All Chapters of ดวงจันทราไม่เคยวิ่งมาหาฉันเลย: Chapter 11 - Chapter 20

21 Chapters

บทที่ 11

“อะไรนะ?!”เมื่อได้ยินคำพูดนั้น ฟู่ถิงเซินก็รีบขับรถกลับไปที่บ้านตระกูลฟู่ทันที เขาเข้าไปในคฤหาสน์เก่าด้วยความตื่นตระหนกแล้วพูดว่า “แม่ครับ สิ่งที่แม่พูดทางโทรศัพท์เมื่อกี้หมายความว่ายังไง? สัญญาอะไรกัน? ซูหรานรักเสี่ยวชูมากขนาดนั้น จะทิ้งเขาไปได้ยังไง?”เมื่อแม่ฟู่ได้ยินดังนั้นก็หยิบสัญญาออกมาด้วยสีหน้าแปลกไป แล้วยื่นให้ฟู่ถิงเซิน “เอาไปอ่านดูเอง เขียนระบุไว้ชัดเจนว่า หลินซูหรานยอมสละสิทธิ์ในการเลี้ยงดูฟู่ชูด้วยความสมัครใจ”เมื่อฟู่ถิงเซินได้รับสัญญาแล้วก็ยืนนิ่งตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ ตอนแรกเขายังมีความหวังว่าหลินซูหรานไม่มีทางทิ้งลูกไป แต่เขาไม่คิดเลยว่าหลินซูหรานจะไม่ต้องการลูกเลยด้วยซ้ำ ตั้งแต่ฟู่ชูยังเด็กจนโต ตั้งแต่กินนมผงจนถึงเข้าโรงเรียนอนุบาล หลินซูหรานดูแลจัดการทั้งหมดด้วยตัวเองมาตลอด เธอใส่ใจฟู่ชูยิ่งกว่าใส่ใจตัวเธอเองเสียอีก แม่ที่ดีขนาดนี้กลับเลือกที่จะสละสิทธิ์ในการเลี้ยงดูฟู่ชู ถ้าไม่ใช่เพราะผิดหวัง ฟู่ถิงเซินก็นึกเหตุผลอื่นที่หลินซูหรานจะจากไปไม่ออกแล้วทันใดนั้น ในหัวของฟู่ถิงเซินพลันนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงประจำปี หลินซูหรานต้องโกรธเพราะเรื่องในงา
Read more

บทที่ 12

แม่ฟู่มองฟู่ถิงเซินตรงหน้าและเบิกตากว้างโดยไม่รู้ตัวนอกจากโจวลั่วหนิงเมื่อห้าปีก่อนแล้ว เธอก็ไม่เคยเห็นฟู่ถิงเซินคลุ้มคลั่งเพราะใครถึงขนาดนี้มาก่อน ยิ่งไปกว่านั้น ฟู่ถิงเซินใช้ชีวิตร่วมกับหลินซูหรานมาห้าปี แต่เขากลับเย็นชาใส่เธอมาโดยตลอด ทำไมตอนนี้หลินซูหรานจากไปแล้ว เขากลับเกิดสนใจเธอขึ้นมา? แต่เมื่อเห็นเลือดที่มือของฟู่ถิงเซิน เธอก็ไม่สนใจที่จะถามอะไร เพียงแต่เรียกหมอประจำบ้านมาทำแผลให้ฟู่ถิงเซินฟู่ถิงเซินเจ็บปวดจนเหงื่อท่วมตัว แต่ก็จ้องเธออย่างดื้อรั้นแล้วเอ่ยถามว่า“แม่ครับ แม่บอกผมมาเดี๋ยวนี้ว่าซูหรานอยู่ที่ไหน? ไม่อย่างนั้นผมก็ไม่เอามือข้างนี้แล้ว”แม่ฟู่ได้ยินก็โกรธจัด เธอไม่คิดเลยว่าลูกชายของเธอจะไม่ได้เรื่องขนาดนี้ ทำร้ายร่างกายตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่าเพียงเพราะผู้หญิง หลังจากที่เธอสงบสติอารมณ์ลงได้ ก็พูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันก็ไม่รู้ว่าหลินซูหรานไปไหน หมดสัญญาแล้ว ฉันก็ไม่มีเหตุผลที่จะไปสืบเรื่องส่วนตัวของคนอื่นอีก”ฟู่ถิงเซินได้ยินดังนั้นก็ตาแดงก่ำ เขาตะโกนร้องด้วยความตื่นเต้นว่า “เป็นไปไม่ได้! แม่เซ็นสัญญากับเธอแล้ว แม่ไม่มีทางไม่รู้ แม่รีบบอกผมมาว่าซูหรานอยู่
Read more

