All Chapters of ดวงจันทราไม่เคยวิ่งมาหาฉันเลย: Chapter 1 - Chapter 10

21 Chapters

บทที่ 1

“คุณป้าคะ ฉันอยากยกเลิกสัญญาค่ะ คุณเคยบอกไว้ว่าถ้าภายในห้าปี ฟู่ถิงเซินไม่ได้รักฉัน สัญญาก็จะเป็นโมฆะ”“ใช่ ฉันเป็นคนพูดเอง แต่พวกเธอก็มีเสี่ยวชูแล้วไม่ใช่เหรอ? เธอรักเสี่ยวชูมากขนาดนั้น จะยอมให้เขาเรียกคนอื่นว่าแม่ได้ลงคอเหรอ?”“ยอมได้ค่ะ” หลินซูหรานพูดประโยคนี้ออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย“ยังไงการแต่งงานระหว่างฉันกับถิงเซินก็เป็นเพียงแค่สัญญาอยู่แล้ว เด็กคนนี้ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของสัญญา”“อีกอย่าง ตอนนี้โจวลั่วหนิงกลับประเทศแล้ว และถิงเซินกับลูกก็ไม่ต้องการฉันอีกต่อไปแล้ว” ตลอดห้าปีที่ผ่านมา เธอก็เคยเผลอมีใจให้เขา แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับเป็นความผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่าเมื่อแม่ฟู่นึกถึงเรื่องที่ลูกชายก่อขึ้นก็ถอนหายใจออกมาเบา ๆ เธอกล่าวว่า “สัญญายังเหลืออีกเจ็ดวัน เธอเซ็นชื่อไว้ก่อน เจ็ดวันหลังจากนี้ ตระกูลฟู่จะคืนอิสระให้กับเธอ” เมื่อหลินซูหรานได้ยินดังนั้น เธอก็เซ็นชื่อลงบนสัญญาโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย จากนั้นก็ก้าวเท้าเดินออกไปจากประตูใหญ่ของบ้านตระกูลฟู่ขณะขับรถ เธอก็ได้รับรูปถ่ายที่ทางโรงเรียนอนุบาลส่งมา ฟู่ถิงเซินในรูปยิ้มอย่างร่าเริง ร่างกายเ
Read more

บทที่ 2

หลังจากที่โจวลั่วหนิงลงจากรถ เธอก็จงใจเดินตรงมาหาหลินซูหรานพร้อมด้วยสีหน้ายั่วยุ“ขอโทษนะคะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะจอดรถในที่ของคุณ คุณคงไม่ถือสาใช่ไหม?” ยังไม่ทันที่หลินซูหรานจะเอ่ยปาก ฟู่ถิงเซินก็พูดตัดหน้าขึ้นมาก่อนว่า “ที่จอดรถนี้ไม่เคยเป็นของใครคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะ ตราบใดที่คุณอยากจอด ก็ไม่มีใครกล้ามีปัญหา” พูดจบ ฟู่ถิงเซินก็มองหลินซูหรานแวบหนึ่ง ซึ่งเป็นการเตือนฟู่ชูที่อยู่ข้าง ๆ ก็พูดเสริมว่า “น้าลั่วหนิง ไม่ต้องไปสนใจแม่ผมหรอกครับ เธอขับแต่รถพี่เลี้ยง ผมยังอายเลยที่เธอมาจอดตรงนี้”เมื่อหลินซูหรานได้ยินคำพูดของฟู่ชูแล้วก็อดรู้สึกหนาวใจไม่ได้ เธอเลี้ยงดูฟู่ชูด้วยความเอาใจใส่มาสี่ปีแต่ตอนนี้ฟู่ชูไม่เพียงแต่พูดเข้าข้างโจวลั่วหนิงเท่านั้น แถมยังพูดจาหยาบคายแบบนี้ใส่เธออีก และในขณะนั้นเอง ฟู่ถิงเซินก็จับแขนของโจวลั่วหนิงอีกครั้ง พร้อมประกาศอย่างตื่นเต้นว่า“เอาล่ะ รีบไปดูห้องที่ผมเตรียมไว้ให้คุณดีกว่า อยู่ติดกับห้องผมเลยนะ” ฟู่ชูก็ส่งเสียงร้องอย่างดีใจว่า “เย้! ต่อไปจะมีคนเล่นกับผมแล้ว น้าลั่วหนิงทำได้ทุกอย่างเลย!”“ไม่เหมือนแม่ น่าเบื่อจะตาย!” ฟู่ถิงเซินเหลือบมองหลินซูหรา
Read more

