Semua Bab นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ: Bab 41 - Bab 50

170 Bab

บทที่ 41

“อี้ชวน นายเลิกพูดได้แล้ว...” เย่ซินหย่าเอ่ยปากในห้อง ซูมั่วหยิบหูฟังออกมาเงียบ ๆ เปิดเพลง ปิดกั้นบทสนทนาของพวกเขาใครบางคนอยากเล่นละคร แต่เธอไม่อยากไปดูสองชั่วโมงผ่านไปแบบนี้ ซูมั่วคิดจะไปอาบน้ำ หลีกเลี่ยงการเจอกับพวกเขาหยิบอุปกรณ์อาบน้ำของตัวเองออกไป หูได้ยินเสียงคนสองคนพูดคุยกันในห้องนั่งเล่นเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู ฟู่อี้ชวนก็เงยหน้ามองไป จากนั้นประตูห้องน้ำก็ปิดลงวันนี้ซูมั่วแปลกไปทั้งวันจะว่าเธอโกรธ? ไม่ มันเหมือนไม่สนใจและเฉยเมยมากกว่าคนเข้าไปในห้องน้ำนานมาก เขาจ้องประตูอยู่นานมาก ด้านข้าง เย่ซินหย่าที่เห็นแบบนั้นในแววตามีความเคียดแค้นอย่างดุร้ายหลังจากนั้นสิบนาที ประตูห้องน้ำก็เปิด ฟู่อี้ชวนแทบจะลุกพรวดขึ้นมา และสาวเท้ายาวเดินเข้าไปเดิมทีเขาอยากถามซูมั่วว่าตกลงจะโกรธและทำตัววุ่นวายไปอีกนานแค่ไหน แต่ก็เปลี่ยนใจ และเปลี่ยนความคิดอีกครั้งเขาหยุดยืนที่เดิม ยื่นมือไปคว้าเย่ซินหย่าที่ตามมาด้านหลัง หมุนตัวกลับมากดคนเข้ากับกำแพง ทำท่าเอนศีรษะเข้าไปใกล้ซูมั่วเห็นฉากนี้จะต้องหึงแน่นอน ไม่แน่อาจจะตบเขาเหมือนที่โรงพยาบาล หรืออาจจะโกรธจนทะเลาะกับเขาอีก ขอแค่เธอตีหรือ
Baca selengkapnya

บทที่ 42

ไปห้องครัวลองทำบางอย่าง เอาข้าวที่เหลือมาใส่น้ำร้อนบอกเลยว่า อร่อยอยู่เหมือนกัน อาจจะเป็นข้าวที่ซูมั่วหุงไว้? กินแล้วมีรสหอมหวานด้วยเช้าวันรุ่งขึ้น ซูมั่วตื่นขึ้นมาพบว่าข้าวหายไปครึ่งหนึ่ง ก็ขมวดคิ้วพลางนึกหรือเมื่อคืนฉันเทข้าวทิ้งไปด้วยตอนทิ้งกับข้าว?ขี้เกียจคิดมาก ข้าวผัดไข่ทำไม่ได้แล้ว จึงทอดไข่กับเบคอนฟู่อี้ชวนตื่นเช้ามาก เพื่อมากินอาหารเช้าสักหน่อย แต่กลับพบว่าเป็นอาหารเช้าแบบตะวันตก จึงขมวดคิ้วพูด“ทำไมไม่ใช่ข้าวผัดไข่ล่ะ?”“ข้าวไม่พอ” ซูมั่วพูดโดยไม่แสดงอารมณ์ฟู่อี้ชวนชะงักเล็กน้อย นึกถึงความอวดดีของตัวเองเมื่อคืน ก็กระอักกระอ่วนจนไม่กล้าสารภาพ“งั้น งั้นก็เอาส่วนนั้นมาผัดให้ฉันกินหน่อย” เขาพูดซูมั่วไม่พูด จากนั้นเดินไปห้องครัว ใส่น้ำมันน้อยใส่เกลือน้อยและใส่ไข่สองฟองกับต้นหอมซอย ใครบางคนกินจนเกลี้ยงแม้แต่ขนมปังกับเบคอน“ฉันจะไปแล้ว ตอนเที่ยงอยากกินกุ้งผัดกระเทียม ซี่โครงหมูหมักซอสบ๊วย แล้วก็ซุปเปรี้ยวเผ็ด” ฟู่อี้ชวนมาถึงประตูก็หยุดอีกครั้ง และพูดพูดจบ เขาก็ชะงักไปสองวินาที จากนั้นจึงเพิ่งเปิดประตูประตูล็อกแล้ว เขาเม้มริมฝีปาก สุดท้ายคำว่า “ขอบคุณ” สองพยางค
Baca selengkapnya