บทที่ 13

ณ สำนักพิมพ์ชื่อดังของสหรัฐอเมริกา หลินซูหรานกำลังเคาะแป้นพิมพ์อย่างตั้งใจ เพื่อรีบเรียบเรียงต้นฉบับ เพราะเมื่อครู่บรรณาธิการเพิ่งแจ้งเธอว่าผลงานที่เธอส่งเข้าประกวดผ่านเข้ารอบแรกแล้ว และตอนนี้ต้องต้นฉบับใหม่เพื่อเข้ารอบต่อไปขณะที่เธอกำลังมุ่งมั่นกับการเขียน เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากเหอหมิงเยว่ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท“เสี่ยวหราน เธอรีบดูโทรศัพท์เร็ว! แรงระเบิดมาก!”หลินซูหรานได้ยินแล้วก็หยิบโทรศัพท์มาดูอย่างสงสัย และก็เห็นว่าคำที่ถูกค้นหาที่กำลังมาแรงอันดับหนึ่งคือ นิสัยส่วนตัวของโจวลั่วหนิง เธอกดเข้าไปดูและก็พบว่ามีแต่ข่าวด้านลบของโจวลั่วหนิงเต็มไปหมด และที่น่าตกใจกว่าคือคนที่แชร์ข่าวทั้งหมดกลับเป็นโปรดิวเซอร์และผู้กำกับชื่อดังทั้งนั้นพวกเขาต่างพร้อมใจกันโพสต์ข้อความว่า “โจวลั่วหนิง ศิลปินไร้คุณธรรม ไม่รับเข้าทำงานตลอดไป!” ดูเหมือนว่าเธอจะถูกแบนจากทุกแพลตฟอร์มแล้วหลินซูหรานอ่านแล้วก็พูดเยาะเย้ยว่า “เห็นแล้ว คนนิสัยไม่ดีไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็อยู่ได้ไม่นานจริง ๆ”เสียงของเหอหมิงเยว่ดังขึ้นมา “แหล่งข่าววงในบอกว่า เรื่องนี้เป็นฝีมือของอดีตสามีเธอเองนะ”หลินซูหรานได้ยินแล้ว นัยน์ตาก็
Read more

บทที่ 14

หลินซูหรานหันกลับไปตามเสียงนั้น และก็เห็นชายหนุ่มที่มีผมสั้นเป็นประกาย ผิวขาวเนียน และมีใบหน้าหล่อเหลาปรากฏตรงหน้า ดวงตาของเขาเปล่งประกาย พาให้หลินซูหรานเข้าไปอยู่ในห้วงแห่งความทรงจำ เขาชื่อว่ากู้หย่วนจิง ตอนเรียนมหาวิทยาลัย พวกเขาเคยคบหากันช่วงสั้น ๆ แต่คบกันได้เพียงไม่กี่เดือน กู้หย่วนจิงก็ไปเรียนต่อต่างประเทศ พวกเขายืนหยัดได้ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ก็เลิกรากันไป เพราะอยู่ห่างกันคนละประเทศ ไม่คิดเลยว่าจะได้กลับมาพบกันอีกในสถานการณ์แบบนี้หลินซูหรานกับกู้หย่วนจิงเดินเคียงข้างกันไปตามถนน จากนั้นพวกเขาก็เดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ทั้งสองคนนั่งลงบนเก้าอี้แล้วค่อย ๆ กินโอเด้งทีละคำกู้หย่วนจิงมองใบหน้าด้านข้างของหลินซูหรานแล้วพูดว่า “ผมแทบจะแยกไม่ออกแล้วว่านี่คือความจริงหรือความฝัน”หลินซูหรานหัวเราะ แล้วกู้หย่วนจิงก็พูดต่อว่า “ยังจำตอนเรียนมหาลัยได้ไหม พวกเราไม่มีเงิน ก็เลยชอบไปนั่งกินโอเด้งที่ร้านสะดวกซื้อ ไม่คิดเลยว่าเวลาผ่านไปตั้งหลายปี พวกเรายังได้นั่งด้วยกันแบบนี้อีก”เมื่อหลินซูหรานได้ยินดังนั้น ภาพความทรงจำมากมายก็ผุดขึ้นมาต่อหน้า เธอถอนหายใจด้วยความรู้สึกหดหู่ ต
Read more

