ห้าปีของการแต่งงาน หลินซูหรานได้ให้กำเนิดลูกชายคนหนึ่งแก่ฟู่ถิงเซิน เดิมทีเธอคิดว่าพวกเขาจะอยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไป จนกระทั่งโจวลั่วหนิงกลับประเทศ เธอถึงได้เข้าใจว่าตัวเองเป็นแค่ส่วนเกิน ฟู่ถิงเซินทอดทิ้งเธอครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อโจวลั่วหนิง แม้แต่ลูกชายแท้ ๆ ของเธอก็ยังสนิทสนมกับโจวลั่วหนิงเท่านั้น แต่โชคดีที่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่สัญญา เจ็ดวันหลังจากนี้ หลินซูหรานก็จะเป็นอิสระอย่างเต็มตัวแล้ว
View More“ตระกูลฟู่เริ่มตกต่ำตั้งแต่สองปีก่อนแล้ว พอมีบริษัทใหม่ ๆ ผุดขึ้นมา ตระกูลฟู่ก็ถูกเบียดจนตอนนี้สู้ไม่ได้แม้แต่บริษัทเล็ก ๆ และแน่นอนว่าธุรกิจเหล่านั้นก็ถูกขายทอดตลาดไปแล้ว”เมื่อหลินซูหรานได้ยินดังนั้นก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ เธอไม่รู้เรื่องนี้จริง ๆ เพราะตั้งแต่เหตุการณ์ในโรงพยาบาลวันนั้น เธอกับฟู่ถิงเซินก็ขาดการติดต่อกันไปเลยตลอดหลายปีที่ผ่านมา เธอใช้ชีวิตและทำงานอยู่ต่างประเทศ จึงไม่รู้เลยว่าตระกูลฟู่เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขนาดนี้ในขณะที่กำลังกินข้าวกันอยู่นั้น กู้เสี่ยวเจี๋ยก็พูดขึ้นว่า “พ่อคะ หนูรู้สึกไม่สบาย อยากอาเจียน”กู้หย่วนจิงได้ยินดังนั้นก็รีบเอามือแตะหน้าผากของเธอ และก็พบว่าเธอตัวร้อนมากเขาพูดด้วยความกังวลว่า “อาจจะยังไม่ชินกับสภาพอากาศในประเทศ พอไป ๆ มา ๆ ก็เลยเป็นหวัด”หลินซูหรานได้ยินเช่นนั้นก็รีบลุกขึ้น เตรียมจะเรียกรถพาลูกสาวไปโรงพยาบาลเมื่อมาถึงโรงพยาบาล หมอก็จ่ายยาลดไข้ให้ เมื่อกินยาแล้ว กู้เสี่ยวเจี๋ยก็นอนหลับอยู่ในอ้อมแขนของหลินซูหรานดูแล้วทำให้คนรู้สึกใจอ่อนและในขณะนั้นเอง หลินซูหรานก็เห็นฟู่ถิงเซินเดินออกมาจากห้องตรวจจิตเวชผ่านมาแล้วหกปี ฟ
ทันทีที่สิ้นเสียงนั้น ตำรวจก็มาถึงโจวลั่วหนิงถูกตำรวจจับใส่กุญแจ แต่ครั้งนี้เธอไม่ได้ดิ้นรนขัดขืน เพียงแต่ใบหน้าซีดเผือดราวกับคนตายในเวลานี้หลินซูหรานจับมือฟู่ถิงเซินแน่นด้วยความตกใจพลางพูดเสียงสั่นเทาว่า “ถิงเซิน อดทนไว้นะ รถพยาบาลกำลังจะมาถึงแล้ว”ฟู่ถิงเซินกลับรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมด แล้วพูดอย่างยากลำบากว่า “ซูหราน ขอโทษนะ นี่คือสิ่งที่ผมติดหนี้คุณในชาตินี้ ผมควรจะชดใช้มัน”สิบนาทีต่อมา ฟู่ถิงเซินถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินหลังจากช่วยชีวิตอยู่นานหลายชั่วโมง ฟู่ถิงเซินก็กลับมามีสัญญาณชีพอีกครั้งด้วยเหตุนี้ หลินซูหรานจึงต้องเลื่อนการเดินทางกลับประเทศออกไปอีกหลายวัน เธอดูแลฟู่ถิงเซินอยู่ในห้องพักผู้ป่วย เหมือนเช่นในอดีตทันทีที่ฟู่ถิงเซินลืมตาขึ้นมาก็เห็นคือหลินซูหรานเป็นคนแรกหลินซูหรานป้อนน้ำให้เขา ก่อนจะถามไถ่อาการของเขาแต่ฟู่ถิงเซินกลับเอาแต่จ้องมองหลินซูหรานโดยไม่พูดอะไร มีเพียงน้ำตาที่ไหลจากหางตาหยดลงบนหมอนสีขาวเขามองหลินซูหรานแล้วพูดเสียงสะอื้นว่า “ซูหราน เราไม่ได้อยู่ด้วยกันอย่างสงบแบบนี้มานานแล้ว”หลินซูหรานได้ยินแล้วแต่ไม่พูดอะไร เพียงแต่ลุกขึ้นเตรียมจะไปเรียกหมอให้