บทที่ 43

“เห็นฉันแล้วแปลกใจมากเลยเหรอ?” เย่ซินหย่าพูดด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็พูดติดตลก“หรือเพราะฉันไม่ใช่มั่วมั่วเลยทำให้นายผิดหวัง?”ฟู่อี้ชวนขมวดคิ้วทันที คำพูดแย้งหลุดออกมา “จะเป็นไปได้ยังไง อย่าพูดอะไรน่าขยะแขยงแบบนี้ให้ฉันฟังสิ”เย่ซินหย่าโค้งริมฝีปาก เดินไปข้างหน้า จากนั้นก็ได้ยินฟู่อี้ชวนอธิบายอีกครั้ง“หน้าที่ส่งข้าวเป็นของยัยนั่น ไม่อย่างนั้นจะให้เลี้ยงยัยนั่นฟรี ๆ เหรอ? ฉันแค่กลัวเธอเหนื่อย เธอไม่ควรมาทำงานแบบนี้”“ฉันแค่ผ่านทางมา ช่วงนี้ไม่ต้องเดินแฟชั่นโชว์ ก็เลยทำงานแค่ครึ่งวัน” เย่ซินหย่าพูด“วางไว้บนโต๊ะก็พอ ฉันจะให้ผู้ช่วยไปส่งเธอที่สตูดิโอ” ฟู่อี้ชวนลุกขึ้นเดินไปที่โซฟาและพูด“ไม่ต้องรีบ ฉันอยากอยู่กับนายสักพัก” เย่ซินหย่าพูดด้วยรอยยิ้ม ขณะที่นั่งลงชิดเขาฟู่อี้ชวนไม่พูดอะไรมาก เปิดกล่องอาหาร กลิ่นอาหารหอมโชยมาแตะจมูก เขาลองชิมคำเล็ก ๆ ก่อน“เมื่อคืนจงใจจริง ๆ” วันนี้ความเค็มปกติ ฟู่อี้ชวนพูดอย่างไม่พอใจ“โธ่ ถึงยังไงนี่ก็เป็นส่วนของนายคนเดียว มั่วมั่วต้องไม่ใส่เกลือเพิ่มอยู่แล้ว” เย่ซินหย่าถอนหายใจ“ไม่เป็นไรหรอก ฉันอยู่บ้านนายต้องทำให้เธอไม่สบายใจอยู่แล้ว ยังดีที่แค่
Baca selengkapnya