บทที่ 15

หลินซูหรานได้ยินดังนั้นก็เบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ เพราะเธอรู้ดีกว่าใครว่าการแข่งขันครั้งนี้มีความสำคัญมากแค่ไหน ผู้ที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศล้วนเป็นหัวกะทิที่มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศ มีความสามารถสูงมาก และเกณฑ์การตัดสินของการแข่งขันในครั้งนี้ก็โปร่งใสอย่างแน่นอน นั่นหมายความว่าการแข่งขันในครั้งนี้ยุติธรรมอย่างแน่นอน จะไม่มีการใช้เงินซื้อโควต้าหรือใช้เส้นสายใด ๆ ทั้งสิ้นเจ้านายก็กล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “บริษัทเราก่อตั้งมาตั้งหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่เข้ารอบชิงชนะเลิศการแข่งขันระดับนี้”“แม้ว่าฉันจะยอมรับความสามารถในการเขียนของคุณมาตลอด แต่ก็ไม่คิดเลยว่าคุณเพิ่งกลับมาไม่นานก็ทำผลงานได้ดีขนาดนี้”ใบหน้าของหลินซูหรานเต็มไปด้วยความยินดี สำหรับเธอแล้ว แค่ได้เข้ารอบชิงชนะเลิศก็ถือเป็นการยอมรับอย่างหนึ่งแล้ว เพราะสามารถใส่มันลงไปในประวัติการทำงานของเธอได้ในอนาคตด้วยเหตุนี้ หลินซูหรานจึงเริ่มต้นเขียนต้นฉบับสำหรับรอบชิงชนะเลิศอย่างตื่นเต้นท่ามกลางคำแสดงความยินดีจากเพื่อนร่วมงานในบริษัท เธอจดจ่อกับการคิดค้นแนวคิด หัวข้อในครั้งนี้คือความรัก เธอจะต้องเขียนให้ตรงประเด็น และต้องม
Read more

บทที่ 16

เมื่อหลินซูหรานได้ยินเช่นนั้น แผ่นหลังของเธอก็แข็งทื่อขึ้นมาทันที คนเรายิ่งไม่อยากเจออะไรก็มักจะเจอสิ่งนั้นเสมอจริง ๆฟู่ชูกอดต้นขาของหลินซูหรานไว้แน่น ไม่ว่าหลินซูหรานจะพยายามดิ้นรนยังไง ฟู่ชูก็ไม่ยอมปล่อยมือนี่แตกต่างจากฟู่ชูที่เคยรังเกียจหลินซูหรานราวกับเป็นคนละคนแต่หลินซูหรานก็ยังคงสลัดฟู่ชูออกอย่างจริงจังด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายฟู่ชูมองหลินซูหรานด้วยแววตางุนงง เขาไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ที่รักเขามากที่สุด ตอนนี้ถึงได้เกลียดเขามากขนาดนี้เขาไม่ได้เจอแม่มาเป็นปีแล้ว แต่พอได้เจอหน้ากันกลับได้รับแต่ความรังเกียจจากแม่ฟู่ถิงเซินมองหลินซูหรานพลางเอ่ยทั้งน้ำตาคลอ“ซูหราน หนึ่งปีที่ผ่านมาคุณไปอยู่ไหนมา? ผมตามหาคุณทุกที่ แต่ก็ไม่เคยหาเจอเลย”“ผมกับลูกคิดถึงคุณมาก คุณกลับมาเถอะนะ ได้ไหม ซูหราน?”เสียงของเขาสั่นเครือ ทุกถ้อยคำที่เขาพูดออกมาทำให้คนอดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตาแต่หลินซูหรานกลับเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “ฟู่ถิงเซิน เรากลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว”เมื่อฟู่ถิงเซินได้ยินดังนั้นก็พยายามจะจับมือหลินซูหรานอย่างไม่เชื่อสายตา แต่หลินซูหรานกลับถอยร่นไปด้านหลังเธอเอ่ยว่า “อีกอย่าง ความสัมพ
Read more

