Lahat ng Kabanata ng นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ: Kabanata 31 - Kabanata 40

170 Kabanata

บทที่ 31

[ไม่อย่างงั้นคนอื่นจะคิดว่าผู้ช่วยของฉันไม่มีความเป็นมืออาชีพ]หลี่หยวน เหอะ ๆ ๆ...คุณไม่คิดว่าคำอธิบายนั่นมันฟังดูเหมือนยิ่งปกปิดก็ยิ่งส่อพิรุธเหรอ?แต่ในฐานะมนุษย์เงินเดือนก็ทำได้แค่บ่นในใจ จะกล้าเถียงได้ยังไงรถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยความเร็วสม่ำเสมอ ซูมั่วหันไปมองวิวด้านนอกผ่านกระจกรถ ไม่อยากถามว่าทำไมฟู่อี้ชวนถึงรู้วันเวลาออกจากโรงพยาบาลของเธอ และยิ่งไม่อยากถามว่าทำไมเขาถึงมารับเธอยังไงเหตุผลก็คงหนีไม่พ้นแต่ต้องการให้หุบปาก ไม่อยากให้พูดมากต่อหน้าคุณปู่ฟู่ หรือไม่ก็อาจจะเป็นเพราะความรู้สึกผิดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในใจของเขา เพราะเขาเป็นคนทำให้เธอต้องกระดูกร้าวแบบนี้ที่เบาะหลัง ฟู่อี้ชวนก็ไม่ได้พูดอะไร สายตาจับจ้องไปที่ท้ายทอยของคนที่อยู่ข้าง แล้วก็เลื่อนมองลงมาที่หลังเท้ารอยพุพองจากน้ำร้อนหายไปหมดแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงรอยแดงจางๆ เดินก็คล่องขึ้น สีหน้าก็สดใสมีเลือดฝาดแล้วดูเหมือนว่าอาหารบำรุงจะไม่ได้เสียเปล่าเมื่อคิดไปอย่างนั้น เขาก็ยิ้มมุมปากอีกครั้ง ภายนอกเธอดูเหมือนเย็นชา แต่จริงๆ แล้วก็ยังรับของที่เขาให้ ทั้งโทรศัพท์ แล้วก็ทั้งอาหารบำรุงแต่เธอกลับไม่พูดขอบคุณแม้แต่
Magbasa pa

บทที่ 32

ซูมั่วสูดหายใจเข้าลึกๆ ในใจ พยายามข่มความรู้สึกไม่ให้ทะเลาะกับอีกฝ่ายมันก็แค่ที่นอน นอนตรงไหนมันก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ? อีกแค่ประมาณสิบวัน เธอทนได้“ของของฉันล่ะ?” ซูมั่วถามฟู่อี้ชวนเห็นว่าเมื่อครู่ยังโกรธอยู่ แต่จู่ๆ ก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้ง จึงตอบว่า “ซินหย่าให้คนเก็บไปไว้ในห้องรับแขกเล็กแล้ว”ซูมั่วเดินไปยังห้องเล็กอีกห้องหนึ่ง พอเปิดประตูเข้าไป ก็เห็นข้าวของของเธอถูกโยนกระจัดกระจายเกลื่อนพื้น ถ้าไม่รู้มาก่อนก็คงคิดว่าของพวกนี้คือขยะด้านหลัง หลี่หยวนก็ถึงกับกลั้นหายใจตาม คุณนายถูกเมียน้อยกลั่นแกล้งหนักมากจริงๆ ห้องก็โดนยึด สุดท้ายยังถูกไล่ไปนอนห้องเก็บของอีกฟู่อี้ชวนที่เดินตามมาทีหลังก็เห็นภาพนั้นเช่นกัน เขาชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะหันไปมองเย่ซินหย่า แล้วขมวดคิ้วพูดว่า“ผู้ช่วยของนายทำไมถึงโยนข้าวของลงพื้นส่งเดชแบบนี้?”“ขอโทษนะอี้ชวน ตอนนั้นฉันไม่ได้ตรวจสอบดู ไม่คิดว่าเธอจะทำงานลวกๆ แบบนี้ ไว้ฉันจะไปตักเตือนเขาทีหลังเอง” เย่ซินหย่ากัดริมฝีปากพูด สายตาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด“มั่วมั่ว ฉันช่วยเธอเก็บของนะ ขอโทษจริงๆ เธออย่าโกรธฉันเลยนะ?” เธอพูดขึ้น พร้อมกับก้าวแทรกตัวเข้ามาท
Magbasa pa