เมื่อฟู่ถิงเซินได้ยินดังนั้นก็หน้าซีดเผือดทันที ตั้งแต่หลินซูหรานจากไป ฟู่ชูก็คือทุกสิ่งทุกอย่างของเขาถ้าไม่มีฟู่ชู ฟู่ถิงเซินอาจจะไม่อยากมีชีวิตอยู่ แต่ตอนนี้ฟู่ชูกลับหายไปแล้ว!หลินซูหรานก็ได้ยินเนื้อหาในโทรศัพท์เช่นกัน เธอมองฟู่ถิงเซินแล้วพูดว่า “คุณอย่าเพิ่งกังวลไป ลองถามคนรอบตัวคุณดูก่อนว่ามีใครไปรับลูกไหม”เมื่อฟู่ถิงเซินได้ยินดังนั้นก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรทันทีเขาสอบถามจนหมดทุกคน แต่ก็ไม่พบเบาะแสใด ๆ เลยจนกระทั่งมีข้อความหนึ่งส่งมา“เด็กอยู่กับฉัน ถ้าอยากให้เด็กรอด อย่าแจ้งตำรวจ เอาเงินสดยี่สิบห้าล้านมา”ตามมาด้วยข้อมูลที่อยู่ของโรงงานร้างแห่งหนึ่งพอฟู่ถิงเซินเห็นข้อความแล้ว เขาก็มองหลินซูหรานพลางพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “เสี่ยวชูเขา เขาถูกลักพาตัวไป”เมื่อหลินซูหรานได้ยินดังนั้น ความประหลาดใจก็แวบผ่านแววตาของเธอ แต่เธอกลับพูดอย่างใจเย็นว่า “ทำตามที่โจรลักพาตัวบอก ฉันจะไปกับคุณ”อย่างไรก็ตามฟู่ชูก็เป็นลูกชายแท้ ๆ ของเธอ แม้ว่าเธอจะไม่อยากเกี่ยวข้องกับเขาอีกแล้ว แต่ก็ไม่ถึงขั้นอยากให้เขาตายพวกเขานำเงินสดมาที่โรงงานร้างตามข้อความที่นี่ค่อนข้างห่างไกล แม้จะแ
หลังจากหลินซูหรานเจรจาธุรกิจเสร็จสิ้น ทันทีที่ออกจากบริษัท เธอก็เห็นรถมายบัคที่โดดเด่นคันหนึ่งและคนที่พิงรถอยู่ก็คือฟู่ถิงเซินหลินซูหรานรู้สึกประหลาดใจ เพราะเธอไม่ได้บอกใครเรื่องที่เธอมาเจรจาธุรกิจแต่ฟู่ถิงเซินก็ยังคงหาที่นี่เจอจนเมื่อเขาเห็นหลินซูหราน ก็รีบเดินตรงเข้าไปหา“ซูหราน เราคุยกันหน่อยได้ไหม?”หลินซูหรานขึ้นไปนั่งในรถของฟู่ถิงเซิน เพราะเธอรู้สึกว่ามีหลายเรื่องที่เธอควรจะพูดกับเขาให้เข้าใจชัดเจนจริง ๆฟู่ถิงเซินขับรถไปพลางเอียงศีรษะไปถามหลินซูหรานว่า “ซูหราน ผมได้ยินพวกเธอพูดว่า ตอนนี้คุณเปิดบริษัทนิยายของตัวเองแล้วเหรอ?”หลินซูหรานพยักหน้าอย่างเย็นชา แต่ฟู่ถิงเซินกลับไม่โกรธ กลับพูดต่อไปว่า “เมื่อก่อนทำไมผมถึงไม่เคยรู้เลยว่าคุณสนใจการเขียน?”เมื่อหลินซูหรานได้ยินดังนั้นก็หัวเราะเยาะ “เพราะคุณไม่สนใจฉัน ก็เลยไม่อยากทำความเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับฉัน คุณจึงไม่รู้ความชอบของฉันเป็นเรื่องธรรมดา”ฟู่ถิงเซินมีสีหน้ากระอักกระอวนหลังจากได้ยินเช่นนั้น เขากำลังจะอ้าปากพูด แต่เพียงชั่วพริบตาก็มาถึงร้านกาแฟพวกเขาลงจากรถแล้วก็เข้าไปสั่งเครื่องดื่มในร้านทันทีหลังจา