บทที่ 17

หลินซูหรานมองฟู่ชูที่สูงขึ้นเล็กน้อยตรงหน้าแล้วก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าเธอเลี้ยงดูเขาจนโตด้วยมือของเธอเอง เธอมีความอดทนและความรักให้กับฟู่ชูอย่างเต็มเปี่ยมเสมอมาแต่เขากลับหยิบมีดที่แหลมคมมาทิ่มแทงเธอครั้งแล้วครั้งเล่าเธอเฝ้าดูเขาเติบโตจากตัวเล็กจิ๋ว จนกระทั่งค่อย ๆ หัดเดิน และเข้าโรงเรียนอนุบาล แต่สิ่งที่เธอได้รับกลับมาคือการที่ฟู่ชูนำทองคำแท่งที่หลินซูหรานซื้อให้เขาทุกปีไปมอบให้คนอื่นแม้กระทั่งมักจะคาดเดาหลินซูหรานด้วยเจตนาร้ายที่สุดเสมอ แต่กับโจวลั่วหนิงกลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความลำเอียงดังนั้น ความรักที่เธอมีต่อฟู่ชูเป็นเรื่องจริง และความผิดหวังในตัวเขาก็เป็นเรื่องจริงเช่นกันบางทีในโลกของเด็ก ๆ มันอาจจะง่ายมาก แค่คำขอโทษสั้น ๆ ก็สามารถแก้ไขทุกอย่างได้แต่น่าเสียดายที่เธอเป็นผู้ใหญ่แล้ว ในโลกของผู้ใหญ่ คำขอโทษไม่สามารถแก้ปัญหาใด ๆ ได้เลยเธอมองฟู่ชูแล้วพูดอย่างจริงจังว่า “ฟู่ชู คำขอโทษเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ไร้ประโยชน์ที่สุด”“อีกอย่าง ต่อไปอย่าเรียกฉันว่าแม่อีก ตั้งแต่สัญญาของฉันสิ้นสุดลงเมื่อหนึ่งปีก่อน ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเธอในฐานะแม่ลูกก็ได้จบลงแล้วเช่นกัน”
Read more

บทที่ 18

หลังจากหลินซูหรานเจรจาธุรกิจเสร็จสิ้น ทันทีที่ออกจากบริษัท เธอก็เห็นรถมายบัคที่โดดเด่นคันหนึ่งและคนที่พิงรถอยู่ก็คือฟู่ถิงเซินหลินซูหรานรู้สึกประหลาดใจ เพราะเธอไม่ได้บอกใครเรื่องที่เธอมาเจรจาธุรกิจแต่ฟู่ถิงเซินก็ยังคงหาที่นี่เจอจนเมื่อเขาเห็นหลินซูหราน ก็รีบเดินตรงเข้าไปหา“ซูหราน เราคุยกันหน่อยได้ไหม?”หลินซูหรานขึ้นไปนั่งในรถของฟู่ถิงเซิน เพราะเธอรู้สึกว่ามีหลายเรื่องที่เธอควรจะพูดกับเขาให้เข้าใจชัดเจนจริง ๆฟู่ถิงเซินขับรถไปพลางเอียงศีรษะไปถามหลินซูหรานว่า “ซูหราน ผมได้ยินพวกเธอพูดว่า ตอนนี้คุณเปิดบริษัทนิยายของตัวเองแล้วเหรอ?”หลินซูหรานพยักหน้าอย่างเย็นชา แต่ฟู่ถิงเซินกลับไม่โกรธ กลับพูดต่อไปว่า “เมื่อก่อนทำไมผมถึงไม่เคยรู้เลยว่าคุณสนใจการเขียน?”เมื่อหลินซูหรานได้ยินดังนั้นก็หัวเราะเยาะ “เพราะคุณไม่สนใจฉัน ก็เลยไม่อยากทำความเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับฉัน คุณจึงไม่รู้ความชอบของฉันเป็นเรื่องธรรมดา”ฟู่ถิงเซินมีสีหน้ากระอักกระอวนหลังจากได้ยินเช่นนั้น เขากำลังจะอ้าปากพูด แต่เพียงชั่วพริบตาก็มาถึงร้านกาแฟพวกเขาลงจากรถแล้วก็เข้าไปสั่งเครื่องดื่มในร้านทันทีหลังจา
Read more

