สายตาของมู่หรงฉิงเทียนมุ่งไปทางจงเสี้ยนทันใด ใบหน้าที่บำรุงมาอย่างดีของจงเสี้ยน ขาวราวกับหิมะ ปราศจากสีเลือดฉับพลัน กล้ามเนื้อใบหน้านางกระตุก นางมองจ่านเหยียนแบบดวงตาไม่กะพริบอยู่นาน เปลวเพลิงร้อนแรงในดวงตาแผดเผาไม่หยุด ก่อนจะมีคำพูดร้ายกาจออกมาจากปากนาง “เจ้าไม่อยากอยู่แล้วจริง ๆ”นางยกมือหมุนตัวเดินไปทางประตูตำหนัก มีองครักษ์เอาตัวอาเสอกับอาหูออกไปทันทีแต่กระบี่ขององครักษ์ทั้งสองยังไม่ออกจากฝักก็ตกอยู่ในมือของอาเสอแล้วได้ยินเพียงกระบี่ออกจากฝักเสียงดังชิ้ง ฝักกระบี่กระเด็นไปทางองครักษ์ทั้งสองทำให้พวกเขาถอยออกไปสองก้าวจึงพอจะยืนได้อย่างมั่นคง ทว่าลมหายใจกลับยุ่งเหยิง ราชครูถงยิ้มเย็น “ตำหนักหรูหลานแห่งนี้ช่างเก็บซ่อนยอดฝีมือไว้จริง ๆ ข้าประเมินหมู่โฮ่วฮองไทเฮาต่ำเกินไป”จ่านเหยียนเดินประชิดไปทีละก้าวและยืนอยู่ตรงหน้าจงเสี้ยน “แม่สามีมีชนักติดหลังหรือเพคะ? กลัวว่าหม่อมฉันจะพูดเรื่องที่ตอนนั้นพระองค์ชิงโอรสของฮุ่ยเฟย? พระองค์ไม่โปรดอดีตฮ่องเต้มาโดยตลอด กลับจำต้องอาศัยเขาทำให้ฐานะของพระองค์มั่นคง สงสารแต่อดีตฮ่องเต้ ยังทรงนึกว่าพระองค์คือพระมารดาของพระองค์จริง ๆ อุ้มชูสกุลถงเพ
Read more