอนที่ฟ่านจุ้ยเกือบจะแยงนิ้วเข้าไปในปากของเขาเพื่อตรวจสอบ เวินฉางอวิ้นก็พลันได้สติกลับคืนมา รีบพูดเพื่อห้ามเขาไว้“ที่แท้ก็พูดได้นี่นา แล้วเมื่อครู่พี่ใหญ่ท่านมัวตะลึงอะไรอยู่?”ฟ่านจุ้ยจึงค่อยดึงมือกลับ เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจเล็กน้อยเวินฉางอวิ้นอธิบายอย่างอ่อนแรง “แค่...แค่ยังตั้งตัวไม่ทัน เจ้า...เจ้าคงจะเป็นคนที่น้องห้าพาตัวกลับมา...”“ท่านจะเรียกข้าว่าฟ่านจุ้ยก็ได้ หรือจะเรียกว่าเวินไป๋จื่อก็ได้ ชื่อแรกคนอื่นตั้งให้ ส่วนชื่อหลังบิดาผู้โง่เง่าเป็นคนตั้งให้ น่าเสียดายท
Read more

บทที่ 990

“?”เวินฉางอวิ้นตกตะลึงไปชั่วขณะยังไม่ทันที่เขาจะได้ทันตั้งตัว ฟ่านจุ้ยก็เอ่ยขึ้นอย่างหมดคำพูดจะกล่าว “ท่าทางสำนึกผิดบำเพ็ญตนของท่านนี่ช่างเหมาะกับการออกบวชยิ่งกว่าพี่หญิงเสียอีก เอาละๆ ข้าจะช่วยท่านออกไปเดี๋ยวนี้ ให้ท่านได้เลือกสถานที่ออกบวชสักแห่ง ข้าว่าวัดจินหนานทางฝั่งพี่หญิงก็ดีนะ ท่านไปเถอะ ไปแล้วจะได้อยู่เป็นเพื่อนกับพี่หญิงพอดี”“ไม่ใช่ ข้าไม่ได้...”เวินฉางอวิ้นประหลาดใจ อยากอธิบายว่าตนเองไม่ได้อยากออกบวช แต่เมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย เขาก็เศร้าสร้อยลงทันที “ไม่ได้ วัดจินหนานไม่ได้ น้องห้าคงไม่อยากเห็นหน้าข้า”ฟ่านจุ้ยยิ่งหมดคำพูดเข้าไปใหญ่ที่แท้ท่านก็อยากจะออกบวชจริงๆ สินะ?หลังจากพูดจบ เวินฉางอวิ้นที่เพิ่งจะรู้สึกตัวว่าตัวเองยิ่งพูดยิ่งไม่ถูกต้อง ก็ส่ายหน้า “เฮ้อ ช่างเถอะๆ อย่าพูดเรื่องเหล่านั้นเลย เจ้ารีบออกจากที่นี่ไปเถอะ เจ้าช่วยข้าไม่ได้หรอก”ฟ่านจุ้ยไม่อยากจะสนใจเขา เพียงแค่คว้าโซ่เหล็กบนกรงเหล็กไว้ แล้วกระโดดกลับขึ้นไปบนแท่นหินอีกครั้ง จากนั้นเขาก็ดึงโซ่เหล็กแล้วออกแรงลากพร้อมกับเสียงโซ่เหล็ก “ครืดคราด” และเสียงน้ำ กรงเหล็กที่แขวนอยู่กลางน้ำก็ถูกดึงขึ้นมาทันท
Read more
PREV
1
...
949596979899
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status