หลินซูหรานมองฟู่ชูที่สูงขึ้นเล็กน้อยตรงหน้าแล้วก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าเธอเลี้ยงดูเขาจนโตด้วยมือของเธอเอง เธอมีความอดทนและความรักให้กับฟู่ชูอย่างเต็มเปี่ยมเสมอมาแต่เขากลับหยิบมีดที่แหลมคมมาทิ่มแทงเธอครั้งแล้วครั้งเล่าเธอเฝ้าดูเขาเติบโตจากตัวเล็กจิ๋ว จนกระทั่งค่อย ๆ หัดเดิน และเข้าโรงเรียนอนุบาล แต่สิ่งที่เธอได้รับกลับมาคือการที่ฟู่ชูนำทองคำแท่งที่หลินซูหรานซื้อให้เขาทุกปีไปมอบให้คนอื่นแม้กระทั่งมักจะคาดเดาหลินซูหรานด้วยเจตนาร้ายที่สุดเสมอ แต่กับโจวลั่วหนิงกลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความลำเอียงดังนั้น ความรักที่เธอมีต่อฟู่ชูเป็นเรื่องจริง และความผิดหวังในตัวเขาก็เป็นเรื่องจริงเช่นกันบางทีในโลกของเด็ก ๆ มันอาจจะง่ายมาก แค่คำขอโทษสั้น ๆ ก็สามารถแก้ไขทุกอย่างได้แต่น่าเสียดายที่เธอเป็นผู้ใหญ่แล้ว ในโลกของผู้ใหญ่ คำขอโทษไม่สามารถแก้ปัญหาใด ๆ ได้เลยเธอมองฟู่ชูแล้วพูดอย่างจริงจังว่า “ฟู่ชู คำขอโทษเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ไร้ประโยชน์ที่สุด”“อีกอย่าง ต่อไปอย่าเรียกฉันว่าแม่อีก ตั้งแต่สัญญาของฉันสิ้นสุดลงเมื่อหนึ่งปีก่อน ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเธอในฐานะแม่ลูกก็ได้จบลงแล้วเช่นกัน”
เมื่อหลินซูหรานได้ยินเช่นนั้น แผ่นหลังของเธอก็แข็งทื่อขึ้นมาทันที คนเรายิ่งไม่อยากเจออะไรก็มักจะเจอสิ่งนั้นเสมอจริง ๆฟู่ชูกอดต้นขาของหลินซูหรานไว้แน่น ไม่ว่าหลินซูหรานจะพยายามดิ้นรนยังไง ฟู่ชูก็ไม่ยอมปล่อยมือนี่แตกต่างจากฟู่ชูที่เคยรังเกียจหลินซูหรานราวกับเป็นคนละคนแต่หลินซูหรานก็ยังคงสลัดฟู่ชูออกอย่างจริงจังด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายฟู่ชูมองหลินซูหรานด้วยแววตางุนงง เขาไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ที่รักเขามากที่สุด ตอนนี้ถึงได้เกลียดเขามากขนาดนี้เขาไม่ได้เจอแม่มาเป็นปีแล้ว แต่พอได้เจอหน้ากันกลับได้รับแต่ความรังเกียจจากแม่ฟู่ถิงเซินมองหลินซูหรานพลางเอ่ยทั้งน้ำตาคลอ“ซูหราน หนึ่งปีที่ผ่านมาคุณไปอยู่ไหนมา? ผมตามหาคุณทุกที่ แต่ก็ไม่เคยหาเจอเลย”“ผมกับลูกคิดถึงคุณมาก คุณกลับมาเถอะนะ ได้ไหม ซูหราน?”เสียงของเขาสั่นเครือ ทุกถ้อยคำที่เขาพูดออกมาทำให้คนอดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตาแต่หลินซูหรานกลับเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “ฟู่ถิงเซิน เรากลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว”เมื่อฟู่ถิงเซินได้ยินดังนั้นก็พยายามจะจับมือหลินซูหรานอย่างไม่เชื่อสายตา แต่หลินซูหรานกลับถอยร่นไปด้านหลังเธอเอ่ยว่า “อีกอย่าง ความสัมพ
Comments