All Chapters of นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ: Chapter 21 - Chapter 30

149 Chapters

บทที่ 21

ห้องผู้ป่วยซูมั่วกำลังนอนคว่ำใช้กราฟิกส์แท็บเล็ตฝึกร่างภาพเพื่อฝึกฝนให้ชินมือ ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือที่อยู่ข้างๆ ก็ดังขึ้น เธอยกขึ้นมามองแวบหนึ่ง แล้วก็โยนกลับไปอย่างเย็นชาโทรศัพท์ดังอยู่สี่สิบวินาทีก็ตัดไป ตอนแรกนึกว่าคนบางคนจะยอมแพ้แล้ว แต่แล้วก็มีสายเรียกเข้าอีกครั้งจากนั้นก็เป็นสายที่สาม สายที่สี่ โทรมาอย่างไม่ลดละความพยายาม ท่าทางเหมือนจะโทรมาซ้ำรอยร้อยสายเมื่อเช้านี้อีกครั้งเธอไม่เข้าใจว่าฟู่อี้ชวนจะโทรมาทำอะไรในเวลานี้? ให้เธอกลับไปทำอาหารเย็นเหรอ? แต่เขาก็รู้ไม่ใช่หรือว่าเธอเข้าโรงพยาบาลอยู่?เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะบุกเข้ามาในห้องผู้ป่วยแล้วอาละวาดระบายอารมณ์เหมือนตอนกลางวัน ซูมั่วจึงวางปากกาลง หายใจเข้าลึกๆ แล้วหยิบโทรศัพท์มารับสายยังไม่ทันจะได้เอ่ยคำว่า “ฮัลโหล” เสียงเกรี้ยวกราดของคนปลายสายก็ดังสวนขึ้นมาทันที“ทำไมถึงเพิ่งมารับสายที่สี่? ทางที่ดีเธอให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลกับฉัน”ซูมั่ว “...”เหอะๆ นายเองก็รู้สินะว่านี่มันสายที่สี่แล้ว คนที่มีสามัญสำนึกสักหน่อยก็น่าจะดูออกว่าฉันไม่อยากรับสายนายแม้จะคิดในใจแบบนั้น แต่เธอก็ไม่ได้พูดออกไปตรงๆ เพราะขี้เกียจจะทะเลาะ
Read more

บทที่ 22

ความอิจฉาริษยากำลังก่อตัวอย่างบ้าคลั่ง เธอต้องรีบลงมือให้เร็วกว่านี้แล้วภายในห้องผู้ป่วยซูมั่วขมวดคิ้ว ไม่ได้เก็บคำพูดสุดท้ายของฟู่อี้ชวนมาใส่ใจ เธอสลับไปเปิดแอปโซเชียล แล้วก็เห็นยอดเงินที่อีกฝ่ายโอนมาให้สามแสน พร้อมบันทึกช่วยจำว่าค่าผ่าตัดเธอโอนเงินคืนกลับไปทันที ถ้าไม่โอนคืน จะรอให้เขามาทวงคืนตอนหย่างั้นเหรอ?แถวหน้าสุดของงานแฟชั่นโชว์ฟู่อี้ชวนเห็นว่าซูมั่วไม่ยอมรับเงินของเขา เลยส่งข้อความไปถาม อีกฝ่ายตอบกลับมาว่า[ไม่ได้ผ่าตัด ไม่ต้องใช้]ฟู่ [ก็ต้องนอนโรงพยาบาลไม่ใช่เหรอ? เป็นค่ารักษาพยาบาล]ซูมั่วมองข้อความแล้วตอบกลับไปว่า[เงินเล็กน้อย ฉันจ่ายเองได้]ตอบเสร็จเธอก็กดปิดหน้าจอมือถือ แล้วโยนมันไปข้างๆฟู่อี้ชวนส่งข้อความไปอีกครั้ง ข้อความแรกถามว่าเงินเล็กน้อยที่ว่าคือเท่าไหร่ ข้อความที่สองคือการโอนเงินไปให้อีกครั้ง บอกให้เธอรับไว้แต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับอีกแฟชั่นโชว์เริ่มขึ้นแล้ว นางแบบทยอยเดินออกมา แต่ฟู่อี้ชวนยังคงจ้องมองโทรศัพท์ เมื่อแน่ใจแล้วว่าอีกฝ่ายจะไม่ตอบกลับ เขาก็เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าอย่างหัวเสียซูมั่วนี่ชักจะยิ่งได้คืบจะเอาศอก เขาอุตส่าห์ยอมให้ถึงส
Read more

