Short
ดวงจันทราไม่เคยวิ่งมาหาฉันเลย

ดวงจันทราไม่เคยวิ่งมาหาฉันเลย

By:  เส้นหมี่บินไม่ได้Completed
Language: Thai
goodnovel4goodnovel
21Chapters
10views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

ห้าปีของการแต่งงาน หลินซูหรานได้ให้กำเนิดลูกชายคนหนึ่งแก่ฟู่ถิงเซิน เดิมทีเธอคิดว่าพวกเขาจะอยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไป จนกระทั่งโจวลั่วหนิงกลับประเทศ เธอถึงได้เข้าใจว่าตัวเองเป็นแค่ส่วนเกิน ฟู่ถิงเซินทอดทิ้งเธอครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อโจวลั่วหนิง แม้แต่ลูกชายแท้ ๆ ของเธอก็ยังสนิทสนมกับโจวลั่วหนิงเท่านั้น แต่โชคดีที่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่สัญญา เจ็ดวันหลังจากนี้ หลินซูหรานก็จะเป็นอิสระอย่างเต็มตัวแล้ว

View More

Chapter 1

บทที่ 1

“คุณป้าคะ ฉันอยากยกเลิกสัญญาค่ะ คุณเคยบอกไว้ว่าถ้าภายในห้าปี ฟู่ถิงเซินไม่ได้รักฉัน สัญญาก็จะเป็นโมฆะ”

“ใช่ ฉันเป็นคนพูดเอง แต่พวกเธอก็มีเสี่ยวชูแล้วไม่ใช่เหรอ? เธอรักเสี่ยวชูมากขนาดนั้น จะยอมให้เขาเรียกคนอื่นว่าแม่ได้ลงคอเหรอ?”

“ยอมได้ค่ะ” หลินซูหรานพูดประโยคนี้ออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย

“ยังไงการแต่งงานระหว่างฉันกับถิงเซินก็เป็นเพียงแค่สัญญาอยู่แล้ว เด็กคนนี้ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของสัญญา”

“อีกอย่าง ตอนนี้โจวลั่วหนิงกลับประเทศแล้ว และถิงเซินกับลูกก็ไม่ต้องการฉันอีกต่อไปแล้ว”

ตลอดห้าปีที่ผ่านมา เธอก็เคยเผลอมีใจให้เขา แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับเป็นความผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า

เมื่อแม่ฟู่นึกถึงเรื่องที่ลูกชายก่อขึ้นก็ถอนหายใจออกมาเบา ๆ

เธอกล่าวว่า “สัญญายังเหลืออีกเจ็ดวัน เธอเซ็นชื่อไว้ก่อน เจ็ดวันหลังจากนี้ ตระกูลฟู่จะคืนอิสระให้กับเธอ”

เมื่อหลินซูหรานได้ยินดังนั้น เธอก็เซ็นชื่อลงบนสัญญาโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย จากนั้นก็ก้าวเท้าเดินออกไปจากประตูใหญ่ของบ้านตระกูลฟู่

ขณะขับรถ เธอก็ได้รับรูปถ่ายที่ทางโรงเรียนอนุบาลส่งมา

ฟู่ถิงเซินในรูปยิ้มอย่างร่าเริง ร่างกายเอนไปหาโจวลั่วหนิงโดยไม่ตั้งใจ ส่วนฟู่ชูก็จับมือของโจวลั่วหนิงไว้แน่น

และเสื้อผ้าที่ทั้งสามคนสวมใส่อยู่นั้นเป็นชุดครอบครัวที่หลินซูหรานตั้งใจซื้อมาเพื่อใส่ในงานกีฬาสีของฟู่ชูโดยเฉพาะ

ตอนนี้ไม่เพียงแต่โจวลั่วหนิงไปงานกีฬาสีแทนเธอเท่านั้น แม้แต่ชุดครอบครัวก็ยังใส่แทนเธออีกด้วย

..........