บทที่ 33

“ไม่ไปไหนหรอก แค่ไม่ชอบแล้วก็เท่านั้น” ซูมั่วพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉยได้ยินแบบนั้น ฟู่อี้ชวนก็คลายความตึงเครียดลง แล้วสั่งหลี่หยวนว่า“ลงไปข้างล่างแล้วแวะซื้อผ้าห่มกับชุดเครื่องนอนสี่ชิ้นจากซูเปอร์มาร์เก็ตข้างล่างมาด้วยนะ”หลี่หยวนรับคำแล้วออกไป ฟู่อี้ชวนก็กลับไปที่ห้องนั่งเล่นซูมั่วเก็บของเอง ของส่วนใหญ่ก็ยังอยู่ แต่...จู่ๆ เธอก็ลุกขึ้น แล้วเดินไปที่ห้องเดิมของตัวเอง ขณะกำลังจะใช้กุญแจไขลิ้นชัก กลับมีใครบางคนเดินมาข้างหลัง แล้วช่วยเปิดลิ้นชักชั้นล่างสุดให้เธอพอเห็นว่าข้างในว่างเปล่า ซูมั่วก็ชะงักไปทันที ก่อนจะหันกลับไป แล้วเห็นสีหน้าของเย่ซินหย่ายิ้มเยาะที่มุมปาก“สมุดของฉันล่ะ?” เธอถาม“สมุดอะไร ฉันไม่รู้เรื่องนะ” เย่ซินหย่าแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้“เธอไม่ได้เป็นคนเปิดลิ้นชักนี้หรือไง?” ซูมั่วกัดฟันพูดเย่ซินหย่ายังไม่ทันตอบเธอ อี้ชวนก็เดินมาทางประตู พลางขมวดคิ้วแล้วถามว่า “พวกเธอทะเลาะอะไรกัน?”ซูมั่วเพิ่งเอ่ยถาม แต่เย่ซินหย่ากลับชิงตอบขึ้นมาก่อนว่า“ไม่มีอะไรค่ะ มั่วมั่วแค่เข้ามาดูว่าลืมของไว้หรือเปล่า”จากนั้นเธอก็โน้มตัวลงมา แล้วกระซิบข้างหูซูมั่วว่า“ซูมั่ว สมุดเล่ม
Magbasa pa

บทที่ 34

เมื่อเธอไปเปลี่ยนน้ำในห้องน้ำ ก็พบว่าแปรงสีฟันและของใช้ส่วนตัวที่เป็นของเธอบนชั้นวางทั้งหมดหายไป เหลือไว้เพียงของใช้ของเย่ซินหย่า ที่วางคู่กันกับของฟู่อี้ชวนเท่านั้นซูมั่วแสยะยิ้มเย้ยหยันมุมปาก เธออาศัยอยู่ที่นี่มาสองปี แต่เย่ซินหย่าเพิ่งโผล่มาได้เพียงสองสัปดาห์กลับสามารถลบเลือนร่องรอยการมีตัวตนของเธอได้จนหมดสิ้น เธอจากที่เคยเป็นคนสำคัญกลับกลายเป็น “มือที่สาม” ที่ดูไม่เข้ากับที่นี่เลยแม้แต่น้อยขณะนั้นเอง ที่ด้านนอกตึกสำนักงานของบริษัทโมเดลรถโรลส์รอยซ์จอดลง ประตูรถเปิดออก เย่ซินหย่าก้าวลงจากรถเธอจงใจหันไปกล่าวลากับฟู่อี้ชวน เพื่อให้คนในลอบบีมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าผู้ชายที่นั่งอยู่ในรถเป็นใครจนกระทั่งรถขับออกไป เธอโบกมือด้วยรอยยิ้ม จากนั้นจึงหันกลับมา ท่าทางเต็มไปด้วยความมั่นใจแฝงไปด้วยความพอใจและหยิ่งยโส“ว้าว ซินหย่า แฟนเธอมาส่งอีกแล้วเหรอ~”“พวกเธอหวานกันจริงๆ เลยนะ ประธานฟู่ทั้งหล่อทั้งรวย แถมยังเป็นลูกชายคนเดียวด้วย ในอนาคตก็ไม่มีใครมาแย่งสมบัติกับเธอแน่นอน~”“นั่นสิๆ น่าอิจฉาเธอจริงๆ เธอนี่โชคดีมากเลย~”……เมื่อได้ยิ้มคำชื่นชมเหล่านั้น รอยยิ้มบนใบหน้าเย่ซินหย่ายิ่งก
Magbasa pa