บทที่ 44

พนักงานต้อนรับก้มหน้า ไม่กล้าโต้แย้ง หลี่หยวนที่เดินตามหลังเย่ซินหย่า กลอกตาเงียบ ๆ ต่อท่าทีวางอำนาจใส่คนอื่นของเธอภรรยาตามกฎหมายยังไม่หยิ่งยโสเท่ามือที่สามคนนี้ แต่ประธานฟู่ก็ยังชอบอีกฝ่าย...ในขณะเดียวกัน ที่บ้านซูมั่วกำลังแก้ไขเรซูเม่ของตัวเอง ว่างงานมาสองปีแล้ว แม้จะใช้เส้นสายเข้าบริษัทของรุ่นพี่ได้ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องผ่านฝ่ายบุคคลรอบหนึ่งอยู่ดีโทรศัพท์สั่นเพราะข้อความเจ็ดแปดครั้ง ซูมั่วไม่แม้แต่จะมองเพิ่งกินอิ่มไม่มีอะไรทำ ฟู่อี้ชวนก็บ้าคลั่ง “เรียกร้องความเป็นธรรม” ให้เย่ซินหย่าอีกแล้วเธอเป็นคนให้ยัยนั่นไปส่งข้าวเหรอ? เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเย่ซินหย่าแย่งอยากจะไปเองแต่ข้อตกลงการหย่าก็ให้เธอไปหมดแล้ว คิดว่าเธอคงไม่ยุ่งกับอาหารและใส่ร้ายตนอีก……เย่ซินหย่ามาทำงานที่บริษัทแล้ว วันนี้ผู้ช่วยของฟู่อี้ชวนมาส่งเธอ ตอนนี้ภายในบริษัทก็แทบจะยืนยันสถานะ “คุณนายประธานฟู่” ของเธอได้แล้วเดิมทีเธอยังกังวลว่าจะปนข้อตกลงการหย่าไว้ในเอกสารให้ฟู่อี้ชวนเซ็นชื่อได้อย่างไร ผลคือตอนบ่ายหัวหน้าฝ่ายวางแผนมาหาเธอ เพราะต้องการการลงทุนของฟู่ซื่อกรุ๊ปได้ยินแบบนั้น มุมปากเย่ซินหย่าก็ยกขึ้น นี่ไม่
Baca selengkapnya

บทที่ 45

ห้าวันก่อนเขากลับไปทะเลาะกับซูมั่วอีกครั้ง ตำหนิเธอว่าไม่เพียงแต่ขี้เกียจ จนให้ซินหย่าไปส่งข้าว ทว่ายังบอกว่าการที่เธอไม่ตอบข้อความ คือทัศนคติของเธอมีปัญหาแต่ซูมั่วไม่โต้เถียงสักประโยคเดียว แค่ฟังเงียบ ๆ กลับเป็นซินหย่าที่รับผิดแทน บอกว่าเธอเต็มใจไปส่งอาหาร หลังจากนั้นทุกวันก็เป็นเธอที่มาส่งอาหารเที่ยงฟู่อี้ชวนเม้มปาก ซูมั่วอารมณ์เสียนานเกินไปแล้ว นานจนเขาทนไม่ไหวอีกต่อไปดูท่าเขาจะตามใจเธอมากเกินไป ทำให้ตอนนี้เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองอยู่ในสถานะอะไรฟู่อี้ชวนยืนขึ้นด้วยสีหน้ามืดครึ้ม ตั้งใจว่าเย็นนี้จะกลับไปสั่งสอนเธอสักครั้งห้าโมงเย็นเย่ซินหย่ากลับบ้านมาก่อน จากนั้นก็โยนข้อตกลงการหย่าลงเบื้องหน้าซูมั่วซูมั่วมองเอกสาร ตอนที่เก็บไปเย่ซินหย่าก็หรี่ตาพูด“แค่เซ็นชื่อก็มีผลแล้วเหรอ? ไม่ใช่ว่ายังมีช่วงระงับการหย่าอีกเหรอ? ฟู่อี้ชวนต้องรู้เรื่องนี้แน่”“เรื่องนี้ยังไม่แน่นอนแต่เธอไม่ต้องกังวล ทางฝั่งตระกูลฟู่จะจัดการเอง” ซูมั่วพูดเสียงเฉยชา“ตระกูลฟู่ไม่เคยเห็นฉันเป็นลูกสะใภ้อยู่แล้ว เมื่อข้อตกลงการหย่าไปถึงมือ เดี๋ยวก็มีคนจัดการต่อเอง”เย่ซินหย่ายังไม่ค่อยเชื่อนัก “หมายความ
Baca selengkapnya