ความรักของฟู่ถิงเซินและโจวลั่วหนิงช่างอึกทึกครึกโครม

เขาเป็นคุณชายตระกูลร่ำรวยที่มีทรัพย์สินหลายร้อยล้าน ส่วนเธอเป็นดาราน้องใหม่ที่ลาออกจากโรงเรียนกลางคันเพื่อโลดแล่นในวงการบันเทิง

คนสองคนที่แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน กลับได้มาอยู่เคียงข้างกันเพราะความรัก

แต่เมื่อโจวลั่วหนิงโด่งดัง เธอก็ขอเลิกกับฟู่ถิงเซิน โดยให้เหตุผลว่าเพื่ออาชีพของเธอ

หลังจากนั้น ฟู่ถิงเซินก็แทบจะเสียสติ เขาดื่มเหล้าเมามายทั้งวัน และถึงกับคิดจะฆ่าตัวตาย

ข่าวคุณชายใหญ่ตระกูลฟู่จะฆ่าตัวตายเพราะความรัก ขึ้นเทรนด์ในโซเชียลในคืนนั้นทันที

และในขณะเดียวกัน พ่อของหลินซูหรานก็นอนอยู่ในห้องผ่าตัด ค่าผ่าตัดที่สูงลิ่วทำให้เธอตกอยู่ในที่นั่งลำบาก

แม่ฟู่ได้พบกับหลินซูหรานในตอนนั้น

เธอสัญญาว่าตราบใดที่หลินซูหรานตกลง เธอก็จะช่วยจ่ายค่าผ่าตัดให้

และเงื่อนไขก็คือหลินซูหรานต้องแต่งงานเข้าตระกูลฟู่ เพื่อช่วยฟู่ถิงเซินให้หลุดพ้นจากสภาพนั้น โดยมีระยะเวลาห้าปี

หลังจากวันนั้น แม่ฟู่ก็ได้แนะนำหลินซูหรานต่อหน้าฟู่ถิงเซิน และพูดถึงเรื่องที่จะให้เธอแต่งงานเข้าตระกูลฟู่

“ถิงเซิน แกยินดีที่จะแต่งงานกับเสี่ยวหรานไหม?”

ทั้งสองคนต่างก็กระวนกระวายใจมาก ถ้าฟู่ถิงเซินไม่ตกลง สัญญาก็จะไม่เกิดขึ้น

แต่ฟู่ถิงเซินกลับพยักหน้า และพูดอย่างหมดอะไรตายอยากว่า “แล้วแต่เลย ถ้าไม่ใช่เธอ จะเป็นใครก็ได้”

พวกเขาได้รู้จักกันเพราะสัญญา ซึ่งเดิมควรจะเป็นเพียงแค่ความสัมพันธ์เพื่อผลประโยชน์เท่านั้น แต่ความผิดพลาดก็คือ หลินซูหรานกลับเผลอมีใจให้เขาเนื่องจากดูแลเขาอย่างเอาใส่ใจทุกวัน

แต่ฟู่ถิงเซินกลับเย็นชาเสมอมา และไม่เคยแม้แต่จะมองเธอเต็มตาเลยสักครั้ง

แม้แต่ใบทะเบียนสมรสที่เป็นสิ่งเดียวที่พิสูจน์ความสัมพันธ์ของพวกเขา เขาก็ยังอ้างว่างานยุ่งและยังไม่ได้ไปจดทะเบียนสักที

จนกระทั่งเช้ามืดวันหนึ่ง ฟู่ถิงเซินกลับมาในสภาพมึนเมา และมองหลินซูหรานด้วยสายตาที่พร่ามัว

“เรามามีลูกกันเถอะ”

คืนนั้น พวกเขาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขทั้งคืน

เธอคิดว่าคืนนั้นคือจุดเริ่มต้นของความรักของพวกเขา แต่ภายหลังเธอจึงได้รู้ว่าความจริงแล้ววันนั้นโจวลั่วหนิงได้เปิดตัวแฟนหนุ่มของเธอ

แต่หลังจากมีฟู่ชู ฟู่ถิงเซินก็ไม่เย็นชาเหมือนเดิมอีกต่อไป และไม่เมยเฉยกับความทุ่มเทของหลินซูหราน