บทที่ 23

“ถ้าคืนนี้มีความเสียหายอะไรเกิดขึ้น ติดต่อผู้ช่วยของผมได้โดยตรงนะครับ”หัวหน้าฝ่ายวางแผนหลักตาเป็นประกายในทันที เขาชอบคนตรงไปตรงมาแบบนี้ที่สุด เขายิ้มแล้วพูดว่า“ไม่มีความเสียหายอะไรหรอกครับ เดิมทีเราก็ควรเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินอยู่แล้ว รอให้คุณเย่หายดีแล้วค่อยกลับมาร่วมงานก็ได้ครับ ผมจะเก็บตำแหน่งนี้ไว้ให้เธอเสมอ”ฟู่อี้ชวนลุกขึ้นยืน แต่ก็ยังยื่นนามบัตรของผู้ช่วยให้ไป จากนั้นก็เข้าไปพยุงเย่ซินหย่าเมื่อเห็นว่าเธอเดินขากะเผลกแล้วทำท่าจะล้มอีก เขาจึงอุ้มเธอในท่าเจ้าหญิงอีกครั้ง ส่วนเย่ซินหย่าก็ซบอยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างเขินอาย สองมือโอบรอบลำคอของเขาเอาไว้นอกประตูนักข่าวที่หัวไวต่างมารอดักอยู่ตรงนี้แล้ว และถ่ายภาพเหตุการณ์นี้ได้ในทันทีเย่ซินหย่าซบใบหน้าลงบนแผงอกของฟู่อี้ชวนอย่างหวาดกลัว ฟู่อี้ชวนตวาดเสียงเย็นชา“ลบให้หมด ไม่อย่างนั้นระวังบริษัทจะอยู่ไม่รอด”ไม่นานนัก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็เข้ามาควบคุมสถานการณ์ ฟู่อี้ชวนจึงสามารถอุ้มเย่ซินหย่าไปที่รถได้อย่างราบรื่นที่นั่งข้างคนขับ“อี้ชวน ถ้าพวกเขาปล่อยรูปออกไปจะทำยังไง? มันจะกระทบกับนายนะ” เย่ซินหย่าพูดด้ว
Read more

บทที่ 24

“แล้วจะทำยังไงดี บัตรประชาชนของฉันก็อยู่ในกระเป๋า จะไปพักโรงแรมอื่นก็ไม่ได้...” เย่ซินหย่ากล่าวอย่างสิ้นหวัง“ไปบ้านฉันแล้วกัน” ฟู่อี้ชวนเอ่ยขึ้นเย่ซินหย่าชะงักไปหนึ่งวินาที แล้วก้มหน้ากล่าวอย่างถ่อมตัว“แบบนี้จะไม่ดีนะ ฉันไม่อยากให้นายกับมั่วมั่วต้องมาทะเลาะกันเพราะฉันอีก”“เธอไม่มีสิทธิ์มายุ่ง นั่นมันบ้านของฉัน ฉันอยากจะให้ใครอยู่ก็ให้คนนั้นอยู่” ฟู่อี้ชวนกล่าวเสียงเย็นเมื่อได้ยินดังนั้น คราบน้ำตาบนใบหน้าของเย่ซินหย่ายังไม่ทันแห้ง เธอก็แสร้งทำเป็นปฏิเสธอยู่ครู่หนึ่ง ฟู่อี้ชวนจึงใช้ความเด็ดขาดพาเธอกลับไปที่คอนโดเมื่อขึ้นลิฟต์มาถึงชั้นของเขา เธอก็เดินตามหลังฟู่อี้ชวน ใช้นิ้วถูรองพื้นที่คอออกอย่างแรง เผยให้เห็นรอยจูบที่อยู่แต่เดิมประตูเปิดออก ตอนแรกนึกว่าจะได้เห็นซูมั่วทันที แต่ภายในห้องกลับดูว่างเปล่าเหมือนไม่มีคนอยู่ เย่ซินหย่าเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น กวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วกระซิบว่า“มั่วมั่วหลับแล้วเหรอ? เราอย่าไปปลุกเธอเลยนะ”ฟู่อี้ชวนถอดเสื้อนอกออกแล้วพูดว่า “เธอไม่อยู่บ้าน ไม่ต้องกระซิบกระซาบหรอก”“เธอไปไหนเหรอ?” เย่ซินหย่าถาม“กระดูกก้นกบได้รับบาดเจ็บ เข้ารักษาตัว
Read more