บทที่ 35

เวลาสิบโมง เธอลงไปซื้อผัก แล้วก็ทำอาหารตามที่ใครบางคนอยากกินเรียบร้อย ครบสามอย่างไม่มีขาด และนำส่งไปที่บริษัทตรงตามเวลานี่เป็นครั้งแรกในรอบสองปีที่เธอแต่งงานที่ได้เหยียบย่างเข้ามาใน “ที่สาธารณะ” แม้จะไม่รู้ว่าฟู่อี้ชวนเป็นบ้าอะไรขึ้นมา แต่เธอก็แค่วางอาหารไว้ที่หน้าเคาน์เตอร์ก็พอหลังจากบอกกับพนักงานต้อนรับ อีกฝ่ายกลับมองเธอด้วยสายตาสำรวจตรวจสอบ แล้วพูดด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตรว่า“เชิญออกไปเถอะค่ะ ก่อนที่ฉันจะเรียกรปภ.ทางบริษัทเราไม่ต้อนรับบุคคลภายนอกค่ะ”ซูมั่วเม้มริมฝีปากเงียบไปสองวินาที แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมส่งข้อความหาฟู่อี้ชวน แต่พอเปิดห้องแชตขึ้นมาก็ลังเลเล็กน้อย แล้วเปลี่ยนเป็นกดโทรศัพท์หาหลี่หยวนแทนเธอเดินออกไปข้างนอกเพื่อคุยโทรศัพท์ หลังจากพูดสองประโยคสั้นๆ จากนั้นก็รอให้หลี่หยวนมารับของในห้องทำงานประธานบริษัทเมื่อเห็นหลี่หยวนวางสายแล้ว สีหน้าของฟู่อี้ชวนก็เคร่งขรึมขึ้นอีกครั้ง และพูดด้วยสายตาไม่พอใจว่า“ทำไมเธอถึงโทรหานายอีกแล้ว?”ส่วนโทรศัพท์ของตัวเองไม่มีสายเรียกเข้าไม่พอ แม้แต่ข้อความตอบกลับมาก็ไม่ มันน่าหงุดหงิดจริงๆหลี่หยวนรู้สึกเย็บวาบไปทั้งหลัง แต่ด้ว
Magbasa pa

บทที่ 36

“ขอโทษนะคะคุณ ฉันขอถามได้ไหมว่าคุณเป็นอะไรกับประธานฟู่คะ?” พนักงานต้อนรับถามเสียงเบา“แม่บ้านทำอาหารค่ะ” ซูมั่วตอบเสียงเรียบพนักงานต้อนรับ ‘เอ่อ...มีแม่บ้านที่ยังสาวขนาดนี้ด้วยเหรอ?’ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ แล้วทำไมผู้ช่วยหลี่ถึงพูดแบบนั้นล่ะ?เธอไม่ทันจะได้ถามต่อ ประตูลิฟต์ก็เปิดออก แล้วอีกฝ่ายก็ขึ้นไปยังชั้นบนสุดมาถึงแล้ว ซูมั่วเห็นหลี่หยวนที่กำลังรอเธออยู่แล้ว เขาเดินเข้ามารับกล่องอาหารจากมือของเธอ แล้วพูดเบาๆ ว่า“คุณนายครับ เมื่อกี้ผมกำลังจะลงไปแล้ว แต่...”“แล้วก็ คุณสามารถเรียกใช้ผมได้ตลอดเวลาเลย จริงๆ นะครับ” เขาพูดอีกครั้ง ด้วยสีหน้าจริงใจซูมั่วรู้ว่าเขาเป็นคนดี จึงยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า “งั้นคุณเอาเข้าไปเถอะ ฉันจะกลับแล้ว”“คุณจะไม่เข้าไปด้วยเหรอครับ?” หลี่หยวนถามเธอ“ไม่อยากเห็นหน้าบูดๆ ของเขา” ซูมั่วตอบอย่างเย็นชาหลี่หยวน ‘...คำนิยามนี้ก็ตรงดีเหมือนกัน’ซูมั่วกดปุ่มลิฟต์ เตรียมจะก้าวเข้าไป ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นจากด้านหลัง“มาแล้วทำไมยังไม่รีบเอาเข้ามา ยืนเกะกะอยู่ตรงนี้ทำไม?”“ประธานฟู่ครับ ผมรับอาหารมาแล้วครับ” หลี่หยวนตอบ“ฉันถามนายหรือไง?” ฟู่อี้ชวนมองเขา
Magbasa pa