เดิมทีเธอคิดว่าจะเป็นแบบนี้ตลอดไป จนกระทั่งโจวลั่วหนิงประกาศว่าเลิกกับแฟน

และในคืนวันนั้น เธอก็ถูกนักข่าวถ่ายภาพได้ขณะเดินจับมือกับฟู่ถิงเซินที่ริมแม่น้ำ โดยพาดหัวข่าวว่า สงสัยว่าอาจจะคืนดีกัน

หลังจากนั้น ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ยิ่งสนิทสนมกันขึ้นเรื่อย ๆ ฟู่ถิงเซินถึงกับพาโจวลั่วหนิงกลับมาที่บ้าน

และลูกชายผู้เย็นชาของเธอก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคนหลังจากได้เจอกับโจวลั่วหนิง

เขากลายเป็นคนขี้อ้อน และอยากจะเล่นกับโจวลั่วหนิงอยู่ตลอดเวลา

รูปถ่ายรวมของทั้งสามคนในบ้านก็มากขึ้นเรื่อย ๆ

ก่อนหน้านี้ เพราะฟู่ถิงเซินไม่ชอบถ่ายรูป ตลอดห้าปี พวกเขาจึงแทบจะไม่มีรูปถ่ายคู่กันเลย

แต่นับตั้งแต่ที่โจวลั่วหนิงมาเป็นแขกประจำของบ้าน ฟู่ถิงเซินไม่เพียงแต่ซื้อกล้องรุ่นใหม่ล่าสุดเท่านั้น เขายังตัดหนังสือพิมพ์กอสซิปที่แอบถ่ายพวกเขามาเก็บรวบรวมไว้อย่างดี

สำหรับเธอ เขามีข้อยกเว้นเสมอ

ในที่สุดหลินซูหรานก็เข้าใจแล้วว่า ไม่ว่าจะให้เวลาเขามากแค่ไหน เขาก็ไม่มีวันตกหลุมรักเธอได้เลย

เพราะในใจของเขา มีเพียงโจวลั่วหนิงคนเดียวเท่านั้น

แต่ก็โชคดีที่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่สัญญา

เจ็ดวันหลังจากนี้ เธอก็จะสามารถไปจากบ้านที่ทำให้เธอไม่มีศักดิ์ศรีหลังนี้ได้สักที แล้วไปไล่ตามความฝันในการเป็นนักเขียนที่ต่างประเทศ

เมื่อคิดได้ดังนั้น เธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วติดต่อสำนักพิมพ์ในต่างประเทศ จากนั้นจองตั๋วเครื่องบินที่จะออกเดินทางในอีกเจ็ดวันข้างหน้า

