Lahat ng Kabanata ng แพ้รักคนใจร้าย: Kabanata 31 - Kabanata 40

บทที่ 31. ความสุขหลายวันผ่านไป...ความสัมพันธ์ของทั้งสองดีขึ้นเรื่อย ๆ มาร์ตินไปรับไปส่งมิรินได้บ่อยขึ้นกว่าทุกครั้ง ทั้งสองจะไปทานข้าวด้วยกันทุกเย็นทำให้มีภาพหลุดออกมาบ่อย ๆทว่าคนในโซเชียลกับคิดว่าเธอคือเฌอเบลล์หรือนานะและยังคงเชียร์ให้มาร์ติน คบหากับทั้งคู่โดยไม่มีใครสนใจเลยว่าเธอนั้นเป็นตัวจริงของเค้า มิรินนั่งอ่านคอมเมนต์บนเพจข่าวต่าง ๆ นานา ก่อนที่มาร์ตินจะสวมกอดเธอจากด้านหลัง "อย่าไปสนใจข่าวพวกนี้เลย เชื่อใจฉันสิ อย่าคิดมาก"แต่มิรินเองก็อดคิดไม่ได้ เพราะช่วงนี้ทั้งสองมีปัญหาและทะเลาะกันบ่อยครั้ง เพราะเรื่องงานของเธออยู่ มาร์ตินเริ่มซุกไซ้ซอกคอขาว และขบเม้มเนื้อผิวอย่างแผ่วเบา ก่อนที่มิรินจะเอ่ยห้ามไว้"ตินอย่า พรุ่งนี้มีงาน"มิรินเอ่ยห้ามชายหนุ่มทันที ก่อนที่มาร์ตินจะผละใบหน้าออกห่างจากหญิงสาว และเดินออกไปสูบบุหรี่นอกระเบียงทันที สร้างความเหนื่อยใจให้มิรินไม่น้อย แม้ว่างานของเธอจะเป็นปัญหาทำให้ทะเลาะกันบ่อยครั้ง ทว่างานของมาร์ตินกลับประสบความสำเร็จ ชายหนุ่มได้เลื่อนตำแหน่งเป็นประธานบริษัทภายในช่วงเวลาสั้น ๆ และคืนนี้พ่อแม่ของมาร์ตินก็จัดงานเลี้ยงฉลองใหญ่ เพื่อแสดงความ

บทที่ 33. ปรับความเข้าใจเช้ารุ่งขึ้น...มิรินรู้สึกอึดอัดที่บริเวณร่องสวาท ก่อนที่มันจะค่อย ๆ คับแน่นขึ้นเรื่อย ๆ บงบอกว่ามาร์ตินนั้นตื่นแล้ว"ติน เอาออกไปก่อน"มิรินเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ทว่ามาร์ตินกลับทำตรงข้ามกัน ชายหนุ่มค่อย ๆ ขยับสะโพกเข้าอย่างเนินนาบ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นหนักหน่วงในเวลาต่อมา...ปึก!ปึก!ปึก!" อึก...ติน อ๊ะ.อ๊ะ.อ๊ะ."มิรินครางออกมาด้วยน้ำเสียงกระเส่า เมื่อชายหนุ่มอัดกระแทกแก่นกายใหญ่เข้าเล่นงานจุดกระสันของเธอ มาร์ตินค่อย ๆ สอดแขนเข้าไปใต้ข้อพับขาของหญิงสาว ก่อนจะอัดกระแทกแก่นกายใหญ่เข้าออกจนสุดลำ สร้างความเสียวซ่านปนจุกหน่วงให้หญิงสาวเป็นอย่างมาก"อ๊ะ!อ๊ะ!อ๊ะ! ตะ...ติน อย่ากระแทกแบบนั้น รินจุก""จุกแต่ก็ชอบไม่ใช่เหรอ รัดคว*ซะแน่นเลย"พั่บ ๆ พั่บ ๆเสียงเนื้อกระทบกันดังกึกก้องไปทั่วบริเวณห้องครั้งแล้วครั้งเล่าที่ชายหนุ่มปลดปล่อยเข้าไปในสวาทของหญิงสาว จนเวลาล่วงเลยไปถึงช่วงสายของวัน มิรินเดินย่างกรายลงมาจากห้อง และพบว่าพ่อของเธอออกไปพบลูกค้า มิรินจึงมองชายหนุ่มด้วยสายตาคาดโทษ"รู้ไหมว่าเมื่อคืนทำอะไรลงไปบ้าง นายต่อยลูกค้าพ่อน่ะ"ไร้ซึ่งความรู้สึก