บทที่ 37

ฟู่อี้ชวนพยายามเกลี้ยกล่อมตัวเอง แล้วก็เริ่มกินข้าว กินเข้าไปคำแรก ซี่โครงหมูผัดเปรี้ยวหวานหอมอร่อยจนทำให้เขาแทบลมจับ รู้สึกมีความสุขและพอใจอย่างที่สูงสุดได้ยินเสียงความเร็วในการกินอาหารที่เร็วขึ้นเรื่อยๆ ถ้าไม่รู้คงคิดว่าเป็นหมูกำลังกินอาหารอย่างตะกละตะกลาม ซูมั่วเหลือบมองด้วยหางตา สีหน้ารังเกียจอย่างเห็นได้ชัด เคยชอบมากแค่ไหน ตอนนี้ก็ยิ่งเกลียดมากเท่านั้น เพียงแต่ตอนนี้ยังไปไหนไม่ได้ เลยต้องจำใจยอมอยู่ใต้อาณัติเขาอาหารสามอย่างกับข้าวสวยหนึ่งถ้วยและซุป ใช้เวลาเพียงสิบนาที ฟู่อี้ชวนก็กินจนหมดเกลี้ยง ไม่มีเหลือแม้แต่นิดเดียวเขาใช้ทิชชูเปียกเช็ดปากและมืออย่างพอใจ ในขณะที่ซูมั่วเดินเข้ามาเก็บกล่องข้าว จากนั้นก็หันหลังเดินออกไปทันที โดยไม่รีรอแม้แต่น้อยเห็นเธอรีบร้อนออกไปอย่างนั้น ฟู่อี้ชวนจึงพูดขึ้นว่า“เธอกินข้าวหรือยัง?”เมื่อครู่เขากินเร็วเกินไป จนไม่ได้เหลือเผื่อให้ซูมั่วเลย จู่ๆ เขาก็รู้สึกผิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกแต่เธอไม่ได้ตอบเขา และเดินไปจนถึงประตูแล้ว“นี่ ฉันถามเธออยู่นะ” ฟู่อี้ชวนขึ้นเสียงนิดหน่อย“กินแล้ว” ซูมั่วตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา แล้วก็ปิดประตูโดยไม่หันกลับม
Magbasa pa

บทที่ 38

“เมื่อก่อนนายเคยใส่ใจฉันด้วยเหรอ?” ซูมั่วมองเขาด้วยหางตา แล้วถามด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกฟู่อี้ชวนถึงกับเป็นใบ้ไปชั่วขณะ สีหน้าชะงักงันซูมั่วกลับไปที่ห้องรับแขกเล็ก ปล่อยให้ผู้ชายคนนั้นยืนอยู่ที่เดิม ดวงตาเหม่อลอยเต็มไปด้วยความคิดทบทวนและความรู้สึกผิดเขากลับมาเร็วกว่าปกติ ซูมั่วจึงเก็บข้าวของและเตรียมจะออกไปจ่ายตลาด“เธอจะไปไหน?” ฟู่อี้ชวนเห็นว่าตัวเองเพิ่งกลับมาเธอก็จะออกไปแล้ว เลยเรียกเธอไว้“ซูเปอร์มาร์เก็ต” ซูมั่วตอบเสียงเรียบเมื่อก่อนฟู่อี้ชวนไม่เคยสนใจถาม และก็แทบจะไม่พูดกับเธอเลยด้วยซ้ำ แต่วันนี้ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ถึงพูดมากผิดปกติเมื่อได้คำตอบแล้ว มองไปเห็นถุงผ้าในมือของอีกฝ่าย ไม่รู้อะไรดลใจ ฟู่อี้ชวนจึงใส่รองเท้าใหม่อีกครั้ง แล้วตามไปอย่างเงียบๆมีเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านหลัง ซูมั่วไม่ได้หันกลับไปมอง และเดินไปจนถึงลิฟต์ เธอคิดว่าฟู่อี้ชวนจะออกไปข้างนอก จนกระทั่งพบว่าเขาเดินตามเธอเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ตเดิมทีคิดว่าเขามาซื้อของของตัวเอง แต่…เขาตามติดแบบไม่มีทีท่าว่าจะออกห่าง และเดินตามติดทุกฝีก้าว เธอไปทางซ้ายเขาก็ตามไปทางซ้าย เธอไปทางขวา เขาก็รีบตามมาทันทีซูมั่ว
Magbasa pa