เมื่อกลับถึงบ้าน เธอขับรถไปยังที่จอดรถที่เธอจอดประจำ

แต่วินาทีต่อมา รถของโจวลั่วหนิงกลับแย่งจอดก่อน และคนที่นั่งอยู่ในรถคันนั้นก็คือสามีและลูกชายของเธอ
Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
21 Chapters
บทที่ 1
“คุณป้าคะ ฉันอยากยกเลิกสัญญาค่ะ คุณเคยบอกไว้ว่าถ้าภายในห้าปี ฟู่ถิงเซินไม่ได้รักฉัน สัญญาก็จะเป็นโมฆะ”“ใช่ ฉันเป็นคนพูดเอง แต่พวกเธอก็มีเสี่ยวชูแล้วไม่ใช่เหรอ? เธอรักเสี่ยวชูมากขนาดนั้น จะยอมให้เขาเรียกคนอื่นว่าแม่ได้ลงคอเหรอ?”“ยอมได้ค่ะ” หลินซูหรานพูดประโยคนี้ออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย“ยังไงการแต่งงานระหว่างฉันกับถิงเซินก็เป็นเพียงแค่สัญญาอยู่แล้ว เด็กคนนี้ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของสัญญา”“อีกอย่าง ตอนนี้โจวลั่วหนิงกลับประเทศแล้ว และถิงเซินกับลูกก็ไม่ต้องการฉันอีกต่อไปแล้ว” ตลอดห้าปีที่ผ่านมา เธอก็เคยเผลอมีใจให้เขา แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับเป็นความผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่าเมื่อแม่ฟู่นึกถึงเรื่องที่ลูกชายก่อขึ้นก็ถอนหายใจออกมาเบา ๆ เธอกล่าวว่า “สัญญายังเหลืออีกเจ็ดวัน เธอเซ็นชื่อไว้ก่อน เจ็ดวันหลังจากนี้ ตระกูลฟู่จะคืนอิสระให้กับเธอ” เมื่อหลินซูหรานได้ยินดังนั้น เธอก็เซ็นชื่อลงบนสัญญาโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย จากนั้นก็ก้าวเท้าเดินออกไปจากประตูใหญ่ของบ้านตระกูลฟู่ขณะขับรถ เธอก็ได้รับรูปถ่ายที่ทางโรงเรียนอนุบาลส่งมา ฟู่ถิงเซินในรูปยิ้มอย่างร่าเริง ร่างกายเ
Read more
บทที่ 2
หลังจากที่โจวลั่วหนิงลงจากรถ เธอก็จงใจเดินตรงมาหาหลินซูหรานพร้อมด้วยสีหน้ายั่วยุ“ขอโทษนะคะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะจอดรถในที่ของคุณ คุณคงไม่ถือสาใช่ไหม?” ยังไม่ทันที่หลินซูหรานจะเอ่ยปาก ฟู่ถิงเซินก็พูดตัดหน้าขึ้นมาก่อนว่า “ที่จอดรถนี้ไม่เคยเป็นของใครคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะ ตราบใดที่คุณอยากจอด ก็ไม่มีใครกล้ามีปัญหา” พูดจบ ฟู่ถิงเซินก็มองหลินซูหรานแวบหนึ่ง ซึ่งเป็นการเตือนฟู่ชูที่อยู่ข้าง ๆ ก็พูดเสริมว่า “น้าลั่วหนิง ไม่ต้องไปสนใจแม่ผมหรอกครับ เธอขับแต่รถพี่เลี้ยง ผมยังอายเลยที่เธอมาจอดตรงนี้”เมื่อหลินซูหรานได้ยินคำพูดของฟู่ชูแล้วก็อดรู้สึกหนาวใจไม่ได้ เธอเลี้ยงดูฟู่ชูด้วยความเอาใจใส่มาสี่ปีแต่ตอนนี้ฟู่ชูไม่เพียงแต่พูดเข้าข้างโจวลั่วหนิงเท่านั้น แถมยังพูดจาหยาบคายแบบนี้ใส่เธออีก และในขณะนั้นเอง ฟู่ถิงเซินก็จับแขนของโจวลั่วหนิงอีกครั้ง พร้อมประกาศอย่างตื่นเต้นว่า“เอาล่ะ รีบไปดูห้องที่ผมเตรียมไว้ให้คุณดีกว่า อยู่ติดกับห้องผมเลยนะ” ฟู่ชูก็ส่งเสียงร้องอย่างดีใจว่า “เย้! ต่อไปจะมีคนเล่นกับผมแล้ว น้าลั่วหนิงทำได้ทุกอย่างเลย!”“ไม่เหมือนแม่ น่าเบื่อจะตาย!” ฟู่ถิงเซินเหลือบมองหลินซูหรา
