Lahat ng Kabanata ng วันสิ้นโลก น้ำขวดเดียว คว้าสาวทั้งเมือง: Kabanata 11 - Kabanata 20

เสิ่นอี้สาขาภาษาต่างประเทศ : “ถึงแล้ว ถ้านายอยู่นอกโรงยิม ก็น่าจะได้ยินเสียงของโดรน”หม่าเทียนหมิงสาขาพลศึกษา : “ได้ยินแล้วได้ยินแล้ว! อยู่เหนือศีรษะฉันเนี่ย รีบลงมาเร็ว!”เสิ่นอี้สาขาภาษาต่างประเทศ: “อย่าเพิ่งรีบ บอกคำตอบฉันมาก่อน”ขณะส่งข้อความ เสิ่นอี้มองไปที่สวีหว่านถิงที่อยู่ในอ้อมแขน แล้วพูดว่า : “ลดระดับโดรนลงมาหน่อย แต่อย่าต่ำเกินไป แค่ให้คนที่อยู่ใต้หมอกดำสามารถมองเห็นก็พอ”“ได้...” แก้มของสวีหว่านถิงแดงระเรื่อ ริมฝีปากแดงหอบเบาๆ ขยับท่าทางเล็กน้อย แล้วเริ่มควบคุมโดรนให้ลดระดับลงท่ามกลางหมอกดำชายหนุ่มร่างกำยำคนหนึ่งเลียริมฝีปากแห้งแตกไปด้วย พลางจ้องหมอกดำหนาทึบเหนือศีรษะอย่างไม่ละสายตาเขาก็คือหม่าเทียนหมิงการแลกเปลี่ยนครั้งนี้ เขาเป็นคนติดต่อเสิ่นอี้เป็นการส่วนตัว โดยไม่ได้บอกจ้าวเทาไม่อย่างนั้นต้องแบ่งน้ำให้จ้าวเทาด้วย!ยิ่งไปกว่านั้น จ้าวเทาเองก็ไม่ได้อยากที่จะบอกวิธีได้มาซึ่งพลังพิเศษให้ใครรู้ เพราะเขาไม่อยากให้คนอื่นได้รับพลังพิเศษเหมือนกันแต่หม่าเทียนหมิงไม่สนใจอะไร เขาจะกระหายน้ำจะตายอยู่แล้ว ใครยังจะช่วยเก็บความลับอยู่อีก!ตัวเองก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร!

“เพื่อนๆ สวัสดี... ไม่ต้องกลัว ฉันไม่ได้มีเจตนาร้าย!”ประตูห้อง 603 เปิดออกเป็นผู้ชายคนหนึ่งรูปร่างสูงพอๆ กับเสิ่นอี้ แต่ตัวอ้วนกว่านิดหน่อย และย้อมผมสีทองทั้งหัว“เมื่อกี้ฉันได้ยินพวกนายคุยกัน เห็นว่าพวกนายไม่ใช่คนไม่ดี ก็เลยอยากออกมาชวนพวกนายตั้งทีมกันน่ะ” นักเรียนผมทองพูดพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า ดูเหมือนพยายามสร้างความสนิท“ยังไงตอนนี้ก็เป็นวันสิ้นโลก คนเยอะน่าจะปลอดภัยกว่านะ...”“ว่ายังไง? เพื่อนๆ สนใจตั้งทีมกันไหม?”เสิ่นอี้กับนักเรียนชายใส่แว่นต่างก็ไม่พูดอะไรนักเรียนชายใส่แว่นยิ่งยืนอยู่ที่หน้าประตูอย่างระวังตัว หากเกิดอันตรายอะไรขึ้น จะได้รีบวิ่งกลับเข้าไปในห้องได้ทันทีในสถานการณ์แบบนี้ ใครจะไปเชื่อคนแปลกหน้า และร่วมทีมกับคนไม่รู้จักกัน?ล้อกันเล่นหรือไง!“ขอร้องล่ะ พวกเราต่างก็เป็นนักเรียนโรงเรียนเดียวกัน จะไม่ไว้ใจกันขนาดนั้นเลยเหรอ? หรือว่าพวกนายคิดว่าฉันกล้าฆ่าคนหรือไง? ฉันแค่ฆ่าไก่ยังไม่กล้าเลยนะ แล้วฉันก็เชื่อว่าพวกนายก็คงไม่กล้าฆ่าคนเหมือนกันใช่ไหม? ไม่งั้นมีหวังได้นอนคุกแน่ๆ” คนผมทองพูดอย่างจนปัญญาไม่รู้ว่าเขาเป็นคนประเภทเข้ากับคนง่ายแบบนี้อยู่แล้ว หรือว่ามีจ