บทที่ 35 จบบริบูรณ์หลายเดือนต่อมา...มิรินเลิกเป็นนางแบบ และผันตัวมาเป็นดีไซน์ชื่อดัง หลังจากฝึกฝนและเรียนอยู่หลายเดือน ในส่วนของพ่อเธอก็กลับมาประสบความสำเร็จในด้านธุรกิจอีกครั้ง วันนี้มิรินและพ่อของเธอได้ถูกเชิญมาออกรายการดัง ที่เป็นรายการสด พ่อของเธอตื่นเต้นมาก นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้มานั่งออกรายการทีวี"สวัสดีค่ะ วันนี้เรามาพบกับ คุณ มิริน วีรยะเกริกไกร และ คุณทรงยศ วีรยะเกริกไกร กันนะคะ นับว่าช่วงนี้เป็นช่วงขาขึ้นของพวกเขาเลยก็ว่าได้นะคะ วันนี้นินิว จะสัมภาษณ์พวกเขาให้ทุกคนได้รู้ถึง ความสำเร็จของพวกเขากันนะคะ ขอเรียนเชิญ คุณมิริน และคุณทรงยศ ค่า"เสียงพิธีกร ร่ายเอ่ยขึ้น ก่อนจะปรากฏร่างสองคนพ่อลูกค่อย ๆ ย่างกรายออกมา เสียงปรบมือกระหึ่มต้อนรับทั้งสองอย่างอบอุ่น ทรงยศรู้สึกประหม่าเล็กน้อย ต่างจากมิริน ที่ยังคง คีพลุคมั่นใจ สไตล์ดีไซเนอร์ เธอสวยและมีเสน่ห์พิธีกรต้องเอ่ยชม" สวัสดีค่ะ คุณมิริน ตัวจริงสวยมากเลยนะคะ"" ขอบคุณค่ะ"งั้นเรามาเริ่มกันที่คำถามแรก กันเลยดีกว่านะคะ"ขอเกริ่นไปในตอนแรกก่อนนะคะ ที่บอกว่าที่บ้านวีรยะเกริกไกรเคยล้มละลายจนคุณมิรินต้องออกจากมหาลัย เรื่องจ

ตอนพิเศษ2 ปึก!ปึก!ปึก! "โอ๊ย! ฉันเจ็บ!" เฌอเบลล์กรีดร้องด้วยความทรมาน เมื่อแก่นกายใหญ่ ฝังเข้าใส่ร่องสวาทของเธอเต็มแรง หยาดเลือดบริสุทธิ์ไหลหยดบนผ้าปูที่นอนเป็นทาง ก่อนที่เจเลอร์จะเริ่มบทรักอันเร่าร้อนครั้งแล้วครั้งเล่า กับเธอ โดยไม่รู้ว่ามีนานะ ที่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างตั้งแต่ต้น เฌอเบลล์นึกถึงเรื่องราวในอดีต อยู่ ๆ หยาดน้ำตาของเธอก็เอ่อล้นออกมาจำนวนมาก ก่อนจะตีไฟเลี้ยวเข้าผับแห่งหนึ่ง โดยไม่รู้ว่านั่นคือ ผับแห่งใหม่เจเลอร์ ผู้ชายที่เธอหนีไปจากเขามาตลอด ร่างหญิงสาวค่อย ๆ เดินเข้าไปในผับ ด้วยท่าทีเหม่อลอย ก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะช้า ๆ โดยไม่รู้เลยมีสองสายตาคู่หนึ่งกำลังจับจ้องมาที่เธอ " นั่นพี่เฌอเบลล์นี่คะ ทำไมถึงมาคนเดียวได้" น้ำตาลเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีสงสัย และหมายจะเข้าไปทักเธอทว่า เจเลอร์กลับห้ามเธอไว้ก่อน "ตาล กลับไปก่อน พี่ขอคุยกับเพื่อนพี่แป๊ปนึง" "ค่ะ" น้ำตาลเอ่ยขึ้นอย่างว่าง่ายตามสไตล์ของเธออละเดินออกไปทันที เจเลอร์มองร่างแฟนสาวออกไป เมื่อเห็นว่าเธอลดพ้นสายตาแล้ว จึงเดินเข้าไปทักทายเฌอเบลล์ทันที " ว่าไงจ้ะ อดีตเมีย..." คำทักทายของชายหนุ่มที่เข้ามา

ตอนพิเศษ 4 เสียงเจเลอร์เอ่ยเรียกหญิงสาวขึ้น ก่อนที่เฌอเบลล์ส่งรีบส่งสัญญาณให้แม่ของเธอรีบขึ้นเครื่องไป เฌอเบลล์ปาดน้ำตาออกจากพวงแก้ม ก่อนจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น " มีอะไร" "เธอมาส่งใครหรอ" "แม่กับน้องชาย" เฌอเบลล์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงปกติ เพราะกลัวว่าเจเลอร์จะสงสัย "เธอมีอะไรที่ยังไม่ได้บอกฉันรึเปล่า" แม้เป็นคำถามที่ฟังดูธรรมดาทว่าน้ำเสียงของชายหนุ่มกลับต่างออกไป มันนิ่งและเย็นชากว่าทุกครั้ง " ไม่มี" "ก็ดี เพราะถ้าฉันรู้ด้วยเอง เธอรู้ใช่ไหมว่าฉันทำอะไรได้บ้าง" เฌอเบลล์กลืนน้ำลายลงอย่างยากลำบาก เมื่อได้ฟังประโยคถันมาของชายหนุ่ม เหตุผลที่เธอไม่ยอมให้เจเลอร์รับรู้ ก็เพราะว่ากลัวว่าชายหนุ่มจะใช้เรื่องธุรกิจของที่บ้านเธอ มาบีบบังคับให้เธอต้องยกลูกให้เขา เจเลอร์ร้ายกาจกว่าที่ทุกคนคิด "รู้สิ นายเก่งแต่เรื่องทำร้ายคนอื่นอยู่แล้ว" เฌอเบลล์เอ่ยขึ้น ก่อนจะเดินออกจากตรงนั้นทันที ทว่าชายหนุ่มกลับเดินตามเธอมา เฌอเบลล์รู้สึกว่าเธอไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับชายหนุ่มอีกแล้ว " นายจะตามฉันมาทำไม โอ๊ย!" เรียวแขนถูกกระชากเข้าไปในรถสปอร์ตคันหรูของชายหนุ่มทันที สร้างความต