Read more
บทที่ 3
วันต่อมา หลินซูหรานตื่นแต่เช้า เธอกับฟู่ถิงเซินแยกห้องนอนกันมาตลอด ข้อแรกเพราะฟู่ถิงเซินยังไม่ยอมรับเธอทั้งหมด ข้อสองเพราะเขาเป็นโรคกลัวความสกปรก ทนไม่ได้ที่คนอื่นเข้ามาในห้องของเขา หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ เธอก็ตรงไปยังสำนักงานทนายความของเพื่อนเหอหมิงเยว่ได้รู้เรื่องราวทั้งหมดหลังจากพูดคุยกับหลินซูหราน“ดังนั้นที่เธอดีกับฟู่ถิงเซินมากขนาดนั้นก็เพราะสัญญาแค่นั้นเองเหรอ?” หลินซูหรานพยักหน้า เหอหมิงเยว่ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีหลังจากได้ยินดังนั้น “ช่วงนี้ฉันเห็นข่าวบ่อย ๆ ก็ยังรู้สึกเสียใจแทนเธอเลย ตอนนี้รู้ว่าเป็นแค่สัญญา ฉันก็สบายใจขึ้นเยอะเลย” เหอหมิงเยว่ถามต่ออีกว่า “แล้ววันนี้เธอมาหาฉันทำไม? ให้ช่วยร่างสัญญาการหย่าร้างเหรอ?” หลินซูหรานหัวเราะเยาะตัวเอง “ฉันกับฟู่ถิงเซินไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ฉันมาครั้งนี้เพื่อจะร่างสัญญาสละสิทธิ์ในการเลี้ยงดูบุตร” เหอหมิงเยว่ได้ยินดังนั้นก็อุทานด้วยความตกใจ “ใคร ๆ ก็รู้ว่าคุณหลินซูหรานรักลูกมากกว่าชีวิต แต่ตอนนี้กลับจะสละสิทธิ์ในการเลี้ยงดูเสี่ยวชูเนี่ยนะ?!” หางตาของหลินซูหรานฉายแววตาเศร้าสร้อย เธอเงยหน้าขึ้นแล้วพูดว่า “เธอแ
Read more
บทที่ 4
ฟู่ถิงเซินอึ้งไปในทันที หลินซูหรานในความทรงจำของเขาแทบจะไม่เคยปฏิเสธคำขอใด ๆ ของเขาเลย แม้ว่าคำขอนั้นจะไร้เหตุผลแค่ไหนก็ตาม แต่เธอก็จะพยายามทำให้สำเร็จ น้อยนักที่เขาจะได้ยินเธอปฏิเสธโจวลั่วหนิงได้ยินแล้วก็หัวเราะเยาะตัวเอง “ฉันล่วงเกินไปจริง ๆ แค่ย้ายเข้ามาอยู่ก็รบกวนมากพอแล้ว ตอนนี้ยังจะหวังว่าจะได้กินอาหารร้อน ๆ ที่คุณหลินทำอีก” พูดจบ เธอก็เตรียมตัวจะเดินจากไป ฟู่ชูได้ยินแล้วก็ร้องไห้โวยวายพร้อมกับทุบตีหลินซูหราน “แม่ใจร้าย ห้ามรังแกน้าลั่วหนิงนะ!” ฟู่ถิงเซินรีบดึงโจวลั่วหนิงไว้อย่างตื่นตระหนก แล้วหันมาต่อว่าหลินซูหราน “คุณยังโกรธเรื่องเมื่อเช้าอยู่อีกเหรอ? ผมบอกแล้วไงว่าลั่วหนิงแค่มายืมพาวเวอร์แบงค์ คุณจะคิดเล็กคิดน้อยอะไรนักหนา?” หลินซูหรานมีสีหน้าเรียบเฉย“ตอนนี้ฉันไม่สบาย ไม่มีแรงทำอาหาร”“แม่ป่วยเหรอครับ?” ฟู่ชูตกใจ ก่อนจะเอามือปิดปากอย่างรังเกียจ“ทำไมแม่ไม่บอกตั้งแต่แรกล่ะ? น้าลั่วหนิงร่างกายไม่แข็งแรง ถ้าติดเชื้อจากแม่จะทำยังไง?” พูดจบ ฟู่ชูก็ดึงแขนเสื้อของฟู่ถิงเซิน “ไม่ได้นะครับพ่อ เราพาน้าลั่วหนิงไปซื้อยา กันไว้ก่อนเถอะ”“เสี่ยวชู ไม่ต้องหรอก น้าไม่เป็น