บทที่ 3

วันต่อมา หลินซูหรานตื่นแต่เช้า เธอกับฟู่ถิงเซินแยกห้องนอนกันมาตลอด ข้อแรกเพราะฟู่ถิงเซินยังไม่ยอมรับเธอทั้งหมด ข้อสองเพราะเขาเป็นโรคกลัวความสกปรก ทนไม่ได้ที่คนอื่นเข้ามาในห้องของเขา หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ เธอก็ตรงไปยังสำนักงานทนายความของเพื่อนเหอหมิงเยว่ได้รู้เรื่องราวทั้งหมดหลังจากพูดคุยกับหลินซูหราน“ดังนั้นที่เธอดีกับฟู่ถิงเซินมากขนาดนั้นก็เพราะสัญญาแค่นั้นเองเหรอ?” หลินซูหรานพยักหน้า เหอหมิงเยว่ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีหลังจากได้ยินดังนั้น “ช่วงนี้ฉันเห็นข่าวบ่อย ๆ ก็ยังรู้สึกเสียใจแทนเธอเลย ตอนนี้รู้ว่าเป็นแค่สัญญา ฉันก็สบายใจขึ้นเยอะเลย” เหอหมิงเยว่ถามต่ออีกว่า “แล้ววันนี้เธอมาหาฉันทำไม? ให้ช่วยร่างสัญญาการหย่าร้างเหรอ?” หลินซูหรานหัวเราะเยาะตัวเอง “ฉันกับฟู่ถิงเซินไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ฉันมาครั้งนี้เพื่อจะร่างสัญญาสละสิทธิ์ในการเลี้ยงดูบุตร” เหอหมิงเยว่ได้ยินดังนั้นก็อุทานด้วยความตกใจ “ใคร ๆ ก็รู้ว่าคุณหลินซูหรานรักลูกมากกว่าชีวิต แต่ตอนนี้กลับจะสละสิทธิ์ในการเลี้ยงดูเสี่ยวชูเนี่ยนะ?!” หางตาของหลินซูหรานฉายแววตาเศร้าสร้อย เธอเงยหน้าขึ้นแล้วพูดว่า “เธอแ
Read more

บทที่ 4

ฟู่ถิงเซินอึ้งไปในทันที หลินซูหรานในความทรงจำของเขาแทบจะไม่เคยปฏิเสธคำขอใด ๆ ของเขาเลย แม้ว่าคำขอนั้นจะไร้เหตุผลแค่ไหนก็ตาม แต่เธอก็จะพยายามทำให้สำเร็จ น้อยนักที่เขาจะได้ยินเธอปฏิเสธโจวลั่วหนิงได้ยินแล้วก็หัวเราะเยาะตัวเอง “ฉันล่วงเกินไปจริง ๆ แค่ย้ายเข้ามาอยู่ก็รบกวนมากพอแล้ว ตอนนี้ยังจะหวังว่าจะได้กินอาหารร้อน ๆ ที่คุณหลินทำอีก” พูดจบ เธอก็เตรียมตัวจะเดินจากไป ฟู่ชูได้ยินแล้วก็ร้องไห้โวยวายพร้อมกับทุบตีหลินซูหราน “แม่ใจร้าย ห้ามรังแกน้าลั่วหนิงนะ!” ฟู่ถิงเซินรีบดึงโจวลั่วหนิงไว้อย่างตื่นตระหนก แล้วหันมาต่อว่าหลินซูหราน “คุณยังโกรธเรื่องเมื่อเช้าอยู่อีกเหรอ? ผมบอกแล้วไงว่าลั่วหนิงแค่มายืมพาวเวอร์แบงค์ คุณจะคิดเล็กคิดน้อยอะไรนักหนา?” หลินซูหรานมีสีหน้าเรียบเฉย“ตอนนี้ฉันไม่สบาย ไม่มีแรงทำอาหาร”“แม่ป่วยเหรอครับ?” ฟู่ชูตกใจ ก่อนจะเอามือปิดปากอย่างรังเกียจ“ทำไมแม่ไม่บอกตั้งแต่แรกล่ะ? น้าลั่วหนิงร่างกายไม่แข็งแรง ถ้าติดเชื้อจากแม่จะทำยังไง?” พูดจบ ฟู่ชูก็ดึงแขนเสื้อของฟู่ถิงเซิน “ไม่ได้นะครับพ่อ เราพาน้าลั่วหนิงไปซื้อยา กันไว้ก่อนเถอะ”“เสี่ยวชู ไม่ต้องหรอก น้าไม่เป็น
Read more