[ตรวจพบผู้ใช้งานมีค่าพลังรบที่เพียงพอ แผงข้อมูลส่วนตัวถูกเปิดใช้งาน ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบได้ด้วยตนเอง]“ฮะ?”เสิ่นอี้เลิกคิ้วขึ้นแผงข้อมูลส่วนตัว?ต้องมีค่าพลังรบที่เพียงพอถึงจะปลดล็อกได้...“เปิดแผงข้อมูล”เขาพึมพำในใจจากนั้น หน้าจออัจฉริยะก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขา[ผู้ใช้งาน : เสิ่นอี้][อายุ : 20][ค่าพลังรบ : 10][ทรัพยากรที่ปลดล็อกแล้ว : น้ำแร่ซ่วยซือฟู่ ไก่ย่างสดใหม่จากเตา][พลังพิเศษที่ได้รับ: วิวัฒนาการร่างกาย lv1][วิวัฒนาการร่างกาย (lv1) : ร่างกายของคุณได้ผ่านการวิวัฒนาการครั้งที่ 1 ด้วยเหตุผลบางอย่าง พลัง ความเร็ว ความอดทน สุขภาพและอื่นๆ ของคุณเพิ่มขึ้นอย่างมาก!]วิวัฒนาการร่างกาย!ที่แท้ก็เป็นพลังพิเศษด้านร่างกายแม้จะไม่เจ๋งเท่ากับพลังสายฟ้าของจ้าวเทา แต่เสิ่นอี้รู้สึกว่า พลังของตัวเองไม่ด้อยไปกว่าพลังสายฟ้าของจ้าวเทาที่เจาะกระป๋องได้เลย!นอกจากนี้จากสัญลักษณ์เลเวลของวิวัฒนาการร่างกาย พลังพิเศษนี้น่าจะสามารถอัปเกรดเลเวลได้รอให้เลเวลสูง ต้องแข็งแกร่งขึ้นแน่นอน!ส่วนจะเพิ่มเลเวลยังไงนั้น ตอนนี้เสิ่นอี้ก็ยังไม่แน่ชัดหรืออาจจะ ต้องกินผลไม้พลังพิเศษเพ

เวลาผ่านไปและเป็นอีกคืนที่ผ่านพ้นไปเช่นกันวันนี้เป็นวันที่ 6 ของวันสิ้นโลกความช่วยเหลือที่ยังมาไม่ถึงระเบียบสังคมใกล้พังทลายลงเต็มทีผู้รอดชีวิตจำนวนไม่น้อย ถึงกับลงไม้ลงมือเพียงเพื่อข้าวและน้ำอันน้อยนิดการเผาปล้นฆ่าชิงทรัพย์ ข่มขืนลักพาตัว ไม่มีทางที่เหตุการณ์เลวร้ายเหล่านี้จะเกิดขึ้นอย่างโจ่งแจ้งในประเทศเซี่ยในช่วงเวลาปกติ แต่ว่าในตอนนี้กลับเต็มไปหมดเกือบจะแทบทุกหนทุกแห่ง11 โมงกว่า ในห้อง 610ขณะที่เสิ่นอี้กำลังล่อนจ้อนเคี้ยวไก่ย่างอยู่นั้น สวีหว่านถิงที่อยู่ข้างๆ มองมาตาละห้อย ราวกับเด็กทำความผิด “เอาโทรศัพท์ของเธอมาให้ฉันดูหน่อย”เสิ่นอี้เคี้ยวขาไก่ในมือเสร็จ แล้วดื่มน้ำแร่ จากนั้นหยิบกระดาษมาเช็ดมือ มองไปที่สวีหว่านถิง“จะดูอะไร ?”“เปิดไลน์ ฉันจะดูว่าเพื่อนสนิทของเธอตอบกลับเธอว่ายังไง”เสิ่นอี้ตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง ดูว่าสวีหว่านถิงจะเชื่อฟังส่งข้อความหาเพื่อนสนิทของเธอหรือเปล่าถ้าเธอไม่เชื่อฟัง ก็แปลว่ามีใจคิดไม่ซื่อ!ถ้ามีใจคิดไม่ซื่อก็หมายความว่าอาจจะหักหลังเขาได้ !เสิ่นอี้ไม่มีทางเก็บผู้หญิงที่คิดทรยศตัวเองไว้อยู่แล้วถึงแม้เธอจะปรนนิบัติเขาได้ฟินมากก็ต

เจียงหนานเยียนมองไปทางผู้หญิงวัยกลางคน พร้อมกับพยักหน้าอย่างตั้งใจ : “อืม อาจารย์ไป๋พูดถูก ถึงแม้ฉันกับสวีหว่านถิงจะเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่อะไรที่ควรระวังก็ยังต้องระวัง”“อีกอย่าง จากอาคารเรียนไปหอพักชายต้องเดินไกลมาก หมอกดำที่อยู่ข้างล่างอาคารไม่แน่ว่าอาจจะมีสัตว์ประหลาดกลายพันธุ์อยู่ ต้องระวังให้ดี”“พวกเราพกอาวุธติดตัวไว้ เผื่อเจออันตราย”“นั่นสิ ยังไงผู้หญิงอย่างพวกเราก็อ่อนแอ ไม่ได้มีเรี่ยวแรงเหมือนผู้ชายตัวเหม็นพวกนั้น!”ผู้หญิงที่หนัก 80 กว่ากิโลกรัมแสดงสีหน้าเห็นด้วย อีกทั้งยังด่าออกมาด้วยความโมโหว่า : “ผู้ชายตัวเหม็นพวกนั้นปกติชอบพูดอะไรนะว่าให้ผู้หญิงก่อน เจอสถานการณ์วิกฤตให้ปกป้องผู้หญิงและเด็กเล็กก่อน สุดท้ายพอวันสิ้นโลกมาถึงจริงๆ กลับไม่มีผู้ชายสักคนมาปกป้องพวกเรา!”“ไอ้พวกผู้ชายเฮงซวย!”“ฉันคิดว่านะ บนโลกนี้ไม่ควรมีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าผู้ชายเกิดขึ้นมาด้วยซ้ำ! แบบนี้ผู้หญิงอย่างพวกเราจะต้องมีชีวิตที่สงบสุขมากแน่...”ฟังผู้หญิงอ้วนพูดบ่นไม่หยุด เจียงหนานเยียนกับอาจารย์ไป๋สบตากัน แล้วยิ้มออกมอย่างจนใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาถึงแม้พวกเธอจะไม่ได้ชอบเพศชายเหมือนกัน แต่