Read more
บทที่ 5
โจวลั่วหนิงมีสีหน้าภาคภูมิใจอย่างซ่อนไม่มิด ส่วนฟู่ชูยิ่งตะโกนเสียงดังว่า“พ่อกับน้าลั่วหนิงใจดีที่สุดเลย ไม่เหมือนแม่ใจร้าย แม้แต่ไอศกรีมก็ไม่ยอมซื้อให้เสี่ยวชู!” คำพูดของฟู่ชูดึงดูดความสนใจของผู้คนที่เดินผ่านไปมา และทุกคนก็ชี้มือมาทางหลินซูหรานพลางซุบซิบนินทา หัวใจของหลินซูหรานยิ่งหนาวเย็นลงเรื่อย ๆ นี่คือลูกชายแสนดีที่เธอเลี้ยงดูมาอย่างทนุถนอมตลอดสี่ปีส่วนฟู่ถิงเซินก็ปล่อยให้ฟู่ชูตะโกนอย่างอิสระ โดยไม่มีทีท่าว่าจะห้ามปรามเลย สุดท้ายก็เป็นโจวลั่วหนิงที่แสร้งทำเป็นห้ามปราม แล้วละครตลกเรื่องนี้ก็จบลงในที่สุด หลังจากเดินซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ตเสร็จ พวกเขาก็เสนอว่าจะไปร้านอาหารเสฉวนแห่งหนึ่ง แม้จะบอกว่าเป็นการเสนอ แต่ก็ไม่ได้เปิดโอกาสให้หลินซูหรานปฏิเสธเลย ฟู่ถิงเซินสั่งอาหารเต็มโต๊ะ นอกจากไข่ผัดมะเขือเทศที่สั่งให้ฟู่ชูแล้ว อาหารแทบทุกจานล้วนรสเผ็ดทั้งนั้นขณะสั่งอาหาร ไม่มีใครถามความคิดเห็นของหลินซูหรานเลยสักคำ พอสั่งเสร็จก็ยื่นเมนูคืนกลับไปทันที“ถิงเซิน ไม่คิดเลยว่าเราแยกจากกันนานขนาดนี้ คุณยังจำอาหารที่ฉันชอบกินได้ครบทุกอย่างเลย” โจวลั่วหนิงสัมผัสมือของฟู่ถิงเซ
Read more
บทที่ 6
เมื่อฟู่ถิงเซินได้ยินดังนั้นก็หันไปมองโจวลั่วหนิงทันที ความกังวลในแววตาเพิ่มขึ้นมากกว่าเมื่อครู่เสียอีก โจวลั่วหนิงพูดอย่างดื้อรั้นว่า “ถิงเซิน ฉันไม่เป็นไร ฉันแค่โรคกลัวเลือดกำเริบ คุณไม่ต้องสนใจฉันหรอก ตอนนี้คุณหลินสำคัญกว่าฉัน”“น้าลั่วหนิง หน้าซีดขนาดนี้แล้วยังบอกว่าไม่เป็นไรอีก!”“พ่อครับ พ่ออย่ามัวยืนอึ้งอยู่สิ รีบพาเธอไปโรงพยาบาลเถอะครับ ผมเห็นรถเบรกแล้ว แม่แค่กำลังแสดงละครเพื่อแย่งความสนใจจากน้าลั่วหนิงชัด ๆ!” หลังจากฟู่ชูพูดจบ ฟู่ถิงเซินก็มองหลินซูหรานด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยมากขึ้นเขาขมวดคิ้วแน่น ไม่รู้จะตัดสินใจยังไง โจวลั่วหนิงส่งเสียงครางออกมาหลายครั้งด้วยความไม่สบาย ทันใดนั้นเขาก็พลันสูญเสียสามัญสํานึกไปในทันทีเขารีบประคองโจวลั่วหนิง แล้วเดินไปทางรถเก๋งตอนเดินผ่านหลินซูหราน เขาก็เอามือปิดตาโจวลั่วหนิงไว้ จากนั้นหันหน้ากลับมาด้วยความรู้สึกผิดที่ซ่อนไม่มิด “ลั่วหนิงร่างกายอ่อนแอมาตั้งแต่เด็ก จะเกิดความผิดพลาดกับร่างกายของเธอไม่ได้แม้แต่นิดเดียว ผมโทรเรียกรถพยาบาลให้คุณแล้ว เดี๋ยวจะมีคนมารับคุณ คุณรออีกหน่อยนะ” ขณะที่เสียงฝีเท้าของพวกเขาค่อย ๆ ห่างออ
Read more
บทที่ 7