บทที่ 25

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ซูมั่วก็กัดริมฝีปาก รู้สึกเจ็บใจที่ตัวเองไม่ได้ฉีกแล้วเผามันทิ้งไปเสียก่อน แต่พอนึกขึ้นได้ว่ามันถูกล็อกไว้ในลิ้นชัก เย่ซินหย่าน่าจะเปิดไม่ได้เธอสงบสติอารมณ์ลงอีกครั้ง กำลังจะปิดโทรศัพท์ แต่ก็มีการแจ้งเตือนเด้งขึ้นมา พาดหัวข่าวเด่นหราว่า#ทายาทมหาเศรษฐีตระกูลฟู่ปรากฏตัวในงานแฟชั่นโชว์อย่างลับๆ พุ่งขึ้นแคตวอล์กเพื่อโฉมงามสายตาของซูมั่วหยุดนิ่งไปสองวินาที ทายาทตระกูลฟู่... นอกจากฟู่อี้ชวนแล้วจะเป็นใครได้อีกล่ะ?แล้วก็มองไปที่คำว่า “โฉมงาม” สองคำนั้น พอรู้ตัวอีกที เธอก็กดเข้าไปอ่านข่าวนั้นแล้วเปิดมาก็เจอรูปภาพหนึ่ง ฟู่อี้ชวนกำลังอุ้มผู้หญิงคนหนึ่งในท่าเจ้าหญิง อีกฝ่ายซบอยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างสนิทสนมแค่เห็นเพียงใบหน้าด้านข้าง เธอก็จำได้ว่าเป็นเย่ซินหย่านิ้วเลื่อนดูรูปถัดไป เป็นภาพระยะใกล้ต่างๆ ทั้งสีหน้าปกป้องของฟู่อี้ชวน สายตาที่มองปาปารัสซี่อย่างเกรี้ยวกราด และอื่นๆ ซึ่งทั้งหมดแสดงให้เห็นว่าเขาปกป้องผู้หญิงในอ้อมแขนเป็นอย่างดีมีคำบรรยายด้วย แต่ซูมั่วไม่ได้อ่านแล้ว เธอออกจากหน้านั้นด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่โกรธ ไม่เสียใจ แม้แต่น้ำตาก็เหือดแห้งไปนานแล้ว มีเพีย
Read more

บทที่ 26

ฟู่อี้ชวนพยุงเธอให้ยืนนิ่งๆ แต่ในตอนนั้น สายเสื้อของอีกฝ่ายเลื่อนหลุดลงมาเล็กน้อยจากมุมของเขาสามารถมองเห็นเนินอกขาวผ่อง และรอยรักที่เขาทิ้งไว้เมื่อคืนนี้ และเสื้อตัวนี้... เป็นของซูมั่วทันใดนั้น เขาก็รู้สึกเหมือนกำลังนอกใจซูมั่วต่อหน้าต่อตา ฝ่ามือชาวาบขึ้นมาทันที และเขาก็เบือนหน้าหนีไปทันที“อี้ชวน นายจับมือซ้ายฉันไว้หน่อยสิคะ ฉันอยากล้างหน้า” เย่ซินหย่าเงยหน้าพูดฟู่อี้ชวนบิดผ้าขนหนูให้แห้งแล้วยื่นส่งไปให้โดยตรง เย่ซินหย่าเช็ดหน้าเสร็จ ก็ลองพยุงตัวเองกับขอบอ่างล้างหน้าเพื่อยืนให้มั่นคง“ฉันไม่เป็นไรแล้ว ขอบคุณนะ นายออกไป...”ยังพูดไม่ทันจบ เย่ซินหย่าก็ทำท่าจะล้มอีกครั้ง คราวนี้ฟู่อี้ชวนเตรียมพร้อมอยู่แล้ว จึงคว้าเอวเธอไว้ได้อย่างง่ายดาย“อย่าฝืนเลย เท้าต้องพักให้หายดีนะ” ฟู่อี้ชวนกล่าวเย่ซินหย่าใช้มือจับแขนของเขาไว้ แล้วเอียงตัว ทำให้ทั้งสองหันหน้าเข้าหากันมือของเธอค่อยๆ เลื่อนขึ้นไป โอบรอบลำคอของฟู่อี้ชวน สายตาเต็มไปด้วยความเขินอายปนความเย้ายวนบรรยากาศในห้องน้ำแคบๆ เริ่มร้อนระอุขึ้น ริมฝีปากทั้งสองค่อยๆ เข้าใกล้กัน ทันทีที่กำลังจะสัมผัสกัน ทันใดนั้น สายตาของฟู่อี้ชวนก็
Read more