บทที่ 46

“ไร้ค่าเหรอ? เหอะ ๆ ถูกต้อง ในสายตาของนายฟู่อี้ชวนอะไรก็ไม่มีค่าทั้งนั้นแหละ” ซูมั่วจ้องเขาเขม็ง ทั้งตัวสั่นเทา กัดฟันอดกลั้นเป็นเย่ซินหย่าทิ้งของของเธอ แต่ฟู่อี้ชวนกลับตำหนิว่าตนใจแคบเห็นท่าทางแทบจะร้องไห้ของเธอ หางตาแดงเรื่อ ท่าทางของฟู่อี้ชวนก็แข็งค้าง“ก็แค่สร้อยคอ ฉันจะซื้อมาชดเชยให้เธอเส้นหนึ่ง” ฟู่อี้ชวนพูด ด้วยน้ำเสียงที่ต่ำลง“ใครอยากได้ของชดเชยจากนาย ในใจฉันเงินแค่ไหนก็ซื้อคุณค่าของมันคืนไม่ได้!” ซูมั่วกัดริมฝีปากพูด จากนั้นก็หันหลังด้วยความโกรธ“เธออย่ามาไม่รู้จักแยกแยะนะ ฉันบอกว่าจะชดใช้แทนซินหย่า เธอยังต้องการอะไรอีก?” ฟู่อี้ชวนก็โกรธมากเช่นกัน และตะโกนประตูปิดลงเป็นการตอบเขา ยิ่งทำให้ฟู่อี้ชวนโกรธกว่าเดิมเขายังไม่ได้ตำหนิซูมั่วเรื่องท่าทางช่วงนี้ ผลคือกลับมาก็ถูกเธอต่อว่าอย่างไร้เหตุผล“อี้ชวน ขอโทษนะ ทั้งหมดเป็นความผิดฉัน...” ตอนนี้เองเย่ซินหย่าก็ก้าวมาเอ่ยขอโทษ“ฉันเคยถูกรับเลี้ยงครั้งหนึ่ง แต่โดนทารุณกรรมแล้วถูกส่งกลับไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอีกครั้ง ก็เลยอาจทำหายตอนที่ย้ายไป เป็นฉันที่ทำผิดต่อมั่วมั่ว...”“นี่ไม่ใช่ความผิดเธอ สิ่งของตอนเด็กจะมีค่าแค่ไหน
Baca selengkapnya

บทที่ 47

ฝั่งตรงข้ามฟู่อี้ชวนหยิบโทรศัพท์มาส่งข้อความ ถามรายการของประมูลคืนนี้ล่วงหน้าเพราะจดจ่อมากเกินไป ทำให้ไม่เห็นใบหน้าบิดเบี้ยวน่าเกลียดเพราะความอิจฉาอย่างถึงที่สุดของเย่ซินหย่าหลังมื้อเย็นจบลง ฟู่อี้ชวนขับรถพาเย่ซินหย่าไปที่ห้างระหว่างอยู่ในรถ เธอยังคิดว่าฟู่อี้ชวนจะซื้อให้เธอด้วยเหมือนกันแน่นอน ส่วนของซูมั่ว เธอค่อยกลับไปแย่งมาทีหลังก็ได้เมื่อคิดได้แบบนี้ เย่ซินหย่าก็ยกมุมปากข้างหนึ่ง กำมือแน่น แค่นเสียงในใจเมื่อถึงเวลาเริ่มการประมูลอย่างเป็นทางการ“ซินหย่า ทับทิมชิ้นนี้เธอคิดว่าเป็นยังไงบ้าง?” เย่ซินหย่าได้ยินฟู่อี้ชวนถามความเห็นของเธอ สีหน้าเธอเหมือนคาดเดาไว้อยู่แล้ว รู้ว่าฟู่อี้ชวนไม่มีทางลืมเธอ“สีกับคุณภาพดีมาก ทั้งสวยทั้งสง่า” เย่ซินหย่าพูดด้วยสีหน้าเขินอาย เต็มไปด้วยความคาดหวังฟู่อี้ชวนแตะคาง พูดความคิดเห็น“หรูเกินไปจริง ๆ ไม่เหมาะกับซูมั่ว สีอ่อนเรียบ ๆ เหมาะกับยัยนั่นมากกว่า”สิ้นคำพูดนี้ ด้านข้าง สีหน้าคาดหวังของเย่ซินหย่าก็ชะงักค้างไป จากนั้นก็กัดริมฝีปาก จิกเล็กกลางฝ่ามือที่แท้ก็จะซื้อให้ซูมั่ว...งั้นทำไมต้องถามเธอด้วย? จะให้เธอมาช่วยคิดจริง ๆ เหรอ?เย่
Baca selengkapnya