เธอรู้สึกแปลกใจ ปกติฟู่ถิงเซินแทบไม่เคยส่งข้อความมาเลย แล้วทำไมถึงโทรหาเธอ แถมยังโทรมาตั้งหลายสายขนาดนี้อีก เมื่อเธอกลับมาถึงบ้านพร้อมความสงสัย คนรับใช้ก็พูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า “คุณผู้หญิง ในที่สุดคุณก็กลับมาสักที ช่วงที่คุณไม่อยู่ ท่านประธานฟู่แทบจะคลั่งตายอยู่แล้วค่ะ อาหารที่พวกเราทำไม่มีจานไหนถูกปากท่านประธานฟู่เลยค่ะ” เมื่อได้ยินดังนั้น หลินซูหรานก็เข้าใจในทันที ที่แท้ก็เพราะไม่มีเธอทำอาหารให้ เขาจึงไม่ชินแต่ไม่ช้าก็เร็วเขาก็ต้องคุ้นชิน เพราะต่อไปนี้จะไม่มีใครตั้งใจศึกษาตำราอาหารเพียงเพื่อทำอาหารที่เขาชอบอีกแล้วหลินซูหรานเปลี่ยนรองเท้าก่อนจะเดินไปที่ห้องรับแขก แล้วก็เห็นฟู่ถิงเซินกำลังนั่งหน้าเครียดอยู่บนโซฟา และบรรยากาศรอบตัวของเขาก็เต็มไปด้วยความอึมครึม เมื่อเขาได้ยินเสียงฝีเท้าก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น นัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า แต่วินาทีที่เห็นหลินซูหราน แววตาของเขาก็เปล่งประกายขึ้นมาทันที จากนั้นเขาก็รีบลุกขึ้นยืน ในแววตาเต็มไปด้วยความโกรธโดยไม่รู้ตัว “คุณไปไหนมา ผมโทรหาคุณตั้งหลายสาย ทำไมไม่รับ?” หลินซูหรานเดินไปนั่งบนโซฟาแล้วพูดว่า “ฉันเข้าโรงพยาบาล เพิ
Read more
บทที่ 8
ตอนเย็น ผู้เข้าร่วมงานเลี้ยงประจำปีของบริษัทจะต้องพาคู่เต้นรำมาด้วย โจวลั่วหนิงควงแขนฟู่ถิงเซินเข้าร่วมงานอย่างสง่างาม หลินซูหรานไม่ได้รับแจ้ง แต่เธอก็ยังมาที่งานเลี้ยงประจำปี เพราะเธอต้องการมอบสัญญาสละสิทธิ์ในการเลี้ยงดูบุตรให้กับแม่ฟู่ และในเวลานี้ เหลือเวลาอีกเพียงสองชั่วโมงก่อนเครื่องบินจะออกเดินทาง เธอมีเวลาไม่มากนัก เธอมองหาแม่ฟู่ไปทั่วสารทิศขณะที่เธอกำลังมองหา ไฟบนเวทีก็สว่างขึ้น คนที่ยืนอยู่บนเวทีคือฟู่ถิงเซินที่กำลังกล่าวสุนทรพจน์ และข้าง ๆ ฟู่ถิงเซินก็คือฟู่ชูและโจวลั่วหนิง พนักงานด้านล่างต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไม่หยุด “ดูเหมือนข่าวลือในอินเทอร์เน็ตจะเป็นเรื่องจริงนะ ท่านประธานฟู่ของเราคลั่งรักจริง ๆ ผู้หญิงที่ตกเป็นข่าวลือไป ๆ มา ๆ ก็เป็นคนเดิมทุกครั้ง”“ฉันเคยได้ยินว่าท่านประธานฟู่แต่งงานแล้วไม่ใช่เหรอ?”“นั่นน่ะแค่ผู้หญิงบ้านนอก ไม่มีหน้ามีตา ท่านประธานฟู่ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอเลย คนที่เขารักจริง ๆ คือโจวลั่วหนิงต่างหากล่ะ” หลินซูหรานไม่มีเวลาฟัง เพียงแต่เดินขึ้นบันไดไปเพื่อตามหาแม่ฟู่ เมื่อมองหาจนทั่วแล้วแต่ไม่เจอ ขณะที่หลินซูหรานเตรียมจะกลับก็มีเสียงดังขึ
Read more
บทที่ 9