บทที่ 39

หลังจากฟู่อี้ชวนไปรับเธอกลับมาบ้าน ซูมั่วก็กำลังยุ่งอยู่ในครัวแล้วเขาเดินเข้าไป พร้อมกับขยับเข้าไปใกล้ๆ เพื่อมองดูซูมั่วที่กำลังผัดอาหารอยู่ แล้วแอบหยิบเนื้อวัวตุ๋นมากินชิ้นหนึ่ง ทั้งสองคนแทบจะยืนแนบชิดกันเลยที่หน้าประตู เย่ซินหย่ายืนกัดฟันมองภาพตรงหน้า ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอคิดมากไปเองหรือเปล่า แต่เธอรู้สึกว่าตั้งแต่ซูมั่วกลับมา ฟู่อี้ชวนก็เหมือนจะใกล้ชิดกับซูมั่วมากขึ้นอย่างบอกไม่ถูก“มั่วมั่ว เธอกำลังทำอะไรอยู่น่ะ หอมจัง~” เย่ซินหย่าเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม แล้วแทรกตัวเข้าระหว่างทั้งสองคน“อี้ชวนนี่ก็จริงๆ เลย เธอเพิ่งจะกลับมาก็ให้เธอทำกับข้าวให้เขากิน ทำอย่างกับเธอเป็นแม่บ้านยังงั้นแหละ” เย่ซินหย่าด้วยความเห็นใจซูมั่วมองด้วยสายตาเย็นชา เพราะฟังดูก็รู้ได้ทันทีว่าเย่ซินหย่ากำลังพูดเสียดสีเธอ“เดิมทีหน้าที่ทำอาหารก็เป็นหน้าที่ของเธออยู่แล้ว” ฟู่อี้ชวนพูดอย่างหน้าตาเฉย“ฉันว่า นายคงรังเกียจที่ฉันทำอาหารไม่อร่อยล่ะสิ นายถึงต้องฝืนกินอาหารที่ฉันทำตลอดครึ่งเดือนที่มั่วมั่วอยู่ที่โรงพยาบาล” เย่ซินหย่าพูดติดตลก“ไม่หรอก เธอก็ทำอร่อยเหมือนกัน แต่ในเมื่อซูมั่วกลับมาแล้วก็ให้เป็นหน้าที
Magbasa pa

บทที่ 40

“ซูมั่ว เธอเป็นอะไร ใส่เกลือเพิ่มอีกเหรอ?” ฟู่อี้ชวนหันไปถาม“อะไรเนี่ย อีกสองอย่างที่เหลือก็เค็มเหมือนกัน…” เย่ซินหย่าชิมไปพลางพูดไปพลางจากนั้นเธอก็มองซูมั่ว กัดริมฝีปากแล้วพูดว่า“ถ้าแค่อย่างเดียวยังจะพอบอกได้ว่าไม่ทันระวัง แต่นี่ทุกอย่างเค็มหมดเลย…”“มั่วมั่ว ฉันรู้ว่าเธอไม่พอใจที่เห็นฉันกินอาหารฝีมือเธอ แต่ว่าอี้ชวนเขาก็ต้องกินเหมือนกันนะ เธอทำแบบนี้…”เธอเหมือนอยากจะพูดอะไรแต่ก็หยุดไป แล้วเปลี่ยนมาเป็นท่าทางใจกว้าง แล้วหันไปพูดกับฟู่อี้ชวนว่า“อี้ชวน นายอย่าโกรธเลยนะ มั่วมั่วน่าจะแค่หึงฉัน ที่ฉันมาพักอยู่บ้านของเธอ แล้วยังต้องให้เธอมาทำอาหารให้ฉันอีก...เธอแค่รักนายมากเกินไปก็เท่านั้น”“ซูมั่ว เธออายุเท่าไหร่แล้ว? เล่นอะไรแบบนี้เป็นเด็กหรือไง?” ฟู่อี้ชวนทนไม่ไหวจนต้องตบโต๊ะพูด“ซินหย่าแค่มาขอพักชั่วคราว ฉันก็บอกเธอล่วงหน้าแล้วไม่ใช่เหรอ? ให้เธอเปลี่ยนห้องก็แค่ชั่วคราว ใจกว้างหน่อยได้ไหม?”ได้ยินทั้งสองคนพูดเข้าข้างกัน ซูมั่วก็ยกชามข้าวขึ้นมา แล้วพูดว่า “พูดจบหรือยัง?”“ฉันกินเอง พวกนายตามสบาย”เห็นท่าทางเย็นชาของเธอฟู่อี้ชวนก็ยิ่งโมโหไปใหญ่ เขากำลังคุยกับเธอด้วยเหตุผล แ
Magbasa pa
PREV
123456
...
17
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status