บทที่ 48

ได้ยินคำพูดนี้ ความรู้สึกยินดีบนใบหน้าของฟู่อี้ชวนก็ค่อย ๆ หายไป เม้มริมฝีปากเงียบไปหลายวินาที จากนั้นก็ขมวดคิ้วพลางพูด“ไม่ได้จะง้อยัยนั่น และไม่ได้มีความรู้สึกอะไรด้วย”“แต่ไม่ใช่ว่านายจะเอาสร้อยคอเส้นนี้ให้เธอเหรอ?” เย่ซินหย่ากัดฟันถามฟู่อี้ชวนเงียบอีกครั้ง ครั้งนี้เงียบนานกว่าเมื่อครู่ไม่รู้ผ่านไปกี่นาที เขาจึงเพิ่งพูดตะกุกตะกักอย่างไม่เป็นธรรมชาติ“ฉันแค่ชดใช้แทนเธอ อย่าคิดฟุ้งซ่านสิ”“ฉันกับยัยนั่นก็แค่แต่งงานกันหลอก ๆ เพราะปู่บังคับ ทั้งชีวิตนี้ฉันไม่มีทางชอบยัยนั่นหรอก”ถ้าเป็นก่อนหน้านี้เย่ซินหย่าอาจจะเชื่อ แต่ครั้งนี้เธอไม่เชื่อแล้ว เพราะตอนที่ฟู่อี้ชวนประมูลมงกุฎกุหลาบก็ไม่แม้แต่จะถามเธอด้วยซ้ำ และถูกใจตั้งแต่แรกเห็นจึงประมูลอย่างบ้าคลั่งกลับกัน ตั้งแต่ต้นจนจบเขาไม่เคยบอกว่าจะซื้อให้ตนสักชิ้นเดียวรักหรือไม่รัก นี่ยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ?มาถึงคอนโด ภายในลิฟต์ในมือฟู่อี้ชวนถือกล่องผ้า เปิดกล่อง มองสร้อยคอเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นก็คิดในใจไม่ใช่ว่าเขาอยากให้ของขวัญอะไรซูมั่ว แค่เป็นการชดใช้แทนซินหย่า เลี่ยงไม่ให้เธอร้องไห้อีก และวุ่นวายกับซินหย่าไม่เลิกมาถึงบ้าน
Baca selengkapnya