ฟู่ถิงเซินเชิญหมอส่วนตัวมาตรวจดูอาการบาดเจ็บของโจวลั่วหนิง หมอดูอาการของโจวลั่วหนิงครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวว่า “แค่ข้อเท้าแพลงนิดหน่อย สองสามวันก็หายแล้วครับ” ฟู่ถิงเซินได้ยินแล้วก็โล่งใจ เขามองโจวลั่วหนิงแล้วพูดว่า “ลั่วหนิง คุณพักผ่อนก่อนนะ เดี๋ยวผมไปดูซูหรานหน่อย” เมื่อโจวลั่วหนิงได้ยินดังนั้น นัยน์ตาก็ฉายแววตาเคียดแค้น เธอข้อเท้าแพลงแท้ ๆ แต่ฟู่ถิงเซินกลับยังคิดจะไปหาหลินซูหรานอีก หลินซูหรานมีอะไรดีนักหนา? ฟู่ชูก็มองฟู่ถิงเซินแล้วพูดเสียงเบาว่า “พ่อครับ พ่อไม่ได้ชอบน้าลั่วหนิงเหรอครับ?”“เสี่ยวชูอุตส่าห์ช่วยพ่อให้มีโอกาสได้อยู่กันสองต่อสอง ตอนนี้พ่อควรจะคว้าโอกาสนี้ไว้ให้ดีสิครับ!” ฟู่ถิงเซินได้ยินแล้วก็อึ้งไปชั่วขณะ ใช่สิ คนที่เขาชอบไม่ใช่โจวลั่วหนิงหรอกเหรอ? ตอนนี้โจวลั่วหนิงอ่อนแอขนาดนี้ เขาก็ควรจะอยู่ข้าง ๆ โจวลั่วหนิงถึงจะถูก ทำไมเขายังคิดถึงหลินซูหรานอีก? เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฟู่ถิงเซินก็ฉายแววตามุ่งมั่น เขากุมมือโจวลั่วหนิงไว้ “ลั่วหนิง ผมจะอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนคุณ จะไม่ไปไหนทั้งนั้น” นัยน์ตาของโจวลั่วหนิงฉายแววตาซาบซึ้งใจ วินาทีต่อมา เธอก็โน้มตัวไปจูบฟู่ถิงเซิน แ
Read more
บทที่ 10
เมื่อฟู่ถิงเซินได้ยินดังนั้นก็เบิกตากว้างพร้อมเอ่ยด้วยความตกใจว่า “เธอว่าไงนะ? เป็นไปได้ยังไง?! เธอไม่ได้ดูผิดใช่ไหม?” ผู้ช่วยพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ท่านประธานฟู่คะ เรายืนยันซ้ำเป็นร้อยครั้งแล้วค่ะ คุณกับคุณหลินไม่ได้มีความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยาจริง ๆ ค่ะ” เมื่อได้ยินดังนั้น ฟู่ถิงเซินก็ถึงกับหมดเรี่ยวแรง โทรศัพท์ร่วงหล่นลงบนพื้น เขารู้สึกว่าสมองว่างเปล่า ทั้งที่ตอนนั้นหลินซูหรานแต่งงานเข้ามาในตระกูลฟู่ชัด ๆแล้วพวกเขาจะไม่มีความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยากันได้ยังไง? ครู่ต่อมา จู่ ๆ ฟู่ถิงเซินก็พลันนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้และทุบโซฟาด้วยความหงุดหงิด ตอนนั้นเขาคิดถึงแต่โจวลั่วหนิง หลินซูหรานย้ำเตือนเขาหลายครั้งว่าให้ไปจดทะเบียนสมรส แต่เขาก็บ่ายเบี่ยงโดยอ้างว่างานยุ่งตลอด จนกระทั่งต่อมา เขาก็ลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทเลย เขาหลับตาลงด้วยความเจ็บปวด และตระหนักถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้อย่างถ่องแท้ เขาสั่งให้ผู้ช่วยไปตามหาเบาะแสของหลินซูหรานพร้อมกับคิดว่าควรจะไปตามหาหลินซูหรานได้ที่ไหน เขาคิดอยู่นานจนหัวแทบจะระเบิด แต่ก็ยังคิดไม่ออกและหาวิธีไม่ได้เลย จู่ ๆ เขาพลันพบว่า แต่
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status