บทที่ 5

โจวลั่วหนิงมีสีหน้าภาคภูมิใจอย่างซ่อนไม่มิด ส่วนฟู่ชูยิ่งตะโกนเสียงดังว่า“พ่อกับน้าลั่วหนิงใจดีที่สุดเลย ไม่เหมือนแม่ใจร้าย แม้แต่ไอศกรีมก็ไม่ยอมซื้อให้เสี่ยวชู!” คำพูดของฟู่ชูดึงดูดความสนใจของผู้คนที่เดินผ่านไปมา และทุกคนก็ชี้มือมาทางหลินซูหรานพลางซุบซิบนินทา หัวใจของหลินซูหรานยิ่งหนาวเย็นลงเรื่อย ๆ นี่คือลูกชายแสนดีที่เธอเลี้ยงดูมาอย่างทนุถนอมตลอดสี่ปีส่วนฟู่ถิงเซินก็ปล่อยให้ฟู่ชูตะโกนอย่างอิสระ โดยไม่มีทีท่าว่าจะห้ามปรามเลย สุดท้ายก็เป็นโจวลั่วหนิงที่แสร้งทำเป็นห้ามปราม แล้วละครตลกเรื่องนี้ก็จบลงในที่สุด หลังจากเดินซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ตเสร็จ พวกเขาก็เสนอว่าจะไปร้านอาหารเสฉวนแห่งหนึ่ง แม้จะบอกว่าเป็นการเสนอ แต่ก็ไม่ได้เปิดโอกาสให้หลินซูหรานปฏิเสธเลย ฟู่ถิงเซินสั่งอาหารเต็มโต๊ะ นอกจากไข่ผัดมะเขือเทศที่สั่งให้ฟู่ชูแล้ว อาหารแทบทุกจานล้วนรสเผ็ดทั้งนั้นขณะสั่งอาหาร ไม่มีใครถามความคิดเห็นของหลินซูหรานเลยสักคำ พอสั่งเสร็จก็ยื่นเมนูคืนกลับไปทันที“ถิงเซิน ไม่คิดเลยว่าเราแยกจากกันนานขนาดนี้ คุณยังจำอาหารที่ฉันชอบกินได้ครบทุกอย่างเลย” โจวลั่วหนิงสัมผัสมือของฟู่ถิงเซ
Read more

บทที่ 6

เมื่อฟู่ถิงเซินได้ยินดังนั้นก็หันไปมองโจวลั่วหนิงทันที ความกังวลในแววตาเพิ่มขึ้นมากกว่าเมื่อครู่เสียอีก โจวลั่วหนิงพูดอย่างดื้อรั้นว่า “ถิงเซิน ฉันไม่เป็นไร ฉันแค่โรคกลัวเลือดกำเริบ คุณไม่ต้องสนใจฉันหรอก ตอนนี้คุณหลินสำคัญกว่าฉัน”“น้าลั่วหนิง หน้าซีดขนาดนี้แล้วยังบอกว่าไม่เป็นไรอีก!”“พ่อครับ พ่ออย่ามัวยืนอึ้งอยู่สิ รีบพาเธอไปโรงพยาบาลเถอะครับ ผมเห็นรถเบรกแล้ว แม่แค่กำลังแสดงละครเพื่อแย่งความสนใจจากน้าลั่วหนิงชัด ๆ!” หลังจากฟู่ชูพูดจบ ฟู่ถิงเซินก็มองหลินซูหรานด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยมากขึ้นเขาขมวดคิ้วแน่น ไม่รู้จะตัดสินใจยังไง โจวลั่วหนิงส่งเสียงครางออกมาหลายครั้งด้วยความไม่สบาย ทันใดนั้นเขาก็พลันสูญเสียสามัญสํานึกไปในทันทีเขารีบประคองโจวลั่วหนิง แล้วเดินไปทางรถเก๋งตอนเดินผ่านหลินซูหราน เขาก็เอามือปิดตาโจวลั่วหนิงไว้ จากนั้นหันหน้ากลับมาด้วยความรู้สึกผิดที่ซ่อนไม่มิด “ลั่วหนิงร่างกายอ่อนแอมาตั้งแต่เด็ก จะเกิดความผิดพลาดกับร่างกายของเธอไม่ได้แม้แต่นิดเดียว ผมโทรเรียกรถพยาบาลให้คุณแล้ว เดี๋ยวจะมีคนมารับคุณ คุณรออีกหน่อยนะ” ขณะที่เสียงฝีเท้าของพวกเขาค่อย ๆ ห่างออ
Read more