บทที่ 49

“ใครชอบนายก็เอาไปให้คนนั้น ฉันไม่ชอบ” ซูมั่วพูดอย่างสงบฟู่อี้ชวนรู้สึกแทบจะเป็นบ้า เขามองท่าทีของซูมั่ว ทั้งนิ่งเฉยเย็นชาและเกลียดเขาที่สุด ราวกับตนเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่มีความสัมพันธ์ใดต่อกัน“ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้วนายก็ออกไปเถอะ ฉันจะนอนแล้ว” ซูมั่วพูดไล่แขก“เพิ่งจะสี่ทุ่ม เธอจะมานอนอะไร?” ฟู่อี้ชวนตะคอก“ไม่ใช่ว่าฉันซื้อของมาให้เธอแล้วเหรอ? เธอยังไม่พอใจอะไรอีก? เธอพูดมาสิ!”ซูมั่วถูกท่าทางแบบนี้ของฟู่อี้ชวนกดดันให้ถอยหลังไปครึ่งก้าว ราวกับวินาทีต่อมาเธอจะถูกเขาชก จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกลัวขึ้นมาการถูกตบตีระหว่างแต่งงานกัน เป็นเพียงความรุนแรงในครอบครัว ไม่ใช่การทำร้ายร่างกาย ไม่อย่างนั้นฟู่อี้ชวนจะต้องโดนโทษจำคุกอย่างน้อยสามปีไปแล้วขณะที่ทั้งสองคนเผชิญหน้ากัน ทันใดนั้น โทรศัพท์ของซูมั่วบนเตียงก็ดังขึ้น เธอรีบวิ่งไปหยิบ พร้อมจะโทรแจ้งตำรวจทุกเมื่อด้านข้าง ฟู่อี้ชวนเห็นหน้าจอโทรศัพท์ของอีกฝ่าย ซึ่งยังแตกอยู่ ไม่ยอมใช้เครื่องใหม่ที่ตนซื้อให้เธอทั้งยังเห็นคนที่โทรเข้ามา แสดงชื่อว่า...รุ่นพี่?ผู้ชายเหรอ??เวรเอ๊ย ไอ้สารเลวตัวไหนกัน??!ทันใดนั้นเอง ความโกรธของเขาก็พุ่งข
Baca selengkapnya

บทที่ 50

ซูมั่วจ้องชายที่คลุ้มคลั่งคนนี้ กัดฟันอดทนไม่พูดอะไรหมาบ้า คนป่วยเป็นไบโพลาร์ คนสติไม่ดี คำพวกนี้ยังไม่พอที่จะใช้บรรยายฟู่อี้ชวนประตูถูกล็อก ทั้งยังเพิ่มล็อกป้องกันสองอัน ถึงขั้นที่ฟู่อี้ชวนยืนข้างประตูด้วยตัวเอง เพื่อเฝ้าซูมั่วหันหลังกลับเข้าห้อง ไม่สนใจคนสติไม่ดีแบบนี้เห็นเธอเข้าไป สีหน้าฟู่อี้ชวนก็สดใสขึ้นเล็กน้อย จากนั้นไม่นานก็เห็นกล่องใบหนึ่งถูกโยนออกมา เขากัดฟันด้วยความโกรธ แต่ก็ไม่ได้ไปหยิบได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวหยุดลงแล้ว ในห้องนอนแขก เย่ซินหย่าก็เปิดประตู จากนั้นก็ออกมาอย่างระมัดระวังเธอหยิบสร้อยคอขึ้นมา และเห็นฟู่อี้ชวนอยู่ข้างประตู ก็เดินเข้าไปพูดอย่างใส่ใจ“อี้ชวน...บางทีนายอาจจะเข้าใจมั่วมั่วผิดหรือเปล่า? ถึงยังไงเธอก็รักนายขนาดนั้น”“เข้าใจผิดเหรอ? เธอไม่ได้เข้าสังคมมาสองปี และไม่ได้ติดต่อกับคนอื่นด้วย ฉันจะเข้าใจผิดได้ยังไง?” ฟู่อี้ชวนตะคอกอย่างเดือดดาล“ถึงอย่างนั้น นายก็ยังจับไม่ได้ว่าเธอมีชู้...” เย่ซินหย่าพูด“เหอะ ๆ ถ้าฉันจับได้ ไอ้หมอนั่นได้ตายคืนนี้ไปแล้ว!” ฟู่อี้ชวนมีท่าทีดุร้ายเย่ซินหย่ามองเขา แม้จะรู้ว่าเขาชอบซูมั่ว และตอนนี้ก็โกรธเพราะหึงหว
Baca selengkapnya
Sebelumnya
1
...
34567
...
17
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status