บทที่ 27

แม้ว่าข่าวร้อนจะถูกลบออกไปทันท่วงที แต่ทางบ้านใหญ่ คุณปู่ฟู่ก็ยังรู้จนได้ ตั้งแต่เช้าตรู่ก็โทรมาต่อว่าด้วยความโมโหตอนนั้น ฟู่อี้ชวนกำลังอยู่ระหว่างทางไปทำงาน โดนคุณปู่ดุด่าสาดเสียเทเสีย แต่ก็ยอมนิ่งเงียบไม่เถียงสักคำ“มั่วมั่วเป็นเด็กดีขนาดนั้น แกทำแบบนี้ไม่รู้สึกผิดต่อเธอบ้างเลยเหรอ? สองปีที่ผ่านมาที่เธอทุ่มเทให้ แกไม่เห็นค่าเลยหรือไง?” คุณปู่ฟู่พูดอย่างผิดหวังที่คาดหวังแล้วไม่ได้อย่างใจฟู่อี้ชวนเม้มปาก ทุ่มเทเหรอ? แค่ทำอาหารน่ะเหรอ? ซักผ้าก็ใช้เครื่องซักผ้า กวาดบ้านก็มีหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่จริงแล้วเป็นเขาต่างหากที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งสองปีแถมยังไม่รู้จักบุญคุณคน เมื่อวานยังตบหน้าเขาไปฉาดหนึ่งเลย“ถ้าแกไม่รู้จักถนอมไว้ ถึงตอนนั้นอย่ามาเสียใจนะ นี่ก็เหลือเวลาอีกแค่ครึ่งเดือนกว่าๆ แล้ว...” ชายชรายังคงพูดต่อไปฟู่อี้ชวนหมดความอดทนที่จะฟังจนจบ จึงพูดแทรกขึ้นว่า“ผมกำลังขับรถอยู่ ไม่คุยแล้วนะครับคุณปู่ ตอนนั้นคุณปู่เป็นคนบังคับให้ผมแต่งงานกับเธอเอง ผมให้เธอได้ทุกอย่าง ยกเว้นความรัก”พูดจบก็วางสาย คุณปู่ฟู่ถอนหายใจอย่างหนักด้วยความโกรธเดิมทีเขาตั้งใจจะบอกเรื่องสัญญาแต่งงานให้หลานชาย
Read more

บทที่ 28

“ซุปเป็นยังไงบ้าง? อร่อยไหม?” เธอถามด้วยความคาดหวังนี่เธอสั่งให้ร้านอาหารห่อมาส่งให้เลยนะ รับรองว่าจะต้องมัดใจฟู่อี้ชวนได้แน่นอน“อร่อย ซินหย่าฝีมือดีมาก” ฟู่อี้ชวนชิมไปคำหนึ่งแล้วกล่าวแต่ที่จริงน้ำซุปนั้นเลี่ยนมาก น้ำมันที่ก้นก็จัดจ้านเกินไป รสชาติเหมือนอาหารที่ผลิตจากครัวสายพานเขายังคงชอบรสชาติที่ซูมั่วทำมากกว่า มันจืดๆ ใสๆ กินแล้วไม่เหมือนกับที่ขายข้างนอก“ถ้าอร่อยก็ดื่มเยอะๆ นะ ต่อไปนี้ฉันจะทำให้นายกินทุกวันเลย” เย่ซินหย่าพูดอย่างดีใจฟู่อี้ชวนได้ยินคำว่า “ทุกวัน” ขณะที่กำลังซดซุป เขาก็พูดว่า“พรุ่งนี้ฉันจะไปเอาบัตรประชาชนมาให้เธอ แล้วหลังจากนั้นเธอค่อยไปพักที่โรงแรมในเครือบริษัทของฉัน จะไม่มีปาปารัสซี่กล้าตามไป”เย่ซินหย่าได้ยินดังนั้นก็กัดริมฝีปากแน่น หยุดไปสองวินาทีก่อนจะกลับมายิ้มแล้วพูดว่า“ได้สิ~ ขอบคุณนะอี้ชวน”ทั้งสองคนกินข้าวกันไป ต่อมาเย่ซินหย่าจะตักซุปให้ฟู่อี้ชวนอีก แต่เขาก็ปฏิเสธ“วันนี้ตอนกลางวันกินมาอิ่มแล้ว เธอกินเยอะๆ หน่อยนะ” ฟู่อี้ชวนลุกขึ้น ไปรินชาหนึ่งแก้วเย่ซินหย่าเห็นดังนั้นก็แอบกัดฟัน มองอาหารบนโต๊ะ แล้วตัดสินใจว่าพรุ่งนี้จะเปลี่ยนไปสั่งร้านอ
Read more