บทที่ 19

เมื่อฟู่ถิงเซินได้ยินดังนั้นก็หน้าซีดเผือดทันที ตั้งแต่หลินซูหรานจากไป ฟู่ชูก็คือทุกสิ่งทุกอย่างของเขาถ้าไม่มีฟู่ชู ฟู่ถิงเซินอาจจะไม่อยากมีชีวิตอยู่ แต่ตอนนี้ฟู่ชูกลับหายไปแล้ว!หลินซูหรานก็ได้ยินเนื้อหาในโทรศัพท์เช่นกัน เธอมองฟู่ถิงเซินแล้วพูดว่า “คุณอย่าเพิ่งกังวลไป ลองถามคนรอบตัวคุณดูก่อนว่ามีใครไปรับลูกไหม”เมื่อฟู่ถิงเซินได้ยินดังนั้นก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรทันทีเขาสอบถามจนหมดทุกคน แต่ก็ไม่พบเบาะแสใด ๆ เลยจนกระทั่งมีข้อความหนึ่งส่งมา“เด็กอยู่กับฉัน ถ้าอยากให้เด็กรอด อย่าแจ้งตำรวจ เอาเงินสดยี่สิบห้าล้านมา”ตามมาด้วยข้อมูลที่อยู่ของโรงงานร้างแห่งหนึ่งพอฟู่ถิงเซินเห็นข้อความแล้ว เขาก็มองหลินซูหรานพลางพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “เสี่ยวชูเขา เขาถูกลักพาตัวไป”เมื่อหลินซูหรานได้ยินดังนั้น ความประหลาดใจก็แวบผ่านแววตาของเธอ แต่เธอกลับพูดอย่างใจเย็นว่า “ทำตามที่โจรลักพาตัวบอก ฉันจะไปกับคุณ”อย่างไรก็ตามฟู่ชูก็เป็นลูกชายแท้ ๆ ของเธอ แม้ว่าเธอจะไม่อยากเกี่ยวข้องกับเขาอีกแล้ว แต่ก็ไม่ถึงขั้นอยากให้เขาตายพวกเขานำเงินสดมาที่โรงงานร้างตามข้อความที่นี่ค่อนข้างห่างไกล แม้จะแ
Read more

บทที่ 20

ทันทีที่สิ้นเสียงนั้น ตำรวจก็มาถึงโจวลั่วหนิงถูกตำรวจจับใส่กุญแจ แต่ครั้งนี้เธอไม่ได้ดิ้นรนขัดขืน เพียงแต่ใบหน้าซีดเผือดราวกับคนตายในเวลานี้หลินซูหรานจับมือฟู่ถิงเซินแน่นด้วยความตกใจพลางพูดเสียงสั่นเทาว่า “ถิงเซิน อดทนไว้นะ รถพยาบาลกำลังจะมาถึงแล้ว”ฟู่ถิงเซินกลับรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมด แล้วพูดอย่างยากลำบากว่า “ซูหราน ขอโทษนะ นี่คือสิ่งที่ผมติดหนี้คุณในชาตินี้ ผมควรจะชดใช้มัน”สิบนาทีต่อมา ฟู่ถิงเซินถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินหลังจากช่วยชีวิตอยู่นานหลายชั่วโมง ฟู่ถิงเซินก็กลับมามีสัญญาณชีพอีกครั้งด้วยเหตุนี้ หลินซูหรานจึงต้องเลื่อนการเดินทางกลับประเทศออกไปอีกหลายวัน เธอดูแลฟู่ถิงเซินอยู่ในห้องพักผู้ป่วย เหมือนเช่นในอดีตทันทีที่ฟู่ถิงเซินลืมตาขึ้นมาก็เห็นคือหลินซูหรานเป็นคนแรกหลินซูหรานป้อนน้ำให้เขา ก่อนจะถามไถ่อาการของเขาแต่ฟู่ถิงเซินกลับเอาแต่จ้องมองหลินซูหรานโดยไม่พูดอะไร มีเพียงน้ำตาที่ไหลจากหางตาหยดลงบนหมอนสีขาวเขามองหลินซูหรานแล้วพูดเสียงสะอื้นว่า “ซูหราน เราไม่ได้อยู่ด้วยกันอย่างสงบแบบนี้มานานแล้ว”หลินซูหรานได้ยินแล้วแต่ไม่พูดอะไร เพียงแต่ลุกขึ้นเตรียมจะไปเรียกหมอให้
Read more
PREV
123
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status