บทที่ 7

เธอรู้สึกแปลกใจ ปกติฟู่ถิงเซินแทบไม่เคยส่งข้อความมาเลย แล้วทำไมถึงโทรหาเธอ แถมยังโทรมาตั้งหลายสายขนาดนี้อีก เมื่อเธอกลับมาถึงบ้านพร้อมความสงสัย คนรับใช้ก็พูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า “คุณผู้หญิง ในที่สุดคุณก็กลับมาสักที ช่วงที่คุณไม่อยู่ ท่านประธานฟู่แทบจะคลั่งตายอยู่แล้วค่ะ อาหารที่พวกเราทำไม่มีจานไหนถูกปากท่านประธานฟู่เลยค่ะ” เมื่อได้ยินดังนั้น หลินซูหรานก็เข้าใจในทันที ที่แท้ก็เพราะไม่มีเธอทำอาหารให้ เขาจึงไม่ชินแต่ไม่ช้าก็เร็วเขาก็ต้องคุ้นชิน เพราะต่อไปนี้จะไม่มีใครตั้งใจศึกษาตำราอาหารเพียงเพื่อทำอาหารที่เขาชอบอีกแล้วหลินซูหรานเปลี่ยนรองเท้าก่อนจะเดินไปที่ห้องรับแขก แล้วก็เห็นฟู่ถิงเซินกำลังนั่งหน้าเครียดอยู่บนโซฟา และบรรยากาศรอบตัวของเขาก็เต็มไปด้วยความอึมครึม เมื่อเขาได้ยินเสียงฝีเท้าก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น นัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า แต่วินาทีที่เห็นหลินซูหราน แววตาของเขาก็เปล่งประกายขึ้นมาทันที จากนั้นเขาก็รีบลุกขึ้นยืน ในแววตาเต็มไปด้วยความโกรธโดยไม่รู้ตัว “คุณไปไหนมา ผมโทรหาคุณตั้งหลายสาย ทำไมไม่รับ?” หลินซูหรานเดินไปนั่งบนโซฟาแล้วพูดว่า “ฉันเข้าโรงพยาบาล เพิ
Read more

บทที่ 8

ตอนเย็น ผู้เข้าร่วมงานเลี้ยงประจำปีของบริษัทจะต้องพาคู่เต้นรำมาด้วย โจวลั่วหนิงควงแขนฟู่ถิงเซินเข้าร่วมงานอย่างสง่างาม หลินซูหรานไม่ได้รับแจ้ง แต่เธอก็ยังมาที่งานเลี้ยงประจำปี เพราะเธอต้องการมอบสัญญาสละสิทธิ์ในการเลี้ยงดูบุตรให้กับแม่ฟู่ และในเวลานี้ เหลือเวลาอีกเพียงสองชั่วโมงก่อนเครื่องบินจะออกเดินทาง เธอมีเวลาไม่มากนัก เธอมองหาแม่ฟู่ไปทั่วสารทิศขณะที่เธอกำลังมองหา ไฟบนเวทีก็สว่างขึ้น คนที่ยืนอยู่บนเวทีคือฟู่ถิงเซินที่กำลังกล่าวสุนทรพจน์ และข้าง ๆ ฟู่ถิงเซินก็คือฟู่ชูและโจวลั่วหนิง พนักงานด้านล่างต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไม่หยุด “ดูเหมือนข่าวลือในอินเทอร์เน็ตจะเป็นเรื่องจริงนะ ท่านประธานฟู่ของเราคลั่งรักจริง ๆ ผู้หญิงที่ตกเป็นข่าวลือไป ๆ มา ๆ ก็เป็นคนเดิมทุกครั้ง”“ฉันเคยได้ยินว่าท่านประธานฟู่แต่งงานแล้วไม่ใช่เหรอ?”“นั่นน่ะแค่ผู้หญิงบ้านนอก ไม่มีหน้ามีตา ท่านประธานฟู่ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอเลย คนที่เขารักจริง ๆ คือโจวลั่วหนิงต่างหากล่ะ” หลินซูหรานไม่มีเวลาฟัง เพียงแต่เดินขึ้นบันไดไปเพื่อตามหาแม่ฟู่ เมื่อมองหาจนทั่วแล้วแต่ไม่เจอ ขณะที่หลินซูหรานเตรียมจะกลับก็มีเสียงดังขึ
Read more