บทที่ 29

เย่ซินหย่าจึงสั่งให้ผู้ช่วยย้ายของ ถึงแม้จะไม่ได้เข้าไปอยู่ในห้องนอนใหญ่ แต่การที่ได้ไล่ซูมั่วออกไปก็ไม่เลวเหมือนกันเมื่อมองดูพวกเธอกำลังย้ายของของซูมั่ว ฟู่อี้ชวนก็ขมวดคิ้ว เดินตามเข้าไปในห้อง พบว่าผู้ช่วยกำลังพยายามเปิดตู้ เขาจึงเข้าไปช่วยแรงของผู้ชายย่อมมากกว่า ตู้ที่ล็อกอยู่ถูกเขากระชากเปิดออกอย่างแรงในไม่กี่อึดใจ แผ่นล็อกด้านในถึงกับบิดงอข้างในไม่มีของอะไรมากนัก มีเพียงสมุดเล่มสีฟ้าอ่อนเล่มหนึ่งเขายื่นมือไปหยิบมันออกมา เปิดหน้าแรก แล้วก็เข้าใจในทันทีว่ามันคืออะไร“คนดีๆ ที่ไหนเขาเขียนไดอารี่กัน” ฟู่อี้ชวนพูดอย่างดูถูก แต่ในมือกลับกำลังจะเปิดอ่านเนื้อหาข้างในในตอนนั้นเอง ก็มีมือหนึ่งยื่นมาจากด้านบนแล้วดึงสมุดเล่มนั้นไป พร้อมกับพูดว่า“แอบดูไดอารี่ของผู้หญิงไม่ได้นะ ฉันจะช่วยมั่วมั่วเก็บไว้ให้เอง”ฟู่อี้ชวนเม้มปาก เขามองสมุดเล่มนั้นอยากจะได้คืน แต่ก็รู้สึกว่ามันคงไม่มีอะไรน่าดู เลยลุกขึ้นแล้วเดินจากไปเมื่อเขาไปแล้ว เย่ซินหย่าก็สุ่มเปิดดูหน้าหนึ่ง พอเห็นเนื้อหา เธอก็เบิกตากว้างแทบจะฉีกสมุดเล่มนั้นเป็นสองท่อนโชคดีจริงๆ ที่ไม่ให้ฟู่อี้ชวนได้เห็นตอนแรกตั้งใจว่าจะฉีกแล
Read more

บทที่ 30

ก็ดูเป็นห่วงคุณนายออกนี่นา แล้วทำไมถึงไปยุ่งกับผู้หญิงคนอื่น แถมยังพาเมียน้อยเข้าบ้านอีกอาหารสั่งเรียบร้อยแล้ว แต่หลี่หยวนก็แอบรอบคอบ บอกไปว่าเป็นของที่ตระกูลฟู่สั่ง ไม่ได้บอกว่าเป็นของท่านประธาน เพราะเขากลัวว่าคุณนายจะเอาไปเททิ้งในห้องน้ำโรงพยาบาลซูมั่วทานอาหารบำรุงสุขภาพที่ตระกูลฟู่ส่งมาให้ คงจะเป็นความตั้งใจของคุณปู่ฟู่แน่นอนแต่เธอก็ขมวดคิ้ว ฟู่อี้ชวนเป็นคนบอกเรื่องที่เธอเข้าโรงพยาบาลเองเหรอ?แต่ในโทรศัพท์ก็ไม่มีข้อความใดๆ จากคุณปู่เลย เธอเองก็ไม่ได้ส่งข้อความไปก่อน ไม่อย่างนั้นอาการบาดเจ็บโดยละเอียดก็จะถูกรู้เข้าหลายวันที่ผ่านมานี้ช่างสุขสบายเหลือเกิน ตอนกลางวันนอกจากจะดูวิดีโอเพื่อการเรียนรู้แล้วก็คือการฝึกวาดรูป ตอนนี้ก็มั่นใจแล้วว่าจะสามารถปรับตัวเข้ากับการทำงานได้อย่างคล่องแคล่วในขณะเดียวกัน เพราะไม่ต้องเจอหน้าฟู่อี้ชวน อารมณ์ก็ดี ประกอบกับสรรพคุณของอาหารบำรุงสุขภาพ ทำให้ใบหน้าของเธอดูมีเลือดฝาดและสดใสขึ้นเธอมองการนับถอยหลังบนหน้าจอโทรศัพท์ มองดูวันที่ต้องจากไปใกล้เข้ามาทุกที ในใจก็เปี่ยมไปด้วยความหวังสำหรับชีวิตใหม่เมื่อถึงวันออกจากโรงพยาบาล เธอเก็บของง่ายๆ ตั
Read more
PREV
123456
...
15
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status