บทที่ 9

ฟู่ถิงเซินเชิญหมอส่วนตัวมาตรวจดูอาการบาดเจ็บของโจวลั่วหนิง หมอดูอาการของโจวลั่วหนิงครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวว่า “แค่ข้อเท้าแพลงนิดหน่อย สองสามวันก็หายแล้วครับ” ฟู่ถิงเซินได้ยินแล้วก็โล่งใจ เขามองโจวลั่วหนิงแล้วพูดว่า “ลั่วหนิง คุณพักผ่อนก่อนนะ เดี๋ยวผมไปดูซูหรานหน่อย” เมื่อโจวลั่วหนิงได้ยินดังนั้น นัยน์ตาก็ฉายแววตาเคียดแค้น เธอข้อเท้าแพลงแท้ ๆ แต่ฟู่ถิงเซินกลับยังคิดจะไปหาหลินซูหรานอีก หลินซูหรานมีอะไรดีนักหนา? ฟู่ชูก็มองฟู่ถิงเซินแล้วพูดเสียงเบาว่า “พ่อครับ พ่อไม่ได้ชอบน้าลั่วหนิงเหรอครับ?”“เสี่ยวชูอุตส่าห์ช่วยพ่อให้มีโอกาสได้อยู่กันสองต่อสอง ตอนนี้พ่อควรจะคว้าโอกาสนี้ไว้ให้ดีสิครับ!” ฟู่ถิงเซินได้ยินแล้วก็อึ้งไปชั่วขณะ ใช่สิ คนที่เขาชอบไม่ใช่โจวลั่วหนิงหรอกเหรอ? ตอนนี้โจวลั่วหนิงอ่อนแอขนาดนี้ เขาก็ควรจะอยู่ข้าง ๆ โจวลั่วหนิงถึงจะถูก ทำไมเขายังคิดถึงหลินซูหรานอีก? เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฟู่ถิงเซินก็ฉายแววตามุ่งมั่น เขากุมมือโจวลั่วหนิงไว้ “ลั่วหนิง ผมจะอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนคุณ จะไม่ไปไหนทั้งนั้น” นัยน์ตาของโจวลั่วหนิงฉายแววตาซาบซึ้งใจ วินาทีต่อมา เธอก็โน้มตัวไปจูบฟู่ถิงเซิน แ
Read more

บทที่ 10

เมื่อฟู่ถิงเซินได้ยินดังนั้นก็เบิกตากว้างพร้อมเอ่ยด้วยความตกใจว่า “เธอว่าไงนะ? เป็นไปได้ยังไง?! เธอไม่ได้ดูผิดใช่ไหม?” ผู้ช่วยพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ท่านประธานฟู่คะ เรายืนยันซ้ำเป็นร้อยครั้งแล้วค่ะ คุณกับคุณหลินไม่ได้มีความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยาจริง ๆ ค่ะ” เมื่อได้ยินดังนั้น ฟู่ถิงเซินก็ถึงกับหมดเรี่ยวแรง โทรศัพท์ร่วงหล่นลงบนพื้น เขารู้สึกว่าสมองว่างเปล่า ทั้งที่ตอนนั้นหลินซูหรานแต่งงานเข้ามาในตระกูลฟู่ชัด ๆแล้วพวกเขาจะไม่มีความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยากันได้ยังไง? ครู่ต่อมา จู่ ๆ ฟู่ถิงเซินก็พลันนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้และทุบโซฟาด้วยความหงุดหงิด ตอนนั้นเขาคิดถึงแต่โจวลั่วหนิง หลินซูหรานย้ำเตือนเขาหลายครั้งว่าให้ไปจดทะเบียนสมรส แต่เขาก็บ่ายเบี่ยงโดยอ้างว่างานยุ่งตลอด จนกระทั่งต่อมา เขาก็ลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทเลย เขาหลับตาลงด้วยความเจ็บปวด และตระหนักถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้อย่างถ่องแท้ เขาสั่งให้ผู้ช่วยไปตามหาเบาะแสของหลินซูหรานพร้อมกับคิดว่าควรจะไปตามหาหลินซูหรานได้ที่ไหน เขาคิดอยู่นานจนหัวแทบจะระเบิด แต่ก็ยังคิดไม่ออกและหาวิธีไม่ได้เลย จู่ ๆ เขาพลันพบว่า แต่
Read more
